ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายรถสูงที่สุดในปี 2023
![]()
12.07.2024
![]()
198

ปี 2023 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมนี (VDA) ได้มีการรายงานออกมาว่าอัตราการผลิตรถยนต์ทั่วโลกนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับปี 2022
- Tesla Powerwall จากรถ EV สู่ตัวช่วยในการจัดการพลังงาน
 - EV ดีต่อโลกจริงไหม ? ต้องใช้รถยนต์ไฟฟ้าแค่ไหนถึงจะยั่งยืน
 - Xpeng เปิดตัว ‘X3’ รถยนต์บินได้แนวคิดเรียบง่ายจนคาดไม่ถึง !
 
โดยอัตราการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ต่างก็มีผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ มากมาย ทั้งการเพิ่มขึ้นของความต้องการรถยนต์ในตลาดใหม่ การพัฒนาของนวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งทำให้ผู้บริโภครอบโลกเริ่มหันมาเลือกซื้อรถยนต์กันมากขึ้นอีกครั้ง
แต่การที่เราจะมองเห็นการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ชัด ๆ เราก็คงจะต้องย้อนไปกลับไปมองที่เรื่องของ ’ยอดขาย’ นี่แหละครับ ว่าแต่ละบริษัททั่วโลกสามารถทำยอดขายรถยนต์ของตัวเองกันได้มากแค่ไหนในปี 2023 ที่ผ่านมา วันนี้ MM Thailand จึงอยากจะพาทุกท่านมาดู 10 อันดับผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายสูงที่สุดจากปี 2023

ที่มา : MaschinenMarkt
Tesla ยังครองแชมป์รถที่ผลิตมากที่สุดในอเมริกา 4 ปีติดต่อกัน Model 3 มียอดผลิตแซง Model Y
โดย Sakura P.3 เดือนที่แล้ว2kดู
Cars.com ได้ประกาศผลการจัดอันดับ American-Made Index (AMI) ประจำปี 2025 แล้ว พบว่า Tesla ก็ยังคงครองอันดับต้นโดยกวาด 4 อันดับแรกด้วย 4 รุ่น และถือเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันที่ Tesla เป็นแบรนด์รถยนต์ที่ผลิตในอเมริกามากที่สุด
Tesla ยังครองแชมป์รถที่ผลิตมากที่สุดในอเมริกา 4 ปีติดต่อกัน Model 3 มียอดผลิตแซง Model Y
ในปี 2025 นี้ Tesla ครองทั้ง 4 อันดับแรกในการผลิตรถยนต์มากที่สุดในอเมริกา โดย Model 3 ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 แทนที่ Model Y ที่เคยครองแชมป์มา 3 ปีติดกัน สาเหตุที่ Model Y หล่นอันดับลงไป เป็นเพราะรถรุ่นใหม่ล่าสุดเริ่มใช้ชิ้นส่วนจากนอกทวีปอเมริกาเหนือมากขึ้น เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉม

ส่วนอันดับที่ 3 และ 4 ได้แก่ Model S และ Model X ซึ่งยังคงมีคะแนนสูงกว่ารถคู่แข่งแบรนด์อื่นอย่างชัดเจน
ความสำเร็จของ Tesla ในการติดอันดับ AMI ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจาก Tesla มีโรงงานผลิตรถยนต์ในอเมริกา ได้แก่ โรงงาน Giga Texas และโรงงาน Fremont การที่ Tesla ใช้ซัพพลายเชนในท้องถิ่นนี้ จะช่วยให้ลดความเสี่ยงในการจัดส่งชิ้นส่วน ลดต้นทุน และยังเข้าเงื่อนไขในการรับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาลสหรัฐ เช่น ส่วนลดภาษีสำหรับรถ EV

เกณฑ์ของ American-Made Index คืออะไร
Cars.com มีการคำนวณที่ไม่ได้ดูแค่สถานที่ประกอบรถเท่านั้น แต่พิจารณาจาก 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่
- สถานที่ประกอบขั้นสุดท้าย
 - สัดส่วนชิ้นส่วนจากสหรัฐและแคนาดา
 - ประเทศต้นกำเนิดของเครื่องยนต์หรือระบบขับเคลื่อน
 - ประเทศต้นกำเนิดของระบบเกียร์
 - จำนวนแรงงานที่จ้างในสหรัฐ
 
Tesla ได้คะแนนสูงเพราะมีผลงานดีในทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่องการใช้ชิ้นส่วนในประเทศเป็นหลัก

10 อันดับรถยนต์ที่ผลิตมากที่สุดในอเมริกา ปี 2025
- Tesla Model 3
 - Tesla Model Y
 - Tesla Model S
 - Tesla Model X
 - Jeep Gladiator
 - Kia EV6
 - Honda Ridgeline
 - Honda Odyssey
 - Honda Passport
 - Volkswagen ID.4
 

ข้อมูลจากกฎหมาย American Automobile Labeling Act (AALA) แสดงชัดเจนว่า Tesla Model 3 รุ่น RWD และ Long Range ใช้ชิ้นส่วนจากสหรัฐและแคนาดาสูงถึง 75% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์
ส่วนรถ Tesla รุ่นอื่น ๆ มีสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนในอเมริกาดังนี้
- Model Y ใช้ชิ้นส่วนจากอเมริกาเหนือ 70%
 - Model S อยู่ที่ 65%
 - Model X อยู่ที่ 60%
 
ความสามารถนี้ เกิดจากการที่ Tesla ควบคุมกระบวนการผลิตภายใน และลงทุนอย่างหนักในโรงงานสหรัฐ เช่น การผลิตแบตเตอรี่ มอเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้ซัพพลายเออร์ในแคนาดาร่วมด้วย
แล้ว Cybertruck หายไปไหน?
หลายคนอาจสังเกตว่า Cybertruck หนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าของ Tesla ไม่ติดอันดับในรายการดังกล่าว เหตุผลคือน้ำหนักของรถอยู่เกินเกณฑ์ ที่ Cars.com ใช้จัดอันดับ โดย AMI จะรวมเฉพาะรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเบาเท่านั้น ไม่ได้รวมถึงรถกระบะ

ในยุคที่การผลิตในประเทศและซัพพลายเชนกลายเป็นเรื่องสำคัญ Tesla จึงได้เปรียบคู่แข่งหลายราย และความได้เปรียบนี้อาจส่งผลระยะยาวต่อความสามารถในการแข่งขันในตลาดยานยนต์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม การจัดอันดับ American-Made Index (AMI) เป็นการคำนวณและใช้ข้อมูลแบรนด์รถยนต์ที่ผลิตเฉพาะในอเมริกาเท่านั้น ไม่ใช่การผลิตทั่วโลก ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการรถยนต์แต่ละรุ่นมากขึ้นในอเมริกา
	    	
		    
