• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2609767 ตระก ลแตกสลาย เพราะกฎบ าบอ part 2

admin79 by admin79
September 26, 2025
in Uncategorized
0
N2609767 ตระก ลแตกสลาย เพราะกฎบ าบอ part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

5 รถประหยัดน้ำมันปี 2023 พร้อมแชร์ทริคประหยัดน้ำมัน

ข่าวสารรถ | 27 มิ.ย. 2566

รถประหยัดน้ำมัน | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

ราคาน้ำมันที่กลับมาพุ่งทะยานสูงขึ้นเป็นเท่าตัว หลังจากที่ช่วงโควิดที่ผ่านมาราคาน้ำมันลดลงไปอย่างมาก ทำเอาคิดหนักก่อนจะเดินทางไปไหนมาไหน ยิ่งตอนนี้ราคาน้ำมันกลับมาแพงกว่าแต่ก่อนเสียอีก การเลือกซื้อหารถในอดีตที่ดูจากดีไซน์ความหรูหราเป็นหลัก แต่สำหรับนักขับรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและทุนทรัพย์ของตัวเองแล้ว ตอนนี้ต่างมองหารถประหยัดน้ำมันกันหลายคน  แม้ว่าจะมีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเป็นตัวแทนแล้วก็ตาม แต่ด้วยระยะเวลาสำหรับการชาร์จไฟที่ยังคงต้องใช้เวลานานอยู่ จึงทำให้การเลือกใช้งานรถพลังงานน้ำมันยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญที่ไม่อาจขาดได้ในเวลานี้

แน่นอนว่าราคาน้ำมันที่สูงมาก หากต้องเลือกซื้อรถที่ซดน้ำมันกันอย่างแรง แบบสตาร์ตหนึ่งทีกินน้ำมันไปหนึ่งลิตร รับรองมีสิทธิ์หมดตัวกันเป็นแน่ ทางผู้ออกแบบรถยนต์ชั้นนำทั้งหลายต่างแข่งขันประดิษฐ์คิดค้นรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีอัตราประหยัดพลังงานที่สูงขึ้น เรียกว่าอาจเทียบเคียงกับการใช้พลังงานไฟฟ้ากันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการซื้อรถของคนยุคใหม่ อะไรที่สะดวกและประหยัดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการตัดสินใจในการถอยรถคันใหม่ออกมาใช้งานกันเลยทีเดียว บทความนี้จะรวมเคล็ดลับขับรถประหยัดน้ำมัน รวมถึงรถรุ่นไหน ประหยัดน้ำมันที่สุดในปี 2023 อ่านด้านล่างได้เลย

5 อันดับรถประหยัดน้ำมัน ปี 2023

ในปี 2023 ขณะที่หลาย ๆ ค่ายส่งรถยนต์ส่งรถพลังงานไฟฟ้าออกมาเป็นตัวเลือกอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีค่ายรถหลายแห่งที่ส่งรถประหยัดน้ำมันออกมาเป็นทางเลือก ที่สำคัญยังมีการพัฒนารูปแบบของเครื่องยนต์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันอีกด้วย มีรถรุ่นไหนที่ได้ชื่อว่าประหยัดน้ำมันได้มาก รู้ใจขอรวบรวมเอาไว้ให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกันดังต่อไปนี้  

รถประหยัดน้ำมัน | Suzuki Swift | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

1. Suzuki Swift

เรียกว่าปาดหน้ามาแรงแซงทางโค้งกันเลยก็ว่าได้กับค่ายรถยนต์ซูซูกิที่เป็นเพียงแค่ค่ายรถทางเลือกในอดีต อีกทั้งได้รับความนิยมอยู่ในกลุ่มแคบ ๆ เท่านั้น แต่นับจากที่ซูซูกิได้ส่งเจ้านกนางแอ่นพันธุ์จิ๋ว หรือ Swift ออกมา เรียกว่าครองใจนักขับรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว 

ด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว งดงาม แถมมีขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่มีตรอกซอกซอยเยอะแยะไปทั่ว ที่สำคัญอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงของเจ้านกนางแอ่นตัวน้อยขึ้นชื่อว่า ประหยัดพลังงานและคุ้มค่ามากที่สุดจนทุกสำนักยกให้เป็นเบอร์หนึ่งของรถยนต์พลังงานน้ำมันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวลานี้ โดยอัตราการประหยัดพลังงานของ Suzuki Swift นั้นประหยัดน้ำมันได้ถึง 23 กม./ลิตร แถมยังสามารถใช้น้ำมัน E20 ที่มีราคาถูกได้อีกด้วย

รถประหยัดน้ำมัน | Honda City e:HEV | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

2. Honda City e:HEV

อีกหนึ่งค่ายรถยักษ์ใหญ่ที่ครองใจนักขับชาวไทยมาอย่างยาวนาน กับค่ายรถยนต์ฮอนด้าที่เป็นผู้นำนวัตกรรมการออกแบบยานยนต์มาทุกยุคทุกสมัย แม้ว่าฮอนด้าจะไม่ได้ลงสนามของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังสำหรับปี 2023 แต่ฮอนด้าก็ยังออกแบบรถยนต์ทางเลือกที่เป็นมิตรและใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่าง Honda City e:HEV ที่ถือเป็นการผสานความเป็นตำนานของรถในซีรีส์ City ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทันสมัยอย่าง e:HEV ที่เป็นการใช้พลังงานน้ำมันควบคู่ไปกับพลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากการแปลงพลังงานขณะที่รถวิ่งให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า 

การมาของ City โฉมนี้จึงนับว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสุดยอดที่ตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน โดยอัตราการใช้น้ำมันของ Honda City e:HEV อยู่ที่ 27.8 กิโลเมตร/ลิตร เท่านั้น

รถประหยัดน้ำมัน | Toyota Yaris Ativ | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

3. Toyota Yaris Ativ

เมื่อมีฮอนด้าก็ต้องมีโตโยต้า สองสิงห์แห่งวงการยานยนต์ที่ต่างไม่มีใครยอมใครกันเลย เมื่อฮอนด้าส่ง City e:HEV ลงสนาม  ทางโตโยต้าเองก็ไม่รอช้าส่ง Toyota Yaris Ativ มาเป็นตัวเรื่องในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน การรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมกับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยด้วย

มากับเครื่องยนต์ 1.2L จึงทำให้อัตราการใช้พลังงานน้ำมันน้อยนิด รวมไปถึงระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ช่วยให้ทุกจังหวะการเร่งไม่ผลาญน้ำมันมากจนเกินไป ยิ่งขับทางไกลยิ่งประหยัดกันไปได้มากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องถอยรถยนต์ไฟฟ้าออกมาใช้งานหรือเลือกรถแบบ e:HEV ที่มีมูลค่าการดูแลรักษาที่สูง Toyota Yaris Ativ สามารถตอบโจทย์เรื่องการประหยัดพลังงานให้คุณได้อย่างครบถ้วน ด้วยการใช้พลังงานเพียง 26 กิโลเมตร/ลิตร เท่านั้น

รถประหยัดน้ำมัน | Nissan Kicks e-POWER | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

4. Nissan Kicks e-POWER

เป็นรถยนต์พลังงานน้ำมันพร้อมกับพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกที่ออกมาสู่สายตาและอยู่ในการควบคุมของนักขับ Nissan Kicks e-POWER นับเป็นนวัตกรรมอันยอดเยี่ยมที่เป็นแบบอย่างของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบปัจจุบันทั้งหมด สำหรับ Nissan Kicks e-POWER เป็นรถขนาดกะทัดรัดขนาดเครื่องยนต์เพียง 1.2 ลิตร แถมมีอัตราประหยัดน้ำมันที่สูงมากถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร เรียกว่าประหยัดการใช้พลังงานน้ำมันมากกว่ารถยนต์ E-power ในรูปแบบอื่น ๆ ทำให้ Kicks กลายเป็นรถที่ครองใจนักขับรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็วมาก แม้ว่านิสสันจะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดของทางฝั่งรถยนต์ไปอยู่นาน แต่เพราะ Kicks นี่แหละที่ตอบโจทย์ในทุกเรื่องของความคุ้มค่าได้อย่างครบถ้วน

5. BMW 330e M Sport

ขึ้นชื่อว่า BMW ทุกคนก็คงขยาดกันแล้วกับรถยนต์พลังแรงแห่งแดนยุโรปที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการซดน้ำมันเป็นอย่างมาก แต่นั่นคือเรื่องราวในอดีตที่เป็นเพียงตำนานที่เล่าขาน เพราะประเทศเยอรมนีคือประเทศแห่งนวัตกรรมที่สร้างสรรค์เครื่องยนต์รุ่นใหม่จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ BMW 330e M Sport รถยนต์สุดหรูแต่ใช้ประหยัดพลังงานสุด ๆ

BMW 330e M Sport มาด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ใครหลายคนพอมองเห็นขนาดเครื่องแล้วแอบปาดเหงื่อเล็ก ๆ ว่าจะกินน้ำมันมากหรือไม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้า BMW 330e M Sport มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงมาก โดยข้อมูลจากโรงงานระบุว่า รถรุ่นนี้ใช้น้ำมันเพียงแค่ 41 กิโลเมตร/ลิตร เท่านั้น เรียกว่าทั้งหรู ทั้งประหยัด กันแบบสุด ๆ ไปเลย 

เคล็ดลับประหยัดน้ำมัน จ่ายเท่าเดิม ไปได้ไกลกว่า

หากเรามีรถอยู่และอยากประหยัดน้ำมัน การซื้อรถใหม่คงเป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะสิ่งสำคัญนอกจากตัวรถแล้วสิ่งที่จะช่วยให้การขับรถทุกประเภทประหยัดน้ำมันมากที่สุดคืออุปนิสัยการขับขี่นั่นเอง มาดูกันว่าเราจะขับรถให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำมันกันอย่างเต็มที่ได้ยังไงบ้าง

  • ตรวจสภาพรถให้พร้อมต่อการใช้งานอยู่เสมอ เพราะรถที่สมบูรณ์ อัตราการเผาผลาญดี ก็จะประหยัดพลังงานน้ำมันได้มาก
  • ไม่บรรทุกของหนักจนเกินไป อะไรที่ไม่จำเป็นก็เอาออกไว้ที่บ้าน อีกทั้งอย่าปล่อยให้ลมยางอ่อนตัว หรือแข็งมากเกินไปจะทำให้เกิดแรงต้านและรถกินน้ำมันมากขึ้น
  • ขับรถในอัตราเร็วเดินทาง รถทุกประเภทจะมีการออกแบบอัตราเร็วเดินทางเอาไว้ที่ 70 – 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นการรักษาความเร็วในการเดินทางนี้ไว้ แม้อาจไปถึงเป้าหมายช้าบ้าง แต่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันไปได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ไม่ว่าคุณจะได้จับจองเป็นเจ้าของ 5 รถประหยัดน้ำมันในปี 2023 หรือจะเป็นรถรุ่นเก่าก็ตาม การขับขี่ตามเคล็ดลับขับยังไงให้ประหยัดน้ำมันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครหลายคนที่อยากประหยัดเงินในกระเป๋า นอกจากนั้นการมองหาประกันภัยรถยนต์ยังเป็นทางเลือกที่ช่วยคุ้มครองครองคุณจากความเสี่ยงทางการเงิน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เงินเก็บของเราจะได้ไม่หมดไปกับค่าซ่อมรถ รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ที่รู้ใจ ช่วยคุณประหยัดค่าเบี้ยสูงสุด 30% ปรับแต่งแผนได้ตามใจ เคลมง่าย สมัครออนไลน์ได้ทันทีไม่ต้องโทร นอกจากประหยัดเงินแล้วยังประหยัดเวลาให้คุณได้ไปทำในสิ่งที่ตนเองรัก ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อุ่นใจได้ให้รู้ใจช่วยคุ้มครอง

10 รถยนต์ประหยัดน้ำมัน ที่ไม่ควรพลาดในปี 2024

รถยนต์ประหยัดน้ำมัน ในปัจจุบันเทรนด์รถยนต์ประหยัดน้ำมัน เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ และกำลังเป็นที่ต้องการในตลาดรถเป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาน้ำมันที่มีแต่จะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ผู้ใช้รถยนต์หลายคนเลือกที่จะหันมามองหารถยนต์ประหยัดน้ำมัน เพื่อช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในกระเป๋ากันมากขึ้น อีกทั้งรถยนต์ประหยัดน้ำมันหลายๆ รุ่นในตลาดตอนนี้ก็มีสมรรถนะและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การขับขี่ไม่แพ้รถน้ำมันรุ่นใหม่ๆ แต่จะมีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เราจะพาไปส่อง 10 รถยนต์ประหยัดน้ำมันกัน toyota

1. Mitsubishi Mirage Ralliart

รถยนต์ประหยัดน้ำมัน รถยนต์ประหยัดน้ำมันพร้อมดีไซน์โฉบเฉี่ยวและตกแต่งสไตล์แรลลี่อาร์ต ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว Auto Stop & Go 1.2 ลิตร 1,193 ซีซี ให้กำลัง 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนด้วยเกียร์ INVECS – III CVT เกียร์อัตโนมัติ ด้วยระบบ INC และ G-Sensor ระบบบังคับเลี้ยวแบบแรคแอนด์พีเนียน

พร้อมระบบส่งกำลังควบคุมด้วยไฟฟ้า ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบเบรกด้านหน้าพร้อมดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อน เบรกหลังเป็นแบบดรัมเบรก และยังมีระบบกันสะเทือนหน้าอีกด้วยที่ด้านหลัง อีกทั้งยังเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันด้วยอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร รถยนต์ไฟฟ้า

2. BMW 330e M Sport

รถยนต์สปอร์ตประหยัดน้ำมันที่หรูหรา หล่อ และทรงพลัง ที่สำคัญคือเป็นระบบไฮบริดที่สามารถเสียบชาร์จได้ โฉบเฉี่ยวด้วยไฟหน้าแบบ Full LED สองดวง และไฟตัดหมอกแบบ LED ที่สามารถปรับระดับไฟสูงได้อัตโนมัติ ไฟท้ายเป็นแบบ LED รูปตัว L ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหนังและอลูมิเนียมเป็นหลัก พร้อมฟังก์ชั่นหน้าจอสัมผัส ส่วนเครื่องยนต์ยังครบครันด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ กำลัง 135 กิโลวัตต์ / 184 แรงม้า ที่ 5,000

– 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 300 นิวตันเมตร ที่ 1,350 – 4,000 รอบต่อนาทีในขณะที่ มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด ที่ 83 กิโลวัตต์ / 113 แรงม้า แรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 265 นิวตันเมตร ช่วยให้ขับขี่เพื่อประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และหากขับในโหมดไฮบริดจะสามารถประหยัดน้ำมันได้โดยเฉลี่ย 14 – 18 กิโลเมตร/ลิตร toyota

3. Honda City 1.0 Turbo

สำหรับฮอนด้า ซิตี้ ถือเป็นรถประหยัดน้ำมันอีกคันที่หลายๆ คนเลือกใช้ เพราะมาพร้อมเครื่องยนต์เทอร์โบที่สามารถออกตัวได้เร็วและแรงเหยียบที่แรงมากทำให้ขับสนุกเหมาะกับการขับในเมือง แต่ระยะทางไกลก็ขับได้ ภายนอกยังมีการออกแบบที่ทันสมัย โฉบเฉี่ยวสไตล์ฮอนด้า นอกจากนี้ภายในห้องโดยสารยังสามารถรองรับสัมภาระได้มากขึ้นด้วยการพับเบาะทั้งแนวตั้งและแนวนอน ที่สำคัญ Hond City 1.0 Turbo ยังมี Adaptive Cruise Control และเทคโนโลยี Honda Sensing เหมาะสำหรับมือใหม่อีกด้วย และยังประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 20 กิโลเมตร/ลิตร รถยนต์ไฟฟ้า

4. Susuki Swift

สำหรับ Suzuki Swift รถยนต์คันเล็กที่สาย Eco Car เลือกใช้ ด้วยความโดดเด่นของการประหยัดน้ำมัน รวมถึงดีไซน์ภายนอกที่ดูโดดเด่นจากความคลาสสิกถูกใจสายวินเทจ รวมถึงเทคโนโลยีอย่างไฟแบบ LED Projector ที่สามารถปรับระดับสูง – ต่ำ พร้อมหลอดไฟ LED แบบ Day Time Running และในส่วนของไฟท้ายยังมีดีไซน์ใหม่เป็นแบบ LED ในด้านของขุมพลัง

Suzuki Swift ยังมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร พร้อมเทคโนโลยี Duajet และแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเหมาะกับการขับขี่ในเมืองเป็นอย่างยิ่ง เพราะ Suzuki Swift เป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 23 กิโลเมตร / ลิตร

5. Honda HR-V e:HEV

Honda HR-V e:HEV ถือเป็นรถประหยัดน้ำมันอีกรุ่นที่น่าสนใจ เพราะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดเต็มรูปแบบ จุดเด่นอยู่ที่เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Atkison Cycle ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร พร้อมด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 131 แรงม้า และแรงบิด 253 นิวตันเมตร ทำให้รถยนต์ Honda HR-V e:HEV รถยนต์เครื่อง 1.5 ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ห้องโดยสารยังกว้างขวางอีกด้วย สะดวกและจุสัมภาระได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Honda Sensing อัตราการประหยัดน้ำมันของรุ่นนี้อยู่ที่ 25.6 กิโลเมตร/ลิตร

6. Toyota Corolla Cross Hybrid

เป็นรถเครื่องยนต์ 1.8 ที่มีดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยวแข็งแกร่ง มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 1.8 ลิตร ซึ่งเป็นระบบไฮบริดใหม่ล่าสุดในเจนเนอเรชั่น 4 ที่ได้รับการพัฒนาให้มีแบตเตอรี่ทรงประสิทธิภาพ ทนทานยิ่งขึ้นและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น Toyota Corolla Cross Hybrid ยังเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินผสมผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ระบบส่งกำลัง E-CVT และแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ที่ให้กำลังรวมสูงถึง 122 แรงม้า และ อีกหนึ่งจุดเด่นของรถ รุ่นนี้ช่วยประหยัดน้ำมัน พื้นที่ด้านหลังกว้างสามารถเก็บสัมภาระได้มากถึง 487 ลิตร ที่สำคัญยังเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันอีกด้วย อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถคันนี้คือ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

7. Mazda 2

อีกหนึ่งรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีดีไซน์โดดเด่นดูหรูหราและมาพร้อมเครื่องยนต์ SKYACTIV ทั้งรุ่นเบนซินและดีเซล Mazda 2 มีให้เลือกทั้งแบบซีดานและแฮทช์แบ็ก มีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของมาสด้าที่ช่วยควบคุมการขับขี่ได้อย่างแม่นยำและสมดุลในทุกรุ่นซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารในทุกตำแหน่ง รวมถึงการเพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานที่ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานมากกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน รถยนต์ Mazda 2 มีอัตราการสิ้นเปลืองแบ่งตามประเภทเครื่องยนต์

8. Haval Jolion Hybrid

เป็นรถยนต์ที่จัดเป็นรถ SUV ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดปัจจุบัน เพราะเป็นรถประหยัดน้ำมันด้วยดีไซน์ภายนอกที่ดูดี ทั้งไฟหน้า LED ที่มาพร้อมกับ DayTime Running Light ดีไซน์โฉบเฉี่ยวทันสมัย พร้อมระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อค และระบบ Follow Me Home ไฟส่องสว่างหลังดับเครื่อง เครื่องยนต์ ส่วนไฟท้ายเป็นแบบ LED นอกจากนี้ยังมีกระจังหน้า Star Matrix ดีไซน์ทันสมัยภายใต้แนวคิด “Future

Intelligent Cockpit” ที่ให้ความรู้สึกกว้างขวาง รวมถึงฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ ที่มอบความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและการขับขี่ส่วนตัวรถนั้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังรวมสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร

ระบบส่งกำลังเป็นแบบ DHT ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายสำหรับรถยนต์ไฮบริด ทำให้ Haval Jolion Hybrid เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่มีการขับขี่ที่ทรงพลังและประหยัดน้ำมัน อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ Haval Jolion Hybrid อยู่ที่ 23.8 กิโลเมตร/ลิตร

9. Volvo XC60 T8

รถยนต์ไฮบริดอีกคันที่เป็นรถประหยัดน้ำมัน ด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ Drive E ขนาด 2.0 ลิตร 1,969 ซีซี ให้กำลัง 320 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 640 นิวตันเมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 87 แรงม้า รวมกำลังสูงสุด 407 แรงม้า การขับขี่สนุกยิ่งขึ้นด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Geartronic 8 สปีด พร้อมระบบ Plug-in Hybrid

แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียมไอออน 18.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งรถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าบริสุทธิ์ได้เร็วถึง 88.7 กิโลเมตร/การชาร์จ (มาตรฐาน NEDC) โดยการชาร์จแบตเตอรี่ตั้งแต่ 0 ถึง 100 ครั้ง เพียง 3 ชั่วโมง นอกจากความแรงแล้ว ตัวรถยังมีดีไซน์ภายนอกและภายในที่หรูหรา รวมถึงเทคโนโลยีในด้านสมรรถนะที่ช่วยปรับปรุงการขับขี่ อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงของ Volvo XC60 T8 อยู่ที่ 22.40 กิโลเมตร/ลิตร

10. Nissan Almera

หนึ่งในรถเก๋งที่ประหยัดน้ำมันที่สุด ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.0 เทอร์โบ และออปชั่นความปลอดภัยครบครัน เซ็นเซอร์ทั้งสองตัวรอบคัน กล้องมองหลัง 360 องศา (BSM) เหมาะสำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ หรือคนที่ยังขับรถไม่เก่ง เพราะระบบช่วยเหลือในการขับขี่ครบครันและใช้งานง่าย ด้วยห้องโดยสารที่ดูหรูหราและสะดวกสบาย โดดเด่นด้วยมาตรวัดเรืองแสงแบบ Digital Fine Vision Meter และหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว ที่สำคัญนิสสัน อัลเมร่า ยังคงมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอยู่ที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร เรียกได้ว่าเป็นรถที่ประหยัดน้ำมันได้มาก อีกอันหนึ่งเลยทีเดียว รถยนต์ประหยัดน้ำมัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • 10 อันดับ ⁣รถ Toyota รุ่นไหนดี ระบบธรรมดา
  • รวม toyota 10 รุ่น หลากสไตล์
  • แนะนำ 12 รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี น่าสนใจในปี 2024
Previous Post

N2609766 ครอบคร วแตกสลายเพราะเง นก อนโต part 2

Next Post

N2609768 ดจบของความร กท พร อมก บเง part 2

Next Post
N2609768 ดจบของความร กท พร อมก บเง part 2

N2609768 ดจบของความร กท พร อมก บเง part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0511139 แม กแต องชาย part 2
  • N0511138 ไม าจะเร ยกคนข เผ อกหร อคนข งกด part 2
  • N0511134 เล ยงหลานตามเพศท เก part 2
  • N0511137 ความอดทนของคนม นก หมดก นบ าง part 2
  • N0511132 สะใภ ทำงานหาเง นจนไม เวลามาด แลเเม part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.