ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
หากคุณกำลังมองหารถมือสองสำหรับครอบครัวที่ขับสบาย ประหยัดน้ำมัน และคุ้มค่า วันนี้เราคัดสรร 5 รุ่นยอดนิยม ที่เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดเล็ก พร้อมข้อมูลราคามือสองโดยประมาณ

1. Toyota Vios กว้างขวาง ประหยัดน้ำมัน
Toyota Vios เป็นรถซีดานขนาดเล็กที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร ให้การขับขี่ที่นุ่มนวลและประหยัดน้ำมัน เหมาะกับครอบครัวที่ต้องการรถที่ดูแลง่าย
- อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 15-18 กม./ลิตร
 - ค่าบำรุงรักษาต่ำ อะไหล่หาง่าย
 - ราคามือสองเริ่มต้น 200,000 – 450,000 บาท (ขึ้นอยู่กับปีและสภาพรถ)
 
2. Toyota Altis สมรรถนะเยี่ยม คุ้มราคา
Toyota Altis เป็นรถซีดานขนาดกลางที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ภายในกว้างขวางกว่ารุ่น Vios พร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดี เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการความสบายในทุกการเดินทาง
- เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง 1.6 ลิตร และ 1.8 ลิตร
 - อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 14-17 กม./ลิตร
 - ระบบความปลอดภัยและฟังก์ชันการใช้งานครบครัน
 - ราคามือสองเริ่มต้น 250,000 – 550,000 บาท
 
3. Honda Civic ดีไซน์สวย ขับสนุก
Honda Civic เป็นรถที่เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการรถดีไซน์สวย สปอร์ต ขับสนุก และให้ความรู้สึกพรีเมียม ภายในกว้างขวาง และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Turbo หรือ 1.8 ลิตร
 - อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 13-16 กม./ลิตร
 - ช่วงล่างแน่น หนึบ เกาะถนนดี
 - ราคามือสองเริ่มต้น 300,000 – 700,000 บาท
 
4. Honda City ความปลอดภัยสูง ฟังก์ชันครบ
Honda City เป็นรถซีดานขนาดเล็กที่มีพื้นที่ภายในกว้างขวาง พร้อมระบบความปลอดภัยที่ดี ให้การขับขี่ที่คล่องตัว ประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและเดินทางไกล
- เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร Turbo หรือ 1.5 ลิตร
 - อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 17-20 กม./ลิตร
 - เทคโนโลยี Honda Sensing ในบางรุ่น
 - ราคามือสองเริ่มต้น 220,000 – 500,000 บาท
 
5. Toyota Yaris ราคาเป็นมิตร ดูแลง่าย
Toyota Yaris เป็นรถแฮทช์แบ็กขนาดเล็กที่เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการรถขับขี่ง่าย คล่องตัว และมีค่าบำรุงรักษาต่ำ ภายในออกแบบมาให้ใช้งานสะดวก เหมาะกับการใช้งานในเมือง
- เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร รองรับ E85
 - อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 18-22 กม./ลิตร
 - พื้นที่เก็บสัมภาระเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
 - ราคามือสองเริ่มต้น 250,000 – 500,000 บาท
 
หากคุณต้องการรถมือสองที่คุ้มค่า Toyota Vios และ Altis เป็นตัวเลือกที่ดูแลง่าย สมรรถนะดี Honda Civic และ City เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสปอร์ตและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่วน Toyota Yaris เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการความประหยัดและขับขี่ในเมือง
ก่อนตัดสินใจซื้อ อย่าลืมตรวจสอบสภาพรถ ประวัติการใช้งาน และเอกสารทางกฎหมายให้ครบถ้วน เพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์และคุ้มค่าที่สุด หากสนใจรถมือสองคุณภาพดี คัดสรรคุณภาพมาให้แบบจัดเต็ม ติดต่อเรา JUST CAR ตัวกลางซื้อขายรถยนต์มือสองครบวงจร ไม่ว่าคุณกำลังอยากจะขายรถ ก็สามารถขายได้ทุกรุ่น ทุกปี ขายได้ราคาสูง
รถ ECO CAR 2018 กับ 10 อันดับที่ดีที่สุด คุ้มค่า น่าจับจอง
February 22, 2018 l POST IN :: บทความทั้งหมด l By : Juan Omar
สวัสดีครับเพื่อนๆ หลายคนคงกำลังมองหารถยนต์ราคาไม่แพงเอาไว้ใช้งานในเมืองไปทำงาน หรือจะไปเทียวชิวๆต่างจังหวัด คงตัดสินใจกันยากพอดูนะครับกับตลาด ECO CAR 2018 ในบ้านเราเพราะในช่วงนี้นี่มีตัวเลือกเยอะซะเหลือเกิน พวกเราทีมงาน Autotirechecking(ATC) เลยรวบรวมข้อมูล แล้วสรุปมาให้ดูครับว่าในการลงทุนซื้อรถยนต์ ECO CAR 2018 รุ่นไหนจะคุ้ม

รถยนต์ ECO-CAR ออกแบบมาเพื่อเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่เน้นการขับขี่ในเมืองโดยไม่ได้คำนึงถึงอัตราการเร่ง หรือความเร้าใจในการขับขี่มากมายนัก การวิเคราะห์ครั้งนี้จึงมาจากราคา และสิ่งที่ได้มากับตัวรถนะครับ สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่เพื่อนว่าจะเลือก ECO CAR รุ่นไหน อย่ารอช้าไปเริ่มดูจากอันดับ 10 กันเลยดีกว่า
อันดับ 10 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> HONDA BRIO 2018

HONDA BRIO 2018 เป็นรถยนต์ที่โดดเด่นในเรื่องสมรรถนะอีกคันนึงเลยนะครับ ด้วยตัวรถที่เล็ก และเบาทำให้มีความคร่องตัวสูงขับขี่ง่าย แล้วยังมีขุมพลังอย่างเครื่องยนต์ SOHC 4 สูบ 16 VALVE i-VTEC ที่เรียกแรงม้าได้ถึง 66(90)/6,000 Kw(PS)/rpm และแรงบิด 110(11.2)/4,800 N-M(kg.-m.)/rpm
แต่ด้วยความเล็กของ HONDA BRIO และฟังค์ชั่นที่ได้มาเมื่อเทียบกับรถ ECO CAR เลยทำให้ดูไม่คุ้มค่าตัว 495,000 บาท สักเท่าไหร่ แต่ HONDA BRIO ก็สนองขาซิ่งที่มองหารถเล็กดีไซน์สปอร์ มาแต่งเล่นแต่แรงเอาความสนุกในการขับขี่ได้อย่างดีอีกคันเลยทีเดียว
อันดับ 9 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> NISSAN ALMERA 2018

NISSAN ALMERA 2018 รถยนต์ที่เกิดมาเพิื่อเป็น ECO-CAR SEDAN คันแรกของไทย ด้วยการออกแบบที่ดูเป็นรถครอบครัวคนเมือง ด้วยคอนเซ็ป “ความสุขที่กว้างขึ้น” ส่วนเรื่องสมรรถนะเครื่องยนต์ 3 สูบ จับคู่กับเกียร์ CVT ที่เรียกได้ว่าแน่นความประหยัดที่สุดในตลาด ECO-CAR ทำให้ NISSAN ALMERA 2018 เป็นรถยอดนิยมของคนเมืองด้วยขนาดที่เหมาะกับครอบครัวคนไทย และขับง่าย พร้อมมากับความประหยัดที่สามารถสัมผัสได้
นอกจากนั้นยังมีเกียร์ธรรมดาให้เลือกในราคา 445,000-476,000 บาท ถ้าอยากได้ได้เกียร์ CVT NISSAN ALMERA จะเริ่มต้นด้วยการใส่ชุดแต่ง Sportech ในราคา 537,000 บาท , 580,000 บาท และ , 697,000 บาท นอกจากนี้ NISSAN ALMERA ยังปล่อยออฟชั่น NISMO เพิ่มมาอีกด้วย แต่ก็เรียกได้ว่าราคาแรงพอตัวเลยหละครับกับออฟชั่นที่แลกมา >>>>ดูตารางผ่อน
อันดับ 8 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> MITSUBISHI MIRAGE 2018

MITSUBISHI MIRAGE 2018 เป็นอีกคันที่มาในยุคแรกๆของ ECO-CAR ที่มีสมรรถนะ และความประหยัดน้ำมันอยู่ในขั้นดีแล้วทีเดียวนอกจากนั้น MITSUBISHI MIRAGE 2018เองก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาออฟชั่นให้เป็นไปตามยุคสมัย ด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (ที่ความเร็วต่ำ) เป็นระบบเสริมความปลอดภัย โดยระบบจะประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้า ในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS)
นอกจากนั้นยังมีการติดตั้งระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัยลดความเมื่อยล้า เมื่อต้องขับขี่ทางไกล (เฉพาะรุ่น GLS-LTD) เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว MITSUBISHI MIRAGE รุ่น GLS 557,000.00 บาท และถ้าจะจัดเต็มกับ MITSUBISHI MIRAGE รุ่น GLS-LTD ก็ขึ้นไป 596,000.00 บาท ก็เรียกได้ว่าอาจจะยังดูแพงไปซักนิดกับค่าตัวทั้งสองรุ่นเมื่อเทียบกับพื้นที่การใช้งานในรถรุ่นน้องอย่าง MITSUBISHI ATTRAGE แต่ MITSUBISHI MIRAGE ก็ถือว่าเหมาะกับผู้หญิงโสดสายช็อปอย่างมากเลยทีเดียว >>>>ดูตารางผ่อน
อันดับ 7 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> MITSUBISHI ATTRAGE 2018

MITSUBISHI ATTRAGE 2018 โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่เป็นรถยนต์ 4 ประตู ทำให้มีพื้นที่การใช้งานที่ใหญ่เหมาะสำหรับครอบครัวคนเมืองอย่างมาก พร้อมการติดตั้งความสะดวกสบาย และความทันสมัยหลายอย่าง ทั้งออฟชั่นที่เหมือนกับ MITSUBISHI MIRAGE นั้นคือ ระบบจะประเมินระยะห่างจากรถยนต์คันหน้า หากพบว่ามีความเสี่ยงที่จะชนรถยนต์คันหน้า ในช่องทางเดียวกัน ระบบจะทำการเตือนและช่วยชะลอความเร็ว(เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS) และ RMS-FORWARD ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว เฉพาะด้านหน้า เป็นระบบเสริมความปลอดภัย
โดยระบบจะตรวจจับวัตถุด้านหน้า หากมีการเหยียบคันเร่งผิดพลาดอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ระบบจะทำการเตือนและตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ขับขี่เบรกรถได้ทัน ช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการชน เฉพาะรุ่น (เฉพาะรุ่น GLS-LTD, GLS) นอกจากนั้นที่เพิ่มเข้ามาคือระบบอัจฉริยะพร้อมรองรับ Apple CarPlay* (เฉพาะรุ่น GLS-LTD) *Apple CarPlay เป็นลิขสิทธิ์ของ Apple Inc. จดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศอื่นๆ กับราคาที่น่าสนใจ MITSUBISHI ATTRAGE รุ่น GLS ราคา 561,000 บาท และ MITSUBISHI ATTRAGE 2018 รุ่น GLS-LTD ราคา 599,000 บาท แต่จากที่เคยสัมผัสสมรรถนะในการขับขี่ยังเป็นรองคู่แข่งอยู่พอตัวครับ
อันดับ 6 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> ALL-NEW MAZDA 2 DIESEL 2018

MAZDA 2 DIESEL 2018 เป็นรถรุ่นที่เรียกได้ว่าเป็นระดับพรีเมี่ยมของ ECO-CAR เลยก็ว่าด้วยความสุดยอดของเทคโนโลยี SKYACTIV ที่พัฒนาทั้งโครงสร้าง ระบบเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังให้ได้สมรรถนะ และความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม MAZDA 2 DIESEL 2018 ติดตั้งหัวใจอย่าง เครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D 1.5 เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว ที่ไม่ใช่แค่แรงอย่างเดียวแต่ ประหยัดน้ำมันสุดๆอีกด้วย MAZDA 2 DIESEL 2018 ออกมาสามรุ่นด้วยกันเริ่มต้นที่ 675,000 บาท ตัวกลาง 735,000 บาท และเต็มสูบครบ ออฟชั่น 790,000 บาท ที่ติดตั้งหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว
พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander ,ระบบจดจําเสียง(Voice Recognition) ,ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM ,ระบบเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA แต่ก็มีปัญหาเรื่องราคาขายต่อทำให้หลายๆคนยังไม่เลือกที่จะเชื่อใน ALL-NEW MAZDA 2 DIESEL สักเท่าไหร่แต่ก็ถือว่า ALL-NEW MAZDA 2 DIESEL เป็นรถยนต์ที่ขายดีมากอีกคันในช่วยเปิดตัวเลยหละครับ เป็นรถที่ยกระดับ ECO-CAR บ้านเราให้แพง เอ๊ย…ให้มีความหลากหลายมากขึ้นจริง >>>>ดูตารางผ่อน
อันดับ 5 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> ALL-NEW TOYOTA YARIS 2018

TOYOTA YARIS 2018 เจ้าตลาดอย่าง TOYOTA ได้ภาษีที่ดีกว่าเพราะราคาขายต่อที่ไม่ตก และคุณภาพการใช้งานที่เชื่อถือได้นอกจากนั้น TOYOTA YARIS 2018 ยังออกแบบมาได้โดนในวัยรุ่นหลายๆคน ด้วยสไตล์ที่โฉบเฉี่ยว และสมรรถนะที่ตอบสนองชีวิตคนเมืองได้อย่างดีด้วยอัตราเร่งที่มีประสิทธิภาพ ที่ไม่ทิ้งความประหยัดน้ำมันด้วยเครื่องยนต์ 3NR-FE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i จับคู่กับระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock มีระบบที่เพิ่มความทันสมัยมาเป็น ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
พร้อมระบบ Follow-Me-Home ที่จะนำทางคุณกลับบ้านเมื่อไม่มีแสงนำทาง ความโดดเด่นของ ALL-NEW TOYOTA YARIS เห็นจะเป็นราคาที่สตาร์ทมาเพียง 489,000 บาท ก็ได้ระบบเกียร์ CVT แล้ว แต่ตัวท็อปจะดีดไปถึง 619,000 บาท เลยทีเดียว ถ้ามองเรื่องออฟชั่นกับราคา TOYOTA YARIS 2018 ดูจะเป็นรองหลายๆค่ายเลย แต่ถ้ามองตัวต่ำ และราคาขายต่อ TOYOTA YARIS 2018 นั้นน่าโดนมากเลยทีเดียว >>>>ดูตารางผ่อน
อันดับ 4 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> SUZUKI SWIFT 2018

SUZUKI SWIFT 2018 น้องใหม่ของวงการณ์ ECO-CAR ในประเทศ ออกมาตีตลาด ECO-CAR ด้วยความสปอร์ตทั้งหน้าตา และโครงสร้างภายใน แต่ก็ยังไม่ทิ้งความประหยัดน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ละเอียดขึ้น ในเครื่องยนต์ดีไซด์ใหม่ K12M ที่มาพร้อมเทคโนโลยี DUALJET หัวฉีดคู่ เพิ่มประสิทธิภาพในการฉีดเชื้อเพลิงที่ดีกว่า และการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดน้ำมัน มากกว่า 23 กม./ลิตร
เป็นไปตามคุณสมบัติรถยนต์ ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากลรุ่นที่ 2 (ECO CAR PHASE II) นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยการเผาไหม้โดยระบบไอเสียจะถูกหมุนเวียนกลับมาเผาไหม้อีกครั้งเพื่อลดมลพิษ และให้การเผาไหม้ที่ดียิ่งขึ้น นอกจากเครื่องยนต์ แล้วโครงสร้างของ SUZUKI SWIFT 2018 ยังมีแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ช่วยให้รถมีน้ำหนักน้อยลง ประหยัดน้ำมัน แข็งแกร่งและมั่นใจมากยิ่งขึ้น เร้าใจกว่านั้นด้วยการเปิดตัวด้วยเกียร์ CVT ราคา 499,000 บาท จนไปถึงตัวท็อป 629,000 บาท รุ่นนี้ผมแอบเสียดายนิดหน่อยเพราะเมืองนอกเขาจัดอฟฟชั่นมาเต็มจนขนลุกเลย >>>>ดูตารางผ่อน
อันดับ 3 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> ALL-NEW TOYOTA YARIS ATIV 2018

TOYOTA YARIS ATIV 2018 เป็นตัว SEDAN ของ ALL-NEW TOYOTA YARIS ที่เพิ่มพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นกว่าเดิมด้วยรูปลักษณ์ของรถยนต์ 4 ประตู ที่ยังคงเป็นครื่องยนต์ 3NR-FE / 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i จับคู่กับระบบเกียร์แบบอัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Shift Lock ราคา TOYOTA YARIS ATIV 2018 ก็น่าสนใจด้วยการเปิดราคาที่ 479,000 บาท ส่วนตัวท็อปอยู่ที่ราคา 635,000 บาท อย่างที่กล่าวครับความน่าซื้ออยู่ที่ตัวต่ำถือว่าเป็นรุ่นที่ถ้าแน่นใช้งานแล้วละก็โอเคเลยทีเดียว >>>>ดูตารางผ่อน
อันดับ 2 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> NISSAN NOTE 2018

NISSAN NOTE 2018 ที่ให้มาติดอันดับ 2 เพราะเรื่องออฟชั่นที่จัดมาให้เต็มๆกับตัวท็อปราคา 640,000 บาท ด้วยระบบความปลอดภัยที่อัดมาเต็มจนมองข้ามไม่ได้ เหมาะกับชีวิตคนเมืองที่ใช้รถใช้ถนนกันทุกวันกับรถยนต์ที่เยอะตลอดการเดินทาง ด้วยระบบต่อไปนี้
- ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning (FCW)
 - ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ทั้งบุคคลและยานยนต์ Intelligent Emergency Braking: Forward Emergency Braking, Pedestrian Forward Emergency Braking (FEB/PFEB)
 - ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW)
 - กล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around-View Monitor (AVM)
 - ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน Moving Object Detection (MOD)
 
นอกจากออฟชั่นที่ดึงดูดแล้วการออกแบบภายนอกที่เป็น 5 ประตู อาจทำให้ดู NISSAN NOTE 2018 มีขนาดที่เล็กแต่หากได้ลองเข้าไปนั้นด้านในแล้วละก็จะรู้ได้เลยครับว่า “ผมไม่เล็กนะครับ” ด้านหลังนั้งได้สบายๆ แต่ข้อเสียก็มีเดิมๆการดีไซด์ที่ดูไม่ทันสมัยของหน้าจอ speedometer ใช้ของเดิมจนดูขัดตา >>>>ดูตารางผ่อน
อันดับ 1 ของ ECO CAR 2018 ที่น่าจับจอง -> ALL-NEW MAZDA 2 2018

MAZDA 2 2018 ถ้าเทียบๆกับตัวท็อปหลายๆรุ่น MAZDA 2 2018 เรียกได้ว่าโดดเด่นเลยที่เดียวกับราคา 670,000 บาท กับดีไซด์ที่สวยงาม พร้อมเทคโนโลยี SKYACTIV ที่สร้างสมรรถนะได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมออฟชั่นความปลอดภัย และสะดวกสบายที่โดดเด่น
- หน้าจอสี Center Display แบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander
 - ล้ำหน้าไปกับเทคโนโลยีเชื่อมต่อโลกโซเชียล MZD CONNECT ใน มาสด้า 2 ใหม่ 2018 คอลเลคชั่น ครบทุกฟังก์ชั่น ให้คุณไม่พลาดทุกการติดต่อ ทั้งติดตามข้อมูลข่าวสาร ต่อติดโลกโซเชียล และอัพเดทเทรนด์ได้ตลอดทาง หรือรับ-ส่ง SMS จากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาน Bluetooth พร้อม Infotainment ที่มีให้เลือกมากมายในแอพพลิเคชั่น Aha by HARMAN™ รวมถึงระบบนำทาง Navigator**
 - Active Driving Display สกรีนใสเหนือพวงมาลัยในระดับสายตาผู้ขับ แสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ เช่น ระดับความเร็วรถ
 - เชื่อมต่อโซเชียลเน็ตเวิร์ครวดเร็วจากสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณบลูทูธ
 - ระบบรับข้อความเป็นเสียง Text-to-Voice อ่านข้อความ SMS ที่ได้รับผ่านลำโพงรถ พร้อมแสดงข้อความบนจอ
 - ระบบสั่งงานด้วยเสียง Voice Command สั่งค้นหาเพลง เลือกเล่นเพลง หรือเล่นเพลงซ้ำ
 - ระบบ Infotainment ทันสมัย ทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟนและแท็บแล็ต คุยโทรศัพท์ หรือไลน์ คอล ผ่านลำโพงรถ
 - รับข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงมากมายจากแอพพลิเคชั่น Aha by HARMANTM และ STITCHER® Radio
 - ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ช่วยส่งสัญญาณเตือน หากตรวจพบรถในเลนด้านข้างที่กําลังแซงขึ้นมาและอยู่ในจุดที่ผู้ขับอาจมองไม่เห็น
 - RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบจะส่งสัญญาณเตือน พร้อมไฟกะพริบเตือนที่กระจกมองข้าง หากตรวจพบความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุจากรถที่ขับผ่านมาด้านหลัง
 
ความประหยัดที่มากับเครื่องยนต์เผาไหม้สมบูรณ์ที่สุดด้วยอัตราส่วนการอัดสูงถึง 12.0:1 ให้แรงม้าสูงถึง 93 แรงม้า แรงบิดสูง 123 นิวตัน-เมตร ประหยัดน้ำมันถึง 23.3 กม./ลิตร* ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้ดียิ่งขึ้น ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง 100 กรัม/กม.* ผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษระดับ Euro 5 ของยุโรป เรียกได้ว่าล้ำไปอีกขั้นจริงๆ >>>>ดูตารางผ่อน
ทั้งนี้จากข้อมูลข้างต้นก็อยู่ที่ความชอบ และความเหมาะสมของชีวิตประจำวันที่ต้องการใช้รถของแต่ละท่านแล้วหละครับ ยังไงก็ฝากว่ารถยนต์ก็เหมือนขาของเราที่จะพาไปไหนต่อไหน แนะนำให้ก่อนตัดสินใจซื้อให้ลองขับดูก่อนว่าถูกใจรึปล่าว อย่างไรก็ตามหวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะครับ
	    	
		    
