ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 รถประหยัดน้ำมัน ราคาถูก ที่วางจำหน่ายในไทยปี 2018
by EasyInsureBroker | Dec 18, 2017 | บทความรถยนต์ | 0 comments
รถประหยัดน้ำมัน
สวัสดีครับเพื่อนๆ สิ้นปีเก่าเข้าปีใหม่จาก 2017 สู่ 2018 มีใครคิดจะซื้อรถยนต์มาขับหล่อๆสวยๆกันบ้างไหมครับ แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ทุกคนต้องพูดถึงคือเรื่องของ รถประหยัดน้ำมัน เพราะช่วงนี้น้ำมันราคาสูงขึ้นซะเหลือเกิน จนบางคนหันไปติดแก๊ส เพื่อลดค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเรารู้ว่ารถรุ่นไหนบ้างที่นอกจากราคาถูกแล้ว ยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย วันนี้ผมขอแนะนำ 10 รุ่นที่ประหยัดน้ำมันสุดๆ เรามาดูกันเลยครับ

10. Toyota Yaris (อัตราประหยัดน้ำมันสูงสุด 20กิโลเมตรต่อลิตร)
Yaris 2018 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองคนเมืองโดยเฉพาะ เพราะมีความโฉบเฉี่ยวเหมาะกับสภาพรถติดในเมือง โดยทาง Toyota ได้ออกแบบเครื่องยนต์ 3NR-FE ขนาด 1,200 ซีซี 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว DUAL VVT-i สามารถทำแรงม้าได้สูงสุด 86 แรงม้า (63 กิโลวัตต์) ที่ 6,000 รอบต่อวินาที และสามารถทำแรงบิดได้สูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบจ่ายน้ำมันรูปแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แบบ EFI น้ำมันเชื้อเพลิง รองรับสูงสุด E20 มาตราฐานไอเสีย EUR04 อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน 20กม./ลิตร นับว่าเป็น รถยนต์ประหยัดน้ำมัน Top10 ของประเทศไทยเลยทีเดียว

9. Nissan note (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 20 กิโลเมตรต่อลิตร)
Nissan note 2018 เป็นรถที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นน้องของ Nissan March รูปแบบดูเรียบหรูระดับกลางๆ สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างคล่องตัว โดยนิสสันโน๊ต ใช้เครื่องยนต์เบนซิน HR12DE ขนาด 1,198 ซีซี 3 สูบ แถวเรียง DOHC 12 วาล์ว CVTC มาพร้อมกับระบบหัวฉีดอีเลคทรอนิคส์ มัลติพอยท์ ECCS สามารถฉีดเชื้อเพลิงได้อย่างละเอียดและมีความแม่นยำ ทำให้ช่วยประหยัดน้ำมันเป็นอย่างมาก โดยสามารถทำแรงม้าสูงสุดได้ 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อวินาที และทำแรงบิดสูงสุด 106 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อวินาที ซึ่งเหนือไปกว่านั้นคือ มีระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถมีการหยุดนิ่ง และได้รับขานนามว่าเป็นเครื่องยนต์สะอาด เนื่องจากปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 120 กรัม/กิโลเมตร เทียบเท่ามาตรฐานไอเสีย ยูโร 4 อีกด้วย

8. Suzuki Swift (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 20 – 21 กิโลเมตรต่อลิตร)
Suzuki Swift 2018 ออกมาเปิดตัวเสียที นับว่าเป็น รถประหยัดน้ำมัน อีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนจับตามองกัน ดูจากรูปทรงภายนอกถือว่ายังไม่ฉีกออกจาก 2017 มากเท่าไหร่นัก แต่เครื่องยนต์ที่ทาง Suzuki จะงัดไม้เด็ดออกมามีด้วยกันอยู่ 2 รูปแบบ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะออกมาในรูปแบบใด โดย 2 รูปแบบมีดังนี้
- เครื่องยนต์เบนซิน หัวฉีดคู่ DualJet แบบ 4 สูบ ขนาดความจุ 1.2 ลิตร แรงม้าสูงสุด 91 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ CVT
 - เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ Booster Jet แบบ 3 สูบ ขนาดความจุ 1.0 ลิตร แรงม้าสูงสุด 102 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 speed
 
ซึ่งถือว่ายังไม่เปลี่ยนไปมากเมื่อเปรียบเทียบกับ Suzuki Swift 2017 แต่ก็ยังมีรูปแบบที่ดูแล้วเป็นเอกลักษณ์และน่ารักตะมุตะมิเหมือนเดิม ยังไงแล้วถ้าใครไม่ถูกใจโฉม 2017 สามารถตัดสินใจตัวโฉม 2018 ดูก็ได้ เห็นทางวงในกระซิบมาด้วยว่าโฉม 2018 มีดีให้เล่นอีกตั้งมากมาย รอเปิดตัวที่ไทยอย่างเดียวเท่านั้น อดใจรอได้ก่อนนะจ้า !!!
7. Honda Accord Hybrid (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร)
Honda Accord Hybrid 2018 ได้เปิดตัวในประเทศไทย อย่างเป็นทางการได้แล้ว ทำให้หลายคนตะลึงถึงความสวยงามและดูเรียบหรูอย่างเป็นเอกลักษณ์ในตัวของ Accord เมื่อเปรียบเทียบไปจากโฉม 2017 จะเห็นได้ว่ามีความโฉบเฉี่ยวมากขึ้นกว่าเดิม ภายในดูเรียบหรูกว่าเดิม อีกทั้งยังให้ระบบเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร i-VTEC valvetrain ส่งกำลังสูงสุดได้ถึง 252 แรงม้า ที่ 6,500 รอบต่อนาที และสามารถทำแรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร ที่ 1,500-4,000 รอบต่อนาที มีให้เลือกส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ พัฒนาร่วมกับเครื่องยนต์ที่ประจำการใน Civic Type R 2017 ทำให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น แถมยังเป็น รถประหยัดน้ำมัน ที่ทาง Honda ยื่นอกชูหน้าชูตาได้อีกด้วย
6. Mitsubishi Mirage (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.8 กิโลเมตรต่อลิตร)
Mitsubishi Mirage 2018 รถยนต์ประหยัดน้ำมัน อันดับต้นๆของประเทศไทย ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC 1.2 ลิตร สามารถทำแรงม้าได้สูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อวินาที และสามารถทำแรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที มาพร้อมกับระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์ มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์ อัตราเร่งดีเยี่ยม ให้การเผาไหม้หมดจด ลดมลพิษ รักษาสิ่งแวดล้อมและช่วยลดโลกร้อนได้อีกด้วย บอกเลยว่าโฉมนี้ภายในสวยมากๆเลย

5. Suzuki Celerio X (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.10 กิโลเมตรต่อลิตร)
Suzuki Celerio 2018 ได้เปิดตัวในอินเดียและปรับโฉมมาจาก Suzuki Celerio 2017 มีขนาดที่แคบกว่า Suzuki Switf อยู่เล็กน้อยโดยใช้เครื่องยนต์ K10B ตัวเดิมกับโฉมเก่า แบบ 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาดความจุ 998 ซี.ซี. ส่งกำลังสูงสุด 68 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 90 นิวตันเมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที โดยอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ 23.10 กิโลเมตรต่อลิตร

4. Mazda 2 Diesel (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร)
Mazda 2 Skyactiv 2018 มาพร้อมกับรูปโฉมที่หรูหรา หน้าคมเช่นเดิม แต่มีความพิเศษตรงที่เป็นรถยนต์ญี่ปุ่นขนาดเล็กรุ่นแรกของโลก ที่เป็นรถประหยัดน้ำมันโดยใช้เครื่องยนต์ SKYACTIV-D 1500CC เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล แรงบิดสูงถึง 250 นิวตัน-เมตร เทียบเท่าเครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่ 2500 ซีซี และอัตราส่วนการอัดต่ำเพียง 14.8:1 ผ่านมาตรฐานข้อบังคับมลพิษของยุโรป Euro5 และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ต่ำเพียง 100 กรัมต่อกิโลเมตร โดดเด่นที่สุดเรื่องการประหยัดน้ำมันถึง 26.3 กิโลเมตรต่อลิตร

3. Lexus CT200H (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.32 ลิตร)

เลกซัส ซีที 200 เฮช 2018 นวัตกรรมใหม่แห่งรถยุโรปประหยัดน้ำมันคันแรกที่เข้าสู่ประเทศไทยด้วยเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร พร้อมระบบ VVT-i โดยส่งกำลังสูงสุดที่ 99 แรงม้าที่ 5,200 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 2,800 – 4,400 รอบต่อนาที พร้อมด้วยกำลังเสริมจากมอเตอร์ไฟฟ้าจากเทคโนโลยี Lexus Hybrid Drive ที่มีกำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงสุด 207 นิวตันเมตร ทำให้ Lexus เป็นแบรนด์ที่น่าจับตามองในด้านการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด แถมยังการันตีอีกว่าในอนาคตจะสามารถผลิตรถยนต์ให้ประหยัดน้ำมันให้มากกว่านี้
2. BMW 320D Luxury (ประหยัดน้ำมันสูงสุด 27 กิโลเมตรต่อลิตร)

บี เอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 2018 รุ่นใหม่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร 4 สูบทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังขับเคลื่อนสูง อย่างต่อเนื่องในทุกรอบเครื่องยนต์ เพิ่มความคุ้มค่าในการใช้น้ำมันและลดอัตราการปล่อยไอเสียเครื่องยนต์ใหม่ เสื้อสูบอลูมิเนียมคอมโพสิท น้ำหนักเบา หัวฉีดคอมมอนเรลรุ่นล่าสุด และเพิ่มแรงอัดด้วยเทอร์โบแปรผัน ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติใหม่ 8 สปีด ให้กำลังสูงสุดที่ 135กิโลวัตต์ (180 แรงม้า) แต่อัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงเฉลี่ย 22.7 ก.ม. ต่อลิตร ลดการสร้างคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำสุดถึง 117 กรัม/ก.ม. นับว่าเป็นรถยุโรปที่ประหยัดน้ำมันแซงหน้ารถญี่ปุ่นไปแล้ว อย่างที่บอกว่าที่เขาเอาจริงนะ ฮ่าๆๆ
1. BMW 330e M Sport (ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 41 กิโลเมตรต่อลิตร)
BMW 330e M Sport 2018 รถยุโรปอันดับหนึ่งที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 41 กม./ลิตร โดยแท้จริง
รถยนต์แนวสปอร์ตใช้เครื่องยนต์เบนซินไฮบริด ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน TwinPower Turbo แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งตัวเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียวจะให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 290 นิวตัน-เมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้ามีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 89 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร เมื่อทั้งสองระบบทำงานร่วมกัน จะได้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 252 แรงม้า ส่วนระบบส่งกำลังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะที่เลื่องชื่อในด้านความนุ่มนวล และการเปลี่ยนเกียร์ที่ฉับไวต่อเนื่อง สามารถเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 225 กม./ชม. ถือว่าเป็น รถประหยัดน้ำมัน ที่สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ถึงความเร็ว 120 กม./ชม. และยังสามารถขับเคลื่อนเป็นระยะทางสูงสุดได้ถึง 37-40 กิโลเมตร โดยไม่ปล่อยไอเสียเลยแม้แต่น้อย
5 อันดับรถประหยัดน้ำมันที่สุดปี 2016
ข่าวสารรถ | 25 มี.ค. 2559

5 อันดับรถประหยัดน้ำมันที่สุดปี 2016
หลังจากที่ช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมานั้น มีการประกาศอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการปรับอัตราภาษีรถยนต์ด้วยโครงสร้างใหม่ พร้อมกับเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ด้วยเรื่องการมีส่วนร่วมลดปัญหาภาวะโลกร้อนกับการจำกัดการปล่อยปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ซึ่งเป็นที่น่าสนใจอยู่แล้วว่า รถยนต์ที่ถูกพัฒนามาสำหรับการปล่อย CO2 ที่น้อยลงนั้นก็มักจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์และระบบที่ช่วยควบคุมในส่วนของการประหยัดน้ำมันด้วยเช่นเดียวกัน
สำหรับปี 2016 มีรถยนต์ประหยัดน้ำมันที่น่าสนใจหลายรุ่น โดยเราขอรวบรวมมาทั้ง 5 รุ่นที่น่าจะตอบโจทย์ได้ทุกไลฟ์สไตล์

2016 Honda Brio Amaze
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 20 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.honda.co.th/th/brioamaze?gclid=CI24gdLMwssCFcqOaAod7I4NlQ
อีโค่คาร์ที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับคนเมืองด้วยดีไซน์ปราดเปรียวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้าสปอร์ตโดดเด่น ล้อแม็กดีไซน์ใหม่ ไฟท้ายและคิ้วโครเมียมสวยลงตัว พร้อมทั้งยังมากับห้องโดยสารกว้างสบายพร้อมพื้นที่จัดเก็บสัมภาระด้านหลัง แต่สิ่งที่ทำให้ Honda Brio Amaze เป็นที่กล่าวขวัญถึงมาที่สุดคือเรื่องของเครื่องยนต์ i-VTEC 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ที่ให้ระดับการประหยัดน้ำมันที่ 20 กม./ลิตร ในราคาที่ถูกใจเหล่า First Jobber เริ่มต้นที่ 454,000 บาท

2016 Mitsubishi Mirage
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 23.8 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.mitsubishi-motors.co.th/mirage/
เปิดตัวมาพร้อมกับคอนเซ็ปท์น่าสนใจ “ให้คุณมากกว่าที่คิด” โดยทางต้นสังกัดอย่าง มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เผยว่าครั้งนี้ 2016 Mitsubishi Mirage จะมากับฟีเจอร์เบรกอัตโนมัติซึ่งเป็นครั้งแรกกับการปรากฏในอีโค่คาร์ สำหรับการออกแบบนั้นยังคงสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัยและมีความเป็นสปอร์ตที่ใครๆ เห็นแล้วก็ต้องอยากได้เป็นเจ้าของอย่างแน่นอน แต่ความเจ๋งของมิราจปี 2016 นั้นยังไม่หมด เพราะมาพร้อมกับความสามารถในการเป็นรถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2016 ด้วยกับเครื่องยนต์1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ DOHC MIVEC 12 Valve ให้กำลังสูงสุด 78 แรงม้า โดยผ่านการทดสอบมาตรฐานอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ประหยัดน้ำมันได้มากกว่า 23.8 กม./ลิตร เลยทีเดียว! โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 383,000 บาท

2016 BMW 320D
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 22.7 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.bmw.co.th/th/th/newvehicles/3series/gran_turismo/2013/showroom/?gclid=CMWF3NjMwssCFQ8eaAod0s4Ncg
สำหรับรถยนต์จากค่ายใบพัดสีฟ้าหรือ BMW นั้นไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้วด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยและมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครๆ ก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ โดยเฉพาะในรถยนต์ซีรี่ส์ 3 อย่าง BMW 320D ที่มาพร้อมกับการผสมผสานเส้นลายที่วาดไหลไปตามทรงรถยนต์ให้ความรู้สึกหรูหรา ทั้งการออกแบบภายในเองก็ผ่านการรังสรรค์พื้นที่สำหรับการใช้งานอย่างกว้างขวาง และเพื่อตอบโจทย์ความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น 2016 BMW 320D มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร DOHC 16 วาล์ว ให้แรงม้าลงล้อที่ 184 แรงม้า โดยสามารถประหยัดน้ำมันในอัตรา 22.7 กม./ลิตร ราคาเริ่มต้น 2,899,000 บาท

2016 Mazda 2 SKYACTIV
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 26.3 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.mazda.co.th/cars/new-mazda2-hatchback-2016/?gclid=CKXG4OLMwssCFZeOaAode84LDA
เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีตลอดมานับตั้งแต่มีการเปิดตัว จนกลายเป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เริ่มต้นด้วยนวัตกรรม SKYACTIV ซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลกในด้านของคุณภาพ สมรรถนะ ความปลอดภัย และแน่นอนว่ารวมไปถึงเป็นหนึ่งรถยนต์ประหยัดน้ำมัน ถึงแม้จะถูกบรรจุอยู่ในหนึ่งอีโค่คาร์แต่ 2016 Mazda 2 SKYACTIV ออกแบบในสไตล์ของซับคอมแพ็คที่เพียบพร้อม ด้วยคุณสมบัติและออพชันของรถรุ่นใหญ่เลยทีเดียว สำหรับปี 2016 ปรับอุปกรณ์รายละเอียดและการตกแต่งภายในจากเดิมมาพร้อมกับเครื่องยนต์ทางเลือก SKYACTIV-G 1.3 แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์วและเครื่องยนต์ SKYACTIV-D 1.5 เทอร์โบแปรผัน 4 สูบ 16 วาล์ว ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบอิเล็กทรอนิคไดเร็คอินเจ็คชั่น (Electronic Direct Injection) ซึ่งประหยัดน้ำมันได้ถึง 26.3 กม./ลิตร ราคาเริ่มต้นที่ 529,000 บาท

2016 Lexus CT Hybrid
ระดับการประหยัดน้ำมัน : 26.32 กม./ลิตร
ที่มาภาพ : http://www.lexus.co.th/en/models/ct/ct-hybrid.html?gclid=CMCh1ujMwssCFdKHaAodZrIA0w&gclsrc=aw.ds
รถแฮทช์แบคไฮบริดรุ่นยอดนิยมจากค่ายหรูอย่าง Lexus กับนวัตกรรมใหม่ที่ทางต้นสังกัดเองได้ออกมาเผยถึงการรวมกันที่โดดเด่นของสัมผัสนุ่มในการขับขี่และระบบการจัดการแบบไดนามิก รวมไปถึงการปรับแต่งระดับชั้นนำ การขับขี่ที่เหนือกว่ารวมกับพลังของเล็กซัสไฮบริดไดรฟ์ในการส่งมอบกำลังด้วยประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ดี ส่วนภายในนั้นได้รับการออกแบบอย่างสวยงามและเน้นไปที่การใช้งานง่ายเพิ่มความสะดวกสบาย โดยสิ่งที่น่าสนใจกับการเป็นหนึ่งในรถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2016 คือเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 4 กระบอกสูบ DOHC VVT-i ที่ไม่เพียงแต่ประหยัดน้ำมัน 26.32 กม./ลิตร แต่ยังมีอัตราการปล่อย CO2 ที่ 88 กรัม/กม. เท่านั้น สำหรับราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,999,000 บาท
และทั้งหมดนี้ก็คือ สุดยอดรถยนต์ประหยัดน้ำมัน 2016 อย่างไรก็ดี อัตราการประหยัดน้ำมันดังกล่าวเมื่ออยู่ในการใช้งานจริงอาจมีค่าที่ลดลงตามพฤติกรรมการขับขี่รวมไปถึงสภาพถนนที่แตกต่างกันออกไปด้วยเช่นเดียวกัน
	    	
		    
