ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
5 อันดับแบรนด์รถหรูที่แพงที่สุดในโลก อัปเดต 2025
Last updated: 23 ก.พ. 2568 | 43679 จำนวนผู้เข้าชม |

หากพูดถึงรถหรู หรือ luxury car แล้ว หลายคนคงนึกถึงเหล่าแบรนด์รถหรูเจ้าดัง ๆ อย่าง Rolls-Royce, Bugatti, Lamborghini, Ferrari หรือ Aston Martin ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับไปทั่วโลก แต่คุณรู้หรือไม่ว่ารถที่แพงที่สุดในโลกมาจากแบรนด์อะไร มีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่ดีมากขนาดไหน วันนี้เราได้รวบรวม 5 อันดับแบรนด์รถหรูสุดพรีเมี่ยม ที่ราคาแพงที่สุดในโลกปี 2025 มาให้ทุกคนที่สนใจได้ลองอ่านและศึกษากันดูครับ
5 อันดับแบรนด์รถหรูราคาแพงที่สุดในโลก
1. Rolls-Royce Boat Tail

ขอบคุณภาพจาก Rolls-Royce
ราคา 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 960 ล้านบาท)
Rolls-Royce Boat Tail เปิดตัวครั้งแรกในปี 2021 เป็นรถยนต์หรูเปิดประทุน 2 ประตูสั่งทำพิเศษที่มีเพียง 3 คันในโลก ครองตำแหน่งรถสปอร์ตที่แพงที่สุดในโลก และแบรนด์รถหรูคันนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากรถเปิดประทุนยุค 1930 ที่มีชื่อเดียวกัน การออกแบบภายนอกของรถมีความโค้งมนและหรูหรา ไฟหน้า LED ที่บางเฉียบและไฟท้ายแนวนอนช่วยเพิ่มความทันสมัยให้กับรูปลักษณ์ ภายในตกแต่งด้วยวัสดุหรูหรา เช่น ไม้ หนัง และคริสตัล เบาะนั่งหุ้มหนังสีฟ้าอ่อนตัดกับแผงหน้าปัดไม้สีดำ ที่สะท้อนถึงความรักของเจ้าของรถที่มีต่อท้องทะเลได้อย่างลงตัว

Rolls-Royce Boat Tail ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ขนาด 6.75 ลิตร ให้กำลัง 563 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ใช้เวลาประมาณ 5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 250 กม./ชม. 
Rolls-Royce Boat Tail เป็นรถยนต์ที่หรูหรา ทรงพลัง และคงความคลาสสิคของความเป็น Rolls-Royce ไว้ได้ในทุกกระเบียดนิ้ว นอกจากความสวยงามของดีไซน์อันน่าหลงใหลแล้ว เครื่องยนต์ภายในยังจัดเต็มไม่เป็นสองรองใคร ควรค่าแก่การเป็นรถที่มีราคาแพงที่สุดในโลกประจำปี 2025 อย่างไม่ต้องสงสัยครับ
2. Bugatti La Voiture Noire

ขอบคุณภาพจาก Bugatti
ราคา 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 600 ล้านบาท)
Bugatti La Voiture Noire เป็นรถสปอร์ตไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นเพียงคันเดียวในโลก เปิดตัวในปี 2019 ด้วยราคา 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 600 ล้านบาท) รถยนต์คันนี้ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจาก Bugatti Type 57 SC Atlantic ซึ่งเป็นรถคลาสสิคที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 1930 ตัวถังของรถจะเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด มาในโทนสีดำสนิทแบบ Deep Black Gloss ดีไซน์ภายนอกเน้นความเรียบหรูหรา โฉบเฉี่ยว และทรงพลัง ภายในหุ้มด้วยหนังเกรนสีน้ำตาล Havana Brown ตัดกับอะลูมิเนียมปัดเงาสะดุดตา คอนโซลกลางมีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่และเบาะนั่งทรงสปอร์ตชวนหลงใหลที่ให้กลิ่นอายแบบโมเดิร์น

Bugatti La Voiture Noire ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W16 เทอร์โบชาร์จ 8.0 ลิตรที่ให้กำลัง 1,500 แรงม้าและแรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด อัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลา 2.4 วินาที และมีความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 420 กม./ชม. La Voiture Noire ใช้เวลาในการพัฒนานานกว่า 2 ปี ผลิตโดยช่างฝีมือกว่า 60 คน และใช้เวลาประกอบมากถึง 6,000 ชั่วโมง เจ้าของรถคันนี้ไม่ได้รับการเปิดเผย แต่คาดว่าจะเป็นมหาเศรษฐีชาวยุโรป
3. Bugatti Centodieci

ขอบคุณภาพจาก Bugatti
ราคา 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 300 ล้านบาท)
Bugatti Centodieci เป็น Supercar รุ่นพิเศษที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 110 ปีของแบรนด์รถหรู Bugatti ตัวรถเปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ด้วยราคาสูงถึง 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 300 ล้านบาท) และผลิตเพียง 10 คันเท่านั้น Centodieci ได้รับการตั้งชื่อตาม Bugatti EB110 ซึ่งเป็นรถซูเปอร์คาร์รุ่นแรกของ Bugatti ที่ผลิตขึ้นในปี 1991 ซึ่งนอกจากชื่อแล้ว ดีไซน์ภายนอกและภายในยังได้รับอิทธิพลมาจาก EB110 ด้วยในหลาย ๆ แง่มุม

Bugatti Centodieci เป็น Supercar ที่มีรูปลักษณ์ดุดันและปราดเปรียว มีไฟหน้าทรงสี่เหลี่ยมคางหมูและไฟท้ายแบบ LED สามมิติที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก EB110 ส่วนห้องโดยสารออกแบบได้อย่างหรูหราทันสมัย วัสดุที่ใช้ในการตกแต่งภายในส่วนใหญ่ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์และหนังแท้ มีเบาะนั่งทรงสปอร์ตและแผงหน้าปัดดิจิทัล ตัวรถขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ที่ให้กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้าและแรงบิด 1,600 นิวตันเมตร เครื่องยนต์นี้ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 380 กม./ชม.
4. Mercedes Maybach Exelero

ขอบคุณภาพจาก Wikipedia
ราคา 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท)
Mercedes-Maybach Exelero เป็นแบรนด์รถหรูระดับไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นเพียงคันเดียวในโลก โดย Mercedes-Benz และ Fulda บริษัทยางในเครือ Goodyear จากประเทศเยอรมัน ตัวรถเปิดตัวครั้งแรกในปี 2004 ด้วยราคา 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท) Exelero สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Mercedes-Benz S 57 แต่ได้รับการปรับแต่งใหม่หลายจุดเพื่อยกระดับสมรรถนะและรูปลักษณ์ให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น

โดยภายนอกใช้การออกแบบที่เรียบหรูแต่แฝงไปด้วยความดุดัน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้าทรงกลม และไฟท้าย LED รูปทรงเรียวยาว ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุระดับพรีเมียมอย่างไม้ หนัง และคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะนั่งแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa ตัดด้วยตะเข็บสีแดงดูเข้ากันอย่างลงตัว คอนโซลกลางติดตั้งจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว ระบบเสียง Burmester High-End Surround Sound และระบบความบันเทิงแบบเต็มรูปแบบ
Mercedes-Maybach Exelero มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 5.9 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ให้กำลังสูงสุด 690 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,020 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 4.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 351.45 กม./ชม. ปัจจุบัน Exelero เป็นเจ้าของโดย Fulda และถูกนำไปจัดแสดงตามงานมอเตอร์โชว์ต่าง ๆ ทั่วโลก

5. Bugatti Divo

ขอบคุณภาพจาก Bugatti
6.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท)
Bugatti Divo เป็นรถไฮเปอร์คาร์ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ด้วยราคา 6.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 200 ล้านบาท) ผลิตออกมาเพียง 40 คันเท่านั้น ตัวรถได้ตั้งชื่อตามนักแข่งรถชาวฝรั่งเศส Albert Divo ซึ่งชนะการแข่งขัน Targa Florio สองครั้งในปี 1928 และ 1929 Bugatti Divo ได้รับการต่อยอดมาจากแบรนด์รถหรู Bugatti Chiron ในด้านแอโรไดนามิกและน้ำหนัก ด้านหน้ามีกระจังหน้าทรงเกือกม้าขนาดใหญ่ขึ้น ช่องดักอากาศที่กว้างขึ้น และโคมไฟหน้า LED ขนาดเล็ก หลังคามีช่องดักอากาศ NACA Duct ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศไปยังห้องเครื่องยนต์ ส่งผลให้มีแรงกดอากาศเพิ่มขึ้น 90% และน้ำหนักเบาลง 35 กก. การปรับแต่งเหล่านี้ทำให้ Divo เร็วกว่า Chiron ตอนเข้าโค้ง แต่ยังคงช้ากว่าเล็กน้อยในการเร่งและทำความเร็วสูงสุด

ด้านข้างของรถมีซุ้มล้อที่กว้างขึ้น ช่องดักอากาศที่ด้านหลังล้อ และปีกเล็ก ๆ ที่ด้านหลังของประตู ด้านหลังมีปีกท้ายแบบแอคทีฟปรับได้ ดิฟฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ และไฟท้ายแบบ 3 มิติ ส่วนภายในยังคงความหรูหราแบบ Chiron ไว้ เบาะนั่งเป็นแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Alcantara และคาร์บอนไฟเบอร์ คอนโซลกลางมีจอแสดงผลการขับขี่ขนาดใหญ่และระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงระดับไฮเอนด์ 
Bugatti Divo มาพร้อมเครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ 4 ตัว ให้กำลังสูงสุด 1,500 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,600 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีดขับเคลื่อนทุกล้อ มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 380 กม./ชม.
เทรนด์รถหรูมาแรง 2025 จนเซเลปต้องหามาครอง

เทรนด์รถหรูมาแรง 2025 จนเซเลปต้องหามาครอง

ปี 2025 นี้ เหล่าคนบันเทิงของไทยยังคงเป็นผู้นำเทรนด์ในทุกมิติ ไม่เว้นแม้แต่ “รถหรูคันใหม่” ที่ถูกเปิดตัวโดยดาราแต่ละคนในปีนี้ กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง ทั้งรูปลักษณ์ที่โดดเด่น สมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ไปจนถึงราคาค่าตัวที่ทำให้ใครต่อใครต้องอึ้ง วันนี้เราจะพามาดู เทรนด์รถหรูมาแรง 2025 ที่แม้แต่เซเลปยังนิยมซื้อครอบครองกัน
ไม่ว่าจะเป็นสายสปอร์ต สาย Luxury หรือสายนำเทรนด์ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ดาราแต่ละคนก็เลือกได้ตรงกับตัวตน บทความนี้จะพาคุณไปส่องรถหรูคันล่าสุดของดาราไทยที่ถอยกันแบบไม่กั๊ก พร้อมสเปกและราคาแบบจัดเต็ม ใครถอยคันไหน และแรงขนาดไหน… มาอัปเดตพร้อมกันได้เลย!
รวม เทรนด์รถหรูมาแรง 2025 เซเลปคนไหนขับคันไหน ราคากี่ล้าน มาดูกัน!
ปี 2568 นี้เหล่าดาราไทยขอจัดหนักกับการถอยรถหรูคันใหม่ เสริมลุคสุดปังแบบไม่มีแผ่ว บางคันแรงระดับรถแข่ง ส่วนบางคันก็หรูหราเหมือนนั่งเครื่องบิน First Class ไปดูพร้อมกันว่าคันไหนเป็นของใคร!

ลิซ่า BLACKPINK – Ferrari Purosangue 2025 ยืนหนึ่งระดับโลก
ไอดอลระดับโลก ขวัญใจชาวไทยและ BLINKS ทั่วโลกอย่าง ลิซ่า BLACKPINK ก็ไม่พลาดที่จะสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว Ferrari Purosangue 2025 รถ FUV รุ่นแรกของค่ายม้าลำพองที่ยังคงจิตวิญญาณแห่งความแรงเอาไว้ครบถ้วน รุ่นปี 2025 นี้อัปเกรดทั้งด้านสมรรถนะและเทคโนโลยีภายใน โดยยังใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร กำลังสูงสุด 725 แรงม้า และสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.3 วินาทีอย่างสบายๆ บอกเลยว่ายืนหนึ่งระดับโลก ตัวมัมของจริงสำหรับ Ferrari ของสาวลิซ่าคันนี้
ขอขอบคุณภาพจาก : Ferrari Thailand
แม้จะเป็นรถครอสโอเวอร์ แต่ดีไซน์ภายนอกยังคงความสปอร์ต ดุดัน และหรูหราตามแบบฉบับ Ferrari ได้อย่างไร้ที่ติ ราคาค่าตัวของ Ferrari Purosangue 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 42 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่าเหมาะกับลุคและไลฟ์สไตล์ระดับซูเปอร์สตาร์ของลิซ่าแบบสุด ๆ

บิวกิ้น พุฒิพงศ์ – Porsche 911 GT3
นักแสดงและนักร้องหนุ่มสุดฮอตอย่าง บิวกิ้น พุฒิพงศ์ อัสสรัตนกุล ปีนี้เลือกเปลี่ยนแนวไปทางสายซิ่งอย่างเต็มตัว กับ Porsche 911 GT3 รถสปอร์ตจากเยอรมนีที่ขึ้นชื่อเรื่องความแม่นยำและสมรรถนะในสนามแข่ง GT3 มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบนอน ขนาด 4.0 ลิตร แบบไร้เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุดถึง 510 แรงม้า และสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.4 วินาที
ขอขอบคุณภาพจาก : Porsche Thailand
ตัวรถถูกออกแบบมาเพื่อเน้นการควบคุมและการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้น โดยเฉพาะกับผู้ที่ชื่นชอบความแรงแบบ “พรีเมียมแต่งานละเอียด” ราคาค่าตัวของ Porsche 911 GT3 อยู่ที่ประมาณ 18.9 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลือกสุดเฉียบสำหรับคนมีสไตล์อย่างบิวกิ้น

วิน เมธวิน – Aston Martin DBS Superleggera
อีกหนึ่งคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ในวงการบันเทิงและแฟชั่นก็คือ วิน เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร ที่ครั้งนี้ยกระดับความหรูหราแบบสายฝน (British Style) ด้วย Aston Martin DBS Superleggera รถ GT สายพันธุ์แรงจากอังกฤษที่ผสมผสานความสง่างามและความเร็วไว้ได้อย่างลงตัว คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 Twin Turbo ขนาด 5.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 715 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ภายใน 3.4 วินาที
ขอขอบคุณภาพจาก : Aston Martin Bangkok
ส่วนดีไซน์ภายนอกเต็มไปด้วยความเฉียบคมและสง่างามแบบผู้ดีอังกฤษ ส่วนภายในก็หรูหราตามแบบฉบับ Aston Martin แท้ๆ โดยราคาค่าตัวของคันนี้อยู่ที่ประมาณ 28-30 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับสเปกที่สั่งนำเข้า

เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ – Porsche 718 Boxster GTS
นักแสดงและยูทูบเบอร์สาวสุดสวยคนนี้ เบสท์ รักษ์วนีย์ คำสิงห์ ก็ขอเสริมลุคสปอร์ตหรูด้วย Porsche 718 Boxster GTS รถสปอร์ตเปิดประทุน 2 ที่นั่งที่มาพร้อมความปราดเปรียวและขับสนุก คันนี้ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลังสูงสุด 365 แรงม้า ทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 4.3 วินาที ซึ่งถือว่าเป็นรถปอร์เช่รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีเครื่องยนต์ทรงพลัง
ขอขอบคุณภาพจาก : Porsche Thailand
ส่วนดีไซน์ภายนอกก็ยังคงเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวในสไตล์ Porsche เหมาะสำหรับสายลุยและสายแฟชั่นในเวลาเดียวกัน ราคาค่าตัวของ Porsche 718 Boxster GTS อยู่ที่ประมาณ 9 ล้านบาท ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับออปชันที่เลือก
โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน – Porsche 911 GT3 RS ปี 2024
นักร้องหนุ่มหุ่นหมี อารมณ์ดีอย่าง โอ๊ต ปราโมทย์ ปาทาน ก็ไม่พลาดที่จะยกระดับความแรงและความเท่ด้วย Porsche 911 GT3 RS รุ่นปี 2024 ที่ถูกยกระดับขึ้นอีกขั้นในด้านสมรรถนะและแอโรไดนามิก รุ่นนี้ถือเป็นรถที่ใกล้เคียงกับรถแข่งในสนามมากที่สุดเท่าที่เคยผลิตสำหรับการใช้งานบนถนนจริง ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบนอน (Flat-6) ขนาด 4.0 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ให้กำลังสูงสุด 525 แรงม้า พร้อมระบบเกียร์ PDK 7 สปีดที่ตอบสนองรวดเร็วทันใจ อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่เพียง 3.2 วินาที และความเร็วสูงสุดทะลุ 296 กม./ชม.
ขอขอบคุณภาพจาก : Porsche Thailand
ไม่เพียงแค่แรง แต่ตัวรถยังมีชุดแต่งแอโรพิเศษ ปีกหลังขนาดใหญ่ และระบบควบคุมช่วงล่างที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อสนามแข่ง ราคาค่าตัวของ 911 GT3 RS 2024 ในไทยเริ่มต้นที่ประมาณ 26.9 ล้านบาท และสามารถพุ่งสูงขึ้นตามออปชันเฉพาะทางที่เจ้าของเลือกเพิ่มเติม

ยุ้ย จีระนันท์ & ธัญญ์ ธนากร – Mercedes Benz Sprinter 419 CDI
คู่รักนักแสดงมากฝีมืออย่าง ยุ้ย จีระนันท์ มะโนแจ่ม และ ธัญญ์ ธนากร ก็เลือกตอบโจทย์การเดินทางระยะไกลและไลฟ์สไตล์ครอบครัว ด้วยการเป็นเจ้าของ Mercedes-Benz Sprinter 419 CDI รถตู้ขนาดใหญ่สุดหรูที่สามารถตกแต่งภายในได้ตามใจต้องการ รุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิด 440 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9G-TRONIC ให้การขับขี่นุ่มนวลและประหยัดพลังงาน
ขอขอบคุณภาพจาก : Mercedes-Benz Thailand
ซึ่งรถตู้เบนซ์รุ่นนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นรถบ้านหรือรถ VIP รองรับได้ทั้งการใช้งานจริงและความสะดวกสบายระดับโรงแรมเคลื่อนที่ ราคาค่าตัวของ Mercedes-Benz Sprinter 419 CDI ในเวอร์ชันตกแต่ง VIP แบบจัดเต็ม อยู่ที่ประมาณ 6-8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับชุดตกแต่งภายในที่เลือก

มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ – Rolls-Royce Spectre
ผู้นำหญิงคนเก่งแห่งวงการฟุตบอลและธุรกิจอย่าง มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ ยังคงครองตำแหน่งตัวแม่สายลักซ์ชัวรี่ด้วยการเปิดตัว Rolls-Royce Spectre รถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกจากค่ายสุดหรูระดับโลกอย่าง Rolls-Royce ซึ่งยังคงไว้ซึ่งดีเอ็นเอความสง่างามและความเงียบอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังรวมสูงสุดถึง 584 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลระดับ 900 นิวตันเมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. อยู่ที่ 4.5 วินาที เร็วเกินคาดสำหรับรถขนาดใหญ่ที่หนักกว่า 2.9 ตัน
ขอขอบคุณภาพจาก : Rolls-Royce
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุระดับไฮเอนด์ทั้งหมด พร้อมระบบดาวบนเพดาน (Starlight Headliner) ที่กลายเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Rolls-Royce รุ่นนี้ ราคาค่าตัวเริ่มต้นในไทยที่ประมาณ 31.8 ล้านบาท แต่เมื่อรวมออปชันและการสั่งตัดพิเศษตามความต้องการ ราคาก็สามารถพุ่งขึ้นไปถึง 40 ล้านบาท ได้อย่างไม่ยากเย็น
คุณเองก็สามารถขับรถตาม เทรนด์รถหรูมาแรง 2025 แบรนด์เหล่านี้ได้ทั้งหมด ไม่ต้องใช้เงินหลักล้าน แค่ใช้บริการเช่ารถหรูที่ Prime Cars Rental
คุณเองก็สามารถขับรถแบบ เทรนด์รถหรูมาแรง 2025 แบรนด์เหล่านี้ได้ทั้งหมด – ไม่ต้องใช้เงินหลักล้าน
แม้รถหรูที่เหล่าคนดังเลือกใช้จะมีราคาสูงถึงหลักสิบล้านบาท แต่ในความเป็นจริง ทุกคนสามารถสัมผัสประสบการณ์การขับขี่จากแบรนด์ระดับโลกเหล่านี้ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ ไม่ต้องใช้เงินสดหลายล้านบาท เพียงแค่เลือกใช้บริการเช่ารถหรูจาก Prime Cars Rental ผู้ให้บริการรถพรีเมียมอันดับต้น ๆ ของไทย
	    	
		    
