• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N2109121 เด กเส ฟอย างแก ของแพงๆ ใช ได งไง EP (1) part 2

admin79 by admin79
September 22, 2025
in Uncategorized
0
N2109121 เด กเส ฟอย างแก ของแพงๆ ใช ได งไง EP (1) part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

5 รถประหยัดน้ำมันปี 2023 พร้อมแชร์ทริคประหยัดน้ำมัน

ข่าวสารรถ | 27 มิ.ย. 2566

รถประหยัดน้ำมัน | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

ราคาน้ำมันที่กลับมาพุ่งทะยานสูงขึ้นเป็นเท่าตัว หลังจากที่ช่วงโควิดที่ผ่านมาราคาน้ำมันลดลงไปอย่างมาก ทำเอาคิดหนักก่อนจะเดินทางไปไหนมาไหน ยิ่งตอนนี้ราคาน้ำมันกลับมาแพงกว่าแต่ก่อนเสียอีก การเลือกซื้อหารถในอดีตที่ดูจากดีไซน์ความหรูหราเป็นหลัก แต่สำหรับนักขับรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและทุนทรัพย์ของตัวเองแล้ว ตอนนี้ต่างมองหารถประหยัดน้ำมันกันหลายคน  แม้ว่าจะมีการผลิตรถยนต์รุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเข้ามาเป็นตัวแทนแล้วก็ตาม แต่ด้วยระยะเวลาสำหรับการชาร์จไฟที่ยังคงต้องใช้เวลานานอยู่ จึงทำให้การเลือกใช้งานรถพลังงานน้ำมันยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญที่ไม่อาจขาดได้ในเวลานี้

แน่นอนว่าราคาน้ำมันที่สูงมาก หากต้องเลือกซื้อรถที่ซดน้ำมันกันอย่างแรง แบบสตาร์ตหนึ่งทีกินน้ำมันไปหนึ่งลิตร รับรองมีสิทธิ์หมดตัวกันเป็นแน่ ทางผู้ออกแบบรถยนต์ชั้นนำทั้งหลายต่างแข่งขันประดิษฐ์คิดค้นรถยนต์รุ่นใหม่ที่มีอัตราประหยัดพลังงานที่สูงขึ้น เรียกว่าอาจเทียบเคียงกับการใช้พลังงานไฟฟ้ากันเลยก็ว่าได้ ดังนั้นการซื้อรถของคนยุคใหม่ อะไรที่สะดวกและประหยัดถือว่าเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการตัดสินใจในการถอยรถคันใหม่ออกมาใช้งานกันเลยทีเดียว บทความนี้จะรวมเคล็ดลับขับรถประหยัดน้ำมัน รวมถึงรถรุ่นไหน ประหยัดน้ำมันที่สุดในปี 2023 อ่านด้านล่างได้เลย

https://filmthai2.khoaluantotnghiep.net/wp-content/uploads/2025/09/N2109121_เด-กเส-ฟอย-างแก-ของแพงๆ-ใช-ได-งไง-EP-1_part-2.mp4

 

5 อันดับรถประหยัดน้ำมัน ปี 2023

ในปี 2023 ขณะที่หลาย ๆ ค่ายส่งรถยนต์ส่งรถพลังงานไฟฟ้าออกมาเป็นตัวเลือกอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีค่ายรถหลายแห่งที่ส่งรถประหยัดน้ำมันออกมาเป็นทางเลือก ที่สำคัญยังมีการพัฒนารูปแบบของเครื่องยนต์ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและประหยัดน้ำมันอีกด้วย มีรถรุ่นไหนที่ได้ชื่อว่าประหยัดน้ำมันได้มาก รู้ใจขอรวบรวมเอาไว้ให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกันดังต่อไปนี้  

รถประหยัดน้ำมัน | Suzuki Swift | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

1. Suzuki Swift

เรียกว่าปาดหน้ามาแรงแซงทางโค้งกันเลยก็ว่าได้กับค่ายรถยนต์ซูซูกิที่เป็นเพียงแค่ค่ายรถทางเลือกในอดีต อีกทั้งได้รับความนิยมอยู่ในกลุ่มแคบ ๆ เท่านั้น แต่นับจากที่ซูซูกิได้ส่งเจ้านกนางแอ่นพันธุ์จิ๋ว หรือ Swift ออกมา เรียกว่าครองใจนักขับรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็ว 

ด้วยรูปโฉมที่โฉบเฉี่ยว งดงาม แถมมีขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับการขับขี่ในเมืองใหญ่ที่มีตรอกซอกซอยเยอะแยะไปทั่ว ที่สำคัญอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงของเจ้านกนางแอ่นตัวน้อยขึ้นชื่อว่า ประหยัดพลังงานและคุ้มค่ามากที่สุดจนทุกสำนักยกให้เป็นเบอร์หนึ่งของรถยนต์พลังงานน้ำมันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวลานี้ โดยอัตราการประหยัดพลังงานของ Suzuki Swift นั้นประหยัดน้ำมันได้ถึง 23 กม./ลิตร แถมยังสามารถใช้น้ำมัน E20 ที่มีราคาถูกได้อีกด้วย

รถประหยัดน้ำมัน | Honda City e:HEV | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

2. Honda City e:HEV

อีกหนึ่งค่ายรถยักษ์ใหญ่ที่ครองใจนักขับชาวไทยมาอย่างยาวนาน กับค่ายรถยนต์ฮอนด้าที่เป็นผู้นำนวัตกรรมการออกแบบยานยนต์มาทุกยุคทุกสมัย แม้ว่าฮอนด้าจะไม่ได้ลงสนามของรถยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจังสำหรับปี 2023 แต่ฮอนด้าก็ยังออกแบบรถยนต์ทางเลือกที่เป็นมิตรและใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่าง Honda City e:HEV ที่ถือเป็นการผสานความเป็นตำนานของรถในซีรีส์ City ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่ทันสมัยอย่าง e:HEV ที่เป็นการใช้พลังงานน้ำมันควบคู่ไปกับพลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากการแปลงพลังงานขณะที่รถวิ่งให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า 

การมาของ City โฉมนี้จึงนับว่าเป็นเทคโนโลยีระดับสุดยอดที่ตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมและการประหยัดพลังงาน โดยอัตราการใช้น้ำมันของ Honda City e:HEV อยู่ที่ 27.8 กิโลเมตร/ลิตร เท่านั้น

รถประหยัดน้ำมัน | Toyota Yaris Ativ | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

3. Toyota Yaris Ativ

เมื่อมีฮอนด้าก็ต้องมีโตโยต้า สองสิงห์แห่งวงการยานยนต์ที่ต่างไม่มีใครยอมใครกันเลย เมื่อฮอนด้าส่ง City e:HEV ลงสนาม  ทางโตโยต้าเองก็ไม่รอช้าส่ง Toyota Yaris Ativ มาเป็นตัวเรื่องในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน การรักษาสิ่งแวดล้อมพร้อมกับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวล้ำสมัยด้วย

มากับเครื่องยนต์ 1.2L จึงทำให้อัตราการใช้พลังงานน้ำมันน้อยนิด รวมไปถึงระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่ช่วยให้ทุกจังหวะการเร่งไม่ผลาญน้ำมันมากจนเกินไป ยิ่งขับทางไกลยิ่งประหยัดกันไปได้มากยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องถอยรถยนต์ไฟฟ้าออกมาใช้งานหรือเลือกรถแบบ e:HEV ที่มีมูลค่าการดูแลรักษาที่สูง Toyota Yaris Ativ สามารถตอบโจทย์เรื่องการประหยัดพลังงานให้คุณได้อย่างครบถ้วน ด้วยการใช้พลังงานเพียง 26 กิโลเมตร/ลิตร เท่านั้น

รถประหยัดน้ำมัน | Nissan Kicks e-POWER | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

4. Nissan Kicks e-POWER

เป็นรถยนต์พลังงานน้ำมันพร้อมกับพลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกที่ออกมาสู่สายตาและอยู่ในการควบคุมของนักขับ Nissan Kicks e-POWER นับเป็นนวัตกรรมอันยอดเยี่ยมที่เป็นแบบอย่างของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในรูปแบบปัจจุบันทั้งหมด สำหรับ Nissan Kicks e-POWER เป็นรถขนาดกะทัดรัดขนาดเครื่องยนต์เพียง 1.2 ลิตร แถมมีอัตราประหยัดน้ำมันที่สูงมากถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร เรียกว่าประหยัดการใช้พลังงานน้ำมันมากกว่ารถยนต์ E-power ในรูปแบบอื่น ๆ ทำให้ Kicks กลายเป็นรถที่ครองใจนักขับรุ่นใหม่ได้อย่างรวดเร็วมาก แม้ว่านิสสันจะสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดของทางฝั่งรถยนต์ไปอยู่นาน แต่เพราะ Kicks นี่แหละที่ตอบโจทย์ในทุกเรื่องของความคุ้มค่าได้อย่างครบถ้วน

รถประหยัดน้ำมัน | BMW 330e M Sport | ประกันรถยนต์ | รู้ใจ

5. BMW 330e M Sport

ขึ้นชื่อว่า BMW ทุกคนก็คงขยาดกันแล้วกับรถยนต์พลังแรงแห่งแดนยุโรปที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการซดน้ำมันเป็นอย่างมาก แต่นั่นคือเรื่องราวในอดีตที่เป็นเพียงตำนานที่เล่าขาน เพราะประเทศเยอรมนีคือประเทศแห่งนวัตกรรมที่สร้างสรรค์เครื่องยนต์รุ่นใหม่จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของ BMW 330e M Sport รถยนต์สุดหรูแต่ใช้ประหยัดพลังงานสุด ๆ

BMW 330e M Sport มาด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ใครหลายคนพอมองเห็นขนาดเครื่องแล้วแอบปาดเหงื่อเล็ก ๆ ว่าจะกินน้ำมันมากหรือไม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเจ้า BMW 330e M Sport มีอัตราการประหยัดน้ำมันที่สูงมาก โดยข้อมูลจากโรงงานระบุว่า รถรุ่นนี้ใช้น้ำมันเพียงแค่ 41 กิโลเมตร/ลิตร เท่านั้น เรียกว่าทั้งหรู ทั้งประหยัด กันแบบสุด ๆ ไปเลย 

เคล็ดลับประหยัดน้ำมัน จ่ายเท่าเดิม ไปได้ไกลกว่า

หากเรามีรถอยู่และอยากประหยัดน้ำมัน การซื้อรถใหม่คงเป็นเรื่องที่ไกลตัว เพราะสิ่งสำคัญนอกจากตัวรถแล้วสิ่งที่จะช่วยให้การขับรถทุกประเภทประหยัดน้ำมันมากที่สุดคืออุปนิสัยการขับขี่นั่นเอง มาดูกันว่าเราจะขับรถให้ประหยัดพลังงาน ประหยัดน้ำมันกันอย่างเต็มที่ได้ยังไงบ้าง

  • ตรวจสภาพรถให้พร้อมต่อการใช้งานอยู่เสมอ เพราะรถที่สมบูรณ์ อัตราการเผาผลาญดี ก็จะประหยัดพลังงานน้ำมันได้มาก
  • ไม่บรรทุกของหนักจนเกินไป อะไรที่ไม่จำเป็นก็เอาออกไว้ที่บ้าน อีกทั้งอย่าปล่อยให้ลมยางอ่อนตัว หรือแข็งมากเกินไปจะทำให้เกิดแรงต้านและรถกินน้ำมันมากขึ้น
  • ขับรถในอัตราเร็วเดินทาง รถทุกประเภทจะมีการออกแบบอัตราเร็วเดินทางเอาไว้ที่ 70 – 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นการรักษาความเร็วในการเดินทางนี้ไว้ แม้อาจไปถึงเป้าหมายช้าบ้าง แต่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันไปได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

ไม่ว่าคุณจะได้จับจองเป็นเจ้าของ 5 รถประหยัดน้ำมันในปี 2023 หรือจะเป็นรถรุ่นเก่าก็ตาม การขับขี่ตามเคล็ดลับขับยังไงให้ประหยัดน้ำมันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับใครหลายคนที่อยากประหยัดเงินในกระเป๋า นอกจากนั้นการมองหาประกันภัยรถยนต์ยังเป็นทางเลือกที่ช่วยคุ้มครองครองคุณจากความเสี่ยงทางการเงิน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ เงินเก็บของเราจะได้ไม่หมดไปกับค่าซ่อมรถ รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ที่รู้ใจ ช่วยคุณประหยัดค่าเบี้ยสูงสุด 30% ปรับแต่งแผนได้ตามใจ เคลมง่าย สมัครออนไลน์ได้ทันทีไม่ต้องโทร นอกจากประหยัดเงินแล้วยังประหยัดเวลาให้คุณได้ไปทำในสิ่งที่ตนเองรัก ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง อุ่นใจได้ให้รู้ใจช่วยคุ้มครอง

รวมรถประหยัดน้ำมัน Eco Car ประจำปี 2024

ในยุคที่ค่าน้ำมันพุ่งสูงแบบนี้ เชื่อว่าคงจะมีผู้ขับขี่หลายคนที่กำลังมองหารถประหยัดน้ำมันหรือ ECO CAR เพื่อมาช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันกันอยู่แน่ ๆ ซึ่งในบทความนี้ อินทรประกันภัย จึงได้รวบรวมเช็กลิสต์ 5 อันดับรถประหยัดน้ำมัน (ECO CAR) ประจำปี 2024 มาแนะนำให้คุณได้ทราบกัน จะมีรุ่นไหนที่ถูกใจคุณบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย!

5 อันดับรถประหยัดน้ำมัน Eco Car ประจำปี 2024

สำหรับรถประหยัดน้ำมันที่เรารวบรวมมาแนะนำ จะเป็นรถยนต์จากแบรนด์ดังที่โดดเด่นในเรื่องของการประหยัดน้ำมัน โดยมีทั้งหมด 5 แบรนด์ ดังนี้

1.Mitsubishi Attrage

Mitsubishi Attrage เป็นรถยนต์ซีดานประหยัดน้ำมันแบบ 4 ประตู 5 ที่นั่ง ที่โดดเด่นด้วยกระจังหน้าที่รวมชุดกันชนสีดำ ตกแต่งด้วยแถบโครเมียม ภายในตกแต่งแผงหน้าปัดด้วยวัสดุสีดำเงา Piano Black และลายคาร์บอน พร้อมมาตรวัดเป็นแบบอนาล็อก และจออินโฟเทนเมนต์แบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ที่แยกออกจากห้องโดยสาร มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่จับคู่กับระบบเครื่องยนต์เบนซินแบบ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 78 แรงม้า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

2.Toyota Yaris Ativ

Toyota Yaris Ativ เป็นรถยนต์ซีดานประหยัดน้ำมันที่ใช้ตัวถัง Fastback ภายในมีการออกแบบให้ทันสมัยด้วยเส้นแนวนอนหลายเลเยอร์ เล่น Texture และสีทูโทน พร้อมพวงมาลัยยูรีเทนที่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้ง ECO, Normal และ Sport จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ที่มาคู่กับโปรแกรมทดเกียร์ Sequential Shift และระบบขับเคลื่อนล้อหน้า รวมถึงระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็ม อีกทั้งยังมีอัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิล 4 สูบขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 94 แรงม้า

3. NEW Nissan Almera

NEW Nissan Almera เป็นรถยนต์สปอร์ตซีดานประหยัดน้ำมัน ที่มาพร้อมดีไซน์โดดเด่นสะดุดตา พร้อมเสริมเทคโนโลยี Nissan Connect Services ที่สามารถสั่งการฟังก์ชันภายในรถได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านสมาร์ตโฟน ขับขี่เร้าใจด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตร กำลังสูงสุด 100 แรงม้า จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ XTronicCVT และ D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้า เสริมด้วยระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น โดยมีอัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร

4. Suzuki Swift

Suzuki Swift เป็นรถประหยัดน้ำมัน ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปี 2023 ด้วยขนาดที่พอเหมาะกับการขับขี่ในเมือง และอัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร บวกกับแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT ที่ทำให้รถมีโครงสร้างแข็งแรงขึ้นแต่น้ำหนักเบาลง พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 4 สูบ 1.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีด DUALJET เพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ CVT

5.New Honda City

New Honda City เป็นรถประหยัดน้ำมันที่มาพร้อมระบบฟูลไฮบริด e:HEV จากขุมพลังเครื่องยนต์มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร จับคู่เกียร์อัตโนมัติ E-CVT ให้แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตรตั้งแต่ออกตัว ส่วนในรุ่นเบนซินก็มาพร้อมเครื่องยนต์ VTEC TURBO แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 122 แรงม้า

ปักหมุดไว้เลย รับรถประหยัดน้ำมันคันใหม่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ได้ทราบ 6 อันดับรถประหยัดน้ำมันยอดนิยมในปี 2024 กันไปแล้ว ใครที่วางแผนจะออกรถใหม่ก็ต้องเตรียมความพร้อมในการรับรถให้ดี สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าเมื่อไปรับรถใหม่จะต้องเตรียมตัวหรือเช็กอะไรบ้างก็ไม่ต้องกังวล เพราะเรารวมมาให้แล้ว โดยมีทั้งหมด 3 ข้อดังนี้

ตรวจเช็กสภาพรถยนต์

สิ่งแรกที่ควรทำก่อนการรับรถก็คือ การตรวจเช็กสภาพรถยนต์ทั้งภายนอกและภายในอย่างละเอียด เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่งก็อาจจะมีตำหนิ หรือมีการชำรุดเกินขึ้นได้ โดยจุดที่ควรสังเกตในเบื้องต้นมีดังนี้

ภายนอกตัวรถ

  • ตรวจสอบสภาพของสีรถยนต์ว่ามีความเงางามสม่ำเสมอ ไม่มีรอยขีดข่วนหรือหลุดล่อนของสี เว้นแต่รถมือสองอาจมีร่องรอยจากการใช้งานมาบ้าง แต่ต้องตรงกับที่เต็นท์หรือผู้ขายระบุไว้ว่ามีจุดใดบ้าง
  • ตรวจสอบโคมไฟหน้าต้องใสไม่เหลือง ไฟท้าย ไฟเลี้ยว ไม่มีริ้วรอย
  • ตรวจสอบฝากระโปรงว่ามีระยะห่างที่เรียบเสมอกับส่วนอื่น ๆ ของตัวรถ
  • ลองเปิด-ปิดประตูรถว่ามีอาการฝืดหรือติดขัดหรือไม่ พร้อมกับเช็กขอบยางต่าง ๆ ว่าอยู่ในสภาพที่ใหม่ ไม่ชำรุด
  • ตรวจเช็กอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินต่าง ๆ ทั้งสายพ่วงแบตเตอรี่ ยางอะไหล่ แม่แรง เครื่องมือช่างที่จำเป็นต้องใช้ ว่าครบหรือไม่
  • ตรวจเช็กล้อและยางต้องเป็นยางใหม่ สังเกตได้จากหนวดยางหรือสีที่สกรีนบนยางต้องอยู่ครบ ยางไม่มีรอยแตกลายงา

ภายในตัวรถ

  • ตรวจเช็กระบบไฟส่องสว่างทุกดวง ทั้งไฟหน้า ไฟหรี่ ไฟสูง ไฟเดย์ไลท์ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟถอย ไฟฉุกเฉิน รวมถึงไฟในห้องโดยสาร ว่าติดครบทุกจุดหรือไม่
  • ตรวจสอบเบาะที่นั่งต้องไม่เปรอะเปื้อนหรือมีร่องรอยการฉีกขาด ถูกหุ้มด้วยพลาสติกอย่างดีสำหรับรถใหม่ กรณีเบาะไฟฟ้าให้ทดลองการปรับระดับเพิ่มเติม
  • ตรวจเช็กยางปูพื้นและพรมปูพื้นว่ามีมาให้ครบหรือไม่
  • สตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อลองฟังเสียงของเครื่องยนต์ว่าเรียบปกติหรือไม่ ทดสอบเปิดเครื่องปรับอากาศ ลองปรับให้ครบทุกโหมด ทดสอบการทำงานของหน้าจอเครื่องเสียงและลำโพง
  • ทดลองเปิด-ปิดหลังคาซันรูฟ (ถ้ามี) ลองพับ-กางกระจกข้างกรณีควบคุมด้วยไฟฟ้า
  • ลองล็อกและปลดล็อกประตู เพื่อดูว่าระบบล็อกสามารถทำงานได้ปกติทุกบานหรือไม่หรือไม่
  • ตรวจเช็กภายในห้องเครื่องว่า ไม่มีน้ำมันซึมหรือรั่ว สภาพสายไฟ แบตเตอรี่

ตรวจสอบเอกสารให้ครบ

ก่อนที่จะรับรถใหม่ควรมีการตรวจสอบเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้ครบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง โดยเอกสารที่ควรเช็กในเบื้องต้นมีดังนี้

  • ตรวจดูเล่มสมุดทะเบียนว่าเลขตัวถังตรงตามที่ระบุในเล่มหรือไม่ รวมถึงตรวจเอกสารโอนรถ ครอบครองรถ และ พ.ร.บ.
  • ใบเสร็จรับเงินดาวน์รถที่เราจ่ายไป
  • เอกสารสัญญาเช่าซื้อกับทางไฟแนนซ์
  • ใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง เพื่อนำมารับเงินมัดจำคืนเมื่อได้ป้ายขาว พร้อมตรวจสอบป้ายแดงว่ามีตรา ขส. อยู่หรือไม่ นอกจากนี้ยังควรตรวจเช็กสมุดคู่มือสำหรับรถป้ายแดงด้วยเช่นกัน
  • เอกสารรับประกันอุปกรณ์ และใบรับประกันการเช็กระยะ
  • หากมีการตกแต่งเพิ่มเติม ต้องเช็กเอกสารการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่ง

เตรียมเงินเผื่อค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

อีกสิ่งหนึ่งที่ควรเตรียมไปให้พร้อมก็คือ เงิน เพราะในวันที่ไปรับรถ อาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่ามัดจำป้ายแดง ค่าอุปกรณ์ที่ติดเพิ่มเติม ค่าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 (กรณีที่ศูนย์บริการไม่ได้แถมมาให้) ค่าน้ำมัน เป็นต้น

สรุปบทความ

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 อันดับรถประหยัดน้ำมันที่ได้รับความนิยมในปี 2024 ที่เราได้รวบรวมมา สำหรับคนที่สนใจก็แนะนำว่าควรจะเข้าไปทดลองขับและสอบถามข้อมูลด้วยตัวเองที่ศูนย์บริการ และสำหรับคนที่วางแผนจะออกรถใหม่ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมเมื่อไปรับรถ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

Previous Post

N2109310 เร ยกร องความถ กต อง ไม ใช งท หน าอาย part 2

Next Post

N2109122 บมอเตอร ไซค บจ าง มาซ อท เน ยนะ! EP (1) Part 2

Next Post
N2109122 บมอเตอร ไซค บจ าง มาซ อท เน ยนะ! EP (1) Part 2

N2109122 บมอเตอร ไซค บจ าง มาซ อท เน ยนะ! EP (1) Part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0511139 แม กแต องชาย part 2
  • N0511138 ไม าจะเร ยกคนข เผ อกหร อคนข งกด part 2
  • N0511134 เล ยงหลานตามเพศท เก part 2
  • N0511137 ความอดทนของคนม นก หมดก นบ าง part 2
  • N0511132 สะใภ ทำงานหาเง นจนไม เวลามาด แลเเม part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.