ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รถยนต์น่าจับตาปี 2026: โมเดลใหม่ที่ไม่ควรพลาดจากสายตาผู้เชี่ยวชาญ
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงพลิกผันมากมายในตลาดรถยนต์ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ความผันผวนทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงวิกฤตการณ์ซัพพลายเชนที่ไม่คาดฝัน และกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทางเลือก ทำให้การคาดการณ์อนาคตของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วยความน่าตื่นเต้นเสมอ
ปี 2025 กำลังจะผ่านไป และเรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2026 ซึ่งดูเหมือนจะเป็นปีที่น่าจับตาสำหรับผู้ที่หลงใหลในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นนักผจญภัยวันหยุด หรือผู้ขับขี่ทั่วไปที่มองหาสิ่งใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มโรงจอดรถของตน เรากำลังจะได้เห็นการกลับมาของตำนานที่ถูกนำมาตีความใหม่ ไปจนถึงรุ่นสมรรถนะสูงใหม่เอี่ยมที่จะมาเขย่าตลาด บทความนี้จะเจาะลึก 5 โมเดลรถยนต์ที่คาดว่าจะสร้างความฮือฮามากที่สุดในปี 2026 โดยวิเคราะห์จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม พร้อมทั้งประเมินถึงผลกระทบและศักยภาพในตลาดโลกและตลาดประเทศไทย
ตลาดรถยนต์ในปี 2025 และแนวโน้มสู่ปี 2026 กำลังถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยสำคัญหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน การเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ และแน่นอนที่สุดคือประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ผู้ผลิตพยายามสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและจิตวิญญาณแห่งอดีต เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลาย ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด ไปจนถึงรถยนต์สันดาปภายในที่ยังคงมีเสน่ห์เฉพาะตัว การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ทำให้เราในฐานะผู้บริโภค ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเทคโนโลยีและดีไซน์ที่ก้าวล้ำ
Nissan Armada Nismo ปี 2026 – SUV สำหรับครอบครัวที่มาพร้อมหัวใจนักแข่ง
ในบรรดารถยนต์น่าจับตาปี 2026 ต้องมีชื่อของ Nissan Armada Nismo รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน Nissan Armada เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็น SUV ขนาดเต็มที่เน้นความสะดวกสบาย พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง และขีดความสามารถในการลากจูงที่แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่ต้องการรถยนต์คู่ใจในการเดินทาง แต่สำหรับ Armada Nismo ปี 2026 นี้ Nissan กำลังพลิกโฉมหน้าใหม่ให้กับรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ด้วยการนำเสนอในรูปแบบที่ต่างออกไป นี่คือการที่แผนกสมรรถนะสูงอย่าง Nismo เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ SUV ที่สามารถตอบสนองความต้องการทั้งในด้านประโยชน์ใช้สอยและความตื่นเต้นเร้าใจ
ตามข้อมูลเบื้องต้น Armada Nismo คาดว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ ให้กำลังสูงถึง 460 แรงม้า และแรงบิด 516 ปอนด์-ฟุต ทำให้กลายเป็น SUV ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่ Nissan เคยผลิตมา กำลังที่เหลือเฟือนี้ไม่ได้มีไว้แค่ลากเรือหรือรถบ้านเท่านั้น แต่ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นบนถนนคดเคี้ยวอีกด้วย ด้วยระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อการขับขี่แบบสปอร์ต ระบบเบรกที่อัปเกรด และพวงมาลัยที่คมชัดขึ้น Armada Nismo สัญญาว่าจะมอบการควบคุมที่แม่นยำและมั่นใจในทุกสภาวะ
ภายนอกของ Armada Nismo ได้รับการปรับแต่งเต็มรูปแบบตามสไตล์ Nismo ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ดุดัน, ชิ้นส่วนตกแต่งภายนอกสีดำเงา, ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้น, และชุดแต่งแอโรไดนามิกที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้ดูสปอร์ตและปราดเปรียวยิ่งขึ้น ชวนให้นึกถึงรถสปอร์ตมากกว่ารถครอบครัวสำหรับการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสารคาดว่าจะพบกับเบาะนั่งแบบสปอร์ตที่มีการโอบกระชับลำตัว ตราสัญลักษณ์ Nismo ที่บ่งบอกถึงความเป็นรถยนต์สมรรถนะสูง และการอัปเกรดเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อให้เข้ากับสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น
ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ การที่ Nissan นำ Nismo มาผสานกับ Armada เป็นเรื่องที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิด ตลาด SUV สมรรถนะสูงกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นจากแบรนด์ยุโรปอย่าง Mercedes-AMG หรือ BMW แต่การที่แบรนด์ญี่ปุ่นอย่าง Nissan เข้ามาร่วมวงด้วยถือเป็นสัญญาณที่ดี มันอาจจะเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างพละกำลังและประโยชน์ใช้สอย หรืออาจจะเป็นการทดลองที่แปลกใหม่ ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปในตลาดจริง การที่รถยนต์ขนาดใหญ่อย่าง Armada จะมาพร้อมสมรรถนะระดับ Nismo อาจดูขัดแย้งในบางแง่มุม แต่ก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความกล้าของ Nissan ที่จะก้าวออกจากกรอบเดิมๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการทั้งความหรูหรา ความกว้างขวาง และความตื่นเต้นในการขับขี่ไปพร้อมกัน
สำหรับตลาดประเทศไทย แม้ว่า Armada จะไม่ได้เป็นที่นิยมในวงกว้างเท่าโมเดลอื่น ๆ แต่การมาของรุ่น Nismo อาจสร้างความสนใจในกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สมรรถนะสูงและ SUV ขนาดใหญ่ที่ต้องการความโดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยราคาประเมินเริ่มต้นที่ 75,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) ก่อนภาษีนำเข้าและค่าใช้จ่ายอื่นๆ Armada Nismo อาจกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริหาร หรือครอบครัวที่มีกำลังซื้อสูงที่ต้องการรถยนต์ที่สะท้อนบุคลิกอันแข็งแกร่งและมีสไตล์
Mazda’s Rotary Sports Car ปี 2026 – การกลับมาของตำนาน RX ที่รอคอย
หากจะมีรถยนต์สักคันที่บรรดาผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์และวิศวกรรมยานยนต์ต่างคาดเดากันมานานหลายปี นั่นคือการคืนชีพของรถสปอร์ตเครื่องยนต์โรตารีจาก Mazda และปี 2026 อาจเป็นปีที่เราจะได้เห็นการตอบแทนอันคุ้มค่าของการรอคอยครั้งนี้ ข่าวลือหนาหูว่า Mazda กำลังพัฒนารถยนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด Iconic SP อันเพรียวบาง ซึ่งเป็นการนำเครื่องยนต์โรตารีที่เป็นเอกลักษณ์ของการเร่งรอบเครื่องยนต์สูงและความมีเสน่ห์เฉพาะตัวกลับมาอีกครั้ง แม้ว่าบริษัทยังไม่ยืนยันชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวลือเกี่ยวกับทายาทของ RX-7 นั้นแรงพอที่จะทำให้หัวใจนักเลงรถเต้นระรัว หากเป็นไปตามธรรมเนียมการตั้งชื่อที่เคยมี RX-7 และ RX-8 รถยนต์โรตารีรุ่นใหม่อาจจะใช้ชื่อว่า RX-9
ด้วยราคาคาดการณ์ประมาณ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.8 ล้านบาท) รถสปอร์ตจาก Mazda คันนี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Toyota GR Supra และ Nissan Z แต่มาพร้อม “ความบิดเบี้ยว” ในแบบฉบับ Mazda ที่ไม่เหมือนใคร สิ่งที่ทำให้รถคันนี้น่าสนใจไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ที่ลือกันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวคิดในการพัฒนา: การมุ่งเน้นที่การออกแบบน้ำหนักเบา การควบคุมที่เฉียบคมเป็นพิเศษ และการตอบสนองของเครื่องยนต์ที่เร้าใจซึ่งมีเพียงโรตารีเท่านั้นที่ทำได้
ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่า Mazda จะยังคงใช้เครื่องยนต์โรตารีแบบเพียวๆ หรือจะเพิ่มระบบไฟฟ้าแบบ Mild-hybrid เข้าไปเพื่อเสริมประสิทธิภาพและลดมลพิษ แต่ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด แฟนๆ ต่างคาดหวังเสียงเครื่องยนต์อันเป็นเอกลักษณ์ และความสมดุลในการเข้าโค้งที่เครื่องยนต์โรตารีถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนั้น โปรโตไทป์ของรถคันนี้ยังคงเป็นความลับสุดยอดของ Mazda คาดว่าจะยังไม่ปรากฏตัวสู่สาธารณะจนกว่าจะถึงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 และมีข่าวลือว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2026 หรือต้นปี 2027
แต่ลองจินตนาการดูสิว่า ช่วงเวลาที่เราได้ยินเสียงท่อไอเสียอันแหลมสูงนั้นอีกครั้งบนถนนสาธารณะ มันจะคุ้มค่ากับการรอคอยเพียงใด รถคันนี้ไม่ใช่แค่การหวนรำลึกถึงอดีต แต่เป็นการแสดงออกว่า Mazda ยังคงเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำให้แบรนด์เป็นตำนาน – คือวิศวกรรมที่กล้าหาญและรถยนต์ที่สนุกกับการขับขี่เสียจนคุณลืมรถสปอร์ตหรูหราอื่นๆ ในโรงรถไปเลย
ในตลาดประเทศไทย กลุ่มผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตและเทคโนโลยียานยนต์ที่ไม่เหมือนใคร ยังคงมีอยู่เสมอ และ Mazda เองก็มีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่ง การกลับมาของเครื่องยนต์โรตารีจะเป็นการจุดประกายความหลงใหลในแบรนด์อีกครั้ง แม้ว่ารถสปอร์ตในกลุ่มนี้อาจเป็น Niche Market แต่ศักยภาพในการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์และความเป็นเอกลักษณ์นั้นประเมินค่าไม่ได้ การเพิ่มระบบไฮบริด (Hybrid) เข้ามาอาจช่วยเรื่องภาษีและการประหยัดน้ำมัน ทำให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น
การกลับมาของ Toyota FJ Cruiser ปี 2026 – Icon Off-Road รุ่น 2.0
Toyota FJ Cruiser เป็นหนึ่งในรถยนต์ไม่กี่คันที่สามารถรวมเอาความสมบุกสมบัน ความแปลกตา และความรักจากผู้ใช้งานเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว แม้ว่าจะถูกยกเลิกการผลิตในสหรัฐอเมริกาไปตั้งแต่ปี 2014 แต่ก็ทิ้งช่องว่างไว้ในกลุ่มรถยนต์ออฟโรดของ Toyota ที่แม้แต่ 4Runner ก็ไม่สามารถเติมเต็มได้ทั้งหมด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมข่าวการกลับมาของ FJ Cruiser ในปี 2026 จึงสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ สายออฟโรดเป็นอย่างมาก
แม้รายละเอียดจะยังไม่ครบถ้วน แต่ FJ Cruiser ใหม่คาดว่าจะยังคงรักษาสไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถยนต์ย้อนยุคเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าทรงกลม รูปทรงสี่เหลี่ยมแบบกล่อง และระยะยื่นด้านหน้าที่สั้น แต่ในขณะเดียวกันก็เพิ่มเทคโนโลยีและคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ทันสมัยเข้ามา คาดว่าจะใช้แพลตฟอร์ม TNGA-F ของ Toyota ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับที่ใช้ใน Tacoma และ Land Cruiser รุ่นล่าสุด นั่นหมายถึงขีดความสามารถในการลุยทางออฟโรดที่จริงจัง
สำหรับขุมพลัง คาดว่าจะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ 4 สูบ และชุดระบบไฮบริดของ Toyota ซึ่งจะมอบทั้งแรงบิดสำหรับการปีนป่าย และประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ภายในห้องโดยสารคาดว่าจะมีการใช้วัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย แผงควบคุมที่แข็งแรง และระบบอินโฟเทนเมนต์ที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สรุปได้ว่า FJ Cruiser ปี 2026 อาจเป็นจุดลงตัวที่สมบูรณ์แบบระหว่างเสน่ห์แบบออฟโรดคลาสสิกและความน่าเชื่อถือที่ทันสมัย – ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่ Toyota รู้ดีกว่าใคร
ในฐานะที่ผมคลุกคลีกับวงการรถออฟโรดมานาน ผมเชื่อว่าการกลับมาของ FJ Cruiser เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดของ Toyota ตลาดรถยนต์ออฟโรดยังคงมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่นและพร้อมจะจ่ายเพื่อรถยนต์ที่มีความสามารถและเอกลักษณ์ การผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่บนแพลตฟอร์มที่พิสูจน์แล้ว จะทำให้ FJ Cruiser ใหม่เป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่งสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่สามารถลุยได้จริงแต่ยังคงความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
สำหรับตลาดประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ออฟโรดอยู่เป็นจำนวนมาก การกลับมาของ FJ Cruiser จะเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง ด้วยชื่อเสียงของ Toyota ในด้านความทนทานและบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม จะทำให้ FJ Cruiser มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีทางเลือกเครื่องยนต์ไฮบริดที่ช่วยให้การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ซื้อในประเทศไทย
Ford Mustang FX ปี 2026 – หัวใจของ Fox Body ในยุคใหม่
Ford Mustang ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ Mustang FX ปี 2026 อาจเป็นหนึ่งในรุ่นย่อยที่น่าสนใจที่สุด เพราะแทนที่จะมุ่งสู่นวัตกรรมแห่งโลกอนาคต มันกลับมองย้อนกลับไปสู่มนต์ขลังของ Fox Body Mustangs ในยุค 80 และ 90 อย่างแยบยล Mustang FX คาดว่าจะอยู่ระหว่างรุ่น GT กระแสหลักและ Dark Horse สมรรถนะสูง โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะมอบแพ็คเกจสมรรถนะที่หลากหลายและใช้งานได้ดีทั้งสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและสำหรับการลงสนามแข่งในช่วงสุดสัปดาห์
Ford คาดว่าจะปรับแต่งแชสซีส์ ระบบช่วงล่าง และอากาศพลศาสตร์ เพื่อการควบคุมที่ดีขึ้นโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายในการขับขี่ ภายใต้ฝากระโปรง Mustang FX เกือบจะแน่นอนว่าจะใช้เครื่องยนต์ V8 ซึ่งน่าจะเป็น Coyote ขนาด 5.0 ลิตรที่คุ้นเคย โดยได้รับการปรับแต่งเพื่อให้ได้พละกำลังในช่วงกลางที่ยอดเยี่ยม และการเร่งรอบเครื่องยนต์ที่เร้าใจในรอบสูง
สไตล์ของ FX ควรจะแตกต่างจากรุ่นอื่น ๆ อย่างชัดเจน อาจจะมีกระจังหน้าและกันชนหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ชุดแอโรไดนามิกที่ใช้งานได้จริง และการออกแบบล้อแบบพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 80 ภายในห้องโดยสาร คุณสามารถคาดหวังเบาะนั่งแบบสปอร์ต โหมดการขับขี่ที่เน้นสนามแข่ง และระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC ล่าสุดของ Ford พร้อมจอแสดงผลดิจิทัลขนาดใหญ่ หากคุณกำลังรอคอย Mustang สไตล์เรโทรที่ผสมผสานระหว่างรถครูเซอร์สำหรับการเดินทางและนักรบแห่งสนามแข่ง ปี 2026 อาจเป็นปีของคุณ
ในฐานะผู้ที่เติบโตมากับรถยนต์ยุค 80 และ 90 ผมเห็นว่าการนำสไตล์ Fox Body กลับมาตีความใหม่ในยุคนี้เป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม ความรู้สึก Nostalgia สามารถดึงดูดลูกค้าได้เสมอ และการผสมผสานดีไซน์คลาสสิกเข้ากับวิศวกรรมสมัยใหม่จะทำให้ Mustang FX มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่ต้องการสำหรับผู้ที่มองหาความแตกต่างในตลาดรถยนต์สมรรถนะสูง การใช้เครื่องยนต์ V8 ยังคงเป็นจุดแข็งสำหรับ Mustang ในยุคที่หลายค่ายเริ่มลดขนาดเครื่องยนต์ลง เพื่อตอบสนองกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อม
สำหรับตลาดประเทศไทย Mustang มีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งมาโดยตลอด และรุ่นพิเศษอย่าง FX ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์สปอร์ตสัญชาติอเมริกันที่ต้องการความคลาสสิกและประสิทธิภาพที่โดดเด่น ด้วยราคาคาดการณ์ประมาณ 51,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.85 ล้านบาท) ก่อนภาษี Mustang FX จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจในตลาดรถยนต์สมรรถนะสูงของไทย
Honda Passport ปี 2026 – รูปลักษณ์แข็งแกร่ง สมรรถนะการใช้งานจริง
Honda Passport ได้รับการขนานนามว่าเป็น “Goldilocks” แห่งกลุ่มรถยนต์ SUV ของ Honda มาโดยตลอด – ใหญ่กว่า CR-V แต่เล็กกว่า Pilot แต่สำหรับปี 2026 นี้ Honda กำลังอัดฉีดบุคลิกภาพใหม่ให้กับ Passport โดยเปลี่ยนให้เป็นรถยนต์ที่ดูสมบุกสมบันและพร้อมสำหรับการผจญภัยมากยิ่งขึ้น
Passport ใหม่จะยังคงใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.5 ลิตร กำลัง 285 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเดียวกับ Pilot แต่ได้รูปลักษณ์ที่ทันสมัยและเป็นทรงเหลี่ยมมากขึ้น พร้อมกับระยะห่างจากพื้นรถที่เพิ่มขึ้น และรุ่นย่อยที่เน้นการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ รุ่น TrailSport จะยกระดับความรู้สึกของการผจญภัยกลางแจ้งไปอีกขั้น ด้วยแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ จุดยึดสำหรับกู้ภัย และยางที่มีดอกยางหนาขึ้นเพื่อการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม
Honda ได้ทำการอัปเกรดระบบช่วงล่าง การตอบสนองของพวงมาลัย และชุดเรดาร์/กล้องสำหรับความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญ ภายในห้องโดยสารได้รับการปรับปรุงใหม่ คาดว่าจะมีเบาะนั่งที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย Google และปุ่มควบคุมแบบดั้งเดิมสำหรับระบบปรับอากาศและเสียง ซึ่งเป็นความเมตตาสำหรับผู้ที่พยายามเปลี่ยนการตั้งค่า A/C บนถนนขรุขระหรือเส้นทางออฟโรด แม้จะยังไม่มีทางเลือกแบบไฮบริด แต่การผสมผสานระหว่างขีดความสามารถ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีความปลอดภัยของ Passport จะทำให้มันสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแน่นอน ราคาเริ่มต้นประมาณ 44,750 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.6 ล้านบาท) ก่อนค่าธรรมเนียมตัวแทนจำหน่ายหรือค่าขนส่ง โดยรุ่นท็อปอาจสูงถึง 53,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ การปรับโฉม Honda Passport ให้มีความแข็งแกร่งและเน้นการผจญภัยมากขึ้น เป็นการตอบสนองต่อเทรนด์ตลาด SUV ที่กำลังมุ่งสู่การใช้งานแบบ Outdoor และ Off-road มากขึ้น ผู้บริโภคจำนวนมากมองหารถยนต์ที่สามารถพาครอบครัวไปทำกิจกรรมกลางแจ้งได้จริง แต่ยังคงความน่าเชื่อถือและความสะดวกสบายของ Honda การมีรุ่น TrailSport ที่เพิ่มความสามารถในการลุยเข้ามา จะทำให้ Passport มีจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด Midsize SUV ได้อย่างชัดเจน
สำหรับตลาดประเทศไทย Honda Passport อาจยังไม่เป็นที่คุ้นเคยมากนัก เนื่องจากไม่ได้ทำตลาดอย่างเป็นทางการ แต่หาก Honda นำเข้ามาทำตลาดในอนาคต ด้วยภาพลักษณ์ใหม่ที่ดูแข็งแกร่งและสมรรถนะที่น่าสนใจ รวมถึงความน่าเชื่อถือของแบรนด์ Honda จะทำให้ Passport มีโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ในกลุ่มผู้ที่ต้องการ SUV ขนาดกลางที่ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในเมืองและนอกเมือง
ทำไมปี 2026 จึงเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ซื้อรถยนต์
หากมีสิ่งหนึ่งที่ได้จากรถยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้ นั่นคือการที่ผู้ผลิตรถยนต์กำลังหาวิธีตอบสนองทั้งความหลงใหลในอดีตและนวัตกรรมใหม่ๆ Mazda กำลังฟื้นคืนชีพรถสปอร์ตเครื่องยนต์โรตารีสำหรับนักเลงรถผู้บริสุทธิ์ Toyota กำลังนำตำนานออฟโรดกลับมา และ Nissan กำลังอัดฉีดความเป็นนักแข่งเข้าสู่ SUV สำหรับครอบครัว ในขณะเดียวกัน Ford และ Honda กำลังมอบสมรรถนะและความสมบุกสมบันที่สดใหม่ในแพ็คเกจที่คุ้นเคย
ปี 2026 อาจไม่ได้นำมาซึ่งการปฏิวัติวงการยานยนต์ครั้งใหญ่ แต่กำลังจะกลายเป็นปีที่มีบางสิ่งสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง – ไม่ว่าแนวคิดความสนุกของคุณคือการเร่งรอบรถคูเป้โรตารีบนถนนภูเขา การตะลุยทะเลทรายด้วย SUV ทรงกล่อง หรือเพียงแค่เพลิดเพลินกับการเดินทางในชีวิตประจำวันด้วยรถยนต์ที่ทำให้คุณยิ้มได้
อย่าพลาดโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้! หากคุณกำลังมองหารถยนต์คันใหม่ที่จะมาเติมเต็มชีวิตของคุณในปี 2026 ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์สมรรถนะสูง รถยนต์หรู รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์ออฟโรดที่พร้อมลุย ผมขอเชิญชวนให้คุณติดตามข่าวสารจากแบรนด์เหล่านี้อย่างใกล้ชิด และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทดลองขับเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะรู้ว่ารถคันไหนคือสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ
รถยนต์น่าจับตาปี 2026: โมเดลใหม่ที่นักเลงรถต้องไม่พลาด
ในฐานะนักวิเคราะห์วงการยานยนต์ที่คร่ำหวอดมานานกว่าทศวรรษ ผมบอกได้เลยว่าตลาดรถยนต์ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาเต็มไปด้วยความผันผวนและความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตั้งแต่ปัญหาการผลิตชิป การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการเร่งตัวของกระแสยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้ามาพลิกโฉมภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมทั้งหมด การคาดการณ์อนาคตของโมเดลใหม่ๆ อาจดูเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนในบางครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมกล้ายืนยันได้อย่างเต็มปากคือ ปี 2026 กำลังจะกลายเป็นปีที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงสำหรับผู้ที่หลงใหลในยนตรกรรม ไม่ว่าคุณจะเป็น “Car Guy” ตัวยง นักผจญภัยช่วงวันหยุด หรือเพียงแค่ผู้ที่มองหาสิ่งแปลกใหม่มาเติมเต็มโรงรถที่บ้าน
ตลาดรถยนต์ในปี 2025 กำลังเข้าสู่จุดเปลี่ยนที่สำคัญ ผู้ผลิตหลายรายเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ต่างๆ และหันมาทุ่มเทกับการพัฒนานวัตกรรมอย่างเต็มที่ เราเห็นแนวโน้มที่ชัดเจนของการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับจิตวิญญาณแห่งตำนาน ไม่ว่าจะเป็นการนำชื่อเสียงในอดีตกลับมาสร้างสรรค์ใหม่ หรือการเพิ่มรุ่นสมรรถนะสูงให้กับรถยนต์ที่เป็นที่รู้จักดี เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคยุคใหม่ที่แสวงหาทั้งความล้ำสมัย ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ยังคงเป็นหัวใจหลักของการพัฒนา แต่เราก็ยังเห็นความพยายามในการยืดอายุของเครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่ชาญฉลาดขึ้น ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ ตลาดรถยนต์ไทย 2025 และทั่วโลกเต็มไปด้วยสีสัน
สำหรับปี 2026 นี้ เรากำลังจะได้เห็นการปรากฏตัวของรถยนต์หลากหลายประเภท ตั้งแต่รถสปอร์ตพันธุ์แท้ไปจนถึงรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ที่พร้อมลุย ผมได้รวบรวม 5 โมเดลที่คาดว่าจะได้รับความสนใจมากที่สุด โดยแต่ละคันต่างมีเหตุผลอันเป็นเอกลักษณ์ที่จะทำให้พวกมันกลายเป็นดาวเด่นแห่งปี เพื่อให้ข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัยที่สุด บทความนี้ใช้ข้อมูลจากผู้ผลิตและแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือต่างๆ ผนวกกับประสบการณ์ตรงในวงการยานยนต์กว่าสิบปีของผม
2026 Nissan Armada Nismo – เมื่อ SUV ขนาดใหญ่ถูกฉีดอะดรีนาลีน
ราคาประมาณการเริ่มต้น: 2.6 ล้านบาท (เทียบเคียงจากตลาดโลก, อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเข้าสู่ตลาดไทย)
Nissan Armada ไม่เคยถูกมองว่าเป็นรถยนต์ที่เน้นสมรรถนะ มันคือยักษ์ใหญ่ที่ถูกสร้างมาเพื่อครอบครัวที่ต้องการพื้นที่เหลือเฟือและความสามารถในการลากจูงที่แข็งแกร่ง แต่สำหรับปี 2026 นี้ Armada Nismo กำลังจะพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์และเปิดบทสนทนาใหม่ในเซกเมนต์ SUV ขนาดใหญ่ไปอย่างสิ้นเชิง นี่คือการก้าวเข้ามาของแผนกสมรรถนะสูงอย่าง Nismo เพื่อแสดงศักยภาพในตลาด SUV สมรรถนะสูง และพวกเขาไม่ได้มาเล่นๆ
ภายใต้ฝากระโปรง Armada Nismo รุ่นปรับแต่งใหม่นี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 ที่รีดพลังได้ถึง 460 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 516 ปอนด์-ฟุต ทำให้มันกลายเป็น รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ที่ทรงพลังที่สุดของ Nissan เท่าที่เคยมีมา พลังอันเหลือล้นนี้จะถูกจับคู่กับช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเพื่อการขับขี่แบบสปอร์ตโดยเฉพาะ, ระบบเบรกที่อัปเกรดใหม่, และการตอบสนองของพวงมาลัยที่คมชัดยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือรถที่สามารถลากจูงเรือยอชท์ได้อย่างสบายๆ ในวันหยุด แต่ก็พร้อมที่จะพุ่งทะยานไปบนถนนคดเคี้ยวได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นี่คือความบ้าบิ่นที่ผมไม่คิดว่าจะได้เห็นจาก Nissan ในเซกเมนต์นี้
ภายนอก Armada Nismo ได้รับการตกแต่งแบบ Nismo เต็มรูปแบบ: กันชนหน้าดีไซน์ดุดัน, ชิ้นส่วนสีดำเงา, ล้อขนาดใหญ่พิเศษ, และการปรับแต่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ทำให้มันดูคล้ายกับรถสปอร์ตมากกว่ารถสำหรับการเดินทางไกล ภายในห้องโดยสาร คุณจะได้พบกับเบาะนั่งสปอร์ตแบบมีปีกโอบกระชับ, โลโก้ Nismo ที่บ่งบอกถึงความพิเศษ, และการอัปเกรดเทคโนโลยีที่เข้ากับสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น
พูดตามตรง โมเดลนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผมตื่นเต้นเพราะคิดว่ามันจะยอดเยี่ยมไปซะทุกอย่าง แต่มันเป็นโมเดลที่ทำให้ผมอยากเห็นว่า “มันจะออกมาเป็นยังไง” มากกว่า มีความเป็นไปได้สูงที่มันจะเป็นส่วนผสมที่ดีระหว่างพละกำลังและการใช้งานอเนกประสงค์ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ผมก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกขบขันเล็กน้อยกับแนวคิดของ SUV สามแถวที่ติดป้าย Nismo ถึงแม้จะมีความรู้สึกแบบนั้น แต่ผมก็ยังหวังว่ามันจะออกมาดี และมีความอยากรู้อยากเห็นในแบบที่อาจจะดูแปลกไปเสียหน่อย นี่คือการเดิมพันที่น่าสนใจของ Nissan ในการนำ เทคโนโลยี Nismo มาสู่ตลาดที่ใหญ่และมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น
Mazda’s Rotary Sports Car – การกลับมาของตำนาน RX-7 ที่รอคอย
ราคาประมาณการเริ่มต้น: 1.7 ล้านบาท (เทียบเคียงจากตลาดโลก)
ถ้ามีรถคันไหนที่ผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ทั่วโลกเฝ้ารอและคาดเดาถึงการกลับมานานหลายปี คงหนีไม่พ้น รถสปอร์ตโรตารี่ Mazda และในที่สุด ปี 2026 อาจเป็นเวลาที่เราจะได้เห็นการตอบแทนการรอคอยนั้นก็เป็นได้ มีข่าวลือหนาหูว่า Mazda กำลังพัฒนารถยนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด Iconic SP ที่โฉบเฉี่ยว โดยนำเครื่องยนต์โรตารี่อันเป็นเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องรอบเครื่องยนต์ที่จัดจ้านและคาแรคเตอร์ที่ไม่เหมือนใครกลับมาอีกครั้ง แม้บริษัทยังไม่ยืนยันชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวของทายาท RX-7 นั้นแรงพอที่จะทำให้หัวใจนักเลงรถเต้นระรัว เมื่อพิจารณาจากชื่อรุ่นก่อนหน้าอย่าง RX-7 และ RX-8 เป็นไปได้สูงว่ารถโรตารี่คันใหม่อาจจะใช้ชื่อว่า Mazda RX-9 2026
คาดการณ์ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.7 ล้านบาท ทำให้ Mazda คันนี้ถูกวางตำแหน่งให้แข่งขันโดยตรงกับคู่แข่งอย่าง Toyota GR Supra และ Nissan Z แต่ด้วย “ความพิเศษในแบบ Mazda” ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ สิ่งที่ทำให้รถคันนี้น่าสนใจไม่ใช่แค่ข่าวลือเรื่อง เครื่องยนต์โรตารี่ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงแนวคิดในการพัฒนารถที่เน้นการออกแบบน้ำหนักเบา, การควบคุมที่คมกริบ, และการตอบสนองที่รวดเร็วของเครื่องยนต์โรตารี่ เรายังไม่ทราบว่า Mazda จะใช้เครื่องยนต์โรตารี่บริสุทธิ์ หรือจะเพิ่มระบบไฟฟ้าแบบ Mild-Hybrid เข้าไป แต่ไม่ว่าทางเลือกจะเป็นแบบใด แฟนๆ ต่างก็คาดหวังที่จะได้ยินเสียงหวีดหวิวอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์โรตารี่อีกครั้ง รวมถึงสัมผัสถึงความสมดุลของการเข้าโค้งในแบบที่เครื่องยนต์โรตารี่ถูกสร้างมาเพื่อสิ่งนี้
เรื่องของรถต้นแบบนั้นยังคงเป็นความลับสุดยอด Mazda เก็บงำข้อมูลนี้ไว้อย่างดี การปรากฏตัวครั้งแรกอาจจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 โดยมีข่าวลือว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2026 หรือต้นปี 2027 แต่ลองจินตนาการดูสิครับ ช่วงเวลาที่เราได้ยินเสียงท่อไอเสียอันแหลมสูงนั้นอีกครั้งบนถนนสาธารณะ มันคงเป็นการรอคอยที่คุ้มค่า รถคันนี้ไม่ใช่แค่การหวนรำลึกถึงอดีต แต่เป็นการประกาศว่า Mazda ยังคงเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำให้แบรนด์เป็นตำนาน นั่นคือวิศวกรรมที่กล้าหาญและรถยนต์ที่สนุกกับการขับขี่จนคุณลืมรถสปอร์ตหรูๆ คันอื่นไปเลย นี่คือการยืนยันถึง ประสบการณ์การขับขี่ ที่แท้จริง
The Return of the Toyota FJ Cruiser – ไอคอนออฟโรด 2.0
ราคาประมาณการเริ่มต้น: 1.5 ล้านบาท (เทียบเคียงจากตลาดโลก)
Toyota FJ Cruiser เป็นหนึ่งในรถยนต์ไม่กี่คันที่สามารถผสมผสานความบึกบึน, ความแปลกตา, และความรักใคร่จากผู้คนได้อย่างลงตัว หลังจากเลิกจำหน่ายในสหรัฐฯ ไปเมื่อปี 2014 มันได้ทิ้งช่องว่างไว้ในกลุ่มรถออฟโรดของ Toyota ที่แม้แต่ 4Runner ก็ไม่อาจเติมเต็มได้ทั้งหมด นั่นคือเหตุผลว่าทำไมข่าวการกลับมาของมันในปี 2026 จึงทำให้แฟนๆ รถออฟโรดในตำนาน ต่างตื่นเต้นกันถ้วนหน้า
ในขณะที่รายละเอียดต่างๆ ยังคงทยอยเปิดเผยออกมา FJ Cruiser รุ่นใหม่คาดว่าจะยังคงรักษาสไตล์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถคลาสสิกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าทรงกลม, รูปทรงเหลี่ยมสัน, และระยะยื่นด้านหน้าที่สั้น แต่จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัยและฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่ก้าวหน้าขึ้น คาดว่ามันจะใช้แพลตฟอร์ม TNGA-F ของ Toyota ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับ Tacoma และ Land Cruiser รุ่นล่าสุด นั่นหมายถึงความสามารถในการลุยทางวิบากที่จริงจังและแข็งแกร่ง
ระบบส่งกำลังมีแนวโน้มที่จะใช้เครื่องยนต์ไฮบริดสี่สูบเทอร์โบชาร์จของ Toyota ซึ่งให้ทั้งแรงบิดมหาศาลสำหรับการปีนป่าย และประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ภายในห้องโดยสาร เราคาดว่าจะเห็นวัสดุที่ทนทานและทำความสะอาดง่าย, ปุ่มควบคุมที่แข็งแรง, และระบบสาระบันเทิงที่รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สรุปคือ 2026 FJ Cruiser อาจเป็นจุดลงตัวระหว่างเสน่ห์ของ รถออฟโรดทนทาน แบบคลาสสิกกับความน่าเชื่อถือแบบสมัยใหม่ ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จที่ Toyota รู้ดีกว่าใคร นี่คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของ ระบบขับเคลื่อนไฮบริด ที่ผสมผสานพลังงานทางเลือกเข้ากับความสามารถแบบออฟโรดได้อย่างลงตัว และยังเป็นการตอกย้ำถึงประสิทธิภาพของ แพลตฟอร์ม TNGA-F ที่พิสูจน์แล้วในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ของ Toyota
2026 Ford Mustang FX – ลูกผสมคลาสสิกแห่งยุคใหม่
ราคาประมาณการเริ่มต้น: 1.75 ล้านบาท (เทียบเคียงจากตลาดโลก)
Ford Mustang มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ 2026 Mustang FX อาจเป็นหนึ่งในรุ่นย่อยที่น่าสนใจที่สุด เพราะแทนที่จะมองไปข้างหน้าด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค มันกลับหวนคืนไปสู่มนต์เสน่ห์ที่ชวนให้นึกถึง Fox Body Mustangs ในยุค 80s และ 90s ได้อย่างชาญฉลาด Mustang FX จะอยู่ตรงกลางระหว่างรุ่น GT กระแสหลักและ Dark Horse ที่เน้นสมรรถนะขั้นสุด โดยให้คำมั่นสัญญาถึงแพ็คเกจสมรรถนะที่หลากหลายและใช้งานได้ดีทั้งสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการลงสนามแข่งในช่วงสุดสัปดาห์
Ford คาดว่าจะปรับแต่งแชสซี, ระบบช่วงล่าง, และหลักอากาศพลศาสตร์ เพื่อให้การควบคุมดีขึ้นโดยไม่ลดทอนความสบายในการขับขี่ ภายใต้ฝากระโปรง Mustang FX เกือบจะแน่นอนว่าจะใช้เครื่องยนต์ V8 ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องยนต์ Coyote ขนาด 5.0 ลิตรที่คุ้นเคย โดยได้รับการปรับแต่งให้มีแรงบิดช่วงกลางที่ดีเยี่ยมและกำลังสูงสุดที่น่าประทับใจ การผสมผสานนี้ทำให้มันเป็น รถสปอร์ตอเมริกัน ที่มีเอกลักษณ์
การออกแบบภายนอกของ FX ควรจะทำให้มันโดดเด่น ด้วยกันชนหน้าที่มีดีไซน์เฉพาะ, ชิ้นส่วนแอโรไดนามิกที่ใช้งานได้จริง, และการออกแบบล้อแบบพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุค 80s ภายในห้องโดยสาร คุณจะได้พบกับเบาะนั่งสปอร์ต, โหมดการขับขี่ที่เน้นการใช้งานในสนามแข่ง, และระบบสาระบันเทิง SYNC ล่าสุดของ Ford พร้อมจอแสดงผลดิจิทัลขนาดใหญ่ หากคุณกำลังรอคอย Mustang สไตล์เรโทรที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการขับขี่แบบสบายๆ และการเป็นนักรบประจำสนามแข่ง ปี 2026 อาจเป็นปีของคุณ นี่คือ ประสบการณ์ขับขี่ Mustang ที่ผสมผสานความคลาสสิกและความทันสมัยไว้ด้วยกันอย่างลงตัว และยังเป็นการแสดงให้เห็นว่า เครื่องยนต์ V8 ยังคงมีชีวิตชีวาในยุคที่เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนไป
2026 Honda Passport – ความแกร่งพร้อมลุยจาก Honda
ราคาเริ่มต้นโดยประมาณ: 1.55 ล้านบาท (เทียบเคียงจากตลาดโลก)
Honda Passport เป็นรถยนต์ที่เปรียบเสมือน “โกลดิล็อกส์” ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ SUV ของ Honda มาโดยตลอด – ใหญ่กว่า CR-V แต่เล็กกว่า Pilot (ในตลาดโลก) แต่สำหรับปี 2026 นี้ Honda กำลังจะฉีดบุคลิกภาพใหม่ให้กับมัน ทำให้มันดูสมบุกสมบันและพร้อมสำหรับการผจญภัยมากยิ่งขึ้น
Passport ใหม่จะใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 285 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดเดียวกับ Pilot นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการออกแบบตัวถังที่ดูเหลี่ยมสันและทันสมัย, ระยะห่างจากพื้นรถที่เพิ่มขึ้น, และรุ่นย่อยที่เน้นการขับขี่แบบออฟโรดโดยเฉพาะ รุ่น TrailSport จะยกระดับความรู้สึกแบบเอาท์ดอร์ไปอีกขั้น ด้วยแผ่นกันกระแทกใต้ท้องรถ, จุดยึดสำหรับกู้ภัย, และยางที่มีดอกยางหนาขึ้น
Honda ได้ทำการอัปเกรดระบบช่วงล่าง, การตอบสนองของพวงมาลัย, และชุดเรดาร์/กล้องเพื่อความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญ ภายในห้องโดยสารมีการปรับปรุงใหม่ให้มีความสดชื่น คาดว่าจะมีเบาะนั่งที่สบายยิ่งขึ้น, ระบบสาระบันเทิงที่ขับเคลื่อนด้วย Google, และปุ่มควบคุมแบบดั้งเดิมสำหรับระบบปรับอากาศและเครื่องเสียง ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้งานง่ายและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อขับขี่บนถนนขรุขระหรือเส้นทางออฟโรด แม้จะยังไม่มีตัวเลือกไฮบริด แต่การผสมผสานระหว่างสมรรถนะ, ความสบาย, และ ระบบความปลอดภัย Honda ที่ก้าวหน้า จะทำให้ Passport ยังคงสามารถแข่งขันได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาเริ่มต้นประมาณ 1.55 ล้านบาท (ไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ) โดยรุ่นท็อปอาจสูงถึง 1.85 ล้านบาท สำหรับผู้ซื้อที่ต้องการรถที่พร้อมลุยแต่ยังคงไว้ซึ่งความน่าเชื่อถือและคุณภาพของ Honda 2026 Passport จะเป็นสิ่งที่ยากจะมองข้าม นี่คือ รถ SUV Honda ที่ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในเมืองและ รถครอบครัวลุยๆ ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะรุ่น Honda TrailSport ที่เน้นความแกร่งเป็นพิเศษ
ทำไมปี 2026 ถึงเป็นปีที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ซื้อรถยนต์
หากมีสิ่งหนึ่งที่สรุปได้จากโมเดลใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึงเหล่านี้ นั่นคือผู้ผลิตรถยนต์กำลังค้นหาวิธีที่จะตอบสนองทั้งความคิดถึงในอดีตและนวัตกรรมใหม่ๆ ไปพร้อมกัน Mazda กำลังชุบชีวิตรถสปอร์ตโรตารี่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบความบริสุทธิ์ของเครื่องยนต์, Toyota กำลังนำตำนานออฟโรดกลับมา, และ Nissan กำลังฉีดจิตวิญญาณนักแข่งลงใน SUV สำหรับครอบครัว ในขณะเดียวกัน Ford และ Honda ก็มอบสมรรถนะและความแข็งแกร่งที่สดใหม่ในรูปแบบที่คุ้นเคยให้กับผู้ซื้อ
ปี 2026 อาจไม่ได้นำมาซึ่งการปฏิวัติครั้งใหญ่ในโลกยานยนต์ทั้งหมด แต่กำลังจะเป็นปีที่มี “บางสิ่งบางอย่างสำหรับทุกคน” อย่างแท้จริง ไม่ว่าแนวคิดเรื่องความสนุกของคุณคือการเร่งรอบเครื่องยนต์โรตารี่บนถนนบนภูเขา, การพุ่งทะยานข้ามทะเลทรายด้วย SUV ดีไซน์เหลี่ยมสัน, หรือเพียงแค่เพลิดเพลินกับการเดินทางในชีวิตประจำวันด้วยรถที่ทำให้คุณยิ้มได้ นี่คือปีที่คุณไม่ควรพลาด!
อย่าพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของอนาคตแห่งยานยนต์!
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่ารถยนต์เหล่านี้จะสร้างมาตรฐานใหม่และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับคุณ หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนรถ หรือมองหารถคันใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของคุณ ผมขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโมเดลเหล่านี้อย่างละเอียด และเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเปิดตัวในเร็วๆ นี้! ติดตามข่าวสารจากผู้ผลิตโดยตรงและจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ เพื่อไม่ให้พลาดทุกความเคลื่อนไหวสำคัญ หากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใด หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการเลือก รถยนต์ที่คุ้มค่าที่สุด สำหรับคุณ อย่าลังเลที่จะติดต่อทีมงานของเรา หรือแสดงความคิดเห็นของคุณด้านล่าง เราพร้อมที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและเลือกสรรยานยนต์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ.