• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1512343 แบบน เร ยกญาต ได หรอ มเง นแล วไม #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท part 2

admin79 by admin79
December 15, 2025
in Uncategorized
0
N1512343 แบบน เร ยกญาต ได หรอ มเง นแล วไม #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025: ปรากฏการณ์ยอดจองพุ่งกว่า 3.6 หมื่นคัน และ 10 อันดับรถยนต์พลิกโฉมตลาดไทย

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในแวดวงยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่างาน “มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42” หรือ “Thailand International Motor Expo 2025” ที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น ไม่ใช่เพียงแค่การจัดแสดงนวัตกรรม แต่เป็นประจักษ์พยานแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยอย่างแท้จริง โดยเฉพาะตัวเลขยอดจองถล่มทลายในช่วง 8 วันแรกที่ทะลุ 36,174 คัน ซึ่งสะท้อนถึงพลวัตของตลาดที่ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่เต็มตัว ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเทคโนโลยีไฮบริด (xEV) ที่เข้ามาขับเคลื่อนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน บทความนี้จะเจาะลึกถึงปัจจัยความสำเร็จ แนวโน้มตลาด และเปิดเผย 10 อันดับรถยนต์ที่สร้างปรากฏการณ์ยอดจองสูงสุด พร้อมวิเคราะห์เจาะลึกถึงกลยุทธ์ของแต่ละค่ายผู้ผลิต

จุดสูงสุดของมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025: การเติบโตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ได้สร้างสถิติที่น่าประทับใจอีกครั้ง ตัวเลขยอดจองสะสมในช่วง 8 วันแรกที่พุ่งสูงถึง 36,174 คัน ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดถึง 30-45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ตัวเลขนี้ไม่ใช่แค่ยอดขาย แต่เป็นภาพสะท้อนของความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดรถยนต์ไทย และความพร้อมในการปรับตัวเข้าสู่เทคโนโลยียานยนต์ยุคใหม่

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าติดตามตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ผมมองว่าปัจจัยขับเคลื่อนหลักของความสำเร็จครั้งนี้มีหลายมิติ ประการแรกคือ “มาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้าของภาครัฐ” ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทำให้ผู้บริโภคเร่งตัดสินใจซื้อเพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดรถยนต์ EV3.0 มูลค่าสูงสุด 150,000 บาท หรือส่วนลด EV3.5 สำหรับรถยนต์นำเข้าที่ปรับลดลงเหลือ 50,000 บาท ควบคู่กับการปรับภาษีสรรพสามิตจาก 2% เป็น 10% ในปีหน้า ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลต่อราคารถยนต์ การเร่งระบายสต็อกของผู้ประกอบการจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่กระตุ้นยอดขายได้อย่างมหาศาล

นอกจากนี้ การเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด และรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ปรับปรุงประสิทธิภาพ ก็เป็นอีกหนึ่งแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดความสนใจ ผู้บริโภคในยุค 2025 ไม่ได้มองหารถยนต์แค่เพื่อการเดินทาง แต่ต้องการนวัตกรรม ความประหยัด ความปลอดภัย และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้ตอบโจทย์เหล่านี้ได้อย่างครบถ้วน การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดจึงกลายเป็นประโยชน์โดยตรงต่อผู้บริโภคที่ได้รับข้อเสนอและโปรโมชั่นสุดคุ้มค่า

คลื่นลูกใหม่แห่งพลังงาน: รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดครองตลาด

หนึ่งในปรากฏการณ์ที่โดดเด่นที่สุดในงาน Motor Expo 2025 คือสัดส่วนยอดจองของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พุ่งสูงถึง 52% ของยอดจองทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดรถยนต์ไทยที่ชัดเจน รถยนต์ไฮบริด (xEV) ก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในฐานะตัวเลือกที่เป็นสะพานเชื่อมสู่ยุคพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ แม้ว่ารถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) จะยังคงมีฐานลูกค้าของตนเอง แต่กระแส EV ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำอย่างไม่เป็นข้อสงสัย

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่าการที่รถยนต์ไฟฟ้าเข้ามามีบทบาทโดดเด่นถึงเพียงนี้ ไม่ได้มาจากแค่แรงผลักดันจากภาครัฐเท่านั้น แต่ยังมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ระยะทางขับขี่ที่ไกลขึ้น การพัฒนาสถานีชาร์จที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงต้นทุนการเป็นเจ้าของที่เริ่มแข่งขันกับรถยนต์สันดาปได้ การลดราคาและโปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วงปลายปี เพื่อเคลียร์สต็อกก่อนมาตรการ EV3.0 จะสิ้นสุดลง ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ผู้บริโภคตัดสินใจเปลี่ยนผ่านสู่รถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น และนี่คือโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว

เจาะลึก 10 อันดับรถยนต์ยอดจองสูงสุด: ใครคือผู้ชนะตัวจริง?

จากการสำรวจยอดจองในช่วง 8 วันแรก มหกรรมยานยนต์ 2025 ได้เผยให้เห็นถึงแบรนด์และรุ่นรถยนต์ที่ร้อนแรงที่สุดในตลาด นี่คือการวิเคราะห์เชิงลึกจากข้อมูลของผู้จัดงาน:

Toyota (โตโยต้า): ยอดจอง 6,013 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: Toyota Yaris Cross

โตโยต้ายังคงยืนหยัดในฐานะผู้นำตลาด ด้วยกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งและฐานลูกค้าที่ภักดี Yaris Cross ไฮบริดครอสโอเวอร์รุ่นใหม่ ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย ความประหยัดน้ำมัน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ โตโยต้าพิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ในยุคที่ EV กำลังมาแรง แต่รถยนต์ไฮบริดที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันก็ยังคงเป็นตัวเลือกที่แข็งแกร่ง และด้วยเครือข่ายบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้ผู้บริโภคยังคงมั่นใจในการเลือกซื้อรถยนต์จากค่ายนี้

BYD (บีวายดี): ยอดจอง 3,154 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: BYD Atto3

BYD ยังคงสร้างปรากฏการณ์ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทยอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตัวเลขยอดจองจะมาจากการประมาณการณ์ของผู้จัดงาน แต่ความนิยมของ BYD Atto3 ก็ยังคงสูงลิ่ว ด้วยราคาที่จับต้องได้ เทคโนโลยี Blade Battery ที่ปลอดภัยและมีระยะทางวิ่งที่ดี รวมถึงฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย แคมเปญสุดร้อนแรงที่มาพร้อมส่วนลดมหาศาลสำหรับ BYD SEAL ที่ลดสูงสุดกว่า 525,000 บาท ในรุ่น Dynamic เหลือเพียง 799,000 บาท และการมอบประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับ Dolphin และ Atto 3 ถือเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ในการแข่งขันตลาด EV ที่ดุเดือด

Honda (ฮอนด้า): ยอดจอง 3,039 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: Honda HR-V e:HEV

ฮอนด้ายังคงรักษาตำแหน่งแบรนด์ยอดนิยมด้วย HR-V e:HEV ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ต เทคโนโลยีไฮบริด e:HEV ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัด พร้อมฟังก์ชันความปลอดภัย Honda SENSING ที่ครบครัน ฮอนด้าแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจตลาดและความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างลงตัว ทำให้รถยนต์ไฮบริดยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาความสมดุลระหว่างพลังงานและสมรรถนะ

Omoda & Jaecoo (โอโมด้า แอนด์ เจคู): ยอดจอง 2,678 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: Jaecoo 5 EV

แบรนด์น้องใหม่จากจีนที่สร้างเซอร์ไพรส์อย่างยิ่ง Jaecoo 5 EV ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ฟีเจอร์ที่ครบครัน และที่สำคัญคือ “ราคาที่น่าดึงดูดใจ” โดยเฉพาะโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษสำหรับ 3,000 คันสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2568 ทำให้ Jaecoo 5 EV Long Range Dynamic มีราคาเพียง 549,000 บาท และ Long Range Max ราคา 599,000 บาท ซึ่งเป็นการเปิดตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในระดับเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ง่ายและเร่งยอดขายได้อย่างรวดเร็ว

MG (เอ็มจี): ยอดจอง 2,360 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: MG S5 EV

MG ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด EV ของไทย ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายและเข้าถึงได้ง่าย MG S5 EV ที่เปิดตัวในงานก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยม เช่นเดียวกับรุ่นยอดนิยมอย่าง MG4 ELECTRIC และ MG ZS EV ที่มาพร้อมข้อเสนอ “The Last Offer” ส่วนลดพิเศษที่ทำให้ราคาเริ่มต้นน่าตกใจ รวมถึง NEW MG4 ELECTRIC XPOWER ที่มาพร้อมส่วนลดถึง 279,000 บาท สะท้อนกลยุทธ์การรุกตลาดด้วยราคาและฟีเจอร์ที่คุ้มค่าสูงสุดก่อนมาตรการ EV จะหมดลง

GAC AION (ไอออน): ยอดจอง 2,187 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: AION UT

AION จาก GAC Group เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จีนที่เข้ามาสร้างความคึกคัก ด้วย AION V และ AION UT ที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ทันสมัยและระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ การจัดโปรโมชั่น “คุ้ม 4 ต่อ” ส่งท้ายมาตรการ EV รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน พร้อมของแถมสุดพรีเมียมอย่าง iPhone 17 แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างความเชื่อมั่นและเพิ่มมูลค่าให้กับลูกค้า

Geely (จีลี่): ยอดจอง 2,134 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: Geely EX2

Geely เข้ามาพร้อมกลยุทธ์ที่แตกต่างอย่างน่าสนใจ นายณรงค์ สีตลายน จากธนบุรีนอยสเติร์น ยืนยันว่า Geely ไม่เข้าร่วมมาตรการภาครัฐ แต่เน้นการตั้งราคาที่แข่งขันได้ตั้งแต่แรก โดย Geely EX2 เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 399,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในตลาด EV ขณะนี้ การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพและราคาที่เหมาะสม โดยไม่ต้องพึ่งพาส่วนลดเพื่อกระตุ้นยอดขาย และดึงดูดผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดสำหรับการใช้งานในเมือง

Deepal (ดีพอล): ยอดจอง 2,117 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: Deepal S05

Deepal แบรนด์จาก Changan ได้สร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งด้วยดีไซน์ที่ล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่น่าสนใจ Deepal S05 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยม ด้วยข้อเสนอทางการเงินที่น่าดึงดูดใจ เช่น ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท และส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับผู้ที่จองภายในงาน ทำให้ Deepal เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ EV ที่มีสไตล์และคุ้มค่า

Great Wall Motor (เกรทวอลล์มอเตอร์): ยอดจอง 2,015 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: GWM Tank 300 Diesel

GWM ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญที่หลากหลาย ด้วย GWM Tank 300 Diesel ที่โดดเด่นในกลุ่มรถยนต์ออฟโรด และรถยนต์ไฟฟ้า ORA Good Cat ที่ยังคงได้รับความนิยม แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นราคาในปี 2569 แต่ก็มีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ฟรีโปรแกรมช่วยผ่อน และประกันภัย เพื่อรักษาฐานลูกค้า แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการแข่งขันและนโยบายภาครัฐ

Mitsubishi (มิตซูบิชิ): ยอดจอง 1,588 คัน – รถยนต์ที่มาแรง: Mitsubishi Xforce HEV

มิตซูบิชิยังคงรักษาความแข็งแกร่งในตลาดด้วย Mitsubishi Xforce HEV ที่นำเสนอความเป็นรถ SUV ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ด้วยสมรรถนะที่ไว้ใจได้และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ แม้จะไม่ได้อยู่ในกลุ่ม EV เต็มตัว แต่ Xforce HEV ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่คุ้มค่า ใช้งานได้จริง และมีชื่อเสียงในด้านความทนทาน

อนาคตของตลาดรถยนต์ไทย: บทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ

จากภาพรวมของงาน Motor Expo 2025 ผมมองว่าตลาดรถยนต์ไทยกำลังเข้าสู่ยุคแห่งการแข่งขันที่ดุเดือดและน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง การคาดการณ์ยอดขายรวมของตลาดในปี 2568 ที่ 600,000 คัน และตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จะสูงกว่า 100,000 คัน แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตาคือ “สงครามราคา” ที่คาดว่าจะยังคงอยู่ไปถึงปี 2569 แม้ความรุนแรงอาจลดลงตามเงื่อนไขของมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จะมีผลต่อต้นทุนราคาของรถยนต์ ผู้ผลิตต้องปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว ทั้งการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ การสร้างความแตกต่างด้วยบริการหลังการขาย และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า beyond price cuts. แบรนด์รถยนต์จีนได้เข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์ของตลาดอย่างสิ้นเชิง ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงง่ายและอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ ทำให้แบรนด์ดั้งเดิมต้องเร่งปรับตัวและนำเสนอนวัตกรรมเพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด

สำหรับผู้บริโภค การเลือกซื้อรถยนต์ในปี 2025 ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่าที่สุด ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย เทคโนโลยีที่ทันสมัย และโปรโมชั่นที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด การตัดสินใจซื้อรถยนต์ในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การมองหารุ่นที่ถูกใจ แต่เป็นการพิจารณาถึงความคุ้มค่าระยะยาว ทั้งในด้านพลังงาน การบำรุงรักษา และเทคโนโลยีที่จะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในอนาคต

บทสรุปและคำเชิญชวน

มหกรรมยานยนต์ 2025 ได้ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม สะท้อนให้เห็นถึงพลังขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมการเดินทางของเราไปตลอดกาล หากคุณพลาดโอกาสในการสัมผัสประสบการณ์และข้อเสนอสุดพิเศษในงานนี้ หรือกำลังพิจารณาเป็นเจ้าของรถยนต์คันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน รถยนต์ไฮบริดที่ลงตัว หรือรถยนต์สันดาปที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยม ตอนนี้คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการศึกษาข้อมูลและตัดสินใจ อย่ารอช้า! แคมเปญและโปรโมชั่นสุดพิเศษยังคงมีต่อเนื่องที่โชว์รูมทั่วประเทศ หรือติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์เชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญอย่างเรา เพื่อให้การตัดสินใจซื้อรถยนต์ของคุณเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและตอบโจทย์อนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ

มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025: ปรากฏการณ์ยอดจองทะลุเป้า ชี้ชัดทิศทางยานยนต์แห่งอนาคต

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในแวดวงยานยนต์มานานนับทศวรรษ ผมกล้ากล่าวได้อย่างเต็มปากว่า งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 ในปีนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เวทีจัดแสดงรถยนต์ แต่คือกระจกสะท้อนภูมิทัศน์และทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่กำลังพลิกโฉมอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ตัวเลขยอดจองที่พุ่งทะยานกว่า 36,174 คัน ภายในระยะเวลาเพียง 8 วันแรก นับเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า ตลาดรถยนต์ไทยยังคงมีพลวัตสูง และความเปลี่ยนแปลงกำลังก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมี “ยานยนต์ไฟฟ้า” (EV) เป็นหัวหอกสำคัญ

สถานการณ์ปัจจุบัน ณ กลางทางของ Motor Expo 2025 ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม 2568 ได้พิสูจน์แล้วว่า การแข่งขันในตลาดนั้นดุเดือดกว่าที่เคยเป็นมา และผู้บริโภคก็พร้อมเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเต็มที่ ยอดจองรวมที่สูงเกินคาดนี้ ไม่เพียงตอกย้ำความแข็งแกร่งของงาน แต่ยังเป็นดัชนีชี้วัดกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อภาคยานยนต์ แม้ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ยังคงมีอยู่

เจาะลึกตัวเลขยอดจอง: พลังขับเคลื่อนจาก EV และ Hybrid

เมื่อพิจารณายอดจองสะสมกว่า 36,174 คัน จะเห็นได้ถึงการเติบโตที่น่าจับตาถึง 30-45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าประมาณการเบื้องต้นที่คาดการณ์ไว้ สัดส่วนของรถยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างถล่มทลายนั้นมาจากกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งกินส่วนแบ่งตลาดไปกว่า 52% ตามมาด้วยรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด (xEV) ที่ยังคงรักษาฐานที่มั่นได้อย่างแข็งแกร่ง และรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) รวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่ยังคงมีบทบาทในตลาด ทิศทางนี้บ่งบอกอย่างชัดเจนว่า การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกระแสหลักที่ขับเคลื่อนตลาดไปข้างหน้า

นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน Motor Expo 2025 ได้สะท้อนภาพรวมนี้ไว้อย่างน่าสนใจ โดยคาดการณ์ว่ายอดจองรวมตลอดงานในปีนี้จะสูงกว่าปีก่อนอย่างน้อย 30-40% ซึ่งปัจจัยสำคัญมาจาก “มาตรการส่งเสริม EV” ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในปลายปี 2568 นี้ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “เร่งตัดสินใจซื้อ” ของผู้บริโภค เพื่อช่วงชิงสิทธิประโยชน์ก่อนที่จะหมดไป ประกอบกับแรงกดดันจากการที่ผู้ผลิตต้องการเร่งระบายสต็อกก่อนที่เทคโนโลยีจะก้าวกระโดดไปอีกขั้น นำไปสู่การจัดแคมเปญและโปรโมชั่นสุดพิเศษที่ยากจะปฏิเสธได้

แกะรอย 10 อันดับค่ายรถยนต์และรุ่นเด่นที่มาแรงที่สุด

ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า 10 อันดับค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงที่สุดในช่วง 8 วันแรกนั้น ได้เปิดเผยถึงกลยุทธ์และประสิทธิภาพของแต่ละแบรนด์ในการเข้าถึงใจผู้บริโภค:

โตโยต้า (Toyota): ยอดจอง 6,013 คัน โดยมี Toyota Yaris Cross เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด แบรนด์นี้ยังคงรักษาความแข็งแกร่งด้วยชื่อเสียงด้านความน่าเชื่อถือ บริการหลังการขายที่ครอบคลุม และการนำเสนอรถยนต์ไฮบริดที่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว แสดงให้เห็นว่าแม้ตลาด EV จะเติบโต แต่รถยนต์ไฮบริดที่เข้าถึงง่ายและประหยัดน้ำมันก็ยังคงเป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้บริโภคจำนวนมาก
บีวายดี (BYD): ยอดจอง 3,154 คัน โดยมี BYD Atto 3 เป็นรถยนต์ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของ BYD ในตลาดไทยนั้นน่าทึ่งอย่างยิ่ง ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ล้ำสมัย ราคาที่แข่งขันได้ และการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานที่ไม่เคยมีมาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น การนำรถยนต์ไฟฟ้า BYD SEAL มาลดราคาอย่างมหาศาลกว่า 525,000 บาทในรุ่น Dynamic เหลือเพียง 799,000 บาท ก็เป็นการสร้างแรงกระเพื่อมในตลาด EV อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน สะท้อนกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด การลงทุน EV ในไทย ของ BYD และความหลากหลายของรุ่นที่นำเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น BYD M6, BYD SEALION 7, และ DENZA D9 ภายใต้มาตรการ EV3.5 ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์นี้ในการเป็นผู้นำตลาด
ฮอนด้า (Honda): ยอดจอง 3,039 คัน โดยมี Honda HR-V e:HEV เป็นดาวเด่น Honda ยังคงรักษาความนิยมด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย เทคโนโลยี e:HEV ที่มอบทั้งสมรรถนะและความประหยัด พร้อมด้วยความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่สั่งสมมานาน เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฮบริดอเนกประสงค์
โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo): ยอดจอง 2,678 คัน โดยมี Jaecoo 5 EV เป็นรุ่นที่โดดเด่น การเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่อย่าง Jaecoo พร้อมด้วยรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่มีราคาเข้าถึงได้ ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากตลาดไทย นายเซดริก ชุย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ได้เผยถึงความสำเร็จในการส่งมอบรถยนต์กว่า 12,000 คันภายใน 10 เดือน และคาดการณ์ยอดขายรวมที่ 14,000 คันในปี 2568 นี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของแบรนด์จีนน้องใหม่นี้
เอ็มจี (MG): ยอดจอง 2,360 คัน โดยมี MG S5 EV เป็นรุ่นที่มาแรง MG ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด EV ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่น เช่น NEW MG4 ELECTRIC, MG ZS EV, MG EP PLUS และ MG IM6 นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ยืนยันถึง “ราคาสุดท้าย” ของรถยนต์ EV ของ MG ที่เน้นความคุ้มค่า เช่น NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ลดถึง 279,000 บาท เหลือ 849,000 บาท และโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ กลยุทธ์การตลาดรถยนต์ 2025 เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาดที่ดุเดือด
GAC (ไอออน): ยอดจอง 2,187 คัน โดยมี Aion UT เป็นรุ่นที่ได้รับความสนใจ GAC AION สร้างความน่าสนใจด้วยรถยนต์ไฟฟ้าที่เน้นความคุ้มค่าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง การจัดโปรโมชั่น “คุ้ม 4 ต่อ” สำหรับ AION V และ AION UT รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่และมอเตอร์ตลอดอายุการใช้งาน พร้อมของแถมอย่าง iPhone 17 สะท้อนถึงการแข่งขันที่สูง และการพยายามสร้างความแตกต่างด้วยการมอบสิทธิประโยชน์ที่เกินความคาดหมาย
จีลี่ (Geely): ยอดจอง 2,134 คัน โดยมี Geely EX2 เป็นรถยนต์ที่มาแรง Geely สร้างความฮือฮาด้วยการประกาศจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมของรัฐบาล แต่จะเน้นการทำงานร่วมกับบริษัทแม่เพื่อนำเสนอรถยนต์ในราคาที่จับต้องได้สำหรับลูกค้าชาวไทยโดยตรง โดย Geely EX2 เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 399,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่น่าดึงดูดอย่างยิ่งสำหรับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจใน นวัตกรรมยานยนต์ และการกำหนดราคาที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มต้น
ดีพอล (Deepal): ยอดจอง 2,117 คัน โดยมี Deepal S05 เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยม Deepal ภายใต้กลุ่ม Changan ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากผู้บริโภค ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย พร้อมเงื่อนไขทางการเงินที่น่าสนใจ เช่น ดาวน์ 0% และผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท รวมถึงการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor): ยอดจอง 2,015 คัน โดยมี GWM Tank 300 Diesel เป็นรุ่นที่โดดเด่น GWM แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังคงมีรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลที่แข็งแกร่งอย่าง Tank 300 Diesel ควบคู่ไปกับ Ora Good Cat นายเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้กล่าวถึง “สงครามราคา” ในปี 2568 ที่ค่อนข้างรุนแรง และคาดว่าจะลดความรุนแรงลงในปี 2569 ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาล การปรับขึ้นราคา ORA Good Cat เล็กน้อยในปี 2569 พร้อมเพิ่มสิทธิประโยชน์ เช่น โปรแกรมช่วยผ่อน และประกันภัยชั้นหนึ่ง แสดงให้เห็นถึง กลยุทธ์แบรนด์รถยนต์ ในการปรับตัวและเพิ่มมูลค่าในระยะยาว
มิตซูบิชิ (Mitsubishi): ยอดจอง 1,588 คัน โดยมี Mitsubishi Xforce HEV เป็นรถยนต์ที่มาแรง การกลับมาของ Mitsubishi ด้วยรถยนต์ครอสโอเวอร์ไฮบริดรุ่นใหม่ Xforce HEV แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการแข่งขันในตลาด SUV ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

มาตรการ EV3.0 สิ้นสุด: จุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด EV ไทย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นยอดจองอย่างมหาศาลคือการที่มาตรการส่งเสริม EV3.0 ของไทยกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ผู้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการ EV3.0 จะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 150,000 บาท ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่สำคัญอย่างยิ่ง เมื่อเปลี่ยนผ่านสู่มาตรการ EV3.5 การสนับสนุนส่วนลดรถยนต์ EV นำเข้าจะลดลงจาก 150,000 บาท เหลือ 50,000 บาท และมีการปรับภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ผู้ผลิตต้องเร่งระบายสต็อกและกระตุ้นยอดขายอย่างหนัก เพื่อลดภาระต้นทุนที่จะเกิดขึ้นเมื่อมาตรการเปลี่ยนผ่าน นี่คือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ Motor Expo 2025 คึกคักเป็นพิเศษ ด้วยโปรโมชั่นที่ไม่อาจมองข้ามได้จากหลายๆ ค่าย

แนวโน้มตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต: 2569 สู่ความยั่งยืน

จากการวิเคราะห์ของนายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยปี 2568 จะปิดตัวเลขยอดขายที่กว่า 100,000 คัน และจะเติบโตต่อไปเป็น 120,000 คันในปี 2569 ซึ่งถือเป็นอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจ การเติบโตนี้บ่งชี้ถึงความพร้อมของตลาดไทยในการก้าวสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างก้าวกระโดดนี้มาพร้อมกับความท้าทายหลายประการ เช่น โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จ EV ที่ต้องขยายตัวให้ครอบคลุมและเพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาบริการหลังการขายสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นระยะยาวให้กับผู้บริโภค

สำหรับ “สงครามราคา” ที่เกิดขึ้นในปี 2568 นายเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย คาดการณ์ว่าสถานการณ์อาจยังคงอยู่ต่อไปในปี 2569 แต่ความรุนแรงจะลดลง เนื่องจากการปรับเปลี่ยนนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐจะส่งผลต่อโครงสร้างต้นทุนราคาของรถยนต์ ผู้ผลิตจะหันมาเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์และบริการมากขึ้น เช่น การมอบประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน การขยายระยะเวลารับประกัน หรือการจัดแพ็กเกจบำรุงรักษา ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ยั่งยืนกว่าการแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว

บทสรุปและก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย

Motor Expo 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหมุดหมายสำคัญที่กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในทศวรรษหน้า การเติบโตของยอดจอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น พร้อมรับมือกับ ราคาพลังงาน ที่ผันผวน และมองหา นวัตกรรมยานยนต์ ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล แบรนด์ต่างๆ ทั้งจากเอเชียและยุโรป ต่างนำเสนอ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ล่าสุด และ รถยนต์อัจฉริยะ (Smart Car) ที่มาพร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่เหนือชั้น การแข่งขันที่เข้มข้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคที่ได้รับตัวเลือกและข้อเสนอที่ดีขึ้น แต่ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิด การลงทุนยานยนต์ และการพัฒนาบุคลากรในประเทศ เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่านี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับวงการยานยนต์ไทย และโอกาสในการเลือกซื้อรถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า โปรโมชั่นที่ดึงดูดใจ และนโยบายที่สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด

อย่าพลาดโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้! หากท่านกำลังมองหายานยนต์คู่ใจคันใหม่ หรือต้องการสัมผัสกับเทคโนโลยีแห่งอนาคตด้วยตัวเอง โปรดอย่าลังเลที่จะเดินทางไปเยี่ยมชม Motor Expo 2025 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ภายในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 นี้ เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ท่านจะได้เห็น ได้สัมผัส และได้เป็นเจ้าของนวัตกรรมยานยนต์ที่แท้จริง พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่ควรพลาดก่อนสิ้นปี!

Previous Post

N1512342 โดนไล ออกจากบ านต วเอง เพราะล กชายแท #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท อ part 2

Next Post

N1512344 ให ชายเป นพ อของล กแทน #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท อนส งคม part 2

Next Post
N1512344 ให ชายเป นพ อของล กแทน #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท อนส งคม part 2

N1512344 ให ชายเป นพ อของล กแทน #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท อนส งคม part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1612666 ในว นท เม ยนอกใจ! Part 2
  • N1612663 ำใจส งต อผ part 2
  • N1612670 รถหร สำหร บพน กงานของฉ part 2
  • N1612668 ความซ อส ตย เป นค ณสมบ ของคนด part 2
  • N1612661 ทำไมแต งช ดออกกำล งกายมาทำงาน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.