• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1512348 เม ยไม ใช คนร บใช #มายป ณย ปานวาด #ละครส นสะท อนส งคม #หน งส นสะท part 2

admin79 by admin79
December 15, 2025
in Uncategorized
0
N1512348 เม ยไม ใช คนร บใช #มายป ณย ปานวาด #ละครส นสะท อนส งคม #หน งส นสะท part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025: ครึ่งทางยอดจองพุ่งเกินคาด! EV ผงาดครองบัลลังก์ พร้อมเผยกลยุทธ์แบรนด์พลิกเกมตลาดรถยนต์ไทย

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่างาน “Thailand International Motor Expo 2025” หรือ “มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42” ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ณ เมืองทองธานี ไม่ใช่เพียงแค่เวทีแสดงนวัตกรรม แต่คือดัชนีชี้วัดทิศทางอนาคตของตลาดรถยนต์ไทยอย่างแท้จริง และที่น่าจับตาที่สุดคือยอดจองที่ทะลุเป้าอย่างน่าทึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาครอบงำของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ ชนิดที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย

จากข้อมูล ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2568 ซึ่งเป็นช่วงครึ่งทางของการจัดงานที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน ตัวเลขยอดจองรถยนต์สะสมตลอด 8 วันพุ่งสูงถึง 36,174 คัน สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในตลาด และที่สำคัญคือสัดส่วนของ รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่กวาดส่วนแบ่งความสนใจจากลูกค้าไปกว่า 52% ตอกย้ำถึงความต้องการของผู้บริโภคที่กำลังมุ่งสู่การขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน ถือเป็นการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมไม่อาจประมาทได้

แรงกระเพื่อมจากมาตรการภาครัฐและการปรับภาษี: โอกาสทองที่กำลังจะหมดไป

ปัจจัยสำคัญที่จุดประกายให้ยอดจองพุ่งทะยานขนาดนี้ คงหนีไม่พ้น “มาตรการส่งเสริม EV ของไทย” ที่กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 สำหรับมาตรการ EV3.0 ที่มอบส่วนลดสูงสุดถึง 150,000 บาทต่อคัน การที่เส้นตายใกล้เข้ามา ทำให้ผู้บริโภคที่ลังเลอยู่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ประกอบกับการที่ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเองก็ต้องเร่งระบายสต็อก เพื่อลดภาระต้นทุนและเตรียมรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ก้าวหน้าอยู่เสมอ สิ่งนี้ได้ก่อให้เกิดการแข่งขันด้าน โปรโมชั่นรถยนต์ไฟฟ้า และ ส่วนลดรถยนต์ อย่างดุเดือดชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ขณะเดียวกัน มาตรการ EV3.5 ที่จะเริ่มใช้ในปี 2569 ก็มีการปรับลดเงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ EV นำเข้าจาก 150,000 บาท เหลือ 50,000 บาทต่อคัน และมีการปรับภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้นให้เกิด “แรงซื้อเร่งด่วน” ในช่วงปลายปี 2568 นี้ ผู้บริโภคจำนวนมากจึงไม่รีรอที่จะคว้าโอกาสสุดท้าย เพื่อครอบครอง รถยนต์ประหยัดพลังงาน ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด

เปิดโผ 10 อันดับค่ายรถยนต์มาแรง: ศึกชิงเจ้าตลาด EV และ Hybrid

จากยอดจอง 8 วันแรก ตัวเลขที่น่าสนใจได้เผยให้เห็นถึงแบรนด์ที่กำลังครองใจผู้บริโภคชาวไทย โดยมีทั้งผู้เล่นดั้งเดิมและผู้ท้าชิงรายใหม่ที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วน:

โตโยต้า (Toyota): 6,013 คัน – ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเครือข่ายบริการที่ครอบคลุม โดยมี Toyota Yaris Cross เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด สะท้อนถึงความต้องการรถยนต์ Hybrid ในกลุ่ม B-SUV ที่ยังคงสูง

บีวายดี (BYD): 3,154 คัน – การเติบโตของ BYD เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง แม้จะยังไม่เปิดเผยยอดจองโดยตรง แต่จากการประมาณการจากผู้จัดงาน แสดงให้เห็นว่า BYD Atto3 ยังคงเป็นหัวหอกสำคัญในการเจาะตลาด EV ไทย ด้วย เทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ที่ล้ำสมัย และราคาที่แข่งขันได้

ฮอนด้า (Honda): 3,039 คัน – แบรนด์ญี่ปุ่นอีกรายที่ยังคงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ Hybrid ด้วย Honda HR-V e:HEV ที่ยังคงได้รับความสนใจจากผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่ประหยัดน้ำมันและเชื่อถือได้

โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo): 2,678 คัน – การมาของแบรนด์จีนน้องใหม่คู่นี้สร้างความฮือฮาไม่น้อย โดยเฉพาะ Jaecoo 5 EV ที่เปิดตัวด้วยราคาและฟีเจอร์ที่น่าดึงดูดใจ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการช่วงชิงส่วนแบ่งตลาด

เอ็มจี (MG): 2,360 คัน – MG ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด EV ด้วย MG S5 EV ที่เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา รถ EV ราคาเข้าถึงง่าย

จีเอซี ไอออน (GAC Aion): 2,187 คัน – Aion ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยมี Aion UT เป็นรุ่นเรือธงที่ผลักดันยอดจอง สะท้อนถึงการยอมรับ นวัตกรรมยานยนต์ จากจีน

จีลี่ (Geely): 2,134 คัน – การกลับมาของ Geely ในประเทศไทยสร้างความคาดหวังอย่างมาก และ Geely EX2 ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการนำเสนอ รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ในราคาที่น่าตกใจ

ดีพอล (Deepal): 2,117 คัน – แบรนด์ภายใต้ Changan ที่เน้นดีไซน์ล้ำสมัยและเทคโนโลยี EV ก็สามารถสร้างฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วย Deepal S05 ที่เป็นรุ่นยอดนิยม

เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor): 2,015 คัน – GWM ยังคงมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง โดยมี GWM Tank 300 Diesel เป็นตัวชูโรงในกลุ่มรถยนต์ออฟโรด สะท้อนถึงความหลากหลายของตลาด

มิตซูบิชิ (Mitsubishi): 1,588 คัน – Mitsubishi Xforce HEV แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของแบรนด์ญี่ปุ่นในการนำเสนอ รถไฮบริด ที่ตอบโจทย์การใช้งาน

ถอดรหัสกลยุทธ์จากผู้เล่นหลัก: ใครจะอยู่ ใครจะไปในสมรภูมิยานยนต์ 2025?

การแข่งขันที่ดุเดือดนี้ทำให้แต่ละค่ายต้องงัดกลยุทธ์เด็ดออกมาเพื่อดึงดูดลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ โปรโมชั่นพิเศษ และ แคมเปญรถยนต์ ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม:

BYD – Rever Group: สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการมอบ “การรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน” มูลค่า 50,000 บาท สำหรับ BYD Dolphin และ BYD Atto 3 นอกจากนี้ยังใช้โอกาสจากมาตรการ EV3.5 เสนอ ส่วนลดรถยนต์ BYD SEAL สูงสุดถึง 525,000 บาท ทำให้รุ่น Dynamic เหลือเพียง 799,000 บาท จากราคาปกติ 1,325,000 บาท ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่สร้างแรงกระเพื่อมในตลาดอย่างมหาศาล และยังมีการขยายการรับประกันย้อนหลังสำหรับลูกค้าที่ซื้อตั้งแต่เดือนตุลาคม เป็นการแสดงถึงความใส่ใจต่อลูกค้าอย่างแท้จริง

MG: นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) ยืนยันว่า MG จะไม่ปรับลดราคา EV ลงอีก เนื่องจากราคาปัจจุบันถือเป็นราคาสุดท้ายแล้ว การออกโปรโมชั่นจึงเน้นไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่มาพร้อมส่วนลดกว่า 279,000 บาท เหลือเพียง 849,000 บาท (จำนวนจำกัด 90 คัน) หรือ MG IM6 ในราคา 1,299,000 บาท พร้อมประกันชั้นหนึ่ง 3 ปี และดอกเบี้ย 0.99% นาน 48 เดือน แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การรักษามูลค่าแบรนด์ควบคู่ไปกับการมอบข้อเสนอที่น่าสนใจ

Great Wall Motor (GWM): นายเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ชี้ว่าสงครามราคาในปี 2568 ค่อนข้างรุนแรง แต่คาดว่าจะลดความรุนแรงลงในปี 2569 เนื่องจากผลกระทบจากมาตรการรัฐ การปรับกลยุทธ์ของ GWM จึงเป็นการประกาศปรับขึ้นราคา ORA Good Cat ในปี 2569 ที่ปัจจุบันเริ่มต้น 599,000 บาท แต่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์อย่างโปรแกรมช่วยผ่อนเดือนละ 5,000 บาท ประกันภัยชั้นหนึ่ง 2 ปี และค่าบำรุงรักษา 5 ปี มูลค่า 11,000 บาท ซึ่งเป็นการปรับกลยุทธ์จากการลดราคาไปสู่การเพิ่มมูลค่าและบริการหลังการขาย

GAC Aion: ค่ายนี้จัดโปรโมชั่นแบบ “คุ้ม 4 ต่อ” ส่งท้ายมาตรการ EV ไม่ว่าจะเป็น AION V ในราคาพิเศษ 899,000 บาท จากปกติ 1,020,900 บาท หรือ AION UT ที่ลดราคาลงอย่างน่าสนใจ พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน และกล่องควบคุมตลอดอายุการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีส่วนลดชุดแต่งและแถมฟรี iPhone 17 มูลค่า 43,900 บาท ซึ่งเป็นการสร้างภาพลักษณ์ของความคุ้มค่าและเทคโนโลยีล้ำสมัย

Changan (Deepal): นำเสนอเงื่อนไขทางการเงินสุดเย้ายวน เช่น ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท และส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท สำหรับ Deepal S05 พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับผู้ที่จองในช่วงงาน ถือเป็นการใช้กลยุทธ์ด้านการเงินเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ

Omoda & Jaecoo: นายเซดริก ชุย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงความสำเร็จที่เหนือความคาดหมาย โดยยอดส่งมอบรถยนต์ไปแล้วกว่า 12,000 คัน ภายใน 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค.) และคาดว่าปี 2568 จะปิดยอดที่ 14,000 คัน เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า ได้มอบ ราคาพิเศษสำหรับ JAECOO 5 EV อีก 3,000 คัน ก่อนสิ้นปี 2568 เช่นรุ่น Long Range Dynamic ที่ลดเหลือ 549,000 บาท จาก 629,000 บาท รวมถึงส่วนลดสูงสุด 250,000 บาท สำหรับ Jaecoo 6 EV และ 100,000 บาท สำหรับ Jaecoo 7 SHS สะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและการตอบแทนลูกค้า

Geely (ธนบุรีนอยสเติร์น): นายณรงค์ สีตลายน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่เข้าร่วมมาตรการภาครัฐ แต่จะมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับบริษัทแม่เพื่อนำเสนอ รถยนต์ Geely EX2 ในราคาเริ่มต้นเพียง 399,990 บาท สำหรับ 2,000 คันแรก ซึ่งเป็นการแหวกแนวทางการตลาดที่เน้นการตั้งราคาที่ “ถูกต้อง” ตั้งแต่วันแรก เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามราคาและการลดแลกแจกแถม

Leapmotor (PNA): บริษัท พระนครยนตรการ จำกัด จัดแคมเปญสุดพิเศษสำหรับ Leapmotor C10 Limited Edition Kinetix Model ราคา 928,000 บาท (เพียง 100 คัน) และมอบสิทธิพิเศษบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร มูลค่า 20,000 บาท สำหรับลูกค้าที่จองรถภายในงานและรับรถภายในเดือนธันวาคม 2568 แสดงให้เห็นถึงการสร้างคุณค่าผ่านบริการและรุ่นพิเศษ

ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทย 2025 และแนวโน้ม 2026: ความท้าทายและโอกาส

ตลาดรถยนต์ไทยโดยรวมยังคงมีการเติบโตที่น่าพอใจ นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ จาก MG คาดการณ์ว่าตลาดรวมปี 2568 จะปิดยอดขายที่ 600,000 คัน เติบโต 3-4% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ดีแม้จะมีการเพิ่มขึ้นไม่มากนัก

สำหรับตลาด รถยนต์ไฟฟ้า EV นั้น คาดการณ์ว่าจะทะลุ 100,000 คันในปี 2568 และจะเติบโตต่อเนื่องไปถึง 120,000 คันในปี 2569 สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับความท้าทายหลายประการ เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จ EV ให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการแข่งขันด้านราคาที่อาจส่งผลกระทบต่อกำไรของผู้ประกอบการในระยะยาว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่าปี 2569 จะเป็นปีแห่งการ “ปรับฐาน” ของตลาด EV หลังจากการสิ้นสุดมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ค่ายรถยนต์จะต้องพึ่งพากลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ (รถรุ่นใหม่ 2025) คุณภาพ และบริการหลังการขายมากขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในเรื่องของ ศูนย์บริการรถยนต์ การเข้าถึงอะไหล่ และราคาขายต่อ จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ การนำเสนอ สินเชื่อรถยนต์ และ ประกันภัยรถยนต์ ที่ยืดหยุ่นและคุ้มค่า ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

ก้าวสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ไทย: บทสรุปที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2025

มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 ไม่ใช่แค่การจัดแสดงรถยนต์ แต่คือภาพสะท้อนที่ชัดเจนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย การที่ รถยนต์ไฟฟ้า EV สามารถก้าวขึ้นมาเป็นดาวเด่นและครองใจผู้บริโภคได้ขนาดนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและทิศทางที่ชัดเจนของ ตลาดรถยนต์ไทย ในอนาคต การแข่งขันด้าน นวัตกรรมยานยนต์ ราคาโปรโมชั่น และ แคมเปญรถยนต์ จะยังคงเข้มข้นต่อไป เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาทั้งความคุ้มค่า ประสิทธิภาพ และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

อย่าพลาดโอกาสสุดท้าย! หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา รถยนต์คันใหม่ หรือต้องการสัมผัสกับ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ล่าสุด พร้อมคว้า โปรโมชั่นรถยนต์ และ ส่วนลดรถยนต์ ที่ดีที่สุดแห่งปี ขอเชิญชวนทุกท่านไปร่วมสัมผัสประสบการณ์และตัดสินใจด้วยตัวท่านเองที่งาน Motor Expo 2025 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี ซึ่งจะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 โอกาสพิเศษเช่นนี้ไม่ได้มีบ่อยครั้ง อย่ารอช้า แล้วพบกันที่งาน!

งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42: ประตูสู่อนาคตยานยนต์ไทย ยอดจองถล่มทลาย จุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดรถ EV และ Hybrid

คำนำ:

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในแวดวงยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมเฝ้าติดตามทุกย่างก้าวของการเปลี่ยนแปลงในตลาดรถยนต์ไทย และต้องยอมรับว่างานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ “Motor Expo 2025” ที่เพิ่งผ่านพ้นครึ่งทางไปนั้น ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา ยอดจองรถยนต์ที่พุ่งทะยานอย่างมหาศาลกว่า 3.6 หมื่นคันภายในเวลาเพียง 8 วัน ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่น่าประทับใจ แต่เป็นกระจกสะท้อนการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ การสิ้นสุดของมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 ในปลายปี 2568 ได้กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อเร็วขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน งานครั้งนี้จึงมิใช่เพียงเวทีจัดแสดงรถยนต์ แต่คือจุดบรรจบของเทคโนโลยี นโยบาย และพฤติกรรมผู้บริโภคที่กำลังหลอมรวมกันเพื่อกำหนดทิศทางอนาคตของตลาดรถยนต์ไทย

ปรากฏการณ์ Motor Expo 2025: ยอดจองทะลุเป้า ชี้ชัดเทรนด์ยานยนต์แห่งอนาคต

นับเป็นความสำเร็จที่เหนือความคาดหมายสำหรับงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Thailand International Motor Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคม เพียง 8 วันแรกของการจัดงาน ยอดจองรถยนต์จากทุกค่ายพุ่งสูงถึง 36,174 คัน ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 30-45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งสูงกว่าที่ผู้จัดงานเคยคาดการณ์ไว้ การตอบรับที่ล้นหลามนี้เป็นเครื่องยืนยันอย่างชัดเจนถึงความคึกคักและความพร้อมของผู้บริโภคไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ยุคใหม่

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในยอดจองรวมคือสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งกินส่วนแบ่งไปกว่า 52% ตามมาด้วยรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด (xEV) ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ยังคงมีบทบาท แต่ก็เริ่มเห็นการปรับตัวของตลาดอย่างชัดเจน นี่คือสัญญาณที่ไม่ต้องตีความให้ซับซ้อนว่าอนาคตของยานยนต์ในประเทศไทยกำลังถูกขับเคลื่อนด้วยพลังงานทางเลือกอย่างแท้จริง

เจาะลึก 10 อันดับแบรนด์และรุ่นรถยนต์มาแรง: กลยุทธ์ที่มัดใจผู้บริโภค

ความสำเร็จของ Motor Expo 2025 เกิดจากหลายปัจจัย แต่หนึ่งในนั้นคือการแข่งขันที่ดุเดือดของแบรนด์รถยนต์ที่ต่างงัดกลยุทธ์เด็ดมามัดใจผู้บริโภค เรามาดูกันว่า 10 อันดับแรกที่ครองใจผู้จองรถในงานนี้มีใครบ้าง และอะไรคือเบื้องหลังความสำเร็จของพวกเขา:

โตโยต้า (Toyota) – 6,013 คัน (รุ่นเด่น: Toyota Yaris Cross): แม้จะเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งมายาวนาน โตโยต้าก็ยังคงปรับตัวและรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้ ด้วยจุดแข็งด้านความน่าเชื่อถือ บริการหลังการขายที่ทั่วถึง และที่สำคัญคือการนำเสนอรถยนต์ไฮบริดในราคาที่เข้าถึงได้ โดยเฉพาะ Toyota Yaris Cross ที่เข้ามาเติมเต็มตลาด SUV ขนาดเล็กด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่ประหยัดน้ำมันและความอเนกประสงค์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหายานยนต์ที่คุ้มค่าในระยะยาว
บีวายดี (BYD) – 3,154 คัน (รุ่นเด่น: BYD Atto3): BYD ยังคงเป็นดาวเด่นในตลาดรถ EV ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Blade Battery ที่ล้ำสมัย และการกำหนดราคาที่ท้าทายตลาด โดยเฉพาะ BYD Atto3 ที่ยังคงเป็นหัวหอกสำคัญ และแคมเปญกระหน่ำลดราคาสูงสุดกว่า 5 แสนบาทในรุ่น BYD SEAL แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่ม การสร้างระบบนิเวศการขายและบริการที่แข็งแกร่งควบคู่ไปกับการเปิดตัวรถยนต์ที่หลากหลาย ทำให้ BYD ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด EV ของไทยได้อย่างรวดเร็ว
ฮอนด้า (Honda) – 3,039 คัน (รุ่นเด่น: Honda HR-V e:HEV): ฮอนด้ายังคงรักษาฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฮบริดที่ได้รับการยอมรับในเรื่องสมรรถนะและความน่าเชื่อถือ Honda HR-V e:HEV เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ประสบความสำเร็จในการตอบสนองความต้องการของผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ที่ประหยัดพลังงานและมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน
โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo) – 2,678 คัน (รุ่นเด่น: Jaecoo 5 EV): แบรนด์จีนน้องใหม่ที่สร้างความฮือฮาด้วย Jaecoo 5 EV ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัยและราคาที่น่าดึงดูดใจ การเข้าสู่ตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ EV ที่โดดเด่นทำให้ Omoda & Jaecoo สามารถสร้างฐานลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนถึงความกล้าของผู้บริโภคในการเปิดรับแบรนด์ใหม่ที่มีศักยภาพ
เอ็มจี (MG) – 2,360 คัน (รุ่นเด่น: MG S5 EV): MG ยังคงเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาด EV ด้วยการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลายและราคาที่เข้าถึงได้ง่าย MG S5 EV เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการขยายพอร์ตโฟลิโอรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในวงกว้าง ควบคู่ไปกับการจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจอย่างต่อเนื่อง
จีเอซี ไอออน (GAC Aion) – 2,187 คัน (รุ่นเด่น: Aion UT): Aion เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ EV สัญชาติจีนที่กำลังมาแรง ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมและดีไซน์ที่แตกต่าง โดยเฉพาะ Aion UT ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก การบุกตลาดด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มและข้อเสนอที่เหนือความคาดหมาย ทำให้ Aion สามารถสร้างการรับรู้และยอดจองได้อย่างรวดเร็ว
จีลี่ (Geely) – 2,134 คัน (รุ่นเด่น: Geely EX2): Geely สร้างความประหลาดใจด้วยการประกาศไม่เข้าร่วมมาตรการส่งเสริมจากรัฐบาล แต่เน้นการตั้งราคาที่แข่งขันได้ตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเฉพาะ Geely EX2 ที่เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 399,990 บาท การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในคุณภาพและกลยุทธ์การตั้งราคาที่โปร่งใส ซึ่งอาจเป็นแนวทางใหม่ที่ผู้บริโภคให้การตอบรับ
ดีพอล (Deepal) – 2,117 คัน (รุ่นเด่น: Deepal S05): Deepal แบรนด์พรีเมียมในเครือ Changan ที่เน้นเทคโนโลยีล้ำสมัยและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า Deepal S05 เป็นตัวอย่างของรถยนต์ EV ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับประสิทธิภาพ ซึ่งดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่มองหาสิ่งที่แตกต่างและพร้อมสำหรับนวัตกรรม
เกรท วอลล์ มอเตอร์ (Great Wall Motor) – 2,015 คัน (รุ่นเด่น: GWM Tank 300 Diesel): แม้ GWM จะเป็นที่รู้จักในตลาด EV ด้วย ORA Good Cat แต่การที่ GWM Tank 300 Diesel ทำยอดจองติดอันดับ แสดงให้เห็นว่าตลาดยานยนต์สันดาปภายในที่ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม เช่น รถยนต์ออฟโรด ยังคงมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม GWM ก็ยังคงมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนสำหรับรถ EV ในปี 2569 ที่จะเน้นการปรับราคาและเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
มิตซูบิชิ (Mitsubishi) – 1,588 คัน (รุ่นเด่น: Mitsubishi Xforce HEV): มิตซูบิชิกลับมาสร้างสีสันในตลาดด้วย Mitsubishi Xforce HEV รถยนต์ SUV ไฮบริดรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัยและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง การนำเสนอรถยนต์ที่เน้นความคุ้มค่าและความประหยัดในกลุ่มไฮบริดยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญของแบรนด์

วิเคราะห์เจาะลึก: มาตรการรัฐ ตัวแปรสำคัญที่เร่งให้ตลาด EV ร้อนระอุ

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันยอดจองรถยนต์ไฟฟ้าให้พุ่งทะยานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คือการสิ้นสุดของมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าภาครัฐ (EV 3.0) ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งให้การสนับสนุนส่วนลดสูงถึง 150,000 บาทต่อคันสำหรับรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ การที่ผู้บริโภคตระหนักว่านี่คือ “โอกาสสุดท้าย” ในการเข้าถึงรถ EV ในราคาพิเศษ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “เร่งตัดสินใจซื้อ” อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

นอกจากนี้ มาตรการ EV 3.5 ที่จะเริ่มใช้ในปี 2569 ก็มีผลต่อกลยุทธ์การตลาดในงาน Motor Expo ครั้งนี้เช่นกัน โดยเฉพาะรถยนต์ EV ที่นำเข้า จะได้รับการสนับสนุนส่วนลดลดลงจาก 150,000 บาท เหลือ 50,000 บาท และยังมีการปรับภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ผู้ผลิตต้องเร่งระบายสต็อกรถยนต์ที่อยู่ในเกณฑ์ EV 3.0 เพื่อลดภาระต้นทุน และกระตุ้นยอดขายอย่างหนักด้วยแคมเปญและโปรโมชั่นสุดพิเศษ

กลยุทธ์ราคาและการตลาดของผู้ผลิต: สงครามราคาที่ดุเดือด

ในภาวะที่มาตรการรัฐกำลังจะสิ้นสุดลง สงครามราคาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าก็ร้อนแรงถึงขีดสุด ผู้ผลิตแต่ละรายต่างงัดกลยุทธ์ที่หลากหลายออกมาเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาด:

BYD – ผู้นำการตลาดเชิงรุก: BYD และ Reve Group ไม่เพียงมอบส่วนลดที่น่าตกใจ (เช่น BYD SEAL รุ่น Dynamic ลดกว่า 525,000 บาท จาก 1,325,000 บาท เหลือเพียง 799,000 บาท) แต่ยังสร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการมอบ “การรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน” มูลค่า 50,000 บาท ซึ่งเป็นครั้งแรกของตลาดไทย การผสานกลยุทธ์ลดราคาเข้ากับการเพิ่มมูลค่าระยะยาว ทำให้ BYD เป็นตัวเลือกที่ยากจะปฏิเสธ
MG – กลยุทธ์ “ราคาพิเศษรอบสุดท้าย”: MG ยืนยันว่าจะไม่ปรับลดราคารถยนต์ EV ของตนอีกแล้ว โดยชูว่าราคาปัจจุบันคือ “ราคาสุดท้ายจริง ๆ” อย่างเช่น NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ลดถึง 279,000 บาท เหลือ 849,000 บาท (จาก 1,119,900 บาท) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความรู้สึกเร่งด่วนในการตัดสินใจซื้อสำหรับผู้บริโภค
GAC AION – โปรโมชั่น 4 ต่อและของแถมสุดพรีเมียม: AION จัดโปรโมชั่น “คุ้ม 4 ต่อ” ทั้งลดราคารถยนต์ AION V และ AION UT อย่างน่าสนใจ พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่, มอเตอร์ขับเคลื่อน และกล่องควบคุมตลอดอายุการใช้งาน ที่สร้างความมั่นใจในระยะยาว และยังแถมฟรี iPhone 17 มูลค่า 43,900 บาท ซึ่งเป็นของแถมที่ดึงดูดใจกลุ่มลูกค้าเทคโนโลยี
Changan (Deepal) – ดาวน์ 0% และส่วนลดสูงสุด: Changan ตอบสนองความต้องการด้านการเงินด้วยข้อเสนอดาวน์ 0% และผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,990 บาท พร้อมส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท และการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับผู้จองภายในระยะเวลาที่กำหนด
Omoda & Jaecoo – สถิติยอดขายเหนือคาดและโปรโมชั่นปิดท้ายปี: ด้วยยอดส่งมอบ Jaecoo 5 EV ที่เกินเป้าหมายไปแล้ว Omoda & Jaecoo ยังคงมอบราคาพิเศษสำหรับ 3,000 คันสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2568 ซึ่งเป็นกลยุทธ์การขายที่เน้นการทำยอดก่อนมาตรการ EV 3.0 จะหมดอายุ
Geely – ทางเลือกใหม่ ไม่ต้องพึ่งมาตรการรัฐ: Geely เลือกที่จะไม่เข้าร่วมมาตรการรัฐบาล แต่เน้นการกำหนดราคาเริ่มต้นที่แข่งขันได้ โดยเฉพาะ Geely EX2 ที่ 399,990 บาท การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในโครงสร้างต้นทุนและเชื่อว่าการตั้งราคาที่ถูกต้องตั้งแต่แรกจะนำไปสู่ความยั่งยืนโดยไม่ต้องพึ่งพาส่วนลด

ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยปี 2025-2026 และอนาคตที่รออยู่

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์รวมในประเทศไทยปี 2568 จะปิดยอดขายรวมที่ 600,000 คัน เติบโต 3-4% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ดีในสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน และที่สำคัญคือตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะแตะระดับกว่า 100,000 คันในปีนี้ และจะเติบโตต่อเนื่องเป็น 120,000 คันในปี 2569 สะท้อนถึงการยอมรับของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม นายเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจว่า “สงครามราคา” ที่ดุเดือดในปี 2568 อาจจะลดความรุนแรงลงในปี 2569 เนื่องจากเงื่อนไขของมาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลที่จะมีผลต่อต้นทุนราคารถยนต์ ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับกลยุทธ์ไปเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มและบริการหลังการขายมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้จะผลักดันให้ตลาดก้าวเข้าสู่ระยะที่ผู้บริโภคจะพิจารณาจากปัจจัยที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่ราคาเพียงอย่างเดียว

อนาคตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย: ความท้าทายและโอกาส

หลังการสิ้นสุดมาตรการ EV 3.0 และการเปลี่ยนผ่านสู่ EV 3.5 ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะเข้าสู่เฟสใหม่ที่ท้าทายยิ่งขึ้น:

การแข่งขันด้านราคาที่ลดลง: คาดว่าสงครามราคาที่ดุเดือดอาจจะผ่อนคลายลง แต่การแข่งขันด้านเทคโนโลยีและบริการจะเข้มข้นขึ้น
การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: ผู้ผลิตและภาครัฐจะต้องเร่งขยายสถานีชาร์จให้ครอบคลุม เพื่อรองรับจำนวนรถ EV ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่: เทคโนโลยีแบตเตอรี่จะยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการเพิ่มระยะทาง ลดเวลาการชาร์จ และยืดอายุการใช้งาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจของผู้บริโภค
การพิจารณาด้านมูลค่าคงเหลือ (Residual Value): เมื่อรถ EV มีจำนวนมากขึ้น ผู้บริโภคจะเริ่มพิจารณาถึงมูลค่าคงเหลือเมื่อต้องการขายต่อหรือเปลี่ยนรถ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้ผลิตต้องให้ความสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่น
การยกระดับบริการหลังการขาย: ด้วยความซับซ้อนของเทคโนโลยี EV การบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ การจัดหาอะไหล่ที่รวดเร็ว และช่างผู้เชี่ยวชาญ จะเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างความพึงพอใจและความภักดีของลูกค้า

บทสรุปและคำเชิญชวน:

งานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 Motor Expo 2025 ไม่ใช่แค่บันทึกสถิติยอดจอง แต่เป็นหน้าประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงรุกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย การที่รถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริดกลายเป็นขุมพลังหลักที่ขับเคลื่อนตลาด แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริโภคไทยที่พร้อมเปิดรับนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน แม้ว่ามาตรการภาครัฐกำลังจะสิ้นสุดลง แต่พลวัตที่เกิดขึ้นได้ปูทางไปสู่ตลาดที่เติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผมในฐานะผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมนี้มานานเชื่อมั่นว่านี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดของการเปลี่ยนผ่าน

สำหรับท่านที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่ หรือสนใจในเทคโนโลยี EV ที่กำลังมาแรง นี่คือช่วงเวลาแห่งโอกาสทองในการศึกษาและตัดสินใจ เพราะไม่ว่าคุณจะเลือกเส้นทางใด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม รถไฮบริดเพื่อความประหยัด หรือรถยนต์สันดาปที่ยังคงตอบโจทย์เฉพาะด้าน ตลาดรถยนต์ไทยในปี 2025-2026 มีข้อเสนอที่หลากหลายและน่าสนใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

อย่าพลาดโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่อนาคตแห่งยานยนต์นี้! เราขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสำรวจโลกแห่งนวัตกรรมยานยนต์ และเลือกสรรสิ่งที่ตอบโจทย์ชีวิตและสไตล์ของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด เพราะการขับขี่ในวันพรุ่งนี้ เริ่มต้นจากการตัดสินใจที่ชาญฉลาดในวันนี้

Previous Post

N1512349 ไม ชอบ แค บอกสาม ไล ออก #มายป ณย ปานวาด part 2

Next Post

N1512346 แล วแบบน จะแต งก นได งไง #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท อนส งคม part 2

Next Post
N1512346 แล วแบบน จะแต งก นได งไง #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท อนส งคม part 2

N1512346 แล วแบบน จะแต งก นได งไง #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท อนส งคม part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1612666 ในว นท เม ยนอกใจ! Part 2
  • N1612663 ำใจส งต อผ part 2
  • N1612670 รถหร สำหร บพน กงานของฉ part 2
  • N1612668 ความซ อส ตย เป นค ณสมบ ของคนด part 2
  • N1612661 ทำไมแต งช ดออกกำล งกายมาทำงาน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.