• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1212115 ลาออกมาเป ดร านชาบ จนได เจอก บท านประธาน part 2

admin79 by admin79
December 14, 2025
in Uncategorized
0
N1212115 ลาออกมาเป ดร านชาบ จนได เจอก บท านประธาน part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

Motor Expo 2025: ทุบสถิติยอดจองทะลุ 3.6 หมื่นคัน – เปิดกลยุทธ์ EV เขย่าตลาด และ 10 อันดับรุ่นฮิตที่ต้องจับตา

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของตลาดรถยนต์ไทยมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2025 นี้ มหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo 2025 ได้พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่าตลาดแห่งนี้ยังคงเต็มไปด้วยพลวัตและความตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการขับเคลื่อนของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว

งาน Motor Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ตั้งแต่ช่วงครึ่งทางของการจัดงาน เพียง 8 วันแรก (28 พ.ย. – 5 ธ.ค. 2568) ยอดจองรถยนต์ทุกค่ายพุ่งทะยานไปถึง 36,174 คัน ซึ่งนับเป็นการเติบโตที่น่าจับตา และสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอย่างชัดเจน ตัวเลขนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ยอดขาย แต่เป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของตลาดรถยนต์ครั้งใหญ่ โดยมีรถยนต์พลังงานทางเลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รถยนต์ไฟฟ้า 2025 เป็นหัวหอกสำคัญ

ภูมิทัศน์ตลาดที่เปลี่ยนไป: EV นำทัพ, ไฮบริดตามมาติดๆ

จากการวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดพบว่า กว่า 52% ของยอดจองทั้งหมดเป็นของ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามมาด้วยรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด (xEV) ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) ยังคงมีบทบาทในบางกลุ่มตลาด แม้ส่วนแบ่งจะลดลงก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างนโยบายภาครัฐ, ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความตระหนักของผู้บริโภคต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและต้นทุนพลังงาน

นายชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน Motor Expo 2025 ได้กล่าวถึงสถานการณ์โดยรวมว่า งานในปีนี้ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และคาดการณ์ว่ายอดจองรวมจะสูงกว่าปีก่อนอย่างน้อย 30-40% จากยอดจองรถยนต์รวม 54,513 คัน และรถจักรยานยนต์อีก 7,982 คันในปีที่ผ่านมา ปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อในครั้งนี้คือ “กระแสการปรับภาษี” และ “มาตรการ EV ที่กำลังจะสิ้นสุดลง” ซึ่งสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรถตัดสินใจได้ง่ายขึ้นในโค้งสุดท้ายของปี

มาตรการ EV: แรงกระตุ้นแห่งการตัดสินใจ

หัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนยอดขาย รถยนต์ไฟฟ้า ในช่วงนี้คือ “มาตรการส่งเสริม EV” ของไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการ EV3.0 ที่จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งรถยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการนี้จะได้รับการสนับสนุนส่วนลดสูงสุดถึง 150,000 บาทต่อคัน ส่วนรถยนต์ที่จะเข้าร่วมมาตรการ EV3.5 ในปี 2569 การสนับสนุนส่วนลดจะลดลงเหลือ 50,000 บาทต่อคัน และมีการปรับภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10% การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องเร่งระบายสต็อกและกระตุ้นยอดขายอย่างดุเดือด ด้วยการอัดฉีด โปรโมชั่นรถ EV และแคมเปญสุดพิเศษมากมาย เพื่อดึงดูดผู้บริโภคให้ตัดสินใจซื้อก่อนที่ มาตรการ EV3.5 จะมีผลบังคับใช้ และทำให้ ราคา EV ในอนาคตอาจปรับตัวสูงขึ้น

10 อันดับรถยนต์ที่มาแรงที่สุดใน Motor Expo 2025: เผยโฉมดาวเด่นแห่งยุค

จากข้อมูลของ ซื้อรถชิงรถ นี่คือ 10 อันดับค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุด และรุ่นรถยนต์ที่เป็นดาวเด่นของแต่ละค่าย:

โตโยต้า (Toyota): ยอดจอง 6,013 คัน – Toyota Yaris Cross รถยนต์ครอสโอเวอร์ไฮบริดที่มาพร้อมดีไซน์โดดเด่นและเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์สำหรับการใช้งานในเมือง

บีวายดี (BYD): ยอดจอง 3,154 คัน – BYD Atto 3 ยังคงเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและ ราคา BYD Atto 3 ที่เข้าถึงได้ง่าย BYD ได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด EV ในประเทศไทย ยอดจองนี้คำนวณจากผู้ลงทะเบียนซื้อรถชิงรถ ซึ่งสะท้อนความสนใจที่แท้จริง

ฮอนด้า (Honda): ยอดจอง 3,039 คัน – Honda HR-V e:HEV โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตและระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ประหยัดน้ำมัน ทำให้ HR-V e:HEV ยังคงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการความสมดุลระหว่างสมรรถนะและความคุ้มค่า

โอโมด้า แอนด์ เจคู (Omoda & Jaecoo): ยอดจอง 2,678 คัน – Jaecoo 5 EV รถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายน้องใหม่ที่สร้างความฮือฮาด้วยดีไซน์ล้ำสมัยและเทคโนโลยีที่น่าสนใจ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของแบรนด์จีนหน้าใหม่ที่เข้ามาตีตลาดไทย

เอ็มจี (MG): ยอดจอง 2,360 คัน – MG S5 EV รถยนต์ไฟฟ้าอีกรุ่นที่มาแรงจาก MG ซึ่งนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายและ โปรโมชั่นรถยนต์ MG ที่น่าสนใจ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค

จีเอซี (GAC AION): ยอดจอง 2,187 คัน – Aion UT จากค่าย GAC AION ยืนยันถึงการเข้ามาของ รถยนต์จีนในไทย ที่เน้นเทคโนโลยีและ ราคา EV ที่แข่งขันได้

จีลี่ (Geely): ยอดจอง 2,134 คัน – Geely EX2 รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มาพร้อม ราคา Geely EX2 ที่ดึงดูดใจเป็นอย่างมาก Geely แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่แตกต่างในการเข้าสู่ตลาด

ดีพอล (Deepal): ยอดจอง 2,117 คัน – Deepal S05 รถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมจาก Changan ที่ได้รับความสนใจด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

เกรทวอลล์มอเตอร์ (GWM): ยอดจอง 2,015 คัน – GWM Tank 300 Diesel แสดงให้เห็นว่าแม้ในยุคของ EV รถยนต์ดีเซลที่แข็งแกร่งและลุยได้ก็ยังคงมีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น GWM ยังคงเป็นผู้เล่นที่หลากหลายในตลาด

มิตซูบิชิ (Mitsubishi): ยอดจอง 1,588 คัน – Mitsubishi Xforce HEV รถยนต์ครอสโอเวอร์ไฮบริดรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมความแข็งแกร่งและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถยนต์ที่ทนทานและประหยัดพลังงาน

กลยุทธ์สุดหฤโหดของค่ายรถยนต์: แคมเปญถล่มทลายในโค้งสุดท้าย

เพื่อเร่งระบายสต็อกและกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นสุดมาตรการ EV3.0 ค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้งัดแคมเปญเด็ดออกมาแข่งกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะกลุ่ม รถยนต์พลังงานใหม่ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากนโยบายภาครัฐ

BYD – Rever Group: จัดเต็มด้วยเงื่อนไข ส่วนลดรถยนต์ไฟฟ้า ที่ดีที่สุด มอบการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานเป็นครั้งแรก มูลค่า 50,000 บาท สำหรับลูกค้าที่ซื้อ BYD Dolphin และ BYD Atto 3 ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2568 และยังวอร์แรนตีย้อนหลังให้ลูกค้าที่ซื้อรถตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ด้วย

สำหรับรถยนต์นำเข้ารุ่น BYD SEAL ที่เข้าร่วมมาตรการ EV3.5 มี ส่วนลด BYD SEAL ที่น่าตกใจถึง 525,000 บาท ในรุ่น Dynamic จากราคาปกติ 1,325,000 บาท เหลือเพียง 799,000 บาท! รุ่น Premium ลด 549,100 บาท จากราคาปกติ 1,449,000 บาท นอกจากนี้ BYD SEALION 7 (นำเข้า) รุ่น Premium ก็ลด 175,000 บาท เหลือ 1,074,900 บาท เรียกได้ว่าเป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของ EV ประสิทธิภาพสูงในราคาที่คุ้มค่า

GAC AION: จัดโปรโมชั่นคุ้ม 4 ต่อ ส่งท้ายมาตรการ EV ด้วย ราคา AION V ที่สุดคุ้ม 899,000 บาท (จากปกติ 1,020,900 บาท) และ AION UT Standard ลดเหลือ 469,000 บาท (จาก 519,900 บาท) รุ่น Premium ลดเหลือ 599,900 บาท (จาก 669,900 บาท) พร้อมรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ขับเคลื่อน และกล่องควบคุมตลอดอายุการใช้งาน และของแถมพิเศษอย่าง iPhone 17 มูลค่า 43,900 บาท ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคได้อย่างมหาศาล

Changan (Deepal): นำเสนอเงื่อนไขทางการเงินที่น่าสนใจ ด้วยดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท และ ส่วนลดรถยนต์ไฟฟ้า Deepal สูงสุดถึง 150,000 บาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน สำหรับผู้ที่จอง Deepal S05 ภายในงาน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเจาะตลาดผู้ที่ต้องการ ซื้อรถใหม่ 2568 ด้วยข้อเสนอที่เบาภาระ

Omoda & Jaecoo: หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามกับ JAECOO 5 EV ที่มียอดส่งมอบกว่า 12,000 คัน ภายใน 10 เดือน บริษัทได้ตัดสินใจมอบ ราคา Jaecoo 5 EV พิเศษอีก 3,000 คันสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2568 ในราคาเริ่มต้นเพียง 549,000 บาท (จาก 629,000 บาท) และลดราคาสูงสุด 250,000 บาท สำหรับ JAECOO 6 EV และ 100,000 บาท สำหรับ JAECOO 7 SHS

MG: ยืนยันว่าจะไม่ปรับลด ราคาจำหน่ายรถยนต์ EV ของ MG อีกแล้ว เนื่องจากราคาล่าสุดถือเป็นราคาสุดท้าย โดยเฉพาะ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ลดถึง 279,000 บาท เหลือเพียง 849,000 บาท และ MG IM6 ที่มาพร้อมแพ็คเกจประกันภัยและดอกเบี้ย 0.99% นอกจากนี้ MG4 ELECTRIC รุ่นอื่น ๆ ยังมีราคาเริ่มต้นเพียง 519,900 บาท และ MG ZS EV เริ่มต้น 499,900 บาท ซึ่งเป็น โปรโมชั่นรถ EV ที่แข่งขันได้ในตลาด

GWM: นายเวย์น โจว กรรมการผู้จัดการ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย คาดการณ์ว่าสงครามราคาในปี 2568 ค่อนข้างรุนแรง และในปี 2569 อาจจะลดความรุนแรงลง GWM มีแผนปรับขึ้น ราคา ORA Good Cat เล็กน้อยในปี 2569 แต่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์พิเศษ เช่น ฟรีโปรแกรมช่วยผ่อน เดือนละ 5,000 บาท ประกันภัยชั้นหนึ่ง 2 ปี และบำรุงรักษาตามระยะทาง 5 ปี มูลค่า 11,000 บาท แสดงให้เห็นถึงการปรับกลยุทธ์จากการลดราคาไปสู่การเพิ่มมูลค่า

Geely: นายณรงค์ สีตลายน ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Geely ยืนยันว่าจะไม่เข้าร่วมมาตรการภาครัฐ แต่จะมุ่งเน้นการตั้ง ราคา Geely EX2 ที่สามารถจับต้องได้ง่าย เริ่มต้นที่ 399,990 บาท สำหรับ 2,000 คันแรก ซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในการแข่งขันด้วยราคาที่แท้จริง

Leapmotor Thailand: ส่งรุ่นพิเศษ C10 Limited Edition Kinetix Model ราคา 928,000 บาท เพียง 100 คัน และแคมเปญบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร มูลค่า 20,000 บาท สำหรับผู้ที่จองรถภายในงานและรับรถภายในเดือนธันวาคม 2568

ยอดจดทะเบียน EV สะท้อนเทรนด์ตลาด

ข้อมูลจากกรมการขนส่งทางบกในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-พ.ย. 2568) มียอดจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสะสม 10,330 คัน โดย 5 อันดับแรกคือ JAECOO (2,498 คัน), BYD (1,885 คัน), MG (1,265 คัน), AION (888 คัน) และ Deepal (558 คัน) ตัวเลขเหล่านี้ตอกย้ำถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด EV และการเข้ามามีบทบาทอย่างแข็งแกร่งของแบรนด์จีนในประเทศไทย

ภาพรวมและแนวโน้มอนาคตของตลาดรถยนต์ไทย

นายพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ไทย 2568 จะปิดยอดขายรวมที่ 600,000 คัน เติบโต 3-4% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ดีในสภาวะตลาดปัจจุบัน ส่วนตลาดรถยนต์ไฟฟ้าคาดว่าจะอยู่ที่กว่า 100,000 คันในปี 2568 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 120,000 คันในปี 2569 การเติบโตนี้บ่งชี้ว่า เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า กำลังกลายเป็นกระแสหลัก และผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องประสิทธิภาพ ความประหยัด และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า Motor Expo 2025 ไม่ได้เป็นเพียงงานแสดงรถยนต์ แต่เป็นเวทีที่สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของอุตสาหกรรม การแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างค่ายรถยนต์ทั้งเก่าและใหม่ โดยเฉพาะแบรนด์จีนที่เข้ามาเขย่าตลาดด้วย ราคา EV และ โปรโมชั่นรถ EV ที่ยากจะปฏิเสธ การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของตลาดในอนาคต

สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณา ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือ ซื้อรถใหม่ 2568 ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการตัดสินใจ เนื่องจากการแข่งขันด้านราคาและแคมเปญส่งเสริมการขายที่เข้มข้นที่สุดในรอบปี กำลังจะสิ้นสุดลงพร้อมกับการเปลี่ยนผ่านสู่มาตรการ EV3.5

อย่าพลาดโอกาสครั้งสำคัญ!

หากคุณกำลังมองหารถยนต์คันใหม่ หรือต้องการสัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ขอเชิญชวนทุกท่านเยี่ยมชมงาน Motor Expo 2025 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 นี่คือโอกาสสุดท้ายที่คุณจะได้พบกับ ข้อเสนอ Motor Expo 2025 ที่ดีที่สุด และตัดสินใจเป็นเจ้าของยานยนต์คู่ใจก่อนที่โอกาสทองเหล่านี้จะหมดไป อย่ารอช้า! มาสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต และคว้าข้อเสนอสุดพิเศษที่คุณไม่ควรพลาด!

มอเตอร์เอ็กซ์โป 2025 เขย่าวงการ: ยอดจองพุ่ง 3.6 หมื่นคัน วิเคราะห์ 10 แบรนด์เด่น และอนาคตยานยนต์ไทย

ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงมากมายในตลาดรถยนต์ไทย แต่ต้องยอมรับว่ามหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 42 หรือ Motor Expo 2025 ที่เพิ่งผ่านพ้นครึ่งทางไปนั้น ได้สร้างปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา และอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมเลยทีเดียว ด้วยยอดจองรถยนต์ที่พุ่งทะยานกว่า 36,000 คัน ภายในเวลาเพียง 8 วันแรก แสดงให้เห็นถึงพลังของผู้บริโภคและความพร้อมของตลาดในการก้าวเข้าสู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และไฮบริดอย่างเต็มตัว การจัดงานระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน – 5 ธันวาคมนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การแสดงนวัตกรรม แต่คือสมรภูมิแห่งการแข่งขันอันดุเดือดที่แบรนด์น้อยใหญ่ต่างงัดกลยุทธ์และโปรโมชั่นสุดร้อนแรงมานำเสนอเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดในโค้งสุดท้ายก่อนมาตรการภาครัฐจะสิ้นสุดลง

ปรากฏการณ์ยอดจองถล่มทลาย: ตัวเลขที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลง

จากข้อมูลที่น่าสนใจ มหกรรมยานยนต์ครั้งนี้มียอดจองสะสมสูงถึง 36,174 คัน ถือเป็นการเติบโตที่น่าประทับใจถึง 30-45% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า สิ่งที่เด่นชัดที่สุดคือสัดส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่พุ่งขึ้นไปแตะ 52% ของยอดจองทั้งหมด ตามมาด้วยรถยนต์เครื่องยนต์ไฮบริด (xEV) ที่ยังคงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดและประสิทธิภาพ แต่ยังคงกังวลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน EV ขณะที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ก็ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดอยู่บ้าง แต่ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าทิศทางของตลาดกำลังมุ่งไปสู่พลังงานทางเลือกอย่างไม่อาจปฏิเสธได้

คุณชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน Motor Expo 2025 ได้กล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า ยอดจองที่ทะลุเป้าในปีนี้เป็นผลมาจากกระแสการปรับภาษีและมาตรการส่งเสริม EV ที่กำลังจะสิ้นสุดลง ทำให้ผู้บริโภคที่กำลังลังเลใจตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ประกอบกับช่วงวันหยุดยาวที่เหลือของงาน คาดว่ายอดจองรวมจะสูงกว่าปีก่อนอย่างน้อย 30-40% ซึ่งสะท้อนความคึกคักและความกระตือรือร้นของตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่

เจาะลึก 10 อันดับแบรนด์ครองใจผู้บริโภค: ใครคือผู้ชนะตัวจริง?

การแข่งขันในงาน Motor Expo ครั้งนี้เข้มข้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน แต่ละค่ายต่างมีกลยุทธ์และโมเดลเด่นที่ดึงดูดใจผู้ซื้อได้อย่างล้นหลาม มาดูกันว่า 10 อันดับแรกที่กวาด ยอดจองรถ สูงสุดมีใครบ้าง และรถยนต์รุ่นใดคือดาวเด่นของแต่ละค่าย (อ้างอิงจากข้อมูลการซื้อรถชิงรถ ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2568):

Toyota (โตโยต้า): 6,013 คัน – Toyota Yaris Cross
แม้ตลาดจะเริ่มเอียงไปทาง EV แต่ Toyota ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในตลาดไฮบริดและ ICE ด้วยยอดจองอันดับหนึ่ง โดยเฉพาะ Toyota Yaris Cross ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็กที่ประหยัดน้ำมัน ดีไซน์ทันสมัย และเชื่อมั่นในแบรนด์ โตโยต้ายังคงเป็นเจ้าตลาดที่ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีใหม่และฐานลูกค้าเดิม

BYD (บีวายดี): 3,154 คัน – BYD Atto 3
ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า BYD คือผู้เล่นหน้าใหม่ที่สร้างแรงกระเพื่อมอย่างมหาศาลในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าไทย ด้วย BYD Atto 3 ที่ยังคงเป็นรุ่นยอดนิยม ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ เทคโนโลยีที่ล้ำหน้า และระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ กลยุทธ์การตลาดที่เน้นการสร้างความเชื่อมั่นและการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน ทำให้ BYD ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาด EV อย่างรวดเร็ว แม้ข้อมูลยอดจองจะมาจากการคำนวณ แต่ตัวเลขก็สะท้อนถึงอิทธิพลของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน

Honda (ฮอนด้า): 3,039 คัน – Honda HR-V e:HEV
Honda ยังคงเป็นแบรนด์ขวัญใจคนไทย ด้วย Honda HR-V e:HEV ที่ผสมผสานดีไซน์สปอร์ต ความอเนกประสงค์ และระบบขับเคลื่อนไฮบริด e:HEV อันทรงประสิทธิภาพเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันแต่ยังคงสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และเชื่อมั่นในเทคโนโลยีไฮบริดของฮอนด้า

OMODA & JAECOO (โอโมด้า แอนด์ เจคู): 2,678 คัน – Jaecoo 5 EV
แบรนด์หน้าใหม่จากจีนที่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยยอดจองที่ติดอันดับต้นๆ โดยเฉพาะ Jaecoo 5 EV ที่เข้ามาเขย่าตลาด รถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นใหม่ 2025 ด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน และราคาที่น่าดึงดูดใจ สะท้อนถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของรถยนต์จากค่ายจีน

MG (เอ็มจี): 2,360 คัน – MG S5 EV
MG ยังคงรักษาตำแหน่งผู้บุกเบิกตลาด EV ในไทยได้เป็นอย่างดี ด้วย MG S5 EV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยและราคาที่สามารถแข่งขันได้ MG ยังคงเดินหน้าสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งและมอบทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค

GAC (AION) (จีเอซี ไอออน): 2,187 คัน – AION UT
GAC AION เป็นอีกหนึ่งแบรนด์จีนที่เข้ามาสร้างสีสันในตลาด ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วย AION UT ที่โดดเด่นในด้านเทคโนโลยีและประสิทธิภาพ การจัดโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจทำให้ AION สามารถสร้างยอดจองได้อย่างน่าทึ่ง

Geely (จีลี่): 2,134 คัน – Geely EX2
Geely เข้ามาพร้อมกลยุทธ์ที่แตกต่าง โดยการตั้งราคาที่จับต้องได้ตั้งแต่แรกเริ่มสำหรับ Geely EX2 ที่ 399,990 บาท โดยไม่เน้นการเข้าร่วมมาตรการภาครัฐ แต่เน้นสร้างความเชื่อมั่นในคุณค่าของผลิตภัณฑ์ ถือเป็นแนวทางที่น่าจับตาในตลาด รถยนต์ประหยัดพลังงาน

Deepal (ดีพอล): 2,117 คัน – Deepal S05
Deepal แบรนด์จาก Changan ที่เข้ามาทำตลาด รถ EV ในไทยได้อย่างน่าประทับใจ ด้วย Deepal S05 ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และเทคโนโลยี การนำเสนอเงื่อนไขทางการเงินที่ยืดหยุ่น เช่น ดาวน์ 0% และผ่อนเริ่มต้นต่ำ ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างขึ้น

Great Wall Motor (เกรทวอลล์มอเตอร์): 2,015 คัน – GWM Tank 300 Diesel
GWM ยังคงมีความแข็งแกร่งในตลาด ด้วย GWM Tank 300 Diesel ที่ตอบโจทย์ผู้ที่มองหารถยนต์ออฟโรดสมรรถนะสูง แต่ก็ยังคงนำเสนอรถ EV อย่าง ORA Good Cat ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

Mitsubishi (มิตซูบิชิ): 1,588 คัน – Mitsubishi Xforce HEV
มิตซูบิชิยังคงมีส่วนแบ่งในตลาด ด้วย Mitsubishi Xforce HEV ที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์อเนกประสงค์ไฮบริดที่ใช้งานง่ายและเชื่อถือได้

ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันยอดจอง: มาตรการรัฐและสงครามโปรโมชั่น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในตัวเร่งสำคัญของยอดจองที่พุ่งทะยานใน Motor Expo 2025 คือวันสิ้นสุดของมาตรการส่งเสริม EV ของประเทศไทยในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมมาตรการ EV3.0 จะได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 150,000 บาท ขณะที่รถยนต์ที่เข้าร่วมมาตรการ EV3.5 การสนับสนุนส่วนลดจะลดลงเหลือ 50,000 บาท และภาษีสรรพสามิตจะปรับเพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 10%

สถานการณ์นี้ทำให้ค่ายรถยนต์ต้องเร่งระบายสต็อกและกระตุ้นยอดขายอย่างหนัก เพื่อลดภาระต้นทุนและสร้างยอดก่อนสิ้นปี ทำให้เกิดปรากฏการณ์ “สงครามราคา” และ “สงครามโปรโมชั่น” ที่ดุเดือด โดยเฉพาะกลุ่ม ยานยนต์ไฟฟ้า ที่มีแคมเปญลด แลก แจก แถม อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการให้ส่วนลดเงินสดมหาศาล, การรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน, ดอกเบี้ย 0%, หรือแม้กระทั่งของแถมอย่าง iPhone 17

กลยุทธ์เด็ดของแต่ละค่ายในโค้งสุดท้าย:

BYD-Rever Group: สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยการมอบการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งาน มูลค่า 50,000 บาท สำหรับ BYD Dolphin และ BYD Atto 3 พร้อมส่วนลดมหาศาลสำหรับรถนำเข้าอย่าง BYD SEAL ที่ลดสูงสุดกว่า 525,000 บาท ทำให้รุ่น Dynamic เหลือเพียง 799,000 บาท จากราคาปกติ 1,325,000 บาท นี่คือการเคลื่อนไหวที่ฉลาดมาก เพราะไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้ซื้อด้วยราคา แต่ยังสร้างความมั่นใจในระยะยาว ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญสำหรับ ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

GAC AION: จัดโปรโมชั่น “คุ้ม 4 ต่อ” ส่งท้ายมาตรการ EV ไม่ว่าจะเป็น AION V ที่ราคาพิเศษ 899,000 บาท และ AION UT ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 469,000 บาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ มอเตอร์ และกล่องควบคุมตลอดอายุการใช้งาน และไฮไลต์เด็ดคือการแถม iPhone 17 มูลค่า 43,900 บาท ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความฮือฮาได้อย่างมาก

Changan (Deepal): เน้นเงื่อนไขทางการเงินที่ยืดหยุ่น เช่น ดาวน์ 0% ผ่อนเริ่มต้น 2,990 บาท และส่วนลดสูงสุด 150,000 บาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานสำหรับผู้ที่จองภายในงาน ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการเข้าถึง รถ EV ด้วยภาระทางการเงินที่เบาลง

OMODA & JAECOO: หลังจากการเปิดตัว Jaecoo 5 EV ด้วยราคาพิเศษที่ทำให้ยอดส่งมอบทะลุ 12,000 คันภายใน 10 เดือน บริษัทตัดสินใจมอบราคาพิเศษอีกครั้งสำหรับ 3,000 คันสุดท้ายก่อนสิ้นปี โดย Jaecoo 5 EV Long Range Dynamic ราคา 549,000 บาท จากปกติ 629,000 บาท แสดงถึงความมุ่งมั่นในการเข้าถึงตลาด

MG: ประกาศย้ำว่าราคาจำหน่ายรถยนต์ EV ล่าสุดคือ “ราคาสุดท้าย” แล้ว โดยเฉพาะ NEW MG4 ELECTRIC รุ่น XPOWER ที่ลดไปถึง 279,000 บาท เหลือเพียง 849,000 บาท (จาก 1,119,900 บาท) จำนวนจำกัด 90 คัน นอกจากนี้ยังคงมีข้อเสนอพิเศษสำหรับรุ่นอื่นๆ เช่น MG ZS EV และ MG EP PLUS สะท้อนถึงการปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับตลาดที่แข่งขันดุเดือด

Great Wall Motor (GWM): แม้จะเผชิญกับสงครามราคาในปี 2568 แต่ GWM คาดการณ์ว่าความรุนแรงจะลดลงในปี 2569 ตามเงื่อนไขมาตรการรัฐ และจะมีการปรับขึ้นราคา ORA Good Cat ในปี 2569 แต่ก็ยังคงมอบสิทธิประโยชน์ เช่น โปรแกรมช่วยผ่อน และประกันภัยชั้นหนึ่ง 2 ปี แสดงถึงความพยายามรักษาสมดุลระหว่างราคาและการบริการหลังการขาย

Geely: ยืนยันจุดยืนไม่เข้าร่วมมาตรการรัฐบาล โดยเน้นทำงานร่วมกับบริษัทแม่เพื่อตั้งราคาที่ “ถูกต้อง” ตั้งแต่วันแรกสำหรับ Geely EX2 ที่ราคาเริ่มต้น 399,990 บาท และเชื่อมั่นว่าหากได้รับการตอบรับที่ดี จะสามารถคงราคานี้ต่อไปได้โดยไม่ต้องพึ่งแคมเปญลดราคา นี่คือกลยุทธ์ที่น่าสนใจและท้าทายในตลาดที่เน้นการแข่งขันด้วยราคา

Leapmotor (พระนครยนตรการ): นำเสนอ Leapmotor C10 Limited Edition Kinetix Model จำนวนจำกัด 100 คัน ในราคา 928,000 บาท พร้อมแคมเปญบำรุงรักษา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ภาพรวมตลาดและการคาดการณ์อนาคต: ก้าวต่อไปของยานยนต์ไทย

คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ประเมินว่าภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยตลอดปี 2568 จะปิดยอดขายรวมที่ 600,000 คัน เติบโต 3-4% ซึ่งถือเป็นอัตราที่ดี แม้จะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก แต่ที่น่าจับตาคือตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ที่คาดว่าจะสูงถึงกว่า 100,000 คันในปี 2568 และจะเติบโตต่อเนื่องเป็น 120,000 คันในปี 2569 นี่คือตัวเลขที่ตอกย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญในวงการ ผมมองว่าปี 2569 จะเป็นปีแห่งการปรับสมดุล หลังจากการสิ้นสุดมาตรการ EV3.0 และ EV3.5 สงครามราคาอาจจะลดความรุนแรงลง และค่ายรถยนต์จะเริ่มหันมาแข่งขันกันด้วย “คุณค่า” (Value Proposition) มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี นวัตกรรม การบริการหลังการขาย สถานีชาร์จ การรับประกัน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ รถยนต์ไฟฟ้า 2025 และในปีต่อๆ ไป

การแข่งขันในตลาด ยานยนต์ไฟฟ้า จะยังคงดุเดือด แต่ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเลือกสรรเทคโนโลยีและบริการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตนเองได้อย่างแท้จริง แบรนด์จีนได้พิสูจน์แล้วว่ามีศักยภาพในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้ ขณะที่แบรนด์ญี่ปุ่นก็กำลังเร่งปรับตัวและนำเสนอเทคโนโลยีไฮบริดและ EV ที่ล้ำสมัยเข้าสู่ตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ

สรุปและคำเชิญชวน:

มหกรรมยานยนต์ Motor Expo 2025 ไม่ใช่เพียงแค่บันทึกสถิติยอดจอง แต่เป็นการประกาศศักราชใหม่ของ ตลาดรถยนต์ไทย ที่ก้าวเข้าสู่ยุคของพลังงานทางเลือกอย่างเต็มตัว ด้วยยอดจองที่ถล่มทลายและกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยม สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคในการขับเคลื่อนสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเปี่ยมด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและโปรโมชั่นสุดร้อนแรงได้สร้างโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหา รถยนต์ไฟฟ้า EV รุ่นใหม่ 2025 หรือ รถไฮบริด ที่คุ้มค่า

ในฐานะที่ผมได้ติดตามและคลุกคลีอยู่ในวงการนี้มาอย่างยาวนาน ผมมั่นใจว่าช่วงเวลานี้คือโอกาสที่ดีที่สุดที่คุณจะได้สัมผัสกับนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ด้วยข้อเสนอและราคาที่ไม่อาจหาได้อีกแล้ว หากคุณกำลังพิจารณาที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ อย่ารอช้า! มาเยี่ยมชมบูธต่างๆ ภายในงาน Motor Expo 2025 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ เมืองทองธานี จนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2568 เพื่อสัมผัสกับรถยนต์ในฝันของคุณด้วยตาตัวเอง หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ โปรโมชั่นรถยนต์ไฟฟ้า และ เงื่อนไขสินเชื่อรถยนต์ไฟฟ้า ดอกเบี้ยต่ำ จากเว็บไซต์และตัวแทนจำหน่ายต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสครั้งสำคัญในการเป็นเจ้าของยานยนต์แห่งอนาคตก่อนใคร และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคยานยนต์สีเขียวไปพร้อมกัน!

Previous Post

N1312121 หาก นบนความเด อดร อนคน แบบน องเจอ part 2

Next Post

N1212118 เพ อนก นม นต องขนาดน ไหม part 2

Next Post
N1212118 เพ อนก นม นต องขนาดน ไหม part 2

N1212118 เพ อนก นม นต องขนาดน ไหม part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1612666 ในว นท เม ยนอกใจ! Part 2
  • N1612663 ำใจส งต อผ part 2
  • N1612670 รถหร สำหร บพน กงานของฉ part 2
  • N1612668 ความซ อส ตย เป นค ณสมบ ของคนด part 2
  • N1612661 ทำไมแต งช ดออกกำล งกายมาทำงาน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.