• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1212313 ไม เจอก นมา พฤต กรรมก ไม นเลย #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท part 2

admin79 by admin79
December 12, 2025
in Uncategorized
0
N1212313 ไม เจอก นมา พฤต กรรมก ไม นเลย #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสะท part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

Bentley Speed: บทส่งท้าย W12 อันเป็นตำนาน สู่ยุคใหม่แห่งอัครยานยนต์ไฟฟ้า 2025

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการอัครยานยนต์ที่คร่ำหวอดมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก แต่มีเพียงไม่กี่แบรนด์ที่สามารถรักษาสมดุลระหว่างมรดกอันล้ำค่าและวิสัยทัศน์แห่งอนาคตได้อย่างงดงามเท่า Bentley และ ณ ปี 2025 นี้ เรากำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ เมื่อเราต้องกล่าวคำอำลาต่อเครื่องยนต์ W12 อันทรงพลัง ซึ่งเป็นหัวใจที่เต้นอยู่ในโมเดล Bentley Speed ที่ได้สร้างนิยามใหม่ของคำว่า “สมรรถนะ” ในแบบฉบับความหรูหรา นี่ไม่ใช่เพียงแค่การสิ้นสุดการผลิต แต่คือการปิดฉากบทอันยิ่งใหญ่ของวิศวกรรมยานยนต์ที่บริสุทธิ์ ก่อนที่ Bentley จะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัวภายใต้กลยุทธ์ “Beyond100”

Bentley Speed ได้รับการยอมรับมาโดยตลอดว่าเป็นจุดสูงสุดแห่งประสิทธิภาพและพลวัตการขับขี่ของ Bentley ตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2546 เครื่องยนต์ W12 ได้ขับเคลื่อนอัครยานยนต์เรือธงเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น Continental GT Convertible Speed, Continental GT Speed, Flying Spur Speed และ Bentayga Speed สู่ระดับที่ไม่เคยมีใครคาดถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ ปี 2025 นี้ หลังจากที่เครื่องยนต์ W12 ได้ยุติสายการผลิตไปแล้ว ความพิเศษของรุ่น Speed เหล่านี้กลับทวีคูณขึ้น กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่จับต้องได้ เป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยที่พลังดิบจากเครื่องยนต์สันดาปถูกหลอมรวมเข้ากับความประณีตหรูหราอย่างไร้ที่ติ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ได้เชิญชวนให้เราย้อนรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ และสัมผัสประสบการณ์สุดท้ายของยุคสมัยอันทรงพลังนี้

นิยามแห่ง Speed: ความเร็วมิใช่แค่ตัวเลข แต่คือปรัชญาการออกแบบและวิศวกรรม

ในโลกของ Bentley คำว่า “Speed” ไม่ได้หมายถึงแค่ความเร็วสูงสุดที่เหนือชั้นเท่านั้น แต่มันคือการผสานรวมกันอย่างลงตัวของความสง่างาม สปอร์ต และสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยประสบการณ์กว่าสิบปีในการวิเคราะห์รถยนต์ระดับโลก ผมกล้ายืนยันว่าการออกแบบของ Bentley Speed ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถันทั้งภายนอกและภายใน เพื่อสะท้อนถึง DNA แห่งความเร็วที่พร้อมมอบประสิทธิภาพสูงสุด โลโก้ ‘Speed’ ที่ประดับอยู่บนตัวรถและงานปักบนเบาะโดยสาร รวมถึงการเดินตะเข็บแบบเฉพาะรุ่น ‘Speed’ ล้วนเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งบอกถึงความพิเศษและความปราณีต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้

รูปลักษณ์ที่สง่างาม โฉบเฉี่ยว และเปี่ยมด้วยสมรรถนะทางอากาศพลศาสตร์

เมื่อกล่าวถึงรูปลักษณ์ภายนอกของโมเดล Speed ผมต้องชื่นชมในความกล้าหาญของ Bentley ที่สามารถผสมผสานความหรูหราแบบคลาสสิกเข้ากับความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ชุดแต่ง Styling Specification รอบคันได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านอากาศพลศาสตร์สูงสุด ทำให้ตัวรถดูโฉบเฉี่ยวและยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง วัสดุคาร์บอนมันวาวสีดำน้ำหนักเบา พร้อมลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ ผนวกกับการตกแต่งด้วยกระจังหน้าและกระจังกันชนด้านล่างเฉดสีเข้มแบบ Dark Tint สร้างมิติที่ดุดันแต่ยังคงความหรูหรา กาบประตูห้องโดยสารแบบ ‘Speed’ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่องระบายอากาศสีเข้ม และโลโก้ ‘Speed’ แบบโครเมียมบนบังโคลนหน้า ล้วนเป็นเครื่องยืนยันถึงความใส่ใจในรายละเอียดที่ไม่สามารถมองข้ามได้

อีกหนึ่งคุณลักษณะที่โดดเด่นคือ ล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้วที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเฉพาะรุ่น ‘Speed’ ซึ่งมีให้เลือกทั้งเฉดสีเงินสว่างคลาสสิก หรือโทนสีเข้มและดำเงาที่เสริมความสปอร์ตดุดัน ฝาปิดช่องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ‘Jewel’ และกาบบันไดประตูห้องโดยสารแบบเรืองแสงประดับคำว่า ‘Speed’ สะท้อนถึงความหรูหราที่ซ่อนอยู่ในทุกรายละเอียด ท่อไอเสียรูปทรงรีคู่คือสัญลักษณ์ของขุมพลัง W12 ที่รอการปลดปล่อย สำหรับ Bentayga Speed ยังโดดเด่นด้วยสปอยเลอร์ท้ายที่บ่งบอกถึงสมรรถนะและ DNA แห่งความเร็วอย่างชัดเจน

สำหรับ Flying Spur Speed นั้น Bentley เลือกใช้ชุดแต่งภายนอก Blackline Specification เฉดสีดำสนิท ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ Flying ‘B’ มาสคอตอันโด่งดัง กระจังหน้าเมทริกซ์ กรอบหน้าต่างห้องโดยสาร กรอบประตูด้านล่างและกันชนหลัง ไปจนถึงกรอบไฟหน้าและไฟท้าย มือจับประตู และช่องระบายอากาศที่ล้วนเป็นสีเข้ม การเลือกใช้สีดำล้วนนี้ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มความลึกลับและสง่างาม แต่ยังสะท้อนถึงบุคลิกที่แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวของผู้ขับขี่อีกด้วย

แน่นอนว่า Bentley ย่อมไม่ลืมที่จะมอบอิสระในการปรับแต่งอย่างเหนือระดับ ลูกค้าสามารถรังสรรค์เฉดสีภายนอกได้ถึง 17 เฉดสีมาตรฐาน และอีก 47 เฉดสีพิเศษจาก Mulliner รวมถึงตัวเลือกเฉดสีแบบดูโอโทนอีก 24 เฉดสี หรือแม้กระทั่งการเทียบสีจากวัสดุอื่น ๆ ที่ต้องการ แสดงให้เห็นถึงขีดสุดของการปรับแต่งเฉพาะบุคคล (bespoke customization) ที่ Bentley มุ่งมั่นนำเสนอ

สัมผัสแห่งความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร: ที่ซึ่งความหรูหราพบกับแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง

ก้าวเข้ามาภายในห้องโดยสารของ Bentley Speed แล้วคุณจะเข้าใจทันทีว่า “ความหรูหราที่เร่งเร้าอะดรีนาลีน” มีอยู่จริง การนำวัสดุหนัง Alcantara® ซึ่งเป็นที่นิยมในรถแข่งมาใช้ในการตกแต่ง ทั้งบนเบาะรองนั่ง พนักพิงหลัง คันเกียร์ พวงมาลัย และแผงบุหลังคา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ขับขี่กับตัวรถอย่างแท้จริง งานปักคำว่า ‘Speed’ บนเบาะโดยสารร่วมกับการออกแบบการเย็บแบบตัดกันใหม่ผ่านงานควิลท์ลวดลายเพชรในแบบ Mulliner Driving Specification ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Speed โดยเส้นเย็บแต่ละเส้นที่ลากผ่านงานควิลท์จะถูกแยกออก โดยเส้นหนึ่งเพื่อให้เข้ากับหนัง และอีกเส้นหนึ่งเป็นสีที่ตัดกัน ช่วยสร้างความลึกและมิติที่น่าดึงดูดใจ พร้อมการตกแต่งด้วยโลโก้ ‘Speed’ บริเวณคอนโซลหน้าและกาบบันไดห้องโดยสารแบบเรืองแสง ล้วนเป็นองค์ประกอบที่เสริมสร้างบรรยากาศแห่งความสปอร์ตและความพิเศษเฉพาะตัว

ความหรูหราภายในยังสามารถปรับแต่งได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วยตัวเลือกเฉดสีหลัก 15 เฉดสีและเฉดสีรอง 11 เฉดสี รวมถึงการใช้หนัง Alcantara ในการตกแต่งส่วนอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกวัสดุวีเนียร์ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ Piano Black ซึ่งเป็นตัวเลือกมาตรฐาน ไปจนถึง Crown Cut Walnut, Dark Burr Walnut, Dark Fiddleback Eucalyptus และ Koa แต่ละชิ้นล้วนคัดสรรอย่างดีที่สุด เพื่อให้ทุกรายละเอียดภายในห้องโดยสารสะท้อนรสนิยมและความเป็นตัวตนของผู้ครอบครองได้อย่างสมบูรณ์แบบ

อัครยานยนต์ที่ทรงสมรรถนะที่สุด: หัวใจ W12 ที่เป็นตำนานแห่งการขับขี่

มาถึงแก่นแท้ของ Bentley Speed นั่นคือขุมพลังเครื่องยนต์ W12 ที่ได้สร้างตำนานและนิยามคำว่า “สมรรถนะ” มาอย่างยาวนาน แม้ว่า ณ ปี 2025 นี้ เครื่องยนต์ W12 จะได้ยุติสายการผลิตไปแล้ว แต่คุณค่าและประสิทธิภาพของมันยังคงเป็นที่ประจักษ์ และนี่คือโอกาสสุดท้ายในการเป็นเจ้าของชิ้นส่วนประวัติศาสตร์แห่งวิศวกรรมยานยนต์

Continental GT Speed: คือตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของสมรรถนะ W12 ที่ได้รับการปรับแต่งอย่างถึงที่สุด เครื่องยนต์ W12 TSI ขนาด 6.0 ลิตร มอบพละกำลังมหาศาลกว่า 650 แรงม้า เพิ่มขึ้น 4% จากเครื่องยนต์ W12 รุ่นมาตรฐาน ขณะที่ยังคงรักษาแรงบิด 900 นิวตันเมตรไว้ได้อย่างน่าทึ่ง การเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในระยะเวลาเพียง 3.6 วินาที และความเร็วสูงสุด 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างเครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง

Flying Spur Speed: ไม่ใช่แค่รถยนต์ซีดานที่หรูหราที่สุดในโลก แต่ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดด้วยพละกำลัง 626 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 333 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สถิติเหล่านี้ตอกย้ำว่า Flying Spur Speed สามารถมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจไม่แพ้รถสปอร์ต ในขณะที่ยังคงความสบายและสง่างามไว้อย่างเต็มเปี่ยม

Bentayga Speed: ก้าวข้ามขีดจำกัดของ SUV ไปอีกขั้น ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบคู่ W12 ขนาด 6.0 ลิตร มอบพละกำลังสูงสุด 626 แรงม้า พร้อมแรงบิด 900 นิวตันเมตร ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้น ผสมผสานกับความสะดวกสบายและการควบคุมที่ดีเยี่ยม ทำให้ Bentayga Speed สามารถทำความเร็วสูงสุดถึง 306 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 3.9 วินาทีเท่านั้น นี่คือ SUV ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่แบบซูเปอร์คาร์อย่างแท้จริง

โมเดล Speed ทุกรุ่นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่หลงใหลในความเร็ว แต่ยังคงต้องการความสะดวกสบายและความมั่นใจในการขับขี่ ซึ่งเป็นผลมาจากประสิทธิภาพและความแม่นยำในการควบคุมที่เหนือชั้น

การเคลื่อนที่ที่แม่นยำ: วิศวกรรมเพื่อพลวัตการขับขี่ที่เหนือกว่า

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Bentley Speed เป็นมากกว่าแค่รถยนต์ที่เร็วคือเทคโนโลยีวิศวกรรมที่ล้ำสมัยที่อยู่เบื้องหลังการควบคุม:

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบแอคทีฟขั้นสูง (Advanced Active All-Wheel Drive): ระบบนี้ไม่ได้แค่แบ่งกำลังไปที่ล้อทั้งสี่เท่านั้น แต่ยังปรับการกระจายแรงขับเคลื่อนตามสภาพการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาด เพื่อให้การยึดเกาะถนนสูงสุดและเสถียรภาพในการเข้าโค้งที่เหนือกว่า ไม่ว่าคุณจะขับขี่บนพื้นผิวใด

ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic All-Wheel Steering): เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่งที่ช่วยเพิ่มทั้งเสถียรภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง และมอบความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยมในการขับขี่ความเร็วต่ำ ขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ ระบบจะบังคับล้อหลังในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้า ซึ่งช่วยลดระยะฐานล้อเสมือนจริง ทำให้วงเลี้ยวแคบลง การกลับรถหรือจอดรถในพื้นที่จำกัดจึงกลายเป็นเรื่องง่ายดาย แต่เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบจะบังคับล้อหลังไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้า เพิ่มความเสถียรในการเปลี่ยนเลน หรือแซงรถคันอื่นได้อย่างมั่นใจและนุ่มนวล ระบบนี้ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความมั่นคงและความคล่องตัวในทุกสถานการณ์

ระบบ Bentley Dynamic Ride (Bentley Dynamic Ride System): นี่คือหนึ่งในนวัตกรรมที่ผมประทับใจที่สุดใน Bentley ระบบควบคุมการเข้าโค้งแบบแอคทีฟด้วยไฟฟ้าตัวแรกของโลกที่ใช้ระบบไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ ระบบนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและความสะดวกสบายในการขับขี่อย่างแท้จริง เมื่อเข้าโค้ง ระบบจะตอบสนองต่อแรงหมุนด้านข้างทันที เพื่อให้ยางยึดเกาะพื้นถนนได้มากที่สุด ลดอาการโคลงเคลงของตัวถัง ช่วยเพิ่มความเสถียรในห้องโดยสาร ทำให้การเดินทางราบรื่นและสะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งยังช่วยควบคุมแรงบิดให้ล้อสัมพันธ์กับความเร็ว เพื่อให้รถทรงตัวบนถนนได้อย่างสมดุลและตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น มอบการควบคุมที่เฉียบคมและมั่นใจในทุกโค้ง

ปิดฉากสุดยอดขุมพลังเครื่องยนต์ W12: จากตำนานสู่มรดกอันล้ำค่า

ตามที่ Bentley Motors ได้ประกาศยุติการผลิตเครื่องยนต์ W12 ในช่วงต้นปี 2567 (ตามข้อมูล ณ ปี 2025) ทำให้การพูดถึง W12 ในวันนี้คือการย้อนรำลึกถึงยุคสมัยอันรุ่งโรจน์ ณ โรงงานเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ เครื่องยนต์ W12 กว่า 100,000 เครื่องที่เคยถูกผลิตขึ้น ได้สร้างประวัติศาสตร์และกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับวงการยานยนต์ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา วิศวกรของ Bentley ได้พัฒนาเครื่องยนต์ W12 อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นด้านพละกำลัง แรงบิด การลดการปล่อยไอเสีย และการปรับแต่งต่างๆ ผลลัพธ์คือการเพิ่มพละกำลังกว่า 37% และแรงบิดเพิ่มขึ้น 54% ขณะเดียวกันก็ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 25% ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบควบคุม การพัฒนาระบบน้ำมันเชื้อเพลิงและการระบายความร้อน เทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จเจอร์ ระบบหัวฉีดและการเผาไหม้ที่ล้ำสมัย

การเปิดตัว Bentayga ในปี 2558 ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญ เมื่อเครื่องยนต์ W12 ได้รับการพัฒนาใหม่ทั้งหมด ซึ่งยังคงเป็นรุ่นที่ล้ำหน้าที่สุดในขณะนั้น ด้วยการติดตั้งระบบปิดการทำงานของกระบอกสูบ (cylinder deactivation) ระบบไดเรคท์และพอร์ตอินเจคชั่น (direct and port injection) และระบบเทอร์โบคู่ (twin-turbo) ที่ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทำให้ W12 ไม่ใช่แค่เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง แต่ยังเป็นเครื่องจักรที่ชาญฉลาดและมีประสิทธิภาพด้านเชื้อเพลิงอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขุมพลังระดับนี้

การยุติบทบาทของเครื่องยนต์ W12 เป็นการปูทางสู่การที่ Bentley จะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ผลิตอัครยานยนต์พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบภายใต้กลยุทธ์ “Beyond100” นั่นหมายความว่าโมเดล Bentley Speed ที่ใช้เครื่องยนต์ W12 เหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถยนต์อีกต่อไป แต่เป็นชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ เป็นเครื่องบ่งชี้ถึงจุดสูงสุดของวิศวกรรมเครื่องยนต์สันดาปก่อนยุคสมัยใหม่จะเริ่มต้นขึ้น ทำให้พวกมันกลายเป็นของสะสมที่ล้ำค่าและเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคที่กำลังจะผ่านไป

บทสรุป: มรดกแห่ง Speed ที่คุณต้องสัมผัส

ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์หรูมานาน ผมขอยืนยันว่า Bentley Speed W12 คือบทสรุปที่สมบูรณ์แบบของยุคสมัยแห่งพลังสันดาป มันคือการผสมผสานความเร้าใจของสมรรถนะ ความประณีตของงานฝีมือ และความพิเศษเฉพาะตัวที่หาได้ยาก ด้วยวิสัยทัศน์ของ Bentley ที่มุ่งสู่พลังงานไฟฟ้าในอนาคต ทำให้โมเดล Speed W12 เหล่านี้กลายเป็นมรดกอันล้ำค่า ที่สะท้อนถึงวิศวกรรมอันยอดเยี่ยมและปรัชญาการขับขี่ที่ไม่มีวันจางหายไป

หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชมในประวัติศาสตร์ หลงใหลในความสมบูรณ์แบบ และต้องการเป็นส่วนหนึ่งของตำนานที่กำลังจะถูกจารึกไว้ โปรดอย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษนี้ด้วยตัวคุณเอง เพราะนี่คือโอกาสสุดท้ายในการครอบครองอัครยานยนต์ที่ทรงพลังและเปี่ยมด้วยจิตวิญญาณแห่งความเร็วอย่างแท้จริง

เรียนเชิญสัมผัสตำนาน Bentley Speed W12 และปรึกษาเรื่องการครอบครองอัครยานยนต์ที่สะท้อนรสนิยมของคุณได้ที่ บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายการทดลองสัมผัสประสบการณ์เหนือระดับ โอกาสในการเป็นเจ้าของประวัติศาสตร์นี้ไม่ได้มีมาบ่อยครั้ง

Bentley Speed W12: ปิดตำนานเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุด สู่ยุคใหม่ของอัครยนตรกรรมแห่งอนาคต 2025

ในโลกแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ที่กระแสไฟฟ้าได้เข้ามามีบทบาทอย่างมหาศาล การประกาศยุติสายการผลิตเครื่องยนต์ W12 ของ Bentley Motors ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่นักเลงรถทั่วโลกต่างจับตา หนึ่งในนั้นคือ AAS Auto Service ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย Bentley อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ซึ่งได้นำเสนอสุดยอดขุมพลังในตระกูล Speed อันเป็นบทสรุปของตำนาน W12 ที่จะสถิตอยู่ในความทรงจำของผู้ที่หลงใหลในสมรรถนะสูงสุดและงานฝีมืออันประณีต Bentley Speed ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ แต่คือผลงานศิลปะวิศวกรรมที่หาใดเทียบได้ เป็นภาพสะท้อนของความมุ่งมั่นอันยาวนานกว่าสองทศวรรษในการสร้างสรรค์เครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุด ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ยุคแห่งยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัวตามวิสัยทัศน์ Beyond100 ของแบรนด์ นี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้ครอบครอง “รถหรูเครื่องยนต์ W12” อันเป็นตำนาน ที่จะยังคงคุณค่าและสถานะความเป็นอัครยนตรกรรมชั้นเลิศใน “ตลาดรถยนต์พรีเมียมในไทย” ตลอดไป

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าสิบปี ผมขอยืนยันว่า Bentley Speed รุ่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Continental GT Speed, Continental GT Convertible Speed, Flying Spur Speed และ Bentayga Speed คือบทสรุปที่สมบูรณ์แบบของวิศวกรรมเครื่องยนต์สันดาปภายในระดับสูงสุด เป็นการแสดงออกถึงขีดสุดแห่งประสิทธิภาพ ความหรูหรา และสุนทรียภาพในการขับขี่ที่ Bentley ได้หลอมรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างไม่เป็นสองรองใครในปี 2025 นี้

ขุมพลัง W12 ที่สั่นสะเทือนวงการ: หัวใจสำคัญของ Bentley Speed

หัวใจหลักที่ทำให้อัครยนตรกรรมตระกูล Speed เป็นที่กล่าวขานคือ “เครื่องยนต์ W12” อันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยขนาดความจุ 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของ Bentley มาตั้งแต่ปี 2003 จนถึงปัจจุบัน ในปี 2025 นี้ เครื่องยนต์ W12 ที่ติดตั้งอยู่ในรุ่น Speed ถือเป็นเวอร์ชันที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา มอบพละกำลังและแรงบิดมหาศาลที่ไม่เป็นรองใคร นี่คือ “ที่สุดแห่งวิศวกรรมยานยนต์” ที่ Bentley ภูมิใจนำเสนอ การออกแบบแบบ W-configuration ที่ไม่เหมือนใคร ช่วยให้เครื่องยนต์มีขนาดกะทัดรัด แต่ยังคงให้สมรรถนะสูงสุดได้อย่างน่าทึ่ง

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา เครื่องยนต์ W12 ได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งพละกำลังที่เพิ่มขึ้นกว่า 37% และแรงบิดที่เพิ่มขึ้น 54% ในขณะที่สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ถึง 25% ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบควบคุม, การออกแบบระบบน้ำมันเชื้อเพลิงและระบบระบายความร้อน, เทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จเจอร์ และระบบหัวฉีด รวมถึงการเผาไหม้ที่แม่นยำยิ่งขึ้น สำหรับรุ่นที่ผลิตในปัจจุบัน ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Cylinder Deactivation ที่สามารถปิดการทำงานของกระบอกสูบบางส่วนเมื่อไม่จำเป็น เพื่อประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ ทำให้เครื่องยนต์ W12 ไม่ได้เป็นเพียงขุมพลังแห่งความเร็ว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของ “เทคโนโลยีเครื่องยนต์เบนท์ลีย์” ที่ก้าวล้ำในยุคสมัยของมัน

รูปลักษณ์ที่สง่างาม โฉบเฉี่ยว และเป็นเอกลักษณ์

หนึ่งในหัวใจสำคัญของรุ่น Speed คือการผสมผสานความสง่างามตามแบบฉบับ Bentley เข้ากับความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตอย่างลงตัว การออกแบบภายนอกได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อสะท้อนถึงประสิทธิภาพอันเหนือชั้นและแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง

ชุดแต่ง Styling Specification: รุ่น Speed โดดเด่นด้วยชุดแต่งคาร์บอนไฟเบอร์มันวาวน้ำหนักเบาที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์รอบคัน ไม่ว่าจะเป็นสปลิตเตอร์หน้า สเกิร์ตข้าง และดิฟฟิวเซอร์หลัง ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความสวยงามและประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ความเร็วสูง ผสมผสานเข้ากับกระจังหน้าและกระจังกันชนด้านล่างเฉดสีเข้มแบบ Dark Tint รวมถึงช่องระบายอากาศสีเข้ม และโลโก้ ‘Speed’ แบบโครเมียมบนบังโคลนหน้าอย่างลงตัว
ล้ออัลลอยด์ขนาด 22 นิ้ว: นี่คืออีกหนึ่งคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Speed ด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์เฉพาะรุ่นขนาด 22 นิ้ว ที่มีให้เลือกทั้งเฉดสีเงินสว่างคลาสสิก หรือสีดำเงาที่ดุดันและทันสมัยตามกระแสนิยมในปี 2025 เสริมความหรูหราด้วยฝาปิดช่องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ ‘Jewel’ และปลายท่อไอเสียรูปทรงรีอันเป็นสัญลักษณ์ของขุมพลัง W12
รายละเอียดเฉพาะรุ่น: สำหรับ Bentayga Speed จะมาพร้อมสปอยเลอร์ท้ายที่โดดเด่น ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสวยงามสไตล์สปอร์ตแล้ว ยังช่วยเรื่องหลักอากาศพลศาสตร์อีกด้วย ในขณะที่ Flying Spur Speed จะได้รับชุดแต่ง Blackline Specification สีดำ ที่ครอบคลุม Flying ‘B’ มาสคอตอันเป็นเอกลักษณ์, กระจังหน้า, กรอบหน้าต่าง, กรอบประตู, กันชนหลัง, กรอบไฟหน้า-ท้าย และมือจับประตู ทุกรายละเอียดล้วนถูกคิดมาอย่างพิถีพิถัน
การปรับแต่งสีภายนอก: ลูกค้าสามารถรังสรรค์เฉดสีภายนอกได้อย่างไร้ขีดจำกัด ด้วย 17 เฉดสีมาตรฐาน และ 47 เฉดสีพิเศษจาก Mulliner รวมถึงตัวเลือกแบบดูโอโทนถึง 24 เฉดสี และยังสามารถสั่งทำสีพิเศษที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคลได้อีกด้วย นี่คือ “การปรับแต่งเบนท์ลีย์” ที่ทำให้รถยนต์แต่ละคันมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สัมผัสแห่งความสปอร์ตภายในห้องโดยสาร

ก้าวเข้าสู่ภายในห้องโดยสารของ Bentley Speed คุณจะสัมผัสได้ถึงความหรูหราที่ผสานความสปอร์ตได้อย่างลงตัว ด้วยการนำวัสดุคุณภาพสูงและการออกแบบที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานมาใช้

วัสดุ Alcantara®: เบาะรองนั่ง พนักพิงหลัง พวงมาลัย คันเกียร์ และแผงบุหลังคา ล้วนถูกหุ้มด้วยวัสดุ Alcantara® ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง มอบสัมผัสที่นุ่มนวล แต่ยังคงให้การยึดเกาะที่ดีเยี่ยมในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
งานปัก ‘Speed’ และ Mulliner Driving Specification: โลโก้ ‘Speed’ ที่ปักบนเบาะโดยสารและคอนโซลหน้า รวมถึงกาบบันไดเรืองแสง เป็นเครื่องยืนยันถึงความพิเศษของรุ่นนี้ การเย็บตะเข็บแบบตัดกันบนลวดลายเพชรในสไตล์ Mulliner Driving Specification ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Speed ยิ่งเพิ่มความหรูหราและประณีต เส้นเย็บแต่ละเส้นถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยเส้นหนึ่งจะกลมกลืนกับสีหนังหลัก และอีกเส้นหนึ่งเป็นสีที่ตัดกัน สร้างมิติและรายละเอียดที่สวยงาม
การปรับแต่งภายใน: Bentley มอบอิสระในการปรับแต่งภายในห้องโดยสารได้อย่างเต็มที่ ด้วยตัวเลือกเฉดสีหลัก 15 เฉดสีและเฉดสีรอง 11 เฉดสี รวมถึงการใช้ Alcantara ในส่วนอื่นๆ และตัวเลือกวัสดุวีเนียร์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Piano Black, Crown Cut Walnut, Dark Burr Walnut, Dark Fiddleback Eucalyptus หรือ Koa คุณสามารถรังสรรค์ “ภายในเบนท์ลีย์สุดหรู” ที่ตรงกับรสนิยมของคุณได้อย่างไร้ขีดจำกัด

สมรรถนะที่เหนือชั้นและการควบคุมที่แม่นยำ

Bentley Speed ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายและความมั่นใจในทุกย่านความเร็ว ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ W12 และระบบช่วงล่างอันชาญฉลาด

Continental GT Speed: คือหัวใจแห่งความเร็วของ Bentley ด้วยเครื่องยนต์ W12 TSI 6.0 ลิตร ที่พัฒนามาสำหรับ Speed โดยเฉพาะ มอบพละกำลังสูงสุด 650 แรงม้า (เพิ่มขึ้น 4% จาก W12 มาตรฐาน) และแรงบิดมหาศาล 900 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุด 335 กม./ชม. และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที (เร็วกว่าเดิม 0.1 วินาที) นี่คือ “รถยนต์สมรรถนะสูง” ที่แท้จริง
Flying Spur Speed: อัครยนตรกรรมซีดานที่เร็วที่สุดในโลก มอบพละกำลัง 626 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที และความเร็วสูงสุด 333 กม./ชม. ผสมผสานความหรูหราของ “รถสปอร์ตซีดานระดับพรีเมียม” เข้ากับสมรรถนะอันดุดันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Bentayga Speed: “เอสยูวีสุดพิเศษ” ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของสมรรถนะ ด้วยเครื่องยนต์ W12 ทวินเทอร์โบ 6.0 ลิตร มอบ 626 แรงม้า แรงบิด 900 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 306 กม./ชม. และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.9 วินาที ผสานสมรรถนะ, ความสะดวกสบาย และการควบคุมที่ยอดเยี่ยมเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ระบบขับเคลื่อนของ Bentley Speed ไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีช่วงล่างที่ล้ำสมัย เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกสถานการณ์

ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบแอคทีฟ (Active All-Wheel Drive): ช่วยกระจายแรงบิดไปยังล้อทั้งสี่ได้อย่างเหมาะสมตามสภาพการขับขี่ เพิ่มการยึดเกาะถนนและเสถียรภาพสูงสุด
ระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อ (Electronic All-Wheel Steering): เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มทั้งเสถียรภาพและความคล่องตัว ในความเร็วต่ำ ระบบจะบังคับล้อหลังในทิศทางตรงกันข้ามกับล้อหน้า ทำให้รถมีวงเลี้ยวที่แคบลง เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ในเมืองและการจอดรถ ในทางกลับกัน เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบจะบังคับล้อหลังไปในทิศทางเดียวกับล้อหน้า เพื่อเพิ่มความเสถียรในการเปลี่ยนเลนหรือเข้าโค้งอย่างมั่นใจ นี่คือ “ระบบขับเคลื่อน Bentley” ที่เหนือชั้น
ระบบ Bentley Dynamic Ride: เทคโนโลยีควบคุมการเข้าโค้งแบบแอคทีฟด้วยไฟฟ้า 48 โวลต์ ระบบนี้จะตอบสนองต่อแรงเหวี่ยงด้านข้างทันทีเมื่อรถเข้าโค้ง เพื่อให้ยางยึดเกาะพื้นผิวถนนได้มากที่สุด ช่วยลดอาการโคลงของตัวรถ เพิ่มความเสถียรในห้องโดยสาร ความสะดวกสบายในการขับขี่ และการควบคุมที่แม่นยำ นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้ง (Torque Vectoring by Brake) ที่ช่วยปรับแรงบิดของแต่ละล้อให้สัมพันธ์กับความเร็ว ทำให้รถทรงตัวได้อย่างสมดุลและตอบสนองต่อการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น นี่คือ “ประสบการณ์ขับขี่เหนือระดับ” ที่ Bentley Speed มอบให้

ปิดฉากตำนาน W12: โอกาสสุดท้ายสำหรับนักสะสม

การประกาศยุติการผลิตเครื่องยนต์ W12 ในเดือนเมษายน 2567 ถือเป็นจุดสิ้นสุดของ “ตำนานเครื่องยนต์ W12” ที่ยิ่งใหญ่กว่าสองทศวรรษ เครื่องยนต์กว่า 100,000 เครื่องที่ถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในเมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ กำลังจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ นี่คือการเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของ Bentley ในการก้าวเข้าสู่ยุคของ “ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ” ภายใต้วิสัยทัศน์ Beyond100 ที่มุ่งมั่นจะเป็นผู้นำใน “อนาคตแห่งยนตรกรรมหรู” ที่ยั่งยืน

สำหรับผู้ที่หลงใหลในความสมบูรณ์แบบของวิศวกรรมเครื่องยนต์สันดาปภายใน Bentley Speed W12 คือโอกาสสุดท้ายที่จะได้ครอบครองชิ้นส่วนสำคัญของประวัติศาสตร์ยานยนต์ นี่ไม่ใช่เพียงแค่การซื้อรถยนต์ แต่เป็นการลงทุนใน “รถยนต์รุ่นสะสม” ที่จะยังคงคุณค่าและสถานะความเป็นอัครยนตรกรรมชั้นเลิศที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง W12 ที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่โลกเคยมีมา

สรุปและคำเชิญพิเศษ

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่า Bentley Speed W12 ในปี 2025 เป็นมากกว่ายานพาหนะ มันคือสัญลักษณ์แห่งอำนาจ ความสง่างาม และความมุ่งมั่นทางวิศวกรรมที่ไม่ยอมประนีประนอม ที่พร้อมจะมอบ “ประสบการณ์ขับขี่เบนท์ลีย์” ที่เหนือคำบรรยายให้กับผู้ครอบครอง เป็นเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อผู้ที่ต้องการที่สุดแห่งสมรรถนะและความหรูหรา และในขณะเดียวกันก็เป็นการเชิดชูบทสุดท้ายของตำนาน W12 ก่อนที่โลกยานยนต์จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของพลังงานไฟฟ้าอย่างเต็มตัว

อย่าพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของประวัติศาสตร์ยานยนต์ชิ้นสำคัญนี้ AAS Auto Service พร้อมแล้วที่จะนำเสนอ Bentley Speed W12 รุ่นสุดท้ายให้แก่ผู้ที่มองหาความเป็นเลิศและคุณค่าที่ยืนยง เชิญสัมผัสและเป็นส่วนหนึ่งของตำนานบทสุดท้ายนี้ด้วยตัวคุณเอง แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม Bentley Speed W12 ถึงได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดอัครยนตรกรรมที่ยากจะหาใดเทียบได้ เยี่ยมชมโชว์รูมของเรา หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “ราคาเบนท์ลีย์ในไทย” และโอกาสในการครอบครองอัครยนตรกรรมระดับโลกคันนี้ ที่กำลังจะกลายเป็นของสะสมอันล้ำค่าในอนาคตอันใกล้นี้

Previous Post

N1212318 กเขยท โดนแม เม งแก! #มายป ณย ปานวาด #หน งส นสอนใจ part 2

Next Post

N1212643 ไรเดอร บบ านเล part 2

Next Post
N1212643 ไรเดอร บบ านเล part 2

N1212643 ไรเดอร บบ านเล part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1612666 ในว นท เม ยนอกใจ! Part 2
  • N1612663 ำใจส งต อผ part 2
  • N1612670 รถหร สำหร บพน กงานของฉ part 2
  • N1612668 ความซ อส ตย เป นค ณสมบ ของคนด part 2
  • N1612661 ทำไมแต งช ดออกกำล งกายมาทำงาน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • December 2025
  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.