ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เปิดมิติใหม่แห่งความเร็ว: 11 สุดยอดไฮเปอร์คาร์ที่ครองบัลลังก์โลกปี 2025
ในโลกแห่งยนตรกรรมที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง การแสวงหาความเร็วสูงสุดได้กลายเป็นขีดสุดแห่งนวัตกรรม วิศวกรรม และความหลงใหลของมนุษย์ ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากรถยนต์ที่เคยทำลายกำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (480 กม./ชม.) ซึ่งเคยเป็นเรื่องเหนือจินตนาการ กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของไฮเปอร์คาร์ยุคปัจจุบันปี 2025
ปีนี้เราได้เห็นรถยนต์ที่เบาลง เพรียวลมมากขึ้น และทรงพลังอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ใช่แค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการผสานรวมเทคโนโลยีล้ำสมัย การออกแบบที่ไร้ที่ติ และปรัชญาการขับขี่ที่ยกระดับประสบการณ์ไปอีกขั้น ไฮเปอร์คาร์เหล่านี้ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่มันคืองานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้ เป็นบทพิสูจน์ถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของวิศวกรรมยานยนต์
การจัดอันดับ 11 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับปี 2025 นี้สะท้อนให้เห็นถึงภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปในตลาด รถยนต์สมรรถนะสูง เรายังคงรักษารายชื่อโมเดลที่โดดเด่นจากผู้ผลิตรถยนต์ระดับตำนาน พร้อมเพิ่มเติมส่วนพิเศษเกี่ยวกับ ซูเปอร์คาร์ แห่งอนาคตที่เราตั้งตารอคอยอย่างใจจดใจจ่อ บางชื่ออาจคุ้นเคยเพราะเคยครองตำแหน่งรถยนต์ที่แพงที่สุดหรือเร็วที่สุดมาก่อน แต่บางชื่อก็เป็นหน้าใหม่ที่น่าจับตา
จุดที่น่าสนใจที่สุดในปีนี้คือ Devel Sixteen ที่กลับมาทวงตำแหน่งสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งอีกครั้ง ด้วยความเร็วสูงสุดที่เคลมไว้ถึง 347 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้จะยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่ศักยภาพของมันก็สร้างความฮือฮาไปทั่ววงการ ส่วน SSC Tuatara ที่เคยเป็นอันดับสอง ได้เลื่อนลงมาอยู่ในอันดับที่หก หลังจากความเร็วสูงสุดที่ผ่านการรับรองถูกปรับลดลงจากที่เคยเคลมไว้ 331 ไมล์ต่อชั่วโมง เหลือ 295 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการยืนยันสถิติความเร็วที่แท้จริง
Rimac Nevera รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่เข้าสู่ทำเนียบของเราเมื่อปีที่แล้ว ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง มันแสดงให้เห็นว่าอนาคตของความเร็วไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องยนต์สันดาปภายในอีกต่อไป
นี่คือ 11 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกประจำปี 2025 ที่คุณอาจต้องกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไม่ให้พลาด!
Rimac Nevera C Two: พลังงานไฟฟ้าที่ปฏิวัติวงการ
เมื่อพูดถึง ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า ไม่มีชื่อใดโดดเด่นเท่า Rimac Nevera C Two รถยนต์ที่สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางใหม่ของวงการยานยนต์ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 120kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างชาญฉลาด ทำให้ Nevera สามารถพุ่งทะยานด้วยความเร็วที่ไม่เคยมี รถยนต์ไฟฟ้า คันไหนทำได้มาก่อน
Nevera ได้รับการออกแบบมาเพื่อทลายขีดจำกัดในทุกมิติ ชื่อ Nevera สื่อถึงพายุที่ทรงพลังและฟ้าผ่า ซึ่งเข้ากันได้ดีกับอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.85 วินาทีที่น่าทึ่ง เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วอันเหลือเชื่อนี้ได้อย่างปลอดภัย Nevera ติดตั้งกล้องถึง 13 ตัวที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่ในสนามแบบเรียลไทม์ นี่คือรถยนต์ที่พิสูจน์แล้วว่าอนาคตของความเร็วไม่ได้มีแค่เสียงคำรามของเครื่องยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเงียบและความทรงพลังของไฟฟ้าอีกด้วย
ความเร็วสูงสุด: 415 กม./ชม. (258 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.85 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.rimac-automobili.com
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport: ตำนานผู้สร้างมาตรฐาน
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport อาจเป็นหนึ่งใน ซูเปอร์คาร์ ที่เก่าแก่ที่สุดในรายชื่อนี้ แต่ก็ยังคงเป็นรถยนต์ที่คู่ควรกับตำแหน่งในทำเนียบความเร็วสูงสุด มันคือผู้สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งสำหรับ Bugatti เองและคู่แข่งในโลกของ ไฮเปอร์คาร์ การพัฒนา Veyron 16.4 Super Sport ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายทางเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์
ในฐานะการออกแบบขั้นสุดท้ายจากซีรีส์ Veyron รถคันนี้ได้ยกระดับตัวเองในทุกๆ ด้านก่อนที่จะปิดฉากชื่อ Veyron ลงอย่างสง่างาม Veyron 16.4 Super Sport โดดเด่นด้วยเส้นสายที่หรูหรา มีสไตล์ และเป็นเอกลักษณ์อย่างแท้จริง มั่นใจได้ว่าชื่อของมันจะยังคงถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์สำหรับ รถยนต์หรูสมรรถนะสูง ไปอีกนานแสนนาน สะท้อนถึง การลงทุนในรถยนต์ ที่มีคุณค่าและศักดิ์ศรี
ความเร็วสูงสุด: 431 กม./ชม. (267 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.bugatti.com
Hennessey Venom GT: การประกาศศักดาจากอเมริกา
ในวันวาเลนไทน์ปี 2014 John Hennessey แห่ง Hennessey Performance ได้ประกาศยุติข้อพิพาทด้านความเร็วกับ Bugatti ชั่วคราว เมื่อ Venom GT ของเขาได้สร้างสถิติโลกในฐานะ รถยนต์ที่เร็วที่สุด บนรันเวย์ของ Kennedy Space Center ของ NASA
รถคันนี้ใช้เวลาในการวิศวกรรมและพัฒนาถึงสองปี มีการผลิตเพียง 29 คัน โดยแต่ละคันมีราคาประมาณ 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตัวรถมีดีไซน์ที่งดงาม ด้วยเส้นโค้งที่พลิ้วไหวและตัวถังที่เพรียวบาง โครงสร้างแชสซีคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเป็นพิเศษทำให้ Venom GT ดูราวกับเสือดำที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ทุกเมื่อ
และมันก็พุ่งทะยานจริงๆ: Venom GT ทำความเร็วสูงสุดถึง 434 กม./ชม. (270 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่เคยมีมาก่อนในขณะนั้น ในระหว่างการทดสอบบันทึกสถิติโลก มันยังสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้ในเวลา 3.05 วินาที ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ถึง วิศวกรรมยานยนต์ ขั้นสูงของอเมริกา
ความเร็วสูงสุด: 434 กม./ชม. (270 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.05 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.hennesseyspecialvehicles.com
Koenigsegg Agera RS: สัญชาติสวีเดนผู้ท้าทายทุกขีดจำกัด
Koenigsegg Agera RS ได้รับการออกแบบมาให้โดดเด่นและเป็นที่จดจำ เป็น ซูเปอร์คาร์ ที่ท้าทายการทำลายสถิติโลกด้วยดีไซน์ที่เพรียวบาง รถคันนี้คือสัตว์ร้ายที่ผลักดันขีดจำกัดในทุกมิติ และสามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว ทำให้มันเป็นหนึ่งใน รถยนต์ที่น่าประทับใจที่สุดในโลก
Agera RS ผลิตด้วยมือเพียง 25 คัน โดย 10 คันแรกถูกขายหมดไปก่อนการเปิดตัวครั้งแรก บริษัทรายงานว่านี่คือรุ่นที่ขายเร็วที่สุด และยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่หายากที่สุดในตลาด จุดเด่นที่ดึงดูดใจที่สุดคือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 5.0 ลิตร ที่สร้าง แรงม้าสูงสุด ถึง 1176 แรงม้า และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุตในรูปแบบมาตรฐาน และส่วนประกอบเกือบทั้งหมดผลิตขึ้นภายในบริษัทเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในอุตสาหกรรมนี้ แสดงให้เห็นถึง นวัตกรรมยานยนต์ ที่ไม่หยุดยั้งของ Koenigsegg
ความเร็วสูงสุด: 447.2 กม./ชม. (277.8 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.koenigsegg.com
Czinger 21C: ไฮเปอร์คาร์แห่งศตวรรษที่ 21
แตกต่างจาก ซูเปอร์คาร์ บางรุ่นที่ยึดติดกับวิธีการและดีไซน์แบบดั้งเดิม Czinger 21C ถูกสร้างขึ้นเพื่อศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง รถคันนี้ขับเคลื่อนตัวเองเข้าสู่อนาคตในทุกๆ ด้าน และประสิทธิภาพการทำลายสถิติรอบสนามเป็นเพียงหนึ่งในหลายสิ่งที่มันภาคภูมิใจ
ด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ ระบบส่งกำลังไฮบริดแบบพิเศษ แรงกดอากาศมหาศาล และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้รถคันนี้มีความรู้ลึกรู้จริงทั้งภายในและภายนอก Czinger 21C เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าและน้ำมัน เสริมพลังด้วยระบบไฟฟ้า 800 โวลต์ คล้ายกับที่พบในรถ Formula 1 รุ่นใหม่ๆ แม้ว่ามันจะยังไม่สามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวได้ แต่ก็มีพลังงานมากพอที่จะเดินทางได้ในระยะปานกลางโดยไม่ใช้น้ำมัน นี่คือตัวอย่างของ เทคโนโลยีรถยนต์ ที่ก้าวข้ามขีดจำกัด
ความเร็วสูงสุด: 432 กม./ชม. (281 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.czinger.com
SSC Tuatara: ความพยายามที่ไม่สิ้นสุด
Shelby SuperCars ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับความเร็ว ในปี 2007 SSC Ultimate Aero เคยครองตำแหน่ง รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ที่ผลิตออกจำหน่ายในเวลานั้น การทำความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน แต่วันนี้ SSC ต้องการเปลี่ยนความฝันนั้นให้กลายเป็นความจริง
Tuatara ผสานรวมตัวถังที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศพลศาสตร์ต่ำเหลือเชื่อเพียง 0.279 เข้ากับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 1,750 แรงม้า ด้วยราคา 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีช่วงเวลาหนึ่งที่โลกเชื่อว่า SSC Tuatara ทำความเร็วได้ถึง 331 ไมล์ต่อชั่วโมงที่น่าอัศจรรย์ แต่คำกล่าวอ้างนั้นกลับกลายเป็นความเท็จ
แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง SSC ยืนยันว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ 474.8 กม./ชม. (295.0 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในปี 2022 โดยบริษัทได้เชิญ Racelogic มายืนยันความเร็วแยกต่างหาก และพวกเขาไม่คิดว่านั่นใกล้เคียงกับ ความเร็วสูงสุด ที่แท้จริงของรถคันนี้ บางที SSC Tuatara อาจจะทำความเร็วได้ถึง 331 ไมล์ต่อชั่วโมงจริงๆ ก็ได้ มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ถึง ประสิทธิภาพรถยนต์ คันนี้
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.sscnorthamerica.com
Bugatti Chiron Super Sport 300+: ผู้บุกเบิกกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมง
Bugatti เป็นชื่อที่มีเรื่องราวในวงการ ไฮเปอร์คาร์หรู มาหลายปีแล้ว เครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบที่ได้รับการอัพเกรดอย่างเข้มข้นที่ขับเคลื่อน Chiron ได้เพิ่มพละกำลังให้กับความงามอันเป็นเอกลักษณ์นี้ และผลลัพธ์ก็คือ Bugatti มีรถยนต์ถึงสามคันที่ติดอันดับ รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ของเรา
แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่รถยนต์ที่เร็วที่สุดในปัจจุบัน แต่ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ก็มีชื่อเสียงที่จะถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์และบทสนทนาที่น่าทึ่งไปอีกหลายปี: มันเป็นรถคันแรกที่สามารถทะลุกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (483 กม./ชม.) ได้สำเร็จ ซึ่งเคยเป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน
Chiron Super Sport 300+ ยังคงเป็นตัวแทนของความสมดุลที่ไร้ที่ติระหว่างรูปแบบและฟังก์ชัน แอโรไดนามิก และความงาม ด้วยอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในเวลา 2.4 วินาที Bugatti คันนี้จึงมีทั้งความเร็วและสไตล์ในเวลาเดียวกันอย่างแท้จริง แสดงให้เห็นถึง การออกแบบรถยนต์ ที่เหนือชั้น
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.bugatti.com
Bugatti Bolide: วิวัฒนาการของความบริสุทธิ์แห่งความเร็ว
หลังจากความสำเร็จของ Chiron Super Sport, Bugatti ได้กลับไปที่กระดานวาดรูป ผู้ผลิตรถยนต์ที่มีนวัตกรรมและประวัติศาสตร์ยาวนานจำเป็นต้องก้าวข้ามตัวเองไปอีกขั้น แต่จะทำได้อย่างไรเมื่อ Super Sport 300+ ดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบบนล้อแล้ว? คำตอบนั้นง่ายนิดเดียว
ขอแนะนำ: เครื่องยนต์ 8.0L W-16 กำลัง 1825 แรงม้า แรงบิดที่น่าทึ่ง 1364 ปอนด์-ฟุต ชัดเจนว่ารถคันนี้จะไปได้ไกล
Bugatti Bolide คือ ไฮเปอร์คาร์น้ำหนักเบา ที่แสดงให้เห็นถึงขีดสุดของความงาม พลัง และนวัตกรรมของ Bugatti ใช้เครื่องยนต์เดียวกันกับสาย Chiron อันโด่งดัง แต่มีเทอร์โบที่มากขึ้นเพื่อขยายผล ทำให้ Bolide จะแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของเครื่องยนต์ W-16
นอกจากนี้ยังเบา มีดีไซน์ล้ำสมัย (สีฟ้าอ่อนทาเพียงเล็กน้อยบนโครงคาร์บอนไฟเบอร์ที่เผยให้เห็น) และขนาดกะทัดรัด: Bolide สูงจากพื้นเพียง 39.2 นิ้ว ความเร็วสูงสุดที่เคลมไว้คือ 498 กม./ชม. (310 ไมล์ต่อชั่วโมง) และสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในเวลา 2.17 วินาที Bolide ไม่ใช่แค่รถ แต่เป็นตัวแทนของอนาคต เทคโนโลยีขั้นสูง
ความเร็วสูงสุด: 498 กม./ชม. (310+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.17 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.bugatti.com
Hennessey Venom F5: พลังแห่งพายุทอร์นาโด
ถัดมาในกลุ่มรถยนต์ทำลายสถิติของ Hennessey คืออีกหนึ่งรุ่นในสาย Venom ของ John Hennessey: รุ่น F5 ชื่อนี้อ้างอิงถึงพายุทอร์นาโดที่เร็วที่สุด – พลังธรรมชาติที่ Hennessey เลียนแบบด้วยพลังอันมหาศาลและความเร็วอันเหลือเชื่อ
ภายใต้ฝากระโปรงของ Venom F5 คือเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบที่ผลิตในอเมริกา และผลลัพธ์คือเกือบ 2,000 แรงม้า นี่คือสิ่งที่ทำให้ Venom F5 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์ต่อชั่วโมง) อัตราเร่งของมันก็น่าประทับใจไม่แพ้กัน เพราะสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้ในเวลาไม่ถึงสองวินาที
F5 ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยให้ Hennessey ทำลายสถิติโลกที่เคยทำไว้กับ GT โดยมีการยกระดับทั้งสไตล์ ความพิเศษ ราคา และความเร็ว มีการผลิตเพียง 24 คันเท่านั้น ป้ายราคาอยู่ที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เปลือกคาร์บอนไฟเบอร์สีเหลืองสดใส? กลายเป็นสัญลักษณ์ทันที นี่คือตัวอย่างของ สุดยอดรถยนต์ ที่ผสมผสานความเร็วและความหรูหราได้อย่างลงตัว
ความเร็วสูงสุด: 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: น้อยกว่า 2 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.hennesseyspecialvehicles.com
Koenigsegg Jesko Absolut: ความสมบูรณ์แบบที่เกิดมาเพื่อความเร็ว
จนถึงตอนนี้ อาจดูเหมือนว่าการแข่งขันเพื่อตัดสิน รถยนต์ที่เร็วที่สุด ประจำปีนี้ส่วนใหญ่เป็นการต่อสู้ระหว่างผู้ผลิตรถยนต์สองราย: Bugatti และ Hennessey ซึ่งก็สมเหตุสมผล เพราะทั้งคู่ต่างเป็นผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงและผลิตรถยนต์ที่เปี่ยมด้วยพลังดิบอันเหลือเชื่อ
แต่! นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะคว้าชัยชนะไปได้ทั้งหมด
ขอแนะนำ: Koenigsegg Jesko Absolut – ไฮเปอร์คาร์ ที่ยกระดับมาตรฐานขึ้นอย่างน่าทึ่งเกือบสามสิบไมล์ต่อชั่วโมง เป็นเวลานาน หากใครสงสัยว่ารถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกคืออะไร คำตอบก็คือรถคันนี้นั่นเอง
Koenigsegg ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสวีเดนได้เปิดตัวรถคันนี้เพื่อสร้างสถิติโลกใหม่ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้ปรับปรุงเครื่องยนต์จาก ซูเปอร์คาร์ ยอดนิยมรุ่นอื่นอย่าง Agera RS ลงทุนในการควบคุมที่แม่นยำยิ่งขึ้น และทำให้รถคันนี้เบาลงและมีหลักอากาศพลศาสตร์ดีขึ้นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ไม่ได้มีแค่เรื่องความเร็วเท่านั้น แต่ยังมีการใส่ความสะดวกสบายเข้าไปด้วย เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิ ระบบอินโฟเทนเมนท์ และพื้นที่วางขา/ศีรษะ ซึ่งมักจะถูกมองข้ามไปเมื่อพูดถึง รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก
Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 531 กม./ชม. (330 ไมล์ต่อชั่วโมง) ผู้ผลิตยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลอัตราเร่ง แต่ด้วยความเร็วสูงสุดขนาดนั้น รับรองได้เลยว่ามันต้องน่าประทับใจอย่างแน่นอน นี่คือผลงานชิ้นเอกของ วิศวกรรมยานยนต์
ความเร็วสูงสุด: 531 กม./ชม. (330 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.koenigsegg.com
Devel Sixteen: ผู้ท้าชิงบัลลังก์แห่งอนาคต
และแล้วเราก็มาถึง: รถยนต์ที่เร็วที่สุด ประจำปีนี้ Devel Sixteen ที่มาพร้อมพลังและความเร็วที่เกือบจะไม่เคยได้ยินมาก่อน รถยนต์ที่พยายามทำลายสถิติทั้งหมดที่มันเผชิญอยู่ ด้วยความเร็วสูงสุดที่เคลมไว้ 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง) Devel Sixteen กำลังจ้องมองมาตรฐานความเร็วถัดไป: 350 ไมล์ต่อชั่วโมง
Devel Sixteen เปิดตัวครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน มีสถิติที่ทำให้โลกยานยนต์กระซิบกระซาบด้วยความลึกลับ ขณะที่เรารอการผลิต: มันมี แรงม้าสูงสุด ที่น่าเหลือเชื่อถึง 5,007 แรงม้า เครื่องยนต์ V16 Quad Turbo 12.3L ขนาด 81 มม. และบรรยากาศโดยรอบที่ชวนให้ “สอบถามราคา” อยู่เสมอ รถคันนี้เป็นรถที่น่าจับตามองอย่างยิ่งในปีหน้า เนื่องจากข้อมูลที่เรามีบ่งชี้ว่ามันจะเป็นรถที่ต้องเอาชนะหากสถิติของมันได้รับการยืนยัน นี่คือ นวัตกรรมแห่งความเร็ว ที่รอการพิสูจน์
ความเร็วสูงสุด: 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เว็บไซต์: www.develmotors.com
โบนัส: ความเร็วในโลกเสมือนจริง: รถยนต์ที่เร็วที่สุดในเกม
ไม่ใช่แค่บนถนนเท่านั้นที่ความเร็วมีความสำคัญ ในโลกดิจิทัลก็เช่นกัน วัฒนธรรมยานยนต์ในปัจจุบันมีการผสานระหว่างของจริงและเสมือนจริงอย่างแยกไม่ออก ผู้คนจำนวนมากสัมผัสกับความเร็วระดับสุดยอดผ่านเกม ทำให้ รถยนต์ในเกม เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจและความฝัน
รถยนต์ที่เร็วที่สุดใน GTA 5: Ocelot Pariah
Ocelot Pariah คือรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของ GTA 5 ด้วยความเร็วสูงสุด 218.87 กม./ชม. (136.00 ไมล์ต่อชั่วโมง) มันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักเล่นเกม ทำให้คุณเห็นรถ GTA คันอื่นได้เพียงแค่ในกระจกมองหลัง แม้จะต้องใช้เงินในเกมถึง 1,420,000 ดอลลาร์เพื่อเป็นเจ้าของ แต่ความตื่นเต้นที่ได้รับก็คุ้มค่า
รถยนต์ที่เร็วที่สุดใน Forza Horizon 5: Koenigsegg Jesko
Forza Horizon 5 เป็นเกมยอดนิยมสำหรับผู้รัก รถยนต์ความเร็วสูง ทุกประเภท แต่รถยนต์ที่เร็วที่สุดในเกมคือ Koenigsegg Jesko ต้องใช้ความอดทนและ/หรือเครดิตในเกมประมาณ 2.8 ล้านเครดิต หากคุณต้องการขับ Koenigsegg Jesko ฟรี หลังจากที่คุณอัพเกรดทั้งหมดแล้ว คุณจะปลดล็อกความเร็วสูงถึง 498.897 กม./ชม. (310 ไมล์ต่อชั่วโมง)
โบนัส: เหนือขีดจำกัดบนท้องถนน: รถยนต์ที่ไม่ใช่แบบถูกกฎหมาย
รายการ รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ของเรามุ่งเน้นไปที่รถยนต์ที่ถูกกฎหมายบนท้องถนนเท่านั้น แต่เพื่อความสมบูรณ์ เราจำเป็นต้องกล่าวถึงยานพาหนะพิเศษอีกสองคันที่ผลักดันขีดจำกัดของความเร็วบนพื้นดินอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นผลงานวิศวกรรมที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
Thrust SSC: 1,228 กม./ชม. (763 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Thrust Supersonic Car เป็นรถเจ็ตของอังกฤษที่พัฒนาโดย Richard Noble, Glynne Bowsher, Ron Ayers และ Jeremy Bliss โดยเฉพาะเพื่อทำลายสถิติความเร็วโลก ปัจจุบันมันครองสถิติความเร็วบนบกด้วยความเร็วสูงสุด 1,228 กม./ชม. (763 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่บันทึกไว้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 1997 และยังเป็นยานพาหนะบนบกคันแรกที่ทำลายกำแพงเสียงอย่างเป็นทางการ Thrust SSC ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Rolls-Royce Spey turbofan สองเครื่อง และมีน้ำหนักเกือบ 10 ตัน เป็นความท้าทายทางวิทยาศาสตร์ที่น่าทึ่ง
Bloodhound LSR: เป้าหมาย 1,609 กม./ชม. (1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง)
20 ปีหลังจากรุ่นก่อนหน้า Bloodhound Land Speed Record (LSR) ได้ประกาศความตั้งใจที่จะทำลายสถิติความเร็วบนบก ด้วยเป้าหมายความเร็วสูงสุด 1,609 กม./ชม. (1,000 ไมล์ต่อชั่วโมง) รถคันนี้ได้รับการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2008 และขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เจ็ตและเครื่องยนต์จรวดผสมกัน แม้จะยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่รถคันนี้ก็ทำความเร็วได้ถึง 1,011 กม./ชม. (628 ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2019 ในแอฟริกาใต้ ทีมวิศวกรชาวอังกฤษที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้มีแผนที่จะทำลายสถิติความเร็วโลกอย่างจริงจัง
โบนัส: แวบแรกสู่อนาคต: ไฮเปอร์คาร์ที่กำลังจะมาถึงและน่าจับตา
ต้องการมองเข้าไปในลูกแก้ววิเศษที่เผยให้เห็นอนาคตของ รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก หรือไม่? นี่คือรถยนต์ที่คุณควรจับตาดูเป็นพิเศษในตลาด รถหรูแห่งอนาคต และ นวัตกรรมยานยนต์ ปี 2025:
Koenigsegg CC850: มีกำหนดเปิดตัวในปี 2024 เครื่องจักรแห่งความเร็วคันนี้ให้กำลัง 1,385 แรงม้า ด้วยน้ำหนักรถเปล่าที่ 1,385 กก. เพื่อเป็นการฉลองวันเกิดครบรอบ 50 ปีของผู้ก่อตั้ง Christian von Koenigsegg
Aspark Owl: คาดว่าจะเริ่มส่งมอบเมื่อใดก็ได้ ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า สัญชาติญี่ปุ่นคันใหม่นี้กำลังทะยานเข้าสู่เวทีด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ให้กำลัง 1,985 แรงม้า พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 1.72 วินาที
Zenvo TSR-GT: แม้ว่าวันที่ส่งมอบยังไม่แน่นอน แต่ทั้งสามคันของ TSR-GT ได้ถูกขายไปแล้ว และคาดว่าจะมอบเครื่องจักรที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 424 กม./ชม. (263 ไมล์ต่อชั่วโมง) ให้กับเจ้าของผู้โชคดี
ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม: รถยนต์ที่เกือบจะติดอันดับ (Honorable Mentions)
การทำความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงเป็นหมุดหมายที่ยากมาก แม้ว่ารถยนต์ 11 คันที่เราได้กล่าวถึงไปแล้วจะสามารถเข้าใกล้หรือเกินเป้าหมายนั้นได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารถยนต์ที่มีความเร็วต่ำกว่าเล็กน้อยจะไม่มีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
ซูเปอร์คาร์ ที่รวดเร็วทั้งแปดคันนี้สมควรได้รับการกล่าวถึงอย่างยิ่ง และเราจะไม่แปลกใจเลยหากผู้ผลิตเหล่านี้จะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในการจัดอันดับรถยนต์ของเราในอนาคต ทำให้ตลาด รถยนต์สมรรถนะสูง มีการแข่งขันที่ดุเดือดยิ่งขึ้น:
Aston Martin DBS Superleggera: 340 กม./ชม. (211 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Ferrari 812 Superfast: 340 กม./ชม. (211 ไมล์ต่อชั่วโมง)
McLaren 720S: 341 กม./ชม. (212 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Lamborghini Aventador SVJ: 349 กม./ชม. (217 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Saleen S7 Twin Turbo: 399 กม./ชม. (248 ไมล์ต่อชั่วโมง)
McLaren Speedtail: 400 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง)
W Motors Fenyr Supersport: 400 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) (ความเร็วที่เคลม)
Bugatti Chiron: 420 กม./ชม. (261 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Bugatti Veyron Super Sport: 431 กม./ชม. (268 ไมล์ต่อชั่วโมง)
สรุป: 11 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ปี 2025
ตลาด ไฮเปอร์คาร์ ในปี 2025 กำลังเฟื่องฟูด้วย นวัตกรรมยานยนต์ และการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เราได้เห็นการผสานรวมของพลังดิบ ความแม่นยำทางวิศวกรรม และงานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ W16 อันทรงพลังของ Bugatti เทคโนโลยีไฟฟ้าล้ำสมัยของ Rimac หรือการแสวงหาความเร็วสูงสุดอย่างไม่ลดละของ Hennessey และ Koenigsegg รถยนต์เหล่านี้ล้วนเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของมนุษย์ในการก้าวข้ามขีดจำกัด
นี่คือ 11 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน:
Devel Sixteen: 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Koenigsegg Jesko Absolut: 531 กม./ชม. (330 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Hennessey Venom F5: 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
Bugatti Bolide: 498 กม./ชม. (310+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
Bugatti Chiron Super Sport 300+: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
SSC Tuatara: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Czinger 21C: 432 กม./ชม. (281 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Koenigsegg Agera RS: 447.19 กม./ชม. (277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Hennessey Venom GT: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport: 431.07 กม./ชม. (267.85 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Rimac Nevera C Two: 415 กม./ชม. (258 ไมล์ต่อชั่วโมง)
โลกแห่งความเร็วมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และแต่ละรุ่นที่นำเสนอมาก็เป็นดั่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกขึ้นใหม่ตลอดเวลา แล้วไฮเปอร์คาร์คันไหนคือความฝันของคุณในปี 2025? แบ่งปันความคิดเห็นของคุณได้เลย!
ทะลุขีดจำกัดความเร็ว: 11 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของความเร็วและวิศวกรรมมาโดยตลอด และในปี 2025 นี้ วงการไฮเปอร์คาร์ก็ยังคงท้าทายทุกขีดจำกัดที่เราเคยรู้จัก รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกไม่ใช่แค่พาหนะอีกต่อไป แต่เป็นผลงานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ เป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรม และเป็นความปรารถนาสูงสุดของผู้ที่หลงใหลในความแรง
การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่ง “รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก” ไม่ใช่เพียงการทำลายสถิติตัวเลข แต่เป็นการผลักดันขีดจำกัดของวิทยาศาสตร์วัสดุ พลศาสตร์ของไหล และพลังงาน ในยุคที่เกณฑ์ 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 480 กม./ชม.) เคยเป็นความฝันที่ไกลเกินเอื้อม วันนี้เราได้ก้าวข้ามกำแพงนั้นไปไกลแล้วด้วย เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ที่เข้ามาเสริมทัพ และเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ยังคงได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง ตลาดรถซูเปอร์คาร์ และไฮเปอร์คาร์ยังคงคึกคักไปด้วยการลงทุนมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา เพื่อสร้างสรรค์ยานยนต์ที่เบากว่า ลู่ลมกว่า และทรงพลังเหนือจินตนาการ
สำหรับบทความนี้ ผมจะพาคุณไปเจาะลึก 11 สุดยอดรถยนต์ที่ครองตำแหน่งยานยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ปี 2025 นี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลล่าสุดและประสบการณ์ตรงในวงการ บางชื่ออาจคุ้นเคยจากประวัติศาสตร์ที่โด่งดัง ขณะที่บางชื่อก็เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ที่พร้อมจะสร้างตำนานบทใหม่ในโลกของ รถยนต์สมรรถนะสูง นี้
มาเริ่มต้นการเดินทางสู่โลกแห่งความเร็วสุดขีดกันเลยครับ
11 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025
Rimac Nevera C Two (ความเร็วสูงสุด: 415 กม./ชม.)
เมื่อพูดถึง รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ชื่อแรกที่ผุดขึ้นมาในใจผมคือ Rimac Nevera C Two ในฐานะผู้บุกเบิกในเซกเมนต์ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า Nevera ได้พิสูจน์แล้วว่าพลังงานไฟฟ้าไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นขุมพลังที่ไร้ขีดจำกัด ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 120kWh และมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ทำงานร่วมกันอย่างซับซ้อน มันสามารถพุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 1.85 วินาที ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ที่สามารถท้าทายบรรดารถเครื่องยนต์สันดาปได้อย่างสมศักดิ์ศรี
สิ่งที่น่าสนใจคือ Nevera ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ความเร็ว แต่มันยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัย อย่างกล้อง 13 ตัวที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการขับขี่ในสนามแบบเรียลไทม์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดทั้งด้านความแรงและความปลอดภัย นับเป็นก้าวสำคัญของ นวัตกรรมยานยนต์ ที่ผสานโลกของความเร็วเข้ากับความยั่งยืนได้อย่างลงตัว
ความเร็วสูงสุด: 415 กม./ชม. (258 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.85 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport (ความเร็วสูงสุด: 431 กม./ชม.)
แม้จะเป็นอดีตแชมป์และเปิดตัวมานานหลายปี แต่ Bugatti Veyron 16.4 Super Sport ก็ยังคงยืนหยัดอยู่ในลิสต์นี้ได้อย่างภาคภูมิใจ นี่คือ รถหรู ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการไฮเปอร์คาร์ในยุคของมัน เป็นความท้าทายทางวิศวกรรมยานยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ด้วยเครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบอันเป็นเอกลักษณ์
Veyron 16.4 Super Sport เป็นรุ่นสุดท้ายในตระกูล Veyron ที่ได้รับการปรับปรุงให้สมบูรณ์แบบในทุกมิติ ทั้งความแรง ความหรูหรา และสไตล์ที่เป็นอมตะ มันเป็นบทสรุปที่สง่างามของยุคสมัยที่ Bugatti ได้ผลักดันขีดจำกัดของรถยนต์ถนนไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน และยังคงเป็นหนึ่งใน แบรนด์รถยนต์หรู ที่ได้รับการยกย่องสูงสุดในโลกยานยนต์เสมอมา สำหรับนักสะสมและผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์ความเร็ว Veyron Super Sport คือชิ้นงานศิลปะที่ยังคงทรงคุณค่าไม่เสื่อมคลาย
ความเร็วสูงสุด: 431 กม./ชม. (267 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Hennessey Venom GT (ความเร็วสูงสุด: 434 กม./ชม.)
Hennessey Performance จากสหรัฐอเมริกา ไม่ใช่ชื่อที่จะมองข้ามได้เมื่อพูดถึงความเร็ว และ Venom GT คือบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ John Hennessey ที่ต้องการสร้างรถยนต์ที่สามารถท้าทายค่ายยักษ์ใหญ่ได้ รถคันนี้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำลายสถิติโลกบนรันเวย์ของศูนย์อวกาศเคนเนดีในปี 2014 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ วิศวกรรมยานยนต์ สัญชาติอเมริกันที่สามารถแข่งขันในเวทีโลกได้
ด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ที่เบาเป็นพิเศษ Venom GT มีรูปลักษณ์ที่ปราดเปรียวและดุดันราวกับเสือดำที่พร้อมจะพุ่งทะยานได้ทุกเมื่อ ใช้เวลาพัฒนาถึงสองปี และผลิตเพียง 29 คันเท่านั้น ทำให้มันเป็นหนึ่งในซูเปอร์คาร์ที่หายากและเป็นที่ต้องการใน ตลาดรถซูเปอร์คาร์ แม้เวลาจะผ่านไป แต่ตำนานของ Venom GT ในฐานะผู้ท้าชิงที่กล้าหาญก็ยังคงเป็นที่จดจำ
ความเร็วสูงสุด: 434 กม./ชม. (270 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.05 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Koenigsegg Agera RS (ความเร็วสูงสุด: 447.2 กม./ชม.)
Koenigsegg ค่ายผู้ผลิตจากสวีเดน ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะผู้นำด้าน นวัตกรรมยานยนต์ และ Agera RS คือตัวอย่างที่ชัดเจน มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายสถิติโลกโดยเฉพาะ ด้วยการออกแบบที่ลู่ลมและเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบขนาด 5.0 ลิตร ที่สร้างพละกำลังมหาศาลถึง 1,176 แรงม้า ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตขึ้นเองภายในบริษัท นี่คือความสำเร็จที่น่าทึ่งในวงการยานยนต์
Agera RS ถูกผลิตขึ้นด้วยมือเพียง 25 คัน และ 10 คันถูกขายล่วงหน้าก่อนการเปิดตัวครั้งแรกด้วยซ้ำ ซึ่งบ่งบอกถึงความต้องการอันมหาศาลและความเชื่อมั่นในสมรรถนะของรถ มันเป็นเครื่องจักรที่ผสมผสานความงามเข้ากับความดุดันได้อย่างลงตัว และยังคงเป็นหนึ่งใน ไฮเปอร์คาร์ ที่มีสถิติความเร็วที่น่าประทับใจที่สุดคันหนึ่งในประวัติศาสตร์
ความเร็วสูงสุด: 447.2 กม./ชม. (277.8 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Czinger 21C (ความเร็วสูงสุด: 432 กม./ชม.)
Czinger 21C คือตัวแทนของอนาคต วิศวกรรมยานยนต์ ในศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง มันแตกต่างจากซูเปอร์คาร์ทั่วไปด้วยแนวคิดการออกแบบและเทคโนโลยีที่ไม่เหมือนใคร ด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ที่ผลิตด้วยการพิมพ์ 3 มิติ และระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ 21C เป็นรถที่สร้างสถิติเวลาต่อรอบสนามได้อย่างน่าทึ่ง
สิ่งที่น่าจับตาคือระบบไฮบริดที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเสริมด้วยระบบไฟฟ้า 800 โวลต์ ซึ่งคล้ายกับที่พบในรถ Formula 1 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผสานพลังงานสองรูปแบบเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แม้จะไม่สามารถทำความเร็วสูงสุดด้วยไฟฟ้าอย่างเดียว แต่ก็สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ระยะหนึ่ง นี่คือ นวัตกรรมยานยนต์ ที่พร้อมจะก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าอนาคตของรถยนต์สมรรถนะสูงกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างไร
ความเร็วสูงสุด: 432 กม./ชม. (281 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
SSC Tuatara (ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม.)
Shelby SuperCars หรือ SSC ไม่ใช่หน้าใหม่ในโลกแห่งความเร็ว ในปี 2007 SSC Ultimate Aero เคยครองตำแหน่งรถโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลก และ Tuatara คือความพยายามครั้งใหม่ที่จะท้าทายเกณฑ์ 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างแท้จริง แม้จะเคยมีข้อถกเถียงเรื่องการบันทึกความเร็ว แต่ปัจจุบัน SSC Tuatara ได้รับการยืนยันความเร็วที่ 474.8 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง) โดย Racelogic ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงของมัน
Tuatara มาพร้อมกับค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำมากเพียง 0.279 และเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ 1,750 แรงม้า ด้วยราคาประมาณ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มันเป็นเครื่องจักรที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วโดยเฉพาะ จากประสบการณ์ของผม SSC ไม่เคยยอมแพ้ และผมเชื่อว่าเราอาจจะได้เห็น Tuatara ทำความเร็วที่สูงกว่านี้อีกในอนาคตอันใกล้ มันคือตัวแทนของความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของ การขับขี่สมรรถนะสูง
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Bugatti Chiron Super Sport 300+ (ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม.)
Bugatti ยังคงเป็นชื่อที่คุ้นเคยในวงการ ไฮเปอร์คาร์ มานานหลายปี Chiron Super Sport 300+ ไม่ใช่แค่รถเร็วธรรมดา แต่เป็นรถที่สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะรถคันแรกที่สามารถทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 483 กม./ชม.) ได้สำเร็จอย่างเป็นทางการ ด้วยเครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบที่ได้รับการอัปเกรดอย่างเข้มข้น ทำให้ Chiron Super Sport 300+ ผสมผสานความงามสง่าเข้ากับพละกำลังอันดุดันได้อย่างไร้ที่ติ
มันเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของการสร้างสมดุลระหว่างรูปทรงและฟังก์ชันการทำงาน ระหว่างอากาศพลศาสตร์และความสวยงาม อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.4 วินาที บ่งบอกว่า Bugatti ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ความเร็วสูงสุด แต่ยังรวมถึงประสบการณ์การขับขี่โดยรวม นี่คือ รถหรู ที่เป็นมากกว่ายานพาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จทาง วิศวกรรมยานยนต์ ที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Bugatti Bolide (ความเร็วสูงสุด: 498+ กม./ชม.)
หลังจากความสำเร็จของ Chiron Super Sport Bugatti ก็ยังคงท้าทายตัวเองด้วย Bolide ไฮเปอร์คาร์น้ำหนักเบาที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพสูงสุดในสนามแข่ง นี่คือการแสดงออกถึงขีดสุดของสิ่งที่เครื่องยนต์ W16 สามารถทำได้ ด้วยการใช้เครื่องยนต์เดียวกับ Chiron แต่เพิ่มเทอร์โบชาร์จเจอร์ให้มากขึ้น ทำให้ Bolide มีพละกำลังถึง 1,825 แรงม้า และแรงบิด 1,364 ปอนด์-ฟุต
การออกแบบของ Bolide นั้นล้ำยุคอย่างแท้จริง ด้วยโครงสร้างคาร์บอนไฟเบอร์ที่เปลือยเปล่าและรายละเอียดสีฟ้าที่น้อยนิด ตัวรถมีความสูงจากพื้นเพียง 39.2 นิ้ว ซึ่งบ่งบอกถึงอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม ความเร็วสูงสุดที่คาดการณ์ไว้คือ 498 กม./ชม. (310 ไมล์ต่อชั่วโมง) และสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2.17 วินาที Bolide ไม่ใช่แค่รถ แต่เป็นการทดลองทาง นวัตกรรมยานยนต์ ที่กล้าหาญ แสดงให้เห็นถึงอนาคตของ การขับขี่สมรรถนะสูง บนสนามแข่ง
ความเร็วสูงสุด: 498+ กม./ชม. (310+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.17 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 4.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Hennessey Venom F5 (ความเร็วสูงสุด: 500+ กม./ชม.)
Hennessey Venom F5 คืออีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงจาก John Hennessey ที่ตั้งใจจะทุบสถิติโลกอีกครั้ง ชื่อ F5 มาจากพายุทอร์นาโดที่เร็วที่สุด ซึ่งสะท้อนถึงพละกำลังและความเร็วอันมหาศาลของรถคันนี้ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบที่ผลิตในอเมริกา ซึ่งสร้างพละกำลังเกือบ 2,000 แรงม้า Venom F5 สามารถทำความเร็วสูงสุดเกิน 500 กม./ชม. (310.7 ไมล์ต่อชั่วโมง) และมีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 2 วินาที ซึ่งอยู่ในระดับที่น่าทึ่ง
F5 ไม่ได้เป็นแค่ความเร็ว แต่ยังมาพร้อมสไตล์และความพิเศษเฉพาะตัว ผลิตเพียง 24 คัน ด้วยราคา 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์สีเหลืองสดใสที่โดดเด่น มันคือ ไฮเปอร์คาร์ ที่ออกแบบมาเพื่อสร้างตำนานและเป็นจุดสูงสุดของ การขับขี่สมรรถนะสูง ในยุคปัจจุบัน
ความเร็วสูงสุด: 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ต่ำกว่า 2 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Koenigsegg Jesko Absolut (ความเร็วสูงสุด: 531 กม./ชม.)
Koenigsegg Jesko Absolut คือการประกาศเจตนารมณ์ที่ชัดเจนจากผู้ผลิตสัญชาติสวีเดนว่าจะเข้ามาช่วงชิงตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลก จากประสบการณ์ของผม Absolut ได้ยกระดับการแข่งขันขึ้นไปอีกขั้นด้วยความเร็วที่เหนือกว่าคู่แข่งเกือบ 30 ไมล์ต่อชั่วโมง พวกเขาได้ปรับปรุงเครื่องยนต์จาก Agera RS ให้ดียิ่งขึ้น ลงทุนในการควบคุมที่แม่นยำ และทำให้รถมีน้ำหนักเบาและอากาศพลศาสตร์ที่เหมาะสมที่สุดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
สิ่งที่ทำให้ Absolut โดดเด่นไม่แพ้ความเร็วคือความใส่ใจในรายละเอียดด้านความสะดวกสบาย เช่น ระบบควบคุมสภาพอากาศ ระบบความบันเทิง และพื้นที่วางขา/ศีรษะ ซึ่งมักถูกมองข้ามไปในรถที่เน้นความเร็วเป็นหลัก นี่คือ ไฮเปอร์คาร์ ที่ไม่เพียงแต่เร็วที่สุด แต่ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่ารื่นรมย์ สะท้อนถึงปรัชญาของ Koenigsegg ในการสร้างสรรค์ รถยนต์สมรรถนะสูง ที่สมบูรณ์แบบ
ความเร็วสูงสุด: 531 กม./ชม. (330 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 3.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Devel Sixteen (ความเร็วสูงสุด: 550+ กม./ชม.)
และแล้วเราก็มาถึงจุดสูงสุด: Devel Sixteen รถยนต์ที่ครองตำแหน่งเร็วที่สุดในโลก ณ ปี 2025 นี้ ด้วยความเร็วสูงสุดที่อ้างว่าสูงถึง 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง) Devel Sixteen กำลังท้าทายมาตรฐานความเร็วใหม่ที่ 350 ไมล์ต่อชั่วโมง
เปิดตัวครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน Devel Sixteen สร้างความฮือฮาในวงการยานยนต์ด้วยสถิติที่เหลือเชื่อ: พละกำลังมหาศาลถึง 5,007 แรงม้า จากเครื่องยนต์ V16 ควอด-เทอร์โบขนาด 12.3 ลิตร แม้ว่าเวอร์ชัน V16 ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและตัวเลขความเร็วสูงสุดยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่สิ่งที่เราทราบเกี่ยวกับมันบ่งชี้ว่านี่คือรถที่จะต้องเอาชนะหากตัวเลขเหล่านี้ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ มันคือสัญลักษณ์ของความกล้าที่จะฝันใหญ่และผลักดัน วิศวกรรมยานยนต์ ไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีใครจินตนาการถึง นี่คือ การลงทุนรถยนต์ สำหรับผู้ที่มองหาที่สุดแห่งขีดจำกัด
ความเร็วสูงสุด: 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคาโดยประมาณ: 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (สำหรับรุ่น V8 ที่ออกจำหน่ายแล้ว) หมายเหตุ: ราคาสำหรับรุ่น V16 ที่กำลังพัฒนา อาจต้องสอบถามโดยตรง
ขีดสุดแห่งความเร็ว: ยานยนต์ที่ไม่ใช่สำหรับถนนสาธารณะ
รายการรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกที่เราได้กล่าวถึงข้างต้นเน้นไปที่รถยนต์ที่สามารถวิ่งบนถนนสาธารณะได้ แต่เพื่อให้ภาพสมบูรณ์ ผมขอพูดถึงยานพาหนะพิเศษอีกสองคันที่ผลักดันขีดจำกัดของความเร็วบนพื้นดินไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีใครคิดถึง
Thrust SSC: 1,228 กม./ชม.
Thrust SSC คือยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยไอพ่นจากอังกฤษที่สร้างประวัติศาสตร์โลกในปี 1997 ด้วยการทำลายสถิติความเร็วบนพื้นดินที่ 1,228 กม./ชม. และเป็นยานพาหนะบนบกคันแรกที่ทำลายกำแพงเสียงได้สำเร็จอย่างเป็นทางการ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Rolls-Royce Spey turbofan สองเครื่องยนต์ มีน้ำหนักเกือบ 10 ตัน มันคือการแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของมนุษย์ในการพิชิตความเร็วขั้นสูงสุด
Bloodhound LSR: เป้าหมาย 1,609 กม./ชม.
20 ปีหลังจาก Thrust SSC ทีมงาน Bloodhound Land Speed Record (LSR) ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะทำลายสถิติโลกอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายความเร็ว 1,609 กม./ชม. รถคันนี้อยู่ระหว่างการพัฒนามาตั้งแต่ปี 2008 และขับเคลื่อนด้วยการผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์ไอพ่นและเครื่องยนต์จรวด แม้จะยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่ Bloodhound LSR ก็ได้ทำความเร็วทดสอบไปแล้วถึง 1,011 กม./ชม. ในปี 2019 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาล นี่คือ อนาคตยานยนต์ ที่แท้จริงในการแข่งขันกับเวลา
อนาคตที่กำลังมาถึง: ไฮเปอร์คาร์ที่ต้องจับตาในปี 2025 และหลังจากนั้น
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการมองไปข้างหน้า นี่คือไฮเปอร์คาร์บางรุ่นที่เราควรจับตาดูในปี 2025 และปีต่อๆ ไป ที่สัญญาว่าจะนำความเร็วและนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่วงการ ยานยนต์
Koenigsegg CC850: มีกำหนดการในปี 2024 รถคันนี้ฉลองวันเกิดครบรอบ 50 ปีของผู้ก่อตั้ง Christian von Koenigsegg ด้วยพละกำลัง 1,385 แรงม้า และน้ำหนักตัว 1,385 กก. เป็นอัตราส่วน 1:1 ที่น่าทึ่ง
Aspark Ow: ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าสัญชาติญี่ปุ่นที่คาดว่าจะส่งมอบได้ทุกเมื่อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวที่ให้กำลังถึง 1,985 แรงม้า สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 1.72 วินาที
Zenvo TSR-GT: แม้วันส่งมอบยังไม่แน่นอน แต่ทั้งสามคันก็ถูกขายไปแล้ว และคาดว่าจะมอบความเร็วสูงสุดถึง 424 กม./ชม. (263 ไมล์ต่อชั่วโมง) ให้กับเจ้าของผู้โชคดี
บทสรุป: จุดสูงสุดของความเร็วในปี 2025
ปี 2025 เป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับวงการยานยนต์สมรรถนะสูงอย่างแท้จริง เราได้เห็นการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า มาเสริมประสิทธิภาพ หรือการผลักดันขีดจำกัดของเครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิม รถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่แค่พาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทาง วิศวกรรมยานยนต์ และ นวัตกรรมยานยนต์ ที่มนุษย์สามารถสร้างสรรค์ได้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการ ผมยืนยันว่าการแข่งขันเพื่อความเร็วยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้น และสิ่งที่น่าจับตาคือทิศทางของอนาคตที่เทคโนโลยีไฮบริดและไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการผลักดันขีดจำกัดของความเร็วและประสิทธิภาพ
นี่คือ 10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน:
Devel Sixteen: 550+ กม./ชม. (347 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Koenigsegg Jesko Absolut: 531 กม./ชม. (330 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Hennessey Venom F5: 500+ กม./ชม. (310.7+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
Bugatti Bolide: 498+ กม./ชม. (310+ ไมล์ต่อชั่วโมง)
Bugatti Chiron Super Sport 300+: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
SSC Tuatara: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Czinger 21C: 432 กม./ชม. (281 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Koenigsegg Agera RS: 447.2 กม./ชม. (277.8 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Hennessey Venom GT: 434 กม./ชม. (270 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Bugatti Veyron 16.4 Super Sport: 431 กม./ชม. (267.85 ไมล์ต่อชั่วโมง)
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในความเร็วและ รถยนต์สมรรถนะสูง ผมขอเชิญชวนให้คุณติดตามข่าวสารและนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการนี้อย่างใกล้ชิด เพราะเชื่อผมเถอะว่า “ความเร็ว” จะยังคงสร้างความประหลาดใจให้เราได้อีกมากมายในอนาคตอันใกล้ และหากคุณมีข้อสงสัยหรือต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสุดยอดรถเหล่านี้ อย่าลังเลที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของคุณกับเรา เพราะโลกของ ไฮเปอร์คาร์ นั้นกว้างใหญ่และน่าตื่นเต้นเสมอ!

