• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1111426 แอบชอบเพื่อนสนิท part 2

admin79 by admin79
November 11, 2025
in Uncategorized
0
N1111426 แอบชอบเพื่อนสนิท part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

20 อันดับรถยนต์ถนนที่เร็วที่สุดในโลกปี 2025: ทะยานสู่จุดสูงสุดของความเร็ว

ในโลกแห่งยนตรกรรม ความเร็วสูงสุดไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันคือการประกาศถึงขีดสุดของวิศวกรรม การออกแบบ และความทะเยอทะยานที่ไร้ขีดจำกัด ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่าปี 2025 นี้ ตลาด ไฮเปอร์คาร์ความเร็วสูง กำลังร้อนระอุกว่าที่เคย ด้วยการมาถึงของเทคโนโลยีใหม่ๆ และการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก

แม้ว่าในชีวิตจริงของนักขับส่วนใหญ่ ความเร็วสูงสุดรถยนต์ อาจไม่สำคัญเท่าความคล่องตัวหรือการขับขี่ในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับค่ายรถยนต์ชั้นนำและเหล่าคนรักรถทั่วโลก ตัวเลขนี้คือสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรีและความเป็นผู้นำ การสร้างรถยนต์ที่สามารถทำความเร็วได้เหนือจินตนาการ และยังคงเป็น รถยนต์ถนนที่ถูกกฎหมาย ถือเป็นความท้าทายทางวิศวกรรมที่ยิ่งใหญ่ เป็นการแสดงถึง สุดยอดวิศวกรรมยานยนต์ ที่ผสานรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ในยุค 90 เราเคยตื่นเต้นกับการแข่งขันเพื่อทะลุผ่านกำแพง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยรถในตำนานอย่าง Ferrari F40 และ McLaren F1 แต่ในยุคปัจจุบัน เรากำลังพูดถึงการทำลายสถิติที่ 300 ไมล์ต่อชั่วโมง และที่น่าจับตาคือ รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่เริ่มก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ทำให้ผู้ผลิตหน้าใหม่หลายรายสามารถท้าทายแบรนด์ยักษ์ใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง นี่คือภูมิทัศน์ของ ยานยนต์แห่งอนาคต ที่เรากำลังเห็นอยู่ในปี 2025

รายการ รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก 2025 ที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้ เป็นการรวบรวมสุดยอดรถยนต์ถนน 20 อันดับ ที่ไม่เพียงแต่เร็วที่สุด แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัย นวัตกรรม และความหลงใหลในความเร็ว ผมได้คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน โดยหลีกเลี่ยงรุ่นซ้ำซ้อนหรือรถที่ได้รับการดัดแปลงอย่างหนัก เพื่อให้คุณได้เห็นถึงแก่นแท้ของ สมรรถนะรถยนต์ระดับโลก ในปัจจุบัน

20 อันดับรถยนต์ถนนที่เร็วที่สุดในโลก

McLaren F1

ความเร็วสูงสุด: 240.1 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 386 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: มากกว่า 15 ล้านปอนด์

รถในตำนานที่ไม่ต้องการคำบรรยายใดๆ McLaren F1 ยังคงเป็นมาตรฐานทองคำสำหรับ ไฮเปอร์คาร์ แม้ในปี 2025 มันคือผู้นำทางที่ทำลายสถิติโลกในปี 1998 ด้วยเครื่องยนต์ V12 หายใจเอง และเกียร์ธรรมดา แม้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปไกล แต่ความบริสุทธิ์ในการขับขี่และประวัติศาสตร์ของ F1 ทำให้มันยังคงเป็นที่ต้องการในตลาด การลงทุนในไฮเปอร์คาร์ และเป็นแรงบันดาลใจให้กับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ๆ เสมอมา

W Motors Fenyr Supersport

ความเร็วสูงสุด: 245 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 394 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 1.4 ล้านปอนด์

จากดูไบ W Motors ได้สร้าง Fenyr SuperSport ที่ไม่เพียงแต่เร็ว แต่ยังโดดเด่นด้วยการออกแบบที่ล้ำยุคและวัสดุสุดหรูหรา เครื่องยนต์ Twin-turbocharged flat-six จาก Ruf ให้กำลังที่เหลือเฟือ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมรถคันนี้ถึงเป็นที่จับตามอง โดยเฉพาะในฐานะ รถสปอร์ตหรู ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และเคยปรากฏตัวในภาพยนตร์ Fast & Furious ทำให้ชื่อเสียงยิ่งโด่งดัง

Saleen S7 Twin Turbo

ความเร็วสูงสุด: 248 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 399 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 500,000 ปอนด์

Saleen S7 Twin Turbo คือสัตว์ร้ายจากอเมริกาที่เปิดตัวในปี 2005 ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin Turbo พลัง 750 แรงม้า ที่ตั้งเป้าหมายจะโค่น McLaren F1 ด้วยความเร็ว 248 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้สถิติดังกล่าวจะไม่เคยได้รับการพิสูจน์อย่างเป็นทางการ แต่ S7 Twin Turbo ยังคงเป็นสัญลักษณ์ของพละกำลังดิบสไตล์อเมริกัน และเป็นที่เคารพในหมู่ผู้คลั่งไคล้ รถยนต์สมรรถนะสูง ที่ชื่นชอบความท้าทาย

Koenigsegg Gemera & CCXR

ความเร็วสูงสุด: 248 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 399 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 2 ล้านปอนด์

Koenigsegg แบรนด์จากสวีเดนที่ปรากฏตัวในลิสต์นี้หลายครั้ง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในความเร็ว Gemera คือ ไฮเปอร์คาร์ไฮบริด อัลตร้าโมเดิร์นพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าสามตัวและเครื่องยนต์สันดาป มอบพละกำลังมหาศาล ขณะที่ CCXR เป็นรุ่นเก่าที่ยังคงความเร็วระดับเดียวกัน ด้วยเครื่องยนต์ V8 Supercharged นี่คือการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีล่าสุดและพลังแบบดั้งเดิมที่ลงตัว เป็นตัวอย่างของ นวัตกรรมรถยนต์ความเร็วสูง ที่หลากหลาย

Aspark Owl

ความเร็วสูงสุด: 249 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 400 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 2.5 ล้านปอนด์

Aspark Owl จากญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งใน รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง ที่เข้ามาเปลี่ยนเกม ด้วยความสามารถในการเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 1.72 วินาที มันอาจกลายเป็นรถโปรดักชั่นที่เร่งความเร็วได้เร็วที่สุดในโลก และความเร็วสูงสุด 249 ไมล์ต่อชั่วโมงที่ทำได้จากมอเตอร์ไฟฟ้า 1,985 แรงม้า แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของ เทคโนโลยีแบตเตอรี่รถไฟฟ้า และการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ล้ำสมัย

Ultima RS

ความเร็วสูงสุด: 250 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 402 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 130,000 ปอนด์

Ultima RS คือรถที่แหวกแนวที่สุดในลิสต์นี้ ไม่ใช่แค่ราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า แต่ยังเป็น “คิทคาร์” ที่คุณสามารถสร้างเองได้ การทำความเร็ว 250 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถที่คุณประกอบเองอาจฟังดูเหลือเชื่อ แต่ด้วยน้ำหนักที่เบาเป็นพิเศษและเครื่องยนต์ Corvette ที่ปรับแต่งให้กำลัง 1,200 แรงม้า Ultima RS พิสูจน์ให้เห็นว่า พละกำลังต่อน้ำหนัก คือหัวใจสำคัญของความเร็วในสไตล์คลาสสิก

McLaren Speedtail

ความเร็วสูงสุด: 250 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 402 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 2.1 ล้านปอนด์

Speedtail คือผลงานชิ้นเอกจาก McLaren ที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วและความหรูหรา ด้วยดีไซน์ ‘Hyper-GT’ และการจัดวางที่นั่งคนขับตรงกลางอันเป็นเอกลักษณ์แบบ F1 รถคันนี้ได้พิสูจน์ความเร็ว 250 ไมล์ต่อชั่วโมงในสนามทดสอบ Kennedy Space Centre มากกว่า 30 ครั้ง เป็นการตอกย้ำถึงมรดกแห่งความเร็วของ McLaren และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำใน รถสปอร์ตไฟฟ้าไฮบริด

Czinger 21C V Max

ความเร็วสูงสุด: มากกว่า 253 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 407 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 1.5 ล้านปอนด์

Czinger 21C V Max คือ ไฮเปอร์คาร์ยุคใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติเข้ากับการออกแบบอากาศพลศาสตร์ และระบบขับเคลื่อนไฮบริด 1,233 แรงม้า การเร่งความเร็ว 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 1.9 วินาที และรุ่น V Max ที่ลดแรงต้านอากาศเพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุด แสดงให้เห็นถึงการก้าวข้ามขีดจำกัดของยานยนต์ในทุกมิติ มันคืออนาคตของ ยานยนต์สมรรถนะสูง ที่เริ่มเป็นรูปธรรมแล้ว

Koenigsegg Regera

ความเร็วสูงสุด: 255 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 410 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 2.6 ล้านปอนด์

Regera คืออีกหนึ่งความมหัศจรรย์จาก Koenigsegg ด้วยระบบส่งกำลังไฮบริดเกือบ 1,500 แรงม้า และเกียร์แบบความเร็วเดียวที่ปฏิวัติวงการ ทำให้มันสามารถทำความเร็ว 255 ไมล์ต่อชั่วโมงได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังเคยสร้างสถิติโลก 0-249-0 ไมล์ต่อชั่วโมง แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบทั้งในด้านการเร่งความเร็วและการเบรก Regera เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ รถยนต์ไฮบริดความเร็วสูง ที่เหนือความคาดหมาย

SSC Ultimate Aero

ความเร็วสูงสุด: 256.18 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 412 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 500,000 ปอนด์

SSC Ultimate Aero เคยครองตำแหน่ง รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยโค่น Bugatti Veyron ในปี 2007 ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo 1,183 แรงม้า ที่เน้นประสบการณ์การขับขี่ที่ดิบและบริสุทธิ์ ปราศจากตัวช่วยขับขี่ใดๆ การทำสถิติบนถนนสาธารณะที่ปิดชั่วคราว แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นของ SSC ในการสร้าง รถยนต์ความเร็วสูง ที่แท้จริง

Rimac Nevera/Nevera R

ความเร็วสูงสุด: 258 ไมล์ต่อชั่วโมง / 268 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 415 กม./ชม. / 431 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 2.4 ล้านปอนด์

Rimac Nevera คือ ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก และเป็นข้อพิสูจน์ถึงพลังของยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยกำลัง 1,888 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล มันสามารถเร่งความเร็วจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 1.9 วินาที และรุ่น Nevera R ที่ใหม่กว่านั้น มอบพลัง 2,078 แรงม้า และความเร็วสูงสุด 268 ไมล์ต่อชั่วโมง พร้อมการเร่ง 0-186 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 7.9 วินาที ซึ่งเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ Rimac ไม่เพียงแต่เร็ว แต่ยังนำเสนอ เทคโนโลยีแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ที่ชาร์จเร็วและมีระยะทางวิ่งที่น่าประทับใจ

Bugatti Veyron

ความเร็วสูงสุด: 268 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 431 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 1 ล้านปอนด์

Bugatti Veyron คือชื่อที่สั่นสะเทือนวงการยานยนต์เมื่อปรากฏตัวครั้งแรก และยังคงเป็นที่เคารพอย่างสูงในปี 2025 ด้วยเครื่องยนต์ W16 Quad-turbo 6.0 ลิตร อันทรงพลัง Veyron Super Sport ได้เพิ่มกำลังเป็น 1,183 แรงม้า และทำความเร็วสูงสุด 268 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งน้อยคันนักจะเทียบได้ มันคือหนึ่งใน รถยนต์สมรรถนะสูงในตำนาน ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ในอันดับต้นๆ

Hennessey Venom F5

ความเร็วสูงสุด: 271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 437 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 1.7 ล้านปอนด์

Hennessey Venom F5 คือ ไฮเปอร์คาร์สัญชาติอเมริกัน ที่ตั้งเป้าหมายจะทำความเร็วเกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo พลัง 1,817 แรงม้า F5 ได้ทำความเร็วในการทดสอบไปแล้วที่ 271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง และเชื่อมั่นว่าจะไปได้ไกลกว่านั้นอีกมาก การเร่งความเร็ว 0-249 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 15.5 วินาที แสดงให้เห็นถึงพละกำลังมหาศาลเมื่อรถได้ความเร็ว เป็นคู่แข่งที่น่าจับตาในตลาด รถยนต์ความเร็วสูงสุด

Bugatti Tourbillon

ความเร็วสูงสุด: 277 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 446 กม./ชม.) (ประมาณการณ์)

ราคาเริ่มต้น: มากกว่า 3.5 ล้านปอนด์ (ประมาณการณ์)

Bugatti Tourbillon คืออนาคตของ Bugatti ด้วยระบบไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ V16 หายใจเอง 986 แรงม้า เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมกว่า 1,770 แรงม้า ด้วยชื่อเสียงของ Bugatti ในการสร้าง รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก เราคาดการณ์ได้อย่างมั่นใจว่า Tourbillon จะเข้ามาอยู่ในลิสต์นี้อย่างแน่นอนเมื่อเปิดตัวในปี 2026 มันคือ นวัตกรรมยานยนต์ ที่ผสานความหรูหรากับสมรรถนะได้อย่างลงตัว

Koenigsegg Agera RS

ความเร็วสูงสุด: 277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 447 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 3.5 ล้านปอนด์

ในปี 2017 Koenigsegg Agera RS ได้สร้างสถิติโลกใหม่บนถนนสาธารณะ ด้วยความเร็ว 277.87 ไมล์ต่อชั่วโมงบนทางหลวงในรัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา การทำสถิติเช่นนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของกำลังเครื่องยนต์ แต่ยังรวมถึงความแม่นยำทางวิศวกรรมและการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ไร้ที่ติ Agera RS คือบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Koenigsegg ในการก้าวข้ามขีดจำกัดของ รถยนต์ถนนที่เร็วที่สุด

Bugatti Mistral

ความเร็วสูงสุด: 282.05 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 454 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 5.2 ล้านปอนด์

Bugatti Mistral คือ รถยนต์เปิดประทุนที่เร็วที่สุดในการผลิต ด้วยการจำกัดจำนวนเพียง 99 คัน มันคือผลงานชิ้นเอกที่ใช้เครื่องยนต์ W16 Quad-turbo 8 ลิตร อันโด่งดังของ Bugatti ทำความเร็วสูงสุด 282.05 ไมล์ต่อชั่วโมงในการทดสอบปี 2024 Mistral ไม่เพียงแต่เร็ว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการสิ้นสุดยุคเครื่องยนต์ W16 ใน Bugatti ทำให้มันเป็น รถยนต์หรู ความเร็วสูงสุด ที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง

SSC Tuatara

ความเร็วสูงสุด: 282.9 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 455 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 1.5 ล้านปอนด์

SSC Tuatara เป็นรถที่มาพร้อมกับเรื่องราวการทำลายสถิติที่น่าสนใจ หลังจากข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการทำสถิติครั้งแรก SSC ได้กลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในปี 2021 ด้วยอุปกรณ์จับเวลาที่แม่นยำและพยานอิสระ ทำให้ได้ค่าเฉลี่ยสองทิศทางที่ 282.9 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo 5.9 ลิตร พลัง 1,750 แรงม้า และน้ำหนักที่เบา ทำให้ Tuatara เป็น ไฮเปอร์คาร์ ที่มีสมรรถนะน่าเกรงขาม

Bugatti Chiron Super Sport 300+

ความเร็วสูงสุด: 304.8 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 490 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: 3 ล้านปอนด์

Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือผู้บุกเบิกที่ทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ ด้วยเครื่องยนต์ W16 8.0 ลิตร ที่ปรับแต่งให้กำลัง 1,578 แรงม้า และการออกแบบ ‘Longtail’ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ รถคันนี้ทำความเร็ว 304.774 ไมล์ต่อชั่วโมงในสนามทดสอบ Ehra-Lessien มันคือจุดสูงสุดของ วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูง และเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะเหนือขีดจำกัดความเร็ว

Koenigsegg Jesko Absolut

ความเร็วสูงสุด: 310 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 499 กม./ชม.) (เป้าหมาย)

ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2.3 ล้านปอนด์

Koenigsegg Jesko Absolut คือคำมั่นสัญญาของ Christian Von Koenigsegg ที่จะสร้าง Koenigsegg ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการออกแบบที่ลดแรงต้านอากาศลงอย่างมาก การถอดปีกหลังออก และการลดน้ำหนักอย่างพิถีพิถัน รวมถึงเพลาข้อเหวี่ยงที่เบาที่สุดในโลก พร้อมเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo 5.0 ลิตร พลัง 1,600 แรงม้า แม้ตัวเลขทางการจะยังไม่ประกาศ แต่เป้าหมาย 310 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้มันเป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดา รถยนต์สมรรถนะเกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง และเป็นคู่แข่งตลอดกาลของ Bugatti

Yangwang U9 Xtreme

ความเร็วสูงสุด: 308 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 496 กม./ชม.)

ราคาเริ่มต้น: มากกว่า 250,000 ปอนด์

และอันดับหนึ่งสำหรับปี 2025 คือ Yangwang U9 Xtreme นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนว่า เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ได้ก้าวล้ำมาไกลเพียงใด ด้วยราคาที่เข้าถึงได้มากกว่าไฮเปอร์คาร์ส่วนใหญ่ U9 Xtreme ได้ทำลายสถิติด้วยความเร็ว 308 ไมล์ต่อชั่วโมง ต้องขอบคุณมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวอันทรงพลังที่ให้กำลังรวมถึง 2,978 แรงม้า และสถาปัตยกรรม 1,200V ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ระบบแบตเตอรี่ที่พัฒนาโดย BYD ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานพลังงานที่ความเร็วสูงโดยไม่เกิดความร้อนสูงเกินไป ทำให้มันเป็นผู้นำในตลาด รถสปอร์ตไฟฟ้า และเป็นข้อพิสูจน์ถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์

ทางเลือกสำหรับความเร็วเกิน 200 ไมล์ต่อชั่วโมง

แม้ว่าไฮเปอร์คาร์ในลิสต์ข้างต้นจะมีราคาหลักล้านปอนด์ แต่ในปี 2025 การเข้าถึง รถยนต์โปรดักชั่นที่สามารถทำความเร็วเกิน 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ได้ง่ายกว่าที่เคย ตลาดนี้มีการแข่งขันสูงขึ้น ทำให้มีตัวเลือกมากมายสำหรับผู้ที่ต้องการ สมรรถนะรถยนต์ระดับโลก โดยไม่ต้องถึงขั้นซื้อไฮเปอร์คาร์สุดขีด

คุณจะพบรถยนต์สปอร์ตสองที่นั่งอย่าง Maserati MC20, Audi R8 V10 และ Ferrari 296 GTB ที่ล้วนแต่ทำความเร็วเกิน 200 ไมล์ต่อชั่วโมง พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ สำหรับผู้ที่ต้องการ รถยนต์หรู ความเร็วสูงสุด สไตล์ Grand Tourer ก็มี Bentley Flying Spur (207 ไมล์ต่อชั่วโมง) และ Bentley Continental GT Speed (208 ไมล์ต่อชั่วโมง) หรือแม้แต่รถเปิดประทุนอย่าง Lamborghini Huracan Evo Spyder (201 ไมล์ต่อชั่วโมง) และ Ferrari 296 GTS (205+ ไมล์ต่อชั่วโมง) ก็พร้อมตอบโจทย์ความต้องการความเร็วในแบบที่แตกต่างกันไป

ประวัติศาสตร์แห่งความเร็ว: จุดเริ่มต้นสู่ปัจจุบัน

การเดินทางของ รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก เริ่มต้นจาก Benz Patent Motorwagen ในปี 1898 ที่มีความเร็วสูงสุด 12 ไมล์ต่อชั่วโมง และก้าวไปสู่ Jaguar XK120 ที่ทำความเร็วได้สิบเท่าในอีกครึ่งศตวรรษต่อมา ยุค 50s-60s เป็นการต่อสู้ระหว่าง Mercedes 300SL Gullwing, Aston Martin DB4 GT, Lamborghini Miura และ Ferrari 365 GTB/4 ซึ่งผลักดันความเร็วให้เกิน 150 ไมล์ต่อชั่วโมง

ในปี 1987 Ferrari F40 กลายเป็น รถโปรดักชั่นคันแรกที่ทำความเร็วเกิน 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ตามมาด้วย McLaren F1 ที่สร้างมาตรฐานใหม่ที่ 240 ไมล์ต่อชั่วโมง หลังจากนั้นไม่นาน Koenigsegg CCR และ Bugatti Veyron ก็ผลักดันกำแพงความเร็วให้ทะลุ 250 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อนที่ Bugatti และ Koenigsegg จะครองความยิ่งใหญ่ในการต่อสู้เพื่อตำแหน่ง รถยนต์ที่เร็วที่สุด โดยมีผู้ท้าชิงจากสหรัฐฯ อย่าง SSC และ Hennessey เข้ามาร่วมวง และในที่สุด รถยนต์ไฟฟ้า ก็ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดในปี 2025 นี้

อนาคตแห่งความเร็วที่คุณเป็นส่วนหนึ่งได้

ปี 2025 แสดงให้เห็นถึงยุคทองของยานยนต์สมรรถนะสูงอย่างแท้จริง ด้วย นวัตกรรมยานยนต์ ที่ไม่หยุดนิ่ง และการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างเครื่องยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมกับขุมพลังไฟฟ้าแห่งอนาคต รถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่แค่เครื่องจักร แต่เป็นงานศิลปะที่เคลื่อนที่ได้ เป็นบทพิสูจน์ถึงความอัจฉริยะของมนุษย์ที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัด

หากคุณหลงใหลในความเร็วและเทคโนโลยีล้ำยุคเช่นเดียวกับผม อย่าพลาดที่จะติดตามความเคลื่อนไหวในตลาด ไฮเปอร์คาร์ และ รถสปอร์ตไฟฟ้า ที่ยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และหากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ หรือต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถยนต์สมรรถนะสูง ที่น่าตื่นเต้นเหล่านี้ ผมขอเชิญชวนให้คุณสำรวจข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ของเรา ที่รวบรวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับยานยนต์ความเร็วสูงสุดแห่งยุคนี้ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาว่ารถยนต์คันใดจะก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดต่อไปในอนาคต!

รถยนต์บนถนนที่เร็วที่สุดในโลกปี 2025: 20 อันดับสุดยอดแห่งความเร็ว

ในโลกแห่งยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมอันไม่หยุดยั้ง การแสวงหา “ความเร็วสูงสุด” ยังคงเป็นหัวใจสำคัญที่กระตุ้นให้วิศวกรและนักออกแบบรถยนต์ท้าทายขีดจำกัดของฟิสิกส์ได้อย่างไม่หยุดหย่อน แม้ว่าสำหรับผู้ขับขี่ส่วนใหญ่แล้ว ความสามารถในการทำความเร็ว 70 ไมล์ต่อชั่วโมงก็ถือว่าเพียงพอต่อการเดินทางบนถนนสาธารณะ แต่สำหรับวงการไฮเปอร์คาร์แล้ว ตัวเลขความเร็วสูงสุดกลับเป็นมากกว่าแค่สถิติ – มันคือสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรี วิสัยทัศน์ทางวิศวกรรม และความกล้าที่จะก้าวข้ามทุกข้อจำกัด ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่าการสร้างรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกนั้นไม่ใช่เพียงแค่การใส่เครื่องยนต์ที่ทรงพลัง แต่เป็นการผสมผสานศิลปะแห่งแอโรไดนามิกส์ วัสดุศาสตร์ขั้นสูง และเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่ล้ำสมัย เพื่อให้ได้มาซึ่งเครื่องจักรที่สามารถฉีกม่านอากาศและทำลายสถิติได้อย่างน่าทึ่ง

ช่วงทศวรรษ 1990 เราเคยตื่นตะลึงกับการก้าวข้ามกำแพง 200 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วยตำนานอย่าง Ferrari F40 และ McLaren F1 แต่ในยุคปัจจุบันปี 2025 นี้ การต่อสู้ได้ยกระดับไปสู่ขีดจำกัดใหม่ที่ 300 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นความท้าทายที่ยากขึ้นเป็นทวีคูณ การปรากฏตัวของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (EVs) ในสนามประลองความเร็วนี้ได้พลิกโฉมวงการอย่างสิ้นเชิง ด้วยศักยภาพด้านแรงบิดมหาศาลและความสามารถในการส่งกำลังที่รวดเร็ว ทำให้ผู้ผลิตหน้าใหม่บางรายสามารถขึ้นมาท้าชนกับแบรนด์ยักษ์ใหญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ บทความนี้จะพาคุณเจาะลึก 20 สุดยอดรถยนต์บนถนนที่เร็วที่สุดในโลกประจำปี 2025 ที่ยังคงได้รับการยอมรับในฐานะผู้บุกเบิกและผู้ท้าทายกฎเกณฑ์แห่งความเร็ว

รายชื่อรถยนต์บนถนนที่เร็วที่สุดในโลกนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนื่องจากผู้ผลิตยานยนต์ต่างพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันสมรรถนะให้ก้าวไปอีกขั้น นี่คือรายชื่อล่าสุดจากอันดับที่ 20 ไปยังอันดับที่ 1 โดยเราได้คัดเลือกรุ่นที่โดดเด่นและหลีกเลี่ยงรุ่นที่ซ้ำซ้อนหรือมีการปรับแต่งอย่างหนัก

McLaren F1
ความเร็วสูงสุด: 240.1 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: มากกว่า 15 ล้านปอนด์
ตำนานที่แท้จริงแห่งวงการซูเปอร์คาร์ McLaren F1 ยังคงเป็นที่กล่าวขวัญถึง แม้จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปลายศตวรรษที่แล้ว มันสร้างสถิติโลกสำหรับรถยนต์โปรดักชั่นในปี 1998 ด้วยความเร็ว 240.1 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยเครื่องยนต์ V12 ที่หายใจเองตามธรรมชาติและเกียร์ธรรมดา นี่คือความบริสุทธิ์ของวิศวกรรมยานยนต์ที่หาตัวจับยาก ปัจจุบันราคาในตลาดมือสองพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ แสดงให้เห็นถึงคุณค่าที่ไม่มีวันเสื่อมคลายในฐานะหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วและทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์

W Motors Fenyr Supersport
ความเร็วสูงสุด: 245 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 1.4 ล้านปอนด์
จากผู้สร้าง Lykan HyperSport ที่โด่งดังจากภาพยนตร์ Fast & Furious W Motors Fenyr Supersport คือผลงานชิ้นต่อไปที่สานต่อความหรูหราและความเร็ว บริษัทที่ก่อตั้งในเลบานอนและปัจจุบันตั้งอยู่ในดูไบนี้ ได้สร้างรถยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Flat-Six เทอร์โบคู่จาก Ruf ผู้ปรับแต่ง Porsche ชื่อดัง นอกจากสมรรถนะอันดุดันแล้ว Fenyr ยังประดับประดาด้วยวัสดุสั่งทำพิเศษ เช่น เพชรและแซฟไฟร์ในไฟหน้า สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างความเร็วและงานศิลปะชั้นสูง

Saleen S7 Twin Turbo
ความเร็วสูงสุด: 248 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 500,000 ปอนด์
เมื่อ Saleen S7 Twin Turbo เปิดตัวในปี 2005 ด้วยกำลัง 750 แรงม้า มันมาพร้อมคำมั่นสัญญาว่าจะทำความเร็วได้ถึง 248 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเหนือกว่า McLaren F1 ในเวลานั้นถึง 8 ไมล์ต่อชั่วโมง นี่คือสัตว์ร้ายสัญชาติอเมริกันที่มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 และเทอร์โบขนาดใหญ่ แม้ว่าตัวเลขนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการเต็มที่ แต่ก็มีการทดสอบที่เข้าใกล้ความเร็วนี้อย่างน่าทึ่ง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของวิศวกรรมอเมริกันในการท้าทายตำนาน

Koenigsegg Gemera & CCXR
ความเร็วสูงสุด: 248 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 2 ล้านปอนด์
Koenigsegg แบรนด์สัญชาติสวีเดนปรากฏตัวหลายครั้งในรายชื่อนี้ และครั้งนี้เราขอรวมสองโมเดลที่ทำความเร็วได้เท่ากันคือ Gemera และ CCXR ทั้งคู่ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 248 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง Gemera เป็นไฮเปอร์คาร์ไฮบริดยุคใหม่ที่มีสามมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมเครื่องยนต์สันดาปภายใน ส่วน CCXR เป็นรุ่นเก่าที่ใช้เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จจ์เพียงอย่างเดียว การที่รถสองรุ่นที่มีปรัชญาการออกแบบและเทคโนโลยีต่างกันอย่างสิ้นเชิงสามารถทำความเร็วได้เท่ากัน ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความอัจฉริยะของ Koenigsegg

Aspark Owl
ความเร็วสูงสุด: 249 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 2.5 ล้านปอนด์
ขณะที่คุณคาดหวังชื่ออย่าง McLaren และ Koenigsegg ในรายชื่อรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก แต่ Aspark Owl จากญี่ปุ่นคือตัวอย่างของแบรนด์น้องใหม่ที่เข้ามาเขย่าวงการด้วยไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่ผลิตด้วยมือ มันปรากฏตัวครั้งแรกในรูปแบบต้นแบบเมื่อปี 2017 และสร้างความฮือฮาด้วยอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงที่ 1.72 วินาที ซึ่งอาจเป็นสถิติรถยนต์โปรดักชั่นที่เร็วที่สุด Aspark ยังเคลมความเร็วสูงสุดของ Owl ที่มีกำลัง 1,985 แรงม้าไว้ที่ 249 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างเบาแต่ทรงพลัง ทำให้มันเป็นคู่แข่งที่น่าจับตาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง

Ultima RS
ความเร็วสูงสุด: 250 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 130,000 ปอนด์
Ultima RS อาจเป็นรถที่แปลกที่สุดในรายชื่อนี้ ไม่เพียงเพราะมีราคาถูกที่สุด แต่ยังเป็นรถคิทคาร์ที่สามารถสร้างเองได้ การขับรถด้วยความเร็ว 250 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถที่ประกอบเองที่บ้านฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็ทำได้จริงหากคุณมีเงินและทักษะที่จำเป็น รถคันนี้ใช้หลักการน้ำหนักเบาเป็นพิเศษและเครื่องยนต์ Corvette ที่ปรับแต่งให้ผลิตกำลังได้ 1,200 แรงม้า แทนที่จะใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อน มันคือการนำพลังงานมหาศาลต่อน้ำหนักที่เบามาใช้ในแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง

McLaren Speedtail
ความเร็วสูงสุด: 250 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 2.1 ล้านปอนด์
แบรนด์ซูเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษอย่าง McLaren ยืนยันว่า Speedtail สามารถทำความเร็ว 250 ไมล์ต่อชั่วโมงได้มากกว่า 30 ครั้ง ระหว่างการทดสอบที่ Kennedy Space Center ในฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ทำให้ Speedtail แซงหน้า McLaren F1 ในตำนานได้ McLaren จำกัดการผลิต Speedtail ไว้เพียง 106 คัน ซึ่งเป็นจำนวนเดียวกับ F1 รุ่นก่อนหน้า Speedtail เป็นส่วนหนึ่งของ “Ultimate Series” และยังคงการจัดวางที่นั่งแบบสามที่นั่ง โดยคนขับอยู่ตรงกลาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดมาจาก F1 ผสมผสานความเร็ว ประวัติศาสตร์ และนวัตกรรมเข้าไว้ด้วยกัน

Czinger 21C V Max
ความเร็วสูงสุด: มากกว่า 253 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 1.5 ล้านปอนด์
Czinger 21C เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการผสมผสานเครื่องยนต์ทรงพลังและแอโรไดนามิกส์ที่ลื่นไหล พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่รวมกันให้กำลังถึง 1,233 แรงม้า ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำให้มันเร่งความเร็วจาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 1.9 วินาที และในรุ่น V Max นี้ได้ลดทอนอุปกรณ์แอโรไดนามิกส์ที่สร้างแรงฉุดลง เพื่อเพิ่มความเร็วสูงสุดให้สูงกว่า 250 ไมล์ต่อชั่วโมง เป็นการแสดงออกถึงขีดสุดของการออกแบบเพื่อความเร็วโดยเฉพาะ

Koenigsegg Regera
ความเร็วสูงสุด: 255 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 2.6 ล้านปอนด์
Koenigsegg มีความมุ่งมั่นในการทำลายสถิติความเร็วบนท้องถนน และ Regera ก็ไม่ใช่รุ่นที่เร็วที่สุดของแบรนด์ด้วยซ้ำ แต่ก็สามารถทำความเร็วได้ถึง 255 ไมล์ต่อชั่วโมง ด้วยระบบส่งกำลังแบบไฮบริดที่มีกำลังเกือบ 1,500 แรงม้า มันใช้ระบบเกียร์ความเร็วเดียวที่ล้ำสมัย ซึ่งเป็นไปได้ด้วยการตั้งค่าแบบ Plug-in Hybrid แน่นอนว่ายังคงมีเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบที่ให้กำลังมหาศาล และยังสร้างสถิติโลก 0-249-0 ไมล์ต่อชั่วโมงสำหรับการเร่งความเร็วและการเบรกในปี 2019 อีกด้วย

SSC Ultimate Aero
ความเร็วสูงสุด: 256.18 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 500,000 ปอนด์
SSC Ultimate Aero ใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 1,183 แรงม้า และตลอดเจ็ดปีของการผลิต มันสามารถแย่งชิงตำแหน่งรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกจาก Bugatti Veyron ได้ด้วยความเร็วสูงสุด 256.18 ไมล์ต่อชั่วโมง ตัวเลขนี้ทำได้บนถนนสาธารณะที่ถูกปิดชั่วคราวใกล้โรงงานในรัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา Ultimate Aero เป็นประสบการณ์การขับขี่ที่ดิบเถื่อนอย่างแท้จริง เนื่องจากไม่มีระบบช่วยขับขี่ใด ๆ เช่น ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน

Rimac Nevera/Nevera R
ความเร็วสูงสุด: 258 ไมล์ต่อชั่วโมง / 268 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 2.4 ล้านปอนด์
Rimac Nevera ไม่เพียงเป็นรถยนต์ที่เร็วเป็นอันดับห้าของโลก แต่ยังเป็นไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย ด้วยความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของพลังงานไฟฟ้า ดูเหมือนว่าอีกไม่นานรถยนต์ไฟฟ้าจะยึดครองตำแหน่งสูงสุดในฐานะรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่างแท้จริง ด้วยกำลัง 1,888 แรงม้า และแรงบิด 2,360 นิวตันเมตร Nevera จึงเร่งจาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 1.9 วินาที แม้จะมีน้ำหนักมาก และสามารถไปถึง 186 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ใน 9.3 วินาที รุ่น Nevera R ที่เพิ่งเปิดตัวมาพร้อม 2,078 แรงม้า และความเร็วสูงสุด 268 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้มันไม่เพียงเป็นหนึ่งในรถที่เร็วที่สุด แต่ยังเป็นรถยนต์บนถนนที่มีอัตราเร่งที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย

Bugatti Veyron
ความเร็วสูงสุด: 268 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 1 ล้านปอนด์
แม้เวลาจะผ่านไปนานตั้งแต่ Bugatti Veyron เข้ามาในวงการไฮเปอร์คาร์ แต่ชื่อนี้ยังคงเป็นที่เคารพและชื่นชมอย่างมากจากผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์และวิศวกรทุกคน แม้ Veyron รุ่นปกติจะมีกำลังเกือบ 1,000 แรงม้า แต่ Bugatti ก็ยังไม่พอใจ จนกระทั่ง Super Sport ที่บ้าคลั่งยิ่งขึ้นก็เปิดตัวพร้อมกำลัง 1,183 แรงม้า หลายปีต่อมา มีรถไม่กี่คันที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 268 ไมล์ต่อชั่วโมงของ Veyron Super Sport ได้ นี่คือหนึ่งในตำนานตลอดกาลอย่างแท้จริง

Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 1.7 ล้านปอนด์
Hennessey บริษัทปรับแต่งรถยนต์สัญชาติอเมริกันที่ผันตัวมาเป็นผู้สร้างไฮเปอร์คาร์ ได้ทำความเร็วเกิน 270 ไมล์ต่อชั่วโมงไปแล้วด้วย Venom รุ่นแรกที่ใช้พื้นฐานจาก Lotus Exige แต่ Venom F5 รุ่นใหม่ได้ทำความเร็วทะลุขีดจำกัดนั้นไปแล้ว ในการทดสอบล่าสุด มันทำความเร็วได้ 271.6 ไมล์ต่อชั่วโมงที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ในฟลอริดา ด้วยกำลัง 1,817 แรงม้าจากเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ Hennessey มีเป้าหมายที่จะทำความเร็ว 311 ไมล์ต่อชั่วโมงเมื่อรถได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ อัตราเร่ง 0-249 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 15.5 วินาที แสดงให้เห็นถึงความเร็วทางตรงอันเหลือเชื่อของ Hennessey เมื่อมันเข้าที่เข้าทาง

Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 277 ไมล์ต่อชั่วโมง (โดยประมาณ)
ราคา: มากกว่า 3.5 ล้านปอนด์ (โดยประมาณ)
Bugatti Tourbillon รุ่นใหม่ ได้รับการจองพื้นที่ในรายชื่อนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยระบบไฮบริดที่รวมเครื่องยนต์ V16 กำลัง 986 แรงม้าและแรงบิด 664 ปอนด์-ฟุต ทำให้มีกำลังรวมมากกว่า 1,770 แรงม้า ด้วยชื่อเสียงของ Bugatti ในการสร้างรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก พร้อมกับความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมทั้งหมด เรามั่นใจว่ารุ่นใหม่นี้จะเข้ามาอยู่ในกลุ่มรถยนต์ที่เร็วที่สุดเมื่อเปิดตัวในปี 2026 อย่างแน่นอน

Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 3.5 ล้านปอนด์
ในปี 2017 Koenigsegg ได้ยกระดับสถิติความเร็วขึ้นไปอีกขั้นด้วย Agera RS พร้อมทั้งสร้างสถิติความเร็วสูงสุดที่เคยทำได้บนถนนสาธารณะที่ถูกปิด Koenigsegg ได้นำ Agera R ที่เป็นของลูกค้ามาวิ่งบนทางหลวงยาว 11 ไมล์ในเนวาดา สหรัฐอเมริกา และทำความเร็วได้ถึง 277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง การแสดงความเร็วที่น่าทึ่งนี้ตอกย้ำถึงความเหนือชั้นของวิศวกรรมยานยนต์สัญชาติสวีเดนในการท้าทายขีดจำกัด

Bugatti Mistral
ความเร็วสูงสุด: 282.05 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 5.2 ล้านปอนด์
แม้จะมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 115 ปี Bugatti ยังคงสร้างความฮือฮาได้อย่างต่อเนื่อง และล่าสุดคือ Bugatti Mistral คันนี้ แม้จะมีราคาแพงลิบลิ่วและหายากมาก (จำกัดเพียง 99 คัน) Mistral คือรถเปิดประทุนที่เร็วที่สุดในการผลิต ด้วยนักขับทดสอบระดับตำนาน Andy Wallace เป็นผู้ขับขี่ Mistral ได้สร้างสถิติใหม่ที่ 282.05 ไมล์ต่อชั่วโมงที่สนามทดสอบ Papenburg ในเยอรมนีในปี 2024 โดยใช้เครื่องยนต์ W16 สี่เทอร์โบ 8 ลิตร อันโด่งดังของ Bugatti

SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 282.9 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 1.5 ล้านปอนด์
สถิติความเร็วสูงสุดมักมาพร้อมกับการถกเถียง และ SSC Tuatara ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อการทดสอบความเร็ว 316 ไมล์ต่อชั่วโมงครั้งแรกของไฮเปอร์คาร์สัญชาติอเมริกันคันนี้ถูกตั้งคำถาม ในปี 2021 SSC ได้พยายามสร้างสถิติความเร็วอีกครั้งด้วยอุปกรณ์จับเวลาที่แม่นยำยิ่งขึ้นและพยานอิสระ เพื่อแก้ไขข้อเท็จจริง และได้บันทึกค่าเฉลี่ยสองทางที่ 282.9 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้จะยังไม่ทะลุกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ก็ยังคงน่าประทับใจอย่างยิ่ง Tuatara มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 แคร้งเพลนแบน 5.9 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ผลิตกำลังได้ 1,750 แรงม้าและแรงบิด 1,735 นิวตันเมตร ซึ่งทั้งหมดถูกส่งไปยังล้อหลังเท่านั้น

Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 304.8 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: 3 ล้านปอนด์
ตั้งแต่ Bugatti กลายเป็นอัญมณีในเครือ Volkswagen Group ชื่อนี้ก็มีความหมายเดียวกับพละกำลังและความเร็วทางตรง การพัฒนา Veyron และ Chiron ล้วนนำไปสู่การสร้าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ ซึ่งทำลายสถิติทั้งหมดของแบรนด์ และผลักดันทะลุกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงที่ไม่สามารถเจาะผ่านได้ เพื่อให้บรรลุความสำเร็จนี้ เครื่องยนต์ W16 ขนาด 8.0 ลิตรของ Bugatti ได้รับการปรับแต่งให้สร้างกำลัง 1,578 แรงม้า ซึ่งมากกว่า Chiron รุ่นมาตรฐาน 99 แรงม้า นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดด้านแอโรไดนามิกส์ที่สำคัญ เช่น ส่วนท้ายแบบ “Longtail” ที่เพิ่มความยาวของตัวถัง 25 ซม. เพื่อปรับปรุงการไหลของอากาศ Chiron Super Sport 300+ ทำความเร็วได้ถึง 304.774 ไมล์ต่อชั่วโมง ที่สนามทดสอบ Ehra-Lessien ในเยอรมนี

Koenigsegg Jesko Absolut
ความเร็วสูงสุด: 310 ไมล์ต่อชั่วโมง (เป้าหมาย)
ราคา: ประมาณ 2.3 ล้านปอนด์
Koenigsegg ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่ในการสร้างไฮเปอร์คาร์ที่ทำให้ Bugatti ต้องกังวล ดังนั้นเมื่อ Christian Von Koenigsegg ประกาศว่าแบรนด์กำลังพัฒนารถ “Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่เราจะเคยสร้างมา” นี่ไม่ใช่คำกล่าวที่ต้องมองข้าม รถคันดังกล่าวคือ Jesko Absolut ซึ่งเป็นรุ่นที่ลดแรงฉุดลากของ Koenigsegg Jesko ที่มีกำลัง 1,578 แรงม้า วิศวกรของสวีเดนใช้เวลาอย่างมากในการปรับแต่งอย่างพิถีพิถันเพื่อปรับปรุงค่าสัมประสิทธิ์แรงฉุดและกำลังเครื่องยนต์ให้ดียิ่งขึ้น มาตรการเหล่านี้รวมถึงตัวถังที่ยาวขึ้น การถอดปีกหลังออก และมาตรการลดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบชาร์จ 5.0 ลิตรที่ดุดันยังได้รับการปรับแต่งเพื่อเพิ่มกำลังเล็กน้อยเป็น 1,600 แรงม้า แม้ตัวเลขอย่างเป็นทางการจะยังไม่เปิดเผย แต่เป้าหมายของแบรนด์คือความเร็วสูงสุด 310 ไมล์ต่อชั่วโมง

Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 308 ไมล์ต่อชั่วโมง
ราคา: มากกว่า 250,000 ปอนด์
เทคโนโลยีแบตเตอรี่และมอเตอร์ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาอันสั้น จนดูเหมือนแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่รถยนต์ราคาต่ำกว่า 1 ล้านปอนด์จะทำลายสถิติความเร็วที่รถยนต์ราคาแพงที่สุดในธุรกิจเคยทำไว้ได้ แต่ Yangwang U9 Xtreme ได้ทำสิ่งนั้น ด้วยการสร้างสถิติ 308 ไมล์ต่อชั่วโมงเพื่อครองตำแหน่งสูงสุดในปัจจุบัน นี่เป็นผลมาจากการปรับปรุงแอโรไดนามิกส์เหนือกว่ารุ่นมาตรฐาน รวมถึงมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังสี่ตัว และกำลังขับรวม 2,978 แรงม้า นอกจากนี้ยังใช้สถาปัตยกรรม 1,200V ซึ่งช่วยให้การถ่ายโอนพลังงานเร็วกว่ารถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆ รวมถึง U9 รุ่นปกติที่มีระบบ 800V แบตเตอรี่ได้รับการตั้งค่าเป็นพิเศษเพื่อให้สามารถใช้พลังงานได้เร็วขึ้นที่ความเร็วสูง โดยไม่เกิดความร้อนสูงเกินไป และจัดหาโดย BYD ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Yangwang นี่คือจุดสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้าแห่งปี 2025 ที่ท้าทายทุกความเชื่อ

รถยนต์บนถนนที่เร็วที่สุดในโลก

รถยนต์ราคาเริ่มต้น (จาก)ความเร็วสูงสุด
1. Yangwang U9 Xtreme£250,000+308 ไมล์ต่อชั่วโมง
2. Koenigsegg Jesko Absolut£2.3ล้าน (ประมาณ)310 ไมล์ต่อชั่วโมง (เป้าหมาย)
3. Bugatti Chiron Super Sport 300+£3ล้าน304.8 ไมล์ต่อชั่วโมง
4. SSC Tuatara£1.5ล้าน282.9 ไมล์ต่อชั่วโมง
5. Bugatti Mistral£5.2ล้าน282.05 ไมล์ต่อชั่วโมง
6. Koenigsegg Agera RS£3.5ล้าน277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง
7. Bugatti Tourbillon£3.5ล้าน+ (ประมาณ)277 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ)
8. Hennessey Venom F5£1.7ล้าน271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง
9. Bugatti Veyron£1ล้าน268 ไมล์ต่อชั่วโมง
10. Rimac Nevera/Nevera R£2.4ล้าน258 ไมล์ต่อชั่วโมง/268 ไมล์ต่อชั่วโมง
11. SSC Ultimate Aero£500,000256.18 ไมล์ต่อชั่วโมง
12. Koenigsegg Regera£2.6ล้าน255 ไมล์ต่อชั่วโมง
13. Czinger 21C V Max£1.5ล้าน253 ไมล์ต่อชั่วโมง+
14. McLaren Speedtail£2.1ล้าน250 ไมล์ต่อชั่วโมง
15. Ultima RS£130,000250 ไมล์ต่อชั่วโมง
16. Aspark Owl£2.5ล้าน249 ไมล์ต่อชั่วโมง
17. Koenigsegg Gemera & CCXR£2ล้าน248 ไมล์ต่อชั่วโมง
18. Saleen S7 Twin Turbo£500,000248 ไมล์ต่อชั่วโมง
19. W Motors Fenyr Supersport£1.4ล้าน245 ไมล์ต่อชั่วโมง
20. McLaren F1£15ล้าน+240.1 ไมล์ต่อชั่วโมง

รถยนต์บนถนนที่เร็วที่สุดในโลก: ตัวเลือก 200 ไมล์ต่อชั่วโมง

รถยนต์ที่เร็วที่สุดในรายชื่อนี้มีราคาแพงลิบลิ่ว โดยส่วนใหญ่ต้องใช้เงินเจ็ดหลักในการซื้อ และยังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในชีวิตประจำวันที่ต้องคำนึงถึง อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงรถยนต์โปรดักชั่นที่สามารถทำความเร็วได้มากกว่า 200 ไมล์ต่อชั่วโมงนั้นง่ายขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา คุณยังคงต้องมีเงินจำนวนมากเพื่อซื้อ แต่ด้วยผู้ผลิตจำนวนมากขึ้นที่นำเสนอรถยนต์ความเร็ว 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้มีตัวเลือกมากมายสำหรับผู้ที่อยู่ในฐานะที่โชคดีที่จะซื้อ

ในกลุ่มนี้มีรถยนต์จากอังกฤษหลายคัน เช่น Aston Martin DB11 V12, Aston Martin DBS และ McLaren อีกหลายรุ่น นอกจากนี้ยังมีรถเปิดประทุนบางรุ่นที่สามารถทำความเร็วได้เกิน 200 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้ว่ารถเหล่านี้จะทำความเร็วได้สูงสุดเมื่อปิดหลังคา เช่น Lamborghini Huracan Evo Spyder (201 ไมล์ต่อชั่วโมง) และ Ferrari 296 GTS (205 ไมล์ต่อชั่วโมง+) ซึ่งเป็นรุ่นเปิดประทุนของคูเป้ที่เร็วขึ้นไปอีก

หากคุณต้องการรถยนต์หรูที่รวดเร็ว ตัวเลือกอื่นคือรถยนต์แกรนด์ทัวเรอร์ รถยนต์เหล่านี้สามารถทำความเร็วสูงได้โดยไม่ลดทอนความหรูหรา และเป็นรถจากอังกฤษอีกครั้งที่นำทาง Bentley นำเสนอ Flying Spur สี่ประตู (207 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่น่าทึ่ง ในขณะที่ Bentley Continental GT Speed ทำได้ 208 ไมล์ต่อชั่วโมง

แน่นอนว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ในคลับ 200 ไมล์ต่อชั่วโมงประกอบด้วยซูเปอร์คาร์สองที่นั่ง รุ่นต่างๆ เช่น Maserati MC20, Audi R8 V10 และ Ferrari 296 GTB ล้วนทำความเร็วเกินเกณฑ์นี้ได้ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด โดย Ferrari SF90 สามารถทำความเร็วได้ถึง 211 ไมล์ต่อชั่วโมง

คุณอาจกำลังอ่านรายชื่อนี้และคิดว่ามีชื่อใหญ่ๆ บางชื่อหายไป มีไฮเปอร์คาร์ระดับไฮเอนด์จำนวนมากที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับความเร็วสูงสุดในลักษณะเดียวกับที่คุณต้องทำเมื่อตั้งเป้าหมายที่จะผ่าน 250 ไมล์ต่อชั่วโมง เช่น Mercedes-AMG One (217 ไมล์ต่อชั่วโมง+) และ Aston Martin Valkyrie ถูกออกแบบมาเพื่อมอบเวลาต่อรอบที่ดีที่สุด มากกว่าความเร็วสูงสุดอย่างแท้จริง และเช่นเดียวกับ Porsche 911 GT2 RS ที่ราคาเข้าถึงได้มากกว่าแต่ก็ยังคงน่าเกรงขาม

ประวัติศาสตร์แห่งความเร็วของรถยนต์บนถนน

Benz Patent Motorwagen ที่สร้างขึ้นในปี 1898 ซึ่งถือเป็นรถยนต์คันแรกที่ได้รับการยอมรับ ได้เริ่มต้นรายชื่อของเราด้วยความเร็วสูงสุด 12 ไมล์ต่อชั่วโมง เพียงครึ่งศตวรรษต่อมา ในปี 1949 Jaguar ได้ยกระดับเดิมพันนี้ขึ้นสิบเท่าด้วย Jaguar XK120

ยุค 50 เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่าง Mercedes 300SL Gullwing และ Aston Martin DB4 GT ซึ่งทั้งสองรุ่นสามารถทำความเร็วได้เกิน 150 ไมล์ต่อชั่วโมง ยุค 60 ตามมาด้วยการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างรวดเร็วระหว่างแบรนด์อิตาลีหลายแห่ง Iso Grifo เป็นผู้กำหนดทิศทางในปี 1963 ด้วยความเร็วสูงสุด 161 ไมล์ต่อชั่วโมง

ผู้มาใหม่ AC Cobra ที่สร้างโดยอังกฤษ-อเมริกัน ได้แย่งชิงมงกุฎไปชั่วคราวในปี 1965 ก่อนที่จะถูกโค่นล้มโดย Lamborghini Miura, Ferrari 365 GTB/4 และ Miura P400S ระหว่างปี 1967 ถึง 1969

สิบสามปีผ่านไปก่อนที่ Lamborghini จะสามารถทำลายสถิติของตัวเองได้อีกครั้งด้วย Countach ซึ่งเป็นรถโปรดักชั่นคันแรกที่ผ่านกำแพง 180 ไมล์ต่อชั่วโมง ในปี 1983 RUF ผู้ปรับแต่ง Porsche ชาวเยอรมัน นำเสนอ BTR ความเร็ว 190 ไมล์ต่อชั่วโมง ในขณะที่ Porsche 959 ซูเปอร์คาร์ของตนเอง ทำความเร็วได้ 198 ไมล์ต่อชั่วโมงในปี 1986

Ferrari สร้างรถโปรดักชั่นคันแรกของโลกที่ผ่านกำแพง 200 ไมล์ต่อชั่วโมงในปี 1987 ด้วย F40 ที่มีกำลัง 472 แรงม้า เมื่อเข้าสู่ยุค 90 McLaren F1 ได้ยกระดับเดิมพันขึ้นอีกครั้งด้วยความเร็วสูงสุด 221 ไมล์ต่อชั่วโมง แม้ว่า F1 ที่ไม่มีตัวจำกัดรอบจะทำความเร็วได้ถึง 240 ไมล์ต่อชั่วโมง

ช่วงเวลาสั้นๆ ของ Koenigsegg CCR ในฐานะรถโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลกเริ่มต้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2005 โดยทำความเร็วได้ 241 ไมล์ต่อชั่วโมงที่ Nardo Ring ในอิตาลี เพียงสองเดือนต่อมา Bugatti Veyron ก็ทะลุกำแพง 250 ไมล์ต่อชั่วโมงและคว้ามงกุฎไปด้วยความเร็ว 253.8 ไมล์ต่อชั่วโมง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Bugatti และ Koenigsegg ได้แข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุด โดยมีผู้ท้าชิงที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก เช่น ผู้ผลิตซูเปอร์คาร์ชาวอเมริกันอย่าง SSC และ Hennessey แสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุดของมนุษย์ในการแสวงหาความเร็ว

อนาคตที่ไร้ขีดจำกัดกำลังรออยู่

ในขณะที่เราได้เดินทางผ่านรายชื่อสุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025 และย้อนรอยประวัติศาสตร์อันน่าทึ่งของการแสวงหาความเร็ว สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือความมุ่งมั่นของมนุษย์ในการผลักดันขีดจำกัดนั้นไม่มีวันสิ้นสุด การมาถึงของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าได้เปิดมิติใหม่ให้กับโลกแห่งสมรรถนะ ซึ่งเราอาจจะได้เห็นสถิติที่เหนือจินตนาการอีกมากมายในอนาคต หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่หลงใหลในวิศวกรรม ความเร็ว และนวัตกรรมยานยนต์ เราขอเชิญชวนให้คุณติดตามข่าวสารและความก้าวหน้าในวงการนี้อย่างใกล้ชิด เพราะสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ในวันนี้ อาจกลายเป็นความจริงที่น่าตื่นเต้นในวันพรุ่งนี้ ร่วมสำรวจจักรวาลแห่งความเร็วไปกับเรา!

Previous Post

N1111565 เห นผ หญ งเป นแค กตาหน ารถ part 2

Next Post

N1111427 คำว่ารักที่ไม่ได้พูด part 2

Next Post
N1111427 คำว่ารักที่ไม่ได้พูด part 2

N1111427 คำว่ารักที่ไม่ได้พูด part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1111489 เป นแค แม าน ทำไมข บรถหร มาทำงาน part 2
  • N1111486 เพ อนก นเขาไม แย งแฟนก นหรอก part 2
  • N1111488 เจ าของบ านต วจร งค อใคร part 2
  • N1111490 เป นเม ยประธานบร ทำไมมาก นข าวกล องข างทาง part 2
  • N1111487 เม อสาม พาหญ งอ นข นรถ part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.