ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
สุดยอดรถยนต์ความเร็วสูงสุดของโลก ประจำปี 2025: จัดอันดับโดยผู้เชี่ยวชาญ 10 ปี
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมกล้าพูดได้เลยว่าไม่มีอะไรที่น่าหลงใหลและท้าทายเท่ากับการแสวงหาความเร็วสูงสุดบนผืนโลกอีกแล้ว โลกของไฮเปอร์คาร์นั้นเปรียบเสมือนเวทีประลองเทคโนโลยีและวิศวกรรมขั้นสุดยอด ที่ซึ่งขีดจำกัดของมนุษย์และเครื่องจักรถูกผลักดันไปไกลกว่าที่เคยเป็นมา และในปี 2025 นี้ ขอบเขตเหล่านั้นก็ยิ่งเลือนลางลงไปอีกขั้น
ลองจินตนาการถึงการมีรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกจอดอยู่ในโรงรถของคุณ – เป็นความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย แม้ว่าโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสกับความเร็วสูงสุดที่ทำลายสถิติบนท้องถนนจริงนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เว้นแต่ว่าคุณจะมีรันเวย์ส่วนตัวเป็นของตัวเอง รถทุกคันในรายชื่อนี้สามารถทำความเร็วได้เกิน 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะรู้ว่าความรู้สึกที่แท้จริงของการพุ่งทะยานด้วยความเร็วระดับนั้นเป็นอย่างไร การได้เป็นเจ้าของม้าศึกสายพันธุ์แท้ที่รู้ว่ามันพร้อมจะพุ่งทะยานได้ทุกเมื่อ แม้ว่าคุณจะขับมันช้าๆ นั่นคือความเท่ที่อยู่เหนือตัวเลข ซึ่งทำให้ไฮเปอร์คาร์เหล่านี้กลายเป็นสุดยอดปรารถนาของนักสะสมและผู้คลั่งไคล้ความเร็วทั่วโลก ปี 2025 เป็นปีแห่งการพลิกโฉมเมื่อรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำลายสถิติ และการแข่งขันก็ดุเดือดขึ้นกว่าที่เคย ผมจะพาคุณไปเจาะลึกสุดยอดเครื่องจักรแห่งความเร็วที่ครองตำแหน่งในปีนี้ พร้อมวิเคราะห์เทคโนโลยีและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์
ภาพรวมคร่าวๆ ของรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกประจำปี 2025:
รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme (ระบบไฟฟ้า)
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์: Yangwang U9 Xtreme (3,027 แรงม้า)
รถยนต์ที่ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุด: Rimac Nevera (1.8 วินาที)
นี่คือเพียงบางส่วนของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าได้พลิกโฉมการแข่งขันด้านความเร็วอย่างสิ้นเชิง และนี่คือรายชื่อฉบับเต็มที่เราได้รวบรวมและวิเคราะห์อย่างเจาะลึก เพื่อให้คุณได้เห็นถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของโลกยานยนต์ในปี 2025
Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ
ราคา: ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ (คาดการณ์ว่าสูงลิบ)
ปี 2025 ได้เปิดศักราชใหม่ของความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการ เมื่อ Yangwang U9 Xtreme ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงจากประเทศจีน ที่มาพร้อมขุมพลัง 3,000 แรงม้า ได้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ว่าเป็น รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการทำความเร็วสูงสุดถึง 496.22 กม./ชม. ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี ในมุมมองของผม นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะแบรนด์อย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และแม้แต่ Bugatti ต่างก็พยายามที่จะโค่นแชมป์เก่าอย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ มานานกว่าห้าปี การที่รถยนต์ EV จากผู้ผลิตสัญชาติจีนที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักสามารถก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งได้นั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าทึ่งและสมควรได้รับคำชมเชยอย่างยิ่ง เป้าหมายต่อไปที่ทุกคนต่างจับตามองคือการทำลายกำแพง 500 กม./ชม. ซึ่งดูเหมือนจะใกล้เข้ามาแล้ว
U9 Xtreme ถูกผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 30 คันเท่านั้น แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แต่การที่ Yangwang พยายามสร้างสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife ด้วย U9 Xtreme ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในด้านสมรรถนะการควบคุม รถคันนี้ทำเวลาได้ 6:59.157 นาที ซึ่งถือว่าเร็วมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ยังคงห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) เจเนอเรชันล่าสุดที่ทำเวลา 6:44.848 นาทีในปี 2022 แต่ถึงกระนั้น U9 Xtreme ก็ได้ตอกย้ำว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถแข่งขันในระดับไฮเปอร์คาร์ได้อย่างเต็มภาคภูมิ
U9 Xtreme ไม่เพียงแต่จะเขียนนิยามใหม่ของซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูงเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเร่งให้ตลาดไฮเปอร์คาร์สั่งทำพิเศษและเน้นการขับขี่เติบโตอย่างก้าวกระโดด สำหรับผู้ที่ไม่สนใจเรื่องสมรรถนะที่เข้าถึงได้และตัวเลขในตารางสเปกอีกต่อไป นี่คืออนาคตที่มาถึงแล้ว
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (Quad-motor electric system)
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (U9 รุ่นมาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd
Keywords: รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง, Yangwang U9 Xtreme ราคา, เทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า, สถิติโลกความเร็วรถยนต์, ไฮเปอร์คาร์จีน
Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ก่อนที่รถยนต์ไฟฟ้าจะเข้ามายึดบัลลังก์ Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือรถยนต์โปรดักชันคันแรกที่สามารถทะลุขีดจำกัด 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้อย่างเป็นทางการ ด้วยความเร็ว 490.484 กม./ชม. ณ สนามทดสอบของบริษัท ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอันเหลือเชื่อและเป็นไปได้ด้วยเครื่องยนต์ W-16 Quad-turbo ขนาด 8.0 ลิตร ที่สร้างพละกำลังมหาศาลถึง 1,578 แรงม้า และแรงบิดมากกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต (หรือประมาณ 1,600 นิวตันเมตร) สิ่งนี้ช่วยให้รถทำความเร็วสูงสุดได้แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูงที่ 0.35 Cd ซึ่งทำให้มันดู “ทื่อ” กว่าคู่แข่งอย่าง SSC Tuatara (0.279 Cd) เล็กน้อย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมอยากเน้นย้ำว่า แม้ Chiron Super Sport 300+ จะสามารถทำความเร็วได้ในระดับที่บ้าคลั่งนี้ แต่ Bugatti ก็ได้จำกัดความเร็วสูงสุดสำหรับรถลูกค้าไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.) เช่นเดียวกับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นอื่น ๆ รวมถึง Tourbillon รุ่นใหม่ล่าสุด และทาง Bugatti ก็ยืนยันว่าจะไม่มีการถอดระบบจำกัดความเร็วนี้ออก นี่คือการสร้างสมดุลระหว่างการทำลายสถิติกับความปลอดภัยและข้อจำกัดในการใช้งานจริง
เครื่องยนต์: W-16 Quad-turbo ขนาด 8.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต
ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.35 Cd
Keywords: Bugatti Chiron ราคา, ไฮเปอร์คาร์ W16, รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก, ประวัติศาสตร์ความเร็วรถยนต์, เครื่องยนต์ Bugatti
SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) (ทดสอบล่าสุด)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เรื่องราวของ SSC Tuatara เป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความโปร่งใสในการทำลายสถิติความเร็ว เมื่อ SSC North America ประกาศว่า Tuatara สามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์/ชม.) บนทางหลวงในทะเลทรายเนวาดา มันสร้างความตกตะลึงให้กับวงการยานยนต์ทั่วโลก เพราะมันจะแซงหน้า Bugatti อย่างขาดลอยและเป็นคันแรกที่ทะลุ 500 กม./ชม. ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม คำกล่าวอ้างนั้นกลับกลายเป็นว่าไม่เป็นความจริง
ทางแบรนด์ได้ออกมายอมรับบนโซเชียลมีเดียว่า “หากยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ เราขอประกาศอย่างเป็นทางการว่าเราไม่สามารถทำความเร็วได้ตามที่อ้างไว้แต่แรกที่ 331 ไมล์/ชม. หรือแม้แต่ 301 ไมล์/ชม. ในเดือนตุลาคม 2020” และพวกเขาได้แสดงความเสียใจอย่างยิ่ง แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์/ชม. อย่างโปร่งใสและเป็นทางการ
การทดสอบล่าสุดที่บันทึกไว้บน YouTube ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่า Tuatara ทำความเร็วได้ถึง 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) บนรันเวย์ยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Centre สิ่งที่น่าตกใจคือรถยังคงเร่งความเร็วต่อไปได้อีกเมื่อคนขับ Larry Caplin ต้องผ่อนคันเร่ง ทำให้เราได้แต่จินตนาการว่าหากรันเวย์ยาวกว่านี้ Tuatara จะไปได้ไกลแค่ไหน นี่คือเครื่องจักรที่ยังคงเต็มไปด้วยศักยภาพและเรื่องราวอันน่าติดตาม
เครื่องยนต์: V8 Twin-turbo ขนาด 5.9 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: CIMA single-clutch automated manual 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.279 Cd
Keywords: SSC Tuatara สถิติ, การทดสอบความเร็วสูงสุด, ซูเปอร์คาร์อเมริกา, ไฮเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุด, เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo
Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)
สมาชิกใหม่ล่าสุดที่เข้ามาอยู่ในรายชื่อรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของเราก็คือรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจากแบรนด์ย่อยสุดหรูของ BYD อย่าง Yangwang นี่คือ U9 Track Edition ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าพลังงานเกือบ 3,000 แรงม้า ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์ 1,200 โวลต์ ที่สามารถอ้างสิทธิ์ได้อย่างเป็นทางการว่าเป็น รถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก หลังจากทำความเร็วสูงสุด 472.41 กม./ชม. ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยมี Marc Basseng นักขับมืออาชีพอยู่หลังพวงมาลัย
ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่งสูงสุดในหมวดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยความเร็ว 412 กม./ชม. แต่ตอนนี้ตำแหน่งนั้นได้ถูกแย่งชิงไปโดยจีนแล้ว สิ่งที่น่าประทับใจคือ แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะสามารถเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็มักจะประสบปัญหาในการทำความเร็วสูงสุดโดยไม่มีระบบเกียร์แบบดั้งเดิม แต่ YANGWANG ได้แก้ปัญหานี้ด้วยการเปิดตัวระบบมอเตอร์สี่ตัวเครื่องแรกของโลก ที่มาพร้อมมอเตอร์สมรรถนะสูง 30,000 รอบต่อนาที ซึ่งช่วยให้รถสามารถทำความเร็วได้ถึง 472.41 กม./ชม.
เทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์นี้ยังช่วยให้สามารถควบคุมแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวได้อย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของล้อแต่ละข้างอย่างอิสระ ทำให้รถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคง นี่คือการแสดงศักยภาพของวิศวกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคต
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (Quad-motor electric system)
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (U9 รุ่นมาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd
Keywords: รถยนต์ไฟฟ้าความเร็วสูงสุด, BYD Yangwang U9, เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า, ไฮเปอร์คาร์จีน, ระบบขับเคลื่อน Quad-motor
Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Koenigsegg Agera RS ยังคงเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก และเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอที่โพสต์โดยแบรนด์ได้แสดงให้เห็นถึงการทำความเร็วเฉลี่ยสูงสุดถึง 446.97 กม./ชม. รถคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,176 แรงม้า และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร) ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายชื่อของเรา
แน่นอนว่าคุณอาจกำลังคิดว่า “Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ได้อ้างว่าทำความเร็วได้ 330 ไมล์/ชม. หรอกหรือ?” ใช่ครับ แต่ยังไม่เคยมีการทดสอบอย่างเป็นทางการบนสนามจริง แม้จะพิสูจน์แล้วว่า Jesko Absolut เร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250mph-0 แต่ทางแบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือภารกิจสำคัญของ Christian von Koenigsegg อย่างแน่นอน
ในมุมมองของผม สาเหตุหลักที่เรายังไม่เห็น Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดนั้นเป็นเพราะมีถนนที่ยาวพอสำหรับทำสถิติเหล่านี้เพียงไม่กี่แห่งบนโลกนี้ ส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือไม่ก็เป็นของ Volkswagen Group (ซึ่งเป็นเจ้าของ Bugatti) ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาจะไม่ยอมให้ใครใช้สนามของพวกเขา การทำสถิติความเร็วนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของกำลังเครื่องยนต์ แต่ยังเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานและโอกาสอีกด้วย
เครื่องยนต์: V8 Twin-turbo ขนาด 5.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: CIMA single-clutch automated manual 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd
Keywords: Koenigsegg Agera RS ราคา, ไฮเปอร์คาร์สวีเดน, Jesko Absolut, สถิติความเร็วรถยนต์, เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo
Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) พร้อม Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะเป็นรถที่เร็วที่สุดที่เคยมีการทดสอบ แต่ Bugatti Tourbillon คือรถ Bugatti ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้จริง ที่ 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) ด้วย Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในสเปคลูกค้าที่จำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.)
สิ่งที่น่าสนใจคือ Tourbillon ได้ทิ้งเครื่องยนต์ W16 Quad-turbo ของ Chiron ไป แต่กลับมาใช้เครื่องยนต์ V16 Hybrid ขนาด 8.3 ลิตร แบบ Naturally Aspirated (ไม่มีเทอร์โบ) แทน กระนั้นก็ยังคงสร้างพละกำลังมหาศาลถึง 1,800 แรงม้า และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 นิวตันเมตร) ซึ่งช่วยให้รถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2 วินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุดที่น่ามหัศจรรย์นั้น และในฐานะ Bugatti คุณก็รู้ดีว่ามันจะทำได้ง่ายดายและสะดวกสบาย นี่คือวิศวกรรมระดับโลกที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะได้อย่างไร้ที่ติ
เครื่องยนต์: V16 Naturally Aspirated ขนาด 8.3 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: ยังไม่มีข้อมูล
Keywords: Bugatti Tourbillon ราคา, ไฮเปอร์คาร์ไฮบริด, เครื่องยนต์ V16, รถยนต์หรูแห่งอนาคต, Bugatti สมรรถนะ
Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เช่นเดียวกับการแข่งขันอวกาศ การช่วงชิงตำแหน่งราชันย์ความเร็วสูงสุดยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดระหว่างสี่บริษัทหลัก (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) โดยทั้งหมดพยายามที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถยนต์ที่วิ่งบนถนนได้ และอาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 6.6 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,817 แรงม้า
แม้ SSC Tuatara จะตกเป็นประเด็นถกเถียงจากความพยายามครั้งแรกที่สร้างขึ้น Hennessey Venom F5 ได้ทำความเร็วสูงสุดอย่างเงียบๆ ที่ 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.) ในปี 2022 ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งให้เป็นรถที่เร็วที่สุดอันดับห้าตลอดกาล หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันก็จะไปได้เร็วกว่าอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามค้นหา
ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey กล่าวว่าปี 2024 (ซึ่งเป็นอดีตของเราในปี 2025) จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ ซึ่งเราเองก็เฝ้ารอผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ นี่คือไฮเปอร์คาร์สไตล์อเมริกันที่เน้นพละกำลังดิบและความเร็วอย่างแท้จริง
เครื่องยนต์: V8 Twin-turbo ขนาด 6.6 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต
ระบบเกียร์: CIMA single-clutch automated manual 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd
Keywords: Hennessey Venom F5 ราคา, ซูเปอร์คาร์อเมริกา, รถแรงม้าสูง, สถิติความเร็วรถยนต์, เครื่องยนต์ V8 Twin-turbo
Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
“วันหนึ่งผมเคยล้อเล่นว่าจะเอาเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลัง Lotus Exige” John Hennessey เล่าให้กับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “แล้วผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะเป็นอย่างไร พอเห็นภาพสเก็ตช์ ผมก็เลิกหัวเราะและเริ่มคิดเรื่องนี้อย่างจริงจัง”
“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางแบบ Ford GT จะทำให้ภาระน้ำหนักของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยู่เหนือยางหลัง ซึ่งให้การยึดเกาะที่ดีขึ้น และออกแบบแรงกดอากาศให้มากที่สุดเท่าที่เราต้องการ เพื่อให้ได้รถที่ควบคุมได้เหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ขณะเดียวกันก็เป็นรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งให้การเร่งความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่คือจุดกำเนิดของแนวคิด Venom GT”
สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือการสร้างสถิติความเร็วโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ณ ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดของกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ ในฐานะรถที่เคยเป็นแชมป์โลก Hennessey Venom GT เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าแนวคิดที่บ้าระห่ำสามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร มันเป็นไฮเปอร์คาร์ที่สร้างขึ้นจากความหลงใหลและวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง
เครื่องยนต์: GM LS7 V8 Twin-turbo ขนาด 7.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: Ricardo 6 สปีด เกียร์ธรรมดา
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd
Keywords: Hennessey Venom GT, สถิติความเร็วโลก, รถคลาสสิกสมรรถนะสูง, Lotus Exige ดัดแปลง, เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบ
Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถยนต์โปรดักชันที่ถูกต้องตามกฎหมายบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก แม้ปัจจุบันจะถูกโค่นแชมป์โดย Chiron Super Sport 300+ ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมค่าย แต่เครื่องยนต์ W-16 Quad-turbo ขนาด 8.0 ลิตร ของ Veyron Super Sport ก็ยังคงสร้างกำลังมหาศาลถึง 1,200 PS (882 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร) ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งมากสำหรับยุคนั้น
ในมุมมองของผม Veyron Super Sport ไม่ใช่แค่รถยนต์ที่เร็วเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้บุกเบิกและเป็นบรรพบุรุษของยุคไฮเปอร์คาร์ความเร็วสูงในปัจจุบัน มันเป็นรถที่แสดงให้เห็นว่าวิศวกรรมยานยนต์สามารถไปได้ไกลเพียงใด และเปิดประตูสู่การแข่งขันด้านความเร็วที่เราเห็นในวันนี้ นี่คือตำนานที่ยังคงมีอิทธิพลต่อโลกยานยนต์มาจนถึงปี 2025
เครื่องยนต์: W-16 Quad-turbo ขนาด 8.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: Ricardo อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.36 Cd (ในโหมดความเร็วสูงสุด)
Keywords: Bugatti Veyron Super Sport ราคา, ประวัติศาสตร์ซูเปอร์คาร์, เครื่องยนต์ W16, Guinness World Records, วิวัฒนาการความเร็วรถยนต์
Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Rimac Nevera คือราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง และเป็นรถที่ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุดในรายชื่อนี้ และยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.) Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili เข้าไว้ด้วยกัน
Nevera สามารถทะลุกำแพง 250 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ด้วยฝีมือวิศวกรของ Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนแต่ละล้อ ทำให้ได้กำลังรวมสูงสุด 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร) ซึ่งทำให้ Nevera เป็น รถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายชื่อนี้ (ก่อนที่ Yangwang U9 Xtreme จะเข้ามา) นี่คือข้อพิสูจน์ถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและวิสัยทัศน์ของสตาร์ทอัพที่ก้าวขึ้นมาท้าทายยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (4x independent surface-mounted, carbon-sleeve, permanent-magnet electric motors)
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร)
ระบบเกียร์: Single-speed direct-drive transmission
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.30 Cd
Keywords: Rimac Nevera ราคา, รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง, อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. EV, เทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้า, ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า
รถยนต์ที่เคยติดอันดับ แต่ถูกผลักออกนอก Top 10 ในปัจจุบัน:
ตลาดไฮเปอร์คาร์นั้นมีการแข่งขันที่ดุเดือดและพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้รถยนต์บางคันที่เคยเป็นที่สุดต้องหลีกทางให้กับเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ นี่คือบางส่วนของตำนานที่ยังคงน่าประทับใจ แต่ถูกผลักออกจาก 10 อันดับแรกไปแล้ว
Koenigsegg Regera
ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.) (จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์)
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
Regera เป็นหนึ่งในรถที่เร็วที่สุดในโลกในด้านอัตราเร่ง 0-400-0 กม./ชม. และเชื่อว่าเร็วกว่าความเร็วสูงสุด 400 กม./ชม. ที่ถูกจำกัดไว้ แต่ไม่เคยมีการทดสอบอย่างเป็นทางการ ระบบขับเคลื่อน Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ช่วยลดน้ำหนักและเชื่อมต่อเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 5.0 ลิตร เข้ากับเพลาหลังโดยตรง ทำให้เป็นรถที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Rimac Nevera เล็กน้อย
McLaren Speedtail
ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.)
ราคา: เริ่มต้นที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ตอนเปิดตัว)
Speedtail เป็นหนึ่งในรถที่ดูดีที่สุดในรายชื่อ และยังเป็นรถที่มีมูลค่าสูงและเป็นที่ต้องการอย่างมาก ความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. นั้นน่าประทับใจมาก เพราะเป็นรถที่มีพละกำลังน้อยที่สุดในบรรดารถเหล่านี้ โดยมีกำลังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถส่วนใหญ่ที่นี่ ด้วยเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 4.0 ลิตร ที่ให้กำลังเพียง 746 แรงม้า แต่กลับทำความเร็วได้ขนาดนี้อย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณการออกแบบตัวถังที่ลื่นไหลและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.278 Cd
เหตุผลที่คุณควรเชื่อถือในรายชื่อนี้
แตกต่างจากรายชื่ออื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต รายชื่อรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของเราไม่ได้รวบรวมจากเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ผลิต และด้วยเหตุนี้ รายชื่อของเราอาจดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย เราจะไม่เพิ่มรถยนต์ที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการเข้าไปในลิสต์นี้ แม้ว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ 330 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่เราจะรอจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้จริงก่อนที่เราจะเพิ่มมันเข้าไปในรายชื่อ
แน่นอนว่าการเพิ่มรถอย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ เข้าไปในอันดับต้นๆ ของรายชื่อนี้ อาจทำให้บางคนสงสัย เพราะลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงความเร็วสูงสุด 490.48 กม./ชม. แต่รถคันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามันสามารถทำได้จริง และนั่นคือหัวใจสำคัญของคำว่า “สถิติ” ในโลกยานยนต์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อในการนำเสนอข้อมูลที่ยืนยันได้และเชื่อถือได้ เพื่อให้คุณผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้องที่สุดเสมอ
โลกของไฮเปอร์คาร์ยังคงหมุนไปข้างหน้าด้วยความเร็วที่เหนือจินตนาการ และในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามวงการนี้มานับทศวรรษ ผมรับรองได้ว่าอนาคตจะยังคงน่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน แล้วคุณล่ะ? รถคันไหนคือที่สุดในใจของคุณ หรือคุณคิดว่าใครจะเป็นผู้สร้างประวัติศาสตร์ความเร็วบทต่อไป? มาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นและพูดคุยเกี่ยวกับสุดยอดเครื่องจักรเหล่านี้กับเราได้เลย!
10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ประจำปี 2025: ย้อนรอยความเร็วทะลุพิกัด สู่ยุคใหม่แห่งไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า
ในฐานะผู้คลุกคลีในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของความเร็วและวิศวกรรมยานยนต์ จากเครื่องยนต์สันดาปภายในที่บ้าคลั่ง สู่ยุคทองของพลังงานไฟฟ้าที่เข้ามาพลิกโฉมหน้าอุตสาหกรรม วันนี้ ในปี 2025 เรากำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ซึ่งขีดจำกัดของความเร็วสูงสุดถูกท้าทายอย่างต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมที่ก้าวล้ำเกินจินตนาการ การได้ครอบครอง “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ไม่ใช่เพียงแค่การมีพาหนะ แต่มันคือการเป็นเจ้าของงานศิลปะทางวิศวกรรม ที่สามารถฉีกกฎฟิสิกส์และมอบประสบการณ์ที่หาใครเทียบได้ยากยิ่ง
การมีไฮเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลกจอดอยู่ในโรงรถ อาจฟังดูเกินจริงหากไม่มีรันเวย์ส่วนตัว เพราะบนท้องถนนปกติ ไม่มีโอกาสใดที่คุณจะสามารถปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของมันได้เลย รถทุกคันในรายชื่อของเราสามารถทำความเร็วได้เกิน 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะได้สัมผัสความรู้สึกนั้นอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตาม การได้รู้ว่าคุณเป็นเจ้าของ “รถซูเปอร์คาร์” ระดับสุดยอด ที่พร้อมจะพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ทุกเมื่อ ก็เป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้นในตัวเอง มันคือการครอบครองสถิติ การเป็นที่หนึ่งในเกมแห่งความเร็ว วันนี้เราจะมาเจาะลึกสุดยอด “ไฮเปอร์คาร์ 2025” ที่ครองตำแหน่งอันทรงเกียรติเหล่านี้
ไฮเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลกปี 2025: ภาพรวมที่น่าสนใจ
นี่คือจุดเด่นบางส่วนจากรายชื่อที่เราคัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน:
รถที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถยนต์ที่มีกำลังสูงสุดในลิสต์: Yangwang U9 Xtreme
รถที่เร่งความเร็ว (0-100 กม./ชม.) ได้เร็วที่สุด: Rimac Nevera
เมื่อคุณได้เห็นภาพรวมของเหล่าสุดยอดรถยนต์เหล่านี้แล้ว มาสำรวจรายชื่อฉบับเต็มกันดีกว่า เพื่อทำความเข้าใจถึง “เทคโนโลยียานยนต์ล้ำสมัย” ที่ผลักดันพวกมันให้ก้าวข้ามขีดจำกัด
Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: N/A
ราคา: N/A (ไม่เปิดเผย)
ปี 2025 ได้เปิดศักราชใหม่ของ “ความเร็วสูงสุดรถยนต์” ด้วยการปรากฏตัวของ Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่มาพร้อมพละกำลังมหาศาลถึง 3,000 แรงม้า มันได้จารึกชื่อลงในประวัติศาสตร์ว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ หลังจากการทดสอบที่ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี ด้วยความเร็วที่น่าตกตะลึงถึง 496.22 กม./ชม. แบรนด์ต่างๆ อย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac ต่างพยายามโค่นล้มบัลลังก์ของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ มานานกว่าห้าปี การที่รถยนต์ EV จากค่ายจีนที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนักสามารถแซงหน้าทุกคนไปได้ ถือเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง และเป้าหมายต่อไปที่ 500 กม./ชม. ก็ดูเหมือนจะอยู่ในกำมือ
Yangwang U9 Xtreme ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน และยังคงเดินหน้าสร้างสถิติอื่น ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพยายามทำลายสถิติเวลาต่อรอบที่ Nürburgring Nordschleife ซึ่งได้ทำเวลาไปแล้ว 6:59.157 นาที แม้จะยังห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) ที่ทำไว้ 6:44.848 นาทีในปี 2022 แต่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงสมรรถนะอันเหนือชั้นของรถยนต์ไฟฟ้าคันนี้
“รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง” อย่าง Yangwang U9 Xtreme กำลังจะเปลี่ยนนิยามที่เรามีต่อซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูงโดยสิ้นเชิง และจะเร่งให้ตลาด “ไฮเปอร์คาร์” ระดับท็อปเติบโตยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ไม่สนใจประสิทธิภาพที่เข้าถึงง่ายอีกต่อไป แต่ต้องการที่สุดของตัวเลขและประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้น
ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนตรงด้วยไฟฟ้า
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd
Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ
Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือ “ไฮเปอร์คาร์” คันแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถทำความเร็วได้เกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 482 กม./ชม.) โดยทำสถิติความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการที่ 490.484 กม./ชม. ณ สนามทดสอบของบริษัท มันคือความสำเร็จอันน่าทึ่งที่เกิดขึ้นได้ด้วยเครื่องยนต์ W-16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาลถึง 1,578 แรงม้า และแรงบิดมากกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูงที่ 0.35 Cd แต่มันก็ยังสามารถพุ่งทะยานด้วยความเร็วที่ไม่น่าเชื่อนี้ได้
สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะทำความเร็วได้ถึงขีดสุดนี้ แต่ Bugatti ได้จำกัดความเร็วสูงสุดสำหรับรถลูกค้าไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ รวมถึง Tourbillon รุ่นใหม่ล่าสุด และทาง Bugatti ยืนยันว่าจะไม่มีการปลดล็อกข้อจำกัดความเร็วนี้อย่างเด็ดขาด
เครื่องยนต์: W-16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.35 Cd
SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
ครั้งหนึ่ง SSC North America เคยสร้างความตกตะลึงให้กับวงการยานยนต์ ด้วยการประกาศว่า SSC Tuatara ไฮเปอร์คาร์ของพวกเขา ทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์ต่อชั่วโมง) บนทางหลวงในทะเลทรายเนวาดา ซึ่งจะโค่นสถิติของ Bugatti อย่างขาดลอยและเป็นคันแรกที่ทะลุ 500 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ทางแบรนด์ได้ยอมรับว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริง สร้างความผิดหวังให้กับหลายฝ่าย
แม้จะมีเรื่องวุ่นวายในอดีต แต่ SSC ก็ไม่ย่อท้อในการไล่ล่าความเร็ว ในความพยายามล่าสุดที่บันทึกไว้ใน YouTube เมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 พวกเขาทำความเร็วได้ถึง 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง) บนรันเวย์ยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds โดยสิ่งที่น่าตกใจคือ SSC Tuatara ยังคงเร่งความเร็วต่อไปได้อีก ในขณะที่ผู้ขับขี่ต้องผ่อนคันเร่ง ทำให้เราได้แต่จินตนาการว่าหากรันเวย์ยาวกว่านี้ ความเร็วสูงสุดของมันจะไปได้ถึงเท่าไร นี่คือหนึ่งใน “รถซูเปอร์คาร์” ที่มีศักยภาพไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง
เครื่องยนต์: V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 5.9 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.279 Cd
Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: N/A
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 358,595 ดอลลาร์ออสเตรเลีย)
การเพิ่มเข้ามาใหม่ในรายชื่อ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” คือรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจากแบรนด์ย่อยระดับหรูของ BYD อย่าง YANGWANG ซึ่งก็คือ U9 Track Edition นั่นเอง นี่คือซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าพลังสี่มอเตอร์ 1,200 โวลต์ ที่มีพละกำลังเกือบ 3,000 แรงม้า และสามารถกล่าวได้อย่างเป็นทางการว่าเป็น “รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง” ที่เร็วที่สุดในโลก หลังจากทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยนักขับมืออาชีพ Marc Basseng
ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่ง EV ที่เร็วที่สุดด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่ตอนนี้บัลลังก์ได้ถูกแย่งชิงไปโดยจีนแล้ว
แม้รถยนต์ไฟฟ้าจะทำอัตราเร่งได้น่าทึ่ง แต่โดยทั่วไปแล้วมักประสบปัญหาในการทำความเร็วสูงสุดให้ได้เท่ารถยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากขาดระบบเกียร์แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม YANGWANG ได้ยุติปัญหานี้ด้วยการเปิดตัวระบบมอเตอร์สี่ตัวแห่งแรกของโลกที่มาพร้อมมอเตอร์สมรรถนะสูง 30,000 รอบต่อนาที ทำให้สามารถทำความเร็วสูงสุดได้อย่างเหลือเชื่อที่ 472.41 กม./ชม. มอเตอร์แต่ละตัวสามารถควบคุมแรงบิดได้อย่างอิสระถึง 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์ และทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของแต่ละล้ออย่างอิสระ ทำให้รถยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคง นี่คือตัวอย่างที่ชัดเจนของ “นวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า” ที่ก้าวล้ำ
ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนตรงด้วยไฟฟ้า
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd
Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐ
Koenigsegg Agera RS คือหนึ่งในสามรถที่เร็วที่สุดในโลก และเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอ YouTube ที่โพสต์โดยแบรนด์แสดงให้เห็นรถคันนี้ทำความเร็วสูงสุดเฉลี่ยได้ถึง 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง) ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,176 แรงม้า และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายชื่อของเรา
หลายคนอาจสงสัยว่า Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่ไม่ได้เคลมความเร็วสูงสุด 330 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 531 กม./ชม.) หรือไม่? คำตอบคือใช่ แต่ยังไม่เคยได้รับการทดสอบในพื้นที่อย่างเป็นทางการ ถึงแม้จะพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250mph-0 แต่แบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ในโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งแน่นอนว่านี่คือภารกิจของ Christian von Koenigsegg ที่กำลังรอคอย
เช่นเดียวกับรถยนต์หลายคันในรายชื่อนี้ เหตุผลหลักที่เรายังไม่เห็น Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดได้นั้น เนื่องจากมีถนนที่ยาวเพียงพอในโลกเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือไม่ก็เป็นของ Volkswagen Group (Bugatti) ซึ่งไม่อนุญาตให้ผู้อื่นใช้ นี่คือความท้าทายใน “การลงทุนในรถยนต์สะสม” ระดับไฮเปอร์คาร์ที่ต้องพึ่งพาสนามทดสอบเฉพาะทาง
เครื่องยนต์: V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd
Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) พร้อม Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ
Bugatti Chiron Super Sport 300+ อาจเป็นรถที่เร็วที่สุดที่เคยได้รับการทดสอบ แต่ Bugatti Tourbillon คือ Bugatti ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้อย่างแท้จริง ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในสเปคลูกค้าที่จำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง)
แตกต่างจาก Chiron ตรงที่ Bugatti Tourbillon ได้เปลี่ยนเครื่องยนต์ W16 ควอด-เทอร์โบ มาเป็นเครื่องยนต์ V16 ไฮบริดไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 8.3 ลิตร แต่ก็ยังคงให้กำลังที่น่าตกตะลึงถึง 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 นิวตันเมตร) ซึ่งช่วยให้มันเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 2 วินาที ก่อนจะพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. และในฐานะ Bugatti คุณรู้ดีว่ามันจะทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย นี่คือสุดยอด “รถหรูสมรรถนะสูง” ที่ผสานความเร็วเข้ากับความสง่างาม
เครื่องยนต์: V16 ไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 8.3 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: N/A
Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐ
เช่นเดียวกับการแข่งขันอวกาศ การช่วงชิงตำแหน่ง “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดระหว่างสี่บริษัทใหญ่ (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) โดยทั้งหมดพยายามทำความเร็วให้เกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมงบนถนนสาธารณะ และ Hennessey ก็มีอาวุธลับคือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)
ในขณะที่ SSC Tuatara ต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการอ้างสิทธิ์เริ่มต้น Hennessey Venom F5 ได้สร้างสถิติความเร็วสูงสุดที่ 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง) อย่างเงียบๆ ในปี 2022 ซึ่งทำให้มันกลายเป็นยานยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับห้าตลอดกาล หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันคงทำความเร็วได้มากกว่านี้อีก ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามหาอยู่
ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey กล่าวว่าปี 2024 (ซึ่งกำลังจะเป็น 2025 ในมุมมองของบทความนี้) จะเป็นปีที่ Venom F5 พยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ เราจะรอดูผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ นี่คือหนึ่งใน “ไฮเปอร์คาร์” ที่น่าจับตาที่สุดในยุคปัจจุบัน
เครื่องยนต์: V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd
Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
“วันหนึ่งผมเคยล้อเล่นว่าจะเอาเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey กล่าวกับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “แล้วผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะเป็นอย่างไร เมื่อผมเห็นภาพร่าง ผมก็หยุดหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”
“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางเหมือน Ford GT จะทำให้ถ่ายเทน้ำหนักของเครื่องยนต์และเกียร์ไปที่ยางหลัง ทำให้มีการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น ออกแบบแรงกดอากาศให้มากที่สุดเท่าที่เราต้องการ เพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ในขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีการเร่งความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่คือจุดกำเนิดของแนวคิด Venom GT”
สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือสถิติโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ นับเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งใน “ประวัติศาสตร์ยานยนต์”
เครื่องยนต์: GM LS7 V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 7.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd
Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถยนต์ผลิตที่ถูกกฎหมายบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบัน มันถูกแซงหน้าโดย Chiron Super Sport 300+ ซึ่งเป็นพี่น้องร่วมค่าย อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ W-16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร ของ Veyron Super Sport ยังคงให้กำลังมหาศาลถึง 1,200 PS (882 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร) ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างมากในยุคนั้น และยังคงเป็นหนึ่งใน “รถซูเปอร์คาร์” ที่เป็นตำนาน
เครื่องยนต์: W-16 ควอด-เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติคลัตช์คู่ Ricardo 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.36 Cd (ในโหมดความเร็วสูงสุด)
Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ
Rimac Nevera คือราชาแห่ง “รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง” ที่ครองตำแหน่งรถยนต์ที่เร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุดในรายชื่อนี้ และยังคงเป็นหนึ่งใน “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง)
Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili อย่างไรก็ตาม Nevera ได้ทะลุกำแพง 250 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ด้วยฝีมือวิศวกรของ Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนล้อแต่ละข้าง ทำให้มีกำลังรวมทั้งหมด 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร) ซึ่งทำให้มันเป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายชื่อนี้ด้วยเช่นกัน นี่คืออนาคตของ “ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้า” ที่เราได้เห็นเป็นรูปธรรม
ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแม่เหล็กถาวรแบบ surface-mounted, carbon-sleeve อิสระ 4 ตัว
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ขับเคลื่อนตรงความเร็วเดียว
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.30 Cd
รถยนต์ที่เคยติดอันดับ แต่ถูกผลักดันออกนอก Top 10
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีรถยนต์หลายคันที่เคยครองตำแหน่งสูงสุด แต่ด้วยการมาถึงของนวัตกรรมใหม่ๆ พวกมันก็ถูกผลักดันออกไป แต่ก็ยังคงเป็นตำนานที่น่าจดจำ:
Koenigsegg Regera
ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
หนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกจากการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม. Koenigsegg Regera มีแนวโน้มที่จะทำความเร็วได้เร็วกว่า 400 กม./ชม. ที่จำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่แบรนด์ไม่เคยทดสอบอย่างเป็นทางการ ทำให้มันหลุดจาก 10 อันดับแรกไปอย่างฉิวเฉียด เครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลัง 1,500 แรงม้า และแรงบิด 944 ปอนด์-ฟุต พลังงานนี้ถูกส่งผ่านระบบเกียร์ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้ 88 กก. และเชื่อมโยงเครื่องยนต์กับเพลาหลังโดยตรง ผลลัพธ์คือรถที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Rimac Nevera 0.64 วินาที นี่คือตัวอย่างของ “วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสุดยอด” ที่เน้นประสิทธิภาพและนวัตกรรม
McLaren Speedtail
ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.0 วินาที
ราคา (เมื่อออกใหม่): เริ่มต้นที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐ
McLaren Speedtail คือหนึ่งในรถยนต์ที่สวยงามที่สุดในรายชื่อของเรา และยังเป็นหนึ่งในรถที่มีมูลค่าสูง เป็นที่ต้องการ และเป็นที่หวงแหนที่สุดอีกด้วย ความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) ของมันน่าประทับใจอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นรถยนต์ที่มีกำลังน้อยที่สุดในรายชื่อนี้ ด้วยกำลังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถส่วนใหญ่ที่นี่ เครื่องยนต์ V8 ทวิน-เทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ให้กำลังเพียง 746 แรงม้า และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต แต่ก็ยังสามารถทำความเร็วอันน่าทึ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย ต้องขอบคุณตัวถังที่เพรียวลมและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.278 Cd ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึง “ดีไซน์ล้ำสมัย” และวิศวกรรมการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ยอดเยี่ยม
ทำไมคุณควรเชื่อถือรายชื่อนี้
แตกต่างจากรายชื่ออื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต รายชื่อ “รถที่เร็วที่สุดในโลก” ของเราไม่ได้รวบรวมจากการกล่าวอ้างของผู้ผลิต และอาจดูแตกต่างออกไปเล็กน้อยด้วยเหตุนี้ เราจะไม่เพิ่มรถยนต์เข้าในรายชื่อของเราที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ แม้ว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ล่าสุดของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ 330 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่เราจะรอดูจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้ก่อนที่เราจะเพิ่มมันลงในรายชื่อ
แน่นอนว่าการเพิ่มรถอย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ ไว้ในอันดับต้น ๆ ของรายการนี้อาจทำให้บางคนแปลกใจ เพราะลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงความเร็วสูงสุด 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง) นั้นได้ อย่างไรก็ตาม มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง ซึ่งเป็นหลักฐานที่ชัดเจนถึงสมรรถนะที่ไม่มีใครกังขา เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือที่สุดในโลกของ “ไฮเปอร์คาร์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปี 2025 ที่ทุกการกล่าวอ้างต้องมาพร้อมข้อพิสูจน์
ในยุคที่ “ตลาดรถซูเปอร์คาร์” กำลังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมกับ “นวัตกรรมยานยนต์” ที่ก้าวหน้า เราเชื่อว่าข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงขีดจำกัดของสิ่งที่มนุษย์และวิศวกรรมสามารถสร้างสรรค์ได้ ความเร็วไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่มันคือการเดินทางอันยาวนานของการวิจัย พัฒนา และความกล้าหาญที่จะท้าทายสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าการเดินทางของ “ความเร็วสูงสุดรถยนต์” ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจได้เห็นตัวเลขที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่านี้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพลังงานไฟฟ้าหรือการผสมผสานไฮบริด สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ความหลงใหลในความเร็วของมนุษย์จะไม่มีวันจางหายไป
หากคุณเป็นอีกคนที่หลงใหลในโลกของ “ไฮเปอร์คาร์ 2025” และต้องการสัมผัส “ประสบการณ์ขับขี่ระดับโลก” หรือเพียงแค่ต้องการติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับสุดยอดวิศวกรรมยานยนต์ อย่าลืมติดตามช่องทางของเราเพื่อไม่พลาดทุกการอัปเดต และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางสู่ความเร็วเหนือจินตนาการไปด้วยกัน!

