• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1111195 บทพ จร กแท จากค ณแม part 2

admin79 by admin79
November 11, 2025
in Uncategorized
0
N1111195 บทพ จร กแท จากค ณแม part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025: เจาะลึกสมรรถนะและนวัตกรรมไฮเปอร์คาร์แห่งยุค

ในโลกที่ความเร็วคือภาษาแห่งชัยชนะและนวัตกรรมไม่มีวันหยุดนิ่ง ยานยนต์สมรรถนะสูงได้ก้าวข้ามขีดจำกัดไปไกลกว่าที่เราเคยจินตนาการไว้มาก ในฐานะผู้ที่คลุกคลีในวงการยานยนต์มายาวนานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของเครื่องจักรเหล่านี้ จากยุคที่เครื่องยนต์สันดาปครองบัลลังก์ สู่การมาถึงของพละกำลังไฟฟ้าที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ความเร็ว ในปี 2025 นี้ การแข่งขันเพื่อช่วงชิงตำแหน่ง “รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก” ยังคงดุเดือดและน่าจับตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมียักษ์ใหญ่รายใหม่ก้าวเข้ามาท้าทายตำนานเดิมอย่างไม่เกรงกลัว

การครอบครองสุดยอดไฮเปอร์คาร์เหล่านี้ในโรงรถอาจเป็นความฝันของใครหลายคน แต่การได้ปลดปล่อยพละกำลังสูงสุดของมันอย่างเต็มที่นั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้บนถนนสาธารณะ ทุกคันในลิสต์นี้สามารถทำความเร็วได้เกิน 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทว่ามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเคยสัมผัสประสบการณ์นั้นด้วยตนเอง นี่คือโลกของตัวเลข สถิติ และศักยภาพอันไร้ขีดจำกัด ที่ซึ่งสมรรถนะคือศิลปะ และวิศวกรรมคือเวทมนตร์ เราจะมาเจาะลึก 10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยอ้างอิงจากความเร็วสูงสุดที่ได้รับการบันทึกและยืนยันอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความน่าเชื่อถือในโลกความเร็วนี้

ยุคใหม่แห่งความเร็วได้มาถึงแล้ว โดยมีรถยนต์ไฟฟ้าก้าวขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงที่น่าเกรงขาม ทำให้การจัดอันดับในปีนี้มีความน่าสนใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เรามาดูกันว่าสุดยอดรถยนต์คันไหนบ้างที่สามารถสร้างสถิติและตรึงตำแหน่งตัวเองในทำเนียบยานยนต์ความเร็วสูงแห่งปี 2025 ได้สำเร็จ

Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): รอประกาศ
ราคา: รอประกาศ

เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกประจำปี 2025 ไม่มีใครสามารถปฏิเสธปรากฏการณ์ที่ชื่อว่า Yangwang U9 Xtreme ไปได้ นี่คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญในประวัติศาสตร์ยานยนต์ ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของพลังงานไฟฟ้า ไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าสัญชาติจีนคันนี้มาพร้อมกับพละกำลังมหาศาลกว่า 3,000 แรงม้า ซึ่งเป็นผลพวงจากระบบขับเคลื่อนสี่มอเตอร์ไฟฟ้าอันล้ำสมัย มันได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการทะยานสู่ความเร็วสูงสุดถึง 496.22 กม./ชม. บนสนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี ทำให้มันก้าวขึ้นแท่นเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกอย่างเป็นทางการ และที่สำคัญคือ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย

นานกว่าห้าปีแล้วที่แบรนด์ชั้นนำอย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac พยายามที่จะโค่นบัลลังก์ของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ แต่กลับเป็น Yangwang แบรนด์ EV จากจีนที่บุกเข้ามาอย่างเงียบๆ และสร้างความสั่นสะเทือนไปทั่วโลกยานยนต์ ความสำเร็จนี้ไม่ใช่แค่การทำลายสถิติ แต่เป็นการประกาศศักดาของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าจีนบนเวทีโลกอย่างแท้จริง เป้าหมายต่อไปคือการทะลุ 500 กม./ชม. ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

Yangwang U9 Xtreme ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าของสถิติความเร็วสูงสุดเท่านั้น แต่ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife โดยสามารถทำเวลาได้ 6:59.157 นาที ซึ่งเป็นเวลาที่น่าประทับใจ แม้จะยังห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) ที่ทำไว้ 6:44.848 นาทีในปี 2022 แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผสานความเร็วสูงสุดเข้ากับสมรรถนะในสนามแข่ง

Yangwang U9 Xtreme คือผู้ที่จะเขียนนิยามใหม่ของสุดยอดซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง มันเร่งปฏิกิริยาตลาดไฮเปอร์คาร์สั่งทำพิเศษที่มุ่งเน้นประสบการณ์การขับขี่ โดยไม่สนเรื่องความเข้าถึงได้หรือตัวเลขเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป

ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: รอประกาศ (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนโดยตรงด้วยไฟฟ้า
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ก่อนที่ Yangwang จะก้าวขึ้นมาท้าทาย บัลลังก์ของความเร็วสูงสุดนั้นเป็นของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ อย่างไม่มีข้อกังขา นี่คือรถโปรดักชันคันแรกที่สามารถทำความเร็วทะลุ 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ ด้วยสถิติ 490.484 กม./ชม. บนสนามทดสอบของบริษัทเอง นับเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง ซึ่งเป็นไปได้ด้วยเครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร ควอดเทอร์โบ ที่ให้พละกำลัง 1,578 แรงม้า และแรงบิดกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศค่อนข้างสูงที่ 0.35 Cd แต่พละกำลังมหาศาลก็ทำให้มันยังคงเป็นหนึ่งในผู้ครองสถิติ

สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะทำความเร็วระดับนี้ได้ รถยนต์ที่ส่งมอบให้ลูกค้าจะถูกจำกัดความเร็วด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง) Bugatti ยืนยันว่าขีดจำกัดความเร็วนี้จะไม่มีวันถูกปลดออก นี่คือปรัชญาของแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและการใช้งานจริง

เครื่องยนต์: W-16 ขนาด 8.0 ลิตร ควอดเทอร์โบ
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.35 Cd

SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

SSC Tuatara เป็นชื่อที่เคยสร้างความฮือฮาและประเด็นถกเถียงอย่างมากในวงการยานยนต์ เมื่อ SSC North America ประกาศว่าไฮเปอร์คาร์ของพวกเขาทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในทะเลทรายเนวาดา หากเป็นจริง นี่จะทำให้มันแซงหน้า Bugatti ไปอย่างขาดลอย และเป็นคันแรกที่ทะลุ 500 กม./ชม. อย่างไรก็ตาม ในภายหลังบริษัทได้ออกมายอมรับว่าสถิติดังกล่าวเป็นความผิดพลาด พร้อมให้คำมั่นว่าจะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้

ถึงแม้จะมีบทเรียนจากเหตุการณ์นั้น SSC ก็ยังคงเดินหน้าพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่อง ความพยายามล่าสุดที่บันทึกไว้ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ถึง 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง) บนรันเวย์ยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds แม้จะยังไม่ใช่ 300 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ที่น่าตื่นเต้นคือ ตัวรถยังคงเร่งความเร็วได้อีกเมื่อผู้ขับขี่ต้องชะลอความเร็วลงเนื่องจากรันเวย์ไม่ยาวพอ นั่นทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่าหากมีสนามที่ยาวกว่านี้ Tuatara จะไปได้ไกลแค่ไหน นี่คือเครื่องพิสูจน์ถึงวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยมและศักยภาพอันมหาศาลของเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 5.9 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,750 แรงม้า

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ 5.9 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติ 7 สปีด CIMA คลัตช์เดี่ยว
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.279 Cd

Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): รอประกาศ
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)

ผู้เล่นหน้าใหม่ล่าสุดในลิสต์รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกคือ Yangwang U9 Track Edition รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงจากแบรนด์ย่อยสุดหรูของ BYD นี่คือเครื่องจักรพลังงานไฟฟ้าที่แทบจะเหมือนฝาแฝดของ U9 Xtreme แต่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับการทำความเร็วสูงสุดบนสนามแข่ง และยังสามารถอ้างสิทธิ์เป็นรถ EV ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับรุ่น Track Edition ด้วยความเร็วสูงสุด 472.41 กม./ชม. ที่สนาม ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดย Marc Basseng นักขับมืออาชีพ

ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่ง EV ที่เร็วที่สุดด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. แต่ตอนนี้ถูก Yangwang ทำลายสถิติไปแล้ว แม้รถ EV จะทำอัตราเร่งได้น่าทึ่ง แต่ก็มักมีข้อจำกัดในการเข้าถึงความเร็วสูงสุดเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เกียร์ธรรมดา ทว่า Yangwang ได้แก้ปัญหานี้ด้วยการนำเสนอระบบสี่มอเตอร์ตัวแรกของโลกที่ใช้มอเตอร์สมรรถนะสูง 30,000 รอบต่อนาที ทำให้สามารถทำความเร็วอันน่าทึ่งนี้ได้

เทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์ช่วยควบคุมแรงบิดของแต่ละมอเตอร์ได้อย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อปรับการยึดเกาะถนนของแต่ละล้อ ทำให้รถยังคงยึดเกาะพื้นผิวได้ดีเยี่ยมแม้ในความเร็วสูง

ระบบขับเคลื่อน: ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: รอประกาศ (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนโดยตรงด้วยไฟฟ้า
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Koenigsegg Agera RS ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกและเป็นรถ Koenigsegg ที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการว่าเร็วที่สุด การทดสอบที่ได้รับการบันทึกในวิดีโอ YouTube แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้สามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 446.97 กม./ชม. มันขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 5.0 ลิตร ที่ให้พละกำลัง 1,176 แรงม้า และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์นี้

แน่นอนว่าหลายคนอาจสงสัยว่า Koenigsegg Jesko Absolut ไม่ได้อ้างว่าทำความเร็วได้ถึง 330 ไมล์ต่อชั่วโมง (กว่า 530 กม./ชม.) หรือ? นั่นเป็นเรื่องจริง แต่ Jesko Absolut ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการบนสนามจริง แม้จะพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250-0 ไมล์ต่อชั่วโมง แต่ Christian von Koenigsegg ผู้ก่อตั้งแบรนด์ยังคงต้องการหาสนามทดสอบที่ยาวและปลอดภัยพอที่จะปลดปล่อยความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ออกมาให้ได้ การหาสนามที่เหมาะสมคือความท้าทายหลักสำหรับรถยนต์ความเร็วสูงระดับนี้ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือเป็นของกลุ่ม Volkswagen (Bugatti) ซึ่งไม่เปิดให้แบรนด์อื่นเข้าใช้

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ 5.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1280 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติ 7 สปีด CIMA คลัตช์เดี่ยว
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) พร้อม Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะเป็นรถ Bugatti ที่ทำสถิติความเร็วสูงสุดเท่าที่เคยทดสอบมา แต่ Bugatti Tourbillon คือรถ Bugatti ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้มากกว่า โดยมีความเร็วสูงสุดถึง 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในเวอร์ชันลูกค้าที่ถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง)

สิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ Bugatti Tourbillon ได้ทิ้งเครื่องยนต์ W16 ควอดเทอร์โบอันเป็นเอกลักษณ์ของ Chiron มาใช้เครื่องยนต์ V16 ไฮบริดหายใจตามธรรมชาติขนาด 8.3 ลิตรแทน แต่ยังคงให้พละกำลังที่น่าตกใจถึง 1,800 แรงม้า และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต ทำให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 2.0 วินาที ก่อนที่จะทะยานสู่ความเร็วสูงสุดที่ 445 กม./ชม. ด้วยความสง่างามและความสะดวกสบายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Bugatti

เครื่องยนต์: V16 หายใจตามธรรมชาติ 8.3 ลิตร (ไฮบริด)
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ดูอัลคลัตช์ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: รอประกาศ

Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

การแข่งขันเพื่อชิงมงกุฎความเร็วสูงสุดยังคงดำเนินไปอย่างเข้มข้นระหว่างสี่บริษัทหลัก (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) โดยทุกคนต่างพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถยนต์ที่ใช้งานบนถนนได้ อาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 6.6 ลิตร ที่ให้พละกำลังถึง 1,817 แรงม้า

ในขณะที่ SSC Tuatara ต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งจากความพยายามครั้งแรก Hennessey Venom F5 กลับทำสถิติความเร็วสูงสุด 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง) อย่างเงียบๆ ในปี 2022 ซึ่งทำให้มันเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับที่เจ็ดของโลก หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันจะสามารถทำความเร็วได้มากกว่านี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังมองหา

ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube, John Hennessey กล่าวว่าปี 2024 (ซึ่งในมุมมองของเราคือปัจจุบันในปี 2025) จะเป็นปีที่ Venom F5 พยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ เราจึงเฝ้ารอผลลัพธ์นี้อย่างใจจดใจจ่อ หากเพียงกลุ่ม Volkswagen จะอนุญาตให้พวกเขาใช้สนาม Ehra-Lessien ได้!

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ 6.6 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติ 7 สปีด CIMA คลัตช์เดี่ยว
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

“วันหนึ่งผมล้อเล่นเรื่องการนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey เล่าถึงแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “จากนั้นผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะเป็นอย่างไร พอเห็นภาพร่าง ผมก็เลิกหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”

“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางเหมือน Ford GT จะทำให้มวลของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยู่เหนือยางหลัง ทำให้มีการยึดเกาะที่ดีขึ้น ออกแบบแรงกดอากาศให้มากพอที่จะทำให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งให้อัตราเร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่คือจุดกำเนิดของแนวคิด Venom GT”

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือสถิติความเร็วโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 บนรันเวย์ลงจอดกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy สิ่งที่ตลกคือ คุณสามารถเลือกติดตั้งระบบเครื่องเสียงที่ออกแบบโดย Steven Tyler แห่งวง Aerosmith ใน Hennessey Venom GT ของคุณได้ด้วย

เครื่องยนต์: GM LS7 V8 ทวินเทอร์โบ 7.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records ให้เป็นรถโปรดักชันที่ใช้งานบนถนนได้อย่างถูกกฎหมายและเร็วที่สุดในโลก ปัจจุบันมันถูกแซงหน้าโดย Chiron Super Sport 300+ ซึ่งเป็นรุ่นน้อง แต่ถึงกระนั้น เครื่องยนต์ W-16 ควอดเทอร์โบ 8.0 ลิตรของมันก็ยังคงสร้างพละกำลังมหาศาลถึง 1,200 แรงม้า และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจอย่างยิ่งในยุคสมัยนั้น

Veyron Super Sport ไม่ใช่แค่รถยนต์ที่เร็ว แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของไฮเปอร์คาร์ ที่แสดงให้เห็นว่าวิศวกรรมยานยนต์สามารถผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะที่เหลือเชื่อได้อย่างไร มันยังคงเป็นที่จดจำในฐานะผู้บุกเบิกและผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นต่อๆ มา

เครื่องยนต์: W-16 ควอดเทอร์โบ 8.0 ลิตร
กำลังสูงสุด: 1,200 แรงม้า (882 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์ดูอัลคลัตช์ Ricardo 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.36 Cd (ในโหมดความเร็วสูงสุด)

Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์ต่อชั่วโมง): 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Rimac Nevera คือราชันย์แห่งยานยนต์ไฟฟ้าในแง่ของอัตราเร่ง และเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง) และสถิติอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่ 1.8 วินาที ทำให้มันเป็นรถที่ออกตัวได้เร็วที่สุดในลิสต์นี้

Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมถึง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili แต่ Nevera ได้ทำลายกำแพงความเร็ว 250 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วยฝีมือของวิศวกร Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวแยกกันที่แต่ละล้อ ทำให้ได้กำลังรวมสูงสุด 1,888 แรงม้า และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้มันเป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์นี้ด้วย

Nevera เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ในด้านความเร็วสูงสุดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการส่งมอบพละกำลังมหาศาลอย่างทันทีทันใด ซึ่งเป็นคุณสมบัติเด่นของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรหุ้มคาร์บอน 4 ตัวแยกอิสระ
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร)
ระบบส่งกำลัง: ขับเคลื่อนโดยตรงเกียร์เดี่ยว
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.30 Cd

บทสรุป: อนาคตแห่งความเร็วที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
จากรายชื่อสุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกแห่งปี 2025 นี้ เราได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามามีบทบาทอย่างโดดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้า ที่ไม่เพียงแต่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังสามารถทำลายสถิติความเร็วที่เคยเป็นของเครื่องยนต์สันดาปได้อย่างน่าทึ่ง Yangwang U9 Xtreme และ U9 Track Edition ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอนาคตของไฮเปอร์คาร์นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การใช้น้ำมันอีกต่อไป แต่ยังคงมีแบรนด์ตำนานอย่าง Bugatti, Koenigsegg และ Hennessey ที่ยังคงพัฒนารถยนต์ของตนเองให้ก้าวข้ามขีดจำกัดอย่างต่อเนื่อง

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ ผมเชื่อว่าการแข่งขันเพื่อช่วงชิงตำแหน่งสูงสุดนี้จะยังคงเป็นแรงผลักดันให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น ระบบควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ซับซ้อนขึ้น และวัสดุศาสตร์ที่ก้าวหน้า จะนำพาเราไปสู่ยุคที่ความเร็ว 500 กม./ชม. อาจกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับไฮเปอร์คาร์ระดับท็อป

ลิสต์นี้ถูกรวบรวมขึ้นจากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันและทดสอบอย่างเป็นทางการเท่านั้น ซึ่งเป็นหลักการที่เรายึดมั่นเพื่อนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือที่สุด แม้บางแบรนด์จะอ้างถึงความเร็วที่สูงกว่านี้ แต่เราจะรอจนกว่าจะมีการพิสูจน์ที่ชัดเจนบนสนามแข่งจริง เพราะในโลกของความเร็ว ตัวเลขที่ได้รับการรับรองเท่านั้นจึงจะมีความหมาย

คุณพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาในโลกยานยนต์สมรรถนะสูงแห่งปี 2025 แล้วหรือยัง? หากคุณหลงใหลในความเร็ว เทคโนโลยี และวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงสุดเช่นเดียวกับเรา อย่าลังเลที่จะแบ่งปันความคิดเห็นหรือคำถามของคุณ เราเปิดรับทุกมุมมองเพื่อร่วมกันผลักดันและเรียนรู้ในเส้นทางแห่งนวัตกรรมนี้ไปพร้อมกัน!

10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ปี 2025: ปลดล็อกสุดยอดความเร็วแห่งอนาคต

ในโลกแห่งยนตรกรรม ความเร็วยังคงเป็นขีดจำกัดที่มนุษย์เฝ้าค้นหาและท้าทายอยู่เสมอ และในปี 2025 นี้ เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่พรมแดนแห่งความเร็วถูกผลักดันออกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยวิวัฒนาการทางวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงสุด ผสมผสานกับนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ปฏิวัติวงการ ทำให้รถยนต์หลายคันบนท้องถนนสามารถทำความเร็วเกิน 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้อย่างน่าทึ่ง แต่จะมีสักกี่คนที่ได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับขี่ที่ระดับความเร็วเหนือมนุษย์นี้?

การครอบครองรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกเปรียบเสมือนการเป็นเจ้าของสุดยอดผลงานศิลปะเชิงวิศวกรรม ที่ไม่เพียงแต่แสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัด อย่างไรก็ตาม การปลดปล่อยสมรรถนะสูงสุดของไฮเปอร์คาร์เหล่านี้ จำเป็นต้องใช้สนามทดสอบเฉพาะทางที่มีความยาวและปลอดภัยเพียงพอ ซึ่งหาได้ยากยิ่งในโลกแห่งความเป็นจริง ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่อาจไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกของการแตะขีดจำกัดความเร็วสูงสุด แต่เพียงแค่รู้ว่ารถของตนเองสามารถทำได้ ก็เพียงพอแล้วที่จะสร้างความภาคภูมิใจและตอกย้ำถึงสถานะความเป็นที่สุด

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของขุมพลังไฟฟ้าที่พลิกโฉมหน้าของ “ความเร็ว” ไปอย่างสิ้นเชิง บทความนี้จะเจาะลึก 10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยยึดตามความเร็วสูงสุดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วอย่างเป็นทางการ พร้อมวิเคราะห์นวัตกรรมที่ทำให้พวกมันเป็น “เจ้าแห่งความเร็ว” แห่งปี 2025

สุดยอดรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกประจำปี 2025 โดยสรุป:

รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถ EV ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme
รถที่มีพละกำลังสูงสุดในรายการ: Yangwang U9 Xtreme
รถที่เร่งความเร็ว (0-100 กม./ชม.) ได้เร็วที่สุดในรายการ: Rimac Nevera

และนี่คือรายชื่อรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกที่เราได้รวบรวมมาให้คุณได้ศึกษาและตื่นเต้นไปกับมัน

Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: N/A
ราคา: N/A

เราได้เข้าสู่ยุคใหม่ของความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการด้วย Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนพลัง 3,000 แรงม้าคันนี้ ได้จารึกชื่อในประวัติศาสตร์ว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยการทำความเร็วสูงสุดถึง 496.22 กม./ชม. ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี ถือเป็นการแซงหน้าคู่แข่งอย่าง Bugatti, SSC, Koenigsegg และ Hennessey ที่พยายามโค่นบัลลังก์ Bugatti Chiron Super Sport 300+ มานานกว่าห้าปี การปรากฏตัวของรถ EV จากแบรนด์น้องใหม่อย่าง Yangwang จึงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง เป้าหมายต่อไปคือการทะลุ 500 กม./ชม.

Yangwang U9 Xtreme ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน และยังมุ่งมั่นที่จะสร้างสถิติเวลาต่อรอบที่ Nürburgring Nordschleife โดยทำเวลาได้ 6:59.157 ซึ่งรวดเร็วมาก แม้จะยังห่างจาก Porsche 911 GT3 RS (992) ที่ทำไว้ 6 นาที 44.848 วินาทีในปี 2022 แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันมหาศาล U9 Xtreme จะเป็นผู้เขียนนิยามใหม่ของซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง และเร่งให้ตลาดไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าแบบสั่งทำพิเศษเติบโตอย่างก้าวกระโดดสำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะที่ไม่มีใครเทียบได้

ระบบขับเคลื่อน: ระบบไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 kW)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)
ระบบเกียร์: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd

Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Bugatti Chiron Super Sport 300+ สร้างประวัติศาสตร์ในฐานะรถยนต์โปรดักชั่นคันแรกที่สามารถทำความเร็วเกิน 300 ไมล์ต่อชั่วโมง โดยบันทึกสถิติอย่างเป็นทางการที่ 490.484 กม./ชม. ที่สนามทดสอบของบริษัทในปี 2019 ความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้เป็นผลมาจากเครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร Quad-turbo ที่ให้พละกำลัง 1,578 แรงม้า (1,160 kW) และแรงบิดมากกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd) ค่อนข้างสูงที่ 0.35 แต่พละกำลังมหาศาลก็ช่วยให้มันทะยานสู่ความเร็วสูงสุดได้อย่างไร้เทียมทาน

สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือ Bugatti ได้จำกัดความเร็วสูงสุดของรุ่นลูกค้าไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง) ซึ่งเป็นนโยบายเดียวกับรถยนต์สมรรถนะสูงอื่นๆ ของแบรนด์ รวมถึงรุ่น Tourbillon ใหม่ล่าสุด เพื่อความปลอดภัยและเพื่อรักษาสถิติของรถยนต์ต้นแบบที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมของ Bugatti ยืนยันว่า ตัวจำกัดความเร็วนี้จะไม่มีวันถูกปลดออกในรถของลูกค้า แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการรักษาสมดุลระหว่างสมรรถนะและข้อจำกัดทางเทคนิค

เครื่องยนต์: 8.0 ลิตร W-16, Quad-turbo
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต
ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.35 Cd

SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เมื่อ SSC North America ประกาศว่า Tuatara สามารถทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์ต่อชั่วโมง) บนทางหลวงในทะเลทรายเนวาดา มันสร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกยานยนต์ เพราะจะแซงหน้าสถิติของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ และเป็นคันแรกที่ทะลุ 500 กม./ชม. ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการยอมรับว่าการอ้างสิทธิ์นี้ไม่เป็นความจริง

SSC ออกมาแถลงผ่านโซเชียลมีเดียว่า “เราขอรับทราบอย่างเป็นทางการว่าเราไม่สามารถทำความเร็วตามที่อ้างไว้ได้จริง ทั้ง 331 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 301 ไมล์ต่อชั่วโมงในเดือนตุลาคม 2020” และยังระบุว่า “เรารู้สึกเสียใจอย่างยิ่งที่ไม่ได้ทำสำเร็จ และเรากำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อทะลุขีดจำกัด 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างโปร่งใส เป็นทางการ และไร้ข้อกังขา”

ถึงกระนั้น ความมุ่งมั่นของพวกเขาก็ไม่เคยหยุดยั้ง ความพยายามล่าสุดที่บันทึกไว้ใน YouTube เมื่อเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ทำความเร็วได้ 475 กม./ชม. (295 ไมล์ต่อชั่วโมง) บนระยะทาง 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Center สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ SSC Tuatara ยังคงเร่งความเร็วต่อไปได้อีก หากรันเวย์มีความยาวมากกว่านี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดของรถไฮเปอร์คาร์คันนี้ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 5.9 ลิตร 1,750 แรงม้า

เครื่องยนต์: 5.9 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 kW)
แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 Nm)
ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.279 Cd

Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: N/A
ราคา: เริ่มต้น 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)

สมาชิกใหม่ล่าสุดในรายการรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกคือรถ EV สัญชาติจีนจากแบรนด์ย่อยสุดหรูของ BYD อย่าง YANGWANG นี่คือ U9 Track Edition ซึ่งเป็นซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า Quad-motor ขนาด 1,200 โวลต์ ที่มีพละกำลังเกือบ 3,000 แรงม้า และสามารถกล่าวอ้างได้อย่างเป็นทางการว่าเป็นรถ EV ที่เร็วที่สุดในโลก หลังจากการทำความเร็วสูงสุด 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยมี Marc Basseng นักขับมืออาชีพอยู่หลังพวงมาลัย

ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่งสูงสุดของรถ EV ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง) แต่ตอนนี้ได้ถูกโค่นลงโดยจีน ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี EV ในภูมิภาคเอเชีย

แม้ว่ารถ EV จะมีอัตราเร่งที่น่าทึ่ง แต่โดยปกติแล้วจะประสบปัญหาในการเข้าถึงความเร็วสูงสุดดังกล่าวหากไม่มีระบบเกียร์แบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม YANGWANG ได้แก้ไขปัญหานี้ด้วยการเปิดตัวระบบ Quad-motor แห่งแรกของโลกที่มาพร้อมมอเตอร์สมรรถนะสูง 30,000 รอบต่อนาที ซึ่งช่วยให้รถคันนี้ทำความเร็วได้ถึง 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้อย่างเหลือเชื่อ

ระบบ “e4 Platform” ของแบรนด์นี้ควบคุมเอาต์พุตแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวได้อย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของแต่ละล้ออย่างอิสระและช่วยให้รถยึดเกาะกับพื้นผิวถนนได้อย่างมั่นคงในทุกสภาวะ

ระบบขับเคลื่อน: ระบบไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 kW)
แรงบิดสูงสุด: N/A (รุ่น U9 มาตรฐานมี 1,680 Nm)
ระบบเกียร์: Direct-drive electric
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27 Cd

Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 2.55 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Koenigsegg Agera RS ครองตำแหน่งรถยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับที่สามของโลกและเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอใน YouTube ที่เผยแพร่โดยแบรนด์แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ทำความเร็วสูงสุดเฉลี่ยได้ 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์ต่อชั่วโมง) โดยมีขุมพลังจากเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 5.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,176 แรงม้า (865 kW) และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต (1280 Nm) ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการของเรา

หลายคนอาจสงสัยว่า Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่ไม่ได้เคลมความเร็วสูงสุด 330 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 531 กม./ชม.) หรือ? คำตอบคือ “ใช่” แต่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการในพื้นที่ที่ได้มาตรฐาน ถึงแม้จะพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250 ไมล์ต่อชั่วโมง-0 แต่ทางแบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นภารกิจของ Christian von Koenigsegg ที่กำลังรอคอยสนามทดสอบที่เหมาะสม

เช่นเดียวกับรถยนต์หลายคันในรายการนี้ เหตุผลหลักที่เรายังไม่เห็น Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดได้คือมีถนนที่ยาวพอสำหรับทำสถิติเพียงไม่กี่แห่งบนโลกใบนี้ และส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือเป็นของ Volkswagen Group (Bugatti) ที่ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นใช้งาน

เครื่องยนต์: 5.0 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 kW)
แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1280 Nm)
ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd

Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) พร้อม Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Bugatti Chiron Super Sport 300+ อาจเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีการทดสอบมา แต่ Bugatti Tourbillon คือรถยนต์ที่ลูกค้า Bugatti สามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้จริง ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) เมื่อใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในสเปคลูกค้าที่จำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์ต่อชั่วโมง)

แตกต่างจาก Chiron ตรงที่ Bugatti Tourbillon ทิ้งเครื่องยนต์ W16 Quad-turbo เพื่อมาใช้เครื่องยนต์ V16 ไฮบริดแบบ Naturally Aspirated ขนาด 8.3 ลิตร แต่ยังคงให้พละกำลังมหาศาลถึง 1,800 แรงม้า (1,342 kW) และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 Nm) ซึ่งช่วยให้รถคันนี้เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในสองวินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานสู่ความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์ต่อชั่วโมง) ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยชื่อของ Bugatti คุณมั่นใจได้เลยว่ารถคันนี้จะทำความเร็วได้ง่ายดายและสะดวกสบาย

เครื่องยนต์: 8.3 ลิตร V16, Naturally Aspirated (ไม่มีเทอร์โบ)
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 Nm)
ระบบเกียร์: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): N/A

Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

การแข่งขันเพื่อชิงตำแหน่งเจ้าแห่งความเร็วยังคงดำเนินอยู่ระหว่างสี่บริษัทใหญ่ (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) โดยทั้งหมดพยายามที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงในรถยนต์ที่ใช้งานบนท้องถนนได้ อาวุธของ Hennessey คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 6.6 ลิตร ที่ให้กำลัง 1,817 แรงม้า (1,355 kW)

ในขณะที่ SSC Tuatara ประสบปัญหาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับความพยายามในการทำสถิติครั้งแรก Hennessey Venom F5 ได้ทำความเร็วสูงสุดที่ 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง) อย่างเงียบๆ ในปี 2022 ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับที่ห้าตลอดกาล หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันคงจะทำความเร็วได้มากกว่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามค้นหา

ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey ผู้ก่อตั้งกล่าวว่า ปี 2024 จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ เราจะรอฟังผลลัพธ์อย่างใจจดใจจ่อ การได้ใช้สนาม Ehra-Lessien ของ Volkswagen Group คงจะเป็นฝันที่เป็นจริง!

เครื่องยนต์: 6.6 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต
ระบบเกียร์: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว CIMA 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd

Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

“วันหนึ่งผมเคยล้อเล่นว่าจะเอาเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey กล่าวกับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “แล้วผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะเป็นยังไง พอเห็นภาพวาด ผมก็หยุดหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”

“การออกแบบเครื่องยนต์กลางลำแบบ Ford GT จะทำให้มีน้ำหนักเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอยู่เหนือยางหลัง ทำให้มีการยึดเกาะถนนที่ดีขึ้น ออกแบบแรงกดอากาศเท่าที่เราต้องการเพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ในขณะเดียวกัน เราก็มีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้อัตราเร่งไม่มีใครเทียบได้ นี่คือวิธีที่แนวคิด Venom GT ถือกำเนิดขึ้น”

สิ่งที่ตามมาคือสถิติความเร็วโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ John F. Kennedy Space Center บนรันเวย์ลงจอดกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ สิ่งที่น่าสนใจคือ คุณสามารถเลือกติดตั้งระบบสเตอริโอที่ออกแบบโดย Steven Tyler แห่งวง Aerosmith ใน Hennessey Venom GT ของคุณได้

เครื่องยนต์: 7.0 ลิตร GM LS7 V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 Nm)
ระบบเกียร์: Ricardo เกียร์ธรรมดา 6 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33 Cd

Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 2.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ในฐานะรถยนต์โปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายและเร็วที่สุดในโลก ปัจจุบันถูกแซงหน้าโดยรุ่นพี่อย่าง Chiron Super Sport 300+ อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ W-16 Quad-turbo ขนาด 8.0 ลิตร ยังคงให้กำลังมหาศาลถึง 1,200 PS (882 kW) และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 Nm) ซึ่งเป็นปริมาณที่น่าทึ่งสำหรับยุคนั้น ถือเป็นมาตรฐานสำคัญในการผลักดันขีดจำกัดของวิศวกรรมยานยนต์

Veyron Super Sport ไม่เพียงแต่เป็นรถที่เร็ว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ความประณีต และเทคโนโลยีขั้นสูง มันแสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Bugatti ในการรวมประสิทธิภาพที่เหลือเชื่อเข้ากับความสบายในการขับขี่ประจำวันได้อย่างลงตัว ซึ่งเป็นปรัชญาที่สืบทอดมายังรุ่นต่อๆ ไปของแบรนด์ แม้จะถูกโค่นจากตำแหน่งสูงสุด แต่ Veyron Super Sport ยังคงเป็นตำนานที่ไม่เคยจางหายไปจากประวัติศาสตร์ของรถยนต์ความเร็วสูง

เครื่องยนต์: 8.0 ลิตร W-16, Quad-turbo
กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 Nm)
ระบบเกียร์: Ricardo อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.36 Cd (โหมดความเร็วสูงสุด)

Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Rimac Nevera คือราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้า เป็นรถที่เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้เร็วที่สุดในรายการนี้ และเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์ต่อชั่วโมง) Nevera ไม่เพียงแต่พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แต่ยังทำลายข้อจำกัดด้านความเร็วสูงสุดที่เคยเชื่อว่า EV ทำได้ยาก

Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili Nevera ได้ทะลุขีดจำกัด 250 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วยฝีมือของวิศวกร Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนแต่ละล้อ ให้กำลังรวม 1,888 แรงม้า (1,388 kW) และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm) ทำให้เป็นรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในรายการนี้!

นวัตกรรมทางเทคนิคของ Nevera ไม่ได้หยุดอยู่แค่ความเร็วเท่านั้น แต่ยังรวมถึงระบบควบคุมแรงบิดและระบบระบายความร้อนที่ซับซ้อน เพื่อให้มั่นใจว่าแบตเตอรี่และมอเตอร์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้แรงกดดันสูงสุด การออกแบบที่คำนึงถึงอากาศพลศาสตร์ยังช่วยลดแรงต้านและเพิ่มแรงกด ทำให้ Nevera ไม่เพียงแต่เร็ว แต่ยังมีความมั่นคงและปลอดภัยในทุกสภาพการขับขี่

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแม่เหล็กถาวร Carbon-sleeve แบบ Surface-mounted อิสระ 4 ตัว
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm)
ระบบเกียร์: Single-speed direct-drive transmission
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.30 Cd

รถยนต์ที่หลุดจาก 10 อันดับแรก แต่ยังคงน่าสนใจ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา มีรถยนต์หลายรุ่นที่เคยครองตำแหน่งสูงสุด แต่ถูกผลักดันให้หลุดออกจาก 10 อันดับแรกเนื่องจากเทคโนโลยีและความเร็วที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง นี่คือรถยนต์บางคันที่ยังคงเป็นตำนานและคุ้มค่าแก่การกล่าวถึง:

Koenigsegg Regera
ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้น 1.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Regera คือหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกในการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม. และมีแนวโน้มว่าจะเร็วกว่าความเร็วสูงสุด 400 กม./ชม. ที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์ไม่เคยทำการทดสอบความเร็วสูงสุดแบบเต็มที่ ทำให้มันตกอยู่ในขอบเขตของ 10 อันดับแรกแบบเฉียดฉิว เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 5.0 ลิตร ให้กำลัง 1,500 แรงม้า (1,119 kW) และแรงบิด 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 Nm) กำลังมหาศาลนี้ถูกส่งผ่านระบบเกียร์ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยลดน้ำหนักได้ 88 กก. และเชื่อมต่อเครื่องยนต์เข้ากับเพลาหลังโดยตรง ผลลัพธ์คือรถยนต์ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Rimac Nevera ถึง 0.64 วินาที ในการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม.

เครื่องยนต์: 5.0 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,500 แรงม้า (1,119 kW)
แรงบิดสูงสุด: 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 Nm)
ระบบเกียร์: Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.278 Cd

McLaren Speedtail
ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 3.0 วินาที
ราคา (รถใหม่): เริ่มต้น 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

McLaren Speedtail เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ดูดีที่สุดในรายการนี้ และยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีมูลค่าสูง เป็นที่ต้องการ และมีคุณค่ามากที่สุดอีกด้วย ความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. (250 ไมล์ต่อชั่วโมง) ของมันน่าประทับใจมาก เพราะเป็นรถที่มีพละกำลังน้อยที่สุดในรายการนี้ โดยมีกำลังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในอันดับต้นๆ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตร ให้กำลังเพียง 746 แรงม้า (556 kW) และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต (800 Nm) อย่างไรก็ตาม มันสามารถทำความเร็วที่น่าทึ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยตัวถังที่เพรียวลมและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd) ที่ต่ำเพียง 0.278 สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของอากาศพลศาสตร์ในการออกแบบรถยนต์ความเร็วสูง

เครื่องยนต์: 4.0 ลิตร V8, Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 746 แรงม้า (556 kW)
แรงบิดสูงสุด: 590 ปอนด์-ฟุต (800 Nm)
ระบบเกียร์: Graziano อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.278 Cd

ทำไมคุณควรเชื่อถือรายการนี้

แตกต่างจากรายการอื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต รายการรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกของเราไม่ได้รวบรวมโดยใช้การเคลมของผู้ผลิต และอาจดูแตกต่างออกไปเล็กน้อยเพราะเหตุนี้ เราจะไม่เพิ่มรถยนต์เข้าในรายการของเราที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ แม้ว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ถึง 330 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 531 กม./ชม.) เราจะรอจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้ว่าทำได้จริงก่อนที่เราจะเพิ่มเข้าไปในรายการ แน่นอนว่าการเพิ่มรถยนต์อย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ เข้าไปในอันดับต้นๆ ของรายการนี้อาจทำให้บางคนสงสัย เพราะลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงความเร็วสูงสุด 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์ต่อชั่วโมง) นั้นได้ อย่างไรก็ตาม รถคันนี้ได้พิสูจน์แล้วว่ามันสามารถทำได้จริงภายใต้เงื่อนไขการทดสอบที่ควบคุมอย่างเข้มงวด

เรามุ่งเน้นที่ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงและได้รับการยืนยัน เพื่อให้คุณมั่นใจว่าข้อมูลที่คุณได้รับนั้นถูกต้องและน่าเชื่อถือที่สุดในโลกของไฮเปอร์คาร์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

อนาคตแห่งความเร็วและนวัตกรรม

การเดินทางของความเร็วสูงสุดนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง และปี 2025 ได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่าขีดจำกัดที่เราเคยรู้จักนั้นกำลังถูกท้าทายและผลักดันไปไกลกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นพลังของเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างดีเยี่ยม หรือความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า แต่ละคันในรายการนี้ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความอัจฉริยะทางวิศวกรรมและความมุ่งมั่นของมนุษย์ที่จะสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน

โลกของไฮเปอร์คาร์กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน ใครจะรู้ว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเราจะได้เห็นอะไรบ้าง บางทีอาจจะมีรถยนต์ที่สามารถทะลุ 550 กม./ชม. หรือแม้กระทั่ง 600 กม./ชม. ก็เป็นได้ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ การแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าแห่งความเร็วนั้นจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น และเราพร้อมที่จะติดตามทุกความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด

คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับสุดยอดรถยนต์เหล่านี้? คันไหนคือที่สุดในใจคุณ? ร่วมแบ่งปันมุมมองและพูดคุยเรื่องราวสุดยอดความเร็วแห่งปี 2025 ไปกับเรา เพราะในโลกแห่งไฮเปอร์คาร์ ทุกรายละเอียดล้วนสำคัญ!

Previous Post

N1111193 ญญาหาเง นย งไม งจะม หน ามาขโมยอ part 2

Next Post

N1111196 ตกท กข ได ยากแต ไม อยากช วย part 2

Next Post
N1111196 ตกท กข ได ยากแต ไม อยากช วย part 2

N1111196 ตกท กข ได ยากแต ไม อยากช วย part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1111489 เป นแค แม าน ทำไมข บรถหร มาทำงาน part 2
  • N1111486 เพ อนก นเขาไม แย งแฟนก นหรอก part 2
  • N1111488 เจ าของบ านต วจร งค อใคร part 2
  • N1111490 เป นเม ยประธานบร ทำไมมาก นข าวกล องข างทาง part 2
  • N1111487 เม อสาม พาหญ งอ นข นรถ part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.