• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N1111630 คนชอบน นทา EP3 part 2

admin79 by admin79
November 11, 2025
in Uncategorized
0
N1111630 คนชอบน นทา EP3 part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 อันดับรถที่เร็วที่สุดในโลก ประจำปี 2025: ปลดล็อกขีดจำกัดแห่งความเร็ว

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์สมรรถนะสูงมานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของรถยนต์ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของความเร็วอยู่เสมอ และในยุคปี 2025 นี้ สิ่งที่เราเห็นคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากเครื่องยนต์สันดาปภายในอันเกรียงไกร สู่ยุคทองของพลังงานไฟฟ้าที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์อย่างสิ้นเชิง การครอบครองรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกสักคันในโรงจอดรถของคุณ อาจฟังดูเหมือนเป็นความท้าทายที่ไร้ขีดจำกัด เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีรันเวย์ส่วนตัว เพราะบนท้องถนนปกติ ไม่มีทางที่เราจะได้สัมผัสกับความเร็วระดับทำลายสถิติที่รถยนต์เหล่านี้สามารถทำได้ อย่างไรก็ตาม มีบางสิ่งที่น่าหลงใหลอย่างไม่อาจปฏิเสธได้เกี่ยวกับการเป็นเจ้าของรถยนต์สายพันธุ์แชมป์เปี้ยน และการขับขี่มันอย่างช้าๆ โดยที่รู้ว่ามันสามารถทำได้ทุกเมื่อที่ต้องการ บางครั้งมันก็เป็นเรื่องของสถิติ ตัวเลข และความรู้สึกที่ได้อยู่เหนือทุกสิ่ง นี่คือการสำรวจเชิงลึกถึงรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วสำหรับปี 2025

สุดยอดรถที่เร็วที่สุดในโลก 2025: ภาพรวมโดยย่อ

การจัดอันดับของเราในปีนี้เผยให้เห็นถึงดาวเด่นดวงใหม่และแชมป์เก่าที่ยังคงความเกรียงไกร:

รถที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme – แชมป์คนใหม่ที่สร้างปรากฏการณ์

รถ EV ที่เร็วที่สุดในโลก: Yangwang U9 Xtreme – ตอกย้ำความเป็นผู้นำในยุคไฟฟ้า

รถที่ทรงพลังที่สุดในรายการ: Yangwang U9 Xtreme – พลังไฟฟ้า 3,000 แรงม้าที่ไม่เคยมีมาก่อน

รถที่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เร็วที่สุด: Rimac Nevera – สุดยอดแห่งการพุ่งทะยาน

เรามาเจาะลึกรายละเอียดของแต่ละคันกันเลยดีกว่า

Yangwang U9 Xtreme

ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ

ราคา: ยังไม่มีการเปิดเผย

เราได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของความเร็วสูงสุดอย่างเป็นทางการแล้ว ด้วยการมาถึงของ Yangwang U9 Xtreme รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่สร้างประวัติศาสตร์ ด้วยพละกำลังมหาศาลกว่า 3,000 แรงม้า ที่ก้าวขึ้นมาเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.) ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในประเทศเยอรมนี มันเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง ที่แบรนด์อย่าง SSC, Koenigsegg, Hennessey และ Rimac พยายามโค่นแชมป์ Bugatti Chiron Super Sport 300+ มานานกว่าห้าปี แต่กลับกลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนัก ที่สามารถทำลายสถิติได้สำเร็จอย่างไม่คาดฝัน การมาของ U9 Xtreme ไม่เพียงแค่สร้างความฮือฮา แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงศักยภาพของเทคโนโลยีขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ก้าวข้ามข้อจำกัดเดิมๆ เป้าหมายต่อไปอย่างชัดเจนคือการทะลุ 500 กม./ชม. ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงในไม่ช้า

Yangwang U9 Xtreme ผลิตในจำนวนจำกัดเพียง 30 คัน และขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาอย่างเป็นทางการ แบรนด์ Yangwang ยังคงเดินหน้าสร้างสถิติรอบสนาม Nürburgring Nordschleife โดยสามารถทำเวลาได้ 6:59.157 นาที ซึ่งถือว่าเร็วมาก แต่ก็ยังคงห่างจากสถิติของ Porsche 911 GT3 RS (992) ที่ทำไว้ 6:44.848 นาที เมื่อเดือนตุลาคม 2022 อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ U9 Xtreme นำเสนอไม่ใช่แค่ความเร็วรอบสนาม แต่เป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของรถไฮเปอร์คาร์สมรรถนะสูง ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ซึ่งจะเขียนนิยามใหม่ของรถยนต์สมรรถนะสูงอย่างที่เราเคยรู้จัก แบรนด์นี้กำลังเร่งกระแสของตลาดรถยนต์ไฮเอนด์ที่สร้างขึ้นอย่างประณีตและเน้นผู้ขับขี่ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่ไม่สนใจประสิทธิภาพที่เข้าถึงง่ายอีกต่อไป หากคุณกำลังมองหาสุดยอดแห่งนวัตกรรมและการทำลายสถิติ นี่คือรถที่คุณต้องจับตา

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (Quad-motor electric system)

กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: ยังไม่มีข้อมูล (รุ่น U9 มาตรฐาน 1,680 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: ขับตรงด้วยไฟฟ้า (Direct-drive electric)

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Bugatti Chiron Super Sport 300+

ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.4 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 125 ล้านบาท)

Bugatti Chiron Super Sport 300+ คือรถโปรดักชั่นคันแรกที่สามารถทะลุกำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้อย่างเป็นทางการ ด้วยความเร็วสูงสุด 490.484 กม./ชม. (304.773 ไมล์/ชม.) ณ สนามทดสอบของบริษัทเอง นับเป็นความสำเร็จอันเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นได้ด้วยเครื่องยนต์ W-16 ขนาด 8.0 ลิตร สี่เทอร์โบอันทรงพลัง ที่สร้างกำลังถึง 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์) และแรงบิดมากกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูงที่ 0.35 Cd ซึ่งทำให้มันดูไม่เพรียวลมเท่าคู่แข่งอย่าง SSC Tuatara (0.279 Cd) แต่พลังอันมหาศาลก็ทำให้มันสามารถท้าทายแรงต้านได้สำเร็จ

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แม้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ จะสามารถทำความเร็วสุดขีดนี้ได้ แต่ Bugatti ได้ติดตั้งระบบจำกัดความเร็วสำหรับรถลูกค้า เช่นเดียวกับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นอื่นๆ ของแบรนด์ รวมถึงรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Tourbillon สำหรับรถที่ส่งมอบให้ลูกค้าจะถูกจำกัดความเร็วสูงสุดที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.) และทาง Bugatti ยืนยันว่าจะไม่มีการถอดระบบจำกัดความเร็วนี้ออก นี่สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาของ Bugatti ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและประสบการณ์การขับขี่โดยรวม โดยยังคงรักษาศักดิ์ศรีของการเป็นผู้บุกเบิกในโลกแห่งความเร็ว

เครื่องยนต์: W-16 สี่เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,180 ปอนด์-ฟุต

ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.35 Cd

SSC Tuatara

ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.7 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 57 ล้านบาท)

เมื่อ SSC North America ประกาศว่าไฮเปอร์คาร์ Tuatara ของพวกเขาทำความเร็วเฉลี่ยได้ 508.73 กม./ชม. (316.11 ไมล์/ชม.) บนถนนทางหลวงในทะเลทรายเนวาดา มันสร้างความตกตะลึงให้กับวงการยานยนต์ทั่วโลกทันที เพราะมันจะทำลายสถิติของ Bugatti Chiron Super Sport 300+ ได้อย่างขาดลอย และทะลุกำแพง 500 กม./ชม. ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา ข้อกล่าวอ้างนี้กลับกลายเป็นเรื่องที่ถูกกุขึ้นมาทั้งหมด

ทางแบรนด์ได้ยอมรับในโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “หากยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ เราขอรับทราบอย่างเป็นทางการว่าเราไม่ได้ทำความเร็วตามที่กล่าวอ้างในตอนแรกที่ 331 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือแม้แต่ 301 ไมล์ต่อชั่วโมงในเดือนตุลาคม 2020” โพสต์ดังกล่าวระบุว่า “ในฐานะบริษัท เรารู้สึกเสียใจอย่างแท้จริงที่ทราบว่าเราไม่สามารถบรรลุความสำเร็จนี้ได้ และเรากำลังพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างโปร่งใส เป็นทางการ และปราศจากข้อกังขา” การยอมรับนี้สร้างความผิดหวังอย่างมากในหมู่ผู้ที่ชื่นชมความเร็ว แต่ก็ยังคงได้รับการชื่นชมในความโปร่งใสและพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

แม้จะมีข้อถกเถียงในช่วงแรก แต่ SSC ก็ยังคงไม่ย่อท้อในการพิชิตสถิติโลก ความพยายามครั้งล่าสุดที่บันทึกไว้และเผยแพร่บน YouTube ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่าพวกเขาทำความเร็วได้ 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.) บนเส้นทางยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Centre สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ SSC Tuatara ยังคงเร่งความเร็วเกินกว่าที่บันทึกไว้ได้อีก หากนักขับ Larry Caplin ไม่ต้องผ่อนความเร็ว และหากรันเวย์ยาวกว่านี้ เราก็จินตนาการได้เลยว่าตัวเลขสุดท้ายจะไปหยุดอยู่ที่เท่าไหร่ สิ่งนี้ตอกย้ำถึงศักยภาพที่แท้จริงของ Tuatara ในการเป็นหนึ่งในรถที่เร็วที่สุดในโลกอย่างไม่ต้องสงสัย

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.9 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 984 ปอนด์-ฟุต (1,350 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.279 Cd

Yangwang U9 Track Edition

ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): ยังไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ

ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 8.5 ล้านบาท)

สมาชิกใหม่ล่าสุดในลิสต์รถที่เร็วที่สุดในโลกของเรา คือรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจาก BYD แบรนด์ย่อยหรูหราอย่าง YANGWANG มันคือ U9 Track Edition รถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าพลังงาน 3,000 แรงม้า พร้อมมอเตอร์สี่ตัวและระบบไฟฟ้า 1,200 โวลต์ ที่สามารถอ้างสิทธิ์อย่างเป็นทางการว่าเป็นรถยนต์ EV ที่เร็วที่สุดในโลก หลังจากทำความเร็วสูงสุดได้ 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.) ณ สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี โดยมี Marc Basseng นักขับมืออาชีพอยู่หลังพวงมาลัย

ก่อนหน้านี้ Rimac Nevera เคยครองตำแหน่งสูงสุดในหมวดหมู่ EV ด้วยความเร็ว 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.) แต่ตอนนี้สถิตินั้นได้ถูก Yangwang ทำลายลงอย่างราบคาบ การมาของ U9 Track Edition ไม่เพียงแต่แสดงถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี EV ของจีน แต่ยังเป็นการประกาศศักดาในเวทีโลกของรถยนต์สมรรถนะสูง

แม้ว่ารถ EV จะมีความสามารถในการเร่งความเร็วที่น่าทึ่ง แต่โดยปกติแล้วพวกเขามักจะประสบปัญหาในการทำความเร็วสูงสุดที่สูงมากๆ โดยไม่มีระบบเกียร์แบบเดิม แต่ YANGWANG ได้ยุติปัญหานั้นด้วยการเปิดตัวระบบมอเตอร์สี่ตัวเครื่องแรกของโลก ที่มีมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง 30,000 รอบต่อนาที ซึ่งช่วยให้รถยนต์สามารถทำความเร็วสูงสุดที่น่าเหลือเชื่อถึง 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)

การจ่ายแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวถูกควบคุมอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาที ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี “e4 Platform” ของแบรนด์ เทคโนโลยีนี้ทำงานร่วมกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X เพื่อควบคุมการปรับแนวตั้งของแต่ละล้ออย่างอิสระ และช่วยให้รถเกาะติดถนนได้อย่างมั่นคงในทุกสภาวะ การรวมกันของนวัตกรรมเหล่านี้ทำให้ Yangwang U9 Track Edition ไม่ใช่แค่รถที่เร็ว แต่ยังเป็นวิศวกรรมชิ้นเอกที่ redefine ศักยภาพของรถยนต์ไฟฟ้า

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัว (Quad-motor electric system)

กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: ยังไม่มีข้อมูล (รุ่น U9 มาตรฐาน 1,680 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: ขับตรงด้วยไฟฟ้า (Direct-drive electric)

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.27 Cd

Koenigsegg Agera RS

ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 91 ล้านบาท)

Koenigsegg Agera RS คือรถที่เร็วที่สุดอันดับสามของโลกและเป็น Koenigsegg ที่เร็วที่สุดที่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ วิดีโอที่เผยแพร่โดยแบรนด์บน YouTube แสดงให้เห็นว่ารถคันนี้ทำความเร็วสูงสุดเฉลี่ยได้ 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.) มันขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ที่ผลิตกำลัง 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์) และแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต (1280 นิวตันเมตร) ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์ของเรา

คุณอาจกำลังคิดว่า “แล้ว Koenigsegg Jesko Absolut รุ่นใหม่ที่อ้างว่าทำความเร็วได้ 330 ไมล์ต่อชั่วโมงล่ะ?” ใช่ครับ แต่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการบนพื้นฐานที่เป็นทางการ มันพิสูจน์แล้วว่าเร็วกว่า Agera RS และ Regera ในการทดสอบ 0-250 ไมล์ต่อชั่วโมง-0 แต่ทางแบรนด์ยังไม่เคยทดสอบความเร็วสูงสุดของ Jesko Absolut ในโลกแห่งความเป็นจริง อย่างไรก็ตาม นี่คงเป็นภารกิจของ Christian von Koenigsegg ผู้ก่อตั้งอย่างแน่นอน

เช่นเดียวกับรถยนต์หลายคันในลิสต์นี้ เหตุผลหลักที่เรายังไม่เห็น Jesko Absolut ทำความเร็วสูงสุดนั้นเป็นเพราะมีถนนเพียงไม่กี่แห่งบนโลกที่ยาวพอสำหรับการทดสอบส่วนใหญ่เป็นถนนสาธารณะ หรือไม่ก็เป็นกรรมสิทธิ์ของ Volkswagen Group (Bugatti) ซึ่งไม่ยินยอมให้ใครใช้สนามทดสอบของพวกเขา เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการทำลายสถิติโลก ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่การสร้างรถยนต์ที่เร็ว แต่ยังรวมถึงการเข้าถึงสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการพิสูจน์ความเร็วเหล่านั้น

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 940 ปอนด์-ฟุต (1280 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Tourbillon

ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) พร้อม Speed Key

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.0 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 143 ล้านบาท)

Bugatti Chiron Super Sport 300+ อาจเป็นรถ Bugatti ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีการทดสอบ แต่ Bugatti Tourbillon คือรถ Bugatti ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงความเร็วสูงสุดได้จริง ด้วยความเร็วสูงสุด 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) เมื่อใช้ Speed Key ซึ่งเร็วกว่า Chiron 300+ ในเวอร์ชันลูกค้าที่ถูกจำกัดความเร็วไว้ที่ 440 กม./ชม. (273 ไมล์/ชม.) สิ่งนี้ทำให้ Tourbillon กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ความเร็วสูงสุดจาก Bugatti โดยตรง

แตกต่างจาก Chiron ตรงที่ Bugatti Tourbillon ได้ละทิ้งเครื่องยนต์ W16 สี่เทอร์โบอันเป็นเอกลักษณ์ และหันมาใช้เครื่องยนต์ V16 ไฮบริดแบบไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 8.3 ลิตร อย่างไรก็ตาม มันยังคงสร้างกำลังมหาศาลถึง 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 นิวตันเมตร) ซึ่งช่วยให้มันเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียงสองวินาที ก่อนที่จะพุ่งทะยานไปสู่ความเร็วสูงสุดอันน่าทึ่งที่ 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) และด้วยความเป็น Bugatti คุณรู้ดีว่ามันสามารถทำได้อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย นี่คือสุดยอดแห่งวิศวกรรมยานยนต์ที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะที่ไม่มีใครเทียบได้

เครื่องยนต์: V16 ไร้ระบบอัดอากาศ ขนาด 8.3 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1464 ปอนด์-ฟุต (1985 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: ยังไม่มีข้อมูล

Hennessey Venom F5

ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.6 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 57 ล้านบาท)

เช่นเดียวกับการแข่งขันอวกาศ การช่วงชิงตำแหน่งรถที่เร็วที่สุดในโลกยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดระหว่างสี่บริษัทหลัก (Bugatti, Hennessey, SSC และ Koenigsegg) พวกเขาทั้งหมดกำลังพยายามที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงด้วยรถยนต์ที่ถูกกฎหมายบนท้องถนน และอาวุธที่ Hennessey เลือกใช้คือ Venom F5 ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร ที่ผลิตกำลัง 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)

ในขณะที่ SSC Tuatara ต้องเผชิญกับข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการพยายามทำลายสถิติในครั้งแรก Hennessey Venom F5 ได้ทำความเร็วสูงสุด 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.) อย่างเงียบๆ ในปี 2022 ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งให้เป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับห้าตลอดกาล หากมีรันเวย์ที่ยาวกว่านี้ มันคงทำความเร็วได้เร็วกว่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ John Hennessey ผู้ก่อตั้งกำลังพยายามหาอยู่

ในการอัปเดตล่าสุดบน YouTube John Hennessey ผู้ก่อตั้งกล่าวว่า ปี 2024 จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเราจะรอดูผลอย่างใจจดใจจ่อ นี่คือความมุ่งมั่นที่ไม่หยุดยั้งของ Hennessey ในการผลักดันขีดจำกัดของความเร็วแบบอเมริกันแท้ๆ

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 6.6 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1193 ปอนด์-ฟุต

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดาอัตโนมัติคลัตช์เดี่ยว 7 สปีด CIMA

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Hennessey Venom GT

ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 50 ล้านบาท)

“วันหนึ่งผมล้อเล่นเรื่องการนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige” John Hennessey กล่าวกับ Road and Track เกี่ยวกับแนวคิดเบื้องหลัง Hennessey Venom GT “จากนั้นผมก็คิดว่า ลองวาดภาพดูสิว่ามันจะเป็นอย่างไร เมื่อผมเห็นภาพร่าง ผมก็หยุดหัวเราะและเริ่มคิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับแนวคิดนี้”

“การออกแบบเครื่องยนต์วางกลางแบบเดียวกับ Ford GT จะวางน้ำหนักของมอเตอร์และระบบส่งกำลังไว้เหนือยางหลัง ทำให้ได้การยึดเกาะที่ดีขึ้น ออกแบบแรงกดอากาศให้มากที่สุดเท่าที่เราต้องการ เพื่อให้รถมีการควบคุมเหมือนรถโกคาร์ทบนถนนหรือสนามแข่ง ในขณะเดียวกัน เรายังมีรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ทำให้มีการเร่งความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้ นี่คือจุดกำเนิดของแนวคิด Venom GT”

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือสถิติความเร็วโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่ง ซึ่งตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 ที่ศูนย์อวกาศ John F. Kennedy บนรันเวย์ลงจอดของกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ สิ่งที่น่าสนใจคือ คุณสามารถเลือกติดตั้งระบบเสียงที่ออกแบบโดย Steven Tyler แห่งวง Aerosmith ใน Hennessey Venom GT ของคุณได้ นี่คือรถที่แสดงถึงการผสมผสานที่บ้าคลั่งระหว่างวิศวกรรมความเร็วและบุคลิกที่ไม่เหมือนใคร

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ GM LS7 ขนาด 7.0 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,155 ปอนด์-ฟุต (1,566 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ธรรมดา Ricardo 6 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.33 Cd

Bugatti Veyron Super Sport

ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.5 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 86 ล้านบาท)

เมื่อเปิดตัวในปี 2010 Bugatti Veyron Super Sport ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records ว่าเป็นรถโปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายบนท้องถนนที่เร็วที่สุดในโลก ปัจจุบันมันถูกแซงหน้าโดยน้องชายอย่าง Chiron Super Sport 300+ อย่างไรก็ตาม เครื่องยนต์ W-16 สี่เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร ของมันยังคงผลิตกำลังมหาศาลถึง 1,200 PS (882 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร) ซึ่งเป็นปริมาณที่น่าทึ่งสำหรับยุคนั้น

Veyron Super Sport ไม่เพียงเป็นรถที่เร็ว แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นยุคใหม่ของไฮเปอร์คาร์ ที่ผสมผสานความเร็วที่บ้าคลั่งเข้ากับความหรูหราที่ประณีต มันได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม และยังคงเป็นที่จดจำในฐานะหนึ่งในรถยนต์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์ มันแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญทางวิศวกรรมของ Bugatti ที่ไม่หยุดยั้งในการผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่รถยนต์สามารถทำได้

เครื่องยนต์: W-16 สี่เทอร์โบ ขนาด 8.0 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,106 ปอนด์-ฟุต (1,500 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติคลัตช์คู่ Ricardo 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.36 Cd (ในโหมดความเร็วสูงสุด)

Rimac Nevera

ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 1.8 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 107 ล้านบาท)

Rimac Nevera คือราชาแห่งรถยนต์ไฟฟ้า เป็นรถที่มีอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. เร็วที่สุดในลิสต์นี้ และเป็นหนึ่งในรถที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุด 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.) แม้ว่าตำแหน่ง EV ที่เร็วที่สุดจะถูก Yangwang U9 Xtreme แย่งไปแล้ว แต่ Nevera ก็ยังคงเป็นตัวแทนของความสามารถอันน่าทึ่งของพลังงานไฟฟ้า

Rimac ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 โดย Mate Rimac และปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ซึ่งรวมทั้ง Bugatti Automobiles และ Rimac Automobili อย่างไรก็ตาม Nevera สามารถทะลุกำแพง 250 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ด้วยฝีมือของวิศวกร Rimac ก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท พวกเขาได้ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวบนแต่ละล้อ ทำให้มีกำลังรวมสูงสุดถึง 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์) และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร) ซึ่งทำให้มันเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์นี้ด้วยเช่นกัน Rimac Nevera ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้าที่เร็ว แต่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงวิสัยทัศน์ของ Mate Rimac ในการสร้างอนาคตของยานยนต์สมรรถนะสูง

ระบบขับเคลื่อน: มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวรหุ้มคาร์บอน 4 ตัว อิสระ

กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: เกียร์ขับตรงความเร็วเดียว (Single-speed direct-drive transmission)

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.30 Cd

รถยนต์ที่หลุดจาก 10 อันดับแรก

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์หลายคันที่เคยเป็นแชมป์หรือใกล้เคียงกับตำแหน่งสูงสุด ได้ถูกผลักดันออกไปจากลิสต์ 10 อันดับแรกของเรา เนื่องจากการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่และความเร็วที่ก้าวล้ำขึ้นอย่างต่อเนื่อง รถเหล่านี้ยังคงเป็นวิศวกรรมที่น่าทึ่งและสร้างประวัติศาสตร์ แต่ตลาดความเร็วก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

Koenigsegg Regera

ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.8 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 68 ล้านบาท)

หนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกในการทดสอบ 0-400-0 กม./ชม. Koenigsegg Regera อาจจะเร็วกว่าความเร็วสูงสุด 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.) ที่ถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ แต่ทางแบรนด์ยังไม่เคยทดสอบมันอย่างเป็นทางการ ทำให้มันแทบจะหลุดออกจาก 10 อันดับแรกของรถที่เร็วที่สุดในโลกไปแล้ว

เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร ผลิตกำลัง 1,500 แรงม้า (1,119 กิโลวัตต์) และแรงบิด 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร) กำลังนี้ถูกส่งผ่านระบบเกียร์ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งช่วยประหยัดน้ำหนักได้ 88 กก. และเชื่อมโยงเครื่องยนต์โดยตรงกับเพลาล้อหลังผ่านคลัตช์ไฮดรอลิก ผลลัพธ์คือรถยนต์ที่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Rimac Nevera ถึง 0.64 วินาที Regera คือการแสดงออกถึงความกล้าหาญทางวิศวกรรมของ Koenigsegg ในการสร้างสรรค์สิ่งที่แตกต่างออกไปจากระบบเกียร์แบบดั้งเดิม และยังคงเป็นหนึ่งในไฮเปอร์คาร์ที่น่าจดจำที่สุด

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 5.0 ลิตร

กำลังสูงสุด: 1,500 แรงม้า (1,119 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 944 ปอนด์-ฟุต (1,280 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD)

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.278 Cd

McLaren Speedtail

ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.)

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 3.0 วินาที

ราคา: เริ่มต้นที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 71 ล้านบาท)

หนึ่งในรถยนต์ที่สวยงามที่สุดในลิสต์ของเรา McLaren Speedtail ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีมูลค่าสูง เป็นที่ต้องการ และมีคุณค่ามากที่สุดอีกด้วย ความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.) ของมันน่าประทับใจมาก เพราะเป็นรถยนต์ที่มีกำลังน้อยที่สุดในลิสต์นี้ โดยมีกำลังน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ส่วนใหญ่ที่อยู่ในอันดับแรกๆ เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ของมันผลิตกำลังเพียง 746 แรงม้า (556 กิโลวัตต์) และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต (800 นิวตันเมตร) เท่านั้น แต่ก็สามารถทำความเร็วที่น่าทึ่งนี้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยตัวถังที่เพรียวลมและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.278 Cd Speedtail ไม่ใช่แค่รถยนต์ที่เร็ว แต่เป็นงานศิลปะที่เคลื่อนไหวได้ ซึ่งเน้นย้ำถึงปรัชญาของ McLaren ในการสร้างรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสุนทรียภาพและวิศวกรรมอากาศพลศาสตร์

เครื่องยนต์: V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร

กำลังสูงสุด: 746 แรงม้า (556 กิโลวัตต์)

แรงบิดสูงสุด: 590 ปอนด์-ฟุต (800 นิวตันเมตร)

ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติคลัตช์คู่ Graziano 7 สปีด

ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ: 0.278 Cd

เหตุผลที่คุณควรเชื่อถือลิสต์นี้

แตกต่างจากลิสต์อื่นๆ บนอินเทอร์เน็ต ลิสต์รถที่เร็วที่สุดในโลกของเราไม่ได้รวบรวมจากคำกล่าวอ้างของผู้ผลิต และอาจดูแตกต่างออกไปเล็กน้อยด้วยเหตุผลนี้ เราไม่เพิ่มรถยนต์ในลิสต์ของเราที่ยังไม่ได้รับการทดสอบอย่างเป็นทางการ แม้ว่าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Koenigsegg จะอ้างว่า Jesko Absolut รุ่นใหม่ของพวกเขาสามารถทำความเร็วได้ 330 ไมล์ต่อชั่วโมง เราจะรอจนกว่าพวกเขาจะพิสูจน์ได้ว่าทำได้จริง ก่อนที่เราจะเพิ่มลงในลิสต์ แน่นอนว่าการเพิ่มรถยนต์อย่าง Bugatti Chiron Super Sport 300+ เข้าไปในอันดับต้นๆ ของลิสต์นี้อาจทำให้บางคนแปลกใจ เพราะลูกค้าไม่ได้รับอนุญาตให้ทำความเร็วสูงสุดที่ 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.) อย่างไรก็ตาม มันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้จริง นี่คือหลักการสำคัญของเราในการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่สุดในโลกของไฮเปอร์คาร์ความเร็วสูง

อนาคตแห่งความเร็วและนวัตกรรม

จากที่ได้เห็นตลอดทศวรรษที่ผ่านมา และแนวโน้มของปี 2025 นี้ สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือการแข่งขันเพื่อเป็นเจ้าแห่งความเร็วไม่มีวันหยุดนิ่ง จากมหาอำนาจเครื่องยนต์สันดาปภายใน สู่ยุคทองของพลังงานไฟฟ้าที่เข้ามาเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นไปได้มากขึ้นกว่าเดิม รถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่แค่เครื่องจักรที่เร็ว แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของมนุษย์ ความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัด และการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี นวัตกรรม และความหลงใหลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าอนาคตจะนำพาอะไรมาสู่โลกของไฮเปอร์คาร์ มันจะเป็นการพัฒนาแบตเตอรี่ที่ปฏิวัติวงการ หรือจะเป็นการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่ไร้ที่ติอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่รับประกันได้คือความเร็วจะยังคงเป็นแรงผลักดันที่สำคัญที่สุด

คุณคิดว่ารถคันไหนจะทำลายสถิติใหม่ในปีถัดไป? หรือมีรุ่นใดที่คุณมองว่าคือที่สุดแห่งยุค? มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาและแบ่งปันความคิดเห็นของคุณในโลกอันน่าหลงใหลของยานยนต์สมรรถนะสูงกันนะครับ!

10 อันดับรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก: เจาะลึกสุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2025 ที่คุณต้องรู้

ในโลกที่ความเร็วเป็นเสมือนหัวใจของนวัตกรรมยานยนต์ ความหลงใหลในการทำลายขีดจำกัดของมนุษย์ได้ถูกหล่อหลอมรวมเป็นสุดยอดงานวิศวกรรมที่เรียกว่า “ไฮเปอร์คาร์” ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เฝ้าติดตามการแข่งขันอันดุเดือดนี้อย่างใกล้ชิด และปี 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่ง เพราะเรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเข้ามาท้าทายบัลลังก์ของเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ครองตำแหน่งมาอย่างยาวนาน

การมีรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลกสักคันจอดอยู่ในโรงรถ อาจเป็นความฝันที่คนส่วนใหญ่อยากสัมผัส แต่ในความเป็นจริง การจะปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของรถยนต์เหล่านี้ทำได้เพียงไม่กี่แห่งบนโลกใบนี้ นั่นคือสนามทดสอบพิเศษที่มีรันเวย์ยาวเหยียดเท่านั้น ทุกคันในลิสต์นี้สามารถทำความเร็วได้เกิน 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่จะมีสักกี่คนที่ได้สัมผัสความรู้สึกนั้นจริงๆ? บางครั้งมันไม่ใช่แค่เรื่องของการได้ขับด้วยความเร็วสูงสุด แต่เป็นการได้ครอบครองงานศิลปะทางวิศวกรรมที่แสดงถึงขีดสุดของสมรรถนะและความสามารถ และนี่คือการจัดอันดับที่อ้างอิงจาก “ความเร็วสูงสุดที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว” อย่างเป็นทางการเท่านั้น ไม่ใช่เพียงแค่คำกล่าวอ้างของผู้ผลิตที่ยังไม่ผ่านการทดสอบจริง เรามาดูกันว่าในปี 2025 นี้ สุดยอดไฮเปอร์คาร์คันใดบ้างที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารแห่งความเร็ว

ยุคใหม่ของความเร็ว: การเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามองในปี 2025

ปี 2025 เป็นปีที่โลกยานยนต์เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในกลุ่มรถสมรรถนะสูง ความพยายามในการก้าวข้ามกำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 480 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) ยังคงเป็นเป้าหมายสูงสุดที่ผู้ผลิตหลายรายพยายามไปให้ถึง แต่ที่น่าสนใจคือ การปรากฏตัวของผู้เล่นหน้าใหม่และเทคโนโลยีที่พลิกโฉม ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการแข่งขันนี้

การปฏิวัติโดยรถยนต์ไฟฟ้า (EV): ในอดีต รถยนต์ไฟฟ้ามักถูกมองว่ามีข้อจำกัดเรื่องความเร็วปลาย แต่ด้วยนวัตกรรมยานยนต์และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าที่ก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดด ทำให้ EV สมรรถนะสูงเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ แรงบิดมหาศาลที่มาอย่างทันทีทันใดของมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้การเร่งความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเกิดขึ้นได้ในเวลาเพียงชั่วพริบตา อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ที่การรักษากำลังและความเร็วปลายที่สูงเป็นเวลานาน ซึ่งแตกต่างจากเครื่องยนต์สันดาปที่มีเกียร์ช่วยจัดการพลังงาน แต่ด้วยการพัฒนาแบตเตอรี่ ระบบจัดการพลังงาน และมอเตอร์รอบสูง ทำให้ EV อย่าง Yangwang U9 Xtreme สามารถทำลายสถิติได้อย่างน่าทึ่ง

วิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูงสุด: ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ซับซ้อนอย่าง W16 หรือระบบ Quad-motor ใน EV ทุกคันบนลิสต์นี้ล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกของวิศวกรรมยานยนต์ขั้นสูง การออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่พิถีพิถัน วัสดุน้ำหนักเบาที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ไปจนถึงระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (เช่น DiSus-X ของ Yangwang) ล้วนมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มสมรรถนะ ลดแรงต้านอากาศ และรักษาเสถียรภาพที่ความเร็วสูง ความเข้าใจในขีดจำกัดของฟิสิกส์และการผลักดันขอบเขตนั้นให้ไกลที่สุดคือหัวใจสำคัญ

สนามทดสอบและความน่าเชื่อถือ: ในโลกของไฮเปอร์คาร์ “คำกล่าวอ้าง” ไม่ใช่ “ความจริง” การจัดอันดับของเราจึงเน้นย้ำถึงความเร็วที่ “ได้รับการพิสูจน์แล้ว” ในสนามทดสอบมาตรฐานระดับโลกอย่าง ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี หรือ Johnny Bohmer Proving Grounds ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีรันเวย์ที่ยาวเพียงพอต่อการทำความเร็วสูงสุด การที่ผู้ผลิตหลายรายไม่สามารถทดสอบความเร็วสูงสุดของรถบางรุ่นได้นั้น ไม่ได้หมายความว่ารถคันนั้นทำไม่ได้ แต่อาจเป็นเพราะข้อจำกัดของสถานที่ทดสอบหรือความพร้อมของรถในการทำลายสถิติอย่างเป็นทางการ

มูลค่าการลงทุนและตลาดรถยนต์พรีเมียม: ไฮเปอร์คาร์เหล่านี้เป็นมากกว่าพาหนะ แต่เป็นของสะสมและสัญลักษณ์สถานะที่มีมูลค่าการลงทุนสูง การผลิตจำนวนจำกัดทำให้รถเหล่านี้เป็นที่ต้องการในตลาดรถยนต์พรีเมียม ซึ่งผู้ซื้อไม่ได้มองแค่ตัวเลขสมรรถนะ แต่ยังรวมถึงความพิเศษเฉพาะตัว ประวัติศาสตร์แบรนด์ และประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร

สุดยอดไฮเปอร์คาร์แห่งปี 2025: 10 อันดับที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

Yangwang U9 Xtreme
ความเร็วสูงสุด: 496.22 กม./ชม. (308.34 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A
ราคา: N/A
ระบบส่งกำลัง: ระบบไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 3,027 แรงม้า (2,226 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27

ปี 2025 เป็นปีที่ประวัติศาสตร์วงการยานยนต์ต้องจารึกชื่อ Yangwang U9 Xtreme ไว้ในฐานะ “รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก” ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ด้วยตัวเลขความเร็วสูงสุดอันน่าทึ่งที่ 496.22 กม./ชม. ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg ในเยอรมนี ไฮเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้าสัญชาติจีนคันนี้ได้สร้างความตกตะลึงให้กับอุตสาหกรรม การปรากฏตัวของมันเปรียบเสมือนการประกาศศักดาว่ายุคของ EV สมรรถนะสูงได้มาถึงแล้ว และมันสามารถโค่นยักษ์ใหญ่แห่งความเร็วอย่าง Bugatti, SSC และ Koenigsegg ลงได้สำเร็จ การที่รถยนต์ไฟฟ้าที่มาพร้อมกำลังมหาศาลกว่า 3,000 แรงม้าสามารถทำความเร็วได้ใกล้เคียง 500 กม./ชม. นั้น ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าจับตาอย่างยิ่ง นอกจากสถิติความเร็วปลายแล้ว Yangwang U9 Xtreme ยังได้พิสูจน์ศักยภาพในสนามแข่งด้วยเวลาต่อรอบ Nürburgring Nordschleife ที่ 6:59.157 นาที ซึ่งบ่งชี้ถึงการเป็นแพ็กเกจสมบูรณ์แบบทั้งความเร็วทางตรงและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม มันได้เข้ามาเขียนนิยามใหม่ของซูเปอร์คาร์สมรรถนะสูง และเร่งให้ตลาดไฮเปอร์คาร์ที่เน้นประสบการณ์การขับขี่และการสร้างสรรค์เฉพาะตัวเติบโตอย่างรวดเร็ว

Bugatti Chiron Super Sport 300+
ความเร็วสูงสุด: 490.48 กม./ชม. (304.77 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.4 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: W16 8.0 ลิตร Quad-turbo
กำลังสูงสุด: 1,578 แรงม้า (1,160 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.35

Bugatti Chiron Super Sport 300+ ยังคงเป็นตำนานผู้บุกเบิกที่ได้รับการยกย่องตลอดมา เพราะเป็นรถโปรดักชั่นคันแรกที่สามารถทำลายกำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมงได้อย่างเป็นทางการ ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 490.484 กม./ชม. บนสนามทดสอบของบริษัทในปี 2019 ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากเครื่องยนต์ W16 8.0 ลิตร Quad-turbo อันทรงพลัง ที่ให้กำลังมหาศาลถึง 1,578 แรงม้า และแรงบิดมากกว่า 1,180 ปอนด์-ฟุต แม้จะมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ค่อนข้างสูง (0.35 Cd) แต่ด้วยวิศวกรรมอันเป็นเลิศของ Bugatti ก็ยังสามารถผลักดันให้รถคันนี้ไปถึงจุดสูงสุดได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับรถที่ผลิตจำหน่ายให้กับลูกค้านั้น Bugatti ได้จำกัดความเร็วสูงสุดไว้ที่ 273 ไมล์ต่อชั่วโมง (440 กม./ชม.) เพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานของยาง รวมถึงระบบต่างๆ แต่สิ่งที่สำคัญคือ Bugatti ได้ “พิสูจน์แล้ว” ว่ารถคันนี้มีความสามารถในการทำความเร็วระดับโลกได้อย่างแท้จริง ทำให้มันยังคงเป็น benchmark ที่ไฮเปอร์คาร์อื่นๆ ต้องพยายามก้าวข้าม

SSC Tuatara
ความเร็วสูงสุด: 475 กม./ชม. (295 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.7 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V8 5.9 ลิตร Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,750 แรงม้า (1,300 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.279

SSC Tuatara เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงที่ยืนหยัดพิสูจน์ตนเองอย่างไม่ลดละ หลังจากเกิดข้อถกเถียงเรื่องสถิติความเร็วที่เคยกล่าวอ้างไว้ในปี 2020 ซึ่งภายหลังได้รับการยอมรับว่าไม่ถูกต้อง SSC North America ก็มุ่งมั่นที่จะทำลายกำแพง 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างโปร่งใสและเป็นทางการ การพยายามครั้งล่าสุดที่บันทึกไว้ในเดือนพฤษภาคม 2022 แสดงให้เห็นว่า Tuatara สามารถทำความเร็วได้ 295 ไมล์ต่อชั่วโมง (475 กม./ชม.) บนรันเวย์ยาว 2.3 ไมล์ที่ Johnny Bohmer Proving Grounds ณ ศูนย์อวกาศ Kennedy Space Centre สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือ Larry Caplin ลูกค้าผู้ขับในครั้งนั้นยังคงเร่งความเร็วต่อไปได้อีก หากรันเวย์มีความยาวมากกว่านี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยังซ่อนอยู่ ไฮเปอร์คาร์คันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 5.9 ลิตร Twin-turbo ที่ผลิตกำลัง 1,750 แรงม้า และโดดเด่นด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำมากเพียง 0.279 Cd ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเร็วสูงสุด การเดินทางของ SSC Tuatara เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นและความหลงใหลในความเร็วที่ไม่มีวันสิ้นสุดของทีมวิศวกรและผู้ก่อตั้ง

Yangwang U9 Track Edition
ความเร็วสูงสุด: 472.41 กม./ชม. (293.54 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): N/A
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.68 ล้านหยวน (ประมาณ 358,595 ดอลลาร์ออสเตรเลีย)
ระบบส่งกำลัง: ระบบไฟฟ้า Quad-motor
กำลังสูงสุด: 2,977 แรงม้า (2,220 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.27

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจจากแบรนด์ย่อยสุดหรูของ BYD อย่าง YANGWANG คือ U9 Track Edition ซึ่งได้สร้างนิยามใหม่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงในสนามแข่ง ก่อนหน้าที่ U9 Xtreme จะมาทำลายสถิติโดยรวม U9 Track Edition เคยครองตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก โดยทำความเร็วสูงสุดได้ 472.41 กม./ชม. ที่สนามทดสอบ ATP Automotive Testing Papenburg โดย Marc Basseng นักขับมืออาชีพ ความสำเร็จนี้เป็นการพิสูจน์ว่ารถยนต์ไฟฟ้าไม่ได้มีดีแค่การเร่งความเร็วจากจุดหยุดนิ่งเท่านั้น แต่ยังสามารถทำความเร็วปลายได้อย่างน่าทึ่งอีกด้วย หัวใจสำคัญของ U9 Track Edition คือระบบ Quad-motor ที่ล้ำสมัย ซึ่งมาพร้อมมอเตอร์สมรรถนะสูงที่ทำรอบได้ถึง 30,000 รอบต่อนาที การควบคุมแรงบิดของมอเตอร์แต่ละตัวอย่างอิสระ 100 ครั้งต่อวินาทีผ่านเทคโนโลยี “e4 Platform” ผสานกับระบบควบคุมตัวถังอัจฉริยะ DiSus-X ที่สามารถปรับการตั้งค่าของแต่ละล้อได้อย่างอิสระ ทำให้รถคันนี้ยังคงยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นคงและมีเสถียรภาพสูงสุดแม้ในความเร็วที่สูงลิ่ว นี่คือยานยนต์แห่งอนาคตที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของเทคโนโลยี EV

Koenigsegg Agera RS
ความเร็วสูงสุด: 446.97 กม./ชม. (277.87 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.55 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V8 5.0 ลิตร Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,176 แรงม้า (865 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33

Koenigsegg Agera RS จากสวีเดนยังคงเป็นหนึ่งในไฮเปอร์คาร์ที่เร็วที่สุดในโลกที่ได้รับการทดสอบและพิสูจน์แล้วอย่างเป็นทางการ ด้วยความเร็วสูงสุดเฉลี่ยที่ 446.97 กม./ชม. ที่ถูกบันทึกไว้ในวิดีโอของแบรนด์ Koenigsegg ขึ้นชื่อเรื่องปรัชญาการสร้างรถที่เน้นประสิทธิภาพสูงสุดและน้ำหนักเบา เครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร Twin-turbo ของ Agera RS ให้กำลัง 1,176 แรงม้า พร้อมแรงบิด 940 ปอนด์-ฟุต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในบรรดารถบนลิสต์นี้ หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับ Koenigsegg Jesko Absolut ที่กล่าวอ้างว่าจะทำความเร็วได้ถึง 330 ไมล์ต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตาม เรายังคงยึดหลักการที่ว่า “ต้องได้รับการพิสูจน์แล้ว” ก่อนที่จะถูกจัดอันดับอย่างเป็นทางการ ข้อจำกัดในการหาสนามทดสอบที่ยาวเพียงพอในโลกนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้รถหลายคันยังไม่สามารถแสดงศักยภาพสูงสุดของตัวเองได้ แต่สำหรับ Agera RS มันได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นหนึ่งในยานยนต์ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา

Bugatti Tourbillon
ความเร็วสูงสุด: 445 กม./ชม. (276 ไมล์/ชม.) พร้อม Speed Key
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.0 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V16 8.3 ลิตร Naturally Aspirated (ไฮบริด)
กำลังสูงสุด: 1,800 แรงม้า (1,342 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,464 ปอนด์-ฟุต (1,985 Nm)
ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่ 8 สปีด

Bugatti Tourbillon คืออนาคตของ Bugatti ที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ด้วยการละทิ้งเครื่องยนต์ W16 Quad-turbo อันเป็นเอกลักษณ์ และหันมาใช้ระบบไฮบริด V16 8.3 ลิตร แบบ Naturally Aspirated (ไม่มีเทอร์โบ) แทน แต่ยังคงรักษาสมรรถนะอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ได้อย่างครบถ้วน รถคันนี้ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 1,800 แรงม้า พร้อมแรงบิด 1,464 ปอนด์-ฟุต ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจอย่างยิ่ง มันสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 276 ไมล์ต่อชั่วโมง (445 กม./ชม.) เมื่อใช้ Speed Key ซึ่งนับว่าเร็วกว่า Chiron Super Sport 300+ ในสเปกที่ลูกค้าสามารถใช้งานได้ (ซึ่งจำกัดไว้ที่ 273 ไมล์/ชม.) Tourbillon ไม่เพียงแต่เป็นรถที่เร็ว แต่ยังคงปรัชญาของ Bugatti ในด้านความหรูหรา งานฝีมือ และความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้ การมาถึงของ Tourbillon ในปี 2025 เป็นการประกาศว่า Bugatti พร้อมแล้วที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของไฮเปอร์คาร์ไฮบริดอย่างเต็มตัว และยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับให้กับลูกค้าผู้ทรงเกียรติ

Hennessey Venom F5
ความเร็วสูงสุด: 437 กม./ชม. (271.6 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.6 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: V8 6.6 ลิตร Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,817 แรงม้า (1,355 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33

Hennessey Venom F5 คืออาวุธสำคัญจากค่าย Hennessey Performance ของสหรัฐอเมริกา ในการไล่ล่ากำแพงความเร็ว 300 ไมล์ต่อชั่วโมง รถคันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 6.6 ลิตร Twin-turbo ที่ให้กำลังมหาศาลถึง 1,817 แรงม้า ในปี 2022 Venom F5 ได้ทำความเร็วสูงสุดที่ 271.6 ไมล์ต่อชั่วโมง (437 กม./ชม.) อย่างเงียบๆ และได้รับการบันทึกว่าเป็นรถยนต์ที่เร็วที่สุดอันดับที่ 7 ในเวลานั้น John Hennessey ผู้ก่อตั้ง ได้ประกาศผ่าน YouTube ว่าปี 2024 (ซึ่งเป็นช่วงเวลาอ้างอิงของบทความนี้) จะเป็นปีที่ Venom F5 จะพยายามทำลายสถิติ 300 ไมล์ต่อชั่วโมงอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นที่จับตาอย่างใกล้ชิดจากทั่วโลก หาก Hennessey สามารถหาสนามทดสอบที่ยาวและเหมาะสมได้ ก็เชื่อว่า Venom F5 มีศักยภาพที่จะทำความเร็วได้เหนือกว่านี้ นี่คือไฮเปอร์คาร์ที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความดิบของวิศวกรรมแบบอเมริกัน ที่พร้อมจะท้าทายขีดจำกัดของความเร็วอยู่เสมอ

Hennessey Venom GT
ความเร็วสูงสุด: 435.31 กม./ชม. (270.49 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.9 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: GM LS7 V8 7.0 ลิตร Twin-turbo
กำลังสูงสุด: 1,244 แรงม้า (928 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.33

Hennessey Venom GT คือจุดเริ่มต้นของตำนานความเร็วจาก Hennessey และเป็นบทพิสูจน์ถึงแนวคิดที่กล้าหาญของ John Hennessey รถคันนี้ถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดสุดบ้าระห่ำที่จะนำเครื่องยนต์ Venom 1000 Twin Turbo (จาก Viper) ไปใส่ไว้ด้านหลังของ Lotus Exige ซึ่งนำไปสู่การสร้างรถที่มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และให้การเร่งความเร็วที่เหนือชั้น ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2014 Venom GT ได้สร้างสถิติโลกใหม่สำหรับรถสปอร์ตสองที่นั่งที่เร็วที่สุด ด้วยความเร็ว 270.49 ไมล์ต่อชั่วโมง (435.31 กม./ชม.) บนรันเวย์สำหรับกระสวยอวกาศยาว 3.2 ไมล์ ที่ John F. Kennedy Space Centre ความสำเร็จนี้ไม่เพียงแต่ตอกย้ำชื่อเสียงของ Hennessey ในฐานะผู้สร้างรถที่เร็วที่สุดเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความกล้าที่จะคิดนอกกรอบ และผลักดันวิศวกรรมยานยนต์ไปสู่ขีดจำกัดใหม่

Bugatti Veyron Super Sport
ความเร็วสูงสุด: 431.072 กม./ชม. (267.856 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.5 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 2.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เครื่องยนต์: W16 8.0 ลิตร Quad-turbo
กำลังสูงสุด: 1,200 PS (882 kW)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.36 (ในโหมดความเร็วสูงสุด)

Bugatti Veyron Super Sport คือผู้ริเริ่มยุคสมัยแห่งไฮเปอร์คาร์ที่สามารถทำความเร็วได้เกิน 400 กม./ชม. อย่างเป็นทางการ เมื่อเปิดตัวในปี 2010 มันได้รับการยอมรับจาก Guinness World Records ในฐานะรถโปรดักชั่นที่ถูกกฎหมายและเร็วที่สุดในโลก แม้ปัจจุบันจะถูกโค่นบัลลังก์โดย Chiron Super Sport 300+ ผู้เป็นทายาท แต่ Veyron Super Sport ยังคงเป็นสัญลักษณ์แห่งวิศวกรรมยานยนต์อันยิ่งใหญ่ เครื่องยนต์ W16 8.0 ลิตร Quad-turbo ที่ให้กำลัง 1,200 PS และแรงบิด 1,106 ปอนด์-ฟุต ถือเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งอย่างยิ่งสำหรับยุคสมัยนั้น และเป็นรากฐานสำคัญที่ปูทางไปสู่ความสำเร็จของ Bugatti ในการสร้างรถที่เร็วที่สุดในโลกต่อไปในอนาคต Veyron Super Sport ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นงานศิลปะแห่งความเร็วที่ผสมผสานความหรูหราเข้ากับสมรรถนะที่ไม่มีใครเทียบได้ และเป็นหนึ่งในรถที่กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมไฮเปอร์คาร์มาจนถึงปัจจุบัน

Rimac Nevera
ความเร็วสูงสุด: 412 กม./ชม. (256 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 1.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 3 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ระบบส่งกำลัง: มอเตอร์ไฟฟ้าแบบแม่เหล็กถาวร 4 ตัวอิสระ
กำลังสูงสุด: 1,888 แรงม้า (1,388 kW)
แรงบิดสูงสุด: 1,741 ปอนด์-ฟุต (2,340 Nm)
ค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Cd): 0.30

Rimac Nevera ยังคงยืนหยัดในฐานะ “ราชันแห่งรถยนต์ไฟฟ้า” และเป็นรถที่มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่เร็วที่สุดในลิสต์นี้ ด้วยตัวเลขเพียง 1.8 วินาที ซึ่งเป็นสิ่งที่หาตัวจับยากอย่างแท้จริง นอกจากนี้ Nevera ยังเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 256 ไมล์ต่อชั่วโมง (412 กม./ชม.) ซึ่งได้รับการพิสูจน์โดยวิศวกรของ Rimac เองก่อนที่ Bugatti จะเข้ามามีบทบาทในบริษัท เทคโนโลยีอันเป็นนวัตกรรมของ Rimac ประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าอิสระสี่ตัวที่ติดตั้งบนแต่ละล้อ ทำให้มีกำลังรวมสูงสุดถึง 1,888 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 1,741 ปอนด์-ฟุต ซึ่งทำให้มันเป็นรถที่ทรงพลังที่สุดในลิสต์นี้อีกด้วย การก่อตั้ง Rimac Automobili โดย Mate Rimac ในปี 2009 และการรวมตัวเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทร่วมทุน Bugatti Rimac ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และความสามารถในการสร้างสรรค์ยานยนต์แห่งอนาคตที่สามารถผสมผสานประสิทธิภาพสูงสุดเข้ากับเทคโนโลยีไฟฟ้าได้อย่างลงตัว Rimac Nevera ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นสัญลักษณ์ของขีดจำกัดใหม่ที่รถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำได้

รถยนต์ที่ถูกผลักออกจากการจัดอันดับ Top 10 แต่ยังคงน่าทึ่ง

แม้ว่าการแข่งขันจะดุเดือดจนรถยนต์บางคันต้องหลุดออกจาก 10 อันดับแรกในปี 2025 แต่ก็ยังมีสุดยอดไฮเปอร์คาร์อีกหลายรุ่นที่ยังคงเป็นที่น่าจดจำและน่าทึ่งในโลกยานยนต์สมรรถนะสูง

Koenigsegg Regera
ความเร็วสูงสุด: 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 2.8 วินาที
ราคา: เริ่มต้นที่ 1.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

Koenigsegg Regera เป็นที่รู้จักจากสถิติ 0-400-0 กม./ชม. ที่น่าทึ่ง ซึ่งทำได้ในเวลาเพียง 20.68 วินาที เร็วกว่า Rimac Nevera เสียอีก แม้ความเร็วสูงสุดจะถูกจำกัดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไว้ที่ 400 กม./ชม. (249 ไมล์/ชม.) แต่เชื่อกันว่า Regera มีศักยภาพที่จะไปได้เร็วกว่านั้นหากได้รับการทดสอบอย่างเต็มที่ หัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ V8 5.0 ลิตร Twin-turbo ที่ให้กำลัง 1,500 แรงม้า ทำงานร่วมกับระบบ Koenigsegg Direct Drive Transmission (KDD) อันเป็นนวัตกรรม ที่ช่วยลดน้ำหนักและส่งกำลังจากเครื่องยนต์สู่เพลาขับหลังโดยตรง ทำให้ได้สมรรถนะที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องใช้เกียร์แบบดั้งเดิม

McLaren Speedtail
ความเร็วสูงสุด: 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.)
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. (0-62 ไมล์/ชม.): 3.0 วินาที
ราคา (เมื่อออกใหม่): เริ่มต้นที่ 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

McLaren Speedtail คือหนึ่งในรถยนต์ที่งดงามที่สุดในลิสต์นี้ และเป็นที่ต้องการอย่างสูง ด้วยความเร็วสูงสุด 403 กม./ชม. (250 ไมล์/ชม.) ที่น่าประทับใจ แม้ว่าจะมีกำลังเครื่องยนต์ที่น้อยกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในลิสต์นี้เกือบครึ่ง คือเครื่องยนต์ V8 4.0 ลิตร Twin-turbo ที่ให้กำลังเพียง 746 แรงม้า ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากการออกแบบอากาศพลศาสตร์ที่โดดเด่นและค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำมากเพียง 0.278 Cd ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการออกแบบที่ชาญฉลาดสามารถเอาชนะกำลังมหาศาลได้ Speedtail เป็นการผสมผสานระหว่างความเร็ว ศิลปะ และนวัตกรรม ที่สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร

เหตุผลที่คุณควรเชื่อมั่นในการจัดอันดับนี้

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ยาวนานในวงการยานยนต์ เรายึดมั่นในความถูกต้องและเชื่อถือได้ การจัดอันดับ “รถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก” นี้ไม่ได้อ้างอิงจากคำกล่าวอ้างของผู้ผลิตเพียงอย่างเดียว แต่รวบรวมข้อมูลจาก “ความเร็วสูงสุดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วอย่างเป็นทางการ” ในสนามทดสอบมาตรฐานระดับโลกเท่านั้น นี่คือสิ่งที่ทำให้ลิสต์ของเราแตกต่างและน่าเชื่อถือ บางครั้งคุณอาจเห็นความเร็วที่แตกต่างจากที่เคยได้ยินมาสำหรับรถบางคัน เช่น Bugatti Chiron Super Sport 300+ ที่ลูกค้าไม่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้เท่ากับที่บันทึกไว้ แต่ประเด็นสำคัญคือ รถคันนั้น “ได้พิสูจน์แล้ว” ว่ามีความสามารถในการทำความเร็วระดับนั้นได้จริง การที่เราไม่รวมรถยนต์ที่ยังไม่ผ่านการทดสอบอย่างเป็นทางการ เช่น Koenigsegg Jesko Absolut (ที่อ้างว่าทำได้ 330 ไมล์/ชม.) ก็เพื่อรักษามาตรฐานความน่าเชื่อถือนี้ไว้ เพราะในโลกของไฮเปอร์คาร์ คำว่า “พิสูจน์แล้ว” คือสิ่งสำคัญที่สุด

บทสรุปและคำเชิญ

โลกของไฮเปอร์คาร์ยังคงเป็นสนามรบของวิศวกรรม นวัตกรรม และความหลงใหลที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ปี 2025 ได้แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าที่พร้อมจะท้าทายทุกขีดจำกัดที่เคยมีมา ความเร็วไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลข แต่เป็นผลลัพธ์ของความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ การลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง และการออกแบบที่ผลักดันขอบเขตของสิ่งที่เป็นไปได้

หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงใหลในความเร็วและนวัตกรรมยานยนต์เหล่านี้ อย่าพลาดที่จะติดตามความเคลื่อนไหวของการแข่งขันที่ไม่สิ้นสุดนี้ และมาร่วมแบ่งปันความฝันและความหลงใหลในสุดยอดไฮเปอร์คาร์ไปกับเราในโลกที่ความเร็วไม่มีที่สิ้นสุด!

Previous Post

N1111632 แม หน เป นกะเทย EP2 part 2

Next Post

N1111634 กเก บมาเล ยง EP3 part 2

Next Post
N1111634 กเก บมาเล ยง EP3 part 2

N1111634 กเก บมาเล ยง EP3 part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N1111489 เป นแค แม าน ทำไมข บรถหร มาทำงาน part 2
  • N1111486 เพ อนก นเขาไม แย งแฟนก นหรอก part 2
  • N1111488 เจ าของบ านต วจร งค อใคร part 2
  • N1111490 เป นเม ยประธานบร ทำไมมาก นข าวกล องข างทาง part 2
  • N1111487 เม อสาม พาหญ งอ นข นรถ part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.