• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0711034 ามไปงานศพแม part 2

admin79 by admin79
November 6, 2025
in Uncategorized
0
N0711034 ามไปงานศพแม part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

รถยนต์ใหม่ 2025-2026: นวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่รอคุณอยู่

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่และรวดเร็วของอุตสาหกรรมรถยนต์ ตลาดในปี 2025 นี้กำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย พลังงานทางเลือก และแนวคิดการออกแบบที่ฉีกกฎเกณฑ์เดิมๆ หากคุณกำลังพิจารณาที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นรถครอบครัว, รถ SUV คู่ใจ หรือรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สุดล้ำ บทความนี้คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่จะพาคุณไปเจาะลึกรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 และต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 ซึ่งหลายรุ่นนั้นน่าจับตามองและคุ้มค่าแก่การรอคอยอย่างแท้จริง

ตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน ไม่ใช่แค่เรื่องของการเดินทางจากจุด A ไปจุด B อีกต่อไป แต่เป็นการผสานรวมระหว่างประสิทธิภาพ, ความยั่งยืน, ความปลอดภัย และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระแสของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างเร่งพัฒนารถยนต์ EV ที่มาพร้อมระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น, การชาร์จที่รวดเร็วขึ้น และนวัตกรรมภายในห้องโดยสารที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล วันนี้ เราจะมาดูกันว่ามีรถยนต์รุ่นใดบ้างที่กำลังจะมาถึง และจะเข้ามาเขย่าวงการยานยนต์ได้อย่างไร

เจาะลึกรถยนต์รุ่นใหม่น่าจับตาประจำปี 2025 และ 2026

DS No8
ประเภท: รถยนต์ซีดานไฟฟ้าขนาดใหญ่
คาดการณ์การเปิดตัว: วางจำหน่ายแล้วในบางตลาด
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 50,790 ปอนด์ (ราว 2.28 ล้านบาท ไม่รวมภาษีนำเข้าและค่าใช้จ่ายในประเทศไทย)

DS No8 ถือเป็นเรือธงรุ่นใหม่จากแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง DS ที่มุ่งมั่นยกระดับตัวเองสู่แบรนด์พรีเมียมอย่างเต็มตัว รถยนต์คันนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนขนาดใหญ่ที่ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Peugeot e-3008 แต่มาพร้อมสไตล์การออกแบบที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รูปทรงที่เพรียวลมไม่เพียงแต่สวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำระยะทางวิ่งได้สูงสุดถึง 750 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) เมื่อติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุด ด้วยราคาที่อยู่ในระดับพรีเมียม DS No8 จึงพร้อมที่จะแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Audi Q6 e-tron และ Tesla Model Y ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าหรูหราพร้อมสมรรถนะยอดเยี่ยม

Fiat Grande Panda
ประเภท: รถยนต์ไฮบริดและ EV ขนาดเล็ก
คาดการณ์การเปิดตัว: ปลายปี 2025
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: รุ่นไฮบริดประมาณ 18,000 ปอนด์ (ราว 8.1 แสนบาท), รุ่น EV ประมาณ 21,035 ปอนด์ (ราว 9.4 แสนบาท)

Fiat Grande Panda คือการปลุกตำนานรถยนต์ซิตี้คาร์สุดคลาสสิกจากยุค 80s ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบที่ทันสมัย การออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda รุ่นออริจินัลอย่างชัดเจน ด้วยรูปลักษณ์ที่น่ารักแต่แฝงไว้ด้วยความแข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์และมอบพื้นที่สำหรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างน่าประทับใจ Grande Panda จะมีทั้งรุ่นไฮบริดและรุ่นไฟฟ้าให้เลือก ถือเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ Fiat หวังจะเข้ามาสร้างสีสันและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ขนาดเล็กราคาจับต้องได้ ซึ่งอาจจะมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ Renault 5 ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่กำลังเติบโต

Jaguar GT EV
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าหรูหรา
คาดการณ์การเปิดตัว: ปี 2026
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: สูงกว่า 100,000 ปอนด์ (ราว 4.5 ล้านบาท)

Jaguar GT EV คือรถยนต์ที่สร้างกระแสฮือฮาและนำพาแบรนด์ Jaguar กลับมาอยู่บนแผนที่ยานยนต์หรูอีกครั้ง หลังจากที่เงียบหายไปพักใหญ่ แนวคิดของ GT EV มาในรูปแบบคูเป้สองประตูที่ดูสปอร์ตและเฉียบคม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความหรูหราคลาสสิก แต่รถยนต์รุ่นผลิตจริงจะเป็น GT สี่ประตู ที่ยังคงดีไซน์ภายในและภายนอกที่ใกล้เคียงกับแนวคิดเดิม จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ให้ระยะทางวิ่งที่ยาวนานและรองรับการชาร์จเร็วได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยราคาที่อยู่เหนือระดับ 100,000 ปอนด์ Jaguar GT EV จะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี และเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ Jaguar ในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค EV อย่างเต็มตัว

Jeep Wagoneer S
ประเภท: รถยนต์ SUV ไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: ปี 2025
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 75,000 ปอนด์ (ราว 3.37 ล้านบาท)

Jeep Wagoneer S คือรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกคันแรกจากแบรนด์อเมริกัน 4×4 อย่าง Jeep ซึ่งเป็นทางเลือกที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับ Jeep Grand Cherokee รุ่นเดิม Jeep หวังว่า Wagoneer S จะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งระดับพรีเมียมอย่าง BMW iX และ Mercedes-Benz EQE SUV ได้อย่างสมศักดิ์ศรี มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 100kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 480 กิโลเมตร ภายในห้องโดยสารออกแบบมาอย่างหรูหรา พร้อมฟีเจอร์ระดับไฮเอนด์มากมาย และพื้นที่ผู้โดยสารที่กว้างขวาง รวมถึงพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 866 ลิตร ทำให้เป็น SUV ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ทั้งความหรูหรา สมรรถนะ และการใช้งานจริง

Kia EV4
ประเภท: รถยนต์แฮทช์แบ็กและซีดานไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: วางจำหน่ายแล้วในบางตลาด
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 34,695 ปอนด์ (ราว 1.56 ล้านบาท)

Kia EV4 คืออีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำสมัยที่สะดุดตาจาก Kia แบรนด์ยอดนิยมที่กำลังมาแรงในตลาด EV รถยนต์รุ่นนี้เป็นทางเลือกในรูปแบบแฮทช์แบ็กของ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัลมากมาย โดย EV4 มีขนาดยาวกว่าเล็กน้อยและจะเข้ามาเป็นคู่แข่งกับ Tesla Model 3 และ Polestar 2 นอกจากนี้ อาจจะมีรุ่นซีดานที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่แพ้กันให้เลือกในอนาคต EV4 มีแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ขนาด โดยขนาดที่ใหญ่ที่สุดให้ระยะทางวิ่งเกิน 627 กิโลเมตร ด้วยดีไซน์ที่ล้ำยุคและสมรรถนะที่น่าประทับใจ Kia EV4 พร้อมที่จะดึงดูดผู้บริโภคที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่แตกต่างและเปี่ยมด้วยคุณค่า

Maxus MIFA 7
ประเภท: รถยนต์ MPV ไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: วางจำหน่ายแล้วในบางตลาด
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 39,995 ปอนด์ (ราว 1.8 ล้านบาท)

Maxus MIFA 7 คือรถยนต์ MPV ไฟฟ้าขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว ซึ่งอยู่ในตำแหน่งรองลงมาจาก MIFA 9 ที่มีขนาดใหญ่พิเศษ MIFA 7 มีความยาวประมาณ 4.9 เมตร และมีเบาะที่นั่งสำหรับ 7 ที่นั่ง ประตูหลังแบบบานเลื่อนช่วยให้การเข้าออกสะดวกสบายเป็นพิเศษ ถือเป็นทางเลือกที่เข้าถึงง่ายกว่า Volkswagen ID.Buzz และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก EV ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ Lexus LM แต่มาในราคาที่ย่อมเยากว่าเกือบครึ่ง มีแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ขนาดคือ 77kWh หรือ 90kWh โดยขนาดใหญ่ให้ระยะทางวิ่ง 480 กิโลเมตร ภายในห้องโดยสารอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี พร้อมหลังคากระจกพาโนรามาที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และการจัดวางเบาะแบบ 2-2-3 ที่เน้นการใช้งานจริง

Mercedes-Benz CLA
ประเภท: รถยนต์ซีดานไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: วางจำหน่ายแล้วในบางตลาด
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 45,615 ปอนด์ (ราว 2.05 ล้านบาท)

Mercedes-Benz CLA รุ่นใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ใหม่ของ Mercedes-Benz ที่จะมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ จุดเด่นที่สำคัญคือระยะทางวิ่งที่เกือบ 800 กิโลเมตรจากรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลที่สุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ล้ำสมัยและระบบชาร์จเร็วเป็นพิเศษ สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz ยังมี CLA รุ่นไฮบริดให้เลือกอีกด้วย ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจและนวัตกรรมที่อัดแน่น Mercedes-Benz CLA ใหม่จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาดรถยนต์ซีดานหรูหรา

Range Rover Electric
ประเภท: รถยนต์ SUV หรูหรา
คาดการณ์การเปิดตัว: ต้นปี 2026
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: สูงกว่า 125,000 ปอนด์ (ราว 5.62 ล้านบาท)

Range Rover Electric คือรถยนต์ Range Rover รุ่นไฟฟ้าล้วนคันแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ SUV สุดหรูระดับโลกนี้ ขณะนี้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว และคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเต็มรูปแบบในช่วงปลายปี 2025 นี้ แม้ว่าราคาเริ่มต้นจะสูงกว่า 125,000 ปอนด์ แต่รับรองได้ว่าความหรูหรา ความประณีต และสมรรถนะจะทัดเทียมกับ Range Rover V8 ได้อย่างแน่นอน รูปลักษณ์ภายนอกจะดูคล้ายกับ Range Rover รุ่นใหม่ปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว และภายในห้องโดยสารก็จะหรูหราโอ่อ่าไม่แพ้กัน นี่คือวิธีที่หรูหราและประณีตที่สุดในการก้าวสู่ยุคยานยนต์สีเขียว

Renault 4
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
คาดการณ์การเปิดตัว: กลางปี 2025
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ต่ำกว่า 30,000 ปอนด์ (ราว 1.35 ล้านบาท)

Renault 4 ใหม่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการนำรถยนต์คลาสสิกกลับมาสร้างใหม่ หลังจากที่ Renault 5 ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม Renault 4 ใหม่นี้จะสานต่อความสำเร็จของ Renault 4 รุ่นคลาสสิก โดยมาในรูปแบบรถยนต์ 5 ประตูที่ใช้งานได้จริง และจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กแบบดั้งเดิมอย่าง MINI Aceman การออกแบบที่น่ารักมาพร้อมฟีเจอร์เล็กๆ น้อยๆ ที่น่าประทับใจ เช่น หลังคาผ้าใบไฟฟ้าแบบเปิดได้ และภายในห้องโดยสารยังมีที่วางบาแกตต์! ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ Google เป็นพื้นฐานก็เป็นจุดเด่นสำคัญอีกอย่างหนึ่ง รถยนต์คันนี้จะให้ระยะทางวิ่ง EV สูงสุดถึง 400 กิโลเมตร และมีระบบปั๊มความร้อนมาตรฐานที่ช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีเยี่ยมแม้ในฤดูหนาว

Renault Twingo
ประเภท: รถยนต์ซิตี้คาร์ไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: ปี 2026
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 17,000 ปอนด์ (ราว 7.65 แสนบาท)

Renault Twingo ใหม่ คือการกลับมาของรถยนต์ซิตี้คาร์ราคาประหยัดที่โด่งดังในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตูเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะยังอีกนานกว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2026 แต่การรอคอยน่าจะคุ้มค่า เพราะ Renault ตั้งเป้าที่จะเสนอราคาเริ่มต้นเพียง 17,000 ปอนด์ ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดการณ์ว่าจะมีระยะทางวิ่งเกิน 240 กิโลเมตร ดีไซน์ย้อนยุคที่น่ารักก็จะเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสำคัญ ที่จะทำให้ Twingo เป็นที่นิยมในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก

Skoda Epiq
ประเภท: รถยนต์ EV ระดับเริ่มต้น
คาดการณ์การเปิดตัว: ปลายปี 2025
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก (ประมาณการ): ต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ (ราว 9 แสนบาท)

Skoda Epiq คือภาพแรกที่เราได้เห็นของรถยนต์ไฟฟ้า Skoda ระดับเริ่มต้นที่ราคาเข้าถึงได้ ซึ่งอาจจะเปิดเผยโฉมในปี 2025 ก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2026 ด้วยราคาที่คาดการณ์ว่าจะต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ Epiq จะเป็นรถยนต์ 5 ประตูขนาดซูเปอร์มินิที่แท้จริง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 490 ลิตร ระยะทางวิ่งที่อาจจะเกือบ 400 กิโลเมตรก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจ ทำให้ Epiq เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน

Suzuki e Vitara
ประเภท: รถยนต์ SUV ไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: วางจำหน่ายแล้วในบางตลาด
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 26,000 ปอนด์ (ราว 1.17 ล้านบาท)

Suzuki e Vitara คือรถยนต์ EV คันแรกที่รอคอยมานานจากบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Suzuki ในการบรรลุเป้าหมาย ZEV Mandate ปี 2030 (ข้อกำหนดด้านยานยนต์ไร้มลพิษ) ขณะนี้วางจำหน่ายแล้วและจะวางขายควบคู่ไปกับ Suzuki Vitara เครื่องยนต์เบนซิน รุ่นเริ่มต้นของ Suzuki e Vitara มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 49kWh ซึ่งให้ระยะทางวิ่ง WLTP อย่างเป็นทางการที่ 342 กิโลเมตร ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 26,000 ปอนด์ Suzuki e Vitara จึงเป็นทางเลือกที่แข็งแกร่งในตลาด SUV ไฟฟ้า

Toyota Urban Cruiser
ประเภท: รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก
คาดการณ์การเปิดตัว: ปลายปี 2025
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก (ประมาณการ): ประมาณ 35,000 ปอนด์ (ราว 1.57 ล้านบาท)

Toyota Urban Cruiser คือ SUV ขนาดเล็กที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ Suzuki e Vitara ใหม่ โดยมีตำแหน่งทางการตลาดอยู่เหนือ Toyota Yaris Cross ไฮบริดรุ่นปัจจุบัน Urban Cruiser จะเป็นทางเลือกไฟฟ้าล้วนเพื่อแข่งขันกับรุ่นต่างๆ เช่น Kia EV3 และ Volvo EX30 คาดว่าจะมีระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 400 กิโลเมตร และจะมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด นอกเหนือจากรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าหลัก Urban Cruiser จะมาถึงในช่วงปลายปี 2025 และคาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 35,000 ปอนด์

Volkswagen ID.EVERY1
ประเภท: รถยนต์ซิตี้คาร์ไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: ปี 2027
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก (ประมาณการ): ประมาณ 16,000 ปอนด์ (ราว 7.2 แสนบาท)

Volkswagen ID.EVERY1 เป็นรถยนต์ที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับยักษ์ใหญ่เยอรมันคันนี้ โดยตั้งเป้าให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ที่ราคาเข้าถึงได้มากที่สุด โดยราคาอาจเริ่มต้นเพียง 16,000 ปอนด์เมื่อเปิดตัวในปี 2027 รถคันนี้ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อจำหน่ายในยุโรปและสหราชอาณาจักร โดยผู้บริหารกล่าวว่า “เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายบนเส้นทางสู่การเลือกรุ่นที่หลากหลายที่สุดในตลาดปริมาณ” จะอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่า Volkswagen ID.Polo ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยคู่แข่งในปัจจุบันมีไม่มากนักในกลุ่ม EV ราคาต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ ซึ่งได้แก่ Dacia Spring และ Leapmotor T03 ราคาที่น่าสนใจนี้จะหมายถึงแบตเตอรี่ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก โดย Volkswagen ประมาณการระยะทางวิ่งอย่างน้อย 250 กิโลเมตร

Volkswagen ID.Polo
ประเภท: รถยนต์แฮทช์แบ็กไฟฟ้าขนาดเล็ก
คาดการณ์การเปิดตัว: กลางปี 2026
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก (ประมาณการ): ประมาณ 22,000 ปอนด์ (ราว 9.9 แสนบาท)

เดิมทีเรียกว่า Volkswagen ID.2 concept ปัจจุบัน Volkswagen ได้กลับไปใช้ชื่อดั้งเดิมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของตน ดังนั้นจึงถูกเรียกว่า VW ID.Polo ซึ่งออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงได้ คาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 22,000 ปอนด์ คุณสามารถคาดหวังได้ว่า VW ID.Polo รุ่นผลิตจริงจะมีแบตเตอรี่ให้เลือก 2 ขนาด ได้แก่ แบตเตอรี่ 38kWh สำหรับรุ่นเริ่มต้น และแพ็ก 56kWh ที่ใหญ่กว่าสำหรับรุ่นระยะทางวิ่งไกล ถือเป็นการนำชื่อคลาสสิกมาสู่ยุคไฟฟ้าได้อย่างชาญฉลาด

Volkswagen ID.GTI
ประเภท: รถยนต์ฮอตแฮทช์ไฟฟ้า
คาดการณ์การเปิดตัว: ปี 2026
ราคาเริ่มต้นในตลาดโลก: ประมาณ 30,000 ปอนด์ (ราว 1.35 ล้านบาท)

Volkswagen ID.GTI Concept คือสัญญาณแรกที่เราได้เห็นว่ารถยนต์ฮอตแฮทช์ไฟฟ้าในอนาคตจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร มาพร้อมชุดแต่ง GTI เต็มรูปแบบ ด้วยแชสซีส์ที่สปอร์ตและสมรรถนะที่เร้าใจ ผู้บริหารยืนยันแล้วว่ารถยนต์ที่ใช้พื้นฐานจาก Volkswagen ID.2 คันนี้จะเข้าสู่สายการผลิตอย่างแน่นอน คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2026 และอาจมีราคาที่น่าดึงดูดใจเริ่มต้นไม่ถึง 30,000 ปอนด์ คำถามคือ Volkswagen ID.GTI Concept ใหม่จะสามารถสืบทอดตำนานรถยนต์ไฟฟ้าจาก Volkswagen Golf GTI ที่โด่งดังได้จริงหรือไม่ เราตั้งตารอที่จะได้ค้นพบ

สรุปและอนาคตของยานยนต์

จากรายชื่อรถยนต์ใหม่ที่กำลังจะมาถึงในช่วงปลายปี 2025 และตลอดปี 2026 นี้ เป็นที่ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมยานยนต์กำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่น่าตื่นเต้นที่สุดยุคหนึ่ง รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง พร้อมด้วยนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง ไม่ว่าจะเป็นระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น, การชาร์จที่เร็วขึ้น, เทคโนโลยีภายในห้องโดยสารที่อัจฉริยะกว่าเดิม ไปจนถึงการออกแบบที่กล้าหาญและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองเห็นว่าตลาดกำลังขยายตัวเพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลาย ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาเข้าถึงได้ ไปจนถึงรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราสมรรถนะสูง รถยนต์ไฮบริดยังคงเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนผ่านอย่างค่อยเป็นค่อยไป และรถยนต์ SUV ก็ยังคงเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง ด้วยทางเลือกที่เพิ่มขึ้นและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคอย่างเรากำลังจะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากนวัตกรรมเหล่านี้

ตลาดรถยนต์ในปี 2025-2026 จะเป็นช่วงเวลาแห่งการแข่งขันที่ดุเดือดและสร้างสรรค์ แบรนด์ต่างๆ กำลังผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่าและตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการมากกว่าแค่รถยนต์ แต่ต้องการ “คู่หู” ที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตนได้อย่างลงตัว

อย่าพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคต! หากคุณกำลังวางแผนที่จะซื้อรถยนต์ใหม่ เราขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและทดลองขับรุ่นที่คุณสนใจ เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับเทคโนโลยีและดีไซน์อันล้ำสมัยเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง และค้นหารถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณที่สุดในตลาดรถยนต์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคใหม่นี้!

เผยโฉมรถยนต์รุ่นใหม่ 2025-2026: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับอนาคตแห่งการขับขี่

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นการก้าวกระโดดของเทคโนโลยี การพลิกโฉมดีไซน์ หรือแม้แต่ปรัชญาในการขับเคลื่อนที่มุ่งสู่ความยั่งยืน และตอนนี้ เรากำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง ย่างเข้าสู่ปี 2025 และต่อเนื่องไปยังปี 2026 ตลาดรถยนต์กำลังจะถูกเติมเต็มด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะมาเขย่าวงการ และเป็นตัวกำหนดทิศทางของยานยนต์ในอนาคต

สำหรับใครที่กำลังวางแผนซื้อรถยนต์คันใหม่ หรือกำลังมองหาประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ ผมขอแนะนำให้คุณหยุดและใช้เวลาอ่านคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในอีก 12-24 เดือนข้างหน้า ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหารถยนต์ครอบครัวที่ใช้งานได้หลากหลาย SUV สุดหรู รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง หรือรถยนต์ขนาดเล็กที่ตอบโจทย์ชีวิตในเมือง ยานยนต์เหล่านี้ล้วนเป็นผลงานที่น่าจับตา และบางรุ่นก็คุ้มค่าแก่การรอคอยอย่างยิ่ง

ยุคทองของรถยนต์ไฟฟ้ากำลังมาถึงอย่างแท้จริง ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเพื่อมอบระยะทางที่ไกลขึ้น การชาร์จที่เร็วขึ้น และสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน รถยนต์ไฮบริดก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่น การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงประเภทของรถยนต์ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ภายในห้องโดยสารที่เน้นความเชื่อมโยง เทคโนโลยีอัจฉริยะ และความหรูหราที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผมเชื่อว่าการลงทุนในรถยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้ ไม่เพียงแต่เป็นการครอบครองยานพาหนะ แต่ยังเป็นการลงทุนในประสบการณ์และเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ในบทความนี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกถึงรถยนต์รุ่นเด่นที่คาดว่าจะสร้างปรากฏการณ์ในตลาด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์จากแบรนด์ยุโรปชั้นนำ สัญชาติอเมริกันผู้บุกเบิก หรือแม้แต่แบรนด์เอเชียที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ อย่ารอช้า มาดูกันว่าอนาคตของการเดินทางรออะไรเราอยู่บ้าง

รถยนต์รุ่นใหม่ 2025 และ 2026 ที่คุณไม่ควรพลาด

DS No8: ความหรูหราไฟฟ้าจากฝรั่งเศสที่ฉีกทุกกรอบ
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): เปิดตัวแล้ว
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 2 ล้านบาทขึ้นไป

DS No8 คือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สะท้อนวิสัยทัศน์อันทะเยอทะยานของแบรนด์ลักชัวรีจากฝรั่งเศสอย่าง DS Automobiles นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่คือผลงานศิลปะที่ผสมผสานความประณีต ดีไซน์อันโดดเด่น และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนไฟฟ้าขั้นสูง จากประสบการณ์ของผม รถรุ่นนี้มีความตั้งใจที่จะก้าวขึ้นเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียม โดยใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Peugeot e-3008 แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีความหรูหราและเอกลักษณ์เฉพาะตัว

สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดคือดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ลู่ลมเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ DS No8 สามารถทำระยะทางวิ่งสูงสุดได้ถึง 750 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เมื่อติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุด ตัวเลขนี้ถือว่ายอดเยี่ยมและตอบโจทย์การเดินทางไกลได้อย่างสบายใจ สำหรับภายใน ห้องโดยสารได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีล้ำสมัย ผมมองว่า DS No8 ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าและความประณีตสไตล์ฝรั่งเศสที่พร้อมจะท้าทายคู่แข่งอย่าง Audi Q6 e-tron และ Tesla Model Y

Fiat Grande Panda: การกลับมาของไอคอนยุค 80 ในร่าง EV/Hybrid
ประเภท: รถยนต์ขนาดเล็ก ไฮบริดและไฟฟ้า
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): เปิดตัวแล้ว
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 7.5 แสนบาท (ไฮบริด) / 8.8 แสนบาท (ไฟฟ้า)

ใครจะไปคิดว่ารถยนต์จากยุค 80s อย่าง Fiat Panda จะกลับมาโลดแล่นอีกครั้งในยุคของรถยนต์ไฟฟ้าและไฮบริด? Fiat Grande Panda คือการตีความใหม่ของรถยนต์ City Car สุดคลาสสิกที่ยังคงกลิ่นอายความย้อนยุคได้อย่างลงตัวในขณะที่ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ รถคันนี้เปิดตัวมาตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนที่แล้ว และจะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายปี 2025 ทั้งรุ่นไฮบริดและรุ่นไฟฟ้า

สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจคือดีไซน์ภายนอกที่ยังคงความน่ารักและเป็นมิตร แต่มีการปรับปรุงให้ดูทันสมัยขึ้นอย่างชัดเจน ภายในห้องโดยสารก็ได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน และที่สำคัญ Fiat สัญญาว่าจะมอบพื้นที่เพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 5 คน นี่คือรถยนต์ขนาดเล็กที่น่าจับตาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในราคาที่เข้าถึงได้ ผมมองว่า Grande Panda จะเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจกับ Renault 5 และจะสร้างกระแสความนิยมได้อย่างแน่นอนสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ทั้งประหยัดและมีสไตล์

Jaguar GT EV: การฟื้นคืนชีพของเสือจากัวร์ด้วยพลังงานไฟฟ้า
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าหรูหรา
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025-2026): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายปี 2026
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 4.5 ล้านบาทขึ้นไป

Jaguar GT EV คือสัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของแบรนด์ Jaguar จากประสบการณ์ของผม รถยนต์คันนี้ได้สร้างกระแสฮือฮาและนำพาแบรนด์ Jaguar กลับมาอยู่บนแผนที่ของวงการยานยนต์อีกครั้งหลังจากที่เงียบหายไปพักใหญ่ แนวคิดของรถคันนี้คือคูเป้สองประตูที่มีเส้นสายสุดเฉียบคมและฐานเตี้ย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจาก Rolls-Royce Spectre แต่เมื่อเข้าสู่การผลิตจริง Jaguar GT EV จะมาในรูปแบบของรถยนต์ Grand Tourer สี่ประตู

สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือดีไซน์และห้องโดยสารจะไม่แตกต่างจากแนวคิดมากนัก โดยจะเน้นความหรูหรา ประณีต และเทคโนโลยีขั้นสูง มันจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ให้ระยะทางวิ่งไกล พร้อมความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็ว ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าหรูหรา สมรรถนะสูง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การเปิดตัว Jaguar GT EV ครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ แต่ยังเป็นการประกาศทิศทางใหม่ของแบรนด์ Jaguar สู่ยุคของยานยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมอย่างเต็มตัว ซึ่งผมมองว่าเป็นก้าวที่กล้าหาญและน่าจับตา

Jeep Wagoneer S: การผจญภัยแบบไฟฟ้าสไตล์อเมริกัน
ประเภท: SUV ไฟฟ้า
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายปี 2025
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 3.3 ล้านบาทขึ้นไป

Jeep Wagoneer S ถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์ Jeep ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าระดับโลกคันแรก นี่คือทางเลือกที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับ Jeep Grand Cherokee ที่จะมาท้าชนกับคู่แข่งระดับพรีเมียมอย่าง BMW iX และ Mercedes-Benz EQE SUV จากมุมมองของผม Jeep Wagoneer S ไม่เพียงแค่เป็น SUV ไฟฟ้า แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการผสานความสามารถแบบ Off-Road ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Jeep เข้ากับความหรูหราและเทคโนโลยีของยุค EV

รถคันนี้คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3.3 ล้านบาท พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 100kWh ที่ให้ระยะทางวิ่งมากกว่า 480 กิโลเมตร ห้องโดยสารภายในได้รับการออกแบบให้มีความหรูหราและฟังก์ชันการใช้งานระดับสูง เพื่อให้ทัดเทียมกับคู่แข่งในกลุ่มพรีเมียม นอกจากนี้ยังมาพร้อมพื้นที่โดยสารที่กว้างขวางและพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 866 ลิตร ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบาย ความหรูหรา และสมรรถนะการขับขี่แบบไฟฟ้า

Kia EV4: นิยามใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์ล้ำ
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็กและซีดาน
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): เปิดตัวแล้ว
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป

Kia EV4 คืออีกหนึ่งผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Kia ในการสร้างสรรค์รถยนต์ไฟฟ้าที่มีดีไซน์อันโดดเด่นและทันสมัย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รถคันนี้เปรียบเสมือนทางเลือกแบบแฮทช์แบ็กของ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัลมากมาย โดยมีขนาดตัวถังที่ยาวกว่าเล็กน้อย และพร้อมที่จะแข่งขันกับ Tesla Model 3 และ Polestar 2 นอกจากนี้ยังอาจมีรุ่นซีดานที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่แพ้กันในบางตลาด

จากประสบการณ์ของผม Kia มักจะสร้างความประหลาดใจด้วยการออกแบบที่แหวกแนวและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน EV4 มาพร้อมทางเลือกแบตเตอรี่สองขนาด โดยขนาดใหญ่ที่สุดสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 630 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นระยะทางที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจและดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร Kia EV4 จึงเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ผมเชื่อว่าจะเข้ามาเขย่าตลาดและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ EV ที่ทั้งสวยงามและใช้งานได้จริง

Maxus MIFA 7: MPV ไฟฟ้าเพื่อครอบครัวยุคใหม่
ประเภท: MPV ไฟฟ้า
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): เปิดตัวแล้ว
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 1.7 ล้านบาทขึ้นไป

Maxus MIFA 7 คือรถยนต์ MPV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการพื้นที่ ความสะดวกสบาย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รถคันนี้นั่งอยู่ใต้รุ่นพี่อย่าง MIFA 9 ซึ่งมีขนาดใหญ่พิเศษ โดย MIFA 7 มีความยาวประมาณ 4.9 เมตร และมาพร้อมเบาะนั่งสำหรับ 7 ที่นั่ง สิ่งที่โดดเด่นคือประตูบานเลื่อนด้านหลังที่ช่วยให้เข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย

ผมมองว่า MIFA 7 เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า Volkswagen ID.Buzz และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก EV ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ Lexus LM แต่ในราคาที่ถูกกว่าเกือบครึ่ง Maxus เสนอทางเลือกแบตเตอรี่สองขนาด คือ 77kWh หรือ 90kWh โดยขนาดใหญ่กว่าให้ระยะทางวิ่งประมาณ 480 กิโลเมตร ภายในห้องโดยสารเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมหลังคากระจกพาโนรามาที่ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง และการจัดวางเบาะแบบ 2-2-3 ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานสูงสุด MIFA 7 จึงเป็น MPV ไฟฟ้าที่น่าจับตาสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่

Mercedes-Benz CLA: ต้นแบบแห่งอนาคตไฟฟ้าของดาวสามแฉก
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าซีดาน
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): เปิดตัวแล้ว
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 2 ล้านบาทขึ้นไป

Mercedes-Benz CLA รุ่นใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นผู้บุกเบิกในซีรีส์รถยนต์ไฟฟ้าขั้นสูงรุ่นแรกของ Mercedes-Benz สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือระยะทางวิ่งเกือบ 800 กิโลเมตรจากรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลที่สุด ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งและก้าวข้ามขีดจำกัดของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบัน นอกเหนือจากระยะทางที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังมีระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ล้ำสมัยและระบบชาร์จเร็วเป็นพิเศษ

จากประสบการณ์ของผม Mercedes-Benz มักจะนำเสนอเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ และ CLA ก็เป็นเครื่องยืนยันในเรื่องนี้ นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ยังมีรุ่นไฮบริดให้เลือกอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในความต้องการของตลาดในช่วงการเปลี่ยนผ่าน ผมเชื่อว่า CLA จะเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มพรีเมียม และเป็นตัวชี้วัดทิศทางของ Mercedes-Benz ในอนาคต

Range Rover Electric: SUV หรูระดับโลกสู่ยุคไฟฟ้า
ประเภท: SUV หรูหรา
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2026): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายต้นปี 2026
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 5.5 ล้านบาทขึ้นไป

Range Rover Electric คือการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ของ SUV สุดหรูระดับโลกอย่าง Range Rover นับเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของแบรนด์นี้ และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว คาดว่าจะเริ่มส่งมอบในช่วงปลายปี 2025 หรือต้นปี 2026 แน่นอนว่าราคาจะไม่ถูก แต่จะมาพร้อมความหรูหรา ความประณีต และสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมเทียบเท่ากับ Range Rover V8

สิ่งที่น่าสนใจคือ Range Rover Electric จะยังคงรูปลักษณ์ภายนอกที่เกือบจะเหมือนกับ Range Rover รุ่นใหม่ๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเลย ห้องโดยสารภายในก็จะยังคงความโอ่อ่าและหรูหราเช่นเคย จากมุมมองของผม นี่คือการนำเสนอทางเลือกที่หรูหราและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV ระดับสูง ที่ยังคงเอกลักษณ์และประสบการณ์การขับขี่แบบ Range Rover ได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันคือการผสมผสานระหว่างมรดกอันยาวนานกับอนาคตที่ยั่งยืน

Renault 4: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ย้อนยุค
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายช่วงฤดูร้อนปี 2025
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ต่ำกว่า 1.3 ล้านบาท (โดยประมาณ)

หลังจากความสำเร็จของ Renault 5 การกลับมาของ Renault 4 ก็เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้น รถยนต์ไฟฟ้าคันนี้เดินตามรอยความสำเร็จของ Renault 4 รุ่นคลาสสิก โดยมาในรูปแบบ 5 ประตูที่ใช้งานได้จริง และเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กทั่วไป เช่น MINI Aceman

สิ่งที่ผมชอบคือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่น่ารัก เช่น หลังคาผ้าใบไฟฟ้าที่เปิดได้ และภายในห้องโดยสารมีช่องสำหรับใส่บาแกตต์! ระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ใช้ Google เป็นหลักก็เป็นจุดเด่นสำคัญอีกประการหนึ่ง Renault 4 จะมีระยะทางวิ่งไฟฟ้าสูงสุดถึง 400 กิโลเมตร และระบบปั๊มความร้อนมาตรฐานจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในฤดูหนาว ผมเชื่อว่า Renault 4 จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มอบทั้งความน่ารัก ฟังก์ชันการใช้งาน และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในแพ็คเกจที่น่าดึงดูดใจ

Renault Twingo: City Car ไฟฟ้าที่เน้นความคุ้มค่า
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า City Car
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2026): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายปี 2026
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ):
ประมาณ 7.5 แสนบาท (โดยประมาณ)

Renault Twingo ถือเป็นการกลับมาของรถยนต์ City Car ราคาประหยัดที่โด่งดังในรูปแบบรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตู แม้จะยังต้องรออีกสักระยะ คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 แต่การรอคอยน่าจะคุ้มค่า เพราะ Renault ตั้งเป้าราคาเริ่มต้นไว้ที่ประมาณ 7.5 แสนบาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับระยะทางวิ่งที่คาดว่าจะเกิน 240 กิโลเมตร

สิ่งที่ผมมองว่าจะเป็นจุดดึงดูดที่สำคัญไม่แพ้กันคือดีไซน์ย้อนยุคที่น่ารักและเป็นมิตร ซึ่งจะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับ Twingo ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในเมืองที่ประหยัดและมีสไตล์ Renault Twingo คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรมองข้าม

Skoda Epiq: รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับทุกคนในราคาที่จับต้องได้
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า Entry-Level
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025-2026): คาดว่าจะเปิดตัวปลายปี 2025 และเริ่มจำหน่ายปี 2026
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ต่ำกว่า 9 แสนบาท (โดยประมาณ)

Skoda Epiq คือรถยนต์ไฟฟ้า Entry-Level ที่เราได้เห็นเป็นครั้งแรก และจะเป็นก้าวสำคัญของ Skoda ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่ทุกคนเข้าถึงได้ คาดว่าจะมีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในปี 2025 ก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2026 สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือราคาที่คาดว่าจะเริ่มต้นต่ำกว่า 9 แสนบาท แต่ Epiq จะเป็นรถยนต์ 5 ประตูขนาดซูเปอร์มินิที่มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 490 ลิตร

จากประสบการณ์ของผม Skoda มักจะนำเสนอรถยนต์ที่คุ้มค่าและใช้งานได้จริง Epiq ก็ไม่ต่างกัน ด้วยระยะทางวิ่งที่อาจจะสูงถึงเกือบ 400 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ รถคันนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่คุ้มค่า กว้างขวาง และเชื่อถือได้

Suzuki e Vitara: ก้าวแรกของ Suzuki สู่ยุคไฟฟ้าเต็มตัว
ประเภท: SUV ไฟฟ้า
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): เปิดตัวแล้ว
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 1.15 ล้านบาท (โดยประมาณ)

Suzuki e Vitara คือรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกที่รอคอยมานานของบริษัทญี่ปุ่นแห่งนี้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Suzuki ในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (ZEV Mandate) ภายในปี 2030 รถคันนี้เริ่มวางจำหน่ายแล้ว และจะยังคงวางจำหน่ายคู่กับ Suzuki Vitara รุ่นเครื่องยนต์เบนซินไปอีกระยะหนึ่ง

สำหรับรุ่น Entry-Level ของ Suzuki e Vitara มาพร้อมชุดแบตเตอรี่ขนาด 49kWh ซึ่งให้ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน WLTP อยู่ที่ประมาณ 340 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1.15 ล้านบาท ผมมองว่า Suzuki e Vitara เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ที่เชื่อถือได้และมีราคาที่เข้าถึงได้จากแบรนด์ที่คุ้นเคย

Toyota Urban Cruiser: SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กจากยักษ์ใหญ่
ประเภท: SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2025): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายปลายปี 2025
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 1.55 ล้านบาท (โดยประมาณ)

Toyota Urban Cruiser คือ SUV ขนาดเล็กที่มีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับ Suzuki e Vitara โดยจะมาวางตำแหน่งอยู่เหนือ Toyota Yaris Cross hybrid ที่มีอยู่แล้ว เพื่อเป็นทางเลือกไฟฟ้าเต็มรูปแบบสำหรับรุ่นต่างๆ เช่น Kia EV3 และ Volvo EX30 จากประสบการณ์ของผม Toyota มักจะเน้นความน่าเชื่อถือและความคุ้มค่า

รถคันนี้คาดว่าจะมีระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 400 กิโลเมตร และจะมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Dual-Motor สำหรับการขับขี่บนเส้นทางที่ท้าทาย ควบคู่ไปกับรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าหลัก คาดว่าจะมาถึงในช่วงปลายปี 2025 โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 1.55 ล้านบาท Toyota Urban Cruiser จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่แข็งแกร่งในกลุ่ม SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด

Volkswagen ID.EVERY1: รถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคน
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า City Car
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2027): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายปี 2027
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 7 แสนบาท (โดยประมาณ)

Volkswagen ID.EVERY1 คือรถยนต์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับยักษ์ใหญ่จากเยอรมนีคันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ที่ราคาเข้าถึงได้มากที่สุด โดยคาดว่าราคาจะเริ่มต้นเพียงประมาณ 7 แสนบาท เมื่อเปิดตัวในปี 2027 รถคันนี้ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการจำหน่ายในยุโรปและสหราชอาณาจักร โดยผู้บริหารระบุว่า “เป็นชิ้นส่วนสุดท้ายของจิ๊กซอว์บนเส้นทางสู่การมีรถยนต์ให้เลือกหลากหลายที่สุดในกลุ่มตลาดจำนวนมาก”

รถคันนี้จะอยู่ต่ำกว่า Volkswagen ID.Polo ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีคู่แข่งในปัจจุบันไม่มากนักในกลุ่มรถยนต์ EV ราคาต่ำกว่า 9 แสนบาท ซึ่งมีเพียง Dacia Spring และ Leapmotor T03 เท่านั้น ราคาที่ดึงดูดใจนี้หมายถึงแบตเตอรี่ขนาดค่อนข้างเล็ก โดย Volkswagen คาดการณ์ระยะทางวิ่งอย่างน้อย 250 กิโลเมตร ผมมองว่า ID.EVERY1 จะเป็นผู้เปลี่ยนเกมในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กและราคาประหยัด

Volkswagen ID.Polo: การกลับมาของชื่อคลาสสิกในร่าง EV
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็กขนาดเล็ก
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2026): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายกลางปี 2026
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 9.7 แสนบาท (โดยประมาณ)

เดิมทีเรียกว่าแนวคิด Volkswagen ID.2 แต่ Volkswagen กำลังจะกลับไปใช้ชื่อแบบดั้งเดิมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ VW ID.Polo รถคันนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงได้ ดังนั้นจึงคาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 9.7 แสนบาท คุณสามารถคาดหวังได้ว่า VW ID.Polo รุ่นที่ผลิตจริงจะมีทางเลือกแบตเตอรี่สองขนาด ได้แก่ ชุด 38kWh สำหรับรุ่น Entry-Level และชุด 56kWh ที่ใหญ่กว่าสำหรับรุ่นระยะทางวิ่งไกล

จากประสบการณ์ของผม การกลับมาใช้ชื่อ Polo แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Volkswagen ในการเชื่อมโยงความคุ้นเคยของชื่อรุ่นเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ID.Polo จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็กขนาดเล็กที่เชื่อถือได้ มีสไตล์ และราคาที่สมเหตุสมผล

Volkswagen ID.GTI: เมื่อ Hot Hatch ในตำนานกลายเป็นไฟฟ้า
ประเภท: Hot Hatch ไฟฟ้า
เริ่มวางจำหน่าย (ปี 2026): คาดว่าจะพร้อมจำหน่ายปี 2026
ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ประมาณ 1.3 ล้านบาท (โดยประมาณ)

แนวคิด Volkswagen ID.GTI คือสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่า Hot Hatch ไฟฟ้าในอนาคตจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร มาพร้อมการปรับแต่งสไตล์ GTI เต็มรูปแบบ ด้วยแชสซีส์ที่สปอร์ตและสมรรถนะที่จัดจ้าน ผู้บริหารได้ยืนยันแล้วว่ารถยนต์ที่ใช้พื้นฐาน ID.2 คันใหม่นี้จะเข้าสู่สายการผลิตอย่างแน่นอน คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2026 และอาจมีราคาที่ดึงดูดใจเริ่มต้นต่ำกว่า 1.3 ล้านบาท

คำถามที่ทุกคนตั้งตารอคือ Volkswagen ID.GTI Concept จะเป็นผู้สืบทอดรถยนต์ไฟฟ้าของ Volkswagen Golf GTI ในตำนานได้จริงหรือไม่? ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่า Volkswagen จะสามารถผสมผสานความเร้าใจในการขับขี่แบบ GTI เข้ากับเทคโนโลยีไฟฟ้าได้อย่างไร นี่คือรถยนต์ที่จะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วและสมรรถนะอย่างแน่นอน

บทสรุปและคำเชิญพิเศษ

โลกของยานยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 และ 2026 ที่เต็มไปด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าตื่นเต้นและนวัตกรรมล้ำสมัย จากรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางวิ่งไกล ไปจนถึง City Car ไฟฟ้าที่ราคาเข้าถึงได้ และ SUV สุดหรูที่เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ตัวเลือกมากมายเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของผู้ผลิตในการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค

ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าช่วงเวลานี้เป็นโอกาสทองสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์คันใหม่ การมีข้อมูลที่ครบถ้วนจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดและเลือกรถยนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี สมรรถนะ ความหรูหรา หรือความคุ้มค่า รถยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้พร้อมที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า

อย่าพลาดโอกาสในการเป็นเจ้าของอนาคตของการเดินทาง! หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นรถยนต์ที่คุณสนใจ หรือต้องการคำแนะนำส่วนตัวในการเลือกรถยนต์ที่ตอบโจทย์ที่สุด ผมขอเชิญชวนให้คุณติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราเพื่อขอคำปรึกษาฟรี หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อติดตามข่าวสารและบทวิเคราะห์ล่าสุดเกี่ยวกับตลาดรถยนต์รุ่นใหม่ เราพร้อมที่จะช่วยให้การตัดสินใจซื้อรถยนต์คันต่อไปของคุณเป็นเรื่องง่ายและคุ้มค่ายิ่งขึ้น

Previous Post

N0711035 อยากจ ดงานว นเก ดแต โดนสะใภ มกำเน ดก อน part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0711034 ามไปงานศพแม part 2
  • N0711035 อยากจ ดงานว นเก ดแต โดนสะใภ มกำเน ดก อน part 2
  • N0711033 กล กในว นท ประโยชน part 2
  • N0711031 กสะใภ ไม เคยกล าพ ดก บแม สาม part 2
  • N0611027 กล กก องร กแม วย part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.