ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เปิดโผรถยนต์ใหม่ 2025-2026: อนาคตยานยนต์ที่คุณต้องรู้ ก่อนตัดสินใจซื้อ!
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากมาย แต่ไม่มีครั้งไหนจะน่าตื่นเต้นและรวดเร็วเท่ากับช่วงเวลานี้ที่เรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2025 และ 2026 ตลาดรถยนต์ทั่วโลกกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ด้วยนวัตกรรมที่ก้าวกระโดด ทั้งในด้านเทคโนโลยีขับเคลื่อน พลังงานทางเลือก และระบบอัจฉริยะที่เชื่อมโยงกัน การตัดสินใจซื้อรถยนต์ในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การเลือกรุ่นที่ชอบ แต่เป็นการลงทุนในอนาคตที่ต้องอาศัยข้อมูลเชิงลึกและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล
ในคู่มือฉบับสมบูรณ์นี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกถึงสุดยอดรถยนต์รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวและเข้ามาพลิกโฉมวงการยานยนต์ในปี 2025 และต่อเนื่องไปถึงปี 2026 ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (EV), รถยนต์ไฮบริดประหยัดพลังงาน (Hybrid), รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก (Hatchback), รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) สำหรับครอบครัว หรือแม้แต่รถยนต์หรูระดับพรีเมียม บทความนี้จะมอบข้อมูลเชิงลึกจากประสบการณ์จริง เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจถึงแนวโน้มล่าสุด ประเมินความคุ้มค่า และเลือกสรรรถยนต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความต้องการของคุณได้อย่างลงตัวที่สุด เราจะมาดูกันว่ามีรถยนต์รุ่นใดบ้างที่น่าจับตามองเป็นพิเศษในปีแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้
ยานยนต์แห่งอนาคต: รถยนต์ใหม่ 2025 และ 2026 ที่ไม่ควรมองข้าม
ตลาดรถยนต์ปี 2025-2026 กำลังจะคึกคักเป็นพิเศษ ด้วยการปรากฏตัวของนวัตกรรมยานยนต์จากหลากหลายค่ายยักษ์ใหญ่ ที่พร้อมจะเข้ามาเติมเต็มช่องว่างและสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับตลาด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่มาพร้อมกับระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น การชาร์จที่รวดเร็วขึ้น หรือแม้แต่รถยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่โดยเฉพาะ มาดูกันว่าแต่ละรุ่นมีอะไรน่าสนใจบ้าง
DS No8
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ | เปิดตัว: พร้อมจำหน่าย | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2.2 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
ในฐานะที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า DS No8 คือการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนของ DS ในการก้าวขึ้นสู่แบรนด์รถยนต์หรูระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนอย่างแท้จริง ด้วยแพลตฟอร์มเดียวกับ Peugeot e-3008 ทำให้ No8 มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แต่สิ่งที่ทำให้มันโดดเด่นคือการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ล้ำสมัย และเส้นสายที่ดูโฉบเฉี่ยวเป็นพิเศษ การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ช่วยให้รถคันนี้ทำระยะทางวิ่งได้น่าประทับใจถึง 466 ไมล์ (ประมาณ 750 กม.) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สามารถลดความกังวลเรื่องระยะทาง (Range Anxiety) ได้อย่างมีนัยสำคัญ No8 ตั้งใจจะเข้ามาท้าชนกับคู่แข่งอย่าง Audi Q6 e-tron และ Tesla Model Y โดยมุ่งเน้นที่ความหรูหรา ประสิทธิภาพ และประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ สำหรับตลาดไทย ผมเชื่อว่า DS No8 จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีสไตล์โดดเด่นและไม่เหมือนใคร พร้อมเทคโนโลยีชั้นนำที่ตอบโจทย์การเดินทางไกลและความสะดวกสบายสูงสุด
Fiat Grande Panda
ประเภท: รถยนต์ไฮบริดและ EV ขนาดเล็ก | เปิดตัว: พร้อมจำหน่าย (ปลายปี 2025) | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 7.9 แสนบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
การกลับมาของ Fiat Grande Panda คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิกของยุค 80s กับเทคโนโลยีรถยนต์ยุคใหม่ในร่างของรถยนต์ขนาดเล็กที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ ผมเชื่อว่านี่คือกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดของ Fiat ในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มองหารถยนต์ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง รถรุ่นนี้ถูกเปิดตัวไปเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่จะเริ่มวางจำหน่ายจริงช่วงปลายปี 2025 โดยมีทั้งรุ่นไฮบริดและไฟฟ้าล้วนให้เลือก การออกแบบภายนอกยังคงกลิ่นอายของ Panda ดั้งเดิมไว้อย่างชัดเจน แต่ปรับให้ดูทันสมัยขึ้น ภายในห้องโดยสารก็มีการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และ Fiat ยืนยันว่ารองรับผู้โดยสารได้ถึง 5 คนอย่างสบาย ๆ ซึ่งถือว่าน่าประทับใจสำหรับรถยนต์ขนาดเล็ก Grande Panda จะเข้ามาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในกลุ่มรถยนต์ขนาดเล็กที่ราคาเข้าถึงได้ และอาจเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Renault 5 ใหม่ สำหรับผู้ใช้งานในเมืองที่ต้องการความคล่องตัว ประหยัดพลังงาน และมีสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร Grande Panda คือตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
Jaguar GT EV
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าหรู | เปิดตัว: 2026 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 4.4 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Jaguar GT EV คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า Jaguar กำลังกลับมาผงาดอีกครั้งในตลาดรถยนต์หรู การเผยโฉมแนวคิดของ GT EV ได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก และผมมองว่านี่คือการทบทวน DNA ของแบรนด์ใหม่ พร้อมกับการก้าวเข้าสู่ยุคไฟฟ้าอย่างเต็มตัว แนวคิดเริ่มต้นเป็นรถคูเป้สองประตูที่มีเส้นสายคมกริบและเตี้ย แต่รุ่นผลิตจริงจะเป็นรถ GT สี่ประตู ซึ่งยังคงรักษาการออกแบบที่หรูหราและภายในที่ล้ำสมัยใกล้เคียงกับแนวคิดเดิม สิ่งที่น่าจับตามองคือการเป็นรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 100% ที่มาพร้อมกับระยะทางวิ่งที่ยาวนานและความสามารถในการชาร์จที่รวดเร็ว ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความหรูหรา ประสิทธิภาพ และความยั่งยืนไปพร้อมกัน ด้วยราคาที่สูงกว่า 100,000 ปอนด์ Jaguar GT EV จะเข้ามาในตลาดพรีเมียมอย่างเต็มตัว และจะเป็นสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสุนทรียภาพในการออกแบบของ Jaguar อีกครั้ง
Jeep Wagoneer S
ประเภท: รถยนต์ SUV ไฟฟ้า | เปิดตัว: 2025 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 3.3 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบแบรนด์อเมริกันอย่าง Jeep และกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า Wagoneer S คือการตอบโจทย์ที่สมบูรณ์แบบ นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าล้วนรุ่นแรกของ Jeep ที่จะทำตลาดทั่วโลก ซึ่งผมมองว่าเป็นการปรับตัวที่สำคัญของแบรนด์นี้ในการเข้าสู่ยุค EV อย่างเต็มตัว Wagoneer S ถูกวางตำแหน่งให้เป็นทางเลือกไฟฟ้าของ Jeep Grand Cherokee โดยมีเป้าหมายที่จะท้าชนกับคู่แข่งอย่าง BMW iX และ Mercedes-Benz EQE SUV ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 100kWh คาดว่าจะทำระยะทางวิ่งได้มากกว่า 300 ไมล์ (ประมาณ 480 กม.) ภายในห้องโดยสารจะถูกออกแบบให้มีความหรูหราระดับไฮเอนด์ พร้อมฟีเจอร์ระดับพรีเมียมมากมาย เพื่อให้ทัดเทียมกับคู่แข่งในกลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่โดยสารที่กว้างขวาง และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาด 866 ลิตร ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานของครอบครัวและการผจญภัยได้อย่างดีเยี่ยม
Kia EV4
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า Hatchback และ Saloon | เปิดตัว: พร้อมจำหน่าย | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.5 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Kia ยังคงตอกย้ำความสำเร็จในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเปิดตัว EV4 ที่มาพร้อมดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์และล้ำสมัยอีกครั้ง จากประสบการณ์ของผม Kia มีความสามารถในการสร้างรถยนต์ไฟฟ้าที่ดึงดูดใจและใช้งานได้จริง EV4 ถือเป็นทางเลือกแบบ Hatchback ของ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัลมากมาย โดยมีขนาดตัวถังที่ยาวกว่าเล็กน้อย และจะเข้ามาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Tesla Model 3 และ Polestar 2 นอกจากรุ่น Hatchback แล้ว ยังอาจมีรุ่น Saloon ที่มีดีไซน์โดดเด่นไม่แพ้กันในบางตลาด EV4 มีตัวเลือกแบตเตอรี่สองขนาด โดยขนาดใหญ่ที่สุดสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 390 ไมล์ (ประมาณ 630 กม.) ซึ่งเป็นระยะทางที่เพียงพอสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและเดินทางไกลได้สบาย ๆ ด้วยราคาที่เริ่มต้นเข้าถึงได้ Kia EV4 จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าที่มีสไตล์ ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่า
Maxus MIFA 7
ประเภท: รถยนต์ MPV ไฟฟ้า | เปิดตัว: พร้อมจำหน่าย | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.7 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Maxus MIFA 7 คือการเข้ามาเติมเต็มช่องว่างในตลาดรถยนต์ MPV ไฟฟ้าขนาดใหญ่สำหรับครอบครัวอย่างแท้จริง ด้วยขนาดความยาวประมาณ 4.9 เมตร และที่นั่ง 7 ที่นั่ง ผมมองว่า MIFA 7 เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับครอบครัวใหญ่ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่มีพื้นที่กว้างขวาง ประตูบานเลื่อนด้านหลังช่วยให้การเข้า-ออกห้องโดยสารเป็นไปอย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นฟังก์ชันที่สำคัญสำหรับรถ MPV รุ่นนี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่ายกว่า Volkswagen ID.Buzz และ Lexus LM ในราคาที่เกือบครึ่งเดียว มีแบตเตอรี่ให้เลือกสองขนาด คือ 77kWh และ 90kWh โดยขนาดใหญ่กว่าทำระยะทางได้ 298 ไมล์ (ประมาณ 480 กม.) ภายในห้องโดยสารมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และหลังคากระจกพาโนรามาที่ช่วยให้ห้องโดยสารดูโปร่งโล่งสบาย การจัดเรียงที่นั่งแบบ 2-2-3 ก็ใช้งานได้จริงและยืดหยุ่น
Mercedes-Benz CLA
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า Saloon | เปิดตัว: พร้อมจำหน่าย | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 2 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Mercedes-Benz CLA รุ่นใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ไฟฟ้าซีรีส์ใหม่ของ Mercedes-Benz ที่จะมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ ด้วยประสบการณ์ของผม นี่คือการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Mercedes ในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า จุดเด่นที่สำคัญคือระยะทางวิ่งที่เกือบ 500 ไมล์ (ประมาณ 800 กม.) ในรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลที่สุด ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งและทำให้ CLA โดดเด่นเหนือคู่แข่ง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ Infotainment ที่ทันสมัย และระบบชาร์จเร็วพิเศษ หากคุณยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Mercedes-Benz ก็ยังคงมีตัวเลือกรุ่นไฮบริดให้เลือกอีกด้วย CLA ใหม่จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ Saloon ขนาดเล็กพรีเมียมในตลาด พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหรา ทันสมัย และยั่งยืน
Range Rover Electric
ประเภท: รถยนต์ SUV หรู | เปิดตัว: ต้นปี 2026 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 5.5 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Range Rover Electric คือการปฏิวัติครั้งสำคัญของแบรนด์ SUV หรูระดับโลกอย่าง Range Rover นี่คือรถยนต์ Range Rover รุ่นแรกที่เป็นไฟฟ้าล้วน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้บริโภครอคอยอย่างใจจดใจจ่อ แม้ว่าจะเปิดรับพรีออเดอร์แล้วและคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายเต็มรูปแบบช่วงปลายปี 2025 แต่ก็ต้องบอกว่าราคาเริ่มต้นน่าจะสูงกว่า 125,000 ปอนด์ ซึ่งสะท้อนถึงความหรูหราเหนือระดับและสมรรถนะที่เทียบเท่า Range Rover V8 ในด้านรูปลักษณ์ภายนอก Range Rover Electric จะยังคงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Range Rover ไว้เกือบทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องแย่เลย เพราะเป็นดีไซน์ที่ได้รับการยอมรับและชื่นชอบอยู่แล้ว ภายในห้องโดยสารจะยังคงความโอ่อ่าและสะดวกสบายตามแบบฉบับ Range Rover การเป็นรถยนต์ไฟฟ้าจะทำให้การเดินทางของคุณไม่เพียงแต่หรูหรา แต่ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
Renault 4
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก | เปิดตัว: ฤดูร้อนปี 2025 | ราคาเริ่มต้น: ต่ำกว่า 1.3 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
หลังจากการประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายของ Renault 5 การกลับมาของ Renault 4 ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กก็เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง Renault 4 ใหม่เป็นการนำตำนานกลับมาตีความใหม่ในรูปแบบรถยนต์ 5 ประตูที่ใช้งานได้จริง ซึ่งผมมองว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กแบบดั้งเดิมอย่าง MINI Aceman ด้วยดีไซน์ที่มีลูกเล่นน่ารัก ๆ เช่น หลังคาผ้าใบไฟฟ้าที่เปิดได้ และช่องเก็บบาแกตต์ภายในห้องโดยสาร (ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Renault) ระบบ Infotainment ที่ใช้ Google เป็นพื้นฐานก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน รถรุ่นนี้จะมีระยะทางวิ่ง EV สูงสุด 250 ไมล์ (ประมาณ 400 กม.) และปั๊มความร้อนมาตรฐานที่ช่วยให้ประหยัดพลังงานในฤดูหนาว Renault 4 คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความคลาสสิก ประโยชน์ใช้สอย และเทคโนโลยีที่ทันสมัย
Renault Twingo
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า City Car | เปิดตัว: 2026 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 7.5 แสนบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
การกลับมาของ Renault Twingo ในฐานะรถยนต์ City Car ไฟฟ้าล้วน 5 ประตูถือเป็นการตอกย้ำว่ารถยนต์ขนาดเล็กราคาประหยัดยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาด ผมมองว่านี่คือการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาดของ Renault ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่าย Twingo อาจจะใช้เวลาอีกสักระยะในการเปิดตัวเต็มรูปแบบในปี 2026 แต่การรอคอยน่าจะคุ้มค่า เพราะ Renault ตั้งเป้าราคาเริ่มต้นไว้ที่ประมาณ 17,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า โดยคาดการณ์ว่าจะมีระยะทางวิ่งมากกว่า 150 ไมล์ (ประมาณ 240 กม.) การออกแบบย้อนยุค (Retro Styling) น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสำคัญ Twingo จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับการใช้งานในเมือง ด้วยราคาที่เป็นมิตรและดีไซน์ที่มีสไตล์
Skoda Epiq
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า Entry-level | เปิดตัว: ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น: ต่ำกว่า 8.8 แสนบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Skoda Epiq คือรถยนต์ไฟฟ้า Entry-level ราคาประหยัดรุ่นแรกของ Skoda ที่เราจะได้เห็นโฉมหน้ากันอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2025 ก่อนที่จะวางจำหน่ายในปี 2026 ผมเชื่อว่า Epiq จะเข้ามาสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มราคาเข้าถึงได้ ด้วยราคาที่คาดว่าจะต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ แต่ยังคงเป็นรถยนต์ 5 ประตูขนาด Supermini ที่มีพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 490 ลิตร ซึ่งเป็นจุดเด่นที่น่าประทับใจสำหรับรถยนต์ในกลุ่มนี้ ระยะทางวิ่งที่มีศักยภาพเกือบ 250 ไมล์ (ประมาณ 400 กม.) ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Epiq เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ใช้งานได้จริงและคุ้มค่า
Suzuki e Vitara
ประเภท: รถยนต์ SUV ไฟฟ้า | เปิดตัว: พร้อมจำหน่าย | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.1 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Suzuki e-Vitara คือรถยนต์ไฟฟ้าล้วนคันแรกที่ Suzuki รอคอยมานาน และเป็นรุ่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบริษัทในการบรรลุเป้าหมาย ZEV Mandate ปี 2030 จากประสบการณ์ของผม Suzuki เข้าใจตลาดและผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างดี การเปิดตัว e-Vitara จึงเป็นการตอบสนองต่อความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดอย่างตรงจุด e-Vitara จะวางจำหน่ายควบคู่ไปกับ Suzuki Vitara รุ่นเครื่องยนต์สันดาปไปอีกระยะหนึ่ง ในรุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 49kWh ซึ่งให้ระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ที่ 213 ไมล์ (ประมาณ 340 กม.) ด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ e-Vitara จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ SUV ไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
Toyota Urban Cruiser
ประเภท: รถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก | เปิดตัว: ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.5 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Toyota Urban Cruiser คือรถยนต์ SUV ขนาดเล็กที่พัฒนาขึ้นโดยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Suzuki e Vitara ผมมองว่านี่คือการเพิ่มตัวเลือกที่น่าสนใจให้กับกลุ่มรถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก โดย Urban Cruiser จะถูกวางตำแหน่งให้อยู่เหนือ Toyota Yaris Cross hybrid ที่มีอยู่เดิม เพื่อเป็นทางเลือกไฟฟ้าล้วนที่พร้อมจะแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง Kia EV3 และ Volvo EX30 คาดการณ์ว่าจะมีระยะทางวิ่งสูงสุด 250 ไมล์ (ประมาณ 400 กม.) และอาจมีรุ่น Dual-Motor พร้อมระบบขับเคลื่อน 4×4 สำหรับผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดเล็กน้อย นอกเหนือจากรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าหลัก ด้วยการเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 และราคาเริ่มต้นที่คาดการณ์ไว้ Urban Cruiser จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่แข็งแกร่งในตลาด SUV ไฟฟ้า
Volkswagen ID.EVERY1
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า City Car | เปิดตัว: 2027 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 7 แสนบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Volkswagen ID.EVERY1 คือรถยนต์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Volkswagen ในการก้าวสู่การเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในกลุ่มราคาประหยัด ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ที่ราคาเข้าถึงได้มากที่สุด ผมมองว่านี่คือกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดในการขยายฐานลูกค้า EV ให้กว้างขึ้น ราคาเริ่มต้นอาจจะต่ำเพียง 16,000 ปอนด์เมื่อเปิดตัวในปี 2027 รถรุ่นนี้ได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการจำหน่ายในยุโรปและสหราชอาณาจักร โดยผู้บริหารกล่าวว่านี่คือ “จิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายสู่การมีตัวเลือกรุ่นที่หลากหลายที่สุดในตลาดปริมาณมาก” ID.EVERY1 จะอยู่ต่ำกว่า Volkswagen ID.Polo ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ด้วยราคาที่น่าดึงดูดใจนี้ แน่นอนว่าแบตเตอรี่จะมีขนาดเล็ก แต่ Volkswagen ประมาณการระยะทางวิ่งไว้อย่างน้อย 155 ไมล์ (ประมาณ 250 กม.) ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมือง
Volkswagen ID.Polo
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า Hatchback ขนาดเล็ก | เปิดตัว: กลางปี 2026 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 9.7 แสนบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
เดิมทีรู้จักกันในชื่อแนวคิด Volkswagen ID.2 แต่ Volkswagen กำลังกลับไปใช้ชื่อแบบดั้งเดิมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเจเนอเรชั่นถัดไป จึงทำให้รถรุ่นนี้ถูกเรียกว่า VW ID.Polo ผมเชื่อว่านี่เป็นการเชื่อมโยยความรู้สึกคุ้นเคยของแบรนด์เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ID.Polo ได้รับการออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ง่าย ดังนั้นจึงคาดการณ์ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 22,000 ปอนด์ ซึ่งถือว่าสมเหตุสมผลสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เปี่ยมด้วยคุณภาพจาก Volkswagen รุ่นผลิตจริงของ VW ID.Polo คาดว่าจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่สองขนาด คือ 38kWh สำหรับรุ่นเริ่มต้น และ 56kWh สำหรับรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายตามความต้องการ
Volkswagen ID.GTI
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้า Hot Hatch | เปิดตัว: 2026 | ราคาเริ่มต้น: ประมาณ 1.3 ล้านบาท (อ้างอิงราคาต่างประเทศ)
Volkswagen ID.GTI Concept คือการแสดงให้เห็นถึงอนาคตของรถยนต์ Hot Hatch ไฟฟ้าที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง การได้เห็นรถยนต์รุ่นนี้มาพร้อมกับชุดแต่ง GTI เต็มรูปแบบ แชสซีที่สปอร์ต และสมรรถนะที่เร้าใจ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้รักความเร็วต้องจับตามอง ผู้บริหารได้ยืนยันแล้วว่ารถยนต์ที่ใช้พื้นฐานจาก Volkswagen ID.2 คันนี้จะเข้าสู่สายการผลิตจริงอย่างแน่นอน และมีแนวโน้มที่จะวางจำหน่ายในปี 2026 ด้วยราคาที่น่าดึงดูดใจ ต่ำกว่า 30,000 ปอนด์ ผมเชื่อว่า ID.GTI มีศักยภาพที่จะเป็นผู้สืบทอดรถยนต์ไฟฟ้าของ Volkswagen Golf GTI ในตำนานได้อย่างสมศักดิ์ศรี เราทุกคนต่างรอคอยที่จะได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจของ Hot Hatch ไฟฟ้าคันนี้
บทสรุป: อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยทางเลือกที่ชาญฉลาด
โลกยานยนต์ในปี 2025 และ 2026 กำลังจะนำเสนอทางเลือกที่น่าตื่นเต้นและหลากหลายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ก้าวล้ำด้วยระยะทางที่ไกลขึ้น การชาร์จที่เร็วขึ้น หรือรถยนต์ไฮบริดที่ยังคงเป็นสะพานเชื่อมสู่ยุคพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอย้ำว่าการทำความเข้าใจถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ แนวโน้มตลาด และความต้องการที่แท้จริงของคุณเอง คือกุญแจสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ที่ใช่สำหรับอนาคต
อย่ารีบร้อนตัดสินใจ สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบคุณสมบัติ และพิจารณาถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในด้านราคาเริ่มต้น ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน และแน่นอนที่สุดคือประสบการณ์การขับขี่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ
หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสอนาคต หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกรถยนต์ที่ใช่สำหรับคุณ อย่าลังเลที่จะติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเรา หรือเยี่ยมชมโชว์รูมเพื่อสัมผัสประสบการณ์จริงและปรึกษาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณได้แล้ววันนี้!
ยานยนต์แห่งอนาคตปี 2025-2026: คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับผู้ขับขี่ชาวไทย
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมใหม่ๆ มาโดยตลอด ปี 2025 กำลังจะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการมาถึงของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะเข้ามาพลิกโฉมประสบการณ์การขับขี่ของเรา ไม่ว่าคุณกำลังมองหารถยนต์ส่วนตัวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ รถยนต์ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน หรือรถ SUV อเนกประสงค์สำหรับครอบครัว คู่มือฉบับนี้จะพาคุณไปสำรวจทุกรายละเอียดของ “ยานยนต์แห่งอนาคต” ที่กำลังจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 ไปจนถึงตลอดปี 2026
ตลาดรถยนต์ในปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและความยั่งยืน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นกระแสหลักที่ผู้ผลิตทั่วโลกให้ความสำคัญ การแข่งขันที่ดุเดือดทำให้เกิดการพัฒนารถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้น และราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น ควบคู่ไปกับรถยนต์ไฮบริดที่ยังคงเป็นสะพานเชื่อมที่สำคัญ เราจะเห็นการผสมผสานของดีไซน์อันโดดเด่น นวัตกรรมการขับขี่อัจฉริยะ และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
หากคุณกำลังวางแผนที่จะลงทุนซื้อรถยนต์คันใหม่ ผมขอแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้อย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจก้าวเข้าสู่โชว์รูมใดๆ เพราะมีรถยนต์บางรุ่นที่กำลังจะมาถึงซึ่งคุ้มค่าแก่การรอคอยอย่างแน่นอน เราจะเจาะลึกถึงรุ่นที่น่าสนใจที่สุด ทั้งจากแบรนด์ยุโรป ญี่ปุ่น เกาหลี และจีน ที่พร้อมจะสร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์การเดินทางของคุณในปี 2025 และ 2026 นี้
รถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตาในปี 2025 และ 2026:
DS No8: นิยามใหม่แห่งรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมจากฝรั่งเศส
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): มากกว่า 2.3 ล้านบาท
DS No8 ถือเป็นเรือธงลำใหม่ที่น่าสนใจจากแบรนด์หรูสัญชาติฝรั่งเศสอย่าง DS Automobiles ที่มุ่งมั่นจะยกระดับตัวเองสู่ตลาดพรีเมียมอย่างแท้จริง รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่คันนี้ถูกพัฒนาบนแพลตฟอร์มเดียวกับ Peugeot e-3008 แต่มาพร้อมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นอย่างชัดเจน ด้วยเส้นสายที่โฉบเฉี่ยวและลู่ลม ส่งผลให้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำเป็นพิเศษ มอบระยะทางวิ่งสูงสุดที่น่าประทับใจถึง 750 กิโลเมตร (466 ไมล์) เมื่อติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุด
DS No8 ไม่ได้เป็นแค่รถยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นเสมือนงานศิลปะเคลื่อนที่ที่สะท้อนถึงปรัชญา “Spirit of Avant-Garde” ของแบรนด์ ภายในห้องโดยสารคาดว่าจะหรูหรา โอ่อ่า และเต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย มอบประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับ คู่แข่งในตลาดของ DS No8 ได้แก่ Audi Q6 e-tron และ Tesla Model Y ซึ่งล้วนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับ การมาของ DS No8 จึงเป็นการประกาศศักดาครั้งสำคัญของ DS ในตลาดโลก
Fiat Grande Panda: การกลับมาของไอคอนยุค 80 ในร่าง EV/ไฮบริด
ประเภท: รถยนต์ขนาดเล็กไฮบริดและ EV | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 830,000 บาท
Fiat Grande Panda คือการตีความใหม่ของรถยนต์ City Car สุดคลาสสิกแห่งยุค 1980 อย่าง Panda ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบที่ทันสมัยยิ่งขึ้น แม้จะเปิดตัวไปเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ก็คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายจริงในช่วงปลายปี 2025 นี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจสำหรับรุ่นไฮบริด และรุ่นไฟฟ้าที่ราคาไม่ห่างกันมากนัก
สิ่งที่ทำให้ Grande Panda โดดเด่นคือการผสมผสานระหว่างความย้อนยุค (Retro-infused) กับความสดใหม่ได้อย่างลงตัว ดีไซน์ภายนอกยังคงกลิ่นอายของ Panda ดั้งเดิม แต่ถูกปรับให้เข้ากับยุคสมัย ภายในห้องโดยสารคาดว่าจะเต็มไปด้วยลูกเล่นและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางเพียงพอสำหรับผู้โดยสาร 5 คน Fiat สัญญาว่า Grande Panda จะเป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่น่ารัก ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้ง่าย มันจะเข้ามาเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Renault 5 รุ่นใหม่ ในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ราคาไม่แพงและ “ต้องมี” สำหรับชีวิตในเมือง
Jaguar GT EV: อนาคตแห่งความหรูหราและสมรรถนะของอังกฤษ
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าหรูหรา | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปี 2026 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 4.6 ล้านบาท
Jaguar GT EV Concept ได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก และนำพาแบรนด์ Jaguar กลับมาอยู่บนแผนที่ยานยนต์อีกครั้งหลังจากซบเซาไปหลายปี คอนเซ็ปต์คาร์ที่เผยโฉมนั้นเป็นรถคูเป้สองประตูที่ออกแบบได้สุดขีด มีเส้นสายที่คมชัด ทรงต่ำ และมีความสง่างามที่ชวนให้นึกถึง Rolls-Royce Spectre
แม้รุ่นผลิตจริงจะเป็นรถ GT แบบสี่ประตู แต่คาดว่าดีไซน์ทั้งภายนอกและภายในจะไม่ห่างจากรถต้นแบบมากนัก Jaguar GT EV จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่มาพร้อมระยะทางวิ่งที่ยาวนาน และความสามารถในการชาร์จเร็วเป็นพิเศษ สมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และการขับขี่ที่น่าประทับใจ คือสิ่งที่ Jaguar สัญญาว่าจะมอบให้แก่ผู้ขับขี่ ราคาเริ่มต้นที่ทะลุ 4.6 ล้านบาท สะท้อนถึงการวางตำแหน่งในตลาดรถยนต์หรูหราขั้นสูง นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Jaguar ที่มุ่งมั่นจะก้าวเข้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงอย่างเต็มตัว
Jeep Wagoneer S: SUV ไฟฟ้าระดับโลกคันแรกจาก Jeep
ประเภท: SUV ไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 3.45 ล้านบาท
Jeep Wagoneer S คือรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ Jeep ที่จะวางจำหน่ายทั่วโลก ถือเป็นทางเลือกใหม่ที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แทนที่ Jeep Grand Cherokee แบบดั้งเดิม Jeep หวังให้ Wagoneer S เข้ามาแข่งขันกับคู่แข่งอย่าง BMW iX และ Mercedes-Benz EQE SUV ในตลาด SUV ไฟฟ้าระดับพรีเมียม
ด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 100kWh คาดว่าจะมอบระยะทางวิ่งได้มากกว่า 480 กิโลเมตร (300 ไมล์) ภายในห้องโดยสารจะถูกออกแบบมาอย่างหรูหรา พร้อมฟีเจอร์พรีเมียมมากมาย เพื่อให้ทัดเทียมกับคู่แข่งระดับเดียวกัน นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับพื้นที่โดยสารที่กว้างขวาง และพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 866 ลิตร ทำให้เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่ครบครันทั้งความหรูหรา สมรรถนะ และการใช้งาน
Kia EV4: ความสดใหม่ในโลกของรถยนต์ไฟฟ้า
ประเภท: รถแฮทช์แบ็กและซีดานไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 1.6 ล้านบาท
Kia EV4 เป็นอีกหนึ่งผลงานการออกแบบที่โดดเด่นและทันสมัยจาก Kia ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เปรียบเสมือนทางเลือกในรูปแบบแฮทช์แบ็กของ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัลมากมาย EV4 มีขนาดที่ยาวกว่าพี่น้องร่วมค่ายเล็กน้อย และจะเข้ามาแข่งขันกับ Tesla Model 3 และ Polestar 2
Kia EV4 คาดว่าจะมีทั้งรุ่นแฮทช์แบ็กและอาจมีรุ่นซีดานที่ออกแบบมาอย่างมีเอกลักษณ์เช่นกัน โดยมีตัวเลือกแบตเตอรี่สองขนาด โดยรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดสามารถวิ่งได้ไกลกว่า 627 กิโลเมตร (390 ไมล์) การเปิดตัวของ EV4 ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ Kia ในการนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าที่หลากหลาย ทั้งดีไซน์ล้ำสมัย เทคโนโลยีครบครัน และราคาที่เข้าถึงได้
Maxus MIFA 7: MPV ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่
ประเภท: MPV ไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 1.84 ล้านบาท
Maxus MIFA 7 คือรถยนต์ MPV ไฟฟ้าขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว ที่จะเข้ามาเติมเต็มตลาดที่กำลังเติบโต โดยจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่ารุ่นพี่อย่าง MIFA 9 ที่มีขนาดใหญ่พิเศษ MIFA 7 มีความยาวประมาณ 4.9 เมตร และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง สิ่งอำนวยความสะดวกที่โดดเด่นคือประตูบานเลื่อนด้านหลังที่ช่วยให้เข้าออกได้อย่างง่ายดาย
ถือเป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า Volkswagen ID.Buzz และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก EV ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับ Lexus LM แต่มาในราคาที่ต่ำกว่าเกือบครึ่ง มีตัวเลือกแบตเตอรี่ 2 ขนาด คือ 77kWh หรือ 90kWh โดยรุ่นที่ใหญ่กว่ามีระยะทางวิ่ง 480 กิโลเมตร (298 ไมล์) ภายในห้องโดยสารเน้นความไฮเทค พร้อมหลังคากระจกพาโนรามาที่ให้ความรู้สึกโปร่งสบาย และการจัดวางเบาะแบบ 2-2-3 ที่ใช้งานได้จริง
Mercedes-Benz CLA: การปฏิวัตินวัตกรรม EV จากค่ายดาวสามแฉก
ประเภท: ซีดานไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 2.1 ล้านบาท
Mercedes-Benz CLA รุ่นใหม่ เป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นคันแรกในซีรีส์รถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่ล้ำสมัยของ Mercedes-Benz จุดเด่นคือระยะทางวิ่งที่น่าทึ่งเกือบ 800 กิโลเมตร (500 ไมล์) ในรุ่นที่มีระยะทางวิ่งยาวที่สุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์สุดล้ำ และระบบชาร์จเร็วพิเศษ
Mercedes-Benz CLA ไม่ได้มีแค่รุ่นไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังจะมีรุ่นไฮบริดเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ การมาถึงของ CLA ใหม่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Mercedes-Benz ในการเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้า ที่ผสมผสานความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
Range Rover Electric: ความหรูหราที่มาพร้อมพลังงานสะอาด
ประเภท: SUV หรูหรา | วางจำหน่าย: คาดการณ์ต้นปี 2026 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 5.75 ล้านบาท
Range Rover Electric คือ Range Rover รุ่นแรกที่เป็นระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของ SUV หรูหราชื่อดังระดับโลก ขณะนี้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ว และคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2025 นี้
แม้ว่าราคาเริ่มต้นจะสูงกว่า 5.75 ล้านบาท แต่ Range Rover Electric จะยังคงความหรูหราเหนือระดับ ความประณีต และสมรรถนะที่ทัดเทียมกับ Range Rover V8 ในปัจจุบัน รูปลักษณ์ภายนอกจะยังคงคล้ายคลึงกับ Range Rover รุ่นใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ภายในห้องโดยสารจะยังคงความโอ่อ่าและอลังการ นี่คือการเดินทางสู่ยุคพลังงานสะอาดในรูปแบบที่หรูหราที่สุด
Renault 4: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กในตำนานที่กลับมาพร้อมความน่ารัก
ประเภท: รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก | วางจำหน่าย: คาดการณ์กลางปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ต่ำกว่า 1.4 ล้านบาท
Renault 4 ใหม่ตามรอยความสำเร็จของ Renault 5 ที่เป็นการนำรถรุ่นคลาสสิกกลับมาสร้างสรรค์ใหม่ได้อย่างยอดเยี่ยม การกลับมาของ Renault 4 ในครั้งนี้เป็นรถยนต์ 5 ประตูที่ใช้งานได้จริง และจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กแบบดั้งเดิม เช่น MINI Aceman รุ่นใหม่
สิ่งที่ทำให้ Renault 4 โดดเด่นคือลูกเล่นที่น่ารัก เช่น หลังคาผ้าใบไฟฟ้าที่เปิดได้ และที่ยึดบาแกตต์ภายใน (สไตล์ฝรั่งเศส) ระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ใช้ Google เป็นพื้นฐานก็เป็นจุดเด่นสำคัญอีกประการหนึ่ง คาดว่าจะมีระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าสูงสุดถึง 400 กิโลเมตร (250 ไมล์) และปั๊มความร้อนมาตรฐานที่ช่วยให้ประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีขึ้นแม้ในฤดูหนาว
Renault Twingo: City Car ไฟฟ้าสุดคุ้มค่า
ประเภท: City Car ไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปี 2026 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 780,000 บาท
Renault Twingo ใหม่ คือการกลับมาของรถยนต์ City Car ที่เคยสร้างชื่อเสียงในด้านความคุ้มค่า ให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตูเต็มรูปแบบ แม้จะยังต้องรออีกสักพักสำหรับการเปิดตัวในปี 2026 แต่การรอคอยน่าจะคุ้มค่า เพราะ Renault ตั้งเป้าราคาเริ่มต้นไว้เพียงประมาณ 780,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่ยอดเยี่ยมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
Twingo คาดว่าจะมอบระยะทางวิ่งมากกว่า 240 กิโลเมตร (150 ไมล์) ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งานในเมือง ดีไซน์ย้อนยุคอันเป็นเอกลักษณ์ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสำคัญ ที่ทำให้ Twingo เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีสไตล์และราคาไม่แพง
Skoda Epiq: EV ระดับเริ่มต้นที่เข้าถึงได้จาก Skoda
ประเภท: EV ระดับเริ่มต้น | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ต่ำกว่า 920,000 บาท (โดยประมาณ)
Skoda Epiq เป็นภาพแรกของรถยนต์ไฟฟ้า Skoda ระดับเริ่มต้นที่ราคาเข้าถึงได้ คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในปี 2025 ก่อนที่จะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2026 คำว่า “เข้าถึงได้” หวังว่าจะหมายถึงราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 920,000 บาท แม้ว่า Epiq จะเป็นรถยนต์ 5 ประตูขนาด Supermini ที่มาพร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ถึง 490 ลิตร
ระยะทางวิ่งที่อาจสูงถึงเกือบ 400 กิโลเมตร (250 ไมล์) ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน Skoda Epiq มีศักยภาพที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับทุกคน ที่ให้ความคุ้มค่าทั้งด้านราคา พื้นที่ใช้สอย และระยะทางวิ่ง
Suzuki e Vitara: ก้าวแรกสู่ยุค EV ของ Suzuki
ประเภท: SUV ไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 1.2 ล้านบาท
Suzuki e Vitara คือรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่รอคอยมานานจากค่ายญี่ปุ่น ถือเป็นรุ่นสำคัญอย่างยิ่งในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ (ZEV Mandate) ของบริษัทในปี 2030 คาดว่าจะวางจำหน่ายควบคู่ไปกับ Suzuki Vitara ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในไปอีกระยะหนึ่ง
รุ่นเริ่มต้นของ Suzuki e Vitara มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 49kWh ซึ่งอาจดูไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มอบระยะทางวิ่งตามมาตรฐาน WLTP ได้ถึง 342 กิโลเมตร (213 ไมล์) ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 1.2 ล้านบาท Suzuki e Vitara จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ที่เชื่อถือได้จากแบรนด์ที่คุ้นเคย
Toyota Urban Cruiser: SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กจากยักษ์ใหญ่
ประเภท: SUV ไฟฟ้าขนาดเล็ก | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปลายปี 2025 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 1.6 ล้านบาท (โดยประมาณ)
Toyota Urban Cruiser คือ SUV ขนาดเล็กที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Suzuki e Vitara รุ่นใหม่ โดยจะถูกจัดให้อยู่เหนือ Toyota Yaris Cross ไฮบริดในปัจจุบัน ในฐานะทางเลือกแบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพื่อแข่งขันกับ Kia EV3 และ Volvo EX30
Urban Cruiser คาดว่าจะมีระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 400 กิโลเมตร (250 ไมล์) และอาจมีรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ dual-motor เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่บนสภาพถนนที่หลากหลาย นอกเหนือจากรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าหลัก คาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 ด้วยราคาเริ่มต้นประมาณ 1.6 ล้านบาท การมาของ Urban Cruiser จะเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ของ Toyota ในตลาด SUV ขนาดเล็ก
Volkswagen ID.EVERY1: EV ที่เข้าถึงง่ายที่สุดจาก VW
ประเภท: City Car ไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปี 2027 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 740,000 บาท (โดยประมาณ)
Volkswagen ID.EVERY1 เป็นรถยนต์ที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับยักษ์ใหญ่จากเยอรมนี ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าคันใหม่ที่ราคาเข้าถึงได้มากที่สุด โดยคาดว่าราคาจะเริ่มต้นเพียงประมาณ 740,000 บาท เมื่อเปิดตัวในปี 2027
รถยนต์คันนี้ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อการจำหน่ายในยุโรปและสหราชอาณาจักร โดยผู้บริหารระบุว่า “เป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายในการสร้างสรรค์ตัวเลือกโมเดลที่กว้างที่สุดในกลุ่มตลาดปริมาณมาก” ID.EVERY1 จะถูกจัดให้อยู่ต่ำกว่า Volkswagen ID.Polo ที่จะเปิดตัวในปี 2026 โดยมีคู่แข่งโดยตรงในตลาด EV ราคาต่ำกว่า 920,000 บาท เพียงไม่กี่รุ่น เช่น Dacia Spring และ Leapmotor T03 การตั้งราคาที่น่าดึงดูดใจนี้หมายถึงแบตเตอรี่ขนาดที่เล็กลง โดย Volkswagen ประมาณการระยะทางวิ่งไว้อย่างน้อย 250 กิโลเมตร (155 ไมล์)
Volkswagen ID.Polo: การกลับมาของชื่อดังในร่าง EV
ประเภท: แฮทช์แบ็กไฟฟ้าขนาดเล็ก | วางจำหน่าย: คาดการณ์กลางปี 2026 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 1 ล้านบาท (โดยประมาณ)
เดิมทีเป็นที่รู้จักในชื่อ Volkswagen ID.2 concept แต่ Volkswagen กำลังจะหวนคืนสู่ชื่อรุ่นแบบดั้งเดิมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ในอนาคต ดังนั้นรุ่นนี้จึงถูกเรียกว่า VW ID.Polo ออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าถึงได้ จึงคาดว่าราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านบาท
คาดว่ารุ่นผลิตจริงของ VW ID.Polo จะมีตัวเลือกแบตเตอรี่สองขนาด ได้แก่ ขนาด 38kWh สำหรับรุ่นเริ่มต้น และขนาด 56kWh ที่ใหญ่กว่าสำหรับรุ่นที่มีระยะทางวิ่งไกลขึ้น นี่คือการผสมผสานความคุ้นเคยของชื่อ Polo เข้ากับอนาคตของยานยนต์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว
Volkswagen ID.GTI: กำเนิดใหม่ของ Hot Hatch ไฟฟ้า
ประเภท: Hot Hatch ไฟฟ้า | วางจำหน่าย: คาดการณ์ปี 2026 | ราคาเริ่มต้น (โดยประมาณ): ตั้งแต่ 1.4 ล้านบาท
Volkswagen ID.GTI Concept คือตัวบ่งชี้แรกว่า Hot Hatch ไฟฟ้าในอนาคตจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร มาพร้อมชุดแต่ง GTI เต็มรูปแบบ แชสซีที่สปอร์ต และสมรรถนะที่เร้าใจ ผู้บริหารยืนยันว่ารถยนต์ที่ใช้พื้นฐานจาก Volkswagen ID.2 คันนี้จะเข้าสู่สายการผลิตอย่างแน่นอน
คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในปี 2026 และอาจมีราคาที่น่าดึงดูดใจไม่ถึง 1.4 ล้านบาท คำถามคือ Volkswagen ID.GTI Concept จะสามารถสืบทอดตำนานของ Volkswagen Golf GTI อันโด่งดังในฐานะรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างแท้จริงหรือไม่? เราตั้งตารอที่จะได้รู้คำตอบ
บทสรุป: อนาคตที่น่าตื่นเต้นของการขับขี่
ปี 2025 และ 2026 กำลังจะนำพารถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาสู่ตลาดมากมาย ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กที่เข้าถึงได้ ไปจนถึง SUV หรูหราที่ใช้พลังงานสะอาด และรถยนต์สมรรถนะสูงที่มาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ แต่เป็นการกำหนดทิศทางใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก และมอบทางเลือกที่หลากหลายยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคอย่างเรา
ในฐานะผู้ขับขี่ เรามีโอกาสที่จะได้สัมผัสกับนวัตกรรมที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นระยะทางวิ่งที่ไกลขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า ความเร็วในการชาร์จที่ลดลง เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ที่ฉลาดขึ้น หรือดีไซน์ที่ผสมผสานความคลาสสิกเข้ากับความล้ำสมัยได้อย่างลงตัว สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจความต้องการของตัวเอง และศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจเลือกรถยนต์คันใหม่ที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณ
อย่ารอช้าที่จะสัมผัสอนาคตของการเดินทาง! หากคุณสนใจในรถยนต์รุ่นใดเป็นพิเศษ หรือต้องการข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม ผมขอแนะนำให้คุณติดตามข่าวสารล่าสุดจากผู้ผลิตอย่างใกล้ชิด เยี่ยมชมโชว์รูมเมื่อรถยนต์เหล่านี้เริ่มเปิดตัว และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ อนาคตของการขับขี่กำลังรอคุณอยู่ และมันจะน่าตื่นเต้นกว่าที่เคยเป็นมาอย่างแน่นอน!
