ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เผยโฉมสุดยอดรถยนต์รุ่นใหม่ประจำปี 2025: เจาะลึกนวัตกรรมยานยนต์แห่งอนาคตที่กำลังจะพลิกโฉมตลาด
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมขอยืนยันว่าปี 2025 นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมรถยนต์ไปอีกหลายปีข้างหน้า เรากำลังอยู่ในช่วงที่เทคโนโลยีก้าวล้ำอย่างไม่หยุดยั้ง ความต้องการของผู้บริโภคมีความหลากหลาย และความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมก็ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมยานยนต์ใหม่ ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมกับการเข้ามาของผู้เล่นหน้าใหม่จากจีน ทำให้เกิดการแข่งขันที่ดุเดือดและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับผู้บริโภค
บทความนี้ ผมจะพาคุณผู้อ่านทุกท่านไปเจาะลึกถึงรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตาที่สุด ซึ่งจะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป จนถึงปี 2026 และในอนาคตอันใกล้ ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Car) รถยนต์ไฟฟ้า 100% (Pure EV) และแม้แต่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ที่ยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกการเคลื่อนไหวสำคัญในโลกยานยนต์
ภาพรวมตลาดและเทรนด์ยานยนต์ปี 2025: ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน
สถานการณ์ตลาดรถยนต์ในปี 2025 มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง แม้ว่าทิศทางของโลกจะมุ่งสู่ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างชัดเจน เพื่อลดการปล่อยมลพิษและสอดรับกับกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นในหลายประเทศ แต่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและรถยนต์ไฮบริดก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะในตลาดที่โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟยังไม่ครอบคลุม 100% หรือผู้บริโภคที่ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน
การเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า (EV): รถยนต์ไฟฟ้า 100% ยังคงเป็นดาวเด่น ด้วยนวัตกรรมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางวิ่ง (Range) ที่ไกลขึ้นและเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้ผลิตหลายรายกำลังทุ่มเทพัฒนาแพลตฟอร์ม EV โดยเฉพาะ เพื่อปลดล็อกศักยภาพด้านการออกแบบและสมรรถนะขั้นสูงสุด คำว่า “รถยนต์ไฟฟ้า” จึงไม่ได้เป็นเพียงทางเลือก แต่กำลังจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
ไฮบริดยังคงสำคัญ: สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมจะเปลี่ยนผ่านสู่ EV เต็มตัว รถยนต์ไฮบริด (Hybrid) และปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คือสะพานเชื่อมที่สมบูรณ์แบบ ด้วยความสามารถในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ โดยยังคงความสะดวกในการเติมน้ำมัน ผู้ผลิตหลายรายยังคงลงทุนในการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริดใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในกลุ่มนี้
ตลาด SUV ครองเมือง: ไม่ว่าจะเป็น EV หรือ Hybrid รถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV ยังคงเป็นเซกเมนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง ความอเนกประสงค์ และรูปลักษณ์ที่ทันสมัย ทำให้ “รถยนต์ SUV” กลายเป็นตัวเลือกหลักสำหรับครอบครัวและผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย
การเข้ามาของแบรนด์จีน: แบรนด์รถยนต์จากประเทศจีนได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในตลาดโลก รวมถึงประเทศไทย ด้วยการนำเสนอ “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาและฟังก์ชันการใช้งานที่ส่งผลดีต่อผู้บริโภคอย่างชัดเจน
นวัตกรรมและเทคโนโลยี: จากระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Driving) ไปจนถึงระบบสาระบันเทิงอัจฉริยะ (Infotainment) ที่เชื่อมต่อกับชีวิตประจำวันของผู้ใช้งาน “เทคโนโลยีรถยนต์” ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถยนต์รุ่นใหม่ไม่ได้เป็นแค่พาหนะ แต่เป็นอุปกรณ์อัจฉริยะบนล้อ
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่าปี 2025 คือจุดเริ่มต้นของยุคที่รถยนต์จะฉลาดขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เรามาดูกันว่ามี “รถยนต์ยอดนิยม” รุ่นไหนบ้างที่กำลังจะมาถึง
เจาะลึกรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าจับตาประจำปี 2025 และปีต่อ ๆ ไป
เราได้รวบรวมรายชื่อรถยนต์รุ่นใหม่ที่คาดการณ์ว่าจะสร้างความตื่นเต้นในตลาด โดยเรียงตามลำดับตัวอักษรของแบรนด์ เพื่อให้คุณได้เตรียมตัวก่อนใคร
Alfa Romeo Giulia (รุ่นต่อไป)
ภาพรวม: การกลับมาของ Giulia เจเนอเรชันถัดไปในปี 2026 ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับ Alfa Romeo เพราะรุ่นปัจจุบันได้สร้างมาตรฐานของรถยนต์ซีดานหรูสมรรถนะสูงไว้อย่างน่าประทับใจ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมคาดหวังว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นการยกระดับประสบการณ์ขับขี่ไปอีกขั้น
ไฮไลท์สำคัญ:
แพลตฟอร์ม STLA Large: Giulia ใหม่จะใช้แพลตฟอร์ม EV-focused STLA Large ของ Stellantis ซึ่งรองรับระบบไฟฟ้า 800V สำหรับการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางวิ่งเกิน 640 กิโลเมตร (400 ไมล์) พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ “ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า” นี้จะมอบสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม
ทางเลือกพลังงาน: จะมีทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซินไฮบริดและรุ่น “รถยนต์ไฟฟ้า” 100% ที่สำคัญคือการยืนยันว่าจะมีรุ่น Quadrofoglio พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน V6 อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ที่ยังคงหลงใหลในเสียงคำรามของเครื่องยนต์
การออกแบบ: คาดว่าจะยังคงรักษาดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สง่างาม และเป็นเอกลักษณ์ของ Alfa Romeo ไว้ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้แฟน ๆ ทั่วโลกหลงรัก
Alfa Romeo Stelvio (รุ่นต่อไป)
ภาพรวม: ก่อนที่ Giulia จะมาถึง Stelvio SUV เจเนอเรชันใหม่มีกำหนดเปิดตัวในครึ่งหลังของปี 2025 ซึ่งจะเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ SUV พรีเมียมของแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ไฮไลท์สำคัญ:
แพลตฟอร์ม STLA Large: เช่นเดียวกับ Giulia จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้ได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี EV ขั้นสูง
ทางเลือกพลังงาน: มีทั้งเครื่องยนต์เบนซินและ “ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า” และแน่นอนว่ารุ่น Quadrofoglio จะยังคงรักษาเครื่องยนต์เบนซินอันทรงพลังไว้ เพื่อมอบ “สมรรถนะสูง” ในแบบฉบับ Alfa Romeo
การตลาด: ผู้บริหารของแบรนด์ยืนยันว่า Stelvio Quadrofoglio จะยังคง “คำราม” ซึ่งสื่อถึงขุมพลังเครื่องยนต์ที่เร้าใจ
Audi Q6 e-tron และ A6 e-tron
ภาพรวม: Audi ยังคงเดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้งในการเสริมทัพ “รถยนต์ไฟฟ้า” ในกลุ่มพรีเมียม ปี 2024 เป็นปีที่ Audi ประสบความสำเร็จอย่างมากกับการเปิดตัวหลายรุ่น และในปี 2025 ก็ยังคงมีรุ่นใหม่ที่น่าจับตาอย่าง Q6 e-tron SUV และ A6 e-tron Saloon ซึ่งใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาร่วมกับ Porsche
ไฮไลท์สำคัญ:
แพลตฟอร์ม PPE: ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์ม Premium Platform Electric (PPE) ที่ล้ำสมัย ซึ่งออกแบบมาสำหรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” ระดับพรีเมียมโดยเฉพาะ
เทคโนโลยี 800V: รองรับการชาร์จเร็วเป็นพิเศษ ทำให้สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้จำนวนมากในเวลาอันสั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่
ระยะทางวิ่ง: คาดว่าจะสามารถทำระยะทางวิ่งได้น่าประทับใจ สูงถึง 600 กิโลเมตรขึ้นไป (ตามมาตรฐาน WLTP)
ดีไซน์: Audi ขึ้นชื่อเรื่องการออกแบบที่หรูหรา ล้ำสมัย และเส้นสายที่คมชัด Q6 e-tron และ A6 e-tron จะยังคงสะท้อนเอกลักษณ์นี้ พร้อมด้วยการปรับปรุงภายในที่เน้นเทคโนโลยีและคุณภาพวัสดุระดับ “รถยนต์หรู”
BMW iX3 (Neue Klasse)
ภาพรวม: BMW iX3 ใหม่ที่เผยโฉมไปแล้ว ถือเป็นก้าวแรกของโมเดล “Neue Klasse” ซึ่งเป็นซีรีส์รถยนต์ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เพื่อให้แบรนด์ก้าวทัน “เทคโนโลยีรถยนต์” ล่าสุด
ไฮไลท์สำคัญ:
แพลตฟอร์ม Neue Klasse: แพลตฟอร์มใหม่นี้ไม่เพียงแต่เน้นด้านวิศวกรรม แต่ยังรวมถึงเทคโนโลยีภายในรถยนต์ด้วย เช่น ระบบ iDrive infotainment ล่าสุด
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่: ทำให้ iX3 รุ่นกลางสามารถทำระยะทางวิ่งได้สูงถึง 800 กิโลเมตร (500 ไมล์) และมีรุ่นที่วิ่งได้ไกลกว่านั้นกำลังจะตามมา ซึ่งเป็นการตอบโจทย์เรื่อง “ระยะทางวิ่ง” ที่เป็นข้อกังวลหลักของผู้ใช้ EV
สถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V: ช่วยให้การชาร์จเร็วขึ้นอย่างน่าทึ่ง สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ประมาณ 400 กิโลเมตร (250 ไมล์) ในเวลาเพียง 10 นาทีที่สถานีชาร์จที่รองรับ
BYD Atto 2
ภาพรวม: ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นว่า BYD Atto 2 เป็นตัวแปรสำคัญในตลาด “รถยนต์ SUV ไฟฟ้า” ขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีที่อัดแน่นในราคาที่น่าสนใจ ทำให้เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับแบรนด์อื่น ๆ
ไฮไลท์สำคัญ:
เทคโนโลยีจัดเต็ม: Atto 2 มาพร้อมเทคโนโลยีมาตรฐานที่หลากหลาย เช่น จอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้วที่หมุนได้, Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, กล้อง 360 องศา, เบาะและพวงมาลัยหน้าอุ่น และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่กว่าสิบรายการ
ระยะทางวิ่ง: รุ่นเริ่มต้น ‘Boost’ ให้ระยะทางวิ่ง 338 กิโลเมตร (210 ไมล์) และจะมีรุ่นแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่าตามมา ซึ่งทำให้มั่นใจได้ในเรื่อง “ระยะทางวิ่ง” สำหรับการใช้งานในเมือง
ราคาที่เข้าถึงได้: ด้วยราคาที่คาดว่าจะแข่งขันได้ Atto 2 จะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง โดยเฉพาะในตลาดเกิดใหม่
Citroën e-C3 และ C3 Aircross
ภาพรวม: Citroën กำลังปรับโฉมผลิตภัณฑ์ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม “รถยนต์ไฟฟ้า” ขนาดเล็กและ SUV ที่เน้นความสบายและความคุ้มค่า
ไฮไลท์สำคัญ:
e-C3: ถูกวางตำแหน่งให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” สำหรับคนหมู่มาก ด้วยราคาเริ่มต้นที่น่าดึงดูดใจ แบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ขนาด 44kWh ให้ระยะทางวิ่งที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน (ประมาณ 320 กิโลเมตร หรือ 199 ไมล์) และจะมีการนำเสนอตัวเลือกแบตเตอรี่ที่ราคาถูกลงพร้อมระยะทางวิ่งประมาณ 200 กิโลเมตร (124 ไมล์) ดีไซน์แบบครอสโอเวอร์และเบาะ Active Comfort อันเป็นเอกลักษณ์ของ Citroën ยังคงอยู่
C3 Aircross: คู่แข่งสำคัญของ Dacia Duster มาพร้อมความอเนกประสงค์เหนือคาด ด้วยตัวเลือก 5 หรือ 7 ที่นั่ง แม้จะเป็น SUV ขนาดเล็ก (ยาวเพียง 4.39 เมตร) มีตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และ “รถยนต์ไฟฟ้า” โดยรุ่น e-C3 Aircross EV จะมีระยะทางวิ่งระหว่าง 302-402 กิโลเมตร (188-250 ไมล์) “รถยนต์ครอบครัว” ที่ครบเครื่องในราคาเข้าถึงได้
Dacia Bigster
ภาพรวม: Dacia กำลังสร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ที่นำเสนอ “รถยนต์ประหยัดพลังงาน” และคุ้มค่า ปี 2025 เป็นปีที่ Dacia Bigster จะเข้ามาเขย่าตลาด SUV ขนาดกลาง ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่สำคัญมากในหลายประเทศ
ไฮไลท์สำคัญ:
ความคุ้มค่า: ตามสไตล์ของ Dacia Bigster จะเน้นความคุ้มค่าและฟังก์ชันการใช้งานเป็นหลัก แต่ยังคงดีไซน์ที่ทันสมัยและแข็งแกร่ง
ตำแหน่งทางการตลาด: เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia จะเปิดตัวใน C-segment ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดรถยนต์ที่มีการแข่งขันสูง และมีเป้าหมายที่จะท้าชนกับรุ่นยอดนิยมอย่าง Skoda Octavia
การออกแบบ: Bigster ที่เป็นรถแนวคิดมีรูปลักษณ์ที่สมบุกสมบันและเป็นธรรมชาติ ซึ่งน่าจะถูกใจผู้บริโภคที่มองหา “รถยนต์ SUV” ที่ใช้งานได้จริง
Ferrari Elettrica
ภาพรวม: แม้ฟังดูเหมือนเรื่องเหลือเชื่อ แต่ Ferrari กำลังก้าวเข้าสู่ยุค “รถยนต์ไฟฟ้า” อย่างเต็มตัว การเปิดตัว Ferrari Elettrica (ซึ่งแปลว่า ‘ไฟฟ้า’ ในภาษาอิตาลี) ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ของแบรนด์ม้าลำพอง
ไฮไลท์สำคัญ:
ดีไซน์: จากภาพถ่ายสายลับ คาดว่า EV คันแรกจาก Maranello จะเป็นรถยนต์สี่ประตู ไม่ใช่ซูเปอร์คาร์สองประตู แต่คงไม่ใช่ SUV สี่เหลี่ยมทื่อๆ อย่างแน่นอน น่าจะเป็นสปอร์ตคาร์สี่ประตูสี่ที่นั่งที่มีดีไซน์ดุดันคล้าย Purosangue
ประสบการณ์การขับขี่: Ferrari มุ่งมั่นที่จะทำให้ Elettrica ยังคงมอบประสบการณ์ “ขับขี่สนุก” และเร้าใจในแบบฉบับของ Ferrari แม้จะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” 100%
สมรรถนะ: แม้ยังไม่มีข้อมูลทางการ แต่คาดว่า “สมรรถนะสูง” จะเป็นหัวใจสำคัญของ Ferrari EV คันนี้อย่างแน่นอน เพื่อรักษาชื่อเสียงของแบรนด์
Ford Capri EV และ Mustang GTD
ภาพรวม: Ford กำลังปลุกตำนาน “รถยนต์ยอดนิยม” ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบที่แตกต่างกัน Capri ที่กลับมาในรูปแบบ “รถยนต์ SUV ไฟฟ้า” และ Mustang ที่ยังคงรักษาเครื่องยนต์ V8 อันทรงพลังไว้ ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์ที่หลากหลายของ Ford
ไฮไลท์สำคัญ:
Ford Capri EV: หลังจากการหายไปนานกว่า 40 ปี Capri กลับมาในฐานะ “รถยนต์ SUV ไฟฟ้า” โดยใช้แพลตฟอร์ม EV เดียวกับ Explorer ใหม่และ Puma EV การตัดสินใจนี้น่าจะสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนๆ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Ford ในการผลักดันยานยนต์ไฟฟ้า
Ford Mustang GTD: ในขณะที่หลายรุ่นกำลังเปลี่ยนไปใช้ไฟฟ้า Mustang กลับยืนหยัดด้วยเครื่องยนต์ V8 และ GTD คือรุ่นพิเศษที่อัดฉีดด้วยซูเปอร์ชาร์จ เน้นการขับขี่ในสนามแข่ง มอบพละกำลังกว่า 800 แรงม้า พร้อม “เทคโนโลยีรถยนต์” ที่ล้ำสมัยจากสนามแข่ง
Honda 0 Series SUV และ Prelude
ภาพรวม: Honda กำลังเร่งเครื่องในตลาด “รถยนต์ไฟฟ้า” ด้วยการเปิดตัว “0 Series” โดยมี SUV ขนาดกลางเป็นรุ่นแรก ตามมาด้วย Saloon เรือธง และการกลับมาของ Prelude อันเป็นตำนาน
ไฮไลท์สำคัญ:
Honda 0 Series SUV: เป็น EV คันแรกจากซีรีส์ใหม่ “0 Series” ที่จะเปิดตัวในปี 2026 ด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แสดงถึงวิสัยทัศน์ของ Honda ในการสร้าง “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน
Honda Prelude: การกลับมาของ Prelude หลังจากหายไปกว่าสองทศวรรษ เป็นการหวนคืนสู่ตลาดรถสปอร์ตคูเป้สองประตู “รถยนต์ไฮบริด” ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริง ‘S Shift’ ของ Honda ซึ่งจำลองเสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว เพื่อมอบประสบการณ์ “ขับขี่สนุก”
Hyundai Ioniq 9 และ Inster
ภาพรวม: Hyundai กำลังขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq EV อย่างรวดเร็ว จาก “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่เล็กที่สุดไปจนถึงใหญ่ที่สุด ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้บริโภค
ไฮไลท์สำคัญ:
Hyundai Ioniq 9: เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง ดีไซน์ล้ำยุค เป็นทางเลือกไร้มลพิษสำหรับ Hyundai Santa Fe ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกับ Kia EV9 แต่มาพร้อมแบตเตอรี่ 110.3kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงถึง 620 กิโลเมตร (385 ไมล์) ภายในหรูหราด้วยจอแสดงผลคู่ 12.3 นิ้ว ระบบตัดเสียงรบกวน และ AI Assistant เป็น “รถยนต์ครอบครัว” ที่กว้างขวางและล้ำสมัย
Hyundai Inster: “รถยนต์ไฟฟ้า” ขนาดเล็กที่น่ารักและใช้งานได้จริง มาพร้อมเบาะหลังแบบเลื่อนได้ที่ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์อย่างน่าประหลาดใจ สามารถรองรับกระดานโต้คลื่นได้ ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 368 กิโลเมตร (229 ไมล์) ด้วยราคาเริ่มต้นที่เข้าถึงได้ Inster จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในตลาด “รถยนต์ไฟฟ้าประหยัดพลังงาน”
Kia EV4 และ PV5
ภาพรวม: Kia ยังคงเป็นผู้นำในการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ “รถยนต์ไฟฟ้า” ด้วยการนำเสนอทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถยนต์เพื่อการพาณิชย์
ไฮไลท์สำคัญ:
Kia EV4: EV4 จะเป็นส่วนเสริมใหม่ในกลุ่ม “รถยนต์ไฟฟ้า” ของ Kia มีให้เลือกทั้งแบบซีดานที่โฉบเฉี่ยวและแฮทช์แบ็กห้าประตู ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล ให้ระยะทางวิ่งเกือบ 640 กิโลเมตร (400 ไมล์) เป็น “รถยนต์ครอบครัว” ที่เงียบสงบและกว้างขวาง
Kia PV5: Kia กำลังนำความเชี่ยวชาญด้าน EV มาสู่โลกของรถตู้เพื่อการพาณิชย์ โดยมี PV5 เป็นหัวหอก มีทั้งรุ่นแผงรถตู้และรุ่น MPV ที่จะมาท้าชนกับ Volkswagen ID. Buzz ด้วยดีไซน์ล้ำยุคและคุณสมบัติที่เน้นการใช้งานจริง “เทคโนโลยีรถยนต์” ใน PV5 จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง
Land Rover Defender OCTA
ภาพรวม: Defender OCTA คือสุดยอดแห่ง Land Rover Defender ด้วย “สมรรถนะสูง” ที่ไม่เคยมีมาก่อนในตระกูลนี้
ไฮไลท์สำคัญ:
ขุมพลัง V8: ใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร ที่ให้กำลังถึง 626 แรงม้า สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.8 วินาที
ช่วงล่าง 6D Dynamics: มาพร้อมระบบช่วงล่าง 6D Dynamics ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren เพื่อให้การควบคุมที่แม่นยำและ “ขับขี่สนุก” ทั้งบนถนนและออฟโรด
ราคา: ด้วยคุณสมบัติระดับสุดยอด ราคาคาดว่าจะสูงถึง 160,000 ปอนด์ (ประมาณ 7 ล้านบาท) ทำให้เป็น “รถยนต์ SUV” ระดับพรีเมียมตัวจริง
Lotus Mid-size SUV และ Electric Sports Car
ภาพรวม: Lotus ซึ่งมีชื่อเสียงด้านรถสปอร์ตน้ำหนักเบา กำลังพลิกโฉมเป็นผู้ผลิต “รถยนต์ไฟฟ้า” ระดับพรีเมียมอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้า
ไฮไลท์สำคัญ:
Lotus Mid-size SUV (Type 134): จะมาท้าชนกับ Porsche Macan Electric ด้วยราคาที่คาดว่าจะเริ่มต้นราว 70,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) ซึ่งต่ำกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ จะเปิดเผยโฉมในปี 2025 เป็น “รถยนต์ SUV” ที่ผสมผสานความหรูหราและสมรรถนะ
Lotus Electric Sports Car (Type 135): ในปี 2027 Lotus จะเปิดตัว “รถยนต์ไฟฟ้า” สปอร์ตคาร์คันแรกของบริษัท ซึ่งจะเป็นรุ่นมาแทน Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน จะสร้างบนแพลตฟอร์ม EV โดยเฉพาะที่ฐานการผลิต Hethel ในอังกฤษ ดีไซน์คาดว่าจะได้รับแรงบันดาลใจจาก Lotus Theory 1 concept เพื่อรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ในการมอบประสบการณ์ “ขับขี่สนุก”
Mercedes-Benz CLA และ GLC Electric
ภาพรวม: Mercedes-Benz ยังคงยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์ “รถยนต์ไฟฟ้า” ของตน โดย CLA และ GLC Electric เป็นตัวแทนของ “รถยนต์หรู” ระดับเริ่มต้นและ SUV ยอดนิยมที่ถูกนำเสนอในรูปแบบ EV
ไฮไลท์สำคัญ:
Mercedes CLA: จะเป็นรถยนต์ ‘Entry Luxury’ รุ่นแรกที่ใช้สถาปัตยกรรม MMA ใหม่ ระบบ “ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า” สามารถให้ระยะทางวิ่งเกือบ 800 กิโลเมตร (500 ไมล์) และ “ชาร์จเร็ว” ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูง เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือและมีราคาที่แข่งขันได้ดีกว่า EV รุ่นใหญ่บางรุ่นก่อนหน้า
Mercedes GLC Electric: เปิดตัวตามหลัง BMW iX3 ไม่นาน GLC Electric ใหม่นี้ใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ที่เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” โดยเฉพาะ พร้อมแบตเตอรี่ 94kWh ที่ให้ระยะทางวิ่ง 700 กิโลเมตร (435 ไมล์) และความเร็วในการ “ชาร์จเร็ว” DC สูงถึง 330kW รุ่นเปิดตัว GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า เพื่อ “สมรรถนะสูง”
Nissan Leaf และ Micra
ภาพรวม: Nissan ซึ่งเป็นผู้บุกเบิก “รถยนต์ไฟฟ้า” ด้วย Leaf กำลังปรับปรุงทั้ง Leaf และ Micra ให้ทันสมัยและตอบโจทย์ตลาด “รถยนต์ไฟฟ้า” ในปัจจุบัน
ไฮไลท์สำคัญ:
Nissan Leaf: จากผู้บุกเบิกสู่การปรับโฉมใหม่ Leaf ได้เปลี่ยนจากแฮทช์แบ็กครอบครัวเป็น “รถยนต์ SUV” ครอสโอเวอร์ที่โฉบเฉี่ยว ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ด้วยรูปทรงที่ลู่ลมและเทคนิคอื่นๆ ทำให้ Leaf ใหม่เป็นรถยนต์ที่แอโรไดนามิกที่สุดของ Nissan และมี “ระยะทางวิ่ง” สูงถึง 600 กิโลเมตร (375 ไมล์) ด้วยแบตเตอรี่ 75kWh ทำให้ “รถยนต์ประหยัดพลังงาน” คันนี้ยังคงมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ต่ำ
Nissan Micra: Micra ใหม่คือฝาแฝดของ Renault 5 ใหม่ ซึ่งเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ขนาดเล็กที่ได้รับการแปลงโฉม ไฟหน้ากลมขนาดใหญ่ที่คล้ายกับ Micra Mk3 ในตำนาน มาพร้อมกันชนท้ายที่ออกแบบใหม่ และแน่นอนว่ามีโลโก้และดีไซน์ล้อที่เป็นเอกลักษณ์ของ Nissan ตัวเลือกแบตเตอรี่ “ระยะทางวิ่ง” และสมรรถนะจะคล้ายคลึงกับ Renault 5
Porsche Boxster/Cayman Electric และ Cayenne Electric
ภาพรวม: Porsche กำลังนำรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางและ SUV ยอดนิยมของตนเข้าสู่ยุค “รถยนต์ไฟฟ้า” เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มตลาดและกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด
ไฮไลท์สำคัญ:
Boxster/Cayman Electric: รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางของ Porsche จะเปลี่ยนไปใช้ “ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า” โดยเฉพาะสำหรับรุ่นปกติ (รุ่น GT ระดับไฮเอนด์อาจยังคงเครื่องยนต์เบนซิน) ใช้แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้าที่พัฒนาโดย Porsche คาดว่าจะมีฐานล้อยาวขึ้นเพื่อรองรับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังห้องโดยสาร ช่วยในการกระจายน้ำหนักและตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำ เพื่อมอบประสบการณ์ “ขับขี่สนุก” แบบ Porsche
Cayenne Electric: Cayenne จะยังคงมีรุ่นเครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดในปัจจุบัน แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาถึง โดยใช้แพลตฟอร์ม PPE เดียวกับ Macan Electric คาดว่าจะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 100kWh มอเตอร์คู่ และระบบกันสะเทือนแบบ Active พร้อมความเป็นไปได้ของ “ชาร์จเร็ว” แบบไร้สาย (Wireless Charging) ที่อำนวยความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับ “รถยนต์ SUV” หรู
Range Rover Electric
ภาพรวม: Range Rover คือสุดยอด SUV หรูมานานกว่าครึ่งศตวรรษ และเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric ซึ่งเป็นการผสมผสานความหรูหราแบบดั้งเดิมเข้ากับ “นวัตกรรมยานยนต์” ไร้มลพิษ
ไฮไลท์สำคัญ:
ความเงียบสงบและการกลั่นกรอง: ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า พวกเขากำลังสร้าง Range Rover ที่เงียบสงบและกลั่นกรองที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยยังคงรักษา “เวทมนตร์” ที่ทำให้ Range Rover ประสบความสำเร็จไว้ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับ “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่ปราศจากการปล่อยไอเสียจากปลายท่อ
สมรรถนะและฟังก์ชัน: แม้จะเป็น EV คาดว่า Range Rover Electric จะยังคงรักษาความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดและความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ไว้
Skoda Epiq
ภาพรวม: Skoda กำลังสร้างความสำเร็จจาก Enyaq และวางแผนที่จะเปิดตัว “รถยนต์ SUV ไฟฟ้า” ที่มีขนาดและราคาที่หลากหลาย รวมถึงรุ่นที่คาดว่าจะมีราคาต่ำกว่า 20,000 ปอนด์ โดย Epiq concept เป็นการแสดงให้เห็นถึงทิศทางของ “รถยนต์ SUV” ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดรุ่นใหม่
ไฮไลท์สำคัญ:
ราคาที่เข้าถึงได้: Epiq จะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่ราคาไม่แพง ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าของ Skoda ในตลาด EV
ดีไซน์: จากแนวคิด Epiq concept คาดว่าจะมีดีไซน์ที่ทันสมัยและแข็งแกร่ง คล้ายกับ Kamiq แต่เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” 100%
อเนกประสงค์: Skoda ขึ้นชื่อเรื่องการนำเสนอพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางและฟังก์ชันการใช้งานที่ยอดเยี่ยม Epiq ก็คาดว่าจะไม่ต่างกัน ทำให้เป็น “รถยนต์ครอบครัว” ที่น่าสนใจ
Volkswagen ID. Polo
ภาพรวม: Volkswagen ยืนยันแล้วว่าชื่อ ID.2 จะถูกเปลี่ยนเป็น ID. Polo สำหรับ “รถยนต์ไฟฟ้า” ซูเปอร์มินิราคาประหยัดคันใหม่ของแบรนด์ ซึ่งจะเข้ามาตอบโจทย์ตลาด “รถยนต์ไฟฟ้า” ในเมือง
ไฮไลท์สำคัญ:
ราคาเข้าถึงได้: ด้วยการใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ID. Polo คาดว่าจะมีราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 25,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) เมื่อเปิดตัวในปี 2027 ทำให้เป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่เข้าถึงได้สำหรับคนจำนวนมาก
ดีไซน์: แม้จะเผยโฉมแบบพรางตัว แต่ก็ทำให้เห็นภาพรวมของดีไซน์ที่จะเน้นความทันสมัยและใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการขับขี่ในเมือง
ความอเนกประสงค์: เป็น “รถยนต์ยอดนิยม” ที่เน้นการใช้งานในชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ผู้ที่มองหา “รถยนต์ประหยัดพลังงาน” ขนาดกะทัดรัด
Volvo ES90
ภาพรวม: แม้ Volvo จะยกเลิก S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งตลาดซีดานขนาดใหญ่ Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นคู่แข่งของ BMW i5 และ Audi A6 e-tron และเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่ล้ำสมัยที่สุดของแบรนด์
ไฮไลท์สำคัญ:
แพลตฟอร์มเดียวกับ EX90: ใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่ซีดานจะได้รับประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่เบากว่า เพื่อ “สมรรถนะสูง” และประสิทธิภาพที่ดีขึ้น
เทคโนโลยี 800V: ทำให้สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้ถึง 300 กิโลเมตร (186 ไมล์) ในเวลาเพียง 10 นาทีของการชาร์จ “ชาร์จเร็ว” และ “ระยะทางวิ่ง” ที่น่าประทับใจ
ราคา: เริ่มต้นที่ 69,650 ปอนด์ (ประมาณ 3 ล้านบาท) ES90 จะเป็น “รถยนต์หรู” ที่ผสมผสานความปลอดภัย เทคโนโลยี และการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
บทสรุปและวิสัยทัศน์ในอนาคต
ปี 2025 เป็นต้นไป คือยุคที่ “นวัตกรรมยานยนต์” ก้าวไปข้างหน้าอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็น “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่หลากหลายมากขึ้น “รถยนต์ไฮบริด” ที่ฉลาดขึ้น หรือ “รถยนต์ SUV” ที่อเนกประสงค์กว่าเดิม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมเชื่อว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่รถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องจักร แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศการเดินทางที่เชื่อมโยงถึงกัน มีความปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้ผลิตทุกรายกำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค พร้อมกับการเข้ามาของ “เทคโนโลยีรถยนต์” และ “ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า” ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ในอนาคต
การแข่งขันในตลาด “รถยนต์ใหม่ 2025” นี้จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภคที่จะมีทางเลือกมากขึ้น ทั้งในด้านเทคโนโลยี ราคา และรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่มองหา “รถยนต์ประหยัดพลังงาน” สำหรับการใช้งานในเมือง “รถยนต์ครอบครัว” ที่กว้างขวางและปลอดภัย หรือ “รถยนต์หรู” ที่มาพร้อม “สมรรถนะสูง” และนวัตกรรมล้ำสมัย ตลาดรถยนต์ในยุคนี้ก็มีคำตอบให้คุณอย่างแน่นอน
ก้าวสู่โลกยานยนต์แห่งอนาคตไปพร้อมกับเรา
คุณตื่นเต้นกับ “รถยนต์ยอดนิยม” รุ่นไหนมากที่สุด? คุณกำลังมองหารถยนต์ประเภทใด และคุณคิดว่า “นวัตกรรมยานยนต์” ใดที่จะพลิกโฉมการขับขี่ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า? เรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อสงสัยของคุณ มาร่วมสำรวจและเตรียมพร้อมรับประสบการณ์การเดินทางครั้งใหม่ไปด้วยกันกับเรา สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่หรือต้องการคำแนะนำในการเลือกซื้อรถยนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของคุณ อย่าลังเลที่จะติดต่อสอบถามทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย!
ยานยนต์แห่งอนาคต: เปิดโผรถยนต์รุ่นใหม่สุดเร้าใจปี 2025, 2026 และที่ไกลกว่านั้น
ในฐานะที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการที่ไม่เคยหยุดนิ่งของอุตสาหกรรมนี้ จากยุคที่เครื่องยนต์สันดาปภายในครองตลาดอย่างสมบูรณ์ จนถึงปัจจุบันที่คลื่นแห่งเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า (EV) และไฮบริดได้ถาโถมเข้ามาอย่างรุนแรง ปี 2025 ไม่ใช่เพียงแค่การเปลี่ยนผ่านอีกขั้น แต่เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง ผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกต่างเร่งพัฒนานวัตกรรมและนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มองหายานพาหนะที่ล้ำสมัย ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ในขณะเดียวกัน ตลาดก็ยังคงมีที่ว่างสำหรับผู้ที่ยังคงหลงใหลในความคลาสสิกของเครื่องยนต์สันดาปและสมรรถนะอันดุดัน
ปีนี้เราได้เห็นรถยนต์รุ่นใหม่มากมายออกสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็น Nissan Micra โฉมใหม่, Toyota RAV4 เจเนอเรชันล่าสุด หรือ Fiat Grande Panda ที่พลิกโฉมหน้าตาไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนยังได้สร้างปรากฏการณ์ด้วยการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมาก พร้อมกับแบรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามาสร้างความคึกคักในตลาด แต่เชื่อผมเถอะว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะคลื่นลูกใหม่ของรถยนต์ที่จะเปิดตัวในปี 2026 และหลังจากนั้นต่างก็รอคอยที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับพวกเรา
เราตั้งตารอคอยที่จะได้เห็น Volkswagen ID.Polo และ Renault Clio รุ่นล่าสุดทำผลงานอย่างไรเมื่อพวกเขาเข้าสู่ตลาดในปีนี้ พร้อมกันนั้นก็ยังมีข่าวดีเกี่ยวกับรถยนต์รุ่นใหม่จาก Skoda, Audi, BMW และ Mercedes ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าจะกลายเป็นหัวหอกของตลาดรถยนต์ใหม่ในปี 2025 เนื่องจากผู้ผลิตต้องการผลักดันผู้ซื้อให้หันมาใช้ยานยนต์ที่ปล่อยมลพิษต่ำ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับจำนวนมหาศาลจากหน่วยงานกำกับดูแล แต่เราก็ยังคงได้เห็นรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและรุ่นไฮบริดใหม่ๆ มากมายที่กำลังจะเปิดตัว เนื่องจากกฎระเบียบเกี่ยวกับการจำหน่ายรถยนต์เบนซินและดีเซลใหม่จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึงปี 2030 เป็นอย่างน้อย ทำให้ผู้ผลิตยังมีเวลาที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดในกลุ่มนี้
รถยนต์ใหม่เหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ซูเปอร์มินิที่กล่าวถึงไปก่อนหน้า ไปจนถึงรถเก๋งซีดาน รถยนต์อเนกประสงค์ SUV และแม้กระทั่งซูเปอร์คาร์สุดหรู ในบทความนี้ ผมได้รวบรวมรายชื่อรถยนต์รุ่นใหม่ที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นที่สุด ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวในปี 2025, 2026 และที่ไกลกว่านั้น โดยจัดเรียงตามลำดับตัวอักษรของผู้ผลิต
Alfa Romeo Giulia
Alfa Romeo Giulia เจเนอเรชันถัดไปต้องแบกรับความคาดหวังที่สูงมาก เพราะรุ่นปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ซีดานหรูขนาดคอมแพกต์ที่น่าปรารถนาที่สุด การมาถึงของรุ่นใหม่ในปี 2026 จะมาพร้อมกับตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินไฮบริด หรือระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน ภายใต้รูปโฉมที่ดึงดูดใจ รถคู่แข่ง BMW 3 Series คันนี้จะใช้แพลตฟอร์ม STLA Large ที่มุ่งเน้น EV โดยเฉพาะ ซึ่งรองรับสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800V เพื่อการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางมากกว่า 640 กิโลเมตร รวมถึงระบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือ จะมีเวอร์ชัน Quadrofoglio ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งคาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์ V6 อันเลื่องชื่อของแบรนด์
Alfa Romeo Stelvio
ก่อนที่ Giulia จะมาถึง Alfa Romeo Stelvio SUV เจเนอเรชันใหม่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 โดยจะใช้สถาปัตยกรรม STLA Large เช่นกัน และจะมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซินและระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า เช่นเดียวกับซีดานสมรรถนะสูง Stelvio Quadrofoglio ใหม่จะมาพร้อม “บางสิ่งที่คำราม” ตามที่หัวหน้าฝ่ายการตลาดของแบรนด์กล่าวไว้ ซึ่งหมายถึงขุมพลังเบนซินอันทรงพลัง!
Alpine A290
สำหรับแฟนๆ รถแฮทช์แบ็กฝรั่งเศสที่เร็วแรง เตรียมพบกับความพิเศษได้เลย เพราะ Alpine ผู้ผลิตรถสปอร์ต A110 น้ำหนักเบาอันยอดเยี่ยม ได้เปิดตัวเวอร์ชันที่เร็วขึ้นของ Renault 5 E-Tech ไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ล่าสุด มันคือ Alpine A290 ซึ่งนอกจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังยิ่งขึ้นแล้ว Alpine ยังได้ปรับปรุงช่วงล่างใหม่ทั้งหมด เพิ่มความกว้างของฐานล้อ ล้อขนาด 19 นิ้วพร้อมยาง Michelin สั่งทำพิเศษ และสไตล์สปอร์ตที่ดุดันยิ่งขึ้น ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท
Alpine A390
Alpine กำลังก้าวเข้าสู่ดินแดนที่ไม่เคยมีใครสำรวจมาก่อน เหนือกว่าการสร้างรถสปอร์ตและฮอตแฮทช์ ด้วยรถ Coupe-SUV ไฟฟ้า หรือ “Sport Fastback” ตามที่แบรนด์อยากให้เรียก Alpine A390 ที่น่าทึ่งนี้ได้รับการออกแบบให้ดูเหมือน “รถแข่งในชุดสูท” ด้วยรูปลักษณ์ที่สปอร์ตคล้ายกับคู่แข่งหลักอย่าง Porsche Macan Electric แม้จะใช้แพลตฟอร์มเดียวกับ Renault Scenic แต่ก็มีระบบขับเคลื่อนแบบ Tri-motor ที่ให้กำลัง 464 แรงม้า และที่สำคัญกว่านั้นคือ ระบบ Torque Vectoring เพื่อการควบคุมที่คล่องตัวยิ่งขึ้น สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที และคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2.6 ล้านบาท
Aston Martin Valhalla
Aston Martin Valhalla จะเป็นรถยนต์ถนนเครื่องยนต์วางกลางรุ่นผลิตจำนวนมากคันแรกในประวัติศาสตร์ 111 ปีของแบรนด์อังกฤษ จะมีการผลิตเพียง 999 คันเท่านั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตรแบบ Flat-Plane ที่สั่งทำพิเศษ และมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว กำลังรวมอยู่ที่ 1,069 แรงม้า และแรงบิด 1,100 นิวตันเมตร เพียงพอที่จะขับเคลื่อนรถจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.5 วินาที ในขณะที่ระบบอากาศพลศาสตร์แบบแอคทีฟได้รับแรงบันดาลใจจากรถไฮเปอร์คาร์ Valkyrie ของบริษัท และใช้ความรู้และเทคโนโลยีจาก F1
Audi
ในปี 2024 Audi ได้เปิดตัวรถยนต์ถึงเจ็ดรุ่นอย่างประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ A3 แฮทช์แบ็กและ e-tron GT ที่ได้รับการปรับโฉม ไปจนถึง Q6 e-tron SUV ไฟฟ้าล้วน และ A6 e-tron ซีดานที่ใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาร่วมกับ Porsche รุ่นล่าสุดที่มาถึงคือ A5 ใหม่ ซึ่งเป็นการแทนที่ A4 ซีดานและ Avant รุ่นเก่า และ Q5 รุ่นล่าสุด แต่ถึงแม้จะเปิดตัวไปแล้วมากมาย แบรนด์พรีเมียมนี้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง เพราะยังมี Q3 SUV คอมแพกต์พรีเมียมเจเนอเรชันถัดไป และ A6 ซีดานหรูที่กำลังจะตามมา
BMW iX3
BMW iX3 ใหม่ได้รับการเปิดเผยแล้ว และเป็นรถยนต์รุ่นแรกของแบรนด์เยอรมันในตระกูล Neue Klasse ซึ่งเป็นชุดรถยนต์ที่มีรูปลักษณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์ทันสมัยด้วยเทคโนโลยีล่าสุด นั่นรวมถึงเทคโนโลยีในรถยนต์และวิศวกรรม เนื่องจาก iX3 มาพร้อมกับระบบ infotainment iDrive ล่าสุด
เทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่หมายความว่ารุ่นกลางสามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และรุ่นที่มีระยะทางยาวขึ้นกำลังจะตามมาเช่นกัน สิ่งนี้เป็นไปได้ด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 800 โวลต์ ซึ่งช่วยในการชาร์จอย่างรวดเร็ว: ควรหมายความว่าสามารถเพิ่มระยะทางประมาณ 400 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 10 นาทีที่เครื่องชาร์จที่รองรับ
BMW M3
BMW 3 Series เจเนอเรชันถัดไปมีกำหนดเปิดตัวในปีหน้า และ M3 ใหม่จะตามมาในปี 2027 ซึ่งจะเป็นรุ่นแรกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ซึ่งอาจฟังดูเป็นเรื่องที่ผิดปกติสำหรับแฟนๆ รถสปอร์ตซีดานอันเป็นเอกลักษณ์บางคน แต่ระบบขับเคลื่อน Quad-motor ของมันสามารถให้กำลังได้สูงสุดถึง 1,341 แรงม้า (ในทางทฤษฎี) และระบบ Torque Vectoring เพื่อความคล่องตัวที่น่าทึ่ง ซึ่งเราได้สัมผัสมาแล้วในรถต้นแบบ VDX ที่บ้าคลั่งของ BMW หากคุณยังไม่มั่นใจ M3 ก็จะยังมีเครื่องยนต์เบนซิน Twin-turbo Straight-six ให้เลือกเช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบัน
BMW M5 Touring
เป็นครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ของ BMW M5 ที่จะมีเวอร์ชันรถสเตชันแวกอน! M5 Touring ใหม่มีระบบขับเคลื่อน Plug-in Hybrid ที่รวมเครื่องยนต์ V8 Twin-turbo ขนาด 4.4 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าหนึ่งตัว ให้กำลังรวม 717 แรงม้า และแรงบิด 1,000 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที และมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถถึง 500 ลิตร
BYD Atto 2
BYD Atto 2 เป็นรถยนต์ SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กของยักษ์ใหญ่จากจีน ซึ่งต้องแข่งขันในตลาดที่ดุเดือดกับคู่แข่งตั้งแต่ Vauxhall Frontera ที่เน้นงบประมาณ ไปจนถึง Skoda Elroq และ Kia EV3 ที่ซับซ้อนกว่า เพื่อดึงดูดผู้ซื้อ Atto 2 มาพร้อมกับเทคโนโลยีมากมายเป็นมาตรฐาน รวมถึงหน้าจอสัมผัสขนาด 12.8 นิ้วที่หมุนได้, Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย, ระบบกล้อง 360 องศา, เบาะหน้าและพวงมาลัยปรับความร้อนได้ และระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่มากกว่าหนึ่งโหล รุ่น ‘Boost’ ระดับเริ่มต้นมีระยะทาง 338 กิโลเมตร แต่รุ่นแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่ากำลังจะมาถึง
Cadillac Lyriq
หลังจากหายไปจากตลาดสหราชอาณาจักรเกือบสิบปี Cadillac กำลังกลับมาพร้อมกับรถยนต์ SUV ไฟฟ้าล้วนสองรุ่นที่หวังว่าจะแย่งยอดขายจาก Audi, BMW และ Mercedes ได้ การกลับมาของแบรนด์อเมริกันอันเป็นเอกลักษณ์นี้คือ Cadillac Lyriq ซึ่งเป็น SUV ขนาดใหญ่ที่ดูโฉบเฉี่ยวและซับซ้อน โดยจะมุ่งเป้าไปที่คู่แข่งอย่าง BMW iX
Lyriq จะมาพร้อมกับมอเตอร์คู่เป็นมาตรฐาน ให้กำลัง 520 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 102kWh ซึ่งเราได้รับแจ้งว่าจะให้ระยะทาง 530 กิโลเมตรจากการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง หน้าจอ OLED ภายในรถมีขนาดกว้างขวางถึง 33 นิ้ว ทอดยาวทั่วแดชบอร์ด และคาดว่าราคาจะสูงถึง 3.2 ล้านบาท หากราคานั้นสูงเกินไป Cadillac Optiq ที่มีขนาดกะทัดรัดกว่าและคาดว่าจะมีราคาถูกกว่าก็ไม่น่าจะตามมาไม่นาน
Citroen e-C3
Citroen e-C3 ใหม่ล่าสุดที่ได้รับรางวัล กำลังถูกวางตำแหน่งให้เป็นซูเปอร์มินิไฟฟ้าสำหรับมหาชน เพราะราคาเริ่มต้นเพียง 970,000 บาท แบตเตอรี่ LFP (ลิเธียมเหล็กฟอสเฟต) ขนาด 44kWh ให้ระยะทางที่สมเหตุสมผล 320 กิโลเมตร แต่ Citroen จะนำเสนอทางเลือกแบตเตอรี่ที่ถูกกว่าอีกด้วย ซึ่งมีระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร e-C3 มีรูปลักษณ์ที่เหมือนครอสโอเวอร์มากกว่าซูเปอร์มินิที่มันมาแทนที่ ในขณะที่ระบบกันสะเทือนแบบ Hydraulic Bump-Stops และเบาะนั่ง Active Comfort ที่นุ่มสบายอันเป็นเอกลักษณ์ของ Citroen ก็ยังคงมีอยู่
Citroen C3 Aircross
Citroen C3 Aircross ใหม่เป็นคู่แข่งของ Dacia Duster ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงจากบริษัทฝรั่งเศส และมีลูกเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าสนใจ สิ่งที่น่าประหลาดใจที่สุดคือตัวเลือกห้าหรือเจ็ดที่นั่ง แม้ว่า SUV ขนาดเล็กนี้จะมีความยาวเพียง 4.39 เมตร ผู้ซื้อยังสามารถเลือกระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน ไฮบริด และไฟฟ้าล้วน โดย e-C3 Aircross EV คาดว่าจะให้ระยะทางระหว่าง 300 ถึง 400 กิโลเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 900,000 บาท หรือประมาณ 100,000 บาท มากกว่า C3 ซูเปอร์มินิที่เทียบเท่ากัน
Citroen C5 Aircross
ขั้นตอนสุดท้ายของการปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Citroen คือ C5 Aircross เจเนอเรชันถัดไปที่โดดเด่น ความสะดวกสบายยังคงเป็นจุดเน้นหลักอีกครั้ง แต่ SUV สำหรับครอบครัวจากฝรั่งเศสก็ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อมอบพื้นที่เบาะหลังที่คาดว่าจะเป็นผู้นำในระดับเดียวกัน พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถขนาดใหญ่ถึง 651 ลิตร ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้รู้สึกเหมือนห้องนั่งเล่นของคุณ ในขณะเดียวกัน ภายใต้ตัวถังที่โดดเด่นคือแพลตฟอร์ม STLA Medium เดียวกันกับที่ใช้ใน Peugeot 3008 และ Vauxhall Grandland รุ่นล่าสุด ดังนั้นตัวเลือกเครื่องยนต์ Mild-Hybrid, Plug-in Hybrid และระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วนจึงเหมือนกันด้วย โดย EV มีระยะทางสูงสุดถึง 680 กิโลเมตร
Cupra Raval
Cupra Raval เป็นคู่แข่งสปอร์ตสำหรับ Volkswagen ID.Polo ที่กำลังจะมาถึง และทั้งสองคันได้เปิดตัวในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Raval ไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างเต็มที่ แต่ได้รับการยืนยันผ่านรถยนต์ต้นแบบที่คลุมด้วยลายพราง รถคันนี้จะเปิดเผยอย่างเต็มที่ในภายหลัง อาจเป็นช่วงต้นปี 2026
Cupra ขนาดเล็กคันนี้จะมีความยาวมากกว่าสี่เมตรเล็กน้อย ซึ่งเหมาะสำหรับถนนในเมือง แต่มีห้าประตูเพื่อความหลากหลายเพิ่มเติม จะเป็นระบบขับเคลื่อนล้อหน้าที่มีกำลังมากกว่า 200 แรงม้า และมีระยะทางสูงสุดถึง 430 กิโลเมตรในรุ่นที่เหมาะสม Raval จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์ และแม้ว่าจะยังไม่มีการยืนยันราคาในอีกสักพัก เราคาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 1.1 ล้านบาท
Dacia
ข่าวดีสำหรับทุกคน Dacia กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ด้วยแผนการสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ในปีนี้เพียงปีเดียวก็ได้เห็นการมาถึงของ Dacia Duster Mk3 ใหม่ ซึ่งเป็น Small SUV of the Year ของเรา และ Dacia Spring EV ที่มีราคาต่ำกว่า 650,000 บาท นอกจากนี้ Dacia Bigster ก็ได้ออกสู่ท้องถนนในที่สุด โดยหวังว่าจะเขย่าตลาด SUV ขนาดกลาง Bigster เป็นหนึ่งในสามรุ่นใหม่ที่ Dacia กำลังจะเปิดตัวในเซกเมนต์ C ที่สำคัญของตลาดรถยนต์ โดยคาดว่าอีกรุ่นหนึ่งจะมาท้าทาย Skoda Octavia ที่ได้รับรางวัล นั่นคือการแข่งขันชิงแชมป์ที่เราตื่นเต้นที่จะได้เห็น
DS No8
DS No8 เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับแบรนด์พรีเมียมจากปารีสอย่าง DS ซึ่งปฏิเสธที่จะยอมแพ้ในการต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง BMW, Audi และ Mercedes รถคูเป้-SUV ไฟฟ้าล้วนที่หรูหราคันนี้เน้นความหรูหรา ความสะดวกสบาย และคุณสมบัติที่แบรนด์เรียกว่า ‘ความสงบ’ นอกจากนี้ยังรับประกันระยะทางที่มหาศาลถึง 750 กิโลเมตร และด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.2 ล้านบาท ทำให้ราคานั้นต่ำกว่าคู่แข่งที่มีศักยภาพอย่าง Polestar 4 และ Audi Q6 e-tron อย่างมีนัยสำคัญ
Ferrari F80
F80 คือรุ่นล่าสุดในกลุ่มรถไฮเปอร์คาร์ “ครั้งหนึ่งในทศวรรษ” อันโด่งดังที่เกิดใน Maranello ซึ่งเป็นทายาทของ F40, F50, Enzo และ LaFerrari การออกแบบที่น่าทึ่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง 499P ที่ชนะการแข่งขัน Le Mans ของ Ferrari เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อน: เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.0 ลิตร รอบเครื่องยนต์ 9,200 รอบต่อนาที พร้อมเทอร์โบสองตัวและมอเตอร์ไฟฟ้าห้าตัว กำลังรวม 1,183 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.15 วินาที และราคาเริ่มต้นที่กว่า 130 ล้านบาท ช่างน่าตกใจ!
Ferrari Elettrica
ถูกต้องแล้ว แม้แต่ Ferrari ก็ต้องยอมกัดฟันสร้างรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอาจใช้ชื่อว่า ‘Ferrari Elettrica’ ในกรณีที่คุณยังไม่ได้สมัคร Duolingo ชื่อนั้นหมายถึง ‘ไฟฟ้า’ ในภาษาอิตาลี
จากภาพสายลับของรถทดสอบ EV คันแรกจาก Maranello จะเป็นรถยนต์สี่ประตูบางชนิด ไม่ใช่ซูเปอร์คาร์สองประตู เราไม่คาดหวัง SUV แบบ 4×4 ที่ดูเป็นกล่อง แต่เป็นสิ่งที่คล้ายกับ Ferrari Purosangue ที่มีสไตล์ดุดัน ซึ่งบริษัทเรียกว่า “รถสปอร์ตสี่ที่นั่ง สี่ประตู” ดูเหมือนว่า Ferrari กำลังวางแผนวิธีที่จะทำให้รถคันนี้เป็นรถที่น่าขับขี่อย่างน่าสนใจ
Fiat Grande Panda
ผ่านมานานกว่าทศวรรษแล้วตั้งแต่ Fiat Panda รุ่นที่แล้วเปิดตัว ดังนั้นการเปลี่ยนรุ่นใหม่จึงเกินกำหนดไปนาน และในที่สุด Fiat Grande Panda ใหม่ก็มาถึง นี่คือรถน้องสาวทรงกล่องที่ดูแปลกตาและน่ารักของ Citroen e-C3 ซึ่งเป็น Auto Express Car of the Year ที่ครองตำแหน่ง และเป็นรุ่นแรกในตระกูลรถยนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Panda การออกแบบแบบ Retro-futuristic หยิบยืมแนวคิดจาก Panda ดั้งเดิมจากยุคแปดศูนย์ รวมถึง Panda 4×4 ที่ดูสมบุกสมบันกว่า
ภายในห้องโดยสารก็แปลกตาไม่แพ้กัน มีองค์ประกอบรูปทรงสี่เหลี่ยมมากขึ้นภายใน พร้อมชุดสีที่สดใสมาก และวัสดุที่น่าสนใจให้เลือก เช่น ใยไผ่ทั่วทั้งแดชบอร์ด นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เก็บของมากมาย แต่คุณสมบัติที่สะดวกที่สุดของ Grande Panda คือสายชาร์จแบบพับเก็บได้ที่ซ่อนอยู่ในส่วนหน้าของรุ่น EV จะมีรุ่นไฮบริดให้เลือกด้วย และราคาเริ่มต้นเพียง 800,000 บาท
Ford
หากคุณคิดว่าการที่ Ferrari ใส่เครื่องยนต์ V6 เข้าไปในรถไฮเปอร์คาร์หลายล้านปอนด์รุ่นใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันได้ คุณอาจไม่ได้ยินว่าหลังจากหยุดไป 40 ปี ชื่อ Ford Capri อันศักดิ์สิทธิ์ได้ถูกปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้ง… สำหรับรถ SUV ไฟฟ้า ส่วนสุดท้ายนั้นไม่น่าแปลกใจ เพราะ Ford กำลังให้ความสำคัญกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างมาก โดยเพิ่งเปิดตัว Explorer SUV ใหม่ และ Puma ครอสโอเวอร์ขนาดเล็กที่ขายดีที่สุดในรุ่น EV อย่างไรก็ตาม Mustang ยังคงไม่ละทิ้งเครื่องยนต์ V8 ของมัน และที่ดีกว่านั้นคือ มีรุ่นที่เน้นการแข่งขันในสนามแข่งที่มาพร้อมซูเปอร์ชาร์จที่เรียกว่า Mustang GTD ซึ่งมีกำลังมากกว่า 800 แรงม้า และเทคโนโลยีที่ถูกห้ามในการแข่งขันมอเตอร์สปอร์ต
Genesis GV60 Magma
BMW มีแผนก M, Mercedes มี AMG และตอนนี้ Genesis ก็วางแผนที่จะเปิดตัวรุ่น Magma ที่มีสมรรถนะสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน เริ่มต้นด้วย Genesis GV60 Magma ที่ร้อนแรง ซึ่งมีกำหนดจะมาถึงในช่วงปลายปี และเราสงสัยว่ามันจะมีกำลังมากกว่า Hyundai Ioniq 5 N และ Kia EV6 GT ที่ทรงพลังอยู่แล้วถึง 641 แรงม้า ซึ่งสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มเดียวกัน
ไทโรน จอห์นสัน หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Genesis ยังกล่าวกับ Auto Express ว่า: “เรามีภารกิจที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และสิ่งที่เราพยายามทำก็แตกต่างจาก Ioniq 5 N หรือ EV6 GT อย่างสิ้นเชิง” ซึ่งบ่งชี้ว่า GV60 Magma จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รุ่นต้นแบบที่ปรากฏในงาน Goodwood Festival of Speed 2024 ให้แนวคิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่ Genesis วางแผนไว้ รวมถึงความกว้างของฐานล้อที่กว้างขึ้น ระบบกันสะเทือนที่ต่ำลง รูปลักษณ์ที่ดุดัน และการตกแต่งภายในที่สปอร์ตยิ่งขึ้น พร้อมชุดเบาะบัคเก็ตซีทแบบลึก
Honda 0 SUV
เมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า Honda ได้ตามหลังมาพักหนึ่งแล้ว แต่จะไม่นานอีกต่อไป เพราะได้ให้คำมั่นว่าจะเปิดตัว EV ล้ำสมัยใหม่เจ็ดรุ่นภายในปี 2030 ทั้งหมดภายใต้แบรนด์ย่อย ‘0 Series’ ทั่วโลก รุ่นแรกจะมาถึงในปี 2026 โดยเริ่มจาก SUV ขนาดกลางที่โฉบเฉี่ยวที่เราได้เห็นในรูปแบบต้นแบบแล้ว หลังจากนั้นไม่นานก็จะเป็นรถซีดานเรือธงที่อิงจาก Honda Saloon concept ที่ล้ำสมัย
Honda Prelude
หลังจากหายไปนานกว่าสองทศวรรษ Honda Prelude จะกลับมาอีกครั้งในครึ่งแรกของปี 2026 โมเดลเจเนอเรชันที่หกใหม่นี้จะเป็นคูเป้สองประตูที่เพรียวบาง พร้อมขุมพลังไฮบริด และเทคโนโลยีเกียร์เสมือนจริงที่ Honda เรียกว่า ‘S Shift’ ซึ่งคาดว่าจะจำลอง “เสียงและความรู้สึกของการเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติที่รวดเร็ว” รุ่นต้นแบบของ Prelude ใหม่ถูกเปิดเผยเมื่อสองปีที่แล้ว และนับตั้งแต่นั้นมา การออกแบบก็ดูเหมือนจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก หรือไม่เปลี่ยนแปลงเลย
Hyundai Inster
Hyundai Inster คือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่ของแบรนด์ ที่มีรูปลักษณ์แปลกตาแต่น่ารักอย่างยิ่ง มันเล็กกว่าซูเปอร์มินิอย่าง Skoda Fabia หรือ Renault Clio แต่ไม่เปลืองพื้นที่ในห้องโดยสารเลยแม้แต่มิลลิเมตรเดียว และมาพร้อมกับเบาะหลังแบบเลื่อนได้ ซึ่งทำให้รถคันเล็กคันนี้มีความหลากหลายอย่างน่าประหลาดใจ อันที่จริงมันกว้างขวางมากจนคุณสามารถใส่กระดานโต้คลื่นเข้าไปได้ Inster ยังมีระยะทางสูงสุดถึง 368 กิโลเมตร และมีราคาเริ่มต้นที่ 1.05 ล้านบาท
Hyundai Ioniq 9
นอกจากการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่เล็กที่สุดแล้ว Hyundai ยังได้นำเสนอ EV ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา: Ioniq 9 เจ็ดที่นั่ง ยักษ์ใหญ่ยาวห้าเมตรคันนี้เป็นทางเลือกที่ดูเป็นอนาคตและไร้มลพิษสำหรับ Hyundai Santa Fe และเป็นรถน้องสาวของ Kia EV9 ที่ได้รับรางวัล SUV ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่น่าเกรงขามทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกัน แต่ Ioniq 9 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 110.3kWh ซึ่งเมื่อรวมกับการออกแบบที่ลื่นไหลอย่างน่าประหลาดใจ ทำให้มีระยะทางสูงสุดถึง 620 กิโลเมตร
Ioniq 9 มีภายในที่สดใหม่และสมกับความเป็นเรือธงที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี รวมถึงจอแสดงผลคู่ขนาด 12.3 นิ้วที่อยู่ในแผงโค้งเดียว ระบบตัดเสียงรบกวนถนนแบบแอคทีฟ และผู้ช่วย AI จะมีรูปแบบเจ็ดและหกที่นั่งให้เลือก และด้วยความสำคัญของการใช้งานจริงสำหรับรถยนต์ประเภทนี้ มีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถประมาณ 2,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับเบาะนั่งที่ติดตั้งอยู่ คาดว่าราคาจะเริ่มต้นที่ 2.8 ล้านบาท เมื่อเริ่มเปิดรับจองในช่วงปลายปีนี้
Hyundai Ioniq 3
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Ioniq จะขยายตัวต่อไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วยการเปิดตัว Ioniq 3 รุ่นที่เล็กกว่า ซึ่งได้รับการแสดงตัวอย่างในงาน Munich Motor Show 2025 โดย Hyundai Concept Three
คาดว่ารถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าล้วนรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของ Volkswagen ID.3 จะเปิดเผยในปี 2026 รถต้นแบบบ่งบอกถึงทิศทางที่แบรนด์อาจใช้กับรถรุ่นใหม่: มันค่อนข้างสปอร์ตและดูโดดเด่น ดังนั้นคาดว่าจะมีรูปลักษณ์ที่ไดนามิกมากกว่าแบบเรียบง่าย เรายังคาดหวังเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยมจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นเราจึงตั้งตารอที่จะได้เห็นรถรุ่นใหม่ในปีหน้า
IM Motors L6
IM Motors เป็นแบรนด์พี่น้องระดับพรีเมียมของ MG และเราได้รับแจ้งว่าจะเปิดตัวในสหราชอาณาจักรในปี 2025 ผลิตภัณฑ์แรกของพวกเขาคือ IM L6: ซีดานไร้มลพิษระดับพรีเมียมที่บริษัทคาดว่าจะแข่งขันกับ Tesla Model 3 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล เราได้รับแจ้งว่า L6 สามารถเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาไม่ถึงสามวินาที และชาร์จด้วยความเร็วที่สูงกว่า 300kW ซึ่งไม่เพียงแต่เหนือกว่า Tesla แต่ยังมีสถิติที่คล้ายคลึงกับ Porsche Taycan
Jaguar Four-door GT
การฟื้นฟู Jaguar ทั้งหมดเป็นหัวข้อสนทนาที่ร้อนแรงมาหลายเดือน เนื่องจากหนึ่งในแบรนด์รถยนต์หลักของอังกฤษกำลังจะกลายเป็นไฟฟ้าล้วนและก้าวขึ้นสู่ตลาดระดับบนอย่างจริงจัง ด้วยรุ่นปัจจุบันทั้งหมดที่หยุดการผลิตไปแล้ว Jaguar กำลังเตรียมที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่สามรุ่น โดยเริ่มจาก GT สี่ประตูที่จะมีราคาถึง 5.7 ล้านบาท รถยนต์ต้นแบบใกล้การผลิตจะถูกเปิดเผยก่อนสิ้นปีนี้ จากนั้นรถยนต์จริงจะมาถึงในปี 2026
GT ที่ยังไม่มีชื่อจะอยู่บนแพลตฟอร์ม EV ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะที่เรียกว่า Jaguar Electrified Architecture และใช้เทคโนโลยี “พลิกเกม” ตามที่ผู้บริหารที่เราได้พูดคุยด้วย สตีฟ มาร์ช ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายโปรแกรมยานยนต์ ยังเปิดเผยว่ามันจะวิ่งได้ไกลถึง 770 กิโลเมตรด้วยการชาร์จครั้งเดียว และสำหรับการเดินทางข้ามทวีป ผู้ขับขี่จะสามารถเพิ่มระยะทาง 320 กิโลเมตรได้ในเวลาเพียง 15 นาที จนถึงตอนนี้เราได้เห็นเพียงรถต้นแบบที่คลุมด้วยลายพรางอย่างหนาแน่น ซึ่งมีสัดส่วนที่ต่ำและเป็นแบบดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม รถต้นแบบ Jaguar Type 00 ที่ล้ำสมัยซึ่งจัดแสดงในช่วงปลายปี 2024 บ่งบอกถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่รถผลิตจริงอาจมี
Jeep Recon
Jeep เพิ่งเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าคันแรก Avenger ในปี 2023 แต่นั่นไม่ใช่ EV เพียงรุ่นเดียวที่แบรนด์กำลังพัฒนาอยู่ สิ่งที่เราตื่นเต้นที่สุดคือรถ 4×4 ที่แข็งแกร่งชื่อ Recon EV ขนาด Wrangler คันนี้จะใช้การออกแบบที่แข็งแกร่งและแพลตฟอร์ม STLA Large ที่เป็น EV โดยเฉพาะจาก Stellantis บริษัทแม่ ซึ่งยังใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ Wagoneer S SUV เรือธงรุ่นใหม่ของ Jeep
Kia EV4
Kia EV4 ใหม่ล่าสุดเป็นส่วนเพิ่มเติมต่อไปในกลุ่มรถยนต์ครอบครัวไฟฟ้าล้วนที่มีรูปลักษณ์โดดเด่นของแบรนด์ และมีให้เลือกทั้งแบบซีดานที่โฉบเฉี่ยว หรือแฮทช์แบ็กห้าประตูแบบดั้งเดิม โดยคาดว่าแบบหลังจะเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากกว่าในยุโรป
คู่แข่งของ VW ID.3 คันนี้ใช้แพลตฟอร์ม E-GMP เดียวกันกับ Kia EV3 SUV ที่ได้รับรางวัล และให้ระยะทางเกือบ 640 กิโลเมตร เป็นผลให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับครอบครัวที่ยอดเยี่ยม เงียบและกว้างขวาง ดังนั้นเราจึงประทับใจมากหลังจากขับขี่เป็นครั้งแรกเมื่อเร็วๆ นี้
Kia PV5
ในปีนี้ Kia กำลังนำความรู้และความเชี่ยวชาญด้านรถยนต์ไฟฟ้ามาสู่โลกของรถตู้ ด้วยรถยนต์เชิงพาณิชย์ที่สร้างขึ้นตามวัตถุประสงค์ ซึ่งควรทำให้ครอบครัว Ford E-Transit ต้องกังวล ผู้บุกเบิกการโจมตีคือ Kia PV5 ซึ่งในฐานะรถตู้แบบ Panel Van จะเข้าสู่การแข่งขันกับ Ford E-Transit Custom นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชัน MPV ที่จะมาท้าทาย Volkswagen ID. Buzz
ในขณะที่ VW เน้นอารมณ์แบบนักเล่นเซิร์ฟ PV5 มีความรู้สึกที่ดูเป็นอนาคตมากกว่า และการออกแบบที่เหมาะกับ Blade Runner จะช่วยให้มันดูเข้ากับ Kia EV9 และ EV3 SUV รูปทรงที่เกือบจะเป็นอิฐและการออกแบบฐานล้อที่ใหญ่โตควรให้ความมั่นใจว่าผู้โดยสารมีพื้นที่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และประตูหลังแบบเลื่อนได้จะช่วยในการเข้าถึง ผู้ซื้อสำหรับครอบครัวจะยินดีที่ทราบว่ารถตู้ไฟฟ้าและ MPV ของ Kia จะมาพร้อมกับการรับประกันเจ็ดปีที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม
Land Rover Defender OCTA
ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที กำลัง 626 แรงม้า และราคาถึง 7 ล้านบาท Defender OCTA เป็นรุ่นสุดยอดของ Land Rover Defender อย่างไม่ต้องสงสัย เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.4 ลิตรเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่ติดตั้งใน Defender ยุคใหม่ และเพื่อให้แน่ใจว่าแชสซีของ 4×4 สามารถรับมือกับกำลังมหาศาลนี้ได้ Land Rover ได้ทำการปรับปรุงอย่างครอบคลุม รวมถึงเบรก Brembo ที่อัปเกรดแล้ว พวงมาลัยที่เร็วขึ้น ยางที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ และระบบกันสะเทือน 6D Dynamics ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีคล้ายกับซูเปอร์คาร์ของ McLaren
Lotus Mid-size SUV
ในขณะที่ Lotus สร้างชื่อเสียงจากรถสปอร์ตน้ำหนักเบา แบรนด์ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเป็นผู้ผลิต EV ระดับพรีเมียม โดยเริ่มต้นด้วย Eletre hyper-SUV และ Emeya GT แต่ Lotus หวังที่จะขยายการเข้าถึงนอกเหนือจากเจ้าของรถยนต์หรูและผู้บริหารองค์กร ด้วย SUV ขนาดกลางที่จะมาท้าทาย Porsche Macan Electric ใหม่ Lotus กำลังตั้งเป้าหมายราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 2.4 ล้านบาท สำหรับ Type 134 ตามที่รู้จักกันภายใน ซึ่งต่ำกว่า Macan อย่างมีนัยสำคัญ แบรนด์ได้ยืนยันว่าจะเปิดเผยในปี 2025 ดังนั้นโปรดติดตามข่าวสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SUV อังกฤษที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า
Lotus Electric Sports Car
SUV และรถซีดานจะคิดเป็นส่วนใหญ่ของยอดขาย Lotus ในไม่ช้า แต่มันก็ไม่ได้จะละทิ้งมรดกการผลิตรถสปอร์ตเกือบ 80 ปี ในปี 2027 บริษัทจะเปิดตัวรถสปอร์ตไฟฟ้าล้วนคันแรก ซึ่งจะทำหน้าที่แทน Emira ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน รหัส Type 135 จะถูกสร้างขึ้นที่ฐาน Hethel ของ Lotus ใน Norfolk และใช้สถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะ ในขณะที่การออกแบบคาดว่าจะหยิบยืมมาจากรถต้นแบบ Lotus Theory 1 (ภาพด้านบน)
Mazda 6e
Mazda MX-30 ครอสโอเวอร์ที่มีข้อบกพร่องอย่างน่าผิดหวังเป็น EV เพียงรุ่นเดียวของแบรนด์ญี่ปุ่นมาหลายปีแล้ว แต่จะไม่นานอีกต่อไป เนื่องจาก Mazda 6e ซีดานใหม่ล่าสุดจะมาถึงสหราชอาณาจักรในปี 2026 เพื่อท้าทาย Tesla Model 3 โชคไม่ดีที่มันเริ่มต้นได้ไม่ดีนัก เนื่องจากระยะทางที่เคลมไว้ของ 6e ที่สูงสุดถึง 550 กิโลเมตร นั้นน้อยกว่า Tesla เกือบ 160 กิโลเมตร อย่างน้อย Mazda ก็สัญญาว่าซีดานที่ดูดีคันนี้จะมอบ “พฤติกรรมการขับขี่บนถนนที่ใครๆ ก็คาดหวังจากผู้ผลิตที่มีประสบการณ์หลายทศวรรษในการสร้างรถยนต์ที่ขับสนุก” นอกจากนี้ยังมีรุ่น SUV น้องสาวที่มีความสูงจากพื้นดินมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้งานได้จริงมากขึ้น โดยมีชื่อว่า Mazda CX-6e
McLaren W1
ก่อนหน้านี้มี F1 แล้วก็ P1 และตอนนี้ McLaren W1 ก็ได้มาถึงเพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของ Woking ในฐานะคู่แข่งโดยตรงของ Ferrari F80 ที่เรากล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ W1 มีระบบขับเคลื่อนไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตร ที่ส่งกำลังทั้งหมด 1,258 แรงม้า ไปยังล้อหลังเท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้รถลอยขึ้น “อากาศพลศาสตร์แบบ Ground-effect ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Formula One” สามารถสร้างแรงกดได้ 1,000 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 280 กม./ชม.
Mercedes CLA
Mercedes CLA เจเนอเรชันถัดไปจะเป็นรถยนต์กลุ่ม ‘Entry Luxury’ ใหม่ของแบรนด์ที่สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม MMA ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานสำหรับ SUV สองรุ่นและรถยนต์สเตชันแวกอน Shooting Brake
ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าสามารถให้ระยะทางเกือบ 800 กิโลเมตร และการชาร์จที่รวดเร็วเป็นพิเศษด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ขั้นสูงที่ทำได้ด้วยแพลตฟอร์มใหม่ มันมีราคาที่ดีและเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือกว่ารถยนต์ไฟฟ้า Mercedes ขนาดใหญ่บางรุ่นก่อนหน้านี้
Mercedes GLC
ตามมาติดๆ กับ BMW iX3 ใหม่ Mercedes GLC รุ่นล่าสุดได้ถูกเปิดเผยแล้ว และมีกำหนดจะออกสู่ท้องถนนในไม่ช้า มันใหม่ทั้งหมดและไม่เกี่ยวข้องกับ GLC ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปเก่า: มันใช้สถาปัตยกรรม MB.EA ไฟฟ้าล้วนใหม่ และมีแบตเตอรี่ขนาด 94kWh ที่ให้ระยะทาง 700 กิโลเมตร และความเร็วการชาร์จเร็ว DC สูงสุด 330kW
รุ่นเปิดตัวที่ชื่อว่า GLC 400 4MATIC มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและกำลังรวม 482 แรงม้า ดังนั้นประสิทธิภาพจึงมั่นใจได้ เราจะต้องรอดูอีกสักพักเพื่อดูว่ามันจะเอาชนะ BMW iX3 ใหม่ทั้งหมดได้หรือไม่ ดังนั้นโปรดติดตามรีวิวรถทั้งสองคันของเราในไม่ช้า
MINI John Cooper Works
MINI Cooper รุ่นล่าสุดเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่คาดหวังมากที่สุดในปีที่แล้ว และกำลังพิสูจน์แล้วว่าได้รับความนิยมอย่างมาก ตอนนี้แบรนด์ได้เพิ่มความพิเศษเพื่อสร้าง MINI John Cooper Works ฮอตแฮทช์ใหม่ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นำเสนอด้วยเครื่องยนต์เบนซินและไฟฟ้าล้วน JCW Electric ให้กำลังสูงสุด 254 แรงม้า จากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งด้านหน้า ซึ่งเพียงพอสำหรับการเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 5.9 วินาที ซึ่งเร็วกว่า Hyundai i20 N แต่ก็ยังมีรุ่นเบนซินแบบ Old-school ที่มาพร้อมเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร 228 แรงม้า น่าเสียดายที่ไม่มีตัวเลือกเกียร์ธรรมดาอีกต่อไป มีเพียงเกียร์คลัตช์คู่เจ็ดสปีด แต่ผู้ซื้อก็ยังมีตัวเลือกแบบ Hard-top หรือ Convertible กับรุ่นเบนซิน
Nissan Leaf
ในฐานะ EV สำหรับตลาดมวลชนคันแรก Nissan Leaf เป็นผู้บุกเบิกอย่างแท้จริง แต่กลับถูกทอดทิ้งไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเนื่องจากคู่แข่งที่ล้ำหน้าและเหนือกว่าโดยทั่วไป
เพื่อเพิ่มความน่าดึงดูดใจ แฮทช์แบ็กสำหรับครอบครัวได้เปลี่ยนรูปเป็นครอสโอเวอร์ SUV ที่ดูโฉบเฉี่ยว ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเดียวกับ Nissan Ariya ซึ่งเคยเป็น Auto Express Car of the Year
รูปทรงที่เพรียวบางรวมกับลูกเล่นอื่นๆ ทำให้ Leaf ใหม่เป็นรถยนต์ที่อากาศพลศาสตร์ดีที่สุดที่แบรนด์ญี่ปุ่นเคยผลิตมา และผลลัพธ์คือระยะทางสูงสุดถึง 600 กิโลเมตร นั่นคือด้วยแบตเตอรี่ขนาด 75kWh ที่สมเหตุสมผล ดังนั้นค่าใช้จ่ายในการวิ่งควรจะต่ำอย่างที่คุณคาดหวังจากรถที่มีชื่อนี้
Nissan Micra
นี่คือ Nissan Micra ใหม่ทั้งหมด และหากคุณคิดว่ามันดูคล้ายกับ Renault 5 ใหม่ที่น่าสงสัย นั่นเป็นเพราะมันเป็นเวอร์ชันที่ติดป้ายใหม่และปรับแต่งจมูกใหม่ของรถฝรั่งเศสสุดแฟนซี
Nissan ได้ละทิ้งไฟหน้าสี่เหลี่ยมและไฟท้ายแนวตั้งของ R5 เพื่อใช้ไฟหน้าทรงกลมขนาดใหญ่ที่ดูตลกขบขัน คล้ายกับ Micra Mk3 ที่โด่งดัง นอกจากนี้ยังมีกันชนที่ออกแบบใหม่ กระจกหลังใหม่ และแน่นอนว่า Nissan ได้เพิ่มตราสัญลักษณ์และการออกแบบล้อของตัวเอง แต่ก็แค่นั้น ตัวเลือกแบตเตอรี่ ความเร็วระยะทาง สมรรถนะ แชสซี การใช้งานจริง และภายในทั้งหมดเหมือนกัน
Polestar 5
ผ่านมาห้าปีแล้วตั้งแต่ Polestar Precept concept ที่น่าทึ่งถูกเปิดเผย แต่ในที่สุด Volvo ก็พร้อมที่จะเปิดตัวคู่แข่งของ Porsche Taycan และ Lotus Emeya: Polestar 5 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเล็กน้อยมากสำหรับรุ่นผลิต และเช่นเดียวกับรถต้นแบบ ไม่มีกระจกหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังให้สูงสุด เหมือนกับ Polestar 4 coupé น่าเสียดายที่รายละเอียดหนึ่งที่ไม่ได้ถูกตัดออกคือประตูแบบ ‘suicide’ coach doors ของรถต้นแบบดั้งเดิม ในขณะที่ภายในจะใช้ประโยชน์จากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุจากพืชอย่างกว้างขวางเพื่อเสริมสร้างคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
แทนที่จะใช้สถาปัตยกรรมที่มีอยู่ Polestar 5 ใช้แพลตฟอร์มอะลูมิเนียมอัดและเชื่อมที่สร้างขึ้นในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ที่ EV เรือธงนี้ได้รับการพัฒนาด้วย มันมีระบบไฟฟ้า 800V และกำลังเอาต์พุตที่มหาศาลถึง 874 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร
Polestar 7
หากคุณยังไม่เดา Polestar 7 จะเป็นรุ่นที่เจ็ดของแบรนด์สวีเดน แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันจะเป็นคำตอบสำหรับ Tesla Model Y “SUV ขนาดกะทัดรัดระดับพรีเมียม” คันนี้จะถูกสร้างขึ้นในยุโรป มีเทคโนโลยีล่าสุด และอาจมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1.7 ล้านบาท Polestar จะย้ายออกจากแนวทางการใช้แพลตฟอร์มที่หลากหลายในปัจจุบันกับ 7 และจะใช้ “สถาปัตยกรรมเดียว ลดความซับซ้อน ต้นทุน และการลงทุน”
Porsche Boxster/Cayman
รถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางของ Porsche อย่าง Cayman และ Boxster กำลังจะละทิ้งเครื่องยนต์เบนซินเพื่อเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วน อย่างน้อยสำหรับรุ่นปกติ – ในขณะที่รุ่น GT ระดับสูงอาจยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน ทั้งสองรุ่นจะใช้แพลตฟอร์มรถสปอร์ตไฟฟ้าที่พัฒนาโดย Porsche และจากภาพสายลับของเรา จะมีฐานล้อที่ยาวกว่ารุ่นที่กำลังจะตกรุ่น ซึ่งอาจเป็นเพราะต้องรองรับชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังห้องโดยสารผู้โดยสาร แทนที่จะอยู่ใต้พื้นเหมือน EV ส่วนใหญ่ ซึ่งจะช่วยในการกระจายน้ำหนักและการจัดตำแหน่งที่นั่งที่ต่ำ
Porsche Cayenne Electric
Porsche Cayenne จะยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซินและไฮบริดต่อไปในตอนนี้ แต่ Cayenne Electric ใหม่กำลังจะมาถึงและจะใช้แพลตฟอร์ม PPE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเดียวกับที่ใช้ใน Macan Electric ดังนั้นคาดว่าจะมีแบตเตอรี่ความจุประมาณ 100kWh มอเตอร์คู่ และระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ รวมถึงความเป็นไปได้ในการชาร์จแบบไร้สาย นี่คือการที่คุณเพียงแค่ขับรถไปจอดในที่จอดรถที่รองรับซึ่งสามารถชาร์จรถได้ – เหมือนที่คุณวางสมาร์ทโฟนบนแท่นชาร์จไร้สาย
Range Rover Electric
Range Rover คือ SUV หรูรุ่นดั้งเดิม และกว่าครึ่งศตวรรษต่อมา มันก็ยังคงเป็นราชาแห่งป่า แต่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่จะมี Range Rover Electric โธมัส มุลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมผลิตภัณฑ์ของ JLR กล่าวว่า “เรากำลังตั้งเป้าหมายที่จะสร้าง Range Rover ที่เงียบที่สุดและละเอียดอ่อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา ส่วนผสมมหัศจรรย์ที่สนับสนุนความสำเร็จของ Range Rover ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง – ตอนนี้นำเสนอโดยปราศจากมลพิษจากท่อไอเสีย”
Renault 4
ตามมาติดๆ กับ Renault 5 ใหม่ที่ยอดเยี่ยมซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้ในปีนี้คือ Renault 4 SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กคันนี้มีรูปทรงทรงกล่องคล้ายกับ R4 ดั้งเดิมจากยุคหกสิบ และการออกแบบได้รวมคุณสมบัติที่คุ้นเคยหลายอย่าง เช่น กระจกหน้าต่างหลังรูปสี่เหลี่ยมคางหมู ไฟท้ายรูปทรงยาเม็ด และกระจังหน้าแนวนอนกว้างพร้อมไฟหน้าทรงกลม
มันใช้แพลตฟอร์ม AmpR Small เดียวกันกับที่ใช้ใน R5 แฮทช์แบ็ก แต่จะมีเฉพาะแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 52kWh ที่ให้ระยะทาง 400 กิโลเมตรด้วยการชาร์จครั้งเดียว
Renault Twingo
ส่วนเพิ่มเติมสุดท้ายในกลุ่มผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์ย้อนยุคของ Renault คือ Twingo ใหม่ทั้งหมด ซึ่งได้รับการแสดงตัวอย่างในรูปแบบแนวคิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ลูก้า เด เมโอ ซีอีโอของ Renault อธิบายว่ามันคือ “กระสุนเงินสำหรับการสัญจรอย่างยั่งยืน” Twingo ใหม่มีกำหนดที่จะเปลี่ยนจากแนวคิดสู่การผลิตในเวลาเพียงสองปี และมีราคาเริ่มต้นที่น่าทึ่งต่ำกว่า 20,000 ยูโร หรือประมาณ 770,000 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน และใช่ มันกำลังจะมาถึงสหราชอาณาจักร!
Rivian R2
Rivian บริษัทสตาร์ทอัพ EV ผู้บุกเบิกชาวอเมริกัน ผู้ผลิตรถกระบะไฟฟ้าล้วนคันแรกของโลก จะเข้าสู่ตลาดสหราชอาณาจักรในที่สุดในปี 2027 แต่ไม่ใช่ด้วยรถกระบะ รุ่นแรกที่จำหน่ายในอังกฤษจะเป็น Rivian R2: SUV ไฟฟ้าขนาดกลางที่จะเป็นคู่แข่งของ Tesla Model Y และอื่นๆ อีกมากมาย เรายังคาดว่า Rivian R3 แฮทช์แบ็กและ R3X ฮอตแฮทช์จะมาถึงชายฝั่งของเราในอีกไม่นาน
Skoda
ปี 2024 เป็นปีที่วุ่นวายอย่างยิ่งสำหรับ Skoda ด้วยเช่นกัน เนื่องจากหลายรุ่นยอดนิยมได้รับการอัปเดต เช่น Kamiq และ Octavia นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Kodiaq เจเนอเรชันที่สองใหม่ทั้งหมด และ Superb รุ่นล่าสุด ซึ่งทั้งสองได้รับรางวัลจาก Auto Express New Car Awards เมื่อมองไปข้างหน้า แบรนด์เช็กจะต่อยอดความสำเร็จของ Enyaq และเปิดตัว SUV ไฟฟ้าหลากหลายขนาดและราคา รวมถึงรุ่นที่มีราคาต่ำกว่า 870,000 บาท ในทำนองเดียวกัน Skoda กำลังพัฒนารถสเตชันแวกอนสำหรับครอบครัวที่ไร้มลพิษเพื่อมาควบคู่กับ Octavia Estate และ Superb Estate ที่ยอดเยี่ยม แบรนด์ยังได้จัดแสดง Skoda Epiq concept ซึ่งเป็นตัวอย่างคู่แข่งขนาด Kamiq ใหม่สำหรับ VW ID. Cross
Suzuki e Vitara
Suzuki ได้ตัดสินใจกระโดดลงไปในน้ำลึกด้วย EV คันแรกของพวกเขา เพราะ e Vitara ใหม่ทั้งหมดเป็น SUV ไฟฟ้าล้วนขนาดเล็กที่ต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่น่าประทับใจมากมาย คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งคือตัวเลือก AllGrip-e ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งใช้มอเตอร์คู่เพื่อให้ “สมรรถนะที่ทรงพลัง” และแรงฉุดเพิ่มเติมในสภาพถนนที่ลื่น ซึ่งเสริมกับรูปลักษณ์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ระยะทางสูงสุดของ e Vitara คือ 426 กิโลเมตร ซึ่งเหนือกว่า Jeep Avenger เพียงเล็กน้อย แต่ไม่สามารถเทียบเท่ากับรถยนต์อย่าง Kia EV3 ที่สามารถวิ่งได้มากกว่า 600 กิโลเมตรในการชาร์จครั้งเดียว
Vauxhall Frontera
Vauxhall Frontera ไม่มีมรดกตกทอดใกล้เคียงกับชื่ออย่าง Ford Capri หรือ Honda Prelude เลย แต่ถึงกระนั้นมันก็ถูกปลุกชีพขึ้นมาอีกครั้งสำหรับ SUV คอมแพกต์ใหม่ทั้งหมดที่เน้นความหลากหลายและราคาที่เข้าถึงได้ ด้วยรูปทรง SUV ที่เป็นทรงกล่องและดั้งเดิม มีเบาะนั่งสูงสุดเจ็ดที่นั่ง และความจุสัมภาระที่เป็นไปได้เกือบ 1,600 ลิตร Frontera จึงใช้งานได้จริงด้วย
ในด้านราคา Vauxhall ถือเป็นจุดสำคัญ เพราะทั้งรุ่นไฟฟ้าล้วนและเบนซินไฮบริดเริ่มต้นที่ 1.05 ล้านบาท – เป็นราคาที่เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง ทำให้ขจัดอุปสรรคทั่วไปในการเป็นเจ้าของ EV Frontera Hybrid ใช้การผสมผสานง่ายๆ ของเครื่องยนต์เบนซินสามสูบ 1.2 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก 28 แรงม้า ที่รวมอยู่ในเกียร์อัตโนมัติคลัตช์คู่หกสปีด ในขณะที่ EV ได้รับแบตเตอรี่ขนาด 44kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 111 แรงม้า ซึ่งให้ระยะทางสูงสุด 300 กิโลเมตร – แม้ว่ารุ่น Long Range กำลังจะมาในไม่ช้า
Volkswagen ID. Polo
Volkswagen ได้ยืนยันแล้วว่าชื่อ ID.2 ไม่มีอีกต่อไป: ซูเปอร์มินิไฟฟ้าใหม่ราคาประหยัดจากแบรนด์จะใช้ชื่อ ID. Polo แทน รถคันนี้ได้รับการเปิดเผยในระดับหนึ่งในงาน Munich Motor Show 2025 โดยจัดแสดงในลายพรางที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของรูปลักษณ์ มันจะใช้แพลตฟอร์ม MEB เวอร์ชันต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยให้ราคาเริ่มต้นต่ำ: อาจต่ำกว่า 1.1 ล้านบาท ในสหราชอาณาจักรเมื่อรถมาถึงในปี 2027
Volkswagen ID.2X
Volkswagen ยังเคยสัญญาไว้เมื่อนานมาแล้วว่าจะเปิดตัว SUV ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาประหยัดรุ่นใหม่ที่ใช้พื้นฐานจาก ID.2 – ตอนนี้ชื่อ ID. Polo – และแพลตฟอร์ม MEB Entry ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นทางเลือกที่ไร้มลพิษสำหรับ VW T-Cross ที่ได้รับความนิยม บริษัทได้ยืนยันแล้วว่าคู่แข่งของ Renault 4 ในอนาคตจะใช้ชื่อว่า Volkswagen ID.2X และในที่สุดก็จะถูกเปิดเผยในงาน Munich Motor Show ในเดือนกันยายนปีนี้
Volvo ES90
Volvo ได้ยกเลิก S60 และ S90 ไปเมื่อปีที่แล้ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะละทิ้งรถซีดานขนาดใหญ่ไปโดยสิ้นเชิง Volvo ES90 ที่กำลังจะมาถึงจะเป็นคู่แข่งของแบรนด์สวีเดนสำหรับ BMW i5 และ Audi A6 e-tron รวมถึง EV ที่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีมากที่สุดของพวกเขา ภายใต้ตัวถังคือแพลตฟอร์มเดียวกับ EX90 SUV เรือธง แต่รถซีดานได้รับประโยชน์จากมอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ที่เบาลงเพื่อสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น บวกกับเทคโนโลยี 800V ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเพิ่มระยะทางได้ถึง 300 กิโลเมตร หลังจากชาร์จเพียง 10 นาที ราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาท
โลกของยานยนต์กำลังเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และปี 2025 นี้จะเป็นอีกหนึ่งปีที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบความหรูหรา ความเร็ว ประสิทธิภาพ หรือความยั่งยืน ก็มีรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่รอคอยการเปิดตัวเพื่อตอบสนองทุกความต้องการ หากคุณพร้อมที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคต อย่าพลาดที่จะศึกษาข้อมูลและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับรถยนต์ในฝันของคุณ โลกยานยนต์ใหม่กำลังรอคุณอยู่!

