ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
พลิกโฉมวงการ: สุดยอด SUV หรูหราและสมรรถนะสูงแห่งปี 2025 ที่นักขับไม่ควรพลาด
ในฐานะที่ผมคลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดรถยนต์ แต่ไม่มีเซกเมนต์ไหนที่จะเติบโตอย่างก้าวกระโดดและสร้างความตื่นเต้นได้เท่ากับ SUV ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถอเนกประสงค์เหล่านี้ได้แปลงโฉมจากการเป็นเพียงรถครอบครัวธรรมดาๆ ไปสู่ยานพาหนะที่เต็มเปี่ยมด้วยสมรรถนะอันเร้าใจและความหรูหราเหนือระดับ ที่เรียกได้ว่าเป็น “SUV สมรรถนะสูง” (High-Performance SUV) หรือ “SUV หรูหรา” (Luxury SUV) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ ตลาดรถยนต์ได้พัฒนาไปอีกขั้น นำเสนอทางเลือกที่น่าทึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการมากกว่าแค่การเดินทาง แต่ต้องการประสบการณ์ขับขี่ที่น่าจดจำ
แนวคิดของ SUV สมรรถนะสูง ได้เข้ามาเปลี่ยนมุมมองของผู้คนอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่รถที่พาคุณไปซื้อของหรือไปโรงเรียนเท่านั้น แต่เป็นเครื่องจักรที่พร้อมจะพาคุณทะยานไปข้างหน้าบนทางตรง เข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม และดึงดูดทุกสายตาบนท้องถนน นี่คือคู่มือฉบับสมบูรณ์ที่กลั่นกรองจากประสบการณ์จริงของผม เพื่อนำพาทุกท่านเข้าสู่โลกของสุดยอด SUV แห่งปี 2025 ที่ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่ยังเติมเต็มความเร้าใจในทุกการเดินทาง ไม่ว่าคุณจะมองหารถสปอร์ต SUV ที่เน้นการขับขี่บนสนามแข่ง, SUV พรีเมียม ที่หรูหราดุจจรวด, หรือ SUV ออฟโรด (Off-Road SUV) ที่ซ่อนความบ้าระห่ำไว้ข้างใน ผมรับรองว่ามีรถยนต์ที่คุณใฝ่ฝันรออยู่แน่นอน
เทรนด์สำคัญของตลาด SUV ปี 2025: ประสิทธิภาพ เทคโนโลยี และความยั่งยืน
ในช่วงสองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา รถยนต์อเนกประสงค์ ได้กลายเป็นหัวใจหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง ตอบสนองความต้องการของครอบครัวสมัยใหม่และสังคมโดยรวม ปัจจุบัน SUV ไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่ยังเป็นภาพสะท้อนของแนวโน้มเศรษฐกิจและการพัฒนาเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 นี้ เราได้เห็นการผสานรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับปรัชญาการออกแบบที่มุ่งเน้นทั้งความหรูหราและประสิทธิภาพ การที่แบรนด์รถสปอร์ตและ รถซูเปอร์คาร์ ระดับโลกอย่าง Lamborghini และ Ferrari กระโดดเข้ามาในตลาดนี้อย่างเต็มตัว ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า SUV แรงๆ ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นความจริงที่น่าตื่นเต้น
จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ ผมเห็นว่าผลกำไรจากยอดขาย SUV เหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่บริษัทรถยนต์จะสามารถทุ่มเทงบประมาณเพื่อพัฒนาและผลิตรถสปอร์ตสุดหรูอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ต่อไปได้ และในทางกลับกัน เทคโนโลยีจากรถซูเปอร์คาร์ก็ยังถูกนำมาปรับใช้กับ SUV ทำให้สมรรถนะของรถกลุ่มนี้ก้าวข้ามขีดจำกัดอย่างน่าทึ่ง เราจึงได้เห็น SUV ไฟฟ้า 2025 และ SUV ปลั๊กอินไฮบริด ที่ไม่เพียงแต่ให้พละกำลังมหาศาล แต่ยังใส่ใจสิ่งแวดล้อม และขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมที่น่าทึ่ง
และนี่คือสุดยอด รถ SUV รุ่นใหม่ ที่ผมคัดสรรมาให้คุณได้สัมผัสถึงความยอดเยี่ยมทั้งในด้านสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่พร้อมจะตอบสนองทุกความต้องการของ นักขับตัวจริง
2025 Porsche Macan GTS: ราชาแห่งคอมแพ็ค SUV ที่ให้ความรู้สึกเหมือนรถสปอร์ต
ถ้าคุณกำลังมองหา คอมแพ็ค SUV สมรรถนะสูง ที่มอบประสบการณ์ขับขี่อันเร้าใจไม่แพ้รถสปอร์ตแท้ๆ ผมขอแนะนำ Porsche Macan GTS ปี 2025 อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยประสบการณ์กว่าสิบปีในการทดสอบรถมาหลากหลายรุ่น ผมกล้าพูดว่า Macan GTS คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความแรงและความคล่องตัวที่ไม่มีใครเทียบได้ หัวใจสำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบชาร์จขนาด 2.9 ลิตร ที่ผลิตพละกำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต ส่งผลให้สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 4.3 วินาที พร้อมเสียงคำรามของท่อไอเสียที่ปลุกเร้าทุกโสตประสาท
สิ่งที่ทำให้ Macan GTS โดดเด่นกว่าใครคือช่วงล่างที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ ระบบควบคุมการทรงตัวอัจฉริยะ และพวงมาลัยที่คมกริบ มอบการบังคับควบคุมที่แม่นยำและมั่นใจในทุกโค้ง มันให้ความรู้สึกคล่องตัวและเบาเท้าอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับรถ SUV ทำให้การขับขี่สนุกสนานราวกับกำลังขับรถแฮทช์แบ็กสมรรถนะสูง ไม่ใช่ SUV ขนาดใหญ่ แน่นอนว่าเบาะนั่งสปอร์ตของ GTS ก็ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระอย่างดีเยี่ยม มอบความสบายแม้ในการขับขี่ที่ดุดัน
สำหรับปี 2025 Macan GTS ยังคงรักษาตำแหน่ง SUV ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ และนี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ Macan ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายในที่สมบูรณ์แบบนี้ ก่อนที่ยุคของ SUV ไฟฟ้า จะเข้ามาแทนที่อย่างเต็มตัว ราคารถ Porsche Macan 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 90,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและออปชั่นในไทย) และสำหรับรุ่น GTS บอกเลยว่าคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
2025 Porsche Macan EV: SUV ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่ยังคง DNA ของปอร์เช่
ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่กับ Porsche Macan EV 2025 ที่เข้ามาพลิกโฉมวงการ SUV ไฟฟ้า ให้ก้าวไปอีกขั้น นี่คือรถยนต์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าสมรรถนะอันเร้าใจและความยั่งยืนสามารถอยู่ร่วมกันได้ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานของผม ผมกล้าพูดว่า Macan EV คือจุดเปลี่ยนสำคัญที่ปอร์เช่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ได้อย่างครบถ้วน แม้จะเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าก็ตาม
Macan EV ถูกสร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Premium Platform Electric (PPE) ใหม่ล่าสุด มอบดีไซน์ที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและระยะทางขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 315 ไมล์ (ประมาณ 500 กิโลเมตร) ในรุ่นท็อปอย่าง Turbo พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ทำให้ SUV ไฟฟ้า คันนี้ปลดปล่อยพลังรวมสูงสุดถึง 603 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 737 ปอนด์-ฟุต สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 3.1 วินาที เทียบเท่า รถสปอร์ต ระดับซูเปอร์คาร์เลยทีเดียว
Macan EV มอบประสบการณ์ขับขี่ที่คล่องตัวและตอบสนองได้ดีเยี่ยม ด้วยจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ รวมถึงระบบช่วงล่าง Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบเลี้ยวล้อหลังที่เป็นออปชั่น ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยม ภายในห้องโดยสารหรูหรา ล้ำสมัยด้วยหน้าจอโค้งดิจิทัลขนาดใหญ่ และระบบอินโฟเทนเมนต์แบบทัชสกรีนที่ใช้งานง่าย
ราคารถ Porsche Macan EV 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 77,295 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและออปชั่นในไทย) สำหรับรุ่น 4S ซึ่งให้พละกำลัง 442 แรงม้า คือตัวเลือกที่ลงตัวสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและยังคงความสนุกสนานในแบบปอร์เช่
2025 Lamborghini Urus S.E.: ซูเปอร์คาร์ SUV ที่มาพร้อมขุมพลังไฮบริด
ในโลกของ SUV หรูหราสมรรถนะสูง มีไม่กี่คันที่จะดุดันและเร้าใจเท่า Lamborghini Urus และสำหรับปี 2025 นี้ Urus S.E. (Super Elettrica) ได้ก้าวล้ำไปอีกขั้นด้วยการเปิดตัวขุมพลังปลั๊กอินไฮบริดที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จากประสบการณ์ของผม รถคันนี้คือสุดยอดการผสมผสานระหว่างความบ้าคลั่งในสไตล์ Lamborghini กับการใช้งานได้จริงในฐานะ รถ SUV อเนกประสงค์
หัวใจสำคัญอยู่ที่เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบชาร์จ 4.0 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพละกำลังรวมสูงสุดถึง 789 แรงม้า และแรงบิด 701 ปอนด์-ฟุต ส่งผลให้ Urus S.E. พุ่งทะยานจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.1 วินาที อย่างไม่น่าเชื่อ และยังมีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนประมาณ 30 ไมล์ (ประมาณ 48 กิโลเมตร) สำหรับการเดินทางในเมือง สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Lamborghini ในการผสานสมรรถนะเข้ากับความยั่งยืน
ดีไซน์ภายนอกได้รับการปรับปรุงให้ดูดุดันและเฉียบคมยิ่งขึ้น ด้วยกันชนหน้า-หลังที่ออกแบบใหม่ ไฟหน้า Matrix LED และตัวเลือกสีภายนอกกว่า 100 สี ภายในห้องโดยสารยังคงความหรูหราตามแบบฉบับ Lamborghini ด้วยจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่ตอบสนองได้ดีขึ้น แต่ยังคงรักษาปุ่มควบคุมแบบกายภาพอันเป็นเอกลักษณ์ไว้
ราคารถ Lamborghini Urus 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 241,843 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและออปชั่นในไทย) สำหรับรุ่น Performante ที่เน้นสมรรถนะสูงสุดและช่วงล่างที่คมกริบ หรือ Urus S.E. ที่มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริด คือตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการ รถ SUV แรงๆ ที่ไม่เหมือนใคร
2025 Ferrari Purosangue: เมื่อม้าลำพองสร้าง SUV
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นแบรนด์ รถซูเปอร์คาร์ ระดับตำนานอย่าง Ferrari สร้าง SUV หรูหรา แต่เมื่อ Ferrari ลงมือทำ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ Purosangue ปี 2025 ซึ่งเป็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่แค่ SUV ธรรมดา แต่เป็น Ferrari ขนานแท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและอเนกประสงค์ในคันเดียว ด้วยประสบการณ์ของผม ผมกล้าพูดว่า Purosangue คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ การใช้งานจริง และความหรูหราอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนสำหรับรถครอบครัว
ภายใต้ฝากระโปรงหน้าที่ยาวสง่าคือเครื่องยนต์ V12 naturally aspirated ขนาด 6.5 ลิตร ที่ปลดปล่อยพละกำลัง 715 แรงม้า และแรงบิด 528 ปอนด์-ฟุต ให้เสียงคำรามอันเป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 310 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ Purosangue ไม่ใช่แค่รถที่เร็วตรงๆ เท่านั้น ด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันชาญฉลาด ช่วงล่างแอคทีฟ และระบบเลี้ยวล้อหลัง ทำให้มันสามารถเข้าโค้งได้อย่างยอดเยี่ยมและคล่องตัวอย่างเหลือเชื่อ
ภายในห้องโดยสารหรูหรากว้างขวางพร้อมเบาะนั่งสี่ที่นั่ง Cockpit ที่เน้นผู้ขับขี่มีหน้าจอดิจิทัลขนาดใหญ่ 10.2 นิ้ว และดีไซน์แบบ Dual-Cockpit ที่ผู้โดยสารตอนหน้าก็มีจอแสดงผลและควบคุมของตัวเองได้ เบาะหลังมีพื้นที่วางขาและศีรษะกว้างขวาง ทำให้ Purosangue เป็น รถครอบครัวหรูหรา ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
ราคารถ Ferrari Purosangue 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 428,686 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 15.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและออปชั่นในไทย) เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอด SUV พรีเมียม ที่มี DNA ของ Ferrari อย่างแท้จริง
2025 Mercedes-AMG G63: ไอคอนแห่งความหรูหราและสมรรถนะออฟโรด
Mercedes-AMG G63 หรือที่เรียกกันติดปากว่า “G-Wagon” เป็นมากกว่า SUV หรูหรา มันคือสัญลักษณ์แห่งสถานะ ความสำเร็จ และความสามารถในการบุกตะลุยไปได้ทุกที่ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์และดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรถทหาร G63 ได้ยืนหยัดเป็นไอคอนมาหลายทศวรรษ และสำหรับปี 2025 นี้ G63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุม เพื่อเพิ่มสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์อันโดดเด่นเอาไว้
ภายใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ V8 biturbo ขนาด 4.0 ลิตร แบบประกอบด้วยมือของ AMG ที่มาพร้อมระบบ mild-hybrid 48 โวลต์ มอบพละกำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 627 ปอนด์-ฟุต สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลาประมาณ 4.2 วินาที ระบบ mild-hybrid ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะ แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ ความสามารถในการขับขี่แบบ ออฟโรด ของ G63 ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นด้วยระบบช่วงล่างใหม่ที่ให้ความยืดหยุ่นและการขับขี่ที่นุ่มนวลขึ้นบนพื้นผิวขรุขระ
ภายในห้องโดยสารคืออาณาจักรแห่งความหรูหราและเทคโนโลยี ด้วยหนังเย็บด้วยมือ ไม้แกะสลัก และอลูมิเนียมขัดเงา สร้างบรรยากาศที่โอ่อ่าและประณีต หน้าจอดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 12.3 นิ้วครอบครองแผงหน้าปัด พร้อมฟีเจอร์ช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ๆ เช่น Active Steering Assist และ Active Emergency Stop Assist เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบาย
ราคารถ Mercedes-AMG G63 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 190,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.9 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและออปชั่นในไทย) G63 คือตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV หรูหรา ที่มีทั้งสถานะและสมรรถนะในการลุย
2025 Bentley Bentayga: นิยามใหม่ของ SUV หรูหราเหนือระดับ
Bentley Bentayga ปี 2025 ยังคงยืนหยัดในฐานะสุดยอด SUV พรีเมียม ที่ผสมผสานความหรูหราแบบอังกฤษเข้ากับสมรรถนะอันทรงพลังได้อย่างไร้ที่ติ ในฐานะที่ผมได้มีโอกาสสัมผัสกับรถยนต์ระดับไฮเอนด์มามากมาย Bentayga มอบความประณีตและประสบการณ์ขับขี่ที่หาตัวจับยากอย่างแท้จริง การอัปเดตสำหรับปี 2025 เน้นไปที่การเสริมความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด
ภายใต้ความโอ่อ่าสง่างามคือขุมพลังที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4.0 ลิตร ที่ให้พละกำลังเกือบ 550 แรงม้า หรือรุ่นไฮบริดที่ผสานเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวม 443 แรงม้า ซึ่ง Bentley ไม่ได้ลดทอนความหรูหราลงเลย แม้จะเป็นรุ่นที่เน้นความประหยัดเชื้อเพลิงก็ตาม สิ่งที่น่าประทับใจคือ Bentayga V8 ยังคงให้การควบคุมที่ยอดเยี่ยมและคล่องตัวเกินคาดสำหรับ รถ SUV ขนาดใหญ่
Bentayga ไม่เพียงแต่หรูหราด้านสมรรถนะ แต่ยังรวมถึงดีไซน์ที่สง่างามและห้องโดยสารที่ประณีต พิถีพิถันด้วยวัสดุชั้นเลิศและการตกแต่งที่บ่งบอกถึงงานฝีมือชั้นสูง ภายในมอบความสะดวกสบายสูงสุดสำหรับผู้โดยสารทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่ออกแบบมาอย่างดี หรือระบบความบันเทิงและฟีเจอร์อำนวยความสะดวกครบครัน สำหรับผู้ที่ต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น รุ่น Extended Wheel Base (EWB) ก็มอบความหรูหราแบบรถลีมูซีนพร้อมพื้นที่วางขาด้านหลังที่กว้างขวาง
ราคารถ Bentley Bentayga 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 205,925 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.5 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและออปชั่นในไทย) สำหรับรุ่น Bentayga S คือตัวเลือกที่ผมแนะนำเป็นพิเศษ ด้วยเครื่องยนต์ V8 เดียวกันแต่ปรับจูนเพื่อการขับขี่ที่เฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมชุดแต่งภายนอกสีดำและล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้ว ที่บ่งบอกถึงความสปอร์ตอย่างชัดเจน นี่คือ SUV หรู ที่มอบทั้งความสะดวกสบายและความเร้าใจไปพร้อมกัน
2025 Audi RS Q8: Urus ในอีกร่างที่เร้าใจไม่แพ้กัน
สำหรับผู้ที่มองหา SUV สมรรถนะสูง ที่มอบความตื่นเต้นระดับซูเปอร์คาร์ แต่มาพร้อมป้ายราคาที่ “สมเหตุสมผล” กว่า Audi RS Q8 ปี 2025 คือคำตอบที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จากประสบการณ์ของผม มันคือตัวเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจในแบบ Lamborghini Urus แต่จ่ายน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง และยังคงรักษาสไตล์ที่น่าดึงดูดใจไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม
RS Q8 คือรุ่นที่เร็วที่สุดของ Audi Q8 และเป็น รถ SUV ของ Audi เพียงรุ่นเดียวที่ติดตรา RS ในตลาดอเมริกาเหนือ มันยังเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุด บนสนาม Nürburgring Nordschleife อีกด้วย ซึ่งหมายความว่ามันมีความคล่องตัวอย่างน่าทึ่งสำหรับรถที่สามารถพาครอบครัวไปโรงเรียนได้อย่างสบายๆ หัวใจสำคัญคือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบชาร์จ 4.0 ลิตร ที่ได้รับการปรับปรุงให้แรงยิ่งขึ้นในรุ่น Performance ด้วยพละกำลัง 631 แรงม้า มอบการเร่งความเร็วที่ดุดันและเสียงคำรามที่เร้าใจ
สำหรับปี 2025 RS Q8 ได้รับการปรับโฉมให้เข้ากับ Q8 และ SQ8 ที่ได้รับการปรับปรุงเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือรุ่น Performance ใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ให้พละกำลังที่มากขึ้น แต่ยังมาพร้อมระบบเฟืองท้ายกลางแบบล็อกตัวเอง ระบบท่อไอเสียที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ และช่วงล่างที่ไม่เหมือนใครที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยในการทรงตัวในโค้ง ทำให้การขับขี่มั่นคงและแม่นยำ
ราคารถ Audi RS Q8 2025 เริ่มต้นที่ประมาณ 145,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและออปชั่นในไทย) นี่อาจไม่ใช่ SUV ราคาถูก แต่เมื่อพิจารณาถึงสมรรถนะ การออกแบบ และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งแล้ว RS Q8 คือเพชรเม็ดงามอย่างแท้จริง
สรุปและบทส่งท้าย
ปี 2025 เป็นปีที่น่าตื่นเต้นอย่างยิ่งสำหรับวงการ SUV หรูหราและสมรรถนะสูง เราได้เห็นการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้ง ทั้งในด้านพละกำลัง เทคโนโลยี และความหรูหรา แบรนด์รถยนต์ต่างทุ่มเทสร้างสรรค์ยานยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเติมเต็มความปรารถนาในการขับขี่อันเร้าใจได้อย่างลงตัว ไม่ว่าคุณจะต้องการ SUV ไฟฟ้า ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม SUV พรีเมียม ที่หรูหราสง่างาม หรือ SUV แรงๆ ที่ปลดปล่อยอะดรีนาลีนในทุกการขับขี่ ตลาดในปีนี้ก็มีตัวเลือกที่หลากหลายและน่าสนใจอย่างแท้จริง
จากประสบการณ์ที่สั่งสมมานานกว่าทศวรรษ ผมเชื่อมั่นว่ารถยนต์เหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ยานพาหนะ แต่เป็นเครื่องสะท้อนตัวตนและไลฟ์สไตล์ของผู้ขับขี่ ที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความสนุกสนานในการเดินทาง ไม่ว่าคุณจะเลือกคันไหนจากรายชื่อข้างต้น คุณก็จะได้ครอบครองหนึ่งในสุดยอด รถยนต์อเนกประสงค์ แห่งยุคอย่างแน่นอน
อย่ารอช้าที่จะสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง ผมขอเชิญชวนทุกท่านให้ไปเยี่ยมชมโชว์รูมและทดลองขับ SUV รุ่นใหม่ แห่งปี 2025 เพื่อค้นหาว่ารุ่นใดคือคู่แท้ที่ตอบโจทย์ความต้องการและสไตล์ของคุณมากที่สุด เพราะการตัดสินใจเลือก รถ SUV สมรรถนะสูง ที่สมบูรณ์แบบนั้น ต้องมาจากความรู้สึกหลังพวงมาลัยเท่านั้น!
สุดยอด SUV สมรรถนะสูงและหรูหราประจำปี 2025: คู่มือสำหรับผู้ที่มองหาความเร้าใจ
โดยผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ประสบการณ์ 10 ปี
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ SUV จากที่เคยเป็นเพียงยานพาหนะสำหรับครอบครัวที่เน้นประโยชน์ใช้สอยและสมบุกสมบัน ปัจจุบัน SUV ได้ก้าวข้ามขีดจำกัดไปสู่มิติใหม่ที่ผสานรวมเอาความหรูหรา ประสิทธิภาพการขับขี่ระดับซูเปอร์คาร์ และเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว เรากำลังพูดถึง “SUV สมรรถนะสูง” ซึ่งเป็นกลุ่มรถยนต์ที่ถูกสร้างมาเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น เร้าใจ และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่ปรารถนาความเป็นเลิศในทุกด้าน นี่ไม่ใช่แค่รถยนต์สำหรับไปซื้อของชำอีกต่อไป แต่เป็นพาหนะที่พร้อมจะโลดแล่นไปบนท้องถนนอย่างสง่างาม ดุดัน และสะกดทุกสายตา
ตลาด SUV สมรรถนะสูงและรถยนต์ไฟฟ้า (EV SUV) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา บรรดาผู้ผลิตรถยนต์หรูและแบรนด์ซูเปอร์คาร์ต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับเซกเมนต์นี้ ไม่ว่าจะเป็น Lamborghini, Ferrari หรือแม้แต่ Lotus ที่ได้เปิดตัว SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า SUV ไม่ใช่เพียงแค่กระแส แต่เป็นเสาหลักทางธุรกิจที่สำคัญ และยังช่วยให้แบรนด์เหล่านี้มีเงินทุนหมุนเวียนในการพัฒนารถสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ต่อไปได้อีกด้วย การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากสนามแข่งมาสู่ SUV ทำให้รถยนต์เหล่านี้ไม่เพียงแค่ใหญ่โต แต่ยังคงไว้ซึ่ง DNA ของสมรรถนะที่แท้จริง
ในคู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับปี 2025 นี้ ผมจะพาคุณเจาะลึกไปกับ รถยนต์อเนกประสงค์หรูหราและสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุด ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน โดยจะวิเคราะห์ถึงจุดเด่น เทคโนโลยี และความเหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถเลือก SUV สมรรถนะสูงที่ดีที่สุด ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความปรารถนาของคุณได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหา SUV หรูหรา ที่มอบความสบายเหนือระดับ หรือ รถยนต์ครอบครัวสมรรถนะสูง ที่พร้อมสำหรับการผจญภัยสุดท้าทาย เราได้รวบรวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ไว้ที่นี่แล้ว
กลุ่มผลิตภัณฑ์ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราประจำปี 2025: รีวิว ราคา และการจัดอันดับ
2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่มอบประสบการณ์ขับขี่ที่สนุกที่สุดในตลาด ด้วยจิตวิญญาณแห่งอิตาลี
Stelvio Quadrifoglio เป็นผลงานชิ้นเอกที่ผสมผสานความหลงใหลแบบอิตาเลียนเข้ากับประสิทธิภาพที่เหนือชั้นในตลาด SUV ที่มักจะถูกครอบงำด้วยความสมเหตุสมผลแบบเยอรมัน หัวใจของมันคือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบขนาด 2.9 ลิตร ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Ferrari ปล่อยพละกำลัง 505 แรงม้า พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที เสียงคำรามจากท่อไอเสียคือบทเพลงที่กระตุ้นอะดรีนาลีน ระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน พวงมาลัยที่ตอบสนองฉับไว และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นสมรรถนะ มอบการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและความคล่องตัวที่น่าทึ่ง ทำให้การขับขี่บนถนนคดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุกอย่างแท้จริง การออกแบบภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดันเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายในห้องโดยสารเน้นบรรยากาศแบบสปอร์ตแต่หรูหรา เบาะนั่งสปอร์ตที่กระชับ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างสภาพแวดล้อมที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่เป็นสำคัญ แม้เทคโนโลยีภายในอาจไม่ล้ำสมัยเท่าคู่แข่งบางราย แต่ Stelvio Quadrifoglio ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่เป็นอันดับแรก ด้วยสมรรถนะที่เร้าใจ สไตล์อิตาเลียน และการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าสนใจในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 94,965 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากนักสำหรับรุ่นปี 2025
2025 Aston Martin DBX
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่มีเอกลักษณ์ หรูหรา และน่าตื่นเต้น พร้อมสมรรถนะที่แข็งแกร่ง
Aston Martin DBX ยืนหยัดในฐานะเรือธงของแบรนด์ เป็น SUV หรูหรา และสมรรถนะสูงที่ผสมผสานพลวัตการขับขี่ที่น่าตื่นเต้นเข้ากับงานฝีมืออันประณีตและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สำหรับปี 2025 Aston Martin ได้ทำการอัปเดตที่สำคัญ โดยเน้นการปรับปรุงภายในและปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ให้มีความกระชับยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการยกเลิกรุ่น DBX มาตรฐาน ทำให้เหลือเพียงรุ่น DBX707 ที่เน้นสมรรถนะสูงเท่านั้น สิ่งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Aston Martin ในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงในกลุ่ม SUV หัวใจของ DBX707 คือเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตร ที่ประกอบด้วยมือจาก Mercedes-AMG แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีพละกำลังมหาศาลถึง 697 แรงม้า และแรงบิด 663 ปอนด์-ฟุต (900 นิวตันเมตร) เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมชุดคลัตช์เปียกแทนทอร์คคอนเวอร์เตอร์แบบเดิม ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วปานสายฟ้า และช่วยให้ DBX707 มีสมรรถนะที่น่าประทับใจ สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด นอกจากนี้ DBX707 ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมเฟืองท้ายหลังแบบลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มั่นใจถึงการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ ภายในห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์ด้วยวัสดุที่ดีที่สุด ทั้งหนังคุณภาพเยี่ยม การเย็บแบบแฮนด์เมด และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่นำเสนออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้นและฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 253,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9.3 ล้านบาท) มีการปรับปรุงภายในใหม่ทั้งหมดสำหรับรุ่นปี 2025
2025 Audi SQ5
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สะดวกสบายและรวดเร็ว เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
Audi SQ5 โฉมใหม่สำหรับปี 2025 เป็น SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่ผสมผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ด้วยดีไซน์ที่สดใหม่ ภายนอกของ SQ5 โดดเด่นด้วยไฟหน้า Matrix LED ใหม่ กระจังหน้าดีไซน์ปรับปรุง และกันชนหน้า-หลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ ภายใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร มอบพละกำลัง 349 แรงม้า และแรงบิด 369 ปอนด์-ฟุต (500 นิวตันเมตร) ให้การเร่งความเร็วที่น่าตื่นเต้นและประสบการณ์การขับขี่ที่สปอร์ต ภายในห้องโดยสาร SQ5 นำเสนอสภาพแวดล้อมระดับพรีเมียมพร้อมวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมอินเทอร์เฟซ MMI touch ของ Audi ครองแผงคอนโซลกลาง ในขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว มอบข้อมูลที่ปรับแต่งได้ให้กับผู้ขับขี่ SQ5 ยังมาพร้อมกับชุดคุณสมบัติด้านความช่วยเหลือผู้ขับขี่มาตรฐาน รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control), ระบบเตือนการออกนอกเลน (Lane Departure Warning) และระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (Blind-spot Monitoring) สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิกยิ่งขึ้น SQ5 มีแพ็คเกจ Sport เสริมที่รวมโช้คอัพปรับได้ ช่วงล่างปรับสปอร์ต และเฟืองท้ายหลังแบบสปอร์ต ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี ทำให้ 2025 Audi SQ5 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่มองหา SUV พรีเมียม ขนาดกะทัดรัดที่สามารถรับมือได้ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ที่เร้าใจ
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 59,695 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.2 ล้านบาท) SQ5 เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025
2025 Audi SQ7
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความแรง
Audi SQ7 สำหรับปี 2025 เป็น SUV หรูหรา ที่ผสานรวมสมรรถนะ การใช้งานได้จริง และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ภายใต้ฝากระโปรง คุณจะพบกับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.0 ลิตร อันทรงพลัง ที่ให้กำลังมหาศาลถึง 500 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต (770 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นการเร่งความเร็วที่น่าตื่นเต้น โดยมีเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 3.8 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ทำให้ SQ7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกเหนือจากความสามารถด้านสมรรถนะแล้ว SQ7 ยังมีภายในที่ประณีตและกว้างขวาง ด้วยที่นั่งสามแถว ทำให้รองรับผู้โดยสารได้สูงสุดเจ็ดคน ห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุระดับพรีเมียม และมีเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3D SQ7 ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วยคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ในด้านรูปลักษณ์ SQ7 โดดเด่นจาก Q7 มาตรฐานด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่สปอร์ต เช่น กันชนหน้าใหม่พร้อมช่องรับอากาศขนาดใหญ่ กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกการออกแบบล้อที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลัง ภายในที่หรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้ 2025 Audi SQ7 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 93,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.4 ล้านบาท) ได้รับการปรับปรุงดีไซน์หน้า-หลังใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025
2025 Audi SQ8
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การออกแบบที่น่าทึ่ง ตัวเลือกที่แข็งแกร่งและปลอดภัย
Audi SQ8 แบบห้าที่นั่ง ผสมผสานดีไซน์แบบคูเป้ที่เพรียวบางเข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V-6 ทวินเทอร์โบขนาด 3.0 ลิตร (ในเวอร์ชันอัปเดต) ที่ให้กำลัง 500 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐาน และมีคู่แข่งอย่าง BMW X6 และ Land Rover Range Rover Velar ด้วยสมรรถนะที่ใกล้เคียงกับ RS Q8 แต่มีราคาที่ถูกกว่ามาก ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในภาพรวมของกลุ่ม SUV สมรรถนะสูงของ Audi ภายในห้องโดยสารได้รับการยกย่องว่า “สะดวกสบายและเงียบสงบ” ด้วย “วัสดุคุณภาพสูง” และ “ความรู้สึกหรูหรา” มีการเพิ่มไฟภายในห้องโดยสารแบบ LED และระบบจดจำป้ายจราจรเป็นมาตรฐานในทุกรุ่น Prestige เพิ่มเบาะนวดด้านหน้าพร้อมฟังก์ชันหน่วยความจำ มีแพ็คเกจใหม่ 2 แพ็คเกจให้เลือก: Carbon package เพิ่มการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ในขณะที่ Audi Sport package นำเสนอการเย็บตะเข็บสีแดงที่โดดเด่นบนเบาะนั่ง คอนโซลกลาง และที่พักแขนประตู พร้อมเข็มขัดนิรภัยสีแดงอันน่าสะดุดตา
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 98,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) ได้รับการอัปเดตด้านมาตรฐานและแพ็คเกจการตกแต่งใหม่สำหรับปี 2025
2025 Audi RS Q8
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Lamborghini Urus ที่ดูเซ็กซี่กว่า ในราคาที่เข้าถึงได้มากกว่า
Audi RS Q8 เป็นเวอร์ชันที่เร็วที่สุดของ Q8 SUV และยังเป็น SUV ที่ติดป้าย RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดบนสนาม Nordschleife อีกด้วย ซึ่งหมายความว่ามันมีความคล่องตัวอย่างมากสำหรับ SUV ที่คุณสามารถขับลูกๆ ไปโรงเรียนได้ RS Q8 มาพร้อมป้ายราคาระดับหกหลัก แต่สมรรถนะ สไตล์ และคุณสมบัติของมันคุ้มค่ากับการลงทุน หากคุณให้ความสำคัญกับ SUV สมรรถนะสูง อย่างแท้จริง ทุกรุ่นของ RS Q8 มาพร้อมระบบกันสะเทือนอากาศแบบปรับได้มาตรฐาน ล้อขนาด 22 นิ้ว เบาะหน้าอุ่น-เย็น และระบบเสียง Bang & Olufsen 17 ลำโพง เราขอแนะนำรุ่น Performance ระดับท็อปเพื่อปลดล็อกพละกำลัง 631 แรงม้า เมื่อคุณจะจ่ายเงินจำนวนนี้ ทำไมไม่จัดเต็มไปเลยล่ะ? RS Q8 ได้รับการปรับปรุงสไตล์สำหรับปี 2025 เพื่อให้สอดคล้องกับรุ่น Q8 และ SQ8 ที่ได้รับการปรับโฉมเมื่อปีที่แล้ว แต่ไฮไลต์ที่แท้จริงคือรุ่น Performance ใหม่ที่มีกำลัง 631 แรงม้า รุ่น Performance ไม่เพียงแต่มอบแรงม้าที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับเฟืองท้ายกลางแบบล็อกตัวเอง ระบบไอเสียที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษ และช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้ RS Q8 มีเสถียรภาพในการเข้าโค้ง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 145,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.3 ล้านบาท) ได้รับการปรับปรุงสไตล์และเพิ่มรุ่น Performance ใหม่
2025 Bentley Bentayga
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวัง พร้อมสมรรถนะที่เข้ากันได้ดีเยี่ยม สุดยอด SUV ในเวลานี้
Bentley Bentayga ยืนหยัดในฐานะตัวอย่างของความหรูหราสูงสุดในกลุ่ม SUV ระดับพรีเมียม สำหรับปี 2025 รุ่นนี้ยังคงสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานที่ไร้ที่ติระหว่างความประณีต สมรรถนะ และงานฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ เครื่องยนต์ V8 อันล้ำสมัยมอบพละกำลังเกือบ 550 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงส่งผลให้มีการเร่งความเร็วแทบจะในทันที ดึงตัวรถไปข้างหน้าอย่างรถไฟด้วยความสะดวกสบายสูงสุดและความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส Bentayga V8 มีการควบคุมที่ดีเยี่ยมและคล่องตัวกว่าที่คุณคาดคิดมาก Bentley ยังมีทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย Bentayga Hybrid ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 เบนซิน 3.0 ลิตร 335 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 162 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 17.3 kWh แม้จะเน้นการประหยัดเชื้อเพลิง แต่ด้วยพละกำลังรวม 443 แรงม้า Bentayga Hybrid ก็ไม่ได้เชื่องช้าแต่อย่างใด ภายในยังคงความหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ ด้วยการออกแบบที่ได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดอ่อนและการเพิ่มคุณสมบัติที่เพิ่มความสะดวกสบายและเทคโนโลยี Bentley ไม่ได้ลดทอนความหรูหรา ดังนั้น 2025 Bentayga Hybrid จึงยังคงมอบประสบการณ์อันหรูหราแบบเดียวกันให้กับผู้โดยสาร การออกแบบภายในที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ทำให้ผู้ซื้อสามารถปรับแต่งรถให้เข้ากับรสนิยมส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 205,925 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.5 ล้านบาท) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากนักสำหรับรุ่นปี 2025
2025 Bentley Bentayga EWB
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น ด้วยพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นและความหรูหราเท่าเดิม
Bentley Bentayga EWB (Extended Wheel Base) คือรุ่นฐานล้อยาวของ SUV สุดหรูนี้ ทำให้มันกลายเป็นรถลิมูซีนขนาดใหญ่ ตัวรถโดยรวมเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อ 180 มม. ซึ่งทำให้เบาะหลังมีพื้นที่วางขาที่กว้างขวางมาก สามารถเลือกเบาะนั่งเอนนอนแยกอิสระสองที่นั่งที่ด้านหลัง หรือรุ่นสามที่นั่งที่ไม่สามารถเอนนอนได้ แต่ยังคงเพลิดเพลินกับพื้นที่วางขาที่เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากพื้นที่เพิ่มเติมแล้ว EWB ยังมาพร้อมล้อขนาด 21 นิ้ว เป็นมาตรฐานแม้ในรุ่นพื้นฐาน และยังคงมีสมรรถนะเท่ากับ Bentayga รุ่นพื้นฐานโดยไม่สูญเสียเวลา 0-100 กม./ชม. หรือความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังได้รับเวอร์ชัน Mulliner (ดังภาพด้านบน) ซึ่งมีการจัดวางสีสามสีที่พิเศษที่สุด โดยมีให้เลือกแปดแบบสีที่เป็นเอกลักษณ์ สำหรับปี 2025 Bentayga ยังคงมีรุ่น Mulliner ระดับท็อปสุด รุ่นนี้มีการออกแบบภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถระบุสีภายในได้เกือบ 4,000 แบบ Mulliner มีจำหน่ายเฉพาะในตัวถังฐานล้อยาวของ Bentayga และเครื่องยนต์ V-8 เท่านั้น
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 236,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.7 ล้านบาท) รุ่น Mulliner ยังคงเป็นตัวเลือกสูงสุดในปี 2025
2025 BMW X3 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่กระตุ้นอะดรีนาลีน พร้อมความสามารถในการใช้งานประจำวันที่ดี
BMW X3 M เป็น SUV ขนาดกะทัดรัดสมรรถนะสูง ที่ผสมผสานการใช้งานได้จริงเข้ากับพลวัตการขับขี่ที่เร้าใจ ภายใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร อันทรงพลัง สร้างกำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 442 ปอนด์-ฟุต (600 นิวตันเมตร) กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ของ BMW ทำให้ X3 M สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที นอกเหนือจากความเร็วทางตรงที่น่าประทับใจแล้ว X3 M ยังโดดเด่นในการควบคุมและความคล่องตัว ช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ต โช้คอัพแบบปรับได้ และการปรับแต่งเฉพาะ M เปลี่ยน SUV นี้ให้กลายเป็นเครื่องยนต์ที่เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ พวงมาลัยแม่นยำและตอบสนองได้ดี ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่ เบรกขนาดใหญ่ช่วยให้มั่นใจถึงกำลังในการหยุดรถที่ดีเยี่ยมแม้ในการขับขี่ที่ดุดัน การออกแบบภายนอกของ X3 M สะท้อนถึงความสามารถด้านสมรรถนะ ด้วยสไตล์ที่ดุดัน เช่น ช่องรับอากาศขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าดีไซน์เฉพาะ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกการออกแบบล้อที่โดดเด่น ภายในห้องโดยสาร X3 M นำเสนอการผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสปอร์ต เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับสรีระ พวงมาลัยขอบหนา และจอแสดงผลเฉพาะ M สร้างสภาพแวดล้อมที่มุ่งเน้นผู้ขับขี่ ห้องโดยสารยังภูมิใจนำเสนอวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 76,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 มากนัก
2025 BMW X4 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: แรงม้าเยอะ การเร่งความเร็วที่รวดเร็ว การควบคุมที่เชี่ยวชาญ
BMW X4 M นำเอาความสามารถในการใช้งานและสมรรถนะของ X3 M มาบรรจุไว้ในแพ็คเกจที่ทันสมัยกว่าและมีรูปทรงคล้ายคูเป้ Sports Activity Coupe คันนี้ภูมิใจนำเสนอเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร อันดุดันแบบเดียวกับ X3 M สร้างกำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 442 ปอนด์-ฟุต (600 นิวตันเมตร) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้ X4 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที มอบการเร่งความเร็วที่น่าตื่นเต้นและการยึดเกาะที่มั่นใจ แต่นอกเหนือจากความเร็วทางตรงแล้ว X4 M ยังโดดเด่นด้วยช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ต โช้คอัพแบบปรับได้ และพวงมาลัยที่แม่นยำ ทำให้การขับขี่เข้าโค้งเป็นเรื่องสนุก X4 M แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ด้วยแชสซีที่ตอบสนองที่กระตุ้นให้เกิดการขับขี่ที่เร้าใจ องค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่น เช่น หลังคาลาดเอียง ส่วนท้ายที่แกะสลัก และกันชนหน้าที่ดุดัน ทำให้แตกต่างจาก X3 M ที่มีรูปแบบดั้งเดิมมากกว่า ภายในห้องโดยสาร X4 M นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและมุ่งเน้นผู้ขับขี่ เบาะนั่งสปอร์ตให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว ในขณะที่พวงมาลัยขอบหนาและจอแสดงผลเฉพาะ M ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ ห้องโดยสารยังเต็มไปด้วยเทคโนโลยี รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ สไตล์ และความสามารถในการใช้งาน ทำให้ BMW X4 M เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้น
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 80,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.9 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 มากนัก
2025 BMW X5 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: มาตรฐานใหม่สำหรับ Super SUV ที่เร็ว กว้างขวาง และหรูหรา
BMW X5 M สำหรับปี 2025 กลับมาเป็นผู้ครอบงำในเวที SUV สมรรถนะสูง อีกครั้ง ด้วยพลังและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น ภายใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบขนาด 4.4 ลิตร ที่คุ้นเคยได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V เพิ่มกำลังขับเคลื่อนที่น่าเกรงขามถึง 617 แรงม้า และแรงบิด 553 ปอนด์-ฟุต (750 นิวตันเมตร) ทำให้ X5 M สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.7 วินาที พร้อมด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่รับรองว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ชื่นชอบความเร็วทุกคน แต่ความสามารถของ X5 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเร็วทางตรง แชสซีที่ซับซ้อนโดดเด่นด้วยระบบกันสะเทือน M แบบปรับได้ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ทำให้ X5 M สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจด้วยความสงบที่น่าทึ่ง เบรก M Compound ขนาดใหญ่ให้กำลังในการหยุดรถที่มั่นใจ นำ SUV อันทรงพลังนี้ให้หยุดนิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสาร X5 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัย หน้าจอ BMW Curved Display ครอบคลุมแผงหน้าปัด โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 125,975 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.6 ล้านบาท) เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2024 และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025
2025 BMW X6 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องยนต์ที่น่าทึ่งพร้อมการเร่งความเร็วที่บ้าคลั่ง สนุกสุดเหวี่ยงบนถนนรอง
BMW X6 M สำหรับปี 2025 สร้างชื่อเสียงในฐานะ SUV ทรงคูเป้สมรรถนะสูง มอบการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นของพลัง สไตล์ และเทคโนโลยี มีเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตร อันทรงพลังเช่นเดียวกับ X5 M ซึ่งขณะนี้ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Mild-Hybrid 48V ให้กำลังขับเคลื่อนรวม 617 แรงม้า และแรงบิด 553 ปอนด์-ฟุต (750 นิวตันเมตร) ซึ่งหมายถึงการเร่งความเร็วที่น่าตื่นเต้น โดย X6 M สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.7 วินาที สมรรถนะของ X6 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พลังดิบ ต้องขอบคุณแชสซีที่ซับซ้อนซึ่งมีระบบกันสะเทือน M แบบปรับได้ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ SUV ขนาดใหญ่คันนี้สามารถเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำที่น่าประหลาดใจ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ในขณะที่เบรก M Compound อันทรงพลังให้กำลังในการหยุดรถที่มั่นใจ ภายในห้องโดยสาร X6 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและมุ่งเน้นผู้ขับขี่ หน้าจอ BMW Curved Display เป็นจุดศูนย์กลาง โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้วได้อย่างราบรื่น
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 130,875 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.8 ล้านบาท) ได้รับการปรับโฉมสำหรับรุ่นปี 2024 และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025
2025 Cadillac Escalade V-Series
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องจักรที่คล่องตัวและทรงพลังอย่างน่าประหลาดใจ ท้าทายขนาดและน้ำหนักของมัน
2025 Cadillac Escalade V-Series ยกระดับ SUV หรูหรา อันเป็นสัญลักษณ์ไปสู่จุดสูงสุดใหม่ของสมรรถนะและความพิเศษ ภายใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร ที่ประกอบด้วยมือคำรามปลดปล่อยพละกำลังมหาศาล 682 แรงม้า และแรงบิด 653 ปอนด์-ฟุต (885 นิวตันเมตร) ซึ่งหมายถึงการพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ที่น่าตื่นเต้นในเวลาเพียง 4.4 วินาที ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ขนาดและรูปร่างเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม Escalade V-Series ไม่ได้พึ่งพาแค่พละกำลังดิบเท่านั้น ระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะพร้อม Magnetic Ride Control 4.0 เฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป และเบรก Brembo ขนาดใหญ่ รับประกันการควบคุมและการหยุดรถที่ยอดเยี่ยม Escalade V-Series โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ กันชนหน้าที่มีช่องรับอากาศขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าตาข่าย และตรา V-Series ทำให้แตกต่างจาก Escalade มาตรฐาน ล้อขนาด 24 นิ้ว สุดพิเศษ คาลิปเปอร์เบรก Edge Red (เลือกได้) และปลายท่อไอเสียสี่ท่อ เน้นย้ำถึงความเป็นรถสปอร์ต ภายในห้องโดยสารเป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Semi-aniline พร้อมการเย็บที่เป็นเอกลักษณ์และโลโก้ V-Series มอบความสบายและการรองรับที่ยอดเยี่ยม หน้าจอ OLED โค้งครอบคลุมแผงหน้าปัด โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 14.2 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 16.9 นิ้ว
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 161,990 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.9 ล้านบาท) ได้รับการอัปเดตภายนอกและภายในสำหรับปี 2025
2025 Dodge Durango SRT 392
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริงพร้อมสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
Dodge Durango SRT 392 เป็นรถ Muscle Car ที่ปลอมตัวเป็น SUV สำหรับครอบครัว เป็นยานพาหนะที่ท้าทายความคาดหวัง มอบสมรรถนะที่เร้าใจและเสียง V8 ที่ดุดัน ในขณะที่ยังคงนำเสนอความสามารถในการใช้งานและความอเนกประสงค์ของ SUV สามแถว ภายใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ HEMI V8 ขนาด 6.4 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาล 475 แรงม้า และแรงบิด 470 ปอนด์-ฟุต (637 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 4.7 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในคลาส แต่นอกเหนือจากความเร็วทางตรงแล้ว Durango SRT 392 ยังติดตั้งช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ต เบรก Brembo และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจ เป็นยานพาหนะที่สามารถขับขี่บนถนนคดเคี้ยวได้อย่างสบาย หรือแม้กระทั่งลงสนามแข่งได้อย่างมั่นใจ การออกแบบภายนอกที่ดุดันของ Durango SRT 392 ด้วยฐานล้อที่กว้างขึ้น สคูปบนฝากระโปรง และล้อขนาด 20 นิ้ว ยิ่งบ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ ภายในห้องโดยสาร Durango SRT 392 นำเสนอห้องโดยสารที่สะดวกสบายและครบครัน พร้อมที่นั่งสูงสุดเจ็ดที่นั่ง เบาะหน้าอุ่นและระบายอากาศ พวงมาลัยอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้เป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์ในการใช้เวลา ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะแบบ Muscle Car ความสามารถในการใช้งานแบบ SUV และภายในที่สะดวกสบาย ทำให้ Dodge Durango SRT 392 เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทุกอย่าง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 76,590 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท) มีให้เลือกหลายรุ่นย่อยพร้อมตัวเลือกที่จำกัด
2025 Dodge Durango SRT Hellcat
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริงพร้อมสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
2025 Dodge Durango SRT Hellcat กลับมาอีกครั้ง ท้าทายความคาดหวังและตรรกะด้วยการยัดเครื่องยนต์ Hellcat V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร เข้าไปใน SUV สำหรับครอบครัว เครื่องยนต์มหึมานี้สร้างกำลังมหาศาลถึง 710 แรงม้า และแรงบิด 645 ปอนด์-ฟุต (875 นิวตันเมตร) เปลี่ยน Durango ให้กลายเป็นสัตว์ร้ายแห่งสมรรถนะที่แท้จริง ด้วยเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 3.5 วินาที และเวลา 1/4 ไมล์ 11.5 วินาที Durango SRT Hellcat สามารถแซงหน้ารถสปอร์ตหลายคันได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงรองรับผู้โดยสารเจ็ดคนและสัมภาระได้อย่างสบาย แต่ Durango SRT Hellcat ไม่ได้มีแค่พละกำลังดิบเท่านั้น มันมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ และช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ตที่ช่วยให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน เบรก Brembo ขนาดใหญ่ให้กำลังในการหยุดรถที่จำเป็นเพื่อควบคุมสัตว์ร้ายคันนี้ ในขณะที่ระบบ Launch Control ช่วยให้คุณสามารถเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็ว การออกแบบภายนอกที่ดุดันของ Durango SRT Hellcat ด้วยฐานล้อที่กว้าง สคูปบนฝากระโปรง และล้อขนาด 20 นิ้ว ไม่ต้องสงสัยเลยถึงความตั้งใจด้านสมรรถนะ ภายในห้องโดยสาร Durango SRT Hellcat นำเสนอห้องโดยสารที่สะดวกสบายและครบครัน พร้อมที่นั่งสูงสุดเจ็ดที่นั่ง เบาะหน้าอุ่นและระบายอากาศ พวงมาลัยอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้เป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์ในการใช้เวลา ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ความสามารถในการใช้งานแบบ SUV และภายในที่สะดวกสบาย ทำให้ 2025 Dodge Durango SRT Hellcat เป็นยานพาหนะที่มีเอกลักษณ์และน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงที่ท้าทายการจัดหมวดหมู่
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 104,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.8 ล้านบาท) มีรุ่นพิเศษ Silver Bullet สำหรับปี 2025
2025 Ferrari Purosangue
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ ความสามารถในการใช้งาน และความหรูหรา สำหรับครอบครัว
Ferrari Purosangue ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari เท่านั้น แต่มันคือคำประกาศที่ท้าทายธรรมเนียมและนิยามความคาดหวังใหม่ นี่ไม่ใช่รถยนต์สำหรับครอบครัวที่สูงตระหง่านทั่วไป แต่เป็น Ferrari พันธุ์แท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์ของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยฝากระโปรงหน้ายาว ซุ้มล้อที่ดูแข็งแกร่ง และท่าทางที่ดุดัน เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari อย่างชัดเจน ในขณะที่ความสูงจากพื้นดินที่เพิ่มขึ้นและสี่ประตูมอบระดับความสามารถในการใช้งานใหม่สำหรับม้าลำพองคันนี้ ภายใต้ฝากระโปรง Purosangue ภูมิใจนำเสนอเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบหายใจเอง ที่ปลดปล่อยพลังเสียงอันไพเราะ สร้างกำลัง 715 แรงม้า และแรงบิด 528 ปอนด์-ฟุต (716 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นสมรรถนะที่น่าทึ่ง โดยมีเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 3.3 วินาที และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. แต่ Purosangue เป็นมากกว่าขีปนาวุธทางตรง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง มอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้การขับขี่บนถนนคดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุก ภายในห้องโดยสาร Purosangue นำเสนอห้องโดยสารที่หรูหราและกว้างขวางพร้อมที่นั่งสี่ที่นั่ง ห้องโดยสารที่เน้นผู้ขับขี่โดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัล ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว และการออกแบบ Dual-Cockpit ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งให้ผู้โดยสารด้านหน้ามีจอแสดงผลและระบบควบคุมของตนเอง เบาะหลังมีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวาง ทำให้ Purosangue เป็นยานพาหนะที่สะดวกสบายและใช้งานได้จริงสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่เร้าใจ การออกแบบที่สวยงาม และความสามารถในการใช้งานที่น่าประหลาดใจ ทำให้ Ferrari Purosangue เป็นยานพาหนะที่ก้าวล้ำที่นิยามใหม่ว่า Ferrari สามารถเป็นอะไรได้บ้าง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 428,686 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 15.7 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสำหรับรุ่นปี 2025
2025 Ford F-150 Raptor / Raptor R
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: รถกระบะออฟโรดที่สามารถทำอะไรได้เหลือเชื่อ ทะลุขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในรถกระบะ
2025 Ford F-150 Raptor และ Raptor R ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในโลกของ รถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง ยานพาหนะที่บุกตะลุยทะเลทราย ปีนป่ายโขดหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการการผจญภัยที่กระตุ้นอะดรีนาลีนและต้องการความสามารถสูงสุดจากยานพาหนะของพวกเขา รถทั้งสองคันใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและการออกแบบที่ดุดัน แต่ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบออฟโรดในระดับที่แตกต่างกัน F-150 Raptor รุ่น “พื้นฐาน” ก็ไม่ธรรมดา มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 450 แรงม้า และแรงบิด 510 ปอนด์-ฟุต (691 นิวตันเมตร) กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมกล่องเกียร์แบบ Torque-on-demand หัวใจสำคัญของ Raptor คือช่วงล่างที่มีโช้คอัพ Fox 3.1 Live Valve internal bypass ที่ให้การควบคุมและการหน่วงที่ยอดเยี่ยมแม้ในภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ด้วยระยะยุบตัวของช่วงล่างด้านหน้า 13.1 นิ้ว และด้านหลัง 14.1 นิ้ว Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่รุนแรงยิ่งขึ้น F-150 Raptor R ยกระดับไปอีกขั้น ภายใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ Predator V8 ซูเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร ที่นำมาจาก Mustang Shelby GT500 ซึ่งปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 700 แรงม้า และแรงบิด 640 ปอนด์-ฟุต (868 นิวตันเมตร) ทำให้ Raptor R เป็นรถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตลาด นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ ฐานล้อที่กว้างขึ้น และยาง All-Terrain ขนาด 37 นิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Raptor หรือ Raptor R คุณก็มั่นใจได้ว่าจะได้รถกระบะที่สามารถพิชิตทุกสภาพภูมิประเทศและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่กระตุ้นอะดรีนาลีน
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 80,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.9 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 มากนัก
2025 Ford Bronco Raptor
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัตว์ร้ายออฟโรดที่แท้จริง สามารถรับมือกับภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้อย่างง่ายดาย
Ford Bronco Raptor ไม่ใช่ SUV ทั่วไปของคุณ; มันคือสัตว์ร้ายออฟโรดสมรรถนะสูงที่สร้างขึ้นเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ลองนึกภาพรถบรรทุกมอนสเตอร์ที่วิ่งในทะเลทราย ปีนป่ายโขดหิน กระโดดข้ามเนินทราย พร้อมป้ายทะเบียน Ford นำ Bronco ที่มีความสามารถอยู่แล้วมาผสมผสานกับ DNA ของ Raptor ทำให้เกิดยานพาหนะที่ผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะออฟโรด ภายใต้ฝากระโปรง Bronco Raptor บรรจุเครื่องยนต์ V6 EcoBoost ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาล 418 แรงม้า และแรงบิด 440 ปอนด์-ฟุต (597 นิวตันเมตร) กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมเพลาท้าย Dana 50 Heavy-Duty AdvanTEK และเพลาหน้า Dana 44 AdvanTEK หัวใจสำคัญของ Bronco Raptor คือระบบกันสะเทือน ระบบกันสะเทือน High-Performance Off-Road Stability Suspension (HOSS 4.0) พร้อมโช้คอัพกึ่งแอคทีฟ Fox 3.1 internal bypass ช่วงล่างระยะยุบตัวสูง และยาง All-Terrain ขนาด 37 นิ้ว การตั้งค่านี้ช่วยให้ Bronco Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย มอบการควบคุมและเสถียรภาพที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพแวดล้อมออฟโรดที่ต้องการมากที่สุด การออกแบบภายนอกของ Bronco Raptor ดุดันไม่แพ้สมรรถนะ ซุ้มล้อที่กว้างขึ้น กระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ และตัวอักษร “FORD” ที่โดดเด่น ไม่ต้องสงสัยเลยถึงความตั้งใจของมัน คุณสมบัติการใช้งาน เช่น แผ่นกันกระแทกเหล็ก แผ่นกันกระแทกแบบ Heavy-duty และตะขอเกี่ยวช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด ภายในห้องโดยสารเป็นการผสมผสานระหว่างความทนทานและความประณีต ด้วยเบาะไวนิลเกรด Marine ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง และคุณสมบัติที่เน้นการขับขี่แบบออฟโรดมากมาย Bronco Raptor เป็นเครื่องจักรที่มีเอกลักษณ์และมีความสามารถอย่างแท้จริงที่นิยามใหม่ว่า SUV ออฟโรด สามารถเป็นอะไรได้บ้าง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 91,930 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนักสำหรับปี 2025
2025 Lamborghini Urus
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความบ้าคลั่งแบบ Lamborghini และความสามารถในการใช้งานประจำวันของ SUV
2025 Lamborghini Urus พุ่งทะยานสู่อนาคตด้วยระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid อันทรงพลัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูง คันนี้ ในขณะที่เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์ยังคงอยู่ แต่ตอนนี้มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้าง Urus S.E. (Super Elettrica) ใหม่ การผสมผสานนี้ปลดปล่อยพละกำลังมหาศาลถึง 789 แรงม้า และแรงบิด 701 ปอนด์-ฟุต (950 นิวตันเมตร) ผลักดันให้ Urus S.E. พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที นอกเหนือจากพละกำลังดิบแล้ว ระบบไฮบริดยังมอบระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวประมาณ 48 กิโลเมตร เพิ่มมิติของประสิทธิภาพให้กับ Super SUV คันนี้ แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Urus ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Urus S “พื้นฐาน” ก็ได้รับการอัปเดตสำหรับปี 2025 โดยมีการออกแบบด้านหน้าใหม่พร้อมกันชนและฝากระโปรงใหม่ รวมถึงไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการอัปเดต ภายในทั้ง Urus S และ S.E. ได้รับประโยชน์จากระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ได้รับการอัปเกรดและตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Urus รุ่น Performante ยังคงครองตำแหน่งสูงสุด ด้วยมาตรการลดน้ำหนัก การปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ และการปรับแต่งที่เน้นสนามแข่ง ทำให้ Urus Performante มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น สิ่งใหม่ในรายการตัวเลือกคือล้อ Galanthus ขนาด 23 นิ้ว ที่โดดเด่นพร้อมยาง Pirelli P Zero ขนาด 285/35 ที่ด้านหน้าและ 325/30 ที่ด้านหลัง ภายใน Urus S.E. มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้นพร้อมการตอบสนองที่ดีขึ้นและการควบคุมด้วยเสียงที่ได้รับการปรับปรุง ในขณะที่ยังคงรักษาปุ่มควบคุมทางกายภาพที่น่าพอใจมากมาย รวมถึงสวิตช์สลับและปุ่มสตาร์ทที่ถูกกรงขัง การอัปเดตเหล่านี้รวมกันเพื่อยกระดับรูปลักษณ์และความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีของ Urus ทำให้มั่นใจได้ว่าจะยังคงเป็นที่จับตามองทั้งภายในและภายนอก
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 241,843 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.8 ล้านบาท) เปิดตัวรุ่น S.E. Hybrid ใหม่พร้อมการปรับปรุงสไตล์
2025 Lotus Eletre
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือตัวเปลี่ยนเกมสำหรับ Lotus EV SUV สมรรถนะสูง
Lotus Eletre เป็นยานพาหนะที่ก้าวล้ำ ซึ่งแสดงถึงการก้าวที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษที่โด่งดังเรื่องรถสปอร์ตน้ำหนักเบา SUV ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ คันนี้เป็นการบุกเบิกตลาด SUV ครั้งแรกของ Lotus และกำลังสร้างความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสามารถด้านสมรรถนะที่น่าประทับใจ รูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์และเส้นสายที่แกะสลักของ Eletre ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางที่น่าประทับใจอีกด้วย ภายใต้ผิวหนัง Eletre ภูมิใจนำเสนอระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอันทรงพลังพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิด 523 ปอนด์-ฟุต (710 นิวตันเมตร) ในรุ่นพื้นฐานและ S ซึ่งแปลเป็นเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 4.5 วินาที สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น Eletre R รุ่นท็อปปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 905 แรงม้า และแรงบิด 726 ปอนด์-ฟุต (984 นิวตันเมตร) ผลักดันให้พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที Eletre R ยังมีเกียร์สองสปีดที่เป็นเอกลักษณ์บนเพลาหลัง ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งการเร่งความเร็วและประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสาร Eletre นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัย มีการใช้วัสดุที่ยั่งยืนทั่วทั้งห้องโดยสาร ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Lotus ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้ว ครอบงำแผงหน้าปัด โดยให้การเข้าถึงระบบนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ Eletre ยังภูมิใจนำเสนอระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมาย รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบกล้อง 360 องศา
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4 ล้านบาท) เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025
2025 Maserati Grecale
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ดูดี แต่ยังคงต้องดิ้นรนเมื่อเทียบกับคู่แข่งที่ดีที่สุดในตลาด
2025 Maserati Grecale เปิดตัวในฐานะ SUV หรูหราขนาดกะทัดรัด ที่รวบรวมสไตล์และสมรรถนะแบบอิตาเลียน SUV ที่มีสไตล์คันนี้มอบการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างความอเนกประสงค์ เทคโนโลยี และความตื่นเต้นในการขับขี่ ทำให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในเซกเมนต์ Maserati นำเสนอ Grecale ในสามรุ่นที่แตกต่างกัน แต่ละรุ่นตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Grecale GT รุ่นเริ่มต้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-Hybrid 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 296 แรงม้า และแรงบิด 332 ปอนด์-ฟุต (450 นิวตันเมตร) ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ในขณะที่ระบบ Mild-Hybrid ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ Grecale Modena รุ่นถัดไปมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Mild-Hybrid เดียวกันแต่ทรงพลังยิ่งขึ้น สร้างกำลัง 325 แรงม้า และแรงบิด 332 ปอนด์-ฟุต (450 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยการเร่งความเร็วและการตอบสนองที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Grecale Grecale Trofeo อยู่ในอันดับสูงสุด โดยเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ 4 สูบ เป็นเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร ที่ได้มาจากซูเปอร์คาร์ MC20 เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ปลดปล่อยกำลัง 523 แรงม้า และแรงบิด 457 ปอนด์-ฟุต (620 นิวตันเมตร) ผลักดันให้ Grecale Trofeo พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด Grecale ก็มอบภายในที่หรูหราและครบครันด้วยวัสดุคุณภาพสูงและคุณสมบัติเทคโนโลยีขั้นสูง
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 69,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 มากนัก
2025 Maserati Grecale Folgore
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะ และความยั่งยืน
2025 Maserati Grecale Folgore เพิ่มพลังงานไฟฟ้าให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Grecale นำเสนอสมรรถนะที่ยั่งยืนให้กับ SUV สไตล์อิตาเลียน คันนี้ รุ่นไฟฟ้าเต็มรูปแบบนี้อัดแน่นไปด้วยพลังงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ สร้างกำลังรวม 542 แรงม้า และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต (800 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นการเร่งความเร็วที่น่าตื่นเต้น โดยมีเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 4.1 วินาที แต่ Folgore ไม่ได้มีแค่ความเร็วทางตรงเท่านั้น นอกจากนี้ยังภูมิใจนำเสนอแบตเตอรี่ขนาด 105 kWh ที่ให้ระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล Grecale Folgore โดดเด่นจากพี่น้องที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่น ล้อแอโรไดนามิกที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในขณะที่การตกแต่งด้วยทองแดงบนตราสัญลักษณ์ภายนอกและคาลิปเปอร์เบรกบ่งบอกถึงความเป็นรถไฟฟ้า ภายในห้องโดยสาร Folgore โดดเด่นด้วยเบาะ Econyl ที่ทำจากไนลอนรีไซเคิล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Maserati ในเรื่องความยั่งยืน แผงหน้าปัดโดดเด่นด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ซึ่งให้การเข้าถึงระบบนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ ด้วยการผสมผสานระหว่างสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ 2025 Maserati Grecale Folgore เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV ไฟฟ้าพรีเมียม ที่ไม่ลดทอนความสนุกในการขับขี่
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 110,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4 ล้านบาท) เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025
2025 Maserati Levante
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใหญ่ สวยงาม และหรูหรา ทำในแบบฉบับ Maserati
2025 Maserati Levante ซึ่งเป็น SUV เรือธงของแบรนด์ ยังคงสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาเลียน ความหรูหรา และสมรรถนะที่เร้าใจ ในปีนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยสไตล์ที่อัปเดต เทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง และระบบส่งกำลังที่ประณีตยิ่งขึ้น การออกแบบภายนอกได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดอ่อนด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุง ภายในห้องโดยสารภูมิใจนำเสนอระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ใหม่พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Maserati ซึ่งมอบฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Levante GT รุ่นเริ่มต้นมีเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-Hybrid 2.0 ลิตร ที่มอบความสมดุลระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพ สร้างกำลัง 325 แรงม้า Levante Modena เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร สร้างกำลังที่ทรงพลังยิ่งขึ้น 424 แรงม้า สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Levante Levante Trofeo ครองตำแหน่งสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตร อันดุดัน ปลดปล่อยกำลัง 572 แรงม้า และเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือก Levante รุ่นใด คุณจะได้รับการปรนเปรอด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและประณีต ภายในห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและไม้ ในขณะที่คุณสมบัติเช่น เบาะนั่งอุ่นและระบายอากาศ ระบบเสียงระดับพรีเมียม และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและคุณสมบัติในการใช้งาน ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบสไตล์อิตาเลียน เครื่องยนต์ทรงพลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา ทำให้ 2025 Maserati Levante ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 103,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.7 ล้านบาท) ได้รับการปรับปรุงสไตล์และเทคโนโลยี
2025 Mercedes-AMG G63
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์ของสถานะ แต่ยังเป็นรถที่หรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง
Mercedes-AMG G 63 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “G-Wagon” เป็นสัญลักษณ์ของความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดและความหรูหราที่ไม่ประนีประนอม SUV ในตำนาน คันนี้ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทหาร เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและความสามารถมานานหลายทศวรรษ สำหรับปี 2025 G 63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต ในขณะที่ยังคงรักษารูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ ภายใต้ฝากระโปรง G 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตร ที่ประกอบด้วยมือ ซึ่งขณะนี้มาพร้อมกับระบบ Mild-Hybrid 48V อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 627 ปอนด์-ฟุต (850 นิวตันเมตร) ผลักดันให้ G 63 พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.2 วินาที ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษอีกด้วย ความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรดของ G 63 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งมอบการ articulation ที่ดีขึ้นและประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นบนพื้นผิวที่ขรุขระ ภายในห้องโดยสาร G 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี หนังที่เย็บด้วยมือ การตกแต่งด้วยไม้ที่ประณีต และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศที่โอ่อ่าและประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครอบงำแผงหน้าปัด โดยให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย สำหรับปี 2025 G 63 แนะนำคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ รวมถึง Active Steering Assist และ Active Emergency Stop Assist ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ทรงพลัง สิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา และเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง ทำให้ 2025 Mercedes-AMG G 63 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดความหรูหราและความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 190,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6.9 ล้านบาท) ได้รับการปรับปรุงสไตล์เล็กน้อยและเพิ่มระบบ Mild-Hybrid
2025 Mercedes-AMG GLC-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและมอเตอร์ไฟฟ้ามอบพละกำลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด
Mercedes-AMG GLC-Class ทั้งในรูปแบบ SUV แบบดั้งเดิมและ Coupe ที่เพรียวบาง มอบสมรรถนะที่ทรงพลังให้กับกลุ่ม SUV หรูหราขนาดกะทัดรัด ยานพาหนะที่ไดนามิกเหล่านี้ใช้แพลตฟอร์ม GLC ที่ประณีตและอเนกประสงค์ และใส่ DNA มอเตอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG ทำให้ได้ SUV ที่เหมาะกับการขับขี่บนถนนคดเคี้ยวพอๆ กับการขับขี่ในเมือง สำหรับปี 2025 กลุ่มผลิตภัณฑ์ AMG GLC-Class ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยเน้นสมรรถนะแบบไฟฟ้า AMG GLC 43 4MATIC มีระบบ Mild-Hybrid จับคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร สร้างกำลัง 416 แรงม้า และแรงบิด 369 ปอนด์-ฟุต (500 นิวตันเมตร) การตั้งค่านี้ให้การเร่งความเร็วที่รวดเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบ AMG และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อรับประกันการควบคุมที่คล่องตัวและการยึดเกาะที่มั่นใจ ที่ด้านบนสุดของลำดับชั้นสมรรถนะคือ AMG GLC 63 S E PERFORMANCE รุ่นสมรรถนะสูงนี้ภูมิใจนำเสนอระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ล้ำสมัย ซึ่งรวมเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง สร้างกำลังขับเคลื่อนรวม 671 แรงม้า และแรงบิด 752 ปอนด์-ฟุต (1020 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นการเร่งความเร็วที่น่าทึ่ง โดยมีเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 3.4 วินาที GLC 63 S E PERFORMANCE ยังมีคุณสมบัติสมรรถนะมากมาย รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเฉพาะ AMG ระบบหน่วงแบบปรับได้ และระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ รับประกันการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก ทั้ง GLC 43 และ GLC 63 S E PERFORMANCE มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบตัวถัง SUV และ Coupe โดยนำเสนอทางเลือกระหว่าง SUV ที่ใช้งานได้จริงและอเนกประสงค์ หรือ Coupe ที่เพรียวบางและสปอร์ตกว่าด้วยหลังคาลาดเอียง ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่ทรงพลัง เทคโนโลยีขั้นสูง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา ทำให้ 2025 Mercedes-AMG GLC-Class และ GLC-Class Coupe เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัด ที่มีขอบเขตความตื่นเต้น
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: GLC43 เริ่มต้นที่ประมาณ 66,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.4 ล้านบาท) GLC 63 S E PERFORMANCE กลับมาพร้อมขุมพลังไฮบริดใหม่ 671 แรงม้า
2025 Mercedes-AMG GLE-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ควบคุมได้ดีอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน และมีพละกำลังที่ยอดเยี่ยม
Mercedes-AMG GLE-Class สำหรับปี 2025 ยังคงครองตำแหน่ง SUV หรูหราสมรรถนะสูง ที่ผสมผสานพละกำลังที่เร้าใจเข้ากับความสะดวกสบายที่ประณีตและเทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างไร้รอยต่อ SUV ขนาดกลางนี้สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Mercedes-Benz GLE ซึ่งได้รับการปรับปรุงแบบ AMG โดยเน้นพลวัตการขับขี่ที่ได้รับการปรับปรุง การออกแบบที่ดุดัน และระบบส่งกำลังไฟฟ้าอันทรงพลัง กลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class AMG สำหรับปี 2025 ได้รับการปรับปรุงให้กระชับยิ่งขึ้น โดยนำเสนอ GLE 53 และ GLE 63 สมรรถนะสูง GLE 53 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid การตั้งค่านี้สร้างกำลัง 429 แรงม้า และแรงบิด 384 ปอนด์-ฟุต (520 นิวตันเมตร) ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการวิ่งเร็ว เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ รับประกันการควบคุมที่มั่นใจและการยึดเกาะในสภาพต่างๆ ซึ่งช่วยเสริมลักษณะสปอร์ตของ GLE 53 Mercedes-AMG GLE 63 S E อยู่ในจุดสูงสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ต่อเทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง SUV คันนี้อัดแน่นไปด้วยพลังงาน โดยรวมเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตร ที่ประกอบด้วยมือ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลัง เพื่อให้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 627 ปอนด์-ฟุต (850 นิวตันเมตร) การตั้งค่านี้ช่วยให้ GLE 63 S E พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: GLE53 เริ่มต้นที่ประมาณ 90,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท) มีการเพิ่มสีตัวถังและสีภายในใหม่ 4 สี
2025 Mercedes-AMG GLS-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริง และเร็วมากสำหรับคุณและครอบครัว
Mercedes-AMG GLS 63 คือสุดยอดของความหรูหราและสมรรถนะของ SUV ยานพาหนะที่สามารถพิชิตทุกเส้นทางได้ ในขณะที่ยังคงความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้ให้กับผู้โดยสาร SUV ขนาดเต็ม คันนี้ สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Mercedes-Benz GLS ที่โอ่อ่าอยู่แล้ว ได้รับการปรับปรุงแบบ AMG เต็มรูปแบบ ภูมิใจนำเสนอเครื่องยนต์ V8 ที่ประกอบด้วยมือ ช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ต และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรามากมาย ภายใต้ฝากระโปรง GLS 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตร ที่ประกอบด้วยมือ ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-Hybrid 48V อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 603 แรงม้า และแรงบิด 627 ปอนด์-ฟุต (850 นิวตันเมตร) ผลักดันให้ GLS 63 พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.1 วินาที ระบบ Mild-Hybrid ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษอีกด้วย เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ของ GLS 63 ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ รับประกันการควบคุมที่มั่นใจและการยึดเกาะในสภาพต่างๆ ภายในห้องโดยสาร GLS 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Nappa ระดับพรีเมียม การตกแต่งด้วยไม้ที่ประณีต และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศที่โอ่อ่าและประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครอบงำแผงหน้าปัด โดยให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย ผู้โดยสารในแถวที่สองและสามเพลิดเพลินกับพื้นที่และความสะดวกสบายที่กว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติเช่น เบาะนั่งอุ่นและระบายอากาศ ระบบควบคุมอุณหภูมิส่วนบุคคล และระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่เร้าใจ ความหรูหรากว้างขวาง และเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้ Mercedes-AMG GLS 63 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดของความประณีตและความสามารถของ SUV
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 147,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.3 ล้านบาท) มีรุ่นย่อยเดียว
2025 Porsche Cayenne
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สะดวกสบายและรวดเร็ว และยังคงเป็นรถที่ดีที่สุดในธุรกิจในด้านพลวัต
2025 Porsche Cayenne ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหรา ที่ไม่ลดทอนสมรรถนะ ในปีนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne ภูมิใจนำเสนอตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ตั้งแต่ V6 ที่ทรงพลังไปจนถึง Plug-in Hybrid ที่ให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่น่าประทับใจ แต่เป็นรุ่นที่เน้นสมรรถนะที่จับแก่นแท้ของความเป็นสปอร์ตของ Cayenne ได้อย่างแท้จริง Cayenne S ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร สร้างกำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต (550 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นการพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที พร้อมด้วยเสียงไอเสียที่สปอร์ตอย่างน่าพึงพอใจ S ยังได้รับประโยชน์จากช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ตและเบรกขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความสามารถในการควบคุม สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นยิ่งขึ้น Cayenne GTS ยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้น เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 493 แรงม้า และแรงบิด 457 ปอนด์-ฟุต (620 นิวตันเมตร) ทำให้สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.2 วินาที GTS ยังมีระยะห่างจากพื้นดินที่ต่ำลง ระบบไอเสียแบบสปอร์ต และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นความเป็นนักกีฬา รุ่นที่เน้นสมรรถนะเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Cayenne ในการผสมผสานความสามารถในการใช้งานเข้ากับสมรรถนะที่เร้าใจ โดยมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าตื่นเต้น ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือขับขี่บนถนนคดเคี้ยว 2025 Porsche Cayenne มอบการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความหรูหราและความสปอร์ตที่รับรองว่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ขับขี่ที่พิถีพิถันที่สุด
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 86,695 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท) มีรุ่น GTS 493 แรงม้าใหม่สำหรับปี 2025
2025 Porsche Cayenne Coupe Turbo E-Hybrid
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV รอบด้านที่ดีที่สุด ที่มีจำหน่ายในปัจจุบัน
2025 Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid เป็น SUV สมรรถนะสูง ที่นิยามใหม่ว่าอะไรคือความทรงพลังและมีประสิทธิภาพ รถ Plug-in Hybrid คันนี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเชี่ยวชาญ ส่งผลให้มีกำลังขับเคลื่อนรวมมหาศาลถึง 729 แรงม้า และแรงบิด 700 ปอนด์-ฟุต (950 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นการเร่งความเร็วที่น่าทึ่ง โดยมีเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 3.5 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid ไม่ได้มีแค่พละกำลังดิบเท่านั้น นอกจากนี้ยังภูมิใจนำเสนอระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่น่าประทับใจถึง 60 กิโลเมตร ทำให้สามารถเดินทางในชีวิตประจำวันและทำธุระโดยไม่ปล่อยมลพิษได้ ระบบไฮบริดผสานเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างไร้รอยต่อ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นและประณีต ไม่ว่าคุณจะขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือปลดปล่อยพลังงานทั้งหมดของ V8 Cayenne Turbo E-Hybrid ยังมีช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ต ระบบกันสะเทือนอากาศแบบปรับได้ และระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) รับประกันการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบาย ภายในห้องโดยสาร Cayenne Turbo E-Hybrid นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัย วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและคาร์บอนไฟเบอร์ ประดับประดาภายใน ในขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลโค้งขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 158,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.8 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 มากนัก
2025 Porsche Macan
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สมบูรณ์แบบหากคุณต้องการ SUV ที่สามารถรับมือได้ทั้งการผจญภัยในชีวิตประจำวันและช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์
2025 Porsche Macan ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัด ที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่พี่น้องที่เป็นไฟฟ้ากำลังเป็นที่จับตามอง Macan ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปยังคงเป็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้องและน่าตื่นเต้น โดยนำเสนอหลากหลายรุ่นที่ตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Macan พื้นฐานเริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 261 แรงม้า และแรงบิด 295 ปอนด์-ฟุต (400 นิวตันเมตร) ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการวิ่งเร็ว ในขณะที่ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการความกระปรี้กระเปร่ายิ่งขึ้น Macan T เพิ่มความสปอร์ตด้วยช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ต การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และคันเร่งที่ตอบสนองได้ดีขึ้น Macan S เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร สร้างกำลัง 375 แรงม้า และแรงบิด 383 ปอนด์-ฟุต (520 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นการพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที พร้อมด้วยเสียงไอเสียที่สปอร์ตอย่างน่าพึงพอใจ S ยังได้รับประโยชน์จากเบรกขนาดใหญ่ขึ้น และระบบกันสะเทือนอากาศแบบปรับได้ (เลือกได้) ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุม ที่ด้านบนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินคือ Macan GTS รุ่นที่เน้นสมรรถนะนี้ภูมิใจนำเสนอเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ที่สร้างกำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต (550 นิวตันเมตร) ด้วยเวลา 0-100 กม./ชม. เพียง 4.3 วินาที GTS มอบสมรรถนะที่เร้าใจที่สามารถเทียบได้กับรถสปอร์ตบางคัน นอกจากนี้ยังมีระบบไอเสียแบบสปอร์ต ระยะห่างจากพื้นดินที่ต่ำลง และองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นความเป็นนักกีฬา ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด 2025 Porsche Macan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าตื่นเต้น พวงมาลัยที่แม่นยำ แชสซีที่สมดุล และเครื่องยนต์ทรงพลัง ทำให้การขับขี่บนถนนคดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุก ในขณะที่ภายในที่หรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูงมอบความสะดวกสบายและคุณสมบัติในการใช้งานสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 64,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.3 ล้านบาท) ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นปี 2024 มากนัก
2025 Porsche Macan EV
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ให้ความรู้สึกแบบ Porsche อย่างแท้จริง คล่องตัว ตอบสนองได้ดี และสนุกกับการขับขี่อย่างไม่น่าเชื่อ
Porsche Macan EV เป็นรุ่นสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่โลกของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง รุ่นใหม่ทั้งหมดนี้สัญญาว่าจะมอบพลวัตการขับขี่และความหรูหราที่ Porsche มีชื่อเสียง แต่มาพร้อมกับความยั่งยืนและเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Premium Platform Electric (PPE) Macan EV ภูมิใจนำเสนอการออกแบบที่เพรียวบางและตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพ เส้นโค้งที่เรียบเนียนและเส้นสายที่แกะสลักไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงาม แต่ยังช่วยเพิ่มระยะทางที่น่าประทับใจถึง 500 กิโลเมตร กลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan EV มีหลากหลายรุ่นที่ตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน รุ่นพื้นฐานมีมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ขับเคลื่อนล้อหลัง สร้างกำลัง 355 แรงม้า และแรงบิด 415 ปอนด์-ฟุต (563 นิวตันเมตร) ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการวิ่งเร็ว ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่ได้รับการปรับปรุง รุ่น 4S และ Turbo เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สองที่เพลาหน้า สร้างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีกำลังและการยึดเกาะที่มากยิ่งขึ้น 4S ภูมิใจนำเสนอพละกำลังรวม 509 แรงม้า และแรงบิด 516 ปอนด์-ฟุต (700 นิวตันเมตร) ในขณะที่ Turbo ปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 603 แรงม้า และแรงบิด 737 ปอนด์-ฟุต (1000 นิวตันเมตร) ด้วยการตั้งค่าระดับสูงสุดนี้ Macan EV Turbo สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นใด Macan EV สัญญาว่าจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิกและน่าตื่นเต้น จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำต้องขอบคุณชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่บนพื้นรถ มีส่วนช่วยในการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบบังคับเลี้ยวเพลาหลัง (เลือกได้) ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้ง ภายในห้องโดยสาร Macan EV นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัย วัสดุระดับพรีเมียม แผงหน้าปัดดิจิทัลโค้ง และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ สร้างห้องโดยสารที่ซับซ้อนและมุ่งเน้นผู้ขับขี่ ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ เทคโนโลยี และความยั่งยืน ทำให้ Porsche Macan EV พร้อมที่จะนิยามใหม่ของเซกเมนต์ SUV ไฟฟ้า
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 77,295 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท) เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025
2025 Rolls-Royce Cullinan
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์ของความสำเร็จและความพิเศษ สัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์
2025 Rolls-Royce Cullinan ซึ่งเป็นการบุกเบิกของแบรนด์เข้าสู่โลกของ SUV หรูหราพิเศษ ยังคงนิยามใหม่ของความโอ่อ่าในการขับขี่แบบออฟโรด ยานพาหนะที่ยิ่งใหญ่คันนี้ ซึ่งตั้งชื่อตามเพชรที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพละกำลังที่ไร้ความพยายามเข้ากับความโดดเด่นและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่มีผลกระทบ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับตำแหน่งของมันในฐานะสุดยอดของ ความหรูหราของ SUV การออกแบบภายนอกของ Cullinan ได้รับการปรับปรุงอย่างละเอียดอ่อนด้วยกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่ ซึ่งมีช่องรับอากาศที่ลาดเอียง สร้างรูปลักษณ์ที่ไดนามิกและมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Rolls-Royce ตอนนี้มีการส่องสว่าง เพิ่มความสง่างามที่ทันสมัย ล้อขนาด 23 นิ้ว ใหม่ ที่ถูกกัดขึ้นรูปจากอลูมิเนียมชิ้นเดียว ช่วยเพิ่มท่าทางที่สง่างามของ Cullinan ภายในห้องโดยสาร Cullinan ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของความหรูหราที่สั่งทำพิเศษ ด้วยรายละเอียดที่ประดิษฐ์ด้วยมือ วัสดุที่ดีที่สุด และระดับการปรับแต่งที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่พิถีพิถันที่สุด ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงใหม่พร้อมฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง ผสานเข้ากับแผงหน้าปัดที่ประดิษฐ์ด้วยมือของ Cullinan ได้อย่างราบรื่น ภายใต้ฝากระโปรง Cullinan ยังคงรักษาเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตร อันทรงพลังไว้ ซึ่งมอบพละกำลังที่ต่อเนื่องไร้รอยต่อที่ขับเคลื่อน SUV หรูหรา คันนี้ได้อย่างง่ายดาย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูงช่วยให้มั่นใจถึงการขับขี่ที่ราบรื่นและควบคุมได้ แม้ในภูมิประเทศที่ท้าทาย ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือผจญภัยนอกเส้นทางที่คุ้นเคย 2025 Rolls-Royce Cullinan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งผสมผสานพละกำลังที่ไร้ความพยายาม ความสะดวกสบายที่เงียบสงบ และความหรูหราที่สั่งทำพิเศษ
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 392,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14.3 ล้านบาท) มีการอัปเดตเล็กน้อยด้านรูปลักษณ์และอินเทอร์เฟซผู้ใช้
2025 Range Rover
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์
ปัจจุบัน Range Rover ซึ่งอยู่ในเจนเนอเรชันที่ห้า เป็นการผสมผสานที่เชี่ยวชาญระหว่างความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี เป็นยานพาหนะที่ขับขี่ในเมืองได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมั่นใจสูงสุดเมื่อผจญภัยนอกเส้นทาง รุ่นล่าสุดนี้ เปิดตัวสำหรับรุ่นปี 2022 ยังคงรักษารูปลักษณ์คลาสสิกของ Range Rover ด้วยท่าทางตั้งตรงและหลังคาลอยอันเป็นเอกลักษณ์ แต่ได้นำเสนอภาษาการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายที่บ่งบอกถึงความซับซ้อน ภายในห้องโดยสาร Range Rover เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของความประณีต วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังนุ่ม แผ่นไม้แท้ และการตกแต่งด้วยโลหะที่ประดิษฐ์อย่างพิถีพิถัน ประดับประดาภายใน ภายในที่กว้างขวางมอบความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับผู้โดยสารทุกคน ด้วยเบาะหลังระดับผู้บริหารที่สามารถปรับเอนได้แบบเครื่องบินและฟังก์ชันการนวด เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ที่ใช้งานง่ายพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหราแล้ว Range Rover ยังคงรักษาเอกลักษณ์ในฐานะเครื่องจักรสำหรับขับขี่แบบออฟโรดที่มีความสามารถสูงสุด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และระบบกันสะเทือนอากาศ (เลือกได้) ช่วยให้สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย Range Rover มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ รวมถึง Mild-Hybrid, Plug-in Hybrid และ V8 อันทรงพลัง เพื่อให้มั่นใจถึงสมรรถนะที่ง่ายดายในทุกสถานการณ์ Range Rover รวบรวมสุดยอดของ SUV หรูหรา อย่างแท้จริง โดยนำเสนอการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความสง่างามที่ประณีตและความสามารถที่ทนทาน
ราคาและการเปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2025: เริ่มต้นที่ประมาณ 109,525 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4 ล้านบาท) ไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากนักสำหรับรุ่นปี 2025
สุดยอด SUV สมรรถนะสูงรุ่นใหม่: รถ SUV หรูหราและสมรรถนะสูงที่เราชื่นชอบที่สุดที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน
หลังจากพิจารณาและวิเคราะห์อย่างรอบด้านจากประสบการณ์ในวงการยานยนต์มายาวนาน ผมขอแนะนำ 2 รุ่นที่โดดเด่นเป็นพิเศษสำหรับปี 2025
2025 Porsche Macan GTS
ราชาแห่งป่า SUV ขนาดกะทัดรัด
ทำไมถึงเป็น SUV สมรรถนะสูง ที่ดีที่สุด? เพราะ Macan GTS คือตัวอย่างที่แท้จริงของจิตวิญญาณ Porsche มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและประณีต ภายใต้ฝากระโปรงของ Macan GTS คือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ที่ให้กำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต (550 นิวตันเมตร) ซึ่งแปลเป็นการพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที พร้อมด้วยเสียงไอเสียที่สปอร์ตอย่างน่าพึงพอใจที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นรัว Macan GTS ควบคุมได้อย่างคล่องตัวและแม่นยำในระดับที่เกินกว่ารูปร่างของ SUV มันให้ความรู้สึกเบา คล่องตัว และยึดเกาะถนนได้อย่างไม่น่าเชื่อในขณะเข้าโค้ง ช่วงล่างที่ปรับแต่งแบบสปอร์ต ระบบกันสะเทือนอากาศแบบเลือกได้ และพวงมาลัยที่แม่นยำ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ชวนให้นึกถึงรถ Hot Hatch ไม่ใช่ SUV ที่สูงตระหง่าน ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ความหรูหรา และความสามารถในการใช้งาน ทำให้ Macan GTS เป็น SUV สมรรถนะสูงที่สมบูรณ์แบบ สำหรับผู้ที่มองหาความเร้าใจในชีวิตประจำวัน
2025 Audi SQ7
รถอเนกประสงค์ที่ยอดเยี่ยม: หรูหรา เร็ว มีสไตล์ โดนใจทุกประการ
ทำไมถึงเป็น SUV สมรรถนะสูง ที่ดีที่สุด? Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา ความสามารถในการใช้งาน และสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นในแพ็คเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวาง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต (770 นิวตันเมตร) ได้รับการยกย่องว่ามี “พละกำลังมหาศาล” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” แม้จะเน้นสมรรถนะ แต่ SQ7 ก็ยังคงให้ “การควบคุมที่มั่นคง” และ “คุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย” เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ต้องการ รถยนต์หรู สำหรับครอบครัวที่เปี่ยมด้วยพลัง หรือผู้ที่มองหา รถครอบครัวสมรรถนะสูง ที่สามารถรองรับทุกความต้องการในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว
ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในความเร็ว ความหรูหรา หรือการผจญภัยแบบออฟโรด กลุ่มผลิตภัณฑ์ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราประจำปี 2025 ได้นำเสนอตัวเลือกที่หลากหลายและน่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ การออกแบบที่โดดเด่น และสมรรถนะที่เหนือความคาดหมาย นี่คือยุคทองของ รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมียม ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ถ้าคุณพร้อมที่จะยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของคุณให้เหนือกว่าเดิม และค้นพบว่า SUV สมรรถนะสูงที่แท้จริงเป็นอย่างไร ผมขอเชิญชวนให้คุณสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง ติดต่อผู้แทนจำหน่ายแบรนด์ที่คุณสนใจวันนี้ เพื่อทดลองขับและค้นพบ SUV ที่สมบูรณ์แบบสำหรับคุณ เพราะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมรอคุณอยู่แล้ว!

