ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
สุดยอดรถ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราประจำปี 2025: คู่มือสำหรับผู้ที่หลงใหลความเร็วและสไตล์
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของรถยนต์ในทุกเซ็กเมนต์ แต่ไม่มีอะไรที่โดดเด่นและสร้างปรากฏการณ์ได้เท่ากับรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) อีกแล้ว จากที่เคยเป็นเพียงพาหนะขนส่งครอบครัวทั่วไป ปัจจุบัน SUV ได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา สมรรถนะอันดุดัน และเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม “Enthusiast SUV” หรือ SUV สำหรับผู้ที่หลงใหลการขับขี่ ที่ผสานความหลากหลายในการใช้งานเข้ากับขีดสุดของสมรรถนะราวกับรถสปอร์ตชั้นเลิศ
ปี 2025 นี้ ตลาดรถ SUV สมรรถนะสูงยังคงร้อนแรงและมีการแข่งขันที่เข้มข้นยิ่งกว่าที่เคย ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกต่างทุ่มเทพัฒนาเทคโนโลยีและงานดีไซน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการประสบการณ์ที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วไป ไม่ว่าคุณจะมองหารถที่พร้อมสำหรับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง พลังขับเคลื่อนที่รุนแรงดุจจรวด หรือความสามารถในการลุยทางวิบากแบบมีสไตล์ คู่มือฉบับนี้คือพาสปอร์ตของคุณสู่โลกของสุดยอดรถ SUV ที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นไม่เป็นจังหวะ และช่วยให้คุณค้นพบรถที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างลงตัว
การเปลี่ยนแปลงของตลาดและเหตุผลเบื้องหลังความนิยมของ SUV สมรรถนะสูง
ตลอดสองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา รถ SUV ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างปฏิเสธไม่ได้ ไม่ใช่เพียงเพราะตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ แต่ยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตและสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ในอดีต รถ SUV อาจถูกมองว่าเป็นเพียงรถยนต์ที่เน้นประโยชน์ใช้สอย แต่ปัจจุบันภาพลักษณ์เหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ความต้องการรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นในรูปแบบ SUV ได้ผลักดันให้แบรนด์หรูและแบรนด์สมรรถนะชั้นนำของโลก หันมาให้ความสนใจและลงทุนมหาศาลในการพัฒนารถ SUV ที่เร็วขึ้น ดีขึ้น และมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากขึ้น
แม้กระทั่งผู้ผลิตรถสปอร์ตระดับตำนานอย่าง Lamborghini และ Ferrari ก็ยังต้องกระโดดเข้าสู่สมรภูมินี้ เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดที่ทำกำไรมหาศาล กำไรจากยอดขาย SUV ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่ช่วยหล่อเลี้ยงการวิจัยและพัฒนา “ของเล่นสนุก” อย่างรถสปอร์ตที่พวกเขาเชี่ยวชาญ และในทางกลับกัน เทคโนโลยีระดับสูงจากสนามแข่งและรถซูเปอร์คาร์ก็ได้ถูกถ่ายทอดลงสู่รถ SUV ทำให้รถเหล่านี้มีขีดความสามารถที่เหนือชั้นกว่าที่เคยเป็นมา การผสมผสานที่ลงตัวนี้ทำให้ตลาดรถ SUV สมรรถนะสูงเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเราก็ได้เห็นรถ SUV ที่บ้าคลั่งและน่าทึ่งมากมายปรากฏตัวขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และยังมีอีกหลายรุ่นที่กำลังจะตามมาในอนาคตอันใกล้
รถ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราแห่งปี 2025: มีอะไรใหม่บ้าง?
สำหรับปี 2025 นี้ แม้จะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทุกรุ่น แต่ก็มีรถยนต์หลายรุ่นที่ได้รับการปรับปรุงเล็กน้อย (Minor Updates) เพิ่มเติมฟังก์ชันการใช้งาน และบางรุ่นก็มาพร้อมกับขุมพลังใหม่ที่น่าตื่นเต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรุกคืบของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าและไฮบริดที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูงมากขึ้น ซึ่งสะท้อนเทรนด์ของโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนควบคู่ไปกับความแรง
นี่คือรถ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราที่เราคัดสรรมาเป็นพิเศษ พร้อมเจาะลึกทุกรายละเอียดที่ผู้เชี่ยวชาญอย่างคุณควรทราบ:
2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ถ้าคุณแสวงหา SUV ที่ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและมีชีวิตชีวามากที่สุดในตลาด Stelvio Quadrifoglio คือคำตอบที่ใช่
ภาพรวม: Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio ไม่ได้เป็นแค่ SUV สมรรถนะสูงทั่วไป แต่เป็นการฉีดพ่นจิตวิญญาณ์แห่งอิตาลีและความเร้าใจในการขับขี่เข้าไปในเซ็กเมนต์ที่มักถูกครอบงำด้วยรถยนต์สัญชาติเยอรมันที่เน้นความสมเหตุสมผล หัวใจของมันคือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตรที่พัฒนามาจาก Ferrari ให้กำลังมหาศาลถึง 505 แรงม้า พุ่งทะยานจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที พร้อมเสียงคำรามของท่อไอเสียที่ปลุกเร้าอะดรีนาลีน แต่ Stelvio Quadrifoglio ไม่ได้มีดีแค่ความเร็วทางตรง ช่วงล่างที่ปรับแต่งมาอย่างพิถีพิถัน พวงมาลัยที่ตอบสนองเฉียบคม และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นสมรรถนะ มอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นความสุขที่แท้จริงบนถนนคดเคี้ยว ระบบเบรก Brembo ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ช่วยให้คุณควบคุมพลังทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ ภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดันเข้าด้วยกัน ด้วยการปรับแต่งตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ละเอียดอ่อน และปลายท่อไอเสียคู่สี่ข้างที่บอกใบ้ถึงสมรรถนะภายใน ห้องโดยสารของ Stelvio Quadrifoglio มีความสปอร์ตแต่หรูหรา เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับสรีระ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ขนาดใหญ่ และคาร์บอนไฟเบอร์ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นผู้ขับขี่ แม้ภายในอาจไม่ล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเท่าคู่แข่งบางราย แต่มันให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ สไตล์อิตาลี และการใช้งานในชีวิตประจำวัน Stelvio Quadrifoglio โดดเด่นในฐานะตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio เริ่มต้นที่ประมาณ 3.4 ล้านบาท การเลือกซื้อรุ่นพื้นฐานพร้อมแพ็คเกจ Carbon ที่แต่งกระจกมองข้างและกระจังหน้าเป็นรูปตัว V ก็เพียงพอแล้ว รุ่น 100th Anniversario เป็นเพียงการปรับแต่งสไตล์ ซึ่งในมุมมองของผมไม่คุ้มค่าเท่าไหร่
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Stelvio Quadrifoglio เป็นรถที่ขับสนุกอย่างเหลือเชื่อ มันคือ SUV สมรรถนะสูงที่สามารถเข้าโค้งได้คล่องแคล่วราวกับรถสปอร์ต แต่ยังคงใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์เป็นผลงานชิ้นเอกที่มอบอัตราเร่งอันเร้าใจและเสียงเพลงที่ทำให้คุณอยากหาข้ออ้างในการขับขี่อยู่เสมอ
2025 Aston Martin DBX
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ไม่เหมือนใคร หรูหรา และเร้าใจ พร้อมสมรรถนะที่แข็งแกร่ง มันเป็นมากกว่าพาหนะ แต่คือประสบการณ์
ภาพรวม: สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด DBX ได้รับการออกแบบมาเพื่อพาผู้โดยสารเดินทางในสไตล์ Aston Martin แท้ๆ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อความปลอดภัย DBX มอบความสะดวกสบาย ความหรูหราอย่างฟุ่มเฟือย และจะสร้างความตื่นเต้นตั้งแต่คุณก้าวเข้ามานั่งหลังพวงมาลัย ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและวิศวกรรมจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก DBX จึงให้ความรู้สึกในการขับขี่ที่แตกต่างจาก SUV อื่นๆ อย่างสิ้นเชิง SUV ระดับไฮเอนด์คันนี้ขับได้เหมือนรถสปอร์ตอย่างแท้จริง สำหรับปี 2025 Aston Martin DBX กลับมาในฐานะ SUV เรือธงของแบรนด์ ซึ่งเป็นยานยนต์หรูหราและสมรรถนะสูงที่ผสานพลวัตการขับขี่ที่น่าตื่นเต้นเข้ากับงานฝีมืออันประณีตและเทคโนโลยีล้ำสมัย สำหรับปี 2025 Aston Martin ได้ทำการอัปเดตที่สำคัญ โดยเน้นการปรับปรุงภายในและปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการยกเลิกรุ่น DBX มาตรฐาน ทำให้เหลือเพียงรุ่น DBX707 ที่เน้นสมรรถนะสูง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Aston Martin ในการนำเสนอประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงในกลุ่ม SUV ของตน ใต้ฝากระโปรง DBX707 อวดโฉมเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือจาก Mercedes-AMG แต่ได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังมหาศาลถึง 697 แรงม้า และแรงบิด 900 นิวตันเมตร เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดพร้อมคลัตช์เปียกแทนการใช้ทอร์คคอนเวอร์เตอร์แบบเดิม ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วปานสายฟ้า และมีส่วนช่วยให้ DBX707 มีสมรรถนะที่น่าประทับใจ สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด DBX707 ยังมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมเฟืองท้ายหลังแบบลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่นำเสนออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้นและฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ภายในห้องโดยสารถูกรังสรรค์ด้วยวัสดุชั้นเลิศ เช่น หนังนุ่มนวล การเย็บด้วยมือ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคาของ 2025 Aston Martin DBX เริ่มต้นที่ประมาณ 9 ล้านบาทสำหรับรุ่น 707 ที่เน้นสมรรถนะสูง Aston Martin ได้ปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ DBX สำหรับปี 2025 โดยนำเสนอเฉพาะรุ่น DBX707 ที่เน้นสมรรถนะสูง สำหรับปี 2025 SUV 697 แรงม้าคันนี้มาพร้อมการออกแบบภายในใหม่ด้วยแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และพวงมาลัยใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้วใหม่ทำงานด้วยซอฟต์แวร์อินโฟเทนเมนต์ล่าสุดของ Aston Martin และทุกรุ่นมาพร้อมลำโพง 14 ตัวเป็นมาตรฐาน (มีระบบ Bowers & Wilkins 23 ลำโพงเป็นตัวเลือก) คุณสามารถปรับแต่ง DBX ได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านบริการ Q customization ของ Aston Martin
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: DBX มอบสิ่งที่แตกต่างออกไป มันดูน่าสนใจ ขับได้ดีเยี่ยมและตอบโจทย์ทุกอย่าง รุ่น 707 คือรุ่นที่น่าสนใจจริงๆ ใช่ มันเร็วขึ้นและดุดันขึ้นเมื่อถูกผลักดัน แต่เมื่อคุณผ่อนคันเร่ง มันก็ยังคงสะดวกสบายและไม่เรียกร้องอะไรเลยเหมือนรถยนต์ปกติ
2025 Audi SQ5
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ขับสบายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่พร้อมจะสนุกเมื่อคุณต้องการ
ภาพรวม: Audi SQ5 รุ่นเก่าอยู่ในตลาดมาตั้งแต่ปี 2018 และแทบไม่เปลี่ยนแปลงสำหรับปี 2024 แต่สำหรับปี 2025 เราจะได้พบกับสิ่งที่น่าตื่นเต้นเพราะ SQ5 เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมด 2025 Audi SQ5 เป็น SUV คอมแพคท์หรูหราที่ผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันในแพ็คเกจที่ลงตัว ด้วยดีไซน์ที่สดใหม่ SQ5 อวดโฉมภายนอกที่คมชัดขึ้นด้วยไฟหน้า Matrix LED ใหม่ กระจังหน้าที่ปรับปรุง และกันชนหน้า-หลังที่อัปเดต ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 349 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ต ภายในห้องโดยสาร SQ5 มอบบรรยากาศพรีเมียมด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้วพร้อมอินเทอร์เฟซ MMI touch ของ Audi ครองตำแหน่งคอนโซลกลาง ขณะที่หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วให้ข้อมูลที่ปรับแต่งได้แก่ผู้ขับขี่ SQ5 ยังมาพร้อมชุดคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่เป็นมาตรฐาน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกจากเลน และระบบตรวจสอบจุดบอด สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น SQ5 มีแพ็คเกจ Sport ที่เป็นตัวเลือก ซึ่งรวมถึงแดมเปอร์แบบปรับได้ ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต และเฟืองท้ายหลังแบบสปอร์ต ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี 2025 Audi SQ5 จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่กำลังมองหา SUV คอมแพคท์พรีเมียมที่สามารถจัดการได้ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ที่สนุกสนาน
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Audi SQ5 (รุ่นใหม่) เริ่มต้นที่ประมาณ 2.1 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ารุ่นปี 2024 เล็กน้อย รุ่น Premium Plus ยังคงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดของราคาและอุปกรณ์เสริม สำหรับปี 2025 ดีไซน์ใหม่จะยังคงขายควบคู่ไปกับดีไซน์เก่าตลอดช่วงปี 2025
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: SQ5 เป็น SUV สมรรถนะสูงที่ครบเครื่อง มอบความสะดวกสบายและกำลัง แต่ไม่ได้ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจที่สุด
2025 Audi SQ7
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่หลงใหลการขับขี่
ภาพรวม: 2025 Audi SQ7 เป็น SUV หรูหราที่ผสานสมรรถนะ การใช้งานจริง และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรง คุณจะพบกับเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบชาร์จ 4.0 ลิตรที่ทรงพลัง ให้กำลังที่น่าประทับใจ 500 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่เร้าใจ โดยพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi, SQ7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ขับเคลื่อนอย่างมีพลวัต เหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและขับขี่สนุกสุดสัปดาห์ นอกเหนือจากความสามารถด้านสมรรถนะแล้ว SQ7 ยังมีห้องโดยสารที่ประณีตและกว้างขวาง ด้วยที่นั่งสามแถว สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดเจ็ดคนได้อย่างสะดวกสบาย ห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุพรีเมียมและมีเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3D SQ7 ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วยคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกจากเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ในด้านรูปลักษณ์ SQ7 แยกตัวเองออกจาก Q7 มาตรฐานด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่สปอร์ต ซึ่งรวมถึงกันชนหน้าแบบปรับปรุงพร้อมช่องอากาศเข้าขนาดใหญ่ขึ้น ดีไซน์กระจังหน้าที่ไม่เหมือนใคร ปลายท่อไอเสียคู่สี่ข้าง และตัวเลือกวงล้อที่โดดเด่น ด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลัง ภายในที่หรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 Audi SQ7 จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Audi SQ7 ที่อัปเดตใหม่ยังไม่เปิดเผย แต่คาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 3.2 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างรุ่น Premium Plus และ Prestige การเลือกรุ่น Prestige ที่เพิ่ม Head-up display, ประตูดูด (power soft-close doors), และแพ็คเกจ Executive (กระจกสองชั้น, เบาะหลังอุ่น, เบาะหน้าระบายอากาศ และอื่นๆ) ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: SQ7 ผสมผสานสมรรถนะอันยิ่งใหญ่และการใช้งานจริงของ SUV เข้าไว้ด้วยกันในแพ็คเกจที่ครบครันและเหมาะสำหรับครอบครัว
2025 Audi SQ8
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สวยงามสะกดตา เป็นตัวเลือกที่มั่นคงและปลอดภัยในทุกมิติ
ภาพรวม: Audi SQ8 ห้าที่นั่งผสานการออกแบบสไตล์คูเป้ที่เพรียวบางเข้ากับความหลากหลายในการใช้งานของ SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 500 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐาน และมีคู่แข่งอย่าง BMW X6 และ Land Rover Range Rover Velar มันใกล้เคียงกับสมรรถนะของ RSQ8 แต่มีราคาถูกกว่ามาก ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกโดยรวมที่ดีที่สุดจากกลุ่ม SUV สมรรถนะสูงของ Audi เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เดียวกับ SQ7 ยังคงได้รับการยกย่องว่า “มีพลังระเบิด” และ “เสียงอันเร้าใจ” Car and Driver สังเกตว่ากำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตรของมันมอบ “อัตราเร่งที่รุนแรง” ขณะที่ Top Gear ชื่นชม “สมรรถนะที่ง่ายดาย” นักวิจารณ์พบว่าห้องโดยสาร “สะดวกสบายและเงียบสงบ” ด้วย “วัสดุคุณภาพสูง” และ “ความรู้สึกที่หรูหรา” Kelley Blue Book กล่าวถึง “เบาะนั่งที่รองรับสรีระ” และ “พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง” ขณะที่ Auto Express เน้นย้ำถึงคุณสมบัติ “ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี”
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Audi SQ8 ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นไปถึง 3.8 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก สำหรับรุ่น Prestige ที่เพิ่มคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่และคุณสมบัติหรูหรามากมาย รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาเลน Head-up display ประตูดูด เบาะหลังอุ่น และม่านบังแดดหลังไฟฟ้า ถือว่าคุ้มค่า
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: SQ8 เป็นรถที่น่าตื่นเต้นด้วยภายในที่หรูหรา แต่ราคาสูงและเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันทำให้มันไม่เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับคนส่วนใหญ่
2025 Audi RS Q8
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Urus ที่เซ็กซี่กว่าและยอดเยี่ยมไม่แพ้กันในราคาที่ถูกกว่ามาก
ภาพรวม: Audi RS Q8 เป็น Q8 SUV รุ่นที่เร็วที่สุด และยังเป็น SUV ของ Audi ที่มีป้าย RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดรอบสนาม Nordschleife ด้วย หมายความว่ามันมีความคล่องตัวสูงสำหรับ SUV ที่คุณสามารถขับพาลูกๆ ไปโรงเรียนได้ RS Q8 มาพร้อมป้ายราคาหกหลัก แต่สมรรถนะ สไตล์ และคุณสมบัติของมันคุ้มค่ากับการลงทุน หากคุณให้ความสำคัญกับ SUV ที่ร้อนแรงดุจเปลวเพลิง รถ RS Q8 ทุกรุ่นมาพร้อมระบบช่วงล่างถุงลมปรับได้เป็นมาตรฐาน ล้อขนาด 22 นิ้ว เบาะหน้าอุ่นและเย็น และระบบเสียง Bang & Olufsen 17 ลำโพง เราจะเลือกรุ่น Performance ระดับท็อปเพื่อปลดปล่อยกำลัง 631 แรงม้าที่สูงกว่า เมื่อคุณใช้จ่ายเงินจำนวนมากขนาดนี้ ทำไมจะไม่ไปให้สุดล่ะ? RS Q8 ได้รับการปรับแต่งสไตล์ใหม่สำหรับปี 2025 เพื่อให้สอดคล้องกับรุ่น Q8 และ SQ8 ซึ่งได้รับการปรับโฉมเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งที่น่าสนใจอย่างแท้จริงคือรุ่น Performance ใหม่ 631 แรงม้า รุ่น Performance ไม่เพียงแต่ให้กำลังม้าที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมเฟืองท้ายกลางแบบ Self-locking, ระบบท่อไอเสียที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษ และระบบช่วงล่างที่ไม่เหมือนใครซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยรักษาเสถียรภาพของ RS Q8 ในโค้ง
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Audi RS Q8 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.2 ล้านบาท นี่ไม่ใช่ SUV ราคาถูก แต่ถ้าคุณคิดว่ามันคือ Lamborghini Urus ในราคาไม่ถึงครึ่ง ก็เริ่มจะสมเหตุสมผลแล้ว คุณสามารถเพิ่มออปชันให้กับ RS Q8 ได้ แต่แม้ในรูปแบบพื้นฐาน มันก็ยังเป็นเครื่องจักรที่สมบูรณ์แบบ
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: ดูดีกว่า Lambo Urus สมรรถนะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม ราคาแพงมหาศาล… เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการรถซูเปอร์คาร์และ SUV ในคันเดียว
2025 Bentley Bentayga
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวัง พร้อมสมรรถนะที่คู่ควร เป็น SUV ที่ดีที่สุดในขณะนี้
ภาพรวม: เครื่องยนต์ V8 ที่ล้ำสมัยให้กำลังเกือบ 550 แรงม้า ในขณะที่คุณลักษณะที่เน้นแรงบิดส่งผลให้อัตราเร่งเกือบจะทันทีทันใด ดึงทะยานเหมือนรถไฟด้วยความสบายสูงสุดและความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส Bentayga V8 มีการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและคล่องตัวกว่าที่คุณเคยคาดคิด Bentley ได้นำเสนอ Bentayga ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดย SUV คันนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน V6 3.0 ลิตร 335 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 162 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ Li-ion 17.3 kWh ด้วยรุ่นนี้ Bentley ยอมสละกำลังและความเร็วเพื่อแลกกับอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน แต่ด้วยกำลัง 443 แรงม้า Bentayga Hybrid ก็ไม่ได้เชื่องช้าแต่อย่างใด Bentley ยังคงไม่ลดทอนความหรูหรา ดังนั้น 2024 Bentayga Hybrid จึงยังคงมอบประสบการณ์ความหรูหราเช่นเดิมให้กับผู้โดยสาร ในส่วนของรุ่นย่อย มีรุ่น Bentayga A ซึ่งให้กำลังและสมรรถนะเช่นเดียวกับรุ่น BV8 มาตรฐาน แต่คุณจะได้ล้อขนาด 21 นิ้ว ความหรูหราภายในเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มุ่งเน้นการขับขี่ระยะทางไกล Bentayga S เป็นรุ่น V8 ที่ปรับแต่งให้สปอร์ตและดุดันยิ่งขึ้น ด้วยการอัปเกรดรูปลักษณ์ภายนอกเหนือกว่ารุ่นพื้นฐาน รวมถึงการตกแต่ง Blackline เป็นมาตรฐานและกันชน Bentayga Speed รวมถึงล้อ 22 นิ้วห้าก้านแบบพิเศษเป็นมาตรฐาน Bentayga Azure มีการกำหนดค่าภายในหลายแบบและยังมาพร้อมกับระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ อุปกรณ์เสริม และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่ Bentley สร้างสรรค์ขึ้นสำหรับ SUV ของพวกเขา
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Bentley Bentayga เริ่มต้นที่ประมาณ 7.3 ล้านบาทสำหรับรุ่น V8 หรือ Hybrid พื้นฐาน และสูงถึง 8.8 ล้านบาทสำหรับ Azure V8 และนั่นยังไม่รวมออปชันต่างๆ เลือก Bentayga S ที่มีเครื่องยนต์ V8 เดียวกัน แต่ได้รับการปรับแต่งให้การควบคุมที่เฉียบคมยิ่งขึ้นและอัตราเร่งที่รวดเร็วกว่า ให้พลวัตการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายและความหรูหรา ได้รับองค์ประกอบภายนอกสีดำสนิท ล้ออัลลอยขนาดใหญ่ขึ้น และกันชนหน้าที่ดุดันขึ้น รวมถึงโหมดสปอร์ตที่ดีขึ้น เบรกที่ดีขึ้น และคาร์บอนไฟเบอร์ที่เป็นตัวเลือก
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Bentayga ใหม่คือวิวัฒนาการที่ละเอียดอ่อน แต่ชัดเจนว่า Bentley ได้รับฟังความคิดเห็นและทำการปรับปรุงที่สำคัญบางอย่างแล้ว
2025 Bentley Bentayga EWB
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น พร้อมพื้นที่เพิ่มขึ้นและความหรูหราไม่ต่างกัน
ภาพรวม: Bentley Bentayga EWB คือรุ่นฐานล้อยาว (Extended Wheel Base) ของ SUV สุดหรู เปลี่ยนให้เป็นรถลีมูซีนขนาดใหญ่ ตัวรถโดยรวมเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อ 180 มม. ซึ่งทำให้เบาะหลังมีพื้นที่วางขาที่กว้างขวางมาก สามารถเลือกติดตั้งเบาะเอนได้สองที่นั่งแยกกันที่ด้านหลัง หรือรุ่นสามที่นั่งที่ไม่สามารถเอนได้แต่ยังคงเพลิดเพลินกับพื้นที่วางขาที่เพิ่มขึ้น นอกจากห้องโดยสารที่กว้างขึ้นแล้ว EWB ยังมาพร้อมล้อขนาด 21 นิ้วเป็นมาตรฐานแม้ในรุ่นพื้นฐาน และเพลิดเพลินกับสมรรถนะเดียวกันกับ Bentayga พื้นฐานโดยไม่เสียเวลาจาก 0-100 กม./ชม. หรือความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับรุ่น Mulliner (ตามภาพด้านบน) ที่มีการจัดวางสีสามสีที่พิเศษที่สุด มีให้เลือกถึงแปดสีที่ไม่ซ้ำกัน Bentayga ยังคงมีรุ่น Mulliner ระดับสูงสุดสำหรับปี 2025 รุ่นนี้มีการออกแบบภายนอกที่ไม่เหมือนใคร และสามารถระบุสีภายในได้เกือบ 4000 แบบ Mulliner มีจำหน่ายเฉพาะในตัวถังฐานล้อยาวของ Bentayga และเครื่องยนต์ V8
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Bentley Bentayga EWB เริ่มต้นที่ประมาณ 8.4 ล้านบาทสำหรับรุ่น V8 พื้นฐาน และสูงถึง 12 ล้านบาทสำหรับ EWB Mulliner รุ่นฐานล้อยาวที่ให้พื้นที่วางขาและความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง รุ่น EWB พื้นฐานคือตัวเลือกที่เราแนะนำ
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Mulliner EWB จะเสนอการปรับแต่งที่เพียงพอเมื่อเทียบกับรุ่น Mulliner แบบ Standalone หรือไม่นั้นยังคงต้องรอดูกันต่อไป
2025 BMW X3 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่แสวงหาอะดรีนาลีน พร้อมความหลากหลายในการใช้งานที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ภาพรวม: BMW X3 M เป็น SUV คอมแพคท์สมรรถนะสูงที่ผสานการใช้งานจริงเข้ากับพลวัตการขับขี่ที่เร้าใจอย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ให้กำลังอันทรงพลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร พลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ของ BMW ทำให้ X3 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที นอกเหนือจากความเร็วทางตรงที่น่าประทับใจแล้ว X3 M ยังโดดเด่นในการควบคุมและความคล่องตัว ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต แดมเปอร์แบบปรับได้ และการปรับแต่งเฉพาะ M เปลี่ยน SUV คันนี้ให้เป็นเครื่องจักรสำหรับเข้าโค้ง พวงมาลัยแม่นยำและตอบสนองได้ดี ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่ เบรกขนาดใหญ่ช่วยให้มั่นใจได้ถึงพลังการหยุดที่มั่นใจได้ แม้ในขณะขับขี่ที่เร้าใจ การออกแบบภายนอกของ X3 M สะท้อนถึงความสามารถด้านสมรรถนะ ด้วยการออกแบบที่ดุดัน เช่น ช่องอากาศเข้าขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าที่มีดีไซน์เฉพาะตัว ปลายท่อไอเสียคู่สี่ข้าง และตัวเลือกวงล้อที่โดดเด่น ภายในห้องโดยสาร X3 M นำเสนอการผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสปอร์ต เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับสรีระ พวงมาลัยขอบหนา และจอแสดงผลเฉพาะ M สร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นผู้ขับขี่ ห้องโดยสารยังอวดโฉมวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 BMW X3 M เริ่มต้นที่ประมาณ 2.7 ล้านบาท และจะสูงถึง 2.9 ล้านบาท หากคุณเลือกรุ่น Competition รุ่น Competition นอกจากจะให้กำลังที่เพิ่มขึ้นและอุปกรณ์ที่อัปเกรดแล้ว ยังได้กระจังหน้าสีดำเงาที่ดูดุดันและฝาครอบกระจกมองข้าง และระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่น่าทึ่งเป็นมาตรฐาน เพิ่มล้อสีดำขนาด 21 นิ้วเป็นมาตรฐาน (เทียบกับ 20 นิ้วในรุ่น M ปกติ) และภายในหนัง Merino ที่อัปเกรดแล้ว จึงเป็นตัวเลือกที่เราแนะนำ
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: X3 M เร็วอย่างจริงจัง มันพุ่งออกจากโค้งและควบคุมได้อย่างสวยงาม
2025 BMW X4 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: พละกำลังมหาศาล อัตราเร่งที่รวดเร็ว การควบคุมที่เชี่ยวชาญ
ภาพรวม: BMW X4 M นำเอาประโยชน์ใช้สอยและสมรรถนะของ X3 M มาห่อหุ้มในแพ็คเกจสไตล์คูเป้ที่สวยงามยิ่งขึ้น Sports Activity Coupe คันนี้มีเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงทวินเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตรที่ดุดันเช่นเดียวกัน ให้กำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 600 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive X4 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.9 วินาที มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและยึดเกาะถนนได้อย่างมั่นใจ แต่ X4 M เป็นมากกว่าขีปนาวุธทางตรง ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต แดมเปอร์แบบปรับได้ และพวงมาลัยที่แม่นยำทำให้มันสนุกที่จะขับเข้าโค้ง X4 M แสดงความคล่องตัวที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ด้วยแชสซีที่ตอบสนองที่กระตุ้นให้ขับขี่อย่างมีชีวิตชีวา องค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่น เช่น หลังคาลาดเอียง ท้ายรถที่แกะสลัก และกันชนหน้าที่ดุดันทำให้มันแตกต่างจาก X3 M ที่ดูเป็นทางการมากกว่า ภายใน X4 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่ เบาะนั่งสปอร์ตให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ขณะที่พวงมาลัยขอบหนาและจอแสดงผลเฉพาะ M ช่วยเสริมประสบการณ์การขับขี่ ห้องโดยสารยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ สไตล์ และการใช้งานจริง BMW X4 M จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้น
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 BMW X4 M เริ่มต้นที่ประมาณ 2.8 ล้านบาท และจะสูงถึง 3.1 ล้านบาท หากคุณเลือกรุ่น Competition เช่นเดียวกับ X3 M รุ่น Competition ของ X4 M ได้รับการอัปเกรดที่คล้ายกัน ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ต้องการความเหนือชั้น
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: หากคุณเป็นนักขับ Formula 1 ที่มีครอบครัว คุณจะขับรถอะไร? BMW X4 M Competition อาจเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ
2025 BMW X5 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Super SUV ที่เป็นมาตรฐานอย่างแท้จริง รวดเร็ว กว้างขวาง และหรูหรา
ภาพรวม: 2025 BMW X5 M กลับมาเป็นกำลังสำคัญในเวที SUV สมรรถนะสูง โดยใช้พลังและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตรที่คุ้นเคยได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Mild-hybrid 48V เพิ่มกำลังขับเป็น 617 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้ X5 M พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.7 วินาที พร้อมเสียงเพลงที่แน่นอนว่าจะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่หลงใหลการขับขี่ แต่ความสามารถของ X5 M ขยายไปไกลกว่าความเร็วทางตรง แชสซีที่ซับซ้อนประกอบด้วยระบบกันสะเทือน M แบบปรับได้ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ทำให้ X5 M สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจด้วยความสงบที่น่าทึ่ง เบรก M Compound ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ทำให้ SUV อันทรงพลังคันนี้หยุดนิ่งได้อย่างแม่นยำ ภายในห้องโดยสาร X5 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี หน้าจอ BMW Curved Display ครองแผงหน้าปัด โดยรวมเอาหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ในขณะที่วัสดุพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศแห่งความซับซ้อน ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ระเบิด เทคโนโลยีล้ำสมัย และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 BMW X5 M ยังคงสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูง
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 BMW X5 M เริ่มต้นที่ประมาณ 4.5 ล้านบาท สิ่งดีๆ คือมีตัวเลือกเพียงอย่างเดียวในปีนี้สำหรับ X5 M และนั่นคือรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม รุ่น Competition โดยพื้นฐานแล้วจะให้คุณสมบัติที่เพิ่มสมรรถนะที่ดีที่สุดทั้งหมดเป็นมาตรฐาน สำหรับผู้ที่สนใจ นั่นหมายถึงคุณจะได้รับระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต และชุดล้อขนาด 21 นิ้ว/22 นิ้วแบบสลับกันพร้อมยางซัมเมอร์ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้จ่ายมากขึ้น แพ็คเกจ Executive ที่เป็นตัวเลือกเพิ่มคุณสมบัติหรูหรา เช่น ที่วางแก้วแบบอุ่นและเย็น เบาะหน้าและหลังแบบอุ่น เบาะนวดสำหรับคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า ประตูดูด และอื่นๆ อีกมากมาย
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: X5 M เป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถด้านวิศวกรรมของ BMW อย่างแท้จริง มันเป็นทั้ง SUV หรูหราที่สะดวกสบายและเครื่องจักรสมรรถนะสูงที่พร้อมลงสนามแข่ง
2025 BMW X6 M
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องยนต์ที่น่าทึ่งพร้อมอัตราเร่งที่บ้าคลั่ง เป็นรถที่สนุกมากบนถนนรอง
ภาพรวม: 2025 BMW X6 M สร้างขึ้นจากชื่อเสียงในฐานะ SUV สไตล์คูเป้สมรรถนะสูง มอบการผสมผสานที่เร้าใจของพลัง สไตล์ และเทคโนโลยี มันใช้เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.4 ลิตรที่ทรงพลังร่วมกับ X5 M ซึ่งตอนนี้ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Mild-hybrid 48V สำหรับกำลังขับรวม 617 แรงม้า และแรงบิด 750 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่เร้าใจ โดย X6 M สามารถพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.7 วินาที สมรรถนะของ X6 M ขยายไปไกลกว่าพลังดิบ ต้องขอบคุณแชสซีที่ซับซ้อนซึ่งมีระบบกันสะเทือน M แบบปรับได้ ระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ SUV ขนาดใหญ่คันนี้สามารถเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำอย่างน่าประหลาดใจ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ขณะที่เบรก M Compound ที่ทรงพลังให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ภายในห้องโดยสาร X6 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่ หน้าจอ BMW Curved Display ครองตำแหน่งศูนย์กลาง โดยรวมเอาหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ ในขณะที่วัสดุพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศแห่งความซับซ้อน ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 BMW X6 M โดดเด่นในฐานะตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดใจอย่างแท้จริงในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 BMW X6 M เริ่มต้นที่ประมาณ 4.7 ล้านบาท สิ่งดีๆ คือมีตัวเลือกเดียวในปีนี้สำหรับ X6 M และนั่นคือรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม อีกสิ่งที่ดีคือ X6 M ถูกกว่าพี่ใหญ่ X5 M เล็กน้อย แต่มันก็ใช้งานได้จริงน้อยกว่า ในด้านการใช้งานจริง เราแนะนำให้คุณเพลิดเพลินกับระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต และชุดล้อขนาด 21 นิ้ว/22 นิ้วแบบสลับกันพร้อมยางซัมเมอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในรุ่น Competition เป็นมาตรฐาน
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: หากคุณให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่สะดุดตาและอัตราเร่งที่รุนแรง X6 M จะไม่ทำให้ผิดหวัง
2025 Cadillac Escalade V-Series
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องจักรที่คล่องตัวและมีความสามารถอย่างน่าประหลาดใจ ท้าทายขนาดและน้ำหนักของมัน
ภาพรวม: 2025 Cadillac Escalade V-Series ยกระดับ SUV สุดหรูที่เป็นไอคอนไปสู่จุดสูงสุดใหม่ของสมรรถนะและเอกสิทธิ์เฉพาะ ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตรที่สร้างด้วยมือ ส่งกำลังมหาศาลถึง 682 แรงม้า และแรงบิด 885 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงการพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.4 วินาที ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ที่มีขนาดและสถานะเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม Escalade V-Series ไม่ได้อาศัยเพียงแค่พละกำลังดิบๆ ระบบกันสะเทือนที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะพร้อม Magnetic Ride Control 4.0 เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป และเบรก Brembo ขนาดใหญ่ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมและการหยุดที่ยอดเยี่ยม Escalade V-Series สร้างความโดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบที่ไม่เหมือนใครที่บ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ กันชนหน้าที่โดดเด่นพร้อมช่องอากาศเข้าขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าแบบตาข่าย และตรา V-Series ทำให้มันแตกต่างจาก Escalade มาตรฐาน ล้อขนาด 24 นิ้วพิเศษ คาลิปเปอร์เบรก Edge Red ที่เป็นตัวเลือก และปลายท่อไอเสียคู่สี่ข้างยิ่งเน้นย้ำถึงลักษณะที่แข็งแกร่ง ภายในห้องโดยสารเป็นสวรรค์ของความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Semi-aniline พร้อมการเย็บที่ไม่เหมือนใครและโลโก้ V-Series มอบความสบายและการรองรับที่ยอดเยี่ยม จอแสดงผล OLED แบบโค้งครอบคลุมแผงหน้าปัด โดยรวมหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 14.2 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 16.9 นิ้ว
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Cadillac Escalade V-Series เริ่มต้นที่ประมาณ 5.7 ล้านบาท มีตัวเลือกมากมายที่คุณสามารถเลือกได้ แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและความหรูหรา ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับคุณ แค่เลือกรุ่น V-Series ก็เพียงพอแล้ว
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จมอบพลังงานที่พุ่งทะยานอย่างน่าอัศจรรย์ พร้อมเสียงท่อไอเสียที่ไพเราะ
2025 Dodge Durango SRT 392
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริงพร้อมความสามารถด้านสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
ภาพรวม: Dodge Durango SRT 392 คือรถ Muscle car ที่ปลอมตัวมาในคราบ SUV สำหรับครอบครัว มันคือยานยนต์ที่ท้าทายความคาดหมาย มอบสมรรถนะอันเร้าใจและเสียงเครื่องยนต์ V8 ที่ดุดัน ขณะที่ยังคงมอบความหลากหลายในการใช้งานของ SUV สามแถว ใต้ฝากระโปรงคือเครื่องยนต์ HEMI V8 6.4 ลิตรที่ให้กำลัง 475 แรงม้า และแรงบิด 637 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในกลุ่ม แต่ Durango SRT 392 ไม่ได้มีดีแค่ความเร็วทางตรง Dodge ได้ติดตั้ง SUV สมรรถนะสูงคันนี้ด้วยระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต เบรก Brembo และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้มันเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจ มันคือยานยนต์ที่สามารถขับขี่บนถนนคดเคี้ยวได้อย่างสบาย หรือแม้กระทั่งลงสนามแข่งได้อย่างมั่นใจ การออกแบบภายนอกที่ดุดันของ Durango SRT 392 ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น ช่องดักอากาศบนฝากระโปรงหน้า และล้อขนาด 20 นิ้ว ยิ่งบ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ ภายใน Durango SRT 392 มอบห้องโดยสารที่สะดวกสบายและติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน พร้อมที่นั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะหน้าแบบอุ่นและระบายอากาศ พวงมาลัยอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้มันเป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์ในการใช้เวลา ด้วยการผสมผสานสมรรถนะแบบรถ Muscle car ความหลากหลายในการใช้งานของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย Dodge Durango SRT 392 จึงเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดใจสำหรับผู้ที่ต้องการทุกอย่าง
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Durango SRT 392 เริ่มต้นที่ประมาณ 2.7 ล้านบาท 2025 Dodge Durango SRT 392 มีให้เลือกสามรุ่นย่อยพร้อมตัวเลือกน้อยในแต่ละรุ่น
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Durango SRT 392 เป็นรถ Hot rod ที่สนุกสุดเหวี่ยงและเหมาะสำหรับครอบครัว ที่สามารถลากเรือของคุณไปยังทะเลสาบและเอาชนะ Mustang ที่ไฟแดงได้ในเวลาเดียวกัน
2025 Dodge Durango SRT Hellcat
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริงพร้อมความสามารถด้านสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน (เหมือน SRT 392 แต่บ้าคลั่งกว่า)
ภาพรวม: 2025 Dodge Durango SRT Hellcat กลับมาอีกครั้ง ท้าทายความคาดหมายและตรรกะด้วยการยัดเครื่องยนต์ V8 Hellcat ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตรลงใน SUV สำหรับครอบครัว เครื่องยนต์มหึมานี้สร้างกำลัง 710 แรงม้า และแรงบิด 875 นิวตันเมตร เปลี่ยน Durango ให้กลายเป็นสัตว์ร้ายแห่งสมรรถนะที่แท้จริง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที และเวลา 1/4 ไมล์ 11.5 วินาที Durango SRT Hellcat สามารถทำให้นักแข่งรถสปอร์ตหลายคนอายม้วนได้ ในขณะที่ยังคงรองรับผู้โดยสารเจ็ดคนและสัมภาระได้อย่างสบาย แต่ Durango SRT Hellcat เป็นมากกว่าพละกำลังดิบๆ มันมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ และระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตที่ช่วยให้มันเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน เบรก Brembo ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่จำเป็นในการควบคุมสัตว์ร้ายตัวนี้ ขณะที่ระบบ Launch Control ช่วยให้คุณได้อัตราเร่งที่รุนแรง การออกแบบภายนอกที่ดุดันของ Durango SRT Hellcat ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น ช่องดักอากาศบนฝากระโปรงหน้า และล้อขนาด 20 นิ้ว ไม่ทิ้งข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับเจตนาด้านสมรรถนะของมัน ภายใน Durango SRT Hellcat มอบห้องโดยสารที่สะดวกสบายและติดตั้งอุปกรณ์ครบครัน พร้อมที่นั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะหน้าแบบอุ่นและระบายอากาศ พวงมาลัยอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคุณสมบัติที่ทำให้มันเป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์ในการใช้เวลา ด้วยการผสมผสานสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ความหลากหลายในการใช้งานของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย 2025 Dodge Durango SRT Hellcat จึงเป็นยานยนต์ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงที่ท้าทายการจัดหมวดหมู่
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Durango SRT Hellcat เริ่มต้นที่ประมาณ 3.6 ล้านบาท รุ่นพิเศษที่มาถึงในปี 2025 ชื่อว่า Silver Bullet มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทาสี Triple Nickel (เงิน) และเพิ่มรายละเอียดที่ไม่เหมือนใคร เช่น ฝากระโปรงหน้าสีดำด้านและเย็บสองสีทั่วทั้งภายใน
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Durango Hellcat เป็น SUV ที่เร็วอย่างเหลือเชื่อที่สามารถพาสมาชิกในครอบครัวไปซ้อมฟุตบอลในนาทีเดียว จากนั้นก็สามารถทำเวลา 1/4 ไมล์ใน 11.5 วินาทีในนาทีถัดไป
2025 Ferrari Purosangue
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวระหว่างสมรรถนะ การใช้งานจริง และความหรูหรา สำหรับครอบครัว (ที่เร่งรีบ)
ภาพรวม: Ferrari Purosangue ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari เท่านั้น แต่มันคือการประกาศที่ท้าทายแบบแผนและสร้างนิยามใหม่ของความคาดหวัง นี่ไม่ใช่รถครอบครัวที่ยกสูงทั่วไป แต่มันคือ Ferrari สายเลือดแท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความหลากหลายในการใช้งานของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยฝากระโปรงหน้าที่ยาว บังโคลนที่แข็งแรง และท่าทางที่ดุดัน เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari อย่างไม่มีข้อสงสัย ขณะที่ความสูงจากพื้นดินที่เพิ่มขึ้นและสี่ประตูมอบระดับใหม่ของการใช้งานจริงสำหรับม้าลำพอง ใต้ฝากระโปรง Purosangue อวดโฉมเครื่องยนต์ V12 naturally aspirated 6.5 ลิตรที่ปลดปล่อยพลังงานอันไพเราะ ให้กำลัง 715 แรงม้า และแรงบิด 716 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงสมรรถนะที่น่าทึ่ง โดยพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. แต่ Purosangue เป็นมากกว่าขีปนาวุธทางตรง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ระบบกันสะเทือนแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง มอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นความสุขในการขับขี่บนถนนคดเคี้ยว ภายใน Purosangue มอบห้องโดยสารที่หรูหราและกว้างขวางพร้อมที่นั่งสำหรับสี่คน ห้องนักบินที่เน้นผู้ขับขี่มีหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัล ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว และการออกแบบห้องนักบินคู่ที่ไม่เหมือนใครที่ให้ผู้โดยสารด้านหน้ามีจอแสดงผลและระบบควบคุมของตนเอง เบาะหลังมีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะกว้างขวาง ทำให้ Purosangue เป็นยานยนต์ที่สะดวกสบายและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ การออกแบบที่สวยงาม และการใช้งานจริงที่น่าประหลาดใจ Ferrari Purosangue คือยานยนต์ที่ก้าวล้ำที่สร้างนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่ Ferrari จะเป็นได้
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: มีให้เลือกในรุ่นเดียว 2025 Ferrari Purosangue ไม่ได้มีราคาถูก โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 15.2 ล้านบาท Purosangue เกี่ยวกับตัวเลือกสำหรับผู้ซื้อทั้งหมด และใช่ นี่คือ Ferrari ดังนั้นคุณสามารถคลั่งไคล้กับตัวเลือกต่างๆ ได้อย่างเต็มที่
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Purosangue ขับได้เหมือน Ferrari แท้ๆ ด้วยความคล่องตัวและการตอบสนองที่น่าเหลือเชื่อที่ท้าทายขนาดและรูปร่างของมัน
2025 Ford F-150 Raptor / Raptor R
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: รถกระบะออฟโรดที่มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในรถกระบะ
ภาพรวม: 2025 Ford F-150 Raptor และ Raptor R ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในโลกของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง สัตว์ร้ายที่วิ่งในทะเลทรายและปีนป่ายหินเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการการผจญภัยที่เร้าใจและต้องการขีดความสามารถสูงสุดจากยานพาหนะของพวกเขา รถกระบะทั้งสองรุ่นใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและการออกแบบที่ดุดัน แต่ตอบสนองความกระตือรือร้นในการออฟโรดที่แตกต่างกัน F-150 Raptor ซึ่งเป็นรุ่น “พื้นฐาน” ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร มันอวดโฉมเครื่องยนต์ EcoBoost V6 ทวินเทอร์โบ 3.5 ลิตรที่ทรงพลัง ให้กำลัง 450 แรงม้า และแรงบิด 690 นิวตันเมตร พลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมกล่องเกียร์แบบ Torque-on-demand ระบบกันสะเทือนของ Raptor คือที่มาของความมหัศจรรย์ ด้วยโช้คอัพ Fox 3.1 Live Valve internal bypass ที่ให้การควบคุมและการหน่วงที่ยอดเยี่ยมแม้บนภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ด้วยระยะยุบตัวของระบบกันสะเทือนหน้า 13.1 นิ้ว และระยะยุบตัวด้านหลัง 14.1 นิ้ว Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่รุนแรงยิ่งขึ้น F-150 Raptor R ยกระดับไปอีกขั้น ใต้ฝากระโปรงซ่อนเครื่องยนต์ V8 Predator ซูเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร ซึ่งยืมมาจาก Mustang Shelby GT500 ที่ปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 700 แรงม้า และแรงบิด 868 นิวตันเมตร ทำให้ Raptor R เป็นรถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตลาด นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งช่วงล่างที่ไม่เหมือนใคร ระยะห่างระหว่างล้อที่กว้างขึ้น และยาง All-terrain ขนาด 37 นิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการออฟโรด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Raptor หรือ Raptor R คุณจะได้รับการรับประกันว่าเป็นรถกระบะที่สามารถพิชิตทุกภูมิประเทศและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจ
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 F-150 Raptor เริ่มต้นที่ประมาณ 2.9 ล้านบาทสำหรับรุ่นพื้นฐาน และเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาทสำหรับรุ่น R ที่บ้าคลั่ง
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Raptor R เป็นรถบรรทุกสัตว์ประหลาดที่เสริมด้วยสเตียรอยด์ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ดุร้ายที่มอบพละกำลังอันน่าทึ่งและเสียงเพลงที่คู่ควร
2025 Ford Bronco Raptor
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ออฟโรดตัวจริง พร้อมรับมือกับภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้อย่างง่ายดาย
ภาพรวม: Ford Bronco Raptor ไม่ใช่ SUV ธรรมดา แต่มันคือสัตว์ร้ายออฟโรดสมรรถนะสูงที่ถูกสร้างมาเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ลองนึกภาพว่าเป็นรถบรรทุกมอนสเตอร์ที่วิ่งในทะเลทราย ปีนป่ายหิน และกระโดดได้พร้อมป้ายทะเบียน Ford นำ Bronco ที่มีความสามารถอยู่แล้วมาฉีดด้วย DNA ของ Raptor อย่างหนักหน่วง ทำให้ได้ยานยนต์ที่ผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะออฟโรด ใต้ฝากระโปรง Bronco Raptor บรรจุเครื่องยนต์ EcoBoost V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตรที่ทรงพลัง ให้กำลัง 418 แรงม้า และแรงบิด 597 นิวตันเมตร พลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมเพลาท้าย Dana 50 Heavy-Duty AdvanTEK ที่แข็งแกร่ง และเพลาหน้า Dana 44 AdvanTEK ระบบกันสะเทือนของ Bronco Raptor คือที่มาของความมหัศจรรย์อย่างแท้จริง มันอวดโฉมระบบกันสะเทือนเพื่อความเสถียรแบบออฟโรดสมรรถนะสูง (HOSS 4.0) พร้อมแดมเปอร์ Fox 3.1 internal bypass กึ่งแอคทีฟ ระบบกันสะเทือนแบบ Long-travel และยาง All-terrain ขนาด 37 นิ้วขนาดใหญ่ การตั้งค่านี้ช่วยให้ Bronco Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย ให้การควบคุมและความเสถียรที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพแวดล้อมออฟโรดที่ท้าทายที่สุด การออกแบบภายนอกของ Bronco Raptor ดุดันพอๆ กับสมรรถนะของมัน บังโคลนที่กว้างขึ้น กระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ และตัวอักษร “FORD” ตัวหนา ไม่ทิ้งข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับเจตนาของมัน คุณสมบัติการใช้งาน เช่น แผ่นกันกระแทกเหล็ก แผ่นกันกระแทกสำหรับงานหนัก และตะขอลากจูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการออฟโรด ภายในห้องโดยสารเป็นการผสมผสานระหว่างความทนทานและความประณีต ด้วยเบาะไวนิลเกรดทะเล ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง และคุณสมบัติที่เน้นการออฟโรดมากมาย Bronco Raptor คือเครื่องจักรที่ไม่เหมือนใครและมีความสามารถอย่างแท้จริงที่สร้างนิยามใหม่ให้กับสิ่งที่ SUV ออฟโรดจะเป็นได้
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Bronco Raptor มีราคาประมาณ 3.3 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงสำหรับ Ford Bronco Raptor มีให้เลือกเฉพาะตัวถังแบบสี่ประตูและรุ่นย่อยเดียว ข้อเสนอหลักค่อนข้างอัดแน่นไปด้วยสิ่งดีๆ ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องคลั่งไคล้กับตัวเลือกต่างๆ ระบบเสียงยอดเยี่ยมและมีอุปกรณ์ออฟโรดทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับภารกิจหลักในการเป็น Bronco ที่สุดขีดที่สุด
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: รถคันนี้สามารถปีนหิน ลุยน้ำ และกระโดดเนินทรายได้อย่างคล่องตัวและสง่างามอย่างเหลือเชื่อ
2025 Lamborghini Urus
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความบ้าคลั่งของ Lamborghini และความหลากหลายในการใช้งานของ SUV ในชีวิตประจำวัน
ภาพรวม: 2025 Lamborghini Urus พุ่งเข้าสู่โลกอนาคตด้วยระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ทรงพลัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูงคันนี้ ในขณะที่เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรที่เป็นไอคอนยังคงอยู่ ตอนนี้มันได้รวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้าง Urus S.E. (Super Elettrica) ใหม่ การผสมผสานนี้ปลดปล่อยกำลัง 789 แรงม้า และแรงบิด 950 นิวตันเมตร ผลักดัน Urus S.E. จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.1 วินาที นอกเหนือจากพลังดิบแล้ว ระบบไฮบริดยังมอบระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนที่ประมาณ 48 กิโลเมตร เพิ่มมิติของประสิทธิภาพให้กับ Super SUV คันนี้ แต่กลุ่มผลิตภัณฑ์ Urus ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Urus S “พื้นฐาน” ก็ได้รับการอัปเดตสำหรับปี 2025 โดยมีการปรับเปลี่ยนด้านหน้าใหม่ด้วยกันชนและดีไซน์ฝากระโปรงใหม่ พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายที่อัปเดต ภายในทั้ง Urus S และ S.E. ได้รับประโยชน์จากระบบอินโฟเทนเมนต์ที่อัปเกรดและตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Urus รุ่น Performante ยังคงครองตำแหน่งสูงสุด ด้วยมาตรการลดน้ำหนัก การปรับปรุงตามหลักอากาศพลศาสตร์ และการปรับแต่งที่เน้นสนามแข่ง Urus Performante มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและน่าหลงใหลยิ่งขึ้น ใหม่ในรายการตัวเลือกคือล้อ Galanthus ขนาด 23 นิ้วที่โดดเด่น หุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero ขนาด 285/35 ที่ด้านหน้าและ 325/30 ที่ด้านหลัง ภายใน Urus S.E. มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่ใหญ่ขึ้นพร้อมการตอบสนองที่ดีขึ้นและการควบคุมด้วยเสียงที่ได้รับการปรับปรุง ในขณะที่ยอมรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Lamborghini ยังคงรักษาชุดควบคุมทางกายภาพที่น่าพึงพอใจ รวมถึงสวิตช์สลับและปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์แบบมีกรงที่น่าหลงใหล การอัปเดตเหล่านี้รวมกันเพื่อยกระดับรูปลักษณ์และความซับซ้อนทางเทคโนโลยีของ Urus ทำให้มั่นใจได้ว่ามันยังคงเป็นรถที่สะดุดตาไม่ว่าจะภายในหรือภายนอก
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: Urus “รุ่นเริ่มต้น” เริ่มต้นที่ประมาณ 8.6 ล้านบาทสำหรับปี 2025 และมีราคาถึง 9.7 ล้านบาท หากคุณเลือกรุ่น Performante ที่เน้นสมรรถนะ รุ่น Performante ยังคงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะ
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Urus S คือสุดยอดผลงานในการสร้างรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
2025 Lotus Eletre
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือเกมที่เปลี่ยนแปลงสำหรับ Lotus อย่างแท้จริง
ภาพรวม: Lotus Eletre เป็นยานยนต์ที่ก้าวล้ำ ซึ่งแสดงถึงการจากไปที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงด้านรถสปอร์ตน้ำหนักเบา SUV ไฟฟ้าคันนี้คือการบุกเบิกตลาด SUV ครั้งแรกของ Lotus และกำลังสร้างความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสามารถด้านสมรรถนะที่น่าประทับใจ รูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์และเส้นสายที่แกะสลักของ Eletre ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระยะการขับขี่ที่น่าประทับใจอีกด้วย ใต้พื้นผิว Eletre อวดโฉมระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่ทรงพลังพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิด 710 นิวตันเมตรในรุ่นพื้นฐานและรุ่น S ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น Eletre R รุ่นท็อปสุดปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 905 แรงม้า และแรงบิด 984 นิวตันเมตร ผลักดันมันจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที Eletre R ยังมีกระปุกเกียร์สองสปีดที่ไม่เหมือนใครบนเพลาหลัง ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสาร Eletre มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี มีการใช้วัสดุที่ยั่งยืนทั่วทั้งคัน สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Lotus ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้วครองแผงหน้าปัด โดยให้การเข้าถึงการนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ Eletre ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมาย รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาเลน และระบบกล้อง 360 องศา
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Eletre เริ่มต้นที่ประมาณ 3.9 ล้านบาท Eletre เป็นรุ่นใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025 มีสามรุ่นย่อยเปิดตัว
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Eletre R เร็วอย่างน่าตกใจ มอบอัตราเร่งระดับซูเปอร์คาร์ในแพ็คเกจ SUV
2025 Maserati Grecale
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ดีไซน์สวยงาม แต่ยังคงต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุดในเซ็กเมนต์
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale บุกเข้าสู่ตลาดในฐานะ SUV คอมแพคท์หรูหราที่รวบรวมสไตล์และสมรรถนะแบบอิตาเลียน SUV ที่มีสไตล์คันนี้มอบการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างความหลากหลายในการใช้งาน เทคโนโลยี และความตื่นเต้นในการขับขี่ ทำให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในเซ็กเมนต์ Maserati นำเสนอ Grecale ในสามรุ่นย่อยที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรุ่นตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Grecale GT ระดับเริ่มต้นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-hybrid 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 296 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ขณะที่ระบบ Mild-hybrid ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ถัดไปคือ Grecale Modena ซึ่งอวดโฉมเครื่องยนต์ Mild-hybrid ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ให้กำลัง 325 แรงม้า และแรงบิด 450 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจยิ่งขึ้น ด้วยอัตราเร่งและการตอบสนองที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Grecale รุ่น Grecale Trofeo อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ มันทิ้งเครื่องยนต์ 4 สูบเพื่อเลือกใช้เครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตรที่ให้กำลังสูง ซึ่งพัฒนามาจากซูเปอร์คาร์ MC20 เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ปลดปล่อยกำลัง 523 แรงม้า และแรงบิด 620 นิวตันเมตร ผลักดัน Grecale Trofeo จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Grecale ก็มีห้องโดยสารที่หรูหราและตกแต่งอย่างดีเยี่ยมพร้อมวัสดุคุณภาพสูงและคุณสมบัติเทคโนโลยีขั้นสูง หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ขณะที่ Head-up display มีให้เลือกเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะที่น่าดึงดูดใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา 2025 Maserati Grecale จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา SUV คอมแพคท์พรีเมียมที่โดดเด่นจากฝูงชน
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Maserati Grecale เริ่มต้นที่ประมาณ 2.5 ล้านบาท รุ่น Modena ที่มีแดมเปอร์แบบปรับได้ ล้อขนาด 20 นิ้ว ซันรูฟไฟฟ้า เบาะหน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ การตกแต่งภายในด้วยไม้ และสิ่งดีๆ อื่นๆ ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นเกือบ 350,000 บาท เหนือรุ่นพื้นฐาน
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Grecale เป็น SUV ที่หลากหลายที่สามารถปรับให้เข้ากับสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปทำงานหรือสำรวจชนบท
2025 Maserati Grecale Folgore
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะ และความยั่งยืน
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale Folgore ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Grecale เป็นไฟฟ้า นำเสนอสมรรถนะที่ยั่งยืนมาสู่ SUV สัญชาติอิตาลี รุ่นไฟฟ้าล้วนคันนี้มีพลังขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ สร้างกำลังรวม 542 แรงม้า และแรงบิด 800 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่เร้าใจ โดยพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.1 วินาที แต่ Folgore ไม่ได้มีดีแค่ความเร็วทางตรง นอกจากนี้ยังมีแบตเตอรี่แพ็ค 105 kWh ที่ให้ระยะการขับขี่ประมาณ 500 กิโลเมตร ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล Grecale Folgore แยกตัวเองออกจากพี่น้องที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่น ล้อแอโรไดนามิกที่ไม่เหมือนใครช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะที่การตกแต่งด้วยทองแดงบนตราสัญลักษณ์ภายนอกและคาลิปเปอร์เบรกบ่งบอกถึงธรรมชาติที่เป็นไฟฟ้า ภายในห้องโดยสาร Folgore มีเบาะหุ้มด้วย Econyl ไนลอนรีไซเคิล ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของ Maserati ในการรักษาสิ่งแวดล้อม แผงหน้าปัดถูกครอบงำด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงการนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ ด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2025 Maserati Grecale Folgore จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา SUV ไฟฟ้าพรีเมียมที่ไม่ลดทอนความสนุกในการขับขี่
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Maserati Grecale Folgore อยู่ที่ประมาณ 3.9 ล้านบาท และสูงขึ้นอยู่กับตัวเลือก Grecale Folgore เป็นรุ่นใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Maserati สำหรับรุ่นปี 2025 และเป็นรุ่นไฟฟ้าคันที่สองในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของผู้ผลิตรถยนต์
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: มันควบคุมได้คล่องตัวอย่างเหลือเชื่อ ท้าทายสัดส่วนของ SUV รู้สึกเหมือนรถ Hatchback สมรรถนะสูงมากกว่ารถออฟโรดขนาดใหญ่
2025 Maserati Levante
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ขนาดใหญ่ สวยงาม และหรูหรา ทำในแบบของ Maserati
ภาพรวม: 2025 Maserati Levante SUV เรือธงของแบรนด์ ยังคงสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานสไตล์อิตาเลียน การตกแต่งที่หรูหรา และสมรรถนะที่เร้าใจ ปีนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยการออกแบบที่อัปเดต เทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง และระบบส่งกำลังที่ประณีต การออกแบบภายนอกคมชัดขึ้นเล็กน้อยด้วยการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าแบบปรับปรุง และไฟท้ายที่อัปเดต ภายในห้องโดยสารอวดโฉมระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วใหม่พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Maserati ซึ่งนำเสนอฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง กลุ่มผลิตภัณฑ์ Levante มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Levante GT ระดับเริ่มต้นมีเครื่องยนต์ 4 สูบ Mild-hybrid 2.0 ลิตร ที่ให้ความสมดุลระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพ โดยให้กำลัง 325 แรงม้า Levante Modena เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 3.0 ลิตร สร้างกำลัง 424 แรงม้า สำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดสมรรถนะของ Levante รุ่น Levante Trofeo ครองตำแหน่งสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 3.8 ลิตรที่ดุดัน ปลดปล่อยกำลัง 572 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Levante ใด คุณจะได้รับการปรนเปรอด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราและประณีต ห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์ด้วยวัสดุพรีเมียม เช่น หนังและไม้ ขณะที่คุณสมบัติต่างๆ เช่น เบาะอุ่นและระบายอากาศ ระบบเสียงพรีเมียม และซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานการออกแบบอิตาเลียน เครื่องยนต์ทรงพลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกที่หรูหรา 2025 Maserati Levante ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Levante เริ่มต้นที่ประมาณ 3.7 ล้านบาท และจะสูงถึง 6.7 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก รุ่น Trofeo คือตัวเลือกที่เราแนะนำ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบที่ให้กำลัง 580 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.6 วินาที ซึ่งเป็นระดับของรถสปอร์ตที่แท้จริง Levante Trofeo ยังได้รับรายการอุปกรณ์ที่ครบครันอีกด้วย
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Levante Trofeo คือสัตว์ร้าย เครื่องยนต์ V8 ที่มาจาก Ferrari สร้างเสียงที่ไพเราะและมอบแรงผลักดันที่ทำให้คุณหัวเราะคิกคัก
2025 Mercedes-AMG G63
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งสถานะ แต่ยังเป็นรถที่หรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง
ภาพรวม: Mercedes-AMG G 63 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “G-Wagon” เป็นไอคอนของความสามารถในการออฟโรดและความหรูหราที่ไม่อาจปฏิเสธได้ SUV ในตำนานคันนี้ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากทหาร ได้เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและความสามารถมานานหลายทศวรรษ สำหรับปี 2025 G 63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์อันเป็นสัญลักษณ์ ใต้ฝากระโปรง G 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือ ซึ่งตอนนี้ติดตั้งระบบ Mild-hybrid 48 โวลต์ เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร ผลักดัน G 63 จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.2 วินาที ระบบ Mild-hybrid ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ความสามารถในการออฟโรดของ G 63 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับปรุง ให้การบิดตัวที่ดีขึ้นและการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นบนภูมิประเทศที่ขรุขระ ภายในห้องโดยสาร G 63 เป็นสวรรค์ของความหรูหราและเทคโนโลยี หนังที่เย็บด้วยมือ การตกแต่งด้วยไม้ที่ทำด้วยมือ และคิ้วอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศแห่งความฟุ่มเฟือยและความประณีต หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย สำหรับปี 2025 G 63 ได้นำเสนอคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ รวมถึง Active Steering Assist และ Active Emergency Stop Assist ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานการออกแบบที่เป็นไอคอน สมรรถนะที่ทรงพลัง การตกแต่งที่หรูหรา และเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง 2025 Mercedes-AMG G 63 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสุดยอดความหรูหราและความสามารถในการออฟโรด
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Mercedes-AMG G63 เริ่มต้นที่ประมาณ 6.8 ล้านบาท และสูงถึง 7.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและตัวเลือก Mercedes-AMG G63 มีอุปกรณ์ครบครันในรุ่นพื้นฐาน ดังนั้นเราจะเลือกรุ่นนั้น
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: คันนี้เป็นรถถัง มันให้ความรู้สึกที่ทนทาน และให้ความมั่นใจในการจัดการกับอุปสรรคใดๆ
2025 Mercedes-AMG GLC-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและมอเตอร์ไฟฟ้าที่ส่งมอบพละกำลังไม่หยุดยั้ง
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLC-Class ทั้งในรูปแบบ SUV แบบดั้งเดิมและ Coupe ที่เพรียวบาง มอบสมรรถนะที่แข็งแกร่งให้กับกลุ่มรถหรูขนาดกะทัดรัด ยานยนต์ไดนามิกเหล่านี้ใช้แพลตฟอร์ม GLC ที่ประณีตและหลากหลาย และฉีดด้วย DNA มอเตอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG ทำให้เกิด SUV ที่สามารถขับขี่ได้อย่างคล่องตัวบนถนนคดเคี้ยวและบนถนนในเมือง สำหรับปี 2025 กลุ่มผลิตภัณฑ์ AMG GLC-Class ได้รับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเน้นที่สมรรถนะแบบไฟฟ้า AMG GLC 43 4MATIC ตอนนี้มีระบบ Mild-hybrid จับคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร สร้างกำลัง 416 แรงม้า และแรงบิด 500 นิวตันเมตร การตั้งค่านี้ให้อัตราเร่งที่รวดเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ระบบช่วงล่างที่ปรับแต่งโดย AMG และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อช่วยให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมที่คล่องตัวและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ บนสุดของลำดับชั้นสมรรถนะคือ AMG GLC 63 S E PERFORMANCE รุ่นสมรรถนะสูงคันนี้อวดโฉมระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ก้าวล้ำ ซึ่งรวมเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตรเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง ให้กำลังรวม 671 แรงม้า และแรงบิด 1020 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่น่าทึ่ง โดยพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.4 วินาที GLC 63 S E PERFORMANCE ยังมีคุณสมบัติด้านสมรรถนะมากมาย รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเฉพาะ AMG ระบบแดมป์ปรับได้ และระบบควบคุมการทรงตัวแบบแอคทีฟ ทำให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การขับขี่ที่ขับเคลื่อนอย่างมีพลวัต ทั้ง GLC 43 และ GLC 63 S E PERFORMANCE มีให้เลือกทั้งในรูปแบบตัวถัง SUV และ Coupe โดยมีตัวเลือกเลือกระหว่าง SUV ที่ใช้งานได้จริงและหลากหลายกว่า หรือ Coupe ที่เพรียวบางและสปอร์ตกว่าพร้อมหลังคาลาดเอียง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่ทรงพลัง เทคโนโลยีขั้นสูง และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 Mercedes-AMG GLC-Class และ GLC-Class Coupe จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่มีความตื่นเต้น
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 AMG GLC-Class เริ่มต้นที่ประมาณ 2.3 ล้านบาทสำหรับรุ่นพื้นฐานในตัวถังปกติ และ 2.6 ล้านบาทสำหรับตัวถังคูเป้ รุ่น GLC63 S E Performance เป็นสัตว์ร้ายที่แท้จริง ดังนั้นจงไปซื้อมัน กำลัง 671 แรงม้าคุ้มค่ากับราคาที่สูงกว่า 3.2 ล้านบาท
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: GLC 63 S E PERFORMANCE เร็วอย่างน่าตกใจ แรงดันไฟฟ้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดทันที ทำให้รู้สึกเหมือนจรวดออกจากเส้นสตาร์ท
2025 Mercedes-AMG GLE-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: การควบคุมที่น่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน และมีพละกำลังที่ยอดเยี่ยม
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLE-Class สำหรับปี 2025 ยังคงครองตำแหน่งในฐานะ SUV หรูหราสมรรถนะสูงที่ผสานพละกำลังอันเร้าใจเข้ากับความสะดวกสบายที่ประณีตและเทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างลงตัว SUV ขนาดกลางคันนี้ ซึ่งอิงจาก Mercedes-Benz GLE ได้รับการปรับแต่งแบบ AMG โดยเน้นที่พลวัตการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น การออกแบบที่ดุดัน และระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่ทรงพลัง กลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class AMG สำหรับปี 2025 ได้รับการปรับปรุงให้เรียบง่ายขึ้น โดยนำเสนอ GLE 53 สมรรถนะสูง และ GLE 63 GLE 53 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียงเทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-hybrid การตั้งค่านี้สร้างกำลัง 429 แรงม้า และแรงบิด 520 นิวตันเมตร ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ในสภาวะต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ GLE 53 มีลักษณะสปอร์ต Mercedes-AMG GLE 63 S E อยู่บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ GLE-Class แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในเทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง SUV คันนี้มีพละกำลังที่แข็งแกร่ง โดยรวมเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลังสำหรับกำลังขับรวม 603 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร การตั้งค่านี้ช่วยให้ GLE 63 S E พุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.7 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด แต่ GLE 63 S E PERFORMANCE ไม่ได้มีดีแค่พละกำลังดิบๆ นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจด้วยระบบไฮบริด ซึ่งสามารถให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนระยะสั้นสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและธุระต่างๆ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการยึดเกาะและการควบคุมที่ดีที่สุด ขณะที่ระบบกันสะเทือนถุงลม AMG RIDE CONTROL+ พร้อมแดมป์ปรับได้ ให้การขับขี่ที่สะดวกสบายและการควบคุมที่คมชัด
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 AMG GLE53 เริ่มต้นที่ประมาณ 3.2 ล้านบาท และ GLE63 เริ่มต้นที่ 4.7 ล้านบาท เราชอบ GLE63 แต่ราคาสูงเกินไปที่จะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง เลือก GLE53 และเพิ่มตัวเลือกดีๆ บางอย่าง คุณจะยังคงอยู่ภายใต้ 3.5 ล้านบาท แพ็คเกจ Winter นั้นยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยให้พวงมาลัยอุ่นและเครื่องฉีดน้ำล้างกระจกหน้าแบบอุ่น
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: GLE 63 S E เป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ AMG ทั้งในด้านสมรรถนะและระบบไฟฟ้า
2025 Mercedes-AMG GLS-Class
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริง และเร็วมากสำหรับคุณและครอบครัว
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLS 63 คือสุดยอดการแสดงออกถึงความหรูหราและสมรรถนะของ SUV ยานยนต์ที่สามารถพิชิตทุกเส้นทางได้ในขณะที่ปรนเปรอผู้โดยสารด้วยความสะดวกสบายที่เหนือชั้น SUV ขนาดเต็มคันนี้ ซึ่งอิงจาก Mercedes-Benz GLS ที่หรูหราอยู่แล้ว ได้รับการปรับแต่งแบบ AMG อย่างเต็มรูปแบบ อวดโฉมเครื่องยนต์ V8 ที่สร้างด้วยมือ ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต และการตกแต่งที่หรูหรามากมาย ใต้ฝากระโปรง GLS 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตรที่สร้างด้วยมือ ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-hybrid 48 โวลต์ เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 603 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร ผลักดัน GLS 63 จาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.1 วินาที ระบบ Mild-hybrid ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ของ GLS 63 ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ในสภาวะต่างๆ ภายในห้องโดยสาร GLS 63 เป็นสวรรค์ของความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Nappa พรีเมียม การตกแต่งด้วยไม้ที่ทำด้วยมือ และคิ้วอะลูมิเนียมขัดเงาสร้างบรรยากาศแห่งความฟุ่มเฟือยและความประณีต หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย ผู้โดยสารในแถวที่สองและสามเพลิดเพลินกับพื้นที่และความสะดวกสบายที่กว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น เบาะอุ่นและระบายอากาศ ระบบควบคุมอุณหภูมิแยกส่วน และระบบความบันเทิงเบาะหลัง ด้วยการผสมผสานสมรรถนะที่เร้าใจ ความหรูหราที่กว้างขวาง และเทคโนโลยีขั้นสูง Mercedes-AMG GLS 63 จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสุดยอดความประณีตและความสามารถของ SUV
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 AMG GLS63 เริ่มต้นที่ประมาณ 5.2 ล้านบาท และมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว นี่คือ SUV ที่แพง และโชคดีที่มีอุปกรณ์ครบครัน เราขอแนะนำแพ็คเกจ Warmth and Comfort ที่มีชื่อน่ารัก ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วจะอุ่นสิ่งต่างๆ มากมาย
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: GLS 63 สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอายม้วนได้ในการเร่งความเร็วทางตรง ทั้งหมดนี้ในขณะที่บรรทุกผู้โดยสารเจ็ดคนได้อย่างสบายที่สุด
2025 Porsche Cayenne
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สะดวกสบายและรวดเร็ว และยังคงเป็นรถที่ดีที่สุดในธุรกิจในด้านพลวัตการขับขี่
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา SUV หรูหราที่ไม่ลดทอนสมรรถนะ ปีนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne อวดโฉมตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ตั้งแต่ V6 ที่ทรงพลังไปจนถึง Plug-in Hybrid ที่ให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่น่าประทับใจ แต่เป็นรุ่นที่เน้นสมรรถนะที่จับแก่นแท้ของลักษณะสปอร์ตของ Cayenne อย่างแท้จริง Cayenne S ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร สร้างกำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่น่าพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากระบบช่วงล่างแบบสปอร์ตและเบรกขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความสามารถในการควบคุม สำหรับผู้ที่ต้องการความตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น Cayenne GTS ยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้น เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 493 แรงม้า และแรงบิด 620 นิวตันเมตร ทำให้สามารถทำความเร็ว 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.2 วินาที GTS ยังมีระยะความสูงจากพื้นดินที่ต่ำลง ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต และการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะที่แข็งแกร่ง รุ่นที่เน้นสมรรถนะเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Cayenne ในการผสมผสานความหลากหลายในการใช้งานเข้ากับสมรรถนะที่เร้าใจ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือขับบนถนนคดเคี้ยว 2025 Porsche Cayenne มอบการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของความหรูหราและความสปอร์ตที่แน่นอนว่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ขับขี่ที่พิถีพิถันที่สุด
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Porsche Cayenne เริ่มต้นที่ประมาณ 3.1 ล้านบาท และราคาพุ่งสูงถึง 4.5 ล้านบาทสำหรับรุ่น GTS เลือก Cayenne พื้นฐานและเลือกแพ็คเกจ Premium และ Sport Chrono รุ่น GTS กำลัง 493 แรงม้าเข้าร่วมกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cayenne สำหรับปี 2025 เป็นรุ่นที่ยอดเยี่ยม และมีเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรเดียวกับ Cayenne S แต่ได้เพิ่มกำลังอีก 25 แรงม้า ได้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบระบายความร้อนด้วยน้ำและส่วนประกอบช่วงล่างบางส่วนที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของพวงมาลัย GTS มาพร้อมแพ็คเกจ Sport Design เป็นมาตรฐาน ซึ่งเพิ่มการตกแต่งภายนอกสีดำทั่วไปและองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะ GTS อื่นๆ
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่หลงใหลการขับขี่… อย่างไม่ต้องสงสัย
2025 Porsche Cayenne Coupe Turbo E-Hybrid
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV ที่ครบเครื่องที่สุดในตลาดปัจจุบัน
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid คือ SUV สมรรถนะสูงที่สร้างนิยามใหม่ให้กับทั้งความทรงพลังและมีประสิทธิภาพ Plug-in Hybrid คันนี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตรเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างยอดเยี่ยม ส่งผลให้กำลังรวมมหาศาลถึง 729 แรงม้า และแรงบิด 950 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่งที่น่าทึ่ง โดยพุ่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid ไม่ได้มีดีแค่พละกำลังดิบๆ นอกจากนี้ยังมีระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนที่น่าประทับใจถึง 60 กิโลเมตร ซึ่งช่วยให้การเดินทางในชีวิตประจำวันและธุระต่างๆ ปราศจากการปล่อยมลพิษ ระบบไฮบริดผสานเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นและประณีต ไม่ว่าคุณจะขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือปลดปล่อยพลังงาน V8 ได้อย่างเต็มที่ Cayenne Turbo E-Hybrid ยังมีระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ระบบกันสะเทือนถุงลมแบบปรับได้ และระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ถึงการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบาย ภายในห้องโดยสาร Cayenne Turbo E-Hybrid มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี วัสดุพรีเมียมอย่างหนังและคาร์บอนไฟเบอร์ประดับประดาภายใน ขณะที่หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลแบบโค้งขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสส่วนกลางขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Cayenne Turbo เริ่มต้นที่ประมาณ 5.7 ล้านบาท รถคันนี้มีอุปกรณ์ครบครัน เร็วปานสายฟ้า และใช้งานได้จริงมากตั้งแต่แกะกล่อง แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลไกสำหรับปี 2025 แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid เช่นเดียวกับ Cayenne ทุกรุ่น ได้รับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมสำหรับรุ่นปีใหม่
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Cayenne เป็นมาตรฐานในกลุ่ม SUV หรูหรา มอบการผสมผสานที่น่าสนใจของสมรรถนะ ความหรูหรา และการใช้งานจริง
2025 Porsche Macan
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการ SUV ที่สามารถจัดการได้ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการผจญภัยช่วงสุดสัปดาห์
ภาพรวม: 2025 Porsche Macan ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่พี่น้องไฟฟ้ากำลังขโมยแสงไฟ Macan ที่ใช้น้ำมันยังคงเป็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้องและน่าตื่นเต้น โดยมีรุ่นย่อยที่หลากหลายที่ตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Macan พื้นฐานเริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบเทอร์โบชาร์จ 2.0 ลิตร ให้กำลัง 261 แรงม้า และแรงบิด 400 นิวตันเมตร ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการความกระตือรือร้นเล็กน้อย Macan T เพิ่มความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และคันเร่งที่ตอบสนองได้ดีขึ้น Macan S เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร สร้างกำลัง 375 แรงม้า และแรงบิด 520 นิวตันเมตร ซึ่งหมายถึงอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่น่าพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากเบรกขนาดใหญ่ขึ้นและระบบกันสะเทือนถุงลมแบบปรับได้ที่เป็นตัวเลือก ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมเพิ่มเติม บนสุดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan ที่ใช้น้ำมันคือ Macan GTS รุ่นสมรรถนะสูงคันนี้อวดโฉมเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ที่ให้กำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที GTS มอบสมรรถนะที่เร้าใจที่เทียบเคียงรถสปอร์ตบางคัน นอกจากนี้ยังมีระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต ระยะความสูงจากพื้นดินที่ต่ำลง และองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด 2025 Porsche Macan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ พวงมาลัยที่แม่นยำ แชสซีที่สมดุล และเครื่องยนต์ทรงพลัง ทำให้มันเป็นความสุขในการขับขี่บนถนนคดเคี้ยว ในขณะที่ภายในที่หรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูงมอบความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Macan เริ่มต้นที่ประมาณ 2.3 ล้านบาทสำหรับรุ่นพื้นฐาน และสูงถึง 3.2 ล้านบาทสำหรับรุ่น S ไปเลือกรุ่น GTS โดยตรงเลย เนื่องจากอีกไม่นานเราก็จะไม่ได้เห็น Macan ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแล้ว ควรเลือกรุ่นที่ดีที่สุดไปเลย
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Macan GTS เป็น SUV ที่เร็วอย่างจริงจัง มันให้ความรู้สึกที่เร็วกว่าตัวเลขที่บ่งบอกมาก ต้องขอบคุณเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีและการควบคุมที่เฉียบคม
2025 Porsche Macan EV
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: ให้ความรู้สึกเหมือน Porsche ทุกประการ มันคล่องตัว ตอบสนองได้ดี และขับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพรวม: Porsche Macan EV เป็นรุ่นสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่โลกของ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง รุ่นใหม่ทั้งหมดนี้สัญญาว่าจะมอบพลวัตการขับขี่และความหรูหราที่ Porsche มีชื่อเสียง แต่มาพร้อมกับความยั่งยืนและเทคโนโลยีขั้นสูง สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Premium Platform Electric (PPE) Macan EV อวดโฉมการออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ซึ่งได้รับการปรับแต่งทั้งในด้านสมรรถนะและประสิทธิภาพ เส้นโค้งที่ราบรื่นและเส้นสายที่แกะสลักไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มระยะการขับขี่ที่น่าประทับใจถึง 507 กิโลเมตร กลุ่มผลิตภัณฑ์ Macan EV มีรุ่นย่อยที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน รุ่นพื้นฐานมีมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ขับเคลื่อนล้อหลัง สร้างกำลัง 355 แรงม้า และแรงบิด 560 นิวตันเมตร ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เพิ่มขึ้น รุ่น 4S และ Turbo เพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สองที่เพลาหน้า สร้างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมกำลังและการยึดเกาะที่มากยิ่งขึ้น รุ่น 4S มีกำลังรวม 509 แรงม้า และแรงบิด 700 นิวตันเมตร ขณะที่ Turbo ปลดปล่อยกำลังมหาศาลถึง 603 แรงม้า และแรงบิด 1000 นิวตันเมตร ด้วยการกำหนดค่าระดับท็อปนี้ Macan EV Turbo สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Macan EV สัญญาว่าจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ขับเคลื่อนและน่าดึงดูดใจ จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำต้องขอบคุณแบตเตอรี่ที่ติดตั้งบนพื้น มีส่วนช่วยให้การควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบบังคับเลี้ยวเพลาหลังที่เป็นตัวเลือกช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้ง ภายในห้องโดยสาร Macan EV มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี วัสดุพรีเมียม หน้าจอแสดงข้อมูลดิจิทัลแบบโค้ง และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่สร้างห้องนักบินที่ซับซ้อนและเน้นผู้ขับขี่ ด้วยการผสมผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และความยั่งยืน Porsche Macan EV จึงพร้อมที่จะสร้างนิยามใหม่ให้กับกลุ่ม SUV ไฟฟ้า
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Porsche Macan EV เริ่มต้นที่ประมาณ 2.7 ล้านบาทสำหรับรุ่นพื้นฐาน และสูงถึง 3.8 ล้านบาทสำหรับรุ่น Turbo รุ่น Turbo จะเป็นตัวเลือกส่วนตัวของผม แต่ราคาที่สูงถึงเกือบ 3.9 ล้านบาท ดังนั้นเราจะลงคะแนนด้วยกระเป๋าเงินของเราและเลือกรุ่น 4S ที่มี 442 แรงม้า
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและแชสซีที่สมดุลของ Macan EV ทำให้มันมีความสามารถในการควบคุมที่น่าประทับใจ
2025 Rolls-Royce Cullinan
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและเอกสิทธิ์เฉพาะ เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์
ภาพรวม: 2025 Rolls-Royce Cullinan การบุกเบิกของแบรนด์สู่โลกของ SUV สุดหรู ยังคงสร้างนิยามใหม่ให้กับความหรูหราแบบออฟโรด ยานยนต์ที่สง่างามคันนี้ ซึ่งตั้งชื่อตามเพชรที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพละกำลังที่ง่ายดายเข้ากับรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่มีผลกระทบ ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งของมันในฐานะสุดยอด SUV หรูหรา การออกแบบภายนอกของ Cullinan ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดด้วยกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ที่มีช่องอากาศเข้าแบบลาดเอียง สร้างรูปลักษณ์ที่ขับเคลื่อนและมีจุดมุ่งหมายมากขึ้น กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Rolls-Royce ตอนนี้มีไฟส่องสว่าง เพิ่มความหรูหราทันสมัย ล้อขนาด 23 นิ้วใหม่ ที่ผลิตจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ช่วยเสริมรูปลักษณ์ที่สง่างามของ Cullinan ภายในห้องโดยสาร Cullinan ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความหรูหราแบบสั่งทำพิเศษ ด้วยรายละเอียดที่ทำด้วยมือ วัสดุที่ดีที่สุด และระดับของการปรับแต่งที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่พิถีพิถันที่สุด ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงใหม่พร้อมฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง ผสานเข้ากับแผงหน้าปัดที่ทำด้วยมือของ Cullinan ได้อย่างราบรื่น ใต้ฝากระโปรง Cullinan ยังคงรักษาเครื่องยนต์ V12 ทวินเทอร์โบ 6.75 ลิตรที่ทรงพลังไว้ มอบพละกำลังที่ราบรื่นที่ขับเคลื่อน SUV สุดหรูคันนี้ได้อย่างง่ายดาย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูงช่วยให้มั่นใจได้ถึงการขับขี่ที่ราบรื่นและควบคุมได้ แม้บนภูมิประเทศที่ท้าทาย ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือออกนอกเส้นทาง 2025 Rolls-Royce Cullinan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ ซึ่งผสมผสานพละกำลังที่ง่ายดาย ความสะดวกสบายที่เงียบสงบ และความหรูหราแบบสั่งทำพิเศษ
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: 2025 Rolls-Royce Cullinan เริ่มต้นที่ประมาณ 14 ล้านบาทสำหรับรุ่นพื้นฐาน ขณะที่ Black Badge อยู่ที่ 16 ล้านบาท ปรับแต่งตัวเลือกได้เต็มที่ นี่คือ Rolls-Royce หลังจากทั้งหมด Rolls-Royce ระบุการอัปเดตเล็กน้อยสำหรับ 2025 Cullinan โดยเพิ่มคำต่อท้าย “II” เข้าไปในชื่อ แต่การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอางและเกี่ยวข้องกับอินเทอร์เฟซผู้ใช้
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: Cullinan เป็นรถสำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดความหรูหราและความสามารถ
2025 Range Rover
มุมมองผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์
ภาพรวม: Range Rover รุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นรุ่นที่ห้า เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี มันเป็นยานยนต์ที่ขับขี่ในเมืองได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อออกนอกเส้นทาง รุ่นล่าสุดนี้ เปิดตัวสำหรับรุ่นปี 2022 ยังคงรักษารูปลักษณ์คลาสสิกของ Range Rover ด้วยท่าทางที่ตั้งตรงอันเป็นเอกลักษณ์และหลังคาแบบลอยตัว แต่แนะนำภาษาการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายที่บ่งบอกถึงความซับซ้อน ภายใน Range Rover เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความประณีต วัสดุพรีเมียม เช่น หนังนุ่มนวล แผ่นไม้แท้ และโลหะที่ทำด้วยมืออย่างพิถีพิถันประดับประดาภายใน ห้องโดยสารที่กว้างขวางมอบความสะดวกสบายที่ไม่มีใครเทียบได้สำหรับผู้โดยสารทุกคน ด้วยที่นั่งหลังระดับผู้บริหารที่มีให้เลือก ซึ่งให้ฟังก์ชันการเอนและนวดแบบเครื่องบิน เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกรวมเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ที่ใช้งานง่ายพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย นอกเหนือจากการตกแต่งที่หรูหราแล้ว Range Rover ยังคงยึดมั่นในมรดกของมันในฐานะเครื่องจักรออฟโรดที่มีความสามารถอย่างยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และระบบกันสะเทือนถุงลมที่มีให้เลือก ช่วยให้มันพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย ตัวเลือกระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพ รวมถึง Mild Hybrid, Plug-in Hybrid และ V8 ที่ทรงพลัง ช่วยให้มั่นใจได้ถึงสมรรถนะที่ง่ายดายในทุกสถานการณ์ Range Rover รวบรวมสุดยอด SUV หรูหราอย่างแท้จริง มอบการผสมผสานที่ไม่เหมือนใครของความสง่างามที่ประณีตและความสามารถที่แข็งแกร่ง
ราคาและสิ่งใหม่สำหรับ 2025: ราคา 2025 Land Rover Range Rover เริ่มต้นที่ประมาณ 3.9 ล้านบาท และสูงถึง 7.5 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและตัวเลือก เราขอแนะนำรุ่น Autobiography ระดับกลาง ซึ่งเพิ่มรายการที่ผู้ซื้อรถหรูจะชื่นชอบหลายรายการ
เสียงจากผู้เชี่ยวชาญในวงการ: ระดับความสะดวกสบายสูงมาก มีตัวเลือกเครื่องยนต์และการปรับแต่งมากมาย ภายในห้องโดยสารที่ฟุ่มเฟือย
สุดยอดรถ SUV สปอร์ตใหม่ประจำปี 2025: ตัวเลือกโปรดของเรา
หลังจากได้สำรวจสุดยอด SUV สมรรถนะสูงและหรูหราในตลาดปี 2025 แล้ว ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอนำเสนอสองรุ่นที่โดดเด่นและเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในมุมมองของผม:
2025 Porsche Macan GTS: ราชาแห่ง SUV ขนาดกะทัดรัด
ทำไมจึงเป็น SUV สปอร์ตที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง? Macan GTS คือรถที่รวบรวมจิตวิญญาณ์ของ Porsche ได้อย่างแท้จริง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและประณีตไปพร้อมกัน ใต้ฝากระโปรงของ Macan GTS คือเครื่องยนต์ V6 ทวินเทอร์โบ 2.9 ลิตร ให้กำลังมหาศาล 434 แรงม้า และแรงบิด 550 นิวตันเมตร ซึ่งทำให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ทำให้หัวใจคุณเต้นระรัว
Macan GTS ควบคุมได้อย่างคล่องตัวและแม่นยำในระดับที่ท้าทายสัดส่วนของ SUV มันให้ความรู้สึกเบาและพร้อมเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว ยึดเกาะถนนได้อย่างน่าทึ่งในโค้ง ระบบช่วงล่างแบบสปอร์ต ระบบช่วงล่างถุงลมที่เป็นตัวเลือก และพวงมาลัยที่แม่นยำ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ชวนให้นึกถึงรถ Hatchback สมรรถนะสูง ไม่ใช่ SUV ที่ยกสูง อย่างที่ Edmunds กล่าวไว้ว่า “Macan GTS ควบคุมได้เหมือนรถสปอร์ต ด้วยพวงมาลัยที่แม่นยำ การโยนตัวของตัวถังน้อยที่สุด และแชสซีที่สนุกสนาน” Car and Driver ยังกล่าวอีกว่า “เบาะนั่งสปอร์ตของ GTS รองรับสรีระและสะดวกสบาย แม้ในขณะขับขี่ที่เร้าใจ”
โดยรวมแล้ว Macan GTS คือแพ็คเกจที่ครบเครื่องที่มอบการผสมผสานที่น่าสนใจของสมรรถนะ ความหรูหรา และการใช้งานจริง
2025 Audi SQ7: SUV ครบเครื่องที่ยอดเยี่ยม หรูหรา รวดเร็ว มีสไตล์
ทำไมจึงเป็น SUV สปอร์ตที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่ง? Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา การใช้งานจริง และสมรรถนะที่เร้าใจเข้าไว้ด้วยกันในแพ็คเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวาง เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 770 นิวตันเมตร ได้รับการยกย่องว่า “มีพลังระเบิด” และ “เสียงอันเร้าใจ” นักวิจารณ์อย่าง Edmunds และ Top Gear ชื่นชม “อัตราเร่งที่รุนแรง” และ “สมรรถนะที่ง่ายดาย”
แม้จะเน้นสมรรถนะ แต่ SQ7 ก็ยังให้ “การควบคุมที่มั่นคง” และ “คุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย”
Car and Driver กล่าวว่า: “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะอันยิ่งใหญ่และการใช้งานจริงของ SUV เข้าไว้ด้วยกันในแพ็คเกจที่ครบครันและเหมาะสำหรับครอบครัว”
Motor Trend กล่าวว่า: “SQ7 เป็น SUV สมรรถนะสูงที่ครบเครื่อง มอบความสะดวกสบายและกำลัง แต่ไม่ได้ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจที่สุด”
ในมุมมองของผม SQ7 คือตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัวที่ต้องการความหรูหรา ความกว้างขวาง และสมรรถนะที่ทำให้การเดินทางสนุกสนาน ไม่ใช่แค่การเดินทาง
ก้าวสู่ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่ากับเรา
โลกของ SUV สมรรถนะสูงและหรูหราในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B อีกต่อไป แต่เป็นการเดินทางแห่งประสบการณ์ที่เร้าใจ ความสะดวกสบายที่เหนือระดับ และการประกาศถึงรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร รถยนต์เหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความปรารถนาของคุณ ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่น่าทึ่ง ความหรูหราอันประณีต หรือความสามารถในการพิชิตทุกเส้นทางที่ท้าทาย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอเชิญชวนให้คุณมาสัมผัสและสำรวจตัวเลือกเหล่านี้ด้วยตัวคุณเอง
หากคุณพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกของสุดยอด SUV ที่จะเปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับไลฟ์สไตล์ของคุณ อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมที่จะให้ข้อมูลเชิงลึกและคำปรึกษา เพื่อช่วยให้คุณค้นพบรถ SUV ในฝันของคุณวันนี้!
พลิกโฉมประสบการณ์ขับขี่: สุดยอด SUV หรูและสมรรถนะสูงแห่งปี 2025 ที่คุณไม่ควรมองข้าม
ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการยานยนต์มากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของตลาดรถยนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซกเมนต์ SUV ที่วันนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่รถยนต์อเนกประสงค์สำหรับครอบครัวอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นเวทีประลองของเทคโนโลยี วิศวกรรม และความหรูหรา ที่ผสานสมรรถนะอันเร้าใจเข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว นี่คือยุคทองของ “Enthusiast SUV” หรือรถ SUV ที่สร้างมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลการขับขี่โดยเฉพาะ
สำหรับปี 2025 ตลาด SUV หรูและสมรรถนะสูงยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง พร้อมนำเสนอทางเลือกที่หลากหลาย ตั้งแต่รถที่พร้อมจะตะลุยสนามแข่ง ไปจนถึงยานพาหนะสุดหรูที่เร่งแซงได้อย่างไร้ที่ติ และยังมีนักรบออฟโรดที่มาพร้อมความดุดันไม่แพ้รถสปอร์ต บทความนี้จะพาทุกท่านดำดิ่งสู่โลกของ SUV ประสิทธิภาพสูง พร้อมเจาะลึกทุกรายละเอียดที่คุณต้องรู้ เพื่อค้นหารถในฝันที่ตอบสนอง “ความต้องการความเร็ว” และ “ความหรูหรา” ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ เราจะมาดูกันว่ารถ SUV ยอดนิยมรุ่นใหม่ล่าสุดในปี 2025 มีอะไรน่าสนใจและคู่ควรกับการเป็นเจ้าของบ้าง
แนวโน้มตลาด SUV สมรรถนะสูงและหรูหราปี 2025: การผสมผสานที่ลงตัว
ในช่วงสองถึงสามทศวรรษที่ผ่านมา รถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักในโลกยานยนต์อย่างแท้จริง ตอบสนองความต้องการของครอบครัวสมัยใหม่และสังคมโดยรวม SUV ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและสะท้อนภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน แม้ว่า SUV จะยังคงเป็นที่รู้จักในด้านประโยชน์ใช้สอย แต่ภาพลักษณ์ของ “รถแม่บ้าน” ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก เมื่อ SUV และฐานลูกค้าได้พัฒนาขึ้น ความต้องการรถยนต์สมรรถนะสูงจึงเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
สิ่งนี้กระตุ้นให้แบรนด์หรูและสมรรถนะสูงระดับโลกหันมาให้ความสนใจและตอบสนองความต้องการรถ SUV ที่เร็วขึ้น ดีขึ้น และเซ็กซี่ขึ้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ทุกรายตระหนักดีว่าความสำเร็จในตลาดนี้ไม่เคยสร้างผลกำไรได้มากเท่านี้มาก่อน แม้แต่แบรนด์เฉพาะทางและสุดยอดรถยนต์อย่าง Lamborghini และ Ferrari ก็ยังต้องการเข้ามาช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดนี้เช่นกัน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดขาย SUV กลายเป็นแหล่งรายได้หลักของหลายบริษัท ซึ่งแม้แต่ผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตตัวยงก็ไม่ควรมองข้ามข้อเท็จจริงนี้ เพราะผลกำไรมหาศาลนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการที่บริษัทเหล่านี้จะสามารถลงทุนในการพัฒนารถสปอร์ตอันโด่งดังต่อไปได้ และกระบวนการนี้จะวนเวียนไปเรื่อยๆ เมื่อเทคโนโลยีซูเปอร์คาร์และรถยนต์สมรรถนะสูงได้ถูกนำมาใช้กับรถ SUV ขยายตลาดเป้าหมายให้กว้างขึ้นกว่าเดิม สิ่งนี้ช่วยกระตุ้นยอดขายและทำให้วงล้อแห่งนวัตกรรมหมุนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นรถ SUV สุดยอดเยี่ยมมากมายในช่วงที่ผ่านมา และยังมีอีกหลายรุ่นที่กำลังจะตามมาในอนาคตอันใกล้
ในบทความนี้ ผมได้รวบรวมรายชื่อ SUV หรูและสมรรถนะสูงที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในปี 2025 โดยเน้นไปที่ความสปอร์ตเป็นหลัก เราจะไม่เน้น SUV ที่เน้นประโยชน์ใช้สอยหรือความหรูหราเพียงอย่างเดียวมากนัก แต่จะพาคุณไปสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริงของ SUV ที่มาพร้อมหัวใจนักแข่ง
มีอะไรใหม่สำหรับปี 2025?
สำหรับปี 2025 นี้ ไม่ได้มี “ผู้เล่นหน้าใหม่” ที่น่าตื่นเต้นมากนักในตลาด SUV หรูสมรรถนะสูง ส่วนใหญ่เป็นรุ่นที่มีการปรับปรุงเล็กน้อยจากรุ่นปีที่แล้ว เพื่อคงความสดใหม่และเสริมประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น แต่ถึงกระนั้น แต่ละรุ่นก็ยังคงรักษาเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวไว้ได้อย่างเต็มเปี่ยม
เจาะลึก SUV หรูและสมรรถนะสูงยอดนิยมประจำปี 2025
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมจะขอพาทุกท่านไปสำรวจตัวเลือก SUV ที่น่าสนใจที่สุดในปี 2025 พร้อมบทวิเคราะห์เชิงลึกและคำแนะนำจากประสบการณ์จริง:
2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือ SUV ที่ให้ความรู้สึกในการขับขี่สนุกที่สุดในตลาด ณ เวลานี้ ด้วยจิตวิญญาณอิตาเลียนแท้ๆ
ภาพรวม: Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio ฉีดความเร่าร้อนและจิตวิญญาณแบบอิตาเลียนลงในตลาด SUV ที่มักถูกครอบงำด้วยความสมเหตุสมผลแบบเยอรมัน จุดเด่นอยู่ที่เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตรที่พัฒนาโดย Ferrari ให้กำลัง 505 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที เสียงท่อไอเสียที่ดุดันจะกระตุ้นอะดรีนาลีนให้พลุ่งพล่านทุกครั้งที่ขับขี่ แต่ Stelvio Quadrifoglio ไม่ได้มีดีแค่ความเร็วทางตรง แชสซีที่ปรับแต่งอย่างประณีต ระบบบังคับเลี้ยวที่ตอบสนองฉับไว และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่เน้นสมรรถนะ มอบการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและความคล่องตัวที่น่าทึ่ง ทำให้การขับขี่บนถนนคดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุก เบรก Brembo ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ช่วยให้คุณควบคุมพลังทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ การออกแบบภายนอกผสมผสานความสง่างามและความดุดัน ด้วยการเสริมแต่งอากาศพลศาสตร์เล็กน้อยและปลายท่อไอเสียสี่ท่อที่บ่งบอกถึงพลังภายใน ห้องโดยสารของ Stelvio Quadrifoglio ให้ความรู้สึกสปอร์ตแต่หรูหรา เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับสรีระ พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแพดเดิลชิฟต์ขนาดใหญ่ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก แม้ภายในอาจไม่ล้ำสมัยเท่าคู่แข่งบางราย แต่ก็ให้ความสำคัญกับประสบการณ์การขับขี่เหนือสิ่งอื่นใด ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่เร้าใจ สไตล์อิตาเลียน และการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทำให้ Stelvio Quadrifoglio เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นและน่าสนใจในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Alfa Romeo Stelvio Quadrifoglio มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 94,965 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.5 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และสูงสุดที่ 96,625 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น 100th Anniversario ซึ่งเป็นการปรับแต่งสไตล์ ผมแนะนำให้เลือกรุ่นพื้นฐานพร้อมแพ็กเกจคาร์บอนที่เสริมกระจกมองข้างและกระจังหน้าทรง V ให้ดูดุดันยิ่งขึ้น
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Stelvio Quadrifoglio ขับสนุกสุดเหวี่ยง เป็น SUV สมรรถนะสูงที่แท้จริง ซึ่งสามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวราวกับรถสปอร์ต แต่ยังคงใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน เครื่องยนต์เป็นผลงานชิ้นเอก มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและเสียงเครื่องยนต์ที่จะทำให้คุณอยากหาข้ออ้างในการขับขี่อยู่เสมอ” – Car and Driver
2025 Aston Martin DBX
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ไม่เหมือนใคร หรูหรา และน่าตื่นเต้น เป็น SUV ที่มีสมรรถนะที่แข็งแกร่งและสไตล์ที่แตกต่าง
ภาพรวม: DBX สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมด ออกแบบมาเพื่อส่งมอบความหรูหราในสไตล์ Aston Martin แท้ๆ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อความปลอดภัย นั่งสบาย หรูหราอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ และจะทำให้คุณตื่นเต้นตั้งแต่วินาทีแรกที่นั่งหลังพวงมาลัย ด้วยโครงสร้างอะลูมิเนียมน้ำหนักเบาและวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ DBX จึงขับขี่ไม่เหมือน SUV คันใดในโลก รถคันหรูคันนี้ขับได้เหมือนรถสปอร์ต สำหรับปี 2025 Aston Martin DBX กลับมาในฐานะ SUV เรือธงของแบรนด์ เป็นยานพาหนะสุดหรูและสมรรถนะสูงที่ผสมผสานพลวัตการขับขี่อันน่าตื่นเต้นเข้ากับงานฝีมืออันประณีตและเทคโนโลยีล้ำสมัย สำหรับปี 2025 Aston Martin ได้ทำการอัปเดตครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุงภายในและการปรับปรุงไลน์อัพ การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการยกเลิกรุ่น DBX มาตรฐาน เหลือเพียงรุ่น DBX707 สมรรถนะสูง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Aston Martin ในการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงในกลุ่ม SUV ของตน ใต้ฝากระโปรง DBX707 มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตรที่ประกอบด้วยมือจาก Mercedes-AMG แต่ปรับแต่งให้ส่งกำลัง 697 แรงม้า และแรงบิด 663 ปอนด์-ฟุต เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีดพร้อมคลัตช์เปียกแทนทอร์กคอนเวอร์เตอร์แบบเดิม ทำให้เปลี่ยนเกียร์ได้รวดเร็วปานสายฟ้า และมีส่วนช่วยให้ DBX707 มีสมรรถนะที่น่าประทับใจ สามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด DBX707 ยังมาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมเฟืองท้ายหลังแบบลิมิเต็ดสลิปอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้มั่นใจถึงการยึดเกาะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยมในทุกสภาพการขับขี่ ระบบอินโฟเทนเมนต์ใหม่นำเสนออินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายขึ้นและฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุง รวมถึง Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ภายในสร้างขึ้นด้วยวัสดุที่ดีที่สุด รวมถึงหนังอ่อนนุ่ม การเย็บด้วยมือ และการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต Aston Martin ได้ปรับปรุงไลน์อัพ DBX สำหรับปี 2025 โดยนำเสนอเฉพาะ DBX707 สมรรถนะสูง สำหรับปี 2025 SUV 697 แรงม้าคันนี้ มาพร้อมภายในที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และพวงมาลัยใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้วใหม่ทำงานด้วยซอฟต์แวร์อินโฟเทนเมนต์ล่าสุดของ Aston Martin และทุกรุ่นมาพร้อมระบบสเตอริโอ 14 ลำโพงเป็นมาตรฐาน (พร้อมระบบ Bowers & Wilkins 23 ลำโพงเป็นอุปกรณ์เสริม)
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Aston Martin DBX มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 253,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) หากคุณเลือก DBX707 ก็จะขยับขึ้นไปที่ 256,086 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับ Aston Martin คุณสามารถปรับแต่งตัวเลือกได้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านบริการ Q customization ของ Aston Martin
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “มันเป็นเรื่องยาก… DBX มอบบางสิ่งที่แตกต่างออกไป… มันดูน่าสนใจ วิ่งได้ดีมาก และตอบโจทย์ทุกอย่าง… รุ่น 707 น่าสนใจจริงๆ ใช่ มันเร็วกว่าและดุดันกว่าเมื่อผลักดัน แต่เมื่อคุณผ่อนคันเร่ง มันก็ยังคงสบายและขับง่ายไม่ต่างจากรถปกติ” – Top Gear
2025 Audi SQ5
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ขับสบายและเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสมดุล
ภาพรวม: Audi SQ5 รุ่นก่อนหน้าทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2018 และแทบไม่เปลี่ยนแปลงในปี 2024 แต่สำหรับปี 2025 เราจะได้สัมผัสกับ SQ5 ใหม่หมดจด 2025 Audi SQ5 คือ SUV คอมแพคต์หรูหราที่ผสานสมรรถนะ เทคโนโลยี และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว มาพร้อมการออกแบบที่สดใหม่ ภายนอกของ SQ5 โฉบเฉี่ยวขึ้นด้วยไฟหน้า Matrix LED ใหม่ กระจังหน้าที่ปรับปรุงใหม่ และกันชนหน้า-หลังที่ได้รับการอัปเดต ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จ 3.0 ลิตร ให้กำลัง 349 แรงม้า และแรงบิด 369 ปอนด์-ฟุต มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและประสบการณ์การขับขี่แบบสปอร์ต ภายในห้องโดยสาร SQ5 มอบสภาพแวดล้อมระดับพรีเมียมด้วยวัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้วพร้อมอินเทอร์เฟซ MMI touch ของ Audi ครองคอนโซลกลาง ขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้วให้ข้อมูลที่ปรับแต่งได้แก่ผู้ขับขี่ SQ5 ยังมาพร้อมชุดคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่เป็นมาตรฐาน เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบตรวจสอบจุดบอด สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิกยิ่งขึ้น SQ5 มีแพ็กเกจ Sport เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งรวมถึงแดมเปอร์แบบปรับได้ ช่วงล่างแบบสปอร์ต และเฟืองท้ายหลังแบบสปอร์ต ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ ความหรูหรา และเทคโนโลยี 2025 Audi SQ5 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการ SUV คอมแพคต์ระดับพรีเมียมที่สามารถรับมือได้ทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ที่ดุดัน ด้วย SQ5 ใหม่ที่เตรียมเปิดตัวในปี 2025 Audi ได้ดำเนินการที่ไม่ปกติโดยยังคงขาย SQ5 ปัจจุบันควบคู่กันไป SQ5 รุ่นใหม่มีการออกแบบใหม่ทั้งหมดทั้งภายในและภายนอก และเครื่องยนต์ 3.0 ลิตรเทอร์โบ V-6 เพิ่มกำลังเป็น 362 แรงม้า ซึ่งมากกว่า SQ5 รุ่นเดิม 13 แรงม้า และมากกว่าเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบสี่สูบของ Q5 ใหม่ถึง 94 แรงม้า อย่างไรก็ตาม SQ5 สปอร์ตยังคงใช้การอัปเดตปี 2025 ของ Q5 ใหม่ รวมถึงการออกแบบภายนอกและภายในที่สดใหม่ โดยเน้นการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับจุดสัมผัสความหรูหราแบบ Audi ดั้งเดิม รวมถึงตัวเลือกเบาะและวัสดุตกแต่งที่หลากหลาย
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Audi SQ5 (รุ่นใหม่) เริ่มต้นที่ประมาณ 59,695 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.2 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ซึ่งสูงกว่ารุ่นปี 2024 เล็กน้อย รุ่น Premium Plus เป็นการผสมผสานที่ดีที่สุดระหว่างราคาและตัวเลือกมาโดยตลอด และยังคงเป็นเช่นนั้นในปี 2025
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “SQ5 เป็น SUV สมรรถนะสูงที่ครบเครื่อง ให้ทั้งความสะดวกสบายและพละกำลัง แต่ก็ไม่ได้มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจที่สุด” – Motor Trend
2025 Audi SQ7
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่
ภาพรวม: 2025 Audi SQ7 คือ SUV หรูหราที่ผสานสมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอย และสไตล์เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรง คุณจะพบเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร อันทรงพลัง ที่ให้กำลัง 500 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่งที่เร้าใจ โดยใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที ในการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Quattro อันเป็นเอกลักษณ์ของ Audi ทำให้ SQ7 มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก ซึ่งเหมาะสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขับขี่ในวันหยุดสุดสัปดาห์ นอกเหนือจากความสามารถด้านสมรรถนะแล้ว SQ7 ยังมีภายในที่ประณีตและกว้างขวาง ด้วยเบาะนั่งสามแถว สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดเจ็ดคน ห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันด้วยวัสดุระดับพรีเมียม และมาพร้อมเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบเสียง Bang & Olufsen 3D SQ7 ยังให้ความสำคัญกับความปลอดภัยด้วยคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบเตือนการออกนอกเลน และระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ในด้านรูปลักษณ์ SQ7 โดดเด่นจาก Q7 มาตรฐานด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่สปอร์ต ซึ่งรวมถึงกันชนหน้าแบบปรับปรุงใหม่พร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น การออกแบบกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกการออกแบบล้อที่โดดเด่น ด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลัง ภายในที่หรูหรา และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 Audi SQ7 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา Audi ได้เผยโฉม Q7 และ SQ7 ที่ปรับปรุงใหม่สำหรับรุ่นปี 2025 โดยได้รับการออกแบบด้านหน้าและด้านหลังใหม่ พร้อมกระจังหน้าที่ปรับรูปร่างใหม่ ไฟหน้าที่ติดตั้งสูงขึ้น และไฟวิ่งกลางวันใหม่ สปอยเลอร์หน้าใหม่และช่องดักอากาศที่มีกรอบสี ในขณะที่ด้านหลังได้รับการออกแบบดิฟฟิวเซอร์ใหม่และไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ตัวเลือกสีภายนอกตอนนี้รวมถึง Sakhir Gold, Ascari Blue และ Chili Red และตัวเลือกการตกแต่งภายในด้วยเบาะและไม้/โลหะใหม่ นอกจากนี้ยังมีการออกแบบล้อใหม่และการอัปเกรดอินโฟเทนเมนต์รวมถึงการรวมแอปพลิเคชันใหม่
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Audi SQ7 ที่อัปเดตใหม่ยังไม่มีการกำหนดราคาอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่าจะเริ่มต้นที่ประมาณ 93,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และสูงสุดที่ 98,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย เนื่องจากความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างรุ่น Premium Plus และ Prestige จึงสมเหตุสมผลที่จะเลือกรุ่น Prestige ซึ่งเพิ่มจอ Head-up Display ประตูระบบ Soft-close และแพ็กเกจ Executive (กระจกข้างแบบสองชั้น เบาะหลังอุ่น เบาะหน้าระบายอากาศ และอื่นๆ)
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและการใช้งานได้จริงของ SUV เข้าไว้ด้วยกันในแพ็กเกจที่ตกแต่งอย่างดีและอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัว” – Car and Driver
2025 Audi SQ8
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: สวยงามโดดเด่น เป็นตัวเลือกที่มั่นคงและปลอดภัย
ภาพรวม: Audi SQ8 ห้าที่นั่ง ผสมผสานการออกแบบสไตล์คูเป้ที่เพรียวบางเข้ากับความอเนกประสงค์ของ SUV ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V-6 เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 500 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อทั้งสี่ผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน และคู่แข่ง ได้แก่ BMW X6 และ Land Rover Range Rover Velar มีสมรรถนะใกล้เคียงกับ RSQ8 แต่ราคาถูกกว่ามาก ทำให้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูงของ Audi เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร เช่นเดียวกับ SQ7 ยังคงได้รับการยกย่องว่า “มีพละกำลังมหาศาล” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” Car and Driver ตั้งข้อสังเกตว่ากำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต ให้ “อัตราเร่งที่รุนแรง” ในขณะที่ Top Gear ชื่นชม “สมรรถนะที่ง่ายดาย” นักวิจารณ์พบว่าห้องโดยสาร “สบายและเงียบสงบ” ด้วย “วัสดุคุณภาพสูง” และ “ความรู้สึกที่หรูหรา” Kelley Blue Book กล่าวถึง “เบาะนั่งที่รองรับสรีระ” และ “พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง” ในขณะที่ Auto Express เน้นย้ำถึงคุณสมบัติ “ที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี” สำหรับปี 2025 Audi SQ8 มาพร้อมไฟภายใน LED และระบบจดจำป้ายจราจรเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย รุ่น Prestige เพิ่มเบาะหน้าพร้อมฟังก์ชันนวดพร้อมหน่วยความจำเป็นมาตรฐาน นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจใหม่สองแพ็กเกจให้เลือก: แพ็กเกจ Carbon เพิ่มการตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ที่เรือนกระจกมองข้าง ช่องประตูด้านใน และฝาครอบไฟท้าย ในขณะที่แพ็กเกจ Audi Sport นำการเย็บสีแดงมาสู่เบาะนั่ง คอนโซลกลาง และที่พักแขนประตู พร้อมเข็มขัดนิรภัยสีแดงที่โดดเด่น
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Audi SQ8 มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 98,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และสูงสุดที่ 106,195 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.9 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก เช่นเดียวกับรถยนต์ Audi รุ่นอื่นๆ การเลือกรุ่น Prestige ที่แพงกว่านั้นคุ้มค่า เนื่องจากราคาไม่แพงมากนักและมีอุปกรณ์พิเศษที่น่าสนใจหลายอย่างมาให้ ซึ่งมาพร้อมฟังก์ชันช่วยเหลือผู้ขับขี่และฟังก์ชันหรูหรามากมาย เช่น ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ จอ Head-up Display ประตูแบบ Soft-close เบาะหลังอุ่น และม่านกันแดดหลังแบบไฟฟ้า
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “SQ8 เป็นรถที่มีสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นพร้อมภายในที่หรูหรา แต่ราคาที่สูงและเครื่องยนต์ที่กินน้ำมันทำให้มันไม่เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับคนส่วนใหญ่” – Car and Driver
2025 Audi RS Q8
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือ Lamborghini Urus ที่เซ็กซี่กว่า ในราคาที่ถูกกว่ามาก
ภาพรวม: Audi RS Q8 เป็น Q8 SUV ที่เร็วที่สุด และเป็น SUV ที่ติดป้าย RS เพียงรุ่นเดียวในตลาดอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในสนาม Nordschleife ด้วย หมายความว่ามันค่อนข้างคล่องตัวสำหรับ SUV ที่คุณสามารถขับลูกๆ ไปโรงเรียนได้ RS Q8 มาพร้อมป้ายราคาหกหลัก แต่สมรรถนะ สไตล์ และคุณสมบัติของมันคุ้มค่ากับการลงทุน หากคุณให้ความสำคัญกับ SUV ที่เร้าร้อนเป็นพิเศษ แน่นอนว่า RS Q8 ทุกรุ่นมาพร้อมระบบช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้เป็นมาตรฐาน ล้อขนาด 22 นิ้ว เบาะหน้าอุ่น-เย็น และระบบสเตอริโอ Bang & Olufsen 17 ลำโพง เราจะเลือกรุ่น Performance ระดับสูงสุด เพื่อปลดปล่อยกำลัง 631 แรงม้าที่สูงกว่า เมื่อคุณใช้จ่ายเงินจำนวนนี้ ทำไมไม่ไปให้สุด? RS Q8 ได้รับการปรับปรุงสไตล์สำหรับปี 2025 เพื่อให้สอดคล้องกับรุ่น Q8 และ SQ8 ซึ่งได้รับการปรับโฉมเมื่อปีที่แล้ว แต่สิ่งพิเศษที่แท้จริงคือรุ่น Performance ใหม่ 631 แรงม้า รุ่น Performance ไม่เพียงแต่ให้แรงม้าเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมเฟืองท้ายกลางแบบล็อคตัวเอง ระบบท่อไอเสียที่ปรับแต่งเป็นพิเศษ และช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยให้ RS Q8 มีเสถียรภาพในการเข้าโค้ง
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Audi RS Q8 มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 145,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) นี่ไม่ใช่ SUV ราคาถูก แต่ถ้าคุณมองว่ามันเป็น Lamborghini Urus ที่มีราคาไม่ถึงครึ่ง มันก็เริ่มสมเหตุสมผลแล้ว คุณสามารถเพิ่มตัวเลือกให้กับ RS Q8 ได้ แต่แม้ในรูปแบบพื้นฐาน มันก็เป็นรถที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “ดูดีกว่า Lambo Urus, สมรรถนะและการควบคุมที่ยอดเยี่ยม, แพงมาก… เหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการซูเปอร์คาร์และ SUV ในคันเดียว” – Top Gear
2025 Bentley Bentayga
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ความประณีตที่คุณคาดหวัง พร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้น เป็น SUV ที่ดีที่สุดในตอนนี้
ภาพรวม: เครื่องยนต์ V8 ล้ำสมัยให้กำลังเกือบ 550 แรงม้า ในขณะที่แรงบิดสูงส่งผลให้อัตราเร่งเกือบจะทันทีทันใด ดึงตัวไปข้างหน้าอย่างกับรถไฟในความสะดวกสบายสูงสุดและความหรูหราระดับเฟิร์สคลาส Bentayga V8 ควบคุมได้ดีเยี่ยมและคล่องตัวเกินกว่าที่คุณจะคาดคิด Bentley ได้นำเสนอ Bentayga ในรูปแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้เครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตร 335 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 162 แรงม้า จับคู่กับแบตเตอรี่ Li-ion ขนาด 17.3 kWh ด้วยรุ่นนี้ Bentley ยอมสละกำลังและความเร็วเพื่อประหยัดน้ำมัน แต่ด้วยกำลัง 443 แรงม้า Bentayga Hybrid ก็ไม่ได้ช้าแต่อย่างใด Bentley ยังคงไม่ลดทอนความหรูหรา ดังนั้น 2024 Bentayga Hybrid จึงยังคงมอบประสบการณ์ที่หรูหราเช่นเดิม สำหรับรุ่นย่อย มี Bentayga A ซึ่งให้กำลังและสมรรถนะเท่ากับรุ่น BV8 มาตรฐาน แต่คุณจะได้ล้อขนาด 21 นิ้ว ความหรูหราภายในเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มุ่งเน้นการขับขี่ทางไกล Bentayga S เป็นรุ่นที่เน้นความสปอร์ตมากขึ้นของรุ่น V8 โดยมีการอัปเกรดรูปลักษณ์ภายนอกเหนือจากรถพื้นฐาน รวมถึงการตกแต่ง Blackline เป็นมาตรฐานและกันชน Bentayga Speed รวมถึงล้อ 22 นิ้วห้าก้านแบบพิเศษเป็นมาตรฐาน Bentayga Azure มีการกำหนดค่าภายในที่หลากหลายและยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ทุกอย่างที่ Bentley สร้างสรรค์มาสำหรับ SUV ของตน สำหรับปี 2024 Bentayga มีตัวเลือก Hybrid ในทุกระดับรุ่นย่อย และเครื่องยนต์ W12 ไม่มีให้เลือกสำหรับรุ่นนี้อีกต่อไป ส่วนรุ่นอื่นๆ ได้รับการอัปเดตพื้นฐานจากการออกแบบ โดยรวมแล้ว สำหรับปี 2025 ก็ยังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Bentley Bentayga เริ่มต้นที่ 205,925 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น V8 หรือ Hybrid พื้นฐาน และสูงสุดถึง 249,125 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 9.2 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น Azure V8 และนั่นยังไม่รวมตัวเลือกเพิ่มเติม ผมขอแนะนำให้เลือกรุ่น Bentayga S มีเครื่องยนต์ V8 เดียวกัน แต่ปรับแต่งเพื่อการควบคุมที่เฉียบคมและอัตราเร่งที่รวดเร็วกว่า มอบพลวัตการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ลดทอนความสะดวกสบายและความหรูหรา ได้รับองค์ประกอบภายนอกสีดำสนิท ล้ออัลลอยด์ขนาดใหญ่ขึ้น และกันชนหน้าที่ดุดันกว่า มีโหมดสปอร์ตที่ดีขึ้น เบรกที่ดีขึ้น และคาร์บอนไฟเบอร์เป็นอุปกรณ์เสริม
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Bentayga ใหม่เป็นการพัฒนาที่ละเอียดอ่อน แต่ชัดเจนว่า Bentley ได้รับฟังความคิดเห็นและทำการปรับปรุงที่สำคัญบางอย่าง” – Autocar
2025 Bentley Bentayga EWB
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV สำหรับครอบครัวที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น พร้อมพื้นที่เพิ่มเติมและความหรูหราไม่ต่างกัน
ภาพรวม: Bentley Bentayga EWB เป็นรุ่น Extended Wheel Base ของ SUV สุดหรู เปลี่ยนให้เป็นรถลิมูซีนขนาดใหญ่ รถคันนี้มีระยะฐานล้อยาวขึ้น 180 มม. ซึ่งทำให้เบาะหลังมีพื้นที่วางขาที่กว้างขวางมาก สามารถเลือกเบาะเอนได้สองที่นั่งแยกกันที่ด้านหลัง หรือรุ่นสามที่นั่งที่ไม่สามารถเอนได้ แต่ก็ยังคงเพลิดเพลินกับพื้นที่วางขาที่เพิ่มขึ้น นอกจากห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้นแล้ว EWB ยังมาพร้อมล้อขนาด 21 นิ้วเป็นมาตรฐานแม้ในรุ่นพื้นฐาน และยังคงมีสมรรถนะเท่ากับ Bentayga พื้นฐาน โดยไม่สูญเสียเวลา 0-100 กม./ชม. หรือความเร็วสูงสุด นอกจากนี้ยังได้รับรุ่น Mulliner (ภาพด้านบน) พร้อมการตกแต่งสีสามสีที่พิเศษที่สุด มีให้เลือกแปดแบบสี สำหรับปี 2025 Bentayga ยังคงมีรุ่น Mulliner ระดับสูงสุด รุ่นนี้มีการออกแบบภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถระบุสีภายในได้เกือบ 4,000 แบบ Mulliner มีให้เลือกเฉพาะ Bentayga รุ่นฐานล้อยาวและเครื่องยนต์ V8 เท่านั้น
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Bentley Bentayga EWB เริ่มต้นที่ 236,850 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น V8 พื้นฐาน และสูงสุดถึง 339,150 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 12.5 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับ EWB Mulliner รุ่นฐานล้อยาวที่ให้พื้นที่วางขาและความสะดวกสบายแก่ผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้น คือตัวเลือกที่ผมแนะนำ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “ยังคงต้องรอดูว่า Mulliner EWB มอบการปรับแต่งที่เพียงพอเมื่อเทียบกับรุ่น Mulliner แบบ Standalone หรือไม่” – Evo
2025 BMW X3 M
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่แสวงหาความตื่นเต้น พร้อมประโยชน์ใช้สอยที่ดีสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
ภาพรวม: BMW X3 M เป็น SUV คอมแพคต์สมรรถนะสูงที่ผสานการใช้งานจริงเข้ากับพลวัตการขับขี่อันน่าตื่นเต้นได้อย่างลงตัว ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ให้กำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 442 ปอนด์-ฟุต กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ของ BMW ทำให้ X3 M สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที นอกเหนือจากความเร็วทางตรงที่น่าประทับใจแล้ว X3 M ยังโดดเด่นในการควบคุมและความคล่องตัว ช่วงล่างแบบสปอร์ต แดมเปอร์แบบปรับได้ และการปรับแต่ง M-specific เปลี่ยน SUV คันนี้ให้กลายเป็นเครื่องยนต์ที่เข้าโค้งได้อย่างเฉียบคม ระบบบังคับเลี้ยวแม่นยำและตอบสนองได้ดี ให้การตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ขับขี่ เบรกขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ แม้ในขณะขับขี่อย่างดุดัน การออกแบบภายนอกของ X3 M สะท้อนถึงความสามารถด้านสมรรถนะ ด้วยสไตล์ที่ดุดัน เช่น ช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น การออกแบบกระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ ปลายท่อไอเสียสี่ท่อ และตัวเลือกการออกแบบล้อที่โดดเด่น ภายในห้องโดยสาร X3 M มอบการผสมผสานระหว่างความหรูหราและความสปอร์ต เบาะนั่งสปอร์ตที่รองรับสรีระ พวงมาลัยขอบหนา และจอแสดงผล M-specific สร้างสภาพแวดล้อมที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ห้องโดยสารยังใช้วัสดุคุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ตามสไตล์ของ BMW X3 M ได้รับการปรับราคาขึ้นสำหรับรุ่นปี 2025 และไม่แตกต่างจากรุ่นปี 2024 มากนัก
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 BMW X3 M มีราคาเริ่มต้นที่ 76,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และเพิ่มขึ้นเป็น 83,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.1 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) หากคุณเลือกรุ่น Competition รุ่น Competition นอกจากจะเพิ่มกำลังและอุปกรณ์ที่ได้รับการอัปเกรดแล้ว ยังมาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงาและฝาครอบกระจกมองข้างที่ดูดุดัน รวมถึงท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมเป็นมาตรฐาน เพิ่มเติมด้วยล้อขนาด 21 นิ้วสีดำเป็นมาตรฐาน (เทียบกับ 20 นิ้วในรุ่น M ทั่วไป) และภายในหนัง Merino ที่ได้รับการอัปเกรด ทำให้เข้าใจได้ง่ายว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นตัวเลือกที่ผมแนะนำ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “X3 M เร็วมาก มันพุ่งออกจากโค้งและควบคุมได้อย่างสวยงาม” – Car and Driver
2025 BMW X4 M
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: พละกำลังมหาศาล อัตราเร่งที่รวดเร็ว การควบคุมที่เชี่ยวชาญ
ภาพรวม: BMW X4 M นำประโยชน์ใช้สอยและสมรรถนะของ X3 M มาห่อหุ้มในแพ็กเกจที่ดูมีสไตล์ยิ่งขึ้นคล้ายคูเป้ Sports Activity Coupe คันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ที่ดุดันเช่นเดียวกัน ให้กำลัง 473 แรงม้า และแรงบิด 442 ปอนด์-ฟุต จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive ทำให้ X4 M เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.9 วินาที มอบอัตราเร่งที่เร้าใจและการยึดเกาะถนนที่มั่นใจได้ แต่ X4 M ไม่ได้เป็นเพียงแค่ขีปนาวุธทางตรงเท่านั้น ช่วงล่างแบบสปอร์ต แดมเปอร์แบบปรับได้ และระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ ทำให้การขับขี่เข้าโค้งเป็นเรื่องสนุก X4 M แสดงให้เห็นถึงความคล่องตัวที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ด้วยแชสซีที่ตอบสนองได้ดีซึ่งกระตุ้นการขับขี่ที่ดุดัน องค์ประกอบการออกแบบที่โดดเด่น เช่น หลังคาลาดเอียง ท้ายรถที่ดูมีมิติ และกันชนหน้าที่ดุดัน ทำให้แตกต่างจาก X3 M ที่ดูเป็นแบบดั้งเดิมมากกว่า ภายใน X4 M นำเสนอสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก เบาะนั่งสปอร์ตให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่ดุดัน ในขณะที่พวงมาลัยขอบหนาและจอแสดงผล M-specific ช่วยเพิ่มประสบการณ์การขับขี่ ห้องโดยสารยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี รวมถึงระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว และแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะ สไตล์ และประโยชน์ใช้สอย BMW X4 M เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้น เช่นเดียวกับ BMW X3 M, X4 M ก็ได้รับการปรับราคาขึ้นเล็กน้อยสำหรับปี 2025 โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากรุ่นปี 2024
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 BMW X4 M เริ่มต้นที่ 80,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.9 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และสูงถึง 87,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.2 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) หากคุณเลือกรุ่น Competition รุ่น Competition มาพร้อมกระจังหน้าสีดำเงา ฝาครอบกระจกมองข้าง และท่อไอเสียแบบสปอร์ตที่ให้เสียงที่ยอดเยี่ยมเป็นมาตรฐาน พร้อมล้อขนาด 21 นิ้วสีดำเป็นมาตรฐาน (เทียบกับ 20 นิ้วในรุ่น M ทั่วไป) และภายในหนัง Merino ที่ได้รับการอัปเกรด
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “ถ้าคุณเป็นนักแข่ง Formula 1 ที่มีครอบครัว คุณจะขับรถอะไร? BMW X4 M Competition อาจเป็นคำตอบที่ใช่” – Carwow
2025 BMW X5 M
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือมาตรฐานของ Super SUV รวดเร็ว กว้างขวาง และหรูหรา
ภาพรวม: 2025 BMW X5 M กลับมาเป็นกำลังสำคัญในเวที SUV สมรรถนะสูงอีกครั้ง ด้วยพละกำลังและเทคโนโลยีที่น่าประทับใจเพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้น ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.4 ลิตร ที่คุ้นเคยได้รับการอัปเกรดด้วยเทคโนโลยี Mild-hybrid 48V เพิ่มกำลังเป็น 617 แรงม้า และแรงบิด 553 ปอนด์-ฟุต ทำให้ X5 M สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่จะปลุกเร้าผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ทุกคน แต่ความสามารถของ X5 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความเร็วทางตรง แชสซีที่ซับซ้อนมาพร้อมช่วงล่าง M แบบปรับได้ ระบบลดการโคลงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง ทำงานร่วมกันเพื่อมอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ทำให้ X5 M สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจด้วยความสงบนิ่งที่น่าทึ่ง เบรก M Compound ขนาดใหญ่ ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ทำให้ SUV อันทรงพลังคันนี้หยุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสาร X5 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี BMW Curved Display ที่ครองแผงหน้าปัด โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่ดุดัน ในขณะที่วัสดุระดับพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศที่หรูหรา ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่ระเบิด เทคโนโลยีล้ำสมัย และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 BMW X5 M ยังคงเป็นมาตรฐานที่สูงสำหรับ SUV สมรรถนะสูง รุ่นปี 2024 ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมด ดังนั้นสำหรับปี 2025 จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 BMW X5 M มีราคาเริ่มต้นที่ 125,975 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ข่าวดีคือปีนี้มีเพียงตัวเลือกเดียวสำหรับ X5 M ซึ่งก็คือรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม รุ่น Competition มีคุณสมบัติที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะที่ดีที่สุดทั้งหมดเป็นมาตรฐาน รวมถึงระบบช่วงล่างแบบปรับได้ ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต และล้อขนาด 21 นิ้ว/22 นิ้วแบบสลับขนาดพร้อมยางสำหรับฤดูร้อน สำหรับผู้ที่ต้องการใช้จ่ายมากขึ้น แพ็กเกจ Executive ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะเพิ่มคุณสมบัติหรูหรา เช่น ที่วางแก้วแบบอุ่นและเย็น เบาะนั่งหน้าและหลังแบบอุ่น เบาะนั่งนวดสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ประตูแบบ Soft-close และอื่นๆ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “X5 M เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสามารถทางวิศวกรรมของ BMW อย่างแท้จริง มันเป็นทั้ง SUV หรูหราที่สะดวกสบายและรถยนต์สมรรถนะสูงที่พร้อมลงสนามแข่ง” – US News Cars
2025 BMW X6 M
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: เครื่องยนต์ที่น่าทึ่ง พร้อมอัตราเร่งสุดบ้าคลั่ง สนุกสุดเหวี่ยงบนถนนรอง
ภาพรวม: 2025 BMW X6 M สร้างขึ้นจากชื่อเสียงของ SUV สไตล์คูเป้สมรรถนะสูง มอบการผสมผสานที่น่าตื่นเต้นระหว่างพละกำลัง สไตล์ และเทคโนโลยี ใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.4 ลิตร อันทรงพลังร่วมกับ X5 M ซึ่งตอนนี้ได้รับการปรับปรุงด้วยเทคโนโลยี Mild-hybrid 48V เพื่อให้ได้กำลังรวม 617 แรงม้า และแรงบิด 553 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่งที่เร้าใจ โดย X6 M สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที สมรรถนะของ X6 M ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พละกำลังดิบๆ เท่านั้น ด้วยแชสซีที่ซับซ้อนซึ่งมีช่วงล่าง M แบบปรับได้ ระบบลดการโคลงตัวแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อมอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้ SUV ขนาดใหญ่คันนี้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำอย่างน่าประหลาดใจ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ xDrive พร้อมเฟืองท้าย M แบบแอคทีฟ ช่วยเพิ่มการยึดเกาะและการควบคุม ในขณะที่เบรก M Compound อันทรงพลัง ให้พลังการหยุดที่มั่นใจได้ ภายในห้องโดยสาร X6 M มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก BMW Curved Display ครองส่วนกลาง โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.9 นิ้ว เบาะนั่ง M Sport ให้การรองรับที่ดีเยี่ยมในระหว่างการขับขี่ที่ดุดัน ในขณะที่วัสดุระดับพรีเมียมและการตกแต่งที่ประณีตสร้างบรรยากาศที่หรูหรา ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่โดดเด่น สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีขั้นสูง 2025 BMW X6 M โดดเด่นในฐานะรถที่นำเสนอที่ไม่เหมือนใครและน่าดึงดูดใจในกลุ่ม SUV สมรรถนะสูง เช่นเดียวกับ X5 M, X6 M ได้รับการปรับโฉมใหม่สำหรับรุ่นปี 2024 ดังนั้นสำหรับปี 2025 จึงไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 BMW X6 M มีราคาเริ่มต้นที่ 130,875 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ข่าวดีคือปีนี้มีเพียงตัวเลือกเดียวสำหรับ X6 M ซึ่งก็คือรุ่น Competition ที่ยอดเยี่ยม และข่าวดีอีกอย่างคือ X6 M มีราคาถูกกว่า X5 M รุ่นพี่ แต่ก็ใช้งานได้จริงน้อยกว่าเช่นกัน
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “ถ้าคุณให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ที่สะดุดตาและอัตราเร่งที่รุนแรง X6 M จะไม่ทำให้ผิดหวัง” – Kelly Blue Book
2025 Cadillac Escalade V-Series
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: รถที่คล่องตัวและมีความสามารถอย่างน่าประหลาดใจ ท้าทายขนาดและน้ำหนักของมัน
ภาพรวม: 2025 Cadillac Escalade V-Series ยกระดับ SUV สุดหรูอันเป็นเอกลักษณ์ไปสู่จุดสูงสุดใหม่ของสมรรถนะและความพิเศษเฉพาะตัว ใต้ฝากระโปรง เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตรที่ประกอบด้วยมือ ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 682 แรงม้า และแรงบิด 653 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ที่น่าตื่นเต้นในเวลาเพียง 4.4 วินาที ซึ่งเป็นความสำเร็จที่น่าทึ่งสำหรับ SUV ที่มีขนาดและสถานะเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม Escalade V-Series ไม่ได้อาศัยเพียงแค่พละกำลังดิบเท่านั้น ช่วงล่างที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะพร้อม Magnetic Ride Control 4.0, เฟืองท้ายลิมิเต็ดสลิป และเบรก Brembo ขนาดใหญ่ ช่วยให้มั่นใจถึงการควบคุมและการหยุดรถที่ยอดเยี่ยม Escalade V-Series โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่บ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ กันชนหน้าอันโดดเด่นพร้อมช่องดักอากาศขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้าแบบตาข่าย และตรา V-Series ทำให้แตกต่างจาก Escalade มาตรฐาน ล้อขนาด 24 นิ้วสุดพิเศษ คาลิปเปอร์เบรก Edge Red ที่เป็นอุปกรณ์เสริม และปลายท่อไอเสียสี่ท่อ ตอกย้ำถึงความสปอร์ต ภายใน ห้องโดยสารเป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Semi-aniline พร้อมการเย็บที่เป็นเอกลักษณ์และโลโก้ V-Series มอบความสะดวกสบายและการรองรับที่ยอดเยี่ยม หน้าจอ OLED โค้งครอบคลุมแผงหน้าปัด โดยรวมแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 14.2 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสอินโฟเทนเมนต์ขนาด 16.9 นิ้ว ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่ระเบิด การออกแบบที่สะดุดตา และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Cadillac Escalade V-Series กำหนดนิยามใหม่ของกลุ่ม SUV สุดหรู เป็นรถยนต์ที่สามารถขนส่งครอบครัวได้อย่างง่ายดายด้วยความสะดวกสบายและมีสไตล์ พร้อมมอบสมรรถนะที่เร้าใจเมื่อต้องการ สำหรับผู้ที่มองหาสุดยอดแห่งความหรูหราและสมรรถนะใน SUV, Escalade V-Series โดดเด่นอยู่คันเดียว การอัปเดตภายนอกของ Escalade รวมถึงด้านหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยมีกระจังหน้าที่ใหญ่ขึ้นพร้อมลวดลายใหม่ ไฟวิ่งกลางวันแบบแคบใต้รอยพับของฝากระโปรงหน้า ไฟหน้า LED แนวนอน และกรอบกระจังหน้าแบบเรืองแสงที่มีให้เลือก ด้านหลังมีไฟท้ายที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ฝาครอบกันชนล่างใหม่ และการปรับแต่งเล็กน้อย นอกจากนี้ยังมีสีใหม่และตัวเลือกภายในที่ได้รับการอัปเกรดมากมาย
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Cadillac Escalade V-Series เริ่มต้นที่ 161,990 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) มีตัวเลือกมากมายที่คุณสามารถเลือกได้ แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและความหรูหรา ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับคุณ แค่เลือกรุ่น V-Series คุณก็พร้อมแล้ว
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “เครื่องยนต์ V8 ซูเปอร์ชาร์จมอบพลังที่เร้าใจ พร้อมเสียงท่อไอเสียที่ไพเราะ” – Motor Trend
2025 Dodge Durango SRT 392
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริง พร้อมความสามารถด้านสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน
ภาพรวม: Dodge Durango SRT 392 เป็นรถ Muscle Car ที่ปลอมตัวเป็น SUV สำหรับครอบครัว เป็นยานพาหนะที่ท้าทายความคาดหวัง มอบสมรรถนะที่เร้าใจและเสียง V8 ที่ดุดัน ในขณะที่ยังคงนำเสนอประโยชน์ใช้สอยและความอเนกประสงค์ของ SUV สามแถว ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ HEMI V8 ขนาด 6.4 ลิตร ที่ให้กำลัง 475 แรงม้า และแรงบิด 470 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในกลุ่ม แต่ Durango SRT 392 ไม่ได้มีดีแค่ความเร็วทางตรง Dodge ได้ติดตั้ง SUV สมรรถนะสูงคันนี้ด้วยช่วงล่างแบบสปอร์ต เบรก Brembo และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ช่วยให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจ เป็นรถที่สามารถขับขี่บนถนนคดเคี้ยวได้อย่างสบาย หรือแม้แต่ลงสนามแข่งได้อย่างมั่นใจ สไตล์ที่ดุดันของ Durango SRT 392 ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น ช่องดักอากาศบนฝากระโปรง และล้อขนาด 20 นิ้ว ยิ่งบ่งบอกถึงศักยภาพด้านสมรรถนะ ภายใน Durango SRT 392 มีห้องโดยสารที่สะดวกสบายและตกแต่งอย่างดี พร้อมเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะนั่งหน้าอุ่นและระบายอากาศ พวงมาลัยอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงบางส่วนของคุณสมบัติที่ทำให้เป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์ในการใช้เวลา ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะของรถ Muscle Car ประโยชน์ใช้สอยของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย Dodge Durango SRT 392 เป็นตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครและน่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการทุกสิ่ง
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Durango SRT 392 เริ่มต้นที่ 76,590 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า)
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Durango SRT 392 เป็น Hot Rod ที่สนุกสุดเหวี่ยง เหมาะสำหรับครอบครัว ซึ่งสามารถลากเรือของคุณไปยังทะเลสาบ และแซง Mustang ที่ไฟแดงได้ในเวลาเดียวกัน” – Car and Driver
2025 Dodge Durango SRT Hellcat
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ใช้งานได้จริง พร้อมความสามารถด้านสมรรถนะที่เหลือเชื่อในเวลาเดียวกัน (ขั้นสุด)
ภาพรวม: 2025 Dodge Durango SRT Hellcat กลับมาอีกครั้ง ท้าทายความคาดหวังและตรรกะด้วยการยัดเครื่องยนต์ Hellcat V8 ซูเปอร์ชาร์จ 6.2 ลิตร เข้าไปใน SUV สำหรับครอบครัว เครื่องยนต์มหึมานี้ให้กำลังมหาศาลถึง 710 แรงม้า และแรงบิด 645 ปอนด์-ฟุต เปลี่ยน Durango ให้กลายเป็นสัตว์ร้ายแห่งสมรรถนะ ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.5 วินาที และเวลาควอเตอร์ไมล์ 11.5 วินาที Durango SRT Hellcat สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอายได้ ในขณะที่ยังคงรองรับผู้โดยสารเจ็ดคนและสัมภาระได้อย่างสบาย แต่ Durango SRT Hellcat ไม่ได้มีดีแค่พละกำลังดิบๆ ติดตั้งด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ปรับแต่งเพื่อสมรรถนะ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดพร้อมแพดเดิลชิฟต์ และช่วงล่างแบบสปอร์ตที่ช่วยให้สามารถเข้าโค้งได้อย่างคล่องตัวอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน เบรก Brembo ขนาดใหญ่ให้พลังการหยุดที่จำเป็นในการควบคุมสัตว์ร้ายตัวนี้ ในขณะที่ระบบ Launch Control ช่วยให้คุณได้อัตราเร่งที่รวดเร็ว การออกแบบที่ดุดันของ Durango SRT Hellcat ด้วยตัวถังที่กว้างขึ้น ช่องดักอากาศบนฝากระโปรง และล้อขนาด 20 นิ้ว ไม่ต้องสงสัยเลยถึงความตั้งใจด้านสมรรถนะ ภายใน Durango SRT Hellcat มีห้องโดยสารที่สะดวกสบายและตกแต่งอย่างดี พร้อมเบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารสูงสุดเจ็ดคน เบาะนั่งหน้าอุ่นและระบายอากาศ พวงมาลัยอุ่น และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว เป็นเพียงบางส่วนของคุณสมบัติที่ทำให้เป็นสถานที่ที่น่ารื่นรมย์ในการใช้เวลา ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะระดับซูเปอร์คาร์ ประโยชน์ใช้สอยของ SUV และภายในที่สะดวกสบาย 2025 Dodge Durango SRT Hellcat เป็นรถยนต์ที่ไม่เหมือนใครและน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงที่ท้าทายการจัดหมวดหมู่ รุ่นพิเศษ Silver Bullet จะมาถึงในปี 2025 มาพร้อมอุปกรณ์เต็มพิกัด สี Triple Nickel (สีเงิน) และรายละเอียดพิเศษ เช่น ฝากระโปรงหน้าสีดำด้านและเบาะเย็บสองสีทั่วทั้งภายใน
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Durango SRT Hellcat เริ่มต้นที่ 104,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า)
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Durango Hellcat เป็น SUV ที่เร็วอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งสามารถขนส่งครอบครัวของคุณไปฝึกซ้อมฟุตบอลได้ในนาทีเดียว และสามารถทำเวลาควอเตอร์ไมล์ 11.5 วินาทีได้ในอีกนาทีถัดไป” – Motor Trend
2025 Ferrari Purosangue
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่ลงตัวของสมรรถนะ ประโยชน์ใช้สอย และความหรูหรา สำหรับครอบครัว
ภาพรวม: Ferrari Purosangue ไม่ใช่แค่ SUV คันแรกของ Ferrari เท่านั้น แต่ยังเป็นแถลงการณ์ที่ท้าทายแนวคิดเดิมๆ และกำหนดนิยามใหม่ของความคาดหวัง นี่ไม่ใช่รถ SUV สำหรับครอบครัวที่สูงตระหง่านทั่วไป แต่เป็น Ferrari พันธุ์แท้ที่มีจิตวิญญาณของรถสปอร์ตและความอเนกประสงค์ของ SUV การออกแบบที่เพรียวบางตามหลักอากาศพลศาสตร์ พร้อมฝากระโปรงหน้ายาว ซุ้มล้อที่ดูแข็งแกร่ง และท่าทางที่ดุดัน เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari อย่างไม่ต้องสงสัย ในขณะที่ความสูงจากพื้นดินที่เพิ่มขึ้นและประตูสี่บาน นำเสนอระดับการใช้งานจริงแบบใหม่สำหรับม้าลำพอง ใต้ฝากระโปรง Purosangue มาพร้อมเครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.5 ลิตร แบบไม่มีระบบอัดอากาศ ที่ปลดปล่อยพลังเสียงอันไพเราะ ให้กำลัง 715 แรงม้า และแรงบิด 528 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นสมรรถนะที่น่าทึ่ง ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.3 วินาที และความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม. แต่ Purosangue ไม่ได้เป็นเพียงแค่ขีปนาวุธทางตรงเท่านั้น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง ช่วงล่างแบบแอคทีฟ และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลัง มอบการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ทำให้การขับขี่บนถนนคดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุก ภายใน Purosangue มีห้องโดยสารที่หรูหราและกว้างขวาง พร้อมเบาะนั่งสำหรับสี่คน ห้องขับขี่ที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก มีแผงหน้าปัดดิจิทัล ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 10.2 นิ้ว และการออกแบบห้องขับขี่คู่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งให้ผู้โดยสารด้านหน้ามีจอแสดงผลและระบบควบคุมของตนเอง เบาะหลังมีพื้นที่วางขาและพื้นที่เหนือศีรษะที่กว้างขวาง ทำให้ Purosangue เป็นรถที่สะดวกสบายและใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่เร้าใจ การออกแบบที่น่าทึ่ง และการใช้งานจริงที่น่าประหลาดใจ Ferrari Purosangue เป็นรถยนต์ที่ล้ำยุคที่กำหนดนิยามใหม่ของสิ่งที่ Ferrari สามารถเป็นได้ สำหรับรุ่นปี 2025 Purosangue ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงใหม่
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Ferrari Purosangue มีให้เลือกในรุ่นเดียว ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 428,686 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 15.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับ Purosangue ผู้ซื้อจะสามารถเลือกออปชั่นเพิ่มเติมได้มากมาย และใช่ นี่คือ Ferrari คุณสามารถเลือกออปชั่นได้ตามใจชอบ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Purosangue ขับได้เหมือน Ferrari แท้ๆ ด้วยความคล่องตัวและการตอบสนองที่เหลือเชื่อ ซึ่งท้าทายขนาดและรูปร่างของมัน” – Car and Driver
2025 Ford F-150 Raptor / Raptor R
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: รถกระบะออฟโรดที่มีความสามารถอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่เป็นไปได้ในรถกระบะ
ภาพรวม: 2025 Ford F-150 Raptor และ Raptor R ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในโลกของรถกระบะออฟโรดสมรรถนะสูง รถยนต์สำหรับการวิ่งในทะเลทรายและปีนป่ายหินเหล่านี้ สร้างมาสำหรับผู้ที่แสวงหาการผจญภัยที่กระตุ้นอะดรีนาลีนและต้องการความสามารถสูงสุดจากยานพาหนะของตน รถกระบะทั้งสองใช้แพลตฟอร์มเดียวกันและสไตล์ที่ดุดัน แต่ตอบสนองความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่ออฟโรดในระดับที่แตกต่างกัน F-150 Raptor ซึ่งเป็นรุ่น “พื้นฐาน” ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าใคร มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 EcoBoost เทอร์โบคู่ 3.5 ลิตร ที่ทรงพลัง ให้กำลัง 450 แรงม้า และแรงบิด 510 ปอนด์-ฟุต กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมกล่องเกียร์ถ่ายกำลังแบบ Torque-on-demand จุดเด่นของช่วงล่าง Raptor คือโช้คอัพ Fox 3.1 Live Valve internal bypass ที่ให้การควบคุมและการลดแรงกระแทกที่ยอดเยี่ยมแม้บนพื้นที่ที่ท้าทายที่สุด ด้วยระยะยุบตัวของช่วงล่างด้านหน้า 13.1 นิ้ว และด้านหลัง 14.1 นิ้ว Raptor สามารถดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่รุนแรงยิ่งขึ้น F-150 Raptor R ยกระดับไปอีกขั้น ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์ Predator V8 ซูเปอร์ชาร์จ 5.2 ลิตร ซึ่งยืมมาจาก Mustang Shelby GT500 ที่ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 700 แรงม้า และแรงบิด 640 ปอนด์-ฟุต ทำให้ Raptor R เป็นรถกระบะออฟโรดที่ทรงพลังที่สุดในตลาด นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งช่วงล่างที่เป็นเอกลักษณ์ ระยะฐานล้อที่กว้างขึ้น และยาง All-terrain ขนาด 37 นิ้ว ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Raptor หรือ Raptor R คุณจะได้รับรถกระบะที่สามารถพิชิตทุกสภาพพื้นผิวและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่กระตุ้นอะดรีนาลีนได้อย่างแน่นอน หลังจากปี 2024 ที่ Raptor ได้รับการปรับปรุงรูปลักษณ์ โช้คอัพ Fox Dual Live Valve ที่มีให้เลือก ตะขอลากจูงด้านหน้าที่กว้างขึ้น และไฟหน้าใหม่ รุ่นปี 2025 จึงแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 F-150 Raptor เริ่มต้นที่ 80,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเริ่มต้นที่ 112,725 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.1 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น R
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Raptor R เป็นรถบรรทุกสัตว์ประหลาดที่ได้รับสเตียรอยด์ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ดุดันที่ให้พละกำลังที่น่าทึ่งและเสียงเครื่องยนต์ที่เข้ากัน” – Top Gear
2025 Ford Bronco Raptor
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: สัตว์ร้ายออฟโรดตัวจริง สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้อย่างง่ายดาย
ภาพรวม: Ford Bronco Raptor ไม่ใช่ SUV ทั่วไปของคุณ มันคือสัตว์ร้ายออฟโรดสมรรถนะสูงที่สร้างมาเพื่อพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุด ลองนึกภาพว่าเป็นรถบรรทุกสัตว์ประหลาดที่วิ่งในทะเลทราย ปีนป่ายหิน และกระโดดได้พร้อมป้ายทะเบียน Ford นำ Bronco ที่มีความสามารถอยู่แล้ว มาเติม DNA ของ Raptor เข้าไปอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดรถยนต์ที่ผลักดันขีดจำกัดของสมรรถนะออฟโรด ใต้ฝากระโปรง Bronco Raptor บรรจุเครื่องยนต์ V6 EcoBoost เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 418 แรงม้า และแรงบิด 440 ปอนด์-ฟุต กำลังนี้ถูกส่งผ่านเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ซับซ้อนพร้อมเพลาท้าย Dana 50 Heavy-Duty AdvanTEK ที่แข็งแรง และเพลาหน้า Dana 44 AdvanTEK จุดเด่นของช่วงล่าง Bronco Raptor คือระบบช่วงล่างเพื่อการทรงตัวออฟโรดสมรรถนะสูง (HOSS 4.0) พร้อมแดมเปอร์กึ่งแอคทีฟ Fox 3.1 internal bypass ช่วงล่างระยะยุบตัวยาว และยาง All-terrain ขนาด 37 นิ้วขนาดใหญ่ การตั้งค่านี้ช่วยให้ Bronco Raptor ดูดซับแรงกระแทกและการกระโดดได้อย่างง่ายดาย มอบการควบคุมและการทรงตัวที่ยอดเยี่ยมแม้ในสภาพแวดล้อมออฟโรดที่ต้องการมากที่สุด การออกแบบภายนอกของ Bronco Raptor ดุดันไม่แพ้สมรรถนะ ซุ้มล้อที่กว้างขึ้น กระจังหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ และตัวอักษร “FORD” ที่โดดเด่น ไม่ต้องสงสัยเลยถึงความตั้งใจ คุณสมบัติการใช้งาน เช่น แผ่นกันกระแทกเหล็ก แผ่นกันกระแทกสำหรับงานหนัก และตะขอลากจูง ช่วยเพิ่มความสามารถในการขับขี่ออฟโรด ภายในห้องโดยสารเป็นการผสมผสานระหว่างความทนทานและความประณีต ด้วยเบาะนั่งไวนิลเกรดทะเล ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูง และคุณสมบัติที่เน้นการขับขี่ออฟโรดมากมาย Bronco Raptor เป็นเครื่องจักรที่ไม่เหมือนใครและมีความสามารถอย่างแท้จริงที่กำหนดนิยามใหม่ของ SUV ออฟโรด
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Bronco Raptor มีราคาเริ่มต้นที่ 91,930 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ซึ่งสูงสำหรับ Ford
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “รถคันนี้สามารถปีนป่ายหิน ลุยน้ำ และกระโดดเนินทรายได้อย่างคล่องตัวและสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อ” – Motor Trend
2025 Lamborghini Urus
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างความบ้าคลั่งแบบ Lamborghini และการใช้งาน SUV ในชีวิตประจำวัน
ภาพรวม: 2025 Lamborghini Urus พุ่งทะยานสู่อนาคตด้วยระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ทรงพลัง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่สำหรับ SUV สมรรถนะสูงคันนี้ แม้ว่าเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร อันเป็นเอกลักษณ์จะยังคงอยู่ แต่ตอนนี้ได้รวมกับมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อสร้าง Urus S.E. (Super Elettrica) ใหม่ การผสมผสานนี้ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 789 แรงม้า และแรงบิด 701 ปอนด์-ฟุต ทำให้ Urus S.E. เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที นอกเหนือจากพละกำลังดิบๆ ระบบไฮบริดยังให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวประมาณ 30 ไมล์ ซึ่งเพิ่มมิติประสิทธิภาพให้กับ Super SUV คันนี้ แต่ไลน์อัพ Urus ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น Urus S “พื้นฐาน” ก็ได้รับการอัปเดตสำหรับปี 2025 โดยมาพร้อมส่วนหน้าแบบปรับปรุงใหม่พร้อมกันชนและการออกแบบฝากระโปรงหน้าใหม่ พร้อมไฟหน้าและไฟท้ายที่ได้รับการอัปเดต ภายใน ทั้ง Urus S และ S.E. ได้รับประโยชน์จากระบบอินโฟเทนเมนต์ที่ได้รับการอัปเกรดและตัวเลือกการปรับแต่งที่หลากหลาย สำหรับผู้ที่แสวงหาสุดยอดสมรรถนะของ Urus รุ่น Performante ยังคงครองตำแหน่งสูงสุด ด้วยมาตรการลดน้ำหนัก การปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ และการปรับแต่งที่เน้นสนามแข่ง ทำให้ Urus Performante มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เร้าใจและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น รายการตัวเลือกใหม่คือล้อ Galanthus ขนาด 23 นิ้วที่โดดเด่น ห่อหุ้มด้วยยาง Pirelli P Zero ขนาด 285/35 ที่ด้านหน้าและ 325/30 ที่ด้านหลัง ภายใน Urus S.E. มีหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น พร้อมการตอบสนองที่ได้รับการปรับปรุงและระบบควบคุมด้วยเสียงที่ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ยอมรับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี Lamborghini ยังคงรักษาชุดควบคุมทางกายภาพที่น่าพึงพอใจไว้ รวมถึงสวิตช์สลับและปุ่มสตาร์ทที่น่าดึงดูดใจ การอัปเดตเหล่านี้รวมกันเพื่อยกระดับรูปลักษณ์และความซับซ้อนทางเทคโนโลยีของ Urus ทำให้มั่นใจได้ว่ายังคงเป็นรถที่สะดุดตาทั้งภายในและภายนอก 2025 Lamborghini Urus S.E. เปิดตัวด้วยระบบส่งกำลังไฮบริด 789 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที และให้ระยะทางไฟฟ้า 30 ไมล์ นอกจากนี้ยังเป็นหัวหอกในการปรับโฉมกลางวัฏจักรด้วยสไตล์ใหม่ รวมถึงไฟหน้า Matrix LED การออกแบบประตูท้ายและกันชนใหม่ และตัวเลือกสีภายนอกกว่า 100 แบบ ล้อ 23 นิ้วใหม่และหน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้วที่ได้รับการอัปเกรดช่วยเพิ่มประสบการณ์ ในขณะที่การควบคุมทางกายภาพ เช่น สวิตช์สลับและปุ่มสตาร์ทแบบกรงยังคงอยู่ Urus S ก็ได้รับการปรับโฉมใหม่เช่นกัน ในขณะที่ Performante ยังคงเป็นรุ่นที่เน้นสนามแข่ง
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: Urus “รุ่นเริ่มต้น” มีราคาเริ่มต้นที่ 241,843 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 8.9 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับปี 2025 และสูงถึง 273,880 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 10.1 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) หากคุณเลือกรุ่น Performante ที่เน้นสมรรถนะ ด้วยราคานี้ การประหยัดเงิน 30,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และเลือกรุ่นพื้นฐานนั้นคุ้มค่าจริงหรือ? แน่นอนว่าไม่ นี่คือ Super-SUV ดังนั้นไปเลือกรุ่น Performante เลยดีกว่า
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Urus S เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการสร้างรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมให้ดียิ่งขึ้นไปอีก” – Top Gear
2025 Lotus Eletre
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: นี่คือเกมพลิกสำหรับ Lotus อย่างแท้จริง
ภาพรวม: Lotus Eletre เป็นรถยนต์ที่ล้ำยุคซึ่งเป็นการก้าวครั้งสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงด้านรถสปอร์ตน้ำหนักเบา SUV ไฟฟ้าคันนี้เป็นการเข้าสู่ตลาด SUV ครั้งแรกของ Lotus และกำลังสร้างความโดดเด่นด้วยการออกแบบที่โดดเด่น เทคโนโลยีล้ำสมัย และความสามารถด้านสมรรถนะที่น่าประทับใจ รูปทรงตามหลักอากาศพลศาสตร์และเส้นสายที่ประติมากรรมของ Eletre ไม่เพียงแต่เสริมสร้างรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดใจเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระยะทางที่น่าประทับใจ ใต้ผิวหนัง Eletre มาพร้อมระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่ทรงพลังพร้อมมอเตอร์คู่ที่ให้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิด 523 ปอนด์-ฟุต ในรุ่นพื้นฐานและรุ่น S สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.5 วินาที สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่เร้าใจยิ่งขึ้น Eletre R รุ่นท็อปสุด ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 905 แรงม้า และแรงบิด 726 ปอนด์-ฟุต ทำให้เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 2.95 วินาที Eletre R ยังมาพร้อมเกียร์สองสปีดที่เป็นเอกลักษณ์บนเพลาหลัง ช่วยเพิ่มทั้งอัตราเร่งและประสิทธิภาพ ภายในห้องโดยสาร Eletre มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี วัสดุที่ยั่งยืนถูกใช้ทั่วทั้งคัน ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Lotus ในการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัส OLED ขนาด 15.1 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงระบบนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ Eletre ยังมาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงมากมาย รวมถึงระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถ และระบบกล้อง 360 องศา Eletre เป็นรถใหม่ทั้งหมดสำหรับปี 2025 มีสามรุ่นย่อยในการเปิดตัว
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Eletre เริ่มต้นที่ประมาณ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า)
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Eletre R เร็วอย่างน่าตกใจ มอบอัตราเร่งระดับซูเปอร์คาร์ในแพ็กเกจ SUV” – Car and Driver
2025 Maserati Grecale
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่ดูดี แต่ยังคงต้องต่อสู้กับคู่แข่งที่ดีที่สุดในกลุ่ม
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale เปิดตัวในฐานะ SUV คอมแพคต์หรูหราที่รวบรวมสไตล์และสมรรถนะแบบอิตาเลียน SUV ที่มีสไตล์คันนี้นำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจระหว่างความอเนกประสงค์ เทคโนโลยี และความตื่นเต้นในการขับขี่ ทำให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งในกลุ่ม Maserati นำเสนอ Grecale ในสามรุ่นย่อยที่แตกต่างกัน โดยแต่ละรุ่นตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Grecale GT ระดับเริ่มต้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร Mild-hybrid ที่ให้กำลัง 296 แรงม้า และแรงบิด 332 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน ในขณะที่ระบบ Mild-hybrid ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ถัดมาคือ Grecale Modena ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ Mild-hybrid ที่ทรงพลังยิ่งขึ้น ให้กำลัง 325 แรงม้า และแรงบิด 332 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นประสบการณ์การขับขี่ที่ดุดันยิ่งขึ้น ด้วยอัตราเร่งและการตอบสนองที่ดีขึ้น สำหรับผู้ที่แสวงหาสุดยอดสมรรถนะของ Grecale รุ่น Grecale Trofeo อยู่บนสุดของกลุ่ม โดยใช้เครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูง ซึ่งมาจาก MC20 Supercar เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ปลดปล่อยกำลัง 523 แรงม้า และแรงบิด 457 ปอนด์-ฟุต ทำให้ Grecale Trofeo เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Grecale ก็มีภายในที่หรูหราและตกแต่งอย่างดี พร้อมวัสดุคุณภาพสูงและคุณสมบัติเทคโนโลยีขั้นสูง แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ในขณะที่จอ Head-up Display มีให้เลือกเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มเติม ด้วยการผสมผสานระหว่างสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะที่น่าดึงดูดใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Maserati Grecale เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV คอมแพคต์ระดับพรีเมียมที่โดดเด่นจากฝูงชน
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Maserati Grecale เริ่มต้นที่ประมาณ 69,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น Modena ซึ่งมาพร้อมแดมเปอร์แบบปรับได้ ล้อขนาด 20 นิ้ว ซันรูฟไฟฟ้า เบาะนั่งหน้าปรับไฟฟ้า 14 ทิศทาง ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ การตกแต่งภายในด้วยไม้ และอื่นๆ ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่เพิ่มขึ้นเกือบ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Grecale เป็น SUV ที่อเนกประสงค์ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์การขับขี่ที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปทำงานหรือสำรวจชนบท” – Road & Track
2025 Maserati Grecale Folgore
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานที่โดดเด่นของสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะ และความยั่งยืน
ภาพรวม: 2025 Maserati Grecale Folgore ทำให้ Grecale มีพลังไฟฟ้า นำสมรรถนะที่ยั่งยืนมาสู่ SUV อิตาเลียน รุ่นไฟฟ้าล้วนนี้มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ที่ทรงพลัง ให้กำลังรวม 542 แรงม้า และแรงบิด 590 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่งที่เร้าใจ โดยใช้เวลา 4.1 วินาที ในการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. แต่ Folgore ไม่ได้มีดีแค่ความเร็วทางตรง ยังมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 105 kWh ที่ให้ระยะทางประมาณ 310 ไมล์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเดินทางระยะไกล Grecale Folgore โดดเด่นจากพี่น้องที่ใช้น้ำมันด้วยการออกแบบที่ละเอียดอ่อนแต่โดดเด่น ล้ออากาศพลศาสตร์ที่เป็นเอกลักษณ์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในขณะที่การตกแต่งด้วยสีทองแดงบนตราภายนอกและคาลิปเปอร์เบรก บ่งบอกถึงความเป็นไฟฟ้า ภายในห้องโดยสาร Folgore มีเบาะหุ้มด้วย Econyl ไนลอนรีไซเคิล ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของ Maserati ต่อความยั่งยืน แผงหน้าปัดถูกครอบงำด้วยแผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงระบบนำทาง ความบันเทิง และการตั้งค่ารถยนต์ ด้วยการผสมผสานระหว่างสไตล์อิตาเลียน สมรรถนะที่เร้าใจ และเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2025 Maserati Grecale Folgore เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV ไฟฟ้าพรีเมียมที่ไม่ลดทอนความสนุกในการขับขี่ Grecale Folgore เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามาในไลน์อัพของ Maserati สำหรับรุ่นปี 2025 และเป็นรุ่นไฟฟ้าคันที่สองในไลน์อัพของผู้ผลิตรถยนต์
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Maserati Grecale Folgore มีราคาเริ่มต้นที่ 110,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.1 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และเพิ่มขึ้นตามตัวเลือก
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “มันควบคุมได้คล่องตัวอย่างเหลือเชื่อสำหรับสัดส่วนของ SUV ให้ความรู้สึกเหมือนรถ Hot Hatch มากกว่ารถออฟโรดขนาดใหญ่” – Top Gear
2025 Maserati Levante
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ขนาดใหญ่ สวยงาม และหรูหรา ทำในแบบฉบับของ Maserati
ภาพรวม: 2025 Maserati Levante ซึ่งเป็น SUV เรือธงของแบรนด์ ยังคงสร้างความประทับใจด้วยการผสมผสานระหว่างสไตล์อิตาเลียน การตกแต่งที่หรูหรา และสมรรถนะที่เร้าใจ ในปีนี้ Levante ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยการออกแบบที่อัปเดต เทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง และระบบส่งกำลังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ การออกแบบภายนอกได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดด้วยการออกแบบกระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าที่ได้รับการปรับปรุง และไฟท้ายที่ได้รับการอัปเดต ภายในห้องโดยสารมาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้วใหม่พร้อมซอฟต์แวร์ล่าสุดของ Maserati ที่นำเสนอการทำงานและการเชื่อมต่อที่ดีขึ้น Levante มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Levante GT ระดับเริ่มต้น มีเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร Mild-hybrid ที่ให้สมดุลระหว่างสมรรถนะและประสิทธิภาพ ให้กำลัง 325 แรงม้า Levante Modena เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังที่ทรงพลังยิ่งขึ้น 424 แรงม้า สำหรับผู้ที่แสวงหาสุดยอดสมรรถนะของ Levante รุ่น Levante Trofeo ครองตำแหน่งสูงสุดด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 3.8 ลิตร ที่ดุดัน ปลดปล่อยกำลัง 572 แรงม้า และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่น Levante ใด คุณจะได้รับการขับขี่ที่หรูหราและประณีต ห้องโดยสารได้รับการรังสรรค์ด้วยวัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและไม้ ในขณะที่คุณสมบัติต่างๆ เช่น เบาะนั่งอุ่นและระบายอากาศ ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม และซันรูฟแบบพาโนรามา ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบสไตล์อิตาเลียน เครื่องยนต์ทรงพลัง และสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา 2025 Maserati Levante ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในกลุ่ม SUV หรูหรา
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Levante มีราคาเริ่มต้นที่ 103,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และสูงถึง 189,495 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก รุ่น Trofeo คือรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของ Levante และเป็นตัวเลือกที่ผมแนะนำ เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ให้กำลัง 580 แรงม้า ทำความเร็ว 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.6 วินาที ซึ่งเป็นระดับเดียวกับรถสปอร์ต Levante Trofeo ยังมาพร้อมรายการอุปกรณ์ที่จัดเต็มอีกด้วย
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Levante Trofeo เป็นสัตว์ร้าย เครื่องยนต์ V8 ที่มาจาก Ferrari สร้างเสียงที่ไพเราะและให้แรงผลักดันที่จะทำให้คุณหัวเราะออกมา” – Top Gear
2025 Mercedes-AMG G63
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและเอกสิทธิ์ แต่ก็เป็นรถที่หรูหราและสะดวกสบายอย่างแท้จริง
ภาพรวม: Mercedes-AMG G 63 หรือที่รู้จักกันในชื่อ “G-Wagon” เป็นไอคอนแห่งความสามารถในการขับขี่ออฟโรดและความหรูหราที่ไม่อาจปฏิเสธได้ SUV ในตำนานคันนี้ ด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมและการออกแบบที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกองทัพ เป็นสัญลักษณ์ของสถานะและความสามารถมานานหลายทศวรรษ สำหรับปี 2025 G 63 ได้รับการอัปเดตที่ครอบคลุมซึ่งช่วยเพิ่มสมรรถนะ เทคโนโลยี และความประณีต ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ไว้ ใต้ฝากระโปรง G 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตรที่ประกอบด้วยมือ ซึ่งตอนนี้ติดตั้งระบบ Mild-hybrid 48V เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 577 แรงม้า และแรงบิด 627 ปอนด์-ฟุต ทำให้ G 63 เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.2 วินาที ระบบ Mild-hybrid ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ ความสามารถในการขับขี่ออฟโรดของ G 63 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมด้วยระบบช่วงล่างที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งให้การปรับตัวที่ดีขึ้นและการขับขี่ที่สะดวกสบายยิ่งขึ้นบนพื้นที่ขรุขระ ภายในห้องโดยสาร G 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี หนังเย็บด้วยมือ การตกแต่งด้วยไม้แกะสลักด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงา สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย สำหรับปี 2025 G 63 นำเสนอคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ใหม่ รวมถึง Active Steering Assist และ Active Emergency Stop Assist ซึ่งช่วยเพิ่มทั้งความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ด้วยการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ สมรรถนะที่ทรงพลัง การตกแต่งที่หรูหรา และเทคโนโลยีที่ได้รับการปรับปรุง 2025 Mercedes-AMG G 63 ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่แสวงหาสุดยอดความหรูหราและความสามารถในการขับขี่ออฟโรด G63 มีการเปลี่ยนแปลงการออกแบบเล็กน้อยสำหรับปี 2025 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงอากาศพลศาสตร์ของ SUV ทรงสี่เหลี่ยม กระจังหน้าและกันชนหน้าที่ได้รับการปรับปรุงใหม่รวมกับเสา A ที่ปรับรูปร่างใหม่ และสปอยเลอร์หลังคาที่ละเอียดอ่อนเหนือกระจกบังลม เพื่อช่วยให้ G63 แหวกอากาศได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ยังได้รับระบบไฮบริด 48 โวลต์ ระบบช่วงล่างแบบปรับได้แบบไฮดรอลิกใหม่เป็นอุปกรณ์เสริม
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Mercedes-AMG G63 มีราคาเริ่มต้นที่ 190,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และสูงถึง 210,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและตัวเลือก Mercedes-AMG G63 มาพร้อมอุปกรณ์ค่อนข้างครบครันในรุ่นพื้นฐาน ดังนั้นผมจึงเลือกตัวเลือกนั้น
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “รถคันนี้เหมือนรถถัง มันให้ความรู้สึกที่คงกระพัน และให้ความมั่นใจในการรับมือกับอุปสรรคใดๆ” – Car and Driver
2025 Mercedes-AMG GLC-Class
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: การผสมผสานของเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จและมอเตอร์ไฟฟ้า มอบพลังที่ไม่หยุดยั้ง
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLC-Class ทั้งในรูปแบบ SUV แบบดั้งเดิมและ Coupe ที่เพรียวบาง มอบสมรรถนะที่ทรงพลังให้กับกลุ่มรถหรูขนาดกะทัดรัด รถยนต์ไดนามิกเหล่านี้ใช้แพลตฟอร์ม GLC ที่ประณีตและอเนกประสงค์ และฉีด DNA มอเตอร์สปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของ AMG เข้าไป ทำให้ได้ SUV ที่สามารถขับขี่บนถนนคดเคี้ยวได้อย่างดีเยี่ยมไม่แพ้การขับขี่ในเมือง สำหรับปี 2025 ไลน์อัพ AMG GLC-Class มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยมุ่งเน้นที่สมรรถนะไฟฟ้า AMG GLC 43 4MATIC ตอนนี้มีระบบ Mild-hybrid จับคู่กับเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 416 แรงม้า และแรงบิด 369 ปอนด์-ฟุต การตั้งค่านี้ให้การเร่งความเร็วที่รวดเร็วและประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ช่วงล่างที่ปรับแต่งโดย AMG และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ช่วยให้มั่นใจถึงการควบคุมที่คล่องตัวและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ ที่ด้านบนสุดของลำดับชั้นสมรรถนะคือ AMG GLC 63 S E PERFORMANCE รุ่นสมรรถนะสูงคันนี้มาพร้อมระบบส่งกำลัง Plug-in Hybrid ที่ล้ำสมัย ซึ่งผสมผสานเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง ให้กำลังรวม 671 แรงม้า และแรงบิด 752 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่งที่น่าทึ่ง โดยใช้เวลา 3.4 วินาที ในการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. GLC 63 S E PERFORMANCE ยังมาพร้อมการอัปเกรดสมรรถนะมากมาย รวมถึงระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG-specific ระบบลดแรงสั่นสะเทือนแบบปรับได้ และระบบลดการโคลงตัวแบบแอคทีฟ ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิก ทั้ง GLC 43 และ GLC 63 S E PERFORMANCE มีให้เลือกทั้งแบบ SUV และ Coupe ซึ่งนำเสนอทางเลือกระหว่าง SUV ที่ใช้งานได้จริงและอเนกประสงค์ หรือ Coupe ที่เพรียวบางและสปอร์ตกว่าพร้อมหลังคาลาดเอียง ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่ทรงพลัง เทคโนโลยีขั้นสูง และการตกแต่งที่หรูหรา 2025 Mercedes-AMG GLC-Class และ GLC-Class Coupe เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดพร้อมความเร้าใจ GLC63 กลับมาอีกครั้งสำหรับปี 2025 โดยครั้งนี้มาในรูปแบบ S E Performance แม้ว่าคุณจะพบเครื่องยนต์สี่สูบเทอร์โบชาร์จขนาดเล็กใต้ฝากระโปรง แต่ GLC63 ก็ให้กำลัง 671 แรงม้า ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและชุดแบตเตอรี่
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 AMG GLC-Class มีราคาเริ่มต้นที่ 66,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่นพื้นฐานในตัวถังปกติ และ 71,750 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.6 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับตัวถังคูเป้ รุ่น GLC63 S E Performance เป็นสัตว์ร้ายที่แท้จริง ดังนั้นไปเลือกมันเลยดีกว่า 671 แรงม้า คุ้มค่ากับราคาที่สูงกว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “GLC 63 S E PERFORMANCE เร็วอย่างน่าตกใจ การเพิ่มพลังงานไฟฟ้าให้แรงบิดทันที ทำให้รู้สึกเหมือนจรวดออกจากเส้นสตาร์ท” – Top Gear
2025 Mercedes-AMG GLE-Class
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ควบคุมได้ดีอย่างน่าประหลาดใจสำหรับขนาดของมัน และมีพละกำลังที่ยอดเยี่ยม
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLE-Class สำหรับปี 2025 ยังคงครองตำแหน่ง SUV หรูหราสมรรถนะสูงที่ผสานพละกำลังอันเร้าใจเข้ากับความสะดวกสบายที่ประณีตและเทคโนโลยีขั้นสูงได้อย่างลงตัว SUV ขนาดกลางคันนี้ ซึ่งสร้างบนพื้นฐานของ Mercedes-Benz GLE ได้รับการปรับแต่งแบบ AMG โดยเน้นที่พลวัตการขับขี่ที่ได้รับการปรับปรุง การออกแบบที่ดุดัน และระบบส่งกำลังไฟฟ้าที่ทรงพลัง ไลน์อัพ GLE-Class AMG สำหรับปี 2025 ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย โดยนำเสนอ GLE 53 สมรรถนะสูง และ GLE 63 GLE 53 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ที่ได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-hybrid การตั้งค่านี้ให้กำลัง 429 แรงม้า และแรงบิด 384 ปอนด์-ฟุต ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว เครื่องยนต์จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ที่ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC+ ช่วยให้มั่นใจถึงการควบคุมและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ในสภาพต่างๆ ซึ่งมีส่วนช่วยให้ GLE 53 มีลักษณะสปอร์ต Mercedes-AMG GLE 63 S E อยู่บนสุดของไลน์อัพ GLE-Class ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ต่อเทคโนโลยีไฮบริดสมรรถนะสูง SUV คันนี้มาพร้อมพละกำลังที่จริงจัง โดยผสมผสานเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตรที่ประกอบด้วยมือ เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง เพื่อให้ได้กำลังรวม 603 แรงม้า และแรงบิดมหาศาล 627 ปอนด์-ฟุต การตั้งค่านี้ช่วยให้ GLE 63 S E เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.7 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด แต่ GLE 63 S E PERFORMANCE ไม่ได้มีดีแค่พละกำลังดิบๆ เท่านั้น ยังมีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจด้วยระบบไฮบริด ซึ่งสามารถให้ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวสั้นๆ สำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการทำธุระ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้มั่นใจถึงการยึดเกาะและการควบคุมที่เหมาะสม ในขณะที่ช่วงล่างถุงลม AMG RIDE CONTROL+ พร้อมแดมเปอร์แบบปรับได้ ให้การขับขี่ที่สะดวกสบายและการควบคุมที่เฉียบคม สำหรับปี 2025 ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก นอกเหนือจากสีภายนอกใหม่สี่สี และสีหนังภายในใหม่สามสีที่มีให้เลือก ทุกรุ่นมาพร้อมตรา AMG ปักบนพนักพิงศีรษะและเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือไบโอเมตริกเพื่อความปลอดภัย (ซึ่งเจ๋งมาก)
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 AMG GLE53 มีราคาเริ่มต้นที่ 90,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และ GLE63 เริ่มต้นที่ 131,950 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ผมชอบ GLE63 มาก แต่ราคาสูงเกินไปที่จะเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง เลือก GLE53 แล้วเพิ่มตัวเลือกดีๆ คุณก็ยังคงอยู่ภายใต้ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ แพ็กเกจ Winter นั้นยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่อยู่ในสภาพอากาศหนาวเย็น โดยให้พวงมาลัยอุ่นและเครื่องฉีดน้ำล้างกระจกหน้าแบบอุ่น
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “GLE 63 S E เป็นความสำเร็จทางเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของ AMG ทั้งในด้านสมรรถนะและการใช้พลังงานไฟฟ้า” – Car and Driver
2025 Mercedes-AMG GLS-Class
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริง และเร็วมากสำหรับคุณและครอบครัว
ภาพรวม: Mercedes-AMG GLS 63 เป็นสุดยอดแห่งความหรูหราและสมรรถนะของ SUV เป็นรถที่สามารถพิชิตทุกถนนได้ในขณะที่ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบายที่เหนือชั้น SUV ขนาดเต็มคันนี้ ซึ่งสร้างบนพื้นฐานของ Mercedes-Benz GLS ที่หรูหราอยู่แล้ว ได้รับการปรับแต่งแบบ AMG อย่างเต็มที่ ด้วยเครื่องยนต์ V8 ที่ประกอบด้วยมือ ช่วงล่างแบบสปอร์ต และอุปกรณ์หรูหรามากมาย ใต้ฝากระโปรง GLS 63 บรรจุเครื่องยนต์ V8 biturbo AMG 4.0 ลิตรที่ประกอบด้วยมือ ซึ่งได้รับการปรับปรุงด้วยระบบ Mild-hybrid 48V เครื่องยนต์อันทรงพลังนี้ให้กำลัง 603 แรงม้า และแรงบิด 627 ปอนด์-ฟุต ทำให้ GLS 63 เร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 4.1 วินาที ระบบ Mild-hybrid ไม่เพียงแต่เพิ่มสมรรถนะเท่านั้น แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษ เกียร์อัตโนมัติ AMG SPEEDSHIFT TCT 9 สปีด ของ GLS 63 ให้การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วและราบรื่น ในขณะที่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ AMG Performance 4MATIC+ ช่วยให้มั่นใจถึงการควบคุมและการยึดเกาะที่มั่นใจได้ในสภาพต่างๆ ภายในห้องโดยสาร GLS 63 เป็นสวรรค์แห่งความหรูหราและเทคโนโลยี เบาะหนัง Nappa ระดับพรีเมียม การตกแต่งด้วยไม้แกะสลักด้วยมือ และการตกแต่งด้วยอะลูมิเนียมขัดเงา สร้างบรรยากาศที่หรูหราและประณีต แผงหน้าปัดดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ครองแผงหน้าปัด ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย ผู้โดยสารในแถวที่สองและสามเพลิดเพลินกับพื้นที่และความสะดวกสบายที่กว้างขวาง ด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น เบาะนั่งอุ่นและระบายอากาศ ระบบควบคุมอุณหภูมิแยกส่วน และระบบความบันเทิงสำหรับเบาะหลัง ด้วยการผสมผสานระหว่างสมรรถนะที่เร้าใจ ความหรูหราที่กว้างขวาง และเทคโนโลยีขั้นสูง Mercedes-AMG GLS 63 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่แสวงหาสุดยอดความประณีตและความสามารถของ SUV
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 AMG GLS63 มีราคาเริ่มต้นที่ 147,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และมีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว นี่คือ SUV ที่มีราคาแพงและมาพร้อมอุปกรณ์ค่อนข้างครบครัน ต้องขอบคุณที่มีแพ็กเกจ Warmth and Comfort ที่น่ารัก ซึ่งผมแนะนำให้เลือก เพราะมันจะเพิ่มความอบอุ่นให้กับหลายๆ ส่วน
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “GLS 63 สามารถทำให้รถสปอร์ตหลายคันอับอายในการวิ่งทางตรง ทั้งหมดนี้ในขณะที่บรรทุกผู้โดยสารเจ็ดคนได้อย่างสบายอย่างยิ่ง” – Motor Trend
2025 Porsche Cayenne
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: SUV ที่สะดวกสบายและเร็ว และยังคงเป็นรถที่ดีที่สุดในธุรกิจในด้านพลวัตการขับขี่
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราที่ไม่ลดทอนสมรรถนะ ปีนี้ Cayenne มีตัวเลือกระบบส่งกำลังที่หลากหลาย ตั้งแต่เครื่องยนต์ V6 ที่ทรงพลัง ไปจนถึง Plug-in Hybrid ที่ให้ระยะทางไฟฟ้าที่น่าประทับใจ แต่เป็นรุ่นที่เน้นสมรรถนะที่จับแก่นแท้ของลักษณะสปอร์ตของ Cayenne ได้อย่างแท้จริง Cayenne S ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.7 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตที่น่าพึงพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากช่วงล่างแบบสปอร์ตและเบรกขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความสามารถในการควบคุม สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจยิ่งขึ้น Cayenne GTS ยกระดับสมรรถนะไปอีกขั้น เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 493 แรงม้า และแรงบิด 457 ปอนด์-ฟุต ทำให้สามารถเร่งถึง 100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.2 วินาที GTS ยังมีระยะห่างจากพื้นดินที่ต่ำลง ระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต และองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะสปอร์ต รุ่นที่เน้นสมรรถนะเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของ Cayenne ในการผสมผสานประโยชน์ใช้สอยเข้ากับสมรรถนะที่เร้าใจ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือบนถนนคดเคี้ยว 2025 Porsche Cayenne มอบการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความหรูหราและความสปอร์ตที่รับรองว่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ขับขี่ที่พิถีพิถันที่สุด
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Porsche Cayenne เริ่มต้นที่ 86,695 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.2 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และขยับขึ้นไปถึง 126,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4.7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น GTS รุ่น GTS 493 แรงม้า เข้าร่วมไลน์อัพ Cayenne สำหรับปี 2025 เป็นรุ่นที่น่าทึ่งและใช้เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร เช่นเดียวกับ Cayenne S แต่ได้รับการเพิ่มกำลัง 25 แรงม้า มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อระบายความร้อนด้วยน้ำและส่วนประกอบช่วงล่างบางส่วนที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการตอบสนองของพวงมาลัย GTS มาพร้อมแพ็กเกจ Sport Design เป็นมาตรฐาน ซึ่งเพิ่มการตกแต่งภายนอกสีดำทั่วไปและองค์ประกอบการออกแบบเฉพาะ GTS อื่นๆ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่… โดยห่างไกล”
2025 Porsche Cayenne Coupe Turbo E-Hybrid
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ยังคงเป็น SUV ที่ดีที่สุดในทุกด้านที่ขายอยู่ในปัจจุบัน
ภาพรวม: 2025 Porsche Cayenne Turbo E-Hybrid เป็น SUV สมรรถนะสูงที่กำหนดนิยามใหม่ของความหมายของการมีทั้งพลังและประสิทธิภาพ Plug-in Hybrid คันนี้ผสมผสานเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างเชี่ยวชาญ ทำให้ได้กำลังรวมมหาศาล 729 แรงม้า และแรงบิด 700 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่งที่น่าทึ่ง โดยใช้เวลา 3.5 วินาที ในการเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid ไม่ได้มีดีแค่พละกำลังดิบๆ ยังมีระยะทางขับขี่ด้วยไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่น่าประทับใจถึง 37 ไมล์ ซึ่งช่วยให้สามารถเดินทางในเมืองและทำธุระได้โดยปราศจากการปล่อยมลพิษ ระบบไฮบริดผสานเครื่องยนต์เบนซินและมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่น มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ราบรื่นและประณีต ไม่ว่าคุณจะขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือปลดปล่อยพลัง V8 เต็มที่ Cayenne Turbo E-Hybrid ยังมีช่วงล่างแบบสปอร์ต ช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้ และระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงการควบคุมที่ยอดเยี่ยมและการขับขี่ที่สะดวกสบาย ภายในห้องโดยสาร Cayenne Turbo E-Hybrid มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังและคาร์บอนไฟเบอร์ ประดับประดาภายใน ในขณะที่แผงหน้าปัดดิจิทัลโค้งขนาด 12.6 นิ้ว และหน้าจอสัมผัสกลางขนาด 12.3 นิ้ว ให้การเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงมากมาย
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Cayenne Turbo เริ่มต้นที่ 158,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) รถคันนี้มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน เร็วราวกับสายฟ้า และใช้งานได้จริงอย่างมากตั้งแต่โรงงานผลิต แม้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางกลไกสำหรับปี 2025 แต่ Cayenne Turbo E-Hybrid เช่นเดียวกับ Cayenne ทุกรุ่น ก็ได้รับอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มเติมสำหรับรุ่นปีใหม่
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Cayenne เป็นมาตรฐานในกลุ่ม SUV หรูหรา นำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจของสมรรถนะ ความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอย” – Motor Trend
2025 Porsche Macan
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: สมบูรณ์แบบหากคุณต้องการ SUV ที่สามารถรับมือได้ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวันและการผจญภัยในวันหยุดสุดสัปดาห์
ภาพรวม: 2025 Porsche Macan ยังคงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา SUV หรูหราขนาดกะทัดรัดที่ให้ความสำคัญกับสมรรถนะและความสนุกในการขับขี่ ในขณะที่รุ่นไฟฟ้ากำลังเป็นที่จับตามอง Macan ที่ใช้น้ำมันยังคงเป็นตัวเลือกที่เกี่ยวข้องและน่าตื่นเต้น โดยมีรุ่นย่อยที่ตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน Macan พื้นฐาน เริ่มต้นด้วยเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้กำลัง 261 แรงม้า และแรงบิด 295 ปอนด์-ฟุต ซึ่งให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจยิ่งขึ้น Macan T เพิ่มความสปอร์ตด้วยช่วงล่างแบบสปอร์ต องค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และคันเร่งที่ตอบสนองได้ดีขึ้น Macan S เพิ่มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร ให้กำลัง 375 แรงม้า และแรงบิด 383 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้แปลเป็นอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.6 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตที่น่าพึงพอใจ รุ่น S ยังได้รับประโยชน์จากเบรกขนาดใหญ่ขึ้นและช่วงล่างถุงลมแบบปรับได้เป็นอุปกรณ์เสริม ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุม ที่ด้านบนสุดของ Macan ที่ใช้น้ำมันคือ Macan GTS รุ่นที่เน้นสมรรถนะคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร ที่ให้กำลังมหาศาล 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที GTS มอบสมรรถนะที่เร้าใจเทียบเท่ารถสปอร์ตบางรุ่น นอกจากนี้ยังมีระบบท่อไอเสียแบบสปอร์ต ระยะห่างจากพื้นดินที่ต่ำลง และองค์ประกอบการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ที่เน้นลักษณะสปอร์ต ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด 2025 Porsche Macan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งประณีตและน่าดึงดูดใจ ระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ แชสซีที่สมดุล และเครื่องยนต์ทรงพลัง ทำให้การขับขี่บนถนนคดเคี้ยวเป็นเรื่องสนุก ในขณะที่ภายในที่หรูหราและเทคโนโลยีขั้นสูง มอบความสะดวกสบายสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Macan เริ่มต้นที่ 64,895 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และเพิ่มขึ้นเป็น 90,995 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น GTS ผมจะเลือกรุ่น GTS โดยตรง เนื่องจากอีกไม่นานเราจะไม่ได้เห็น Macan ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในแล้ว ดังนั้นจึงควรเลือกรุ่นที่ดีที่สุด
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Macan GTS เป็น SUV ที่เร็วมาก มันให้ความรู้สึกเร็วกว่าตัวเลขที่บ่งบอกมาก ด้วยเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีและการควบคุมที่เฉียบคม” – Car and Driver
2025 Porsche Macan EV
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: ให้ความรู้สึกเหมือน Porsche ทุกประการ คล่องตัว ตอบสนองได้ดี และขับสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ
ภาพรวม: Porsche Macan EV เป็นรุ่นสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์เยอรมัน ซึ่งเป็นการก้าวเข้าสู่โลกของ SUV สมรรถนะสูงไฟฟ้าล้วน โมเดลใหม่ทั้งหมดนี้สัญญาว่าจะมอบพลวัตการขับขี่และความหรูหราที่ Porsche มีชื่อเสียง แต่มาพร้อมการบิดเบือนที่ยั่งยืนและล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม Premium Platform Electric (PPE) Macan EV มีการออกแบบที่เพรียวบางและตามหลักอากาศพลศาสตร์ที่ปรับให้เหมาะสมทั้งสมรรถนะและประสิทธิภาพ เส้นโค้งที่เรียบเนียนและเส้นสายที่ประติมากรรมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดใจเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มระยะทางที่น่าประทับใจถึง 315 ไมล์ ไลน์อัพ Macan EV มีรุ่นย่อยที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน รุ่นพื้นฐานมีมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลัง 355 แรงม้า และแรงบิด 415 ปอนด์-ฟุต สิ่งนี้ให้กำลังที่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในชีวิตประจำวันและการเร่งความเร็ว ในขณะที่ยังคงมีประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม สำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะที่ได้รับการปรับปรุง รุ่น 4S และ Turbo จะเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่สองที่เพลาหน้า สร้างระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีพละกำลังและการยึดเกาะที่มากยิ่งขึ้น รุ่น 4S มีกำลังรวม 509 แรงม้า และแรงบิด 516 ปอนด์-ฟุต ในขณะที่ Turbo ปลดปล่อยกำลังมหาศาล 603 แรงม้า และแรงบิด 737 ปอนด์-ฟุต ด้วยการกำหนดค่าระดับสูงสุดนี้ Macan EV Turbo สามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.1 วินาที ทำให้เป็นหนึ่งใน SUV ที่เร็วที่สุดในตลาด ไม่ว่าคุณจะเลือกรุ่นย่อยใด Macan EV สัญญาว่าจะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ไดนามิกและน่าดึงดูดใจ จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ด้วยชุดแบตเตอรี่ที่ติดตั้งอยู่บนพื้นรถ มีส่วนช่วยในการควบคุมและความคล่องตัวที่ยอดเยี่ยม ระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) และระบบบังคับเลี้ยวล้อหลังที่เป็นอุปกรณ์เสริม ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าโค้ง ภายในห้องโดยสาร Macan EV มอบสภาพแวดล้อมที่หรูหราและล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี วัสดุระดับพรีเมียม แผงหน้าปัดดิจิทัลโค้ง และระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ สร้างห้องขับขี่ที่ซับซ้อนและเน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ด้วยการผสมผสานของสมรรถนะ เทคโนโลยี และความยั่งยืน Porsche Macan EV พร้อมที่จะกำหนดนิยามใหม่ของกลุ่ม SUV ไฟฟ้า
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Porsche Macan EV เริ่มต้นที่ 77,295 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.8 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่นพื้นฐาน และขยับขึ้นไปที่ 107,295 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.9 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่น Turbo รุ่น Turbo จะเป็นตัวเลือกส่วนตัวของผม แต่ราคาก็สูงถึงเกือบ 110,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นเราจะเลือกรุ่น 4S ที่ให้กำลัง 442 แรงม้าแทน
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำและแชสซีที่สมดุลของ Macan EV ทำให้มันมีความสามารถในการควบคุมที่น่าประทับใจ” – Road & Track
2025 Rolls-Royce Cullinan
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จและเอกสิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ที่แท้จริงของการมาถึงอย่างมีสไตล์
ภาพรวม: 2025 Rolls-Royce Cullinan การเข้าสู่โลกของ SUV สุดหรูพิเศษของแบรนด์ ยังคงกำหนดนิยามใหม่ของความโอ่อ่าของการขับขี่ออฟโรด รถยนต์ที่โดดเด่นคันนี้ ซึ่งตั้งชื่อตามเพชรที่ใหญ่ที่สุดที่เคยค้นพบ ผสมผสานงานฝีมืออันเป็นเอกลักษณ์ของ Rolls-Royce และพลังที่ง่ายดายเข้ากับการแสดงตนที่น่าเกรงขามและความสามารถที่น่าประหลาดใจ สำหรับปี 2025 Cullinan ได้รับการปรับปรุงที่ละเอียดอ่อนแต่มีผลกระทบ ซึ่งตอกย้ำตำแหน่งสูงสุดในฐานะสุดยอดแห่งความหรูหราของ SUV การออกแบบภายนอกของ Cullinan ได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดด้วยกันชนหน้าที่ออกแบบใหม่พร้อมช่องดักอากาศที่ลาดเอียง สร้างรูปลักษณ์ที่ไดนามิกและมุ่งมั่นยิ่งขึ้น กระจังหน้า Pantheon อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นจุดเด่นของ Rolls-Royce ตอนนี้มีไฟส่องสว่าง เพิ่มสัมผัสแห่งความสง่างามที่ทันสมัย ล้อขนาด 23 นิ้วใหม่ ซึ่งขึ้นรูปจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียว ช่วยเสริมท่าทางที่โดดเด่นของ Cullinan ภายในห้องโดยสาร Cullinan ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งความหรูหราที่สั่งทำพิเศษ ด้วยรายละเอียดที่ประณีต วัสดุที่ดีที่สุด และระดับการปรับแต่งที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่พิถีพิถันที่สุด ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสความละเอียดสูงใหม่พร้อมฟังก์ชันการทำงานและการเชื่อมต่อที่ได้รับการปรับปรุง ผสานรวมเข้ากับแผงหน้าปัดที่ประดิษฐ์ด้วยมือของ Cullinan ได้อย่างราบรื่น ใต้ฝากระโปรง Cullinan ยังคงใช้เครื่องยนต์ V12 เทอร์โบคู่ 6.75 ลิตร อันทรงพลัง ซึ่งให้พละกำลังที่ต่อเนื่องที่ขับเคลื่อน SUV สุดหรูคันนี้ได้อย่างง่ายดาย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและเทคโนโลยีช่วงล่างขั้นสูง ช่วยให้มั่นใจถึงการขับขี่ที่ราบรื่นและควบคุมได้ แม้บนพื้นที่ที่ท้าทาย ไม่ว่าคุณจะขับขี่ในเมืองหรือออกนอกเส้นทาง 2025 Rolls-Royce Cullinan มอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือชั้นที่ผสมผสานพละกำลังที่ง่ายดาย ความสะดวกสบายที่เงียบสงบ และความหรูหราที่สั่งทำพิเศษ
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Rolls-Royce Cullinan เริ่มต้นที่ 392,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 14.4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) สำหรับรุ่นพื้นฐาน ในขณะที่ Black Badge อยู่ที่ 454,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 16.7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) เลือกออปชั่นได้ตามใจชอบ นี่คือ Rolls-Royce
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “Cullinan เป็นรถสำหรับผู้ที่ต้องการสุดยอดแห่งความหรูหราและความสามารถ” – CNET Roadshow
2025 Range Rover
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: Range Rover จะพาคุณไปถึงจุดหมายอย่างสะดวกสบายและมีสไตล์
ภาพรวม: Range Rover ปัจจุบัน ในรุ่นที่ห้า เป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมของความหรูหรา ความสามารถ และเทคโนโลยี เป็นรถที่ขับขี่ในป่าคอนกรีตได้อย่างง่ายดาย ในขณะที่ยังคงมีความมั่นใจอย่างยิ่งเมื่อออกนอกเส้นทาง รุ่นล่าสุดนี้ เปิดตัวสำหรับรุ่นปี 2022 ยังคงรักษารูปลักษณ์คลาสสิกของ Range Rover ด้วยท่าทางตั้งตรงอันเป็นเอกลักษณ์และหลังคาแบบลอย แต่ได้นำเสนอภาษาการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายที่บ่งบอกถึงความซับซ้อน ภายใน Range Rover เป็นสวรรค์แห่งความประณีต วัสดุระดับพรีเมียม เช่น หนังอ่อนนุ่ม ไม้จริง และการตกแต่งด้วยโลหะที่รังสรรค์อย่างพิถีพิถัน ประดับประดาห้องโดยสาร ภายในที่กว้างขวางมอบความสะดวกสบายที่เหนือชั้นสำหรับผู้โดยสารทุกคน พร้อมเบาะหลังระดับ Executive Class ที่มีฟังก์ชันการเอนและการนวดแบบเครื่องบิน เทคโนโลยีล้ำสมัยถูกผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างราบรื่น ตั้งแต่ระบบอินโฟเทนเมนต์ Pivi Pro ที่ใช้งานง่ายพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ไปจนถึงคุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความสะดวกสบาย นอกเหนือจากการตกแต่งที่หรูหราแล้ว Range Rover ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ในฐานะรถออฟโรดที่มีความสามารถอย่างยิ่ง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อขั้นสูง เทคโนโลยี Terrain Response 2 และช่วงล่างถุงลมที่มีให้เลือก ช่วยให้สามารถพิชิตภูมิประเทศที่ท้าทายได้อย่างง่ายดาย ตัวเลือกระบบส่งกำลังที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพมากมาย รวมถึง Mild Hybrid, Plug-in Hybrid และ V8 ที่ทรงพลัง ช่วยให้มั่นใจถึงสมรรถนะที่ง่ายดายในทุกสถานการณ์ Range Rover รวบรวมสุดยอดแห่ง SUV หรูหราอย่างแท้จริง โดยนำเสนอการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของความสง่างามที่ประณีตและความสามารถที่แข็งแกร่ง
ราคาและการปรับปรุงปี 2025: 2025 Land Rover Range Rover มีราคาเริ่มต้นที่ 109,525 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) และสูงถึง 210,625 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.7 ล้านบาท ไม่รวมภาษีและอากรนำเข้า) ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยและตัวเลือก เราขอแนะนำให้เลือกรุ่น Autobiography ระดับกลาง ซึ่งเพิ่มคุณสมบัติที่เป็นที่ต้องการหลายอย่างที่ผู้ซื้อรถหรูจะชื่นชอบ
สิ่งที่สื่อต่างประเทศพูดถึง: “ความสะดวกสบายระดับสูงมาก ตัวเลือกเครื่องยนต์และการปรับแต่งมากมาย ภายในที่หรูหรา” – Car and Driver
สุดยอด SUV สปอร์ตและหรูหราประจำปี 2025 ที่เราชื่นชอบ
หลังจากพิจารณาอย่างรอบคอบจากประสบการณ์ 10 ปีในวงการ ผมขอแนะนำสองรุ่นที่โดดเด่นเหนือคู่แข่งในฐานะสุดยอด SUV แห่งปี 2025
2025 Porsche Macan GTS
ทำไมถึงเป็นสุดยอด SUV สปอร์ตแห่งปี: Macan GTS คือราชาแห่งกลุ่ม SUV คอมแพคต์ ที่รวบรวมจิตวิญญาณของ Porsche ได้อย่างแท้จริง มอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งเร้าใจและประณีต ใต้ฝากระโปรงของ Macan GTS มีเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบคู่ 2.9 ลิตร ที่ให้กำลัง 434 แรงม้า และแรงบิด 405 ปอนด์-ฟุต ส่งผลให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที พร้อมเสียงท่อไอเสียที่ให้ความรู้สึกสปอร์ตที่จะทำให้หัวใจคุณเต้นรัว Macan GTS ควบคุมได้อย่างคล่องตัวและแม่นยำเกินกว่าสัดส่วนของ SUV ให้ความรู้สึกเบา คล่องตัว และยึดเกาะถนนได้อย่างไม่น่าเชื่อในการเข้าโค้ง ช่วงล่างแบบสปอร์ต ช่วงล่างถุงลมเสริม และระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ สร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ชวนให้นึกถึงรถ Hot Hatch ไม่ใช่ SUV ที่มีสูง ตามที่ Edmunds กล่าวไว้ว่า “Macan GTS ควบคุมได้เหมือนรถสปอร์ต ด้วยระบบบังคับเลี้ยวที่แม่นยำ การโคลงตัวของรถน้อยที่สุด และแชสซีที่สนุกสนาน” Car and Driver กล่าวว่า “เบาะนั่งสปอร์ตของ GTS รองรับสรีระและสะดวกสบาย แม้ในขณะขับขี่อย่างดุดัน” โดยรวมแล้ว Macan GTS เป็นแพ็กเกจที่ครบเครื่องที่นำเสนอการผสมผสานที่น่าสนใจของสมรรถนะ ความหรูหรา และประโยชน์ใช้สอย
2025 Audi SQ7
ทำไมถึงเป็นสุดยอด SUV สปอร์ตแห่งปี: Audi SQ7 เป็นรถที่ยอดเยี่ยมรอบด้าน หรูหรา รวดเร็ว มีสไตล์ และตอบโจทย์ทุกอย่าง Audi SQ7 ผสมผสานความหรูหรา ประโยชน์ใช้สอย และสมรรถนะที่น่าตื่นเต้นเข้าไว้ในแพ็กเกจ SUV เจ็ดที่นั่งที่กว้างขวาง เครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ 4.0 ลิตร ให้กำลัง 503 แรงม้า และแรงบิด 568 ปอนด์-ฟุต ซึ่งได้รับการยกย่องว่า “มีพละกำลังมหาศาล” และ “เสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจ” นักวิจารณ์อย่าง Edmunds และ Top Gear ชื่นชม “อัตราเร่งที่รุนแรง” และ “สมรรถนะที่ง่ายดาย” แม้จะเน้นสมรรถนะ แต่ SQ7 ก็ยังคงให้ “การควบคุมที่มั่นคง” และ “คุณภาพการขับขี่ที่สะดวกสบาย” Car and Driver กล่าวว่า “SQ7 ผสมผสานสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมและประโยชน์ใช้สอยของ SUV เข้าไว้ด้วยกันในแพ็กเกจที่ตกแต่งอย่างดีและอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับครอบครัว”
ก้าวสู่ประสบการณ์สุดพิเศษกับ SUV ในฝันของคุณ!
โลกของ SUV หรูและสมรรถนะสูงในปี 2025 เต็มไปด้วยทางเลือกที่น่าตื่นเต้นและนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ ไม่ว่าคุณจะมองหารถที่มอบความเร็วสุดขีด ความหรูหราเหนือระดับ หรือการผจญภัยที่ไร้ขีดจำกัด ก็มี SUV ที่เหมาะกับความต้องการของคุณอย่างแน่นอน
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมขอยืนยันว่าการลงทุนใน SUV เหล่านี้ไม่ใช่แค่การซื้อยานพาหนะ แต่เป็นการลงทุนในประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ และเป็นสัญลักษณ์ของรสนิยมที่ไม่ธรรมดา
ได้เวลาแล้วที่คุณจะค้นพบ SUV ที่จะยกระดับการเดินทางของคุณให้เหนือกว่าเดิม! เยี่ยมชมโชว์รูมของเรา หรือติดต่อผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์เพื่อรับคำปรึกษาพิเศษ และเริ่มต้นบทใหม่แห่งการขับขี่ที่เร้าใจและหรูหราของคุณตั้งแต่วันนี้!

