ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
Tesla Model Y Performance: นิยามใหม่แห่งรถ SUV สมรรถนะสูงในปี 2025 ที่คุณต้องสัมผัส
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์ไฟฟ้ามานานกว่าทศวรรษ ผมได้เห็นวิวัฒนาการอันน่าทึ่งของยานพาหนะเหล่านี้ จากจุดเริ่มต้นที่เน้นเพียงแค่การประหยัดพลังงาน สู่ยุคปัจจุบันที่ประสิทธิภาพ ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีล้ำสมัยได้หลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว และในปี 2025 นี้ Tesla Model Y Performance คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดของการก้าวข้ามขีดจำกัดเหล่านั้น มันไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า SUV ทั่วไป แต่เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเร้าใจของรถซูเปอร์คาร์กับการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน จนกล่าวได้ว่านี่คือ Tesla ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการอัปเกรดที่ร้อนแรงและรอบด้าน ทำให้ประสบการณ์การขับขี่ไม่เพียงแค่สนุกสนานยิ่งขึ้น แต่ยังมอบความสบายที่เหนือชั้นและงานประกอบที่ประณีตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
Model Y Performance โฉมใหม่นี้ได้พิสูจน์แล้วว่ารถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่และหนักก็สามารถมอบสมรรถนะที่โดดเด่น ควบคู่ไปกับความคล่องตัวที่น่าประหลาดใจ และที่สำคัญที่สุดคือความนุ่มนวลในการขับขี่ที่หาได้ยากในรถยนต์สมรรถนะสูง ด้วยวิสัยทัศน์ที่เน้นการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ Tesla ทำให้ Model Y Performance ไม่ได้เป็นเพียงการปรับปรุงเล็กน้อย แต่เป็นการยกระดับมาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้าในเซกเมนต์นี้ไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงภายในที่ละเอียดอ่อนแต่สร้างความแตกต่างได้อย่างมหาศาล เบาะนั่งที่โอบอุ้มร่างกายได้อย่างยอดเยี่ยม หรือหน้าจอสัมผัสกลางขนาดใหญ่ที่สว่างและคมชัดยิ่งขึ้น ทุกองค์ประกอบล้วนถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ที่ไร้ที่ติ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะถ่ายทอดจากประสบการณ์ตรงตลอดการทดสอบอย่างเข้มข้น
วิวัฒนาการแห่งสมรรถนะ: หัวใจและพลังขับเคลื่อนของ Model Y Performance 2025
แนวทางของ Tesla ในการพัฒนารถยนต์มักจะเริ่มต้นด้วยรุ่นมาตรฐาน ตามมาด้วยรุ่น Long Range ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ และสุดท้ายก็จะเปิดตัวรุ่น Performance ที่อัดแน่นด้วยขุมพลังสูงสุด และสำหรับ Tesla Model Y โฉมใหม่ ที่มาพร้อมส่วนหน้าได้รับแรงบันดาลใจจาก Cybertruck ผสมผสานกับรูปทรงโค้งมนอันเป็นเอกลักษณ์ การเปิดตัวรุ่น Performance ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังการเปิดตัวรุ่นใหม่นี้ จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ แต่สิ่งที่น่าทึ่งคือวิศวกรรมที่อยู่เบื้องหลังการปรับแต่งครั้งนี้
Tesla ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มกำลังให้กับ Model Y แต่ได้นำเทคโนโลยีและองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ Model 3 Performance เป็นที่ยอมรับ มาประยุกต์ใช้กับ Model Y อย่างชาญฉลาด จุดเริ่มต้นคือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล่าสุดของ Tesla ที่มาพร้อมเซลล์แบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด แต่กลับไม่เพิ่มน้ำหนักโดยรวมของรถ ทำให้ได้ระยะทางที่ไกลขึ้นและสมรรถนะที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงที่ยืมมาจาก Model 3 Performance ยังรับประกันอัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจโดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพโดยรวมของพลังงาน
แม้ Tesla จะไม่เปิดเผยข้อมูลความจุแบตเตอรี่เป็นตัวเลขที่ชัดเจนนัก แต่ประมาณการว่าน่าจะอยู่ที่ 79 kWh ซึ่งสามารถส่งมอบประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 3.8 ไมล์ต่อ kWh (หรือประมาณ 6.1 กิโลเมตรต่อ kWh) ทำให้ Model Y Performance สามารถทะยานจาก 0-100 กม./ชม. (หรือ 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง) ได้ในเวลาเพียง 3.3 วินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจสำหรับรถ SUV 5 ที่นั่ง พร้อมด้วยความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. และระยะทางขับขี่สูงสุดที่เคลมไว้ถึง 580 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ที่สำคัญคือมันรองรับการชาร์จเร็วสูงสุดถึง 250kW ซึ่งช่วยลดเวลาการรอคอยได้อย่างมาก การทดสอบอัตราเร่งบนถนนที่ปลอดภัยและถูกกฎหมายแสดงให้เห็นว่า Model Y Performance สามารถทำได้ตามตัวเลขที่ระบุไว้ทุกประการ ความรู้สึกในการเร่งแซงนั้นเป็นแบบฉับพลันและไร้รอยต่อ เหมือนถูกเหวี่ยงไปข้างหน้าด้วยแรงมหาศาล ที่หาได้ยากในรถยนต์ประเภทเดียวกัน
การควบคุมที่เหนือความคาดหมาย: ช่วงล่างและพลวัตการขับขี่ที่พลิกโฉม
โดยปกติแล้ว รถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีแบตเตอรี่หนักมักจะขาดความคล่องตัว แต่ Model Y Performance ได้ลบล้างแนวคิดนี้ไปอย่างสิ้นเชิง โดยได้ยืมเทคโนโลยีช่วงล่างส่วนใหญ่มาจาก Model 3 Performance ซึ่งรวมถึงระบบช่วงล่างแบบปรับได้ (Adaptive Suspension) ที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับ Model Y ที่มีจุดศูนย์ถ่วงสูงกว่า นอกจากนี้ ยังมีการใช้สปริงใหม่ เหล็กกันโคลง และบูชต่างๆ ที่ทำงานร่วมกับโครงสร้างตัวถังของ Model Y ที่แข็งแกร่งกว่ารุ่นก่อนหน้ามาก ช่วยเพิ่มการควบคุมตัวถังให้ดียิ่งขึ้น ล้อ “Arachnid 2.0” ขนาด 21 นิ้ว มาพร้อมยางที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการยึดเกาะถนนที่เหนือชั้น ในขณะที่พวงมาลัยให้ความรู้สึกที่แม่นยำและตอบสนองได้ดี แม้จะไม่ได้ให้ฟีดแบ็กที่ดุดันเหมือนรถสปอร์ตบางรุ่น
จากการทดลองขับบนเส้นทางคดเคี้ยวตามชนบทใกล้บ้าน ผมพบว่ารถให้ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ กระจกหน้าบานใหญ่ให้มุมมองที่กว้างไกล ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นสภาพถนนข้างหน้าได้อย่างชัดเจน และสามารถทะยานไปบนถนนลาดยางได้อย่างรวดเร็วจนคุณอาจลืมไปว่ากำลังขับรถ SUV 5 ที่นั่งอยู่ อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่านี่คือรถครอบครัว เพื่อไม่ให้ผู้โดยสารด้านหลังรู้สึกไม่สบายจากการขับขี่ที่เร้าใจเกินไป
ในอดีต มักมีการแลกเปลี่ยนกันระหว่างคุณภาพการขับขี่กับการควบคุมที่เฉียบคมในรถยนต์สมรรถนะสูง แต่ Tesla Model Y Performance ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถมีทั้งสองสิ่งได้พร้อมกัน การขับขี่ที่น่าประหลาดใจคือความนุ่มนวลและสบายกว่าที่คาดไว้มาก มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจาก Model Y รุ่นเก่าที่มีช่วงล่างค่อนข้างแข็ง แม้จะยังคงให้ความรู้สึกที่มั่นคง แต่ไม่เคยรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งการขับขี่ในใจกลางกรุงลอนดอนที่ถนนหนทางขรุขระ Model Y คันนี้ก็ยังคงรับมือกับแรงกระแทกจากหลุมบ่อได้อย่างนุ่มนวล ขณะเดียวกันก็ยังคงสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับพื้นผิวถนนให้ผู้ขับขี่รับรู้ได้อย่างเพียงพอโดยไม่ทำให้รู้สึกกระด้าง
ระบบ Driving Modes มีให้เลือกทั้ง Standard และ Sport ส่วนตัวผมชอบโหมด Standard มากกว่า เพราะโหมด Sport ไม่ได้ให้ความแตกต่างในด้านความคล่องตัวหรือการตอบสนองที่ชัดเจนนัก เช่นเดียวกับระบบพวงมาลัย ผมเลือกใช้โหมด Standard มากกว่า Heavy และในส่วนของระบบช่วยเหลือการทรงตัว ผมก็เลือกใช้โหมด Standard แทนที่จะเป็น Reduced เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่ทั่วไป
ภายนอกของ Model Y Performance มีการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนแต่มีประสิทธิภาพ นอกเหนือจากล้อขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ยังมีสปอยเลอร์หลังคาร์บอนไฟเบอร์ ชุดแต่งกันชนหน้าและดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ ทั้งหมดนี้ไม่ได้เพียงแค่เพิ่มความสวยงามสปอร์ตเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในด้านอากาศพลศาสตร์อีกด้วย ป้าย “Performance” ประดับอยู่บนประตูท้าย และปรากฏในไฟส่องพื้น นอกจากนี้ คาลิเปอร์เบรกยังถูกพ่นสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ของรุ่น Performance และครอบกระจกมองข้างสีดำเงาที่ช่วยเสริมลุคสปอร์ตให้โดดเด่นยิ่งขึ้น
ห้องโดยสารแห่งนวัตกรรม: ความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่เหนือระดับ
ภายในของ Tesla Model Y Performance มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสองประการ นอกเหนือจากการปรับปรุงเล็กน้อยที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2025 ประการแรกคือเบาะนั่งด้านหน้า โดย Tesla ได้เพิ่มเบาะนั่ง Performance ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ แม้ว่าสรีระของผมจะค่อนข้างใหญ่ แต่เบาะนั่งเหล่านี้ให้ความรู้สึกสบายอย่างเหลือเชื่อ ผมกล้าพูดได้ว่านี่คือหนึ่งในเบาะนั่งที่สบายที่สุดเท่าที่เคยสัมผัสมาในรถยนต์ ด้วยการรองรับด้านข้างที่พอเหมาะ และสามารถปรับขยายฐานรองใต้ต้นขาเพื่อเพิ่มการรองรับได้ นอกจากนี้ยังมีระบบทำความร้อนและระบายความร้อนสำหรับเบาะนั่ง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มความหรูหราและความสะดวกสบายในการขับขี่ในทุกสภาพอากาศ
ประการที่สองคือหน้าจอสัมผัสกลางขนาดใหญ่ขึ้นจาก 15.4 นิ้ว เป็น 16 นิ้ว พร้อมขอบจอบางลงและมีความละเอียดสูงขึ้น หน้าจอแสดงผลได้สวยงามและใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าคุณจะต้องใช้หน้าจอสัมผัสสำหรับทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเกียร์ P, R หรือ D (แม้ว่ารถจะสามารถตรวจจับและเลือกเกียร์ให้อัตโนมัติเมื่อจอด) แต่การใช้งานที่ลื่นไหลและอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายก็ชดเชยข้อจำกัดนี้ได้
ภายในห้องโดยสารยังมีการตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เฉพาะรุ่น Performance ทั้งบนแผงหน้าปัดและประตู พร้อมแถบไฟ Ambient Light บางๆ ที่วิ่งไปตามแผงหน้าปัดและประตูหน้าและหลัง ซึ่งสามารถเลือกสีและให้แสงไฟกะพริบตามจังหวะเพลงโปรดได้ ช่องระบายอากาศถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน และกระจกบังลมหน้าบานใหญ่ที่ต่อเนื่องจากหลังคาพาโนรามาจรดฝากระโปรง มอบทัศนวิสัยด้านหน้าที่กว้างขวางและน่าประทับใจ
มุมมองด้านหลังเทียบเท่ากับรถ SUV อื่นๆ ในเซกเมนต์นี้ โดยมีกระจกมองหลังค่อนข้างแคบ แต่กระจกมองข้างให้ทัศนวิสัยที่เพียงพอ และกล้องหลายตัวยังช่วยในการเข้าออกที่จอดรถได้อย่างง่ายดาย พื้นที่ภายในห้องโดยสารยังคงกว้างขวาง แม้ว่าพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจะเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย แต่เบาะหลังสามารถพับเก็บได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
คุณภาพงานประกอบของ Model Y Performance นั้นน่าประทับใจไม่แพ้รถยนต์ระดับราคาเดียวกัน ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า Tesla ได้ยกระดับมาตรฐานการผลิตขึ้นมาอย่างมาก โดยรถยนต์รุ่นนี้ผลิตขึ้นที่โรงงาน Tesla ในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ Tesla ในการส่งมอบรถยนต์คุณภาพสูงสู่ตลาดโลก
การเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ: เทคโนโลยีและระบบความบันเทิง
หน้าจอสัมผัสใหม่ไม่เพียงแค่ดูดี แต่ยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าจะมาพร้อม Spotify และ Apple Music ที่ติดตั้งมาให้ แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าความสะดวกสบายในการใช้งานสำหรับการส่งข้อความและโทรศัพท์ผ่าน Apple CarPlay หรือ Android Auto ได้ ซึ่งหากมีฟีเจอร์เหล่านี้ Model Y จะสมบูรณ์แบบในสายตาของผม
ผมได้ทดลองใช้ระบบจอดรถอัตโนมัติ (Self-parking) เพื่อเข้าจอดในช่องว่างแคบๆ ในลานจอดรถในลอนดอน ซึ่งพบว่าใช้งานง่ายกว่าระบบส่วนใหญ่ และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากกว่า ทำให้ผมรู้สึกไว้วางใจระบบนี้มากกว่าที่เคยใช้ใน BMW iX ที่ผมขับเป็นประจำ
ระบบ Adaptive Cruise Control ใช้งานง่าย แม้ว่าผมจะรู้สึกว่ารถจะรักษาระยะห่างไปทางซ้ายของเลนเล็กน้อย ทำให้ผมต้องขยับพวงมาลัยไปทางขวาเพื่อให้รถจักรยานยนต์แซง ซึ่งส่งผลให้ระบบถูกปิดการใช้งานชั่วคราว ข้อควรระวังเล็กน้อยนี้เป็นสิ่งที่ผู้ใช้งานควรเรียนรู้และปรับตัว
ผู้โดยสารด้านหลังใน Tesla Model Y Performance จะได้รับความบันเทิงจากหน้าจอขนาด 8 นิ้ว สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศ อุ่นเบาะ ความบันเทิง และสามารถเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธอิสระได้ ในขณะที่พวงมาลัยยังคงมีปุ่มควบคุมที่เข้าถึงได้รวดเร็วและปุ่มที่สามารถปรับแต่งการใช้งานได้ ซึ่งแตกต่างจาก Model 3 ที่ Model Y ยังคงมีก้านไฟเลี้ยวที่ทำงานด้วยการผลักเบาๆ แทนการคลิก
ระบบเครื่องเสียง 15 ลำโพง พร้อมซับวูฟเฟอร์ที่ Tesla ออกแบบและปรับแต่งเอง ยังคงสร้างความประทับใจไม่เสื่อมคลาย และ Tesla ยังกล่าวอีกว่าการเชื่อมต่อใน Model Y รุ่นล่าสุดได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นผ่าน WiFi ที่เร็วขึ้น การดาวน์โหลดผ่านเครือข่ายมือถือที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพโทรศัพท์ที่ดีขึ้น และไมโครโฟนที่ชัดเจนขึ้นสำหรับการโทรในรถ ซึ่งกล่าวกันว่าชัดเจนขึ้นถึง 66 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบ
การลงทุนที่คุ้มค่า: ราคาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน
Tesla Model Y Performance โฉมใหม่ ไม่ใช่รถราคาถูก ด้วยราคาเริ่มต้นที่ £61,990 (ประมาณ 2.8 ล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันและยังไม่รวมภาษีนำเข้าของประเทศไทย ซึ่งราคาจริงในไทยจะสูงกว่านี้มาก) อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงระดับสมรรถนะที่นำเสนอในราคานี้ ระดับความสะดวกสบาย และคุณภาพงานประกอบที่ได้รับ ก็ถือว่าราคาค่อนข้างสมเหตุสมผล แม้จะยังยากที่จะเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ที่ “คุ้มค่า” ในแง่ของราคาตั้งต้น แต่เมื่อมองในภาพรวมก็ถือเป็นการลงทุนที่น่าสนใจ
สิ่งที่คุณจะได้รับคือประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม ต้องขอบคุณเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนขั้นสูงที่ Tesla ใช้ ระยะทางที่เคลมไว้ 580 กิโลเมตร ไม่ได้เกินจริงนัก จากการทดลองขับตลอดทั้งวันและคืนบนเส้นทางที่หลากหลายและด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน ผมพบว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นไปได้ในสภาพการขับขี่จริง
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ผมมองว่า Model Y Performance ไม่ได้เป็นเพียงรถยนต์ที่แพง แต่มันคือการลงทุนในอนาคตของการขับขี่ ที่มอบประสบการณ์ที่เหนือกว่ารถยนต์สันดาปในหลายๆ ด้าน ด้วยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า และต้นทุนพลังงานที่ถูกกว่าน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในระยะยาวนั้นประหยัดกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มาพร้อมกับรถยังคงความทันสมัยและคงมูลค่าของรถได้ดีในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2025 นี้
บทสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ: นิยามใหม่แห่งรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง
จากประสบการณ์กว่า 10 ปีในวงการรถยนต์ไฟฟ้า ผมกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า Tesla Model Y Performance ไม่ใช่แค่รถยนต์ไฟฟ้า SUV ทั่วไป แต่เป็นรถยนต์ที่ redefine นิยามของคำว่า “สมรรถนะสูง” และ “ความสะดวกสบาย” ในรถยนต์ประเภทเดียวกัน มันคือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างพละกำลังดิบที่สามารถท้าชนรถซูเปอร์คาร์ กับความประณีตในการขับขี่ที่สามารถใช้งานได้จริงในทุกวัน
Tesla ได้ทำการบ้านมาอย่างดีในการปรับปรุง Model Y ให้เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสมรรถนะที่เร้าใจ การควบคุมที่เฉียบคมแต่ยังคงความนุ่มนวล ระบบภายในที่หรูหราสะดวกสบาย และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยที่ใช้งานง่าย และงานประกอบที่ไร้ที่ติจากโรงงานในเบอร์ลิน Model Y Performance เป็นรถที่น่าประทับใจในทุกมิติ และเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่ารถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตในปี 2025 ควรเป็นอย่างไร
หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ไม่ได้เป็นเพียงยานพาหนะ แต่เป็นประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ พร้อมด้วยสมรรถนะที่โดดเด่น ความสะดวกสบายที่เหนือชั้น และเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ Tesla Model Y Performance คือคำตอบสุดท้ายของคุณ มันจะเปลี่ยนมุมมองที่คุณมีต่อรถยนต์ไฟฟ้าไปตลอดกาล
คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะสัมผัสอนาคตแห่งการขับขี่? ก้าวเข้าสู่โลกของ Tesla Model Y Performance และกำหนดนิยามใหม่ของความคาดหวังของคุณวันนี้
เทสลา Model Y Performance 2025: ยกระดับ SUV ไฟฟ้า ให้เป็นผู้พิชิตซูเปอร์คาร์
ในฐานะผู้ที่คลุกคลีอยู่ในวงการรถยนต์ไฟฟ้ามากว่าทศวรรษ ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และหากจะมีรถยนต์สักคันที่สามารถสะท้อนถึงวิวัฒนาการอันก้าวกระโดดของนวัตกรรมยานยนต์แห่งปี 2025 ได้อย่างชัดเจน นั่นคงหนีไม่พ้น เทสลา Model Y Performance 2025 รุ่นปรับปรุงใหม่ล่าสุดคันนี้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เทสลาได้วางรากฐานการพัฒนาผลิตภัณฑ์ไว้อย่างเป็นระบบ เริ่มต้นจากรุ่นมาตรฐาน ตามมาด้วยรุ่น Long Range ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ และในท้ายที่สุดก็คือรุ่น Performance ที่เปรียบเสมือนจุดสูงสุดของสายผลิตภัณฑ์นั้นๆ ดังนั้น เมื่อ Model Y ซึ่งเป็นรถ SUV ยอดนิยมได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ พร้อมดีไซน์ด้านหน้าที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Cybertruck ที่ผสานเข้ากับรูปทรงเพรียวลมอันคุ้นเคย การมาของรุ่น Performance จึงเป็นสิ่งที่หลายคนคาดการณ์ไว้ เพียงแต่ว่าสิ่งที่เทสลาทำกับ Model Y Performance 2025 คันนี้ มันเกินกว่าความคาดหมายไปมากนัก
สิ่งที่น่าประหลาดใจและสร้างความประทับใจอย่างยิ่งสำหรับผม คือความสามารถของ Tesla Model Y Performance ในการผสมผสานสมรรถนะอันดุดันเข้ากับความคล่องตัวที่น่าทึ่ง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากจากชุดแบตเตอรี่ ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมาพร้อมกับความประณีตในการขับขี่ที่เหนือกว่า ด้วยช่วงล่างที่ได้รับการปรับจูนมาอย่างพิถีพิถัน ทำให้รู้สึกสบายอย่างเหลือเชื่อแม้บนถนนหนทางที่ท้าทายในหลายประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เทสลาในอดีตเคยถูกวิจารณ์ถึงบ่อยครั้ง นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของพลวัตการขับขี่เท่านั้น แต่การยกระดับภายในห้องโดยสารอย่างละเอียดอ่อน ก็ส่งผลให้รถคันนี้ก้าวไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่ออกแบบมาเพื่อ สมรรถนะสูง พร้อมความสบายระดับพรีเมียม หรือหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ที่สว่างและคมชัดยิ่งขึ้น
Model Y Performance 2025 ให้ความรู้สึกเหมือนรถยนต์ที่ถูกวิศวกรรมมาอย่างยอดเยี่ยม ระบบขับเคลื่อนและเทคโนโลยีต่างๆ ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นไร้ที่ติ แต่สิ่งที่ผมประทับใจมากที่สุดคือ “คุณสมบัติสองด้าน” ที่เป็นเอกลักษณ์ของมัน น้อยนักที่จะมีรถยนต์ที่เร็วจัดจ้านขนาดนี้ แต่ยังคงใช้งานง่ายและสะดวกสบายในชีวิตประจำวันได้ถึงเพียงนี้ แม้ว่าในฐานะรุ่นเรือธงจะมี ราคา ที่สูงขึ้น แต่เมื่อพิจารณาถึงสิ่งที่คุณจะได้รับ มันคือการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่งในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า แห่งปี 2025
วิวัฒนาการสู่สุดยอด SUV ไฟฟ้า: สมรรถนะที่ปลุกเร้าจิตวิญญาณ
เทสลาไม่ได้แค่เพิ่มพลังให้กับ Model Y เท่านั้น แต่ได้นำเอาองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ Model 3 Performance เป็นที่ยอมรับในเรื่อง สมรรถนะสูง มาปรับใช้กับ Model Y อย่างชาญฉลาด จุดเริ่มต้นคือเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล่าสุดของเทสลา ที่ใช้เซลล์แบตเตอรี่ที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถควบคุมน้ำหนักให้คงที่ได้ ส่งผลให้รถมีน้ำหนักรวมไม่เพิ่มขึ้นจนเกินไป นอกจากนี้ ยังมีการนำชุดขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูงจาก Model 3 Performance มาใช้ ซึ่งรับประกันการเร่งความเร็วที่เหนือชั้นโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
แม้เทสลาจะไม่เปิดเผยตัวเลขความจุแบตเตอรี่อย่างเป็นทางการ แต่คาดการณ์ว่าจะเป็นแบตเตอรี่ขนาดประมาณ 79 kWh ซึ่งทำงานร่วมกับชุดขับเคลื่อนที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นอย่างดี ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่น่าประทับใจ การเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาเพียง 3.3 วินาที (0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 3.3 วินาที) ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. (155 ไมล์ต่อชั่วโมง) และระยะทางขับขี่สูงสุดตามมาตรฐาน WLTP ที่เคลมไว้ถึง 579 กิโลเมตร (360 ไมล์) สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขที่น่าประทับใจบนกระดาษ แต่เป็นการยืนยันถึงศักยภาพที่แท้จริงของ รถ SUV ไฟฟ้า คันนี้
จากการทดสอบของผมบนถนนที่หลากหลาย รวมถึงการขับขี่ในเมืองที่ต้องใช้การเร่งแซงฉับไว และบนทางหลวงที่ต้องการความเร็วคงที่ Model Y Performance ให้ความรู้สึกเร็วจัดจ้านสมกับตัวเลขที่ระบุไว้ทุกประการ แต่สิ่งที่เกินความคาดหมายคือความคล่องตัวที่สัมผัสได้ แม้จะต้องแบกรับน้ำหนักของชุดแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ฟิสิกส์ก็ยังคงเป็นฟิสิกส์ และการรับรู้ถึงน้ำหนักที่อยู่ใต้พื้นรถก็ยังคงมีอยู่บ้าง แต่เทสลาได้จัดการกับมันได้อย่างน่าทึ่ง
ยกระดับการขับขี่: พลวัตที่เหนือความคาดหมาย
Model Y Performance ยังได้ยืมเทคโนโลยีช่วงล่างจำนวนมากมาจาก Model 3 Performance ซึ่งรวมถึงระบบกันสะเทือนแบบปรับได้ (Adaptive Suspension) ที่ได้รับการปรับจูนใหม่ให้เหมาะสมกับความสูงที่มากกว่าของ Model Y นอกจากนี้ สปริง เหล็กกันโคลง และบูชชิ่งใหม่ที่ทำงานร่วมกับตัวถังของ Model Y ที่แข็งแกร่งกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดนี้ช่วยเพิ่มการควบคุมตัวถังให้ดีขึ้นอย่างมาก ล้อ “Arachnid 2.0” ขนาด 21 นิ้วที่มาพร้อมยางเฉพาะรุ่น มอบการยึดเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม ขณะที่พวงมาลัยก็ตอบสนองได้แม่นยำ แม้จะไม่ได้ให้ฟีดแบ็กที่หนักแน่นเหมือนรถสปอร์ตบางคัน แต่มันก็เพียงพอที่จะให้คุณมั่นใจในการควบคุม รถ SUV ไฟฟ้าสมรรถนะสูง คันนี้
เมื่อผมได้ลองขับขี่บนถนนคดเคี้ยวตามชนบทที่ผมคุ้นเคย รถคันนี้ให้ความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และเร็วอย่างเหลือเชื่อ ทัศนวิสัยด้านหน้าผ่านกระจกบังลมบานใหญ่ให้มุมมองที่ยอดเยี่ยม คุณสามารถขับผ่านถนนลาดยางได้อย่างรวดเร็วจนลืมไปว่ากำลังขับรถ SUV แบบห้าที่นั่งอยู่ หากไม่ระวัง ลูกๆ ที่นั่งอยู่ด้านหลังอาจจะเริ่มมีอาการเมารถได้!
โดยปกติแล้ว เมื่อรถมีความว่องไวและตอบสนองได้ดี มักจะแลกมาด้วยคุณภาพการขับขี่ที่แข็งกระด้าง แต่นั่นไม่ใช่กรณีของเทสลาคันนี้ สิ่งที่โดดเด่นคือ Model Y Performance มีการขับขี่ที่นุ่มนวลอย่างน่าประทับใจ มันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ Model Y รุ่นเก่าที่ช่วงล่างค่อนข้างแข็งกระด้าง ใช่ มันยังคงให้ความรู้สึกหนักแน่น แต่มันไม่เคยทำให้รู้สึกไม่สบาย ในช่วงเวลาที่ผมขับขี่ในเมืองใหญ่ ที่ซึ่งถนนมักจะมีผิวที่ไม่เรียบและเต็มไปด้วยหลุมบ่อ การขับขี่ของ Model Y คันนี้กลับทำได้อย่างยอดเยี่ยม มันช่วยซับแรงกระแทกจากพื้นผิวถนนที่แย่ที่สุดได้อย่างดีเยี่ยม ในขณะเดียวกันก็ยังคงสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับพื้นผิวถนนให้ผู้ขับได้รับรู้โดยไม่ทำให้รู้สึกกระด้าง
รถมีโหมดการขับขี่ Standard และ Sport แต่ผมพบว่าโหมด Standard ให้ความรู้สึกสมดุลที่สุด โหมด Sport ไม่ได้ให้ความรู้สึกว่องไวหรือตอบสนองได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ ผมยังเลือกใช้พวงมาลัยในโหมด Standard แทนที่จะเป็น Heavy และชอบที่จะปล่อยระบบช่วยเหลือการทรงตัวไว้ในโหมด Standard แทนที่จะเป็น Reduced ซึ่งจะลดการทำงานของระบบลง
การออกแบบภายนอก: ความงามที่มาพร้อมฟังก์ชัน
การเปลี่ยนแปลงภายนอกนั้นดูละเอียดอ่อน แต่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ นอกเหนือจากล้อขนาดใหญ่ขึ้นแล้ว ยังมีสปอยเลอร์หลังคาร์บอนไฟเบอร์ ชายกันชนหน้าและดิฟฟิวเซอร์ด้านหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่ให้ประโยชน์ด้านอากาศพลศาสตร์ แต่ยังช่วยเสริมลุคสปอร์ตให้กับรถอีกด้วย ตรา Performance ถูกประดับไว้อย่างภาคภูมิใจที่ฝาท้าย และยังแสดงผลในไฟส่องพื้นเมื่อเปิดประตู คาลิปเปอร์เบรกถูกตกแต่งด้วยสีแดงสดใส และกระจกมองข้างได้รับความเงางามด้วยการเคลือบสีดำเงา ทุกรายละเอียดถูกออกแบบมาเพื่อสะท้อนถึงศักยภาพอันน่าเกรงขามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเรียบง่าย
ภายในห้องโดยสาร: ความสบายและเทคโนโลยีที่ไร้รอยต่อ
Model Y Performance 2025 มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสองประการหลักภายในห้องโดยสาร นอกเหนือจากการปรับปรุงเล็กน้อยที่เคยทำไปแล้วก่อนหน้านี้ใน Model Y รุ่นใหม่
ประการแรกคือ เบาะนั่ง Performance ด้านหน้า เทสลาได้เพิ่มเบาะนั่งสมรรถนะสูงที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ แม้แต่คนที่มีสรีระที่ค่อนข้างใหญ่เช่นผม ก็ยังพบว่ามันสบายอย่างเหลือเชื่อ ผมกล้าพูดได้เลยว่านี่คือหนึ่งในเบาะนั่งที่สบายที่สุดที่ผมเคยสัมผัสมาในรถยนต์ มีการรองรับด้านข้างที่พอเหมาะ ช่วยโอบกระชับร่างกายในระหว่างการขับขี่ที่เร้าใจ คุณยังสามารถปรับส่วนรองรับใต้ต้นขาให้ยื่นออกมาเพื่อเพิ่มการรองรับได้ นอกจากนี้ ยังมีระบบทำความร้อนและระบายความร้อนของเบาะนั่ง เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดในทุกสภาพอากาศ
ประการที่สองคือหน้าจอสัมผัสกลาง ที่ได้รับการอัปเกรดจากขนาด 15.4 นิ้ว เป็น 16 นิ้ว มาพร้อมขอบจอที่บางลงและมีความละเอียดสูงขึ้น หน้าจอใหม่นี้ดูสวยงามน่าประทับใจ และใช้งานง่ายเป็นเลิศ แม้ว่าคุณจะต้องใช้หน้าจอสัมผัสสำหรับทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตำแหน่งเกียร์ (P, R, N, D) ซึ่งระบบยังสามารถตรวจจับตำแหน่งที่คุณจอดและเลือกเกียร์ให้อัตโนมัติได้อย่างชาญฉลาด
ภายในยังมีการตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เฉพาะรุ่น Performance บนแผงหน้าปัดและแผงประตู รวมถึงแถบไฟ Ambient Light บางๆ ที่ทอดยาวไปตามแผงหน้าปัดและประตูหน้า-หลัง คุณสามารถเลือกสีของไฟ หรือแม้แต่ตั้งค่าให้ไฟกระพริบตามจังหวะเพลงที่เลือกได้ ช่องระบายอากาศถูกออกแบบให้ซ่อนเร้นอย่างแนบเนียน และกระจกบังลมหน้านั้นทอดยาวจากหลังคา Panoramic Sunroof ลงไปจรดฝากระโปรงรถ มอบทัศนวิสัยด้านหน้าที่กว้างไกลและโปร่งตา
ทัศนวิสัยด้านหลังเทียบเท่ากับรถ SUV อื่นๆ ในกลุ่มนี้ โดยมีกระจกหลังที่ค่อนข้างแคบเล็กน้อย กระจกมองข้างให้ทัศนวิสัยที่เพียงพอ และกล้องหลายตัวช่วยในการบังคับรถในพื้นที่จำกัด
พื้นที่ภายในห้องโดยสารยังคงกว้างขวางใช้งานได้จริง แม้ว่าพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังจะเล็กลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า แต่เบาะหลังสามารถพับเก็บได้ด้วยการกดปุ่มเพียงครั้งเดียว
คุณภาพการประกอบ ถือว่าน่าประทับใจไม่แพ้รถยนต์อื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน ในที่สุดเทสลาก็สามารถผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพการประกอบที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถคันนี้ที่ผลิตจากโรงงานเทสลาในกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงงานที่ขึ้นชื่อเรื่องความละเอียดอ่อนในการผลิต
เทคโนโลยีและระบบความบันเทิง: เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด
หน้าจอสัมผัสใหม่ไม่เพียงแค่ดูดี แต่ยังทำงานได้ดีเยี่ยมอีกด้วย แม้จะมาพร้อมกับ Spotify และ Apple Music ในตัว แต่ผมยังรู้สึกว่าการใช้งานสำหรับการส่งข้อความและการโทรศัพท์นั้นไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร หากมี Apple CarPlay หรือ Android Auto ผมเชื่อว่า Model Y Performance คันนี้จะเข้าใกล้คำว่าสมบูรณ์แบบในสายตาของผม
ผมได้ลองใช้เทคโนโลยี Self-parking เพื่อเข้าจอดในพื้นที่แคบของลานจอดรถในเมือง ซึ่งมันใช้งานง่ายกว่าระบบอื่นๆ ส่วนใหญ่ และให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากกว่า ผมรู้สึกเชื่อใจระบบนี้มากกว่าระบบในรถ BMW iX ที่ผมขับเป็นประจำเสียอีก
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบปรับได้ (Adaptive Cruise Control) ใช้งานง่ายและสะดวก แม้ว่าผมจะรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะชิดซ้ายของเลนไปเล็กน้อย ทำให้ผมต้องปรับพวงมาลัยไปทางขวาเล็กน้อยเพื่อให้มอเตอร์ไซค์แซงไปได้ ซึ่งทำให้ระบบถูกยกเลิกไปในบางครั้ง
ผู้โดยสารด้านหลังใน Model Y Performance 2025 จะได้รับความบันเทิงจากหน้าจอขนาด 8 นิ้ว สำหรับควบคุมระบบปรับอากาศ ระบบทำความร้อนเบาะนั่ง และความบันเทิงต่างๆ รวมถึงการใช้งานหูฟัง Bluetooth แบบอิสระ ขณะที่พวงมาลัยมีปุ่มควบคุมที่เข้าถึงได้รวดเร็วและสามารถปรับแต่งได้เอง ซึ่งแตกต่างจาก Model 3 ตรงที่ Model Y ยังคงมีก้านไฟเลี้ยวที่ทำงานด้วยการผลักเบาๆ แทนที่จะเป็นแบบกดคลิก
ระบบเสียง 15 ลำโพงพร้อมซับวูฟเฟอร์ที่เทสลาผลิตและปรับแต่งเองยังคงสร้างความประทับใจเสมอ เทสลายังระบุว่าการเชื่อมต่อใน Model Y รุ่นล่าสุดได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ผ่าน Wi-Fi ที่เร็วขึ้น การดาวน์โหลดข้อมูลผ่านเครือข่ายมือถือที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพของโทรศัพท์ที่ดีขึ้น และไมโครโฟนที่คมชัดขึ้นสำหรับการโทรในรถ ซึ่งกล่าวกันว่าคมชัดขึ้นถึง 66%
ราคาและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน: คุ้มค่าในระยะยาว
Tesla Model Y Performance 2025 ไม่ใช่รถยนต์ที่มีราคาถูก ด้วยราคาเริ่มต้นที่อาจสูงกว่าคู่แข่งบางราย แต่เมื่อคุณพิจารณาถึงระดับของสมรรถนะที่ได้รับ ความสะดวกสบาย และคุณภาพการประกอบที่โดดเด่น มันก็กลายเป็นตัวเลือกที่ยอมรับได้มากขึ้น แม้จะยากที่จะเรียกได้ว่าเป็นรถยนต์ “ราคาถูก” ก็ตาม
สิ่งที่คุณจะได้รับคือประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ยอดเยี่ยม ต้องขอบคุณเทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบขับเคลื่อนขั้นสูงที่เทสลาใช้ ระยะทางขับขี่ที่เคลมไว้ 579 กิโลเมตร ไม่ได้แตกต่างจากความเป็นจริงมากนักตลอดการขับขี่ของผมทั้งวัน (และทั้งคืน) บนถนนที่หลากหลายและด้วยความเร็วที่แตกต่างกันไป นี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเดินทางไกลที่เชื่อถือได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ใช้ รถยนต์ไฟฟ้า ในปัจจุบัน
ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากแบรนด์ใหม่ๆ ที่เข้ามาท้าทาย เทสลา Model Y Performance ยังคงยืนหยัดในฐานะผู้นำ ด้วยการนำเสนอแพ็คเกจที่สมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านสมรรถนะสุดเร้าใจ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ความสะดวกสบายที่เหนือกว่า และคุณภาพการผลิตที่ปรับปรุงอย่างก้าวกระโดด มันไม่ใช่แค่รถยนต์ แต่เป็นประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตที่จับต้องได้ในปัจจุบัน
บทสรุปและคำเชิญชวน
จากการสัมผัสและทดสอบอย่างละเอียด เทสลา Model Y Performance 2025 ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นมากกว่าแค่ รถ SUV ไฟฟ้า ทั่วไป แต่เป็นนวัตกรรมที่ท้าทายขีดจำกัดของสิ่งที่เคยเป็นไปได้ในวงการยานยนต์ มันผสมผสานความเร็วที่ทำให้รถซูเปอร์คาร์ต้องหันมองเข้ากับความสบายในการขับขี่ที่เหมาะสำหรับชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว พร้อมด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทุกการเดินทางราบรื่นและน่าตื่นเต้น หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความล้ำหน้า ความหรูหราที่แฝงด้วยความสปอร์ต และสมรรถนะที่หาตัวจับยากในตลาด EV ปัจจุบัน
Model Y Performance 2025 คือคำตอบที่ชัดเจนอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยความเร้าใจและความสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน
อย่ารอช้าที่จะเปิดประสบการณ์การขับขี่ที่ไม่เหมือนใคร สัมผัสถึงความเหนือชั้นของ เทสลา Model Y Performance 2025 ด้วยตัวคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นการทดลองขับ การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ราคา และตัวเลือกต่างๆ หรือเข้าร่วมชุมชนผู้ใช้งานเทสลาที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาแล้วที่คุณจะได้ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเดินทาง ไปกับ รถ SUV ไฟฟ้า ที่จะเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อยานยนต์ไปตลอดกาล
