ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
“โตโยต้า” รั้งแชมป์ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของโลก 5 ปีติด แม้ยอดขายลด!
โดยPPTV Onlineเผยแพร่: 31 ม.ค. 2568
แชร์ :คัดลอกลิงก์
กลุ่มบริษัทโตโยต้า มอร์เตอร์ คอร์ป ยังรั้งแชมป์ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของโลก เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน แม้ยอดขายลด
กลุ่มบริษัทโตโยต้า มอร์เตอร์ คอร์ป ยังรั้งแชมป์ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยรักษาตำแหน่งไว้ได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน ไขณะที่ BYD ซึ่งเติบโตอย่างก้าวกระโดดในจีน เบียดแซงหน้าฮอนด้า และนิสสัน ในด้านยอดขายรถยนต์ได้เป็นครั้งแรก
สำนักข่าวเกียวโด ของญี่ปุ่น รายงานว่า โตโยต้า กรุ๊ป ซึ่งรวมถึงค่ายผู้ผลิตยานยนต์ขนาดเล็กอย่าง ไดฮัทสุ มอเตอร์ และบริษัทผู้ผลิตรถบรรทุก ฮิโนะ มอเตอร์ส ทำยอดขายรถยนต์รวมกันทั้งหมดได้ 10 ล้าน 8 แสน 2 หมื่นคันในปี 2024 ลดลง 3.7% จากปีก่อน
คอนเทนต์แนะนำ

“โตโยต้า-มาสด้า” ในญี่ปุ่น ระงับการผลิตรถยนต์ 5 รุ่น ปมผลทดสอบเท็จ

หากดูเฉพาะยอดขายของโตโยต้าอย่างเดียว จะอยู่ที่ 10 ล้าน 1 แสน 6 หมื่นคัน ลดลง 1.4% ซึ่งเป็นผลจากปัญหาเรื่องการฉ้อโกงผลการทดสอบด้านความปลอดภัย เพื่อออกใบรับรองรถยนต์ 7 รุ่นของบริษัท ซึ่งทำให้บริษัทต้องสั่งระงับการผลิตรถยนต์บางรุ่นเป็นการชั่วคราว โดยยอดขายรถโตโยต้าในประเทศญี่ปุ่น ลดลง 13.8% เหลือ 1 ล้าน 4 แสน 4 หมื่นคัน
เมื่อจำแนกยอดขายตามภูมิภาค ยอดขายของโตโยต้าในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 4.3% เป็น 2 ล้าน 7 แสน 3 หมื่นคัน ในขณะที่ยอดขายในยุโรปเพิ่มขึ้น 3.6% เป็น 1 ล้าน 1 แสน 7 หมื่นคัน เนื่องจากยอดการส่งออกรถยนต์รุ่นต่างๆ เช่น RAV4 (ราฟโฟร์) และ C-HR ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนยอดขายในจีนลดลง 6.9% เหลือ 1 ล้าน 7 แสน 8 หมื่นคัน ท่ามกลางการแข่งขันตัดราคากันอย่างหนักในตลาดรถจีน
โตโยต้ากล่าวเสริมว่า ยอดขายในภาพรวมยังอยู่ในระดับสูง เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการรถยนต์ไฮบริดที่เพิ่มขึ้น
โดยยอดขายรถยนต์ไฮบริดของโตโยต้าเพิ่มขึ้น 21.1% อยู่ที่ 4 ล้าน 1 แสน 4 หมื่นคัน โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดอเมริกาเหนือและยุโรป ท่ามกลางการชะลอตัวของรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทเติบโตขึ้น 34.5% อยู่ที่ 139,892 คัน
คู่แข่งสำคัญอย่าง โฟล์คสวาเกน บริษัทผู้ผลิตรถสัญชาติเยอรมัน มียอดขายทั่วโลกตามมาเป็นอันดับ 2 คือ 9 ล้าน 3 หมื่นคันเมื่อปีที่แล้ว
ส่วนอันดับ 3 คือ BYD ทำยอดขายได้ 4 ล้าน 2 แสน 7 หมื่นคันทั่วโลก เบียดแซงฮอนด้า ที่ทำยอดขายได้ 3 ล้าน 8 แสน 1 หมื่นคัน และนิสสัน ทำยอดขายได้ 3 ล้าน 3 แสน 5 หมื่นคัน ยอดขายของ BYD สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของจีน
สิงคโปร์คงอันดับสองในการจัดอันดับประเทศที่พร้อมใช้รถยนต์ไร้คนขับมากที่สุดเป็นปีที่สองติดต่อกัน
Article Posted date5 March 2019
เคพีเอ็มจีประกาศผลสำรวจเกี่ยวกับความพร้อมในการใช้รถยนต์ไร้คนขับในรายงาน 2019 Autonomous Vehicles Readiness Index (AVRI)Share
Related content
Singapore ranks second in KPMG Autonomous Vehicles Readiness Index for a second time running
KPMG announced the findings of its 2019 Autonomous Vehicles Readiness Index.
KPMG Thought Leadership | September 2025
Download a thought leadership pack.
KPMG Thought Leadership | July 2025
Download a thought leadership pack.
- เนเธอร์แลนด์คงแชมป์เป็นปีที่สองติดต่อกัน
- มีห้าประเทศที่ติดอันดับผลสำรวจเคพีเอ็มจีเป็นปีแรก ได้แก่ นอร์เวย์ ฟินแลนด์ อิสราเอล สาธารณรัฐเช็ก และฮังการี
- ใหม่สำหรับ พ.ศ. 2562: แบบสำรวจความเห็นผู้บริโภคใน 25 ประเทศเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับ
5 มีนาคม พ.ศ. 2562 – เคพีเอ็มจีประกาศผลสำรวจเกี่ยวกับความพร้อมในการใช้รถยนต์ไร้คนขับในรายงาน 2019 Autonomous Vehicles Readiness Index (AVRI) จากผลสำรวจ ประเทศเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่พร้อมที่สุดสำหรับการใช้รถยนต์ไร้คนขับอีกเช่นเคย ตามมาด้วย สิงคโปร์ นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และสวีเดน
“ผลสำรวจ AVRI บ่งชี้ว่าแต่ละประเทศมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการเตรียมความพร้อมสำหรับรถยนต์ไร้คนขับ” ริชาร์ด เธรลฟอลล์ ประธาน ฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว “ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลของแต่ละประเทศมุ่งที่จะสนับสนุนการพัฒนาระบบขนส่งให้ทันสมัย และสร้างให้เกิดความมั่นใจว่านวัตกรรมรถยนต์และรถบรรทุกไร้คนขับจะสร้างประโยชน์ต่อประเทศได้อย่างแท้จริง”
จากผลสำรวจ AVRI 10 ประเทศที่พร้อมสำหรับการใช้รถยนต์ไร้คนขับในอนาคตมากที่สุด แสดงได้ดังนี้
| ประเทศ | อันดับในปี พ.ศ. 2562 | อันดับในปี พ.ศ. 2561 |
| เนเธอร์แลนด์ | #1 | #1 |
| สิงคโปร์ | #2 | #2 |
| นอร์เวย์ | #3 | ใหม่ |
| สหรัฐอเมริกา | #4 | #3 |
| สวีเดน | #5 | #4 |
| ฟินแลนด์ | #6 | ใหม่ |
| สหราชอาณาจักร | #7 | #5 |
| เยอรมนี | #8 | #6 |
| สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | #9 | #8 |
| ญี่ปุ่น | #10 | #11 |
ประเด็นสำคัญจากสองประเทศที่พร้อมใช้รถยนต์ไร้คนขับมากที่สุด
§ ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งได้ครองอันดับหนึ่งเป็นปีที่สองติดต่อกัน กำลังร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านในการนำเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับมาใช้ในการขนส่งสินค้า และมีแผนการนำรถบรรทุกไร้คนขับกว่า 100 คันมาใช้ในการขนส่งระหว่างเส้นทางหลัก จากเมืองอัมสเตอร์ดัม ไปยังเมืองแอนต์เวิร์ป และเมืองรอตเทอร์ดาม ไปจนถึงหุบเขารัวร์
§ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้อันดับ 2 ได้มีการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในการสร้างเมืองจำลองสำหรับทดลองใช้รถยนต์ไร้คนขับ โดยในเมืองดังกล่าวได้สร้างให้มีไฟจราจร ป้ายรถเมล์ ตึกสูง และเครื่องทำฝนเทียม เพื่อสร้างสภาพอากาศที่ร้อนชื้นเพื่อให้สะท้อนถึงภูมิอากาศของประเทศในเขตร้อนชื้น
คุณธิดารัตน์ ฉิมหลวง ประธานฝ่ายดูแลลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม เคพีเอ็มจี ประเทศไทย กล่าวว่า
“ปัจจุบันโลกเราอยู่ในยุคปฏิวัติการคมนาคมขนส่ง เทคโนโลยีกำลังพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์ และนวัตกรรมกำลังก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ประเทศไทยพร้อมต่อการใช้รถยนต์ไร้คนขับ จำเป็นต้องมีการพิจารณา และปรับกฎหมายให้รองรับ มีการวางผังเมือง และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมต่อการใช้รถยนต์ไร้คนขับ และสิ่งสำคัญคือต้องมีตลาดรองรับ โดยในอีกหนึ่งมุมมองหนึ่ง ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก เราเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่ผู้ประกอบการจะขยายศักยภาพจากการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ ให้ครอบคลุมสู่การเป็นศูนย์กลางการพัฒนาซอฟต์แวร์ในการควบคุมยานยนต์ เพื่อคงไว้ซึ่งการเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก”
ผลสำรวจ AVRI ในปี พ.ศ. 2562 มีประเทศใหม่ติดอันดับ 5 ประเทศ
- ประเทศนอร์เวย์ (อันดับ 3): อนุญาตให้มีการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับบนถนนสาธารณะ โดยผู้ประกอบการได้เริ่มให้บริการรถประจำทางไร้คนขับในวงแคบ นอกจากนี้ได้มีแผนการทดลองใช้แท็กซี่ไร้คนขับในปี พ.ศ. 2562
- ประเทศฟินแลนด์ (อันดับ 6): ฟินแลนด์กำลังมุ่งพัฒนารถยนต์ไร้คนขับให้สามารถใช้ได้ในสภาพอากาศหนาวเย็น และพัฒนาระบบอัตโนมัติสำหรับรถประจำทาง นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนสีเส้นบนท้องถนนจากสีเหลืองเป็นสีขาวเพื่อให้เหมาะกับการใช้รถยนต์ไร้คนขับมากขึ้น
- อิสราเอล (อันดับ 14): จุดแข็งของประเทศอิสราเอลในการใช้รถยนต์ไร้คนขับคือภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศที่เน้นการส่งออก ซึ่งช่วยให้ประเทศอิสราเอลมีคะแนนนำในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม นอกจากนี้อิสราเอลยังมีการวางมาตรการพิเศษสำหรับการร่วมมือทางธุรกิจ การลงทุน และการก่อตั้งสำนักงานใหญ่
- สาธารณรัฐเช็ก (อันดับ 19): การจัดตั้งสถานที่ทดสอบรถยนต์ไร้คนขับของสาธารณรัฐเช็กมีแนวโน้มจะช่วยเสริมภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือในการเป็นผู้ผลิตรถยนต์ของภูมิภาค
- ฮังการี (อันดับ 21): การปรับเปลี่ยนกฎหมาย การทดสอบการใช้รถยนต์ไร้คนขับในเชิงพาณิชย์ที่สนามทดสอบแห่งใหม่ และวงการสตาร์ทอัพด้านรถยนต์ไร้คนขับที่ตื่นตัว ช่วยให้ฮังการีติดอันดับประเทศที่มีความพร้อมในการใช้รถยนต์ไร้คนขับ
แบบสำรวจผู้บริโภคพบว่าผู้บริโภคมีความเห็นเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับที่ผสมผสาน
ใหม่ในปีนี้ เคพีเอ็มจีได้เพิ่มการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคเพื่อให้เข้าใจถึงความรู้สึกของผู้บริโภคต่อรถยนต์ไร้คนขับมากยิ่งขึ้น จากผลสำรวจพบว่าประเทศที่พร้อมต่อการใช้รถยนต์ไร้คนขับในระดับรองๆ ลงมากลับให้ความสนใจในการใช้รถยนต์ไร้คนขับมากที่สุด โดยประเทศเหล่านี้ได้แก่ประเทศอินเดีย (อันดับ 24) และเม็กซิโก (อันดับ 23)
“ท้ายที่สุดแล้ว ผู้บริโภคจะเป็นแรงผลักดันการใช้รถยนต์ไร้คนขับ” เธรลฟอลล์ กล่าว “ตราบใดที่ผู้บริโภคยังไม่เปิดรับรถยนต์ไร้คนขับเป็นวงกว้าง ก็ยากที่ตลาดรถยนต์ไร้คนขับจะพัฒนาและสร้างประโยชน์ได้ ผู้บริโภคในประเทศที่พัฒนาน้อยกว่ามีความสนใจที่จะเปิดรับรถยนต์ไร้คนขับมากกว่า ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแบบดั้งเดิมแบบก้าวกระโดด ในส่วนของผู้บริโภคในประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่พัฒนาแล้วนั้น มีความสนใจในการใช้รถยนต์ไร้คนขับที่น้อยกว่า ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการชะลอในการนำรถยนต์ไร้คนขับมาใช้งาน”
ในรายงานมีคำอธิบายเชิงลึกเกี่ยวกับปัจจัยที่จะทำให้แต่ละประเทศสามารถเตรียมความพร้อมในการใช้รถยนต์ไร้คนขับได้ โดยมีการประเมินความพร้อมของ 25 ประเทศทั่วโลก ซึ่งเพิ่มจากปีแรกของการทำวิจัย AVRI ที่จัดทำการประเมิน 20 ประเทศ แต่ละประเทศที่ถูกประเมินนั้นจะต้องผ่านการวัดผลใน 4 ด้านหลักด้วยกัน ประกอบไปด้วย 1) นโยบายและกฎหมาย 2) เทคโนโลยีและนวัตกรรม 3) โครงสร้างพื้นฐาน 4) การยอมรับของผู้บริโภค ซึ่งใน 4 ด้านหลักนี้ยังประกอบไปด้วย 25 ข้อย่อยที่สะท้อนด้านต่างๆ ตั้งแต่ความพร้อมของกฎหมายในการรองรับรถยนต์ไร้คนขับ ไปจนถึงสภาพของถนน
การแสดงการจัดอันดับทั้งหมดของปี 2562 แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่มีความพร้อมใช้รถยนต์ไร้คนขับเมื่อเทียบกับปี 2561 และพบว่ามีบางประเทศจาก 5 ประเทศที่เพิ่งเข้ามาประเมินในปี 2562 ได้เข้ามาอยู่ในอันดับต้นๆ ของการจัดอันดับความพร้อมใช้รถยนต์ไร้คนขับ โดยมีรายละเอียดดังนี้
| ประเทศ | อันดับในปี พ.ศ. 2562 | อันดับในปี พ.ศ. 2561 | ประเทศ | อันดับในปี พ.ศ. 2562 | อันดับในปี พ.ศ. 2561 |
| เนเธอร์แลนด์ | #1 | #1 | อิสราเอล | #14 | ใหม่ |
| สิงคโปร์ | #2 | #2 | ออสเตรเลีย | #15 | #14 |
| นอร์เวย์ | #3 | ใหม่ | ออสเตรีย | #16 | #12 |
| สหรัฐอเมริกา | #4 | #3 | ฝรั่งเศส | #17 | #13 |
| สวีเดน | #5 | #4 | สเปน | #18 | #15 |
| ฟินแลนด์ | #6 | ใหม่ | สาธารณรัฐเช็ก | #19 | ใหม่ |
| สหราชอาณาจักร | #7 | #5 | จีน | #20 | #16 |
| เยอรมนี | #8 | #6 | ฮังการี | #21 | ใหม่ |
| สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ | #9 | #8 | รัสเซีย | #22 | #18 |
| ญี่ปุ่น | #10 | #11 | เม็กซิโก | #23 | #19 |
| นิวซีแลนด์ | #11 | #9 | อินเดีย | #24 | #20 |
| แคนาดา | #12 | #7 | บราซิล | #25 | #17 |
| เกาหลีใต้ | #13 | #10 |
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AVRI และผลประเมินของแต่ละประเทศได้ที่ https://home.kpmg/th/en/home/insights/2019/01/global-automotive-executive-survey-2019.html.
English version: Singapore ranks second in KPMG Autonomous Vehicles Readiness Index for a second time running
เกี่ยวกับ AVRI
รายงาน Autonomous Vehicles Readiness Index (AVRI) ถูกทำขึ้นเพื่อศึกษาความพร้อมและการยอมรับในการใช้รถยนต์ไร้คนขับของแต่ละประเทศ โดยได้มีการสำรวจทั้งหมด 25 ประเทศ ซึ่งคัดเลือกจากขนาดเศรษฐกิจ และความก้าวหน้าในการใช้รถยนต์ไร้คนขับ แต่ละประเทศจะถูกประเมินตาม 25 ด้านย่อยที่แตกต่างกัน ภายใต้ 4 ด้านหลัก คือ 1) นโยบายและกฎหมาย 2) เทคโนโลยีและนวัตกรรม 3) โครงสร้างพื้นฐาน 4) การยอมรับของผู้บริโภค โดยแต่ละด้านมีคะแนนที่เท่ากัน และใช้การประเมินจากทั้งข้อมูลปฐมภูมิและข้อมูลทุติยภูมิ
ระเบียบวิธีการประเมินความคิดเห็นผู้บริโภค
เคพีเอ็มจีร่วมมือกับ ESI ThoughtLab ในการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภคใน 25 ประเทศ เกี่ยวกับทัศนคติ และแนวโน้มที่จะใช้รถยนต์ไร้คนขับ หากมีรถยนต์ไร้คนขับผลิตออกสู่ตลาด โดยแบบสำรวจครอบคลุมด้านประชากรศาสตร์ และข้อมูลเกี่ยวกับความเห็นคิดและความต้องการโดยสารรถยนต์ไร้คนขับ นอกจากนี้ แบบสำรวจยังมีคำถามที่ครอบคลุมการโดยสารประเภท rideshare และการขนส่งควบคู่กับการให้บริการ (mobility-as-a-service – MaaS) อีกด้วย
เกี่ยวกับเคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล
เคพีเอ็มจี เป็นเครือข่ายระดับโลกของบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการสอบบัญชี ภาษี และการให้คำปรึกษา เราดำเนินงานใน 153 ประเทศ และมีพนักงานมากกว่า 207,000 คน ที่ทำงานร่วมกันในบริษัทสมาชิกทั่วโลก บริษัทที่เป็นสมาชิกเครือข่ายเคพีเอ็มจีจะถือเป็นสมาชิกของเคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล (KPMG International) เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นบริษัทสัญชาติสวิส ทั้งนี้ แต่ละบริษัทที่เป็นสมาชิกเคพีเอ็มจีเป็นนิติบุคคลที่แยกต่างหากจากกัน และมีอิสระตามกฎหมาย
เกี่ยวกับ เคพีเอ็มจี ประเทศไทย
เคพีเอ็มจี ประเทศไทย เป็นสมาชิกของ เคพีเอ็มจี อินเตอร์เนชั่นแนล ที่มีเครือข่ายทั่วโลก ซึ่งให้บริการด้านตรวจสอบบัญชี ภาษีและกฎหมาย และให้คำปรึกษาทางธุรกิจ ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 1,700 คน

