ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
ย้อนรอย 5 เหตุการณ์ตึกถล่ม ที่ร้ายแรงที่สุดในโลก(ไทยติดด้วย)
สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com …. ไม่รู้มีใครแถวนี้ติดตามข่าวเรื่อง “ตึกถล่มที่บังกลาเทศ” กันบ้างมั้ย? พี่เป้ แอบตามข่าวเรื่อยๆ เห็นภาพข่าวทีไรก็สลดใจทุกครั้งค่ะ ดังนั้นคอลัมน์วัฒนธรรมต่างประเทศในสัปดาห์นี้ จะลองขอพูดถึง “เหตุการณ์ตึกถล่มที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก”
จริงๆ แล้วการที่ตึกหนึ่งจะถล่มลงมา มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดเลยนะคะ แต่ถ้าเกิดแล้วล่ะก็ มูลค่าความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินนี่ประเมินค่าไม่ได้จริงๆ ค่ะ เราลองมาดูดีกว่าว่า 5 อันดับเหตุการณ์ตึกถล่มที่รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในโลกใบนี้ มันเกิดขึ้นที่ไหนบ้าง?
อันดับ 5 ตึกธาเน เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย
จำนวนผู้เสียชีวิต 74 คน
วันที่เกิดเหตุ 4 เมษายน 2556
เรียกว่าเป็นเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่นานนี้เองค่ะ แต่หลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ทราบกันเท่าไหร่ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เขตธาเน เมืองมุมไบ รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย โดยตึกธาเนเป็นตึกสูง 7 ชั้นซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีการซ่อมแซมปรับสภาพโครงสร้างทั้งภายนอกภายใน จริงๆ ได้รับการอนุญาตให้สร้างเพียง 4 ชั้นค่ะ ส่วนอีก 3 ชั้นที่เหลือได้แอบสร้างอย่าง “ผิดกฎหมาย”
ผู้เสียชีวิตส่วนมากเป็นเหล่าคนงานที่ใช้อาคารธาเนเป็นที่นอนพัก โดยเสียชีวิต 74 คน และรอดชีวิตร้อยกว่าคน โดยใช้เวลาค้นหาร่างผู้รอดชีวิตเพียง 2 วันเท่านั้น
อันดับ 4 โรงแรมรอยัลพลาซ่า จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย
จำนวนผู้เสียชีวิต 137 ราย
วันที่เกิดเหตุ 13 สิงหาคม 2536
เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาครบ 20 ปีพอดีกับเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าที่โคราช โดยในสมัยนั้น โรงแรมรอยัลพลาซ่า หรือชื่อเดิมว่าโรงแรมเจ้าพระยาเมืองใหม่ เป็นโรงแรมหรูอันดับต้นๆ ของจังหวัดโคราช ซึ่งในตอนแรกโรงแรมมีเพียง 3 ชั้น แต่ต่อมามีนักท่องเที่ยวและลูกค้าเข้ามาพักเรื่อยๆ จึงได้ตัดสินใจสร้างเพิ่มเป็น 6 ชั้นเพื่อรับรองลูกค้า แต่ก็ทำโดยผิดหลักการก่อสร้างและวิศวกร เช่น ลักลอบต่อเติมอาคารอย่างไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะการตัดเสาขนาดใหญ่ตรงกลางห้องอาหารของโรงแรมทิ้ง หวังเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และต้องการให้แขกสามารถเห็นนักร้องได้ชัดเจนขึ้น!! (เหตุผลอะไรเนี่ย)
จนวันที่ 13 สิงหาคม 2536 ตัวโรงแรมเกิดการทรุดตัวอย่างแรงและถล่มลงมาทั้งตึก เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วพื้นที่ ซึ่งขณะนั้นมีคนอยู่ในโรงแรมประมาณ 500 กว่าคน สุดท้ายแล้วได้ทำการค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นเวลา 6 วัน รวมยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมด 137 ราย และศาลได้ตัดสินจำคุกวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้างโรงแรม ส่วนเจ้าของโรงแรมนั้นถูกยกฟ้องเพราะศาลวินิจฉัยว่าไม่มีความผิดเพราะไม่มีความรู้ด้านก่อสร้าง บทสรุปคือ ญาติผู้เสียชีวิตได้รับเงินชดเชยรายละ 80,000 บาท และผู้พิการได้รับชดเชยรายละ 50,000 บาทค่ะ

และที่สำคัญ วันที่ 13 สิงหาคม 2536 ที่เกิดเหตุนั้น ตรงกับวันศุกร์ 13 ด้วยค่ะ จึงเป็นเรื่องที่คนรุ่นก่อนจำเหตุการณ์นี้กันได้แม่นในชื่อของ “ตึกถล่มศุกร์ 13” นั่นเอง และทุกๆ ปีในวันที่ 13 สิงหาคม จะมีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลครั้งใหญ่ในบริเวณที่เคยเกิดเหตุให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วยค่ะ
อันดับ 3 ห้างสรรพสินค้าซัมพุง กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
จำนวนผู้เสียชีวิต 502 คน
วันที่เกิดเหตุ 29 มิถุนายน 2538
เป็นเหตุการณ์ตึกถล่มที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ขึ้นชื่อว่าห้างสรรพสินค้าแล้ว คนเยอะแน่นอน แถมยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเย็นซึ่งมีผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยเยอะอยู่ด้วย ยิ่งทำให้ยอดเหยื่อจากเหตุการณ์ครั้งนี้สูงถึงครึ่งพัน และมีผู้บาดเจ็บอีกเกือบพันคนทีเดียวค่ะ
ห้างซัมพุงก่อสร้างเพียง 6 ปีก่อนจะถล่มลงมา เดิมมี 4 ชั้นและใช้เป็นตึกที่พักอาศัย แต่ได้ต่อเติมชั้นที่ 5 ขึ้นอย่างไม่ถูกต้องเพื่อเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้า ไม่หมดเท่านั้นนะคะ ข้างบนยังสร้างสระน้ำอีกด้วย!(ไม่อยากคิดว่าจะหนักขนาดไหน) ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเหตุการณ์ถล่มของห้างซัมพุงนั้นเกิดขึ้นเพียง 10 วินาที และผู้รอดชีวิตที่ถูกพบร่างคนสุดท้ายนั้นมีชื่อว่า ปาร์คซึงฮยอน เธออายุ 19 ปี ณ ขณะนั้น และติดอยู่ในซากมาแล้ว 17 วัน!!
อันดับ 2 ตึกรานาพลาซ่า เมืองซาวาร์ ประเทศบังกลาเทศ
จำนวนผู้เสียชีวิต ทะลุ 1,000 ศพ และคาดว่าจะพุ่งสูงกว่านี้
วันที่เกิดเหตุ 24 เมษายน 2556
นี่คือเหตุการณ์ระทึกขวัญที่เกิดขึ้นล่าสุดของโลกค่ะ เมื่อตึกรานาพลาซ่าซึ่งสูง 8 ชั้น และภายในตึกเป็นที่ทำงานของคนงานนับพันคนของโรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป ได้ถล่มลงมาอย่างรุนแรง ฝังร่างผู้คนกว่า 3 พันคนที่กำลังทำงานอยู่ในเวลานั้น ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มีการพบรอยร้าวของตึก แต่ผู้บริหารโรงงานก็ยังบังคับให้คนงานกลับเข้าไปทำงาน!!
สุดท้ายตึกนี้ได้ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตอยู่เรื่อยๆ แต่ใกล้จะสิ้นสุดแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตก็พุ่งขึ้นทุกวัน และ ณ วันนี้ (15 พฤษภาคม)ได้ทะลุถึงพันศพ และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 พันกว่าคน ซึ่งคาดว่าตัวเลขไม่หยุดเท่านี้แน่นอน เจ้าหน้าที่ที่ทำค้นหาร่างผู้เสียชีวิตก็ได้แต่ปล่อยก๊าซออกซิเจนเข้าไปในตัวตึก เพื่อหวังจะให้ผู้ที่ยังติดในซากได้มีอากาศหายใจและหวังว่าจะมีโอกาสเจอผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่ลงก็ตามที
เรื่องนี้ได้กลายเป็นประเด็นอื่นๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพชีวิตของคนงานในประเทศโลกที่สามอย่างบังกลาเทศ น้องๆ หลายๆ คนอาจจะใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดังๆ เคยสังเกตป้ายที่ติดตรงคอเสื้อมั้ยคะว่า หลายๆ แบรนด์นั้น Made in Bangladesh เนื่องจากแรงงานในบังกลาเทศมีราคาถูก สามารถประหยัดต้นทุนได้มาก แบรนด์ดังหลายๆ แบรนด์จึงนิยมเลือกใช้แรงงานเสื้อผ้าในบังกลาเทศนี่แหละค่ะ จึงมีผู้คนจำนวนมากอดนึกเปรียบเทียบไม่ได้ว่า ในขณะที่เจ้าของแบรนด์ต่างๆ รวยเอาทุกวัน แต่แรงงานในบังกลาเทศที่เป็นแรงงานผลิตกลับต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก รวมถึงต้องจบชีวิตอย่างน่าสงสารด้วยโศกนาฏกรรมครั้งนี้….
อันดับ 1 ตึกแฝดเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ นิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
จำนวนผู้เสียชีวิต 3,400 คน
วันที่เกิดเหตุ 11 กันยายน 2544
เป็นเหตุการณ์ที่คนทั้งโลกไม่มีวันลืมค่ะ นั่นก็คือเหตุการณ์ 9/11 นั่นเอง พี่เป้ จำได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้าของอเมริกา ซึ่งก็จะตรงกับช่วงค่ำของบ้านเรา ที่บ้านกำลังนอนดูละครช่อง 7 กัน อยู่ดีๆ ทีวีทุกช่องก็ตัดเข้าข่าวเรื่องนี้อย่างกะทันหัน
เหตุการณ์นี้เป็นชุดการโจมตีพลีชีพในนครนิวยอร์กและพื้นที่วอชิงตัน ดี.ซี. โดยผู้ก่อการร้ายหัวรุนแรงอัลกออิดะฮ์ ได้ทำการจี้เครื่องบินโดยสารจำนวน 4 ลำ โดย 2 ลำแรกพุ่งเข้าชนกับตึกแฝดเวิล์ดเทรดเซ็นเตอร์ ทำให้ตึกถล่มลงมาอย่างรุนแรง ส่วนอีก 2 ลำนั้น มีลำหนึ่งพุ่งเข้าชนอาคารเพนตาก่อนในรัฐเวอร์จิเนีย ส่วนอีกลำตั้งใจจะพุ่งชนอาคารรัฐสภา แต่กลับตกก่อนที่รัฐเพนซิลเวเนีย ไม่มีผู้โดยสารรอดชีวิตเลยจากเครื่องบินทั้ง 4 ลำ และเมื่อรวมกับผู้เสียชีวิตที่เกิดจากตึกถล่มทั้งหมดแล้ว รวมทั้งสิ้นประมาณ 3,400 คน ถือเป็นเหตุการณ์ตึกถล่มที่รุนแรงที่สุดในโลกค่ะ
และจากวันนั้นเป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกาก็ได้พยายามตามล่าผู้ที่ถูกเชื่อว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้าย นั่นก็คือ อุซามะฮ์ บิน ลาดิน จนในที่สุดเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2554 บารัก โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาแถลงยืนยันผ่านทางโทรทัศน์ว่า บิน ลาดิน ได้เสียชีวิตลงแล้วจากการปฏิบัติการพิเศษของหน่วยซีล (SEAL) ค่ะ เหมือนเป็นการปิดบัญชีของเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่สะเทือนขวัญคนทั่วโลก
จากเหตุการณ์ส่วนมากจะพบว่า สาเหตุหลักๆ ก็ไม่พ้น “การก่อสร้างหรือเติมอาคารอย่างไม่ถูกหลัก” นั่นเอง สุดท้ายแล้วผู้ที่รับเคราะห์ก็คือคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยสักนิด T^T ซึ่งก็หวังว่าจะเป็นข้อเตือนใจแก่คนที่คิดจะสร้างอาคารสูงว่า หากคุณขาดคุณธรรมล่ะก็ นั่นหมายถึงคุณกำลังจะฆ่าคนอีกนับร้อยนับพันเลยล่ะค่ะ
10 อันดับบริษัทใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
Posted bySanกุมภาพันธ์ 26, 2025No Comments
ต่อไปนี้เป็น 10 บริษัทมหาชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดอันดับตามรายได้ (2025):
- บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) : บริษัทน้ำมันและก๊าซของรัฐที่เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ โดยมีรายได้ประมาณ 89,870 ล้านเหรียญสหรัฐ
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) : ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในประเทศไทย โดยมีรายได้ประมาณ 25,990 ล้านเหรียญสหรัฐ
- บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR : เป็นบริษัทย่อยของ PTT ดำเนินธุรกิจในธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก มีรายได้ประมาณ 21,050 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) : อีกหนึ่งบริษัทในเครือ PTT ที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ โดยมีรายได้ 17,700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ : กลุ่มบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร มีรายได้ 17,010 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) : บริษัทด้านพลังงานที่ประกอบธุรกิจการกลั่นและค้าปลีก โดยมีรายได้ 16,750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
- บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVLผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ระดับโลก รายงานรายได้ 15.80 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
- บริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) : กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง โดยมีรายได้ 14.86 พันล้านเหรียญสหรัฐ
- บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) (TOP) : เป็นบริษัทกลั่นน้ำมัน มีรายได้ 13,260 ล้านเหรียญสหรัฐ
- บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) (IRPC) : ประกอบธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมี มีรายได้ 9.16 พันล้านเหรียญสหรัฐ
บริษัทเหล่านี้ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม รวมถึงพลังงาน การค้าปลีก ปิโตรเคมี และการผลิตอาหาร สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจประเทศไทย

