ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับ เมืองอันตรายที่สุดในอเมริกา อัตราก่ออาชญากรรมสูงที่สุด

Muzika
2 มิถุนายน 2563 ( 16:40 )
38.7K
2
ในประเทศสหรัฐอเมริกา มีอัตราคดีอาชญากรรมสูงถึง 1.2 ล้านคดีในแต่ละปี ไม่ว่าจะด้วยการปล้นชิงทรัพย์ ข่มขืน ทำร้ายร่างกาย ไปจนถึงฆาตกรรม จากรายงานของ the FBI’s 2018 Uniform Crime Reporting Program ได้ทำการรวบรวมข้อมูลออกมาเป็นสรุปรายงาน รัฐที่มีความอันตรายสูงที่สุดในอเมริกา 10 อันดับ จากทั้งหมด 50 รัฐ ดังนี้

10. เมืองสต็อกตัน, แคลิฟอร์เนีย
Stockton, California
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,399 ต่อประชากร 100,000 คน

เมืองสต็อกตัน เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย และเป็นเมืองศูนย์กลางของบรรดานักแสวงโชคในยุคตื่นทอง สมัยศตวรรษที่ 19 แต่หลังจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจช่วงปี 2008-2012 กิจการต่างๆ ที่นี่ต่างทยอยล้มละลาย เกิดอัตราว่างงานสูง แม้หลังจากปี 2103 สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจะเริ่มดีขึ้น แต่การจ้างงานก็ยังคงต่ำลงเช่นเดิม
9. เมืองมิลวอกี, วิสคอนซิน
Milwaukee, Wisconsin
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,413 ต่อประชากร 100,000 คน

มิลวอกีเป็นเมืองที่มีชื่อด้านอุตสาหกรรมโรงกลั่นสุรา แต่จากปัญหาที่ในเมืองเกิดการระบาดของยาแก้ปวดที่มีสารสกัดจากฝิ่น ( opium) จึงทำให้เมืองนี้มีอัตราการก่ออาชญากรรมที่สูง
8. ลิตเติ้ลร็อค, อาร์คันซอ
Little Rock, Arkansas
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,446 ต่อประชากร 100,000 คน

เมืองลิตเติ้ลร็อค แม้ชื่อจะฟังไม่มีพิษภัยแต่ความไม่ปลอดภัยนั้นสูงมาก โดยเฉพาะอาชญากรรมที่มุ่งเป้าที่ทรัพย์สิน เช่น การลักขโมย ปล้นชิงทรัพย์ ฯลฯ
7. คลีฟแลนด์, โอไฮโอ
Cleveland, Ohio
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,449 ต่อประชากร 100,000 คน

เมืองคลีฟแลนด์มีปัญหาความยากจน และอัตราว่างงานในระดับที่น่าเป็นห่วง ลูกจ้าง 6.5% ถูกเลิกจ้าง อัตราการก่อเหตุในเมืองนี้จึงสูงกว่าเมืองอื่นๆ ในอเมริกาถึง 4 เท่า
6. แคนซัสซิตี้, มิสซูรี
Kansas City, Missouri
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,590 ต่อประชากร 100,000 คน

แคนซัสซิตี้เป็นเมืองที่หลายๆ คนรู้สึกไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นที่ที่มีการก่ออาชญากรรมได้เลย ปัญหาความยากจนก็น้อย อัตราว่างงานก็ต่ำ แต่กลับมีคดีฆาตกรรมสูงกว่าที่อื่น
5. เซนต์หลุยส์, มิสซูรี
St. Louis, Missouri
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,800 ต่อประชากร 100,000 คน

ยังคงอยู่ที่รัฐมิสซูรี กับเมืองเซนต์หลุยส์ เมืองที่อันตรายที่สุดของรัฐนี้ ที่อัตราส่วนของคดีฆาตกรรมนั้นสูงถึง 61 คดีต่อประชากร 100,000 คน นั่นจึงทำให้ที่นี่มีจำนวนคดีฆาตกรรมสูงที่สุดในประเทศอีกด้วย สิ่งที่น่าสังเกตก็คือ รัฐมิสซูรีนี้มีกฎหมายที่อนุญาตให้สามารถครอบครอง และพกพาอาวุธปืนได้โดยไม่ต้องผ่านคอร์สอบรมฝึกฝนการใช้อาวุธปืนมาก่อนด้วย
4.บัลติมอร์, แมรี่แลนด์
Baltimore, Maryland
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,833 ต่อประชากร 100,000 คน

เมืองบัลติมอร์นั้นมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน 1 ใน 3 ของสิ่งก่อสร้างในเมืองล้วนมีประวัติศาสตร์มายาวนานทั้งสิ้น แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเมืองที่มีคดีฆาตกรรมสูง คดีปล้นนั้นสูงถึง 837 คดีต่อประชากร 100,000 คน และไม่มีทีท่าว่าสถินี้จะลดลงแต่อย่างใด
3. เบอร์มิงแฮม, อลาบามา
Birmingham, Alabama
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,911 ต่อประชากร 100,000 คน

เบอร์มิงแฮม หนึ่งในเมืองที่เป็นศูนย์กลางการธนาคารของประเทศ แต่นอกเหนือจากการเติบโตทางธุรกิจแล้ว อัตราอาชญากรรมกลับสูงตาม มากกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศถึง 112% โดยเฉพาะคดีทำร้ายร่างกาย และฆาตกรรม
2. เมมฟิส, เทนเนสซี
Memphis, Tennessee
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 1,943 ต่อประชากร 100,000 คน

เมืองเมมฟิส เป็นเมืองที่มีการก่ออาชญากรรมสูงที่สุดของอเมริกาทางตอนใต้ มีการก่อคดีด้วยอาวุธปืนสูงมาก
1. ดีทรอยต์, มิชิแกน
Detroit, Michigan
- อัตราการก่ออาชญากรรม : 2,007 ต่อประชากร 100,000 คน

อันดับ 1 นั้นเป็นของเมืองดีทรอยต์ ที่ปัจจุบันยังมีจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปี จากเมื่อก่อนช่วงปี 1950 ที่มีประชากรถึง 1.8 ล้านคน เหลือเพียง 700,000 คนในปัจจุบัน มีจำนวนผู้ว่างงาน 9% และคนยากจนถึง 37.9% ตึกรามบ้านช่อง และโรงงานในเมืองต่างถูกทิ้งร้าง ทำให้ที่นี่กลายเป็นเมืองที่อันตรายที่สุดของอเมริกา
10 อันดับ โรงแรมที่แพงที่สุดในโลก
แชร์ 
คัดลอกลิงก์
7 สิงหาคม 2557 (16:44) โพสท์โดย I sea u
อันดับ 10 Queen Charlotte Lodge ประเทศแคนาดา : 2,800 เหรียญต่อคืน
Queen Charlotte Lodge เป็นโรงแรมหรูหรา แต่ให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน และคนที่ชอบการตกปลาจะต้องไม่พลาดที่จะมาพักผ่อนที่นี่พร้อมกิจกรรมตกปลาใกล้ Naden Harbour หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การตกปลากัน ที่นี่เป็นที่พักผ่อนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัว หรือปาร์ตี้ริมหาดแบบส่วนตัวกับบรรดาคนสนิท



อันดับ 9 Hotel Cala di Volpe ประเทศอิตาลี : 2,939 เหรียญต่อคืน
Hotel Cala di Volpe ถูกออกแบบ และวางดีไซน์ในคอนเซ็ปต์และบรรยากาศของหมู่บ้านชาวประมงแบบดั้งเดิม ห้องพักส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อให้ระลึกถึงเสน่ห์อันลึกลับของท้องทะเลแห่งนี้ รวมถึงการตกแต่งภายในที่เป็นเฉดสีแบบพาสเทล และมีส่วนเค้าส่วนโค้งในเกือบทุกแห่งในโรงแรม นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร คลับ บาร์ระดับโลกให้ได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนอย่างโรแมนติกกับอาหารทะเลสดใหม่ หรือถ้าใครมองหาที่จัดงานกาล่าร์ดินเนอร์อยู่ ที่นี่ล่ะเหมาะเหม็ง !



อันดับที่ 8 Mnemba Island Lodge สาธารณรัฐแทนซาเนีย : 3,100 เหรียญต่อคืน
Mnemba Island Lodge เป็นรีสอร์ทส่วนตัวโดยเฉพาะ ตั้งอยู่บนเกาะเพียงแห่งเดียวในน่านน้ำสีฟ้าของมหาสมุทรอินเดีย และล้อมรอบด้วยแนวปะการังสวยงาม เป็นอีกหนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับการดำน้ำในทวีปแอฟริกา Mnemba ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในโลกที่นำเสนอเอกลักษณ์ที่เรียบง่าย และความเป็นส่วนตัวบนชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ยังมีโซนอนุรักษ์เต่ายักษ์ ปลาเขตร้อนและปูที่พบในแนวปะการัง และท้องทะเลอีกด้วย



อันดับ 7 King Pacific Lodge ประเทศแคนาดา
King Pacific Lodge สร้างขึ้นบนเกาะ Princess Royal Island ในป่า The Great Bear Rain forest ประเทศแคนาดา ที่นี่มีอากาศเย็นสบายๆ แบบป่าดิบชื้นไม่ได้หนาวเย็นจัด ผู้เข้าพักสามารถเดินทางมาที่นี่โดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ หรือเครื่องบินทะเลจากเมืองแวนคูเวอร์ได้ การมาเข้าพักที่นี่นอกจากความหรูหราครบถ้วนแล้วยังให้รสชาติของการผจญภัย เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ล้อมรอบด้วยพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าที่ยอดเยี่ยม ทั้งวาฬ, วาฬเพชรฆาต, นกอินทรีหัวล้าน และให้บรรยากาศของน่านน้ำแปซิฟิกอย่างชัดเจน รวมถึงการเดินป่า ตกปลา พักผ่อน และเรือคายัค หรือนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปยังเทือกเขาร็อกกีเพื่อสำรวจหุบเขา



อันดับ 6 Singita Grumeti Reserves สาธารณรัฐแทนซาเนีย : 3,570 เหรียญต่อคืน
Singita Grumeti เป็นรีสอร์ทที่ดี และน่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะได้มาพบกับสัตว์ป่าพร้อมความส่วนตัว บ้านแต่ละหลังหรูหรา และตั้งอยู่บนเส้นทางการอพยพย้ายถิ่นของสัตว์ป่านับล้าน หรือใครจะอยากนอนเต้นท์ให้ได้บรรยากาศ แต่หรูหราด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกก็สามารถ



อันดับ 5 Eagle Island Camp & Spa สาธารณรัฐบอตสวานา : 3,970 เหรียญต่อคืน
Eagle Island Camp & Spa ตั้งอยู่บนเกาะ Xaxaba Island ตรงข้ามกับทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยต้นปาล์มที่มีน้ำใสๆ ประกอบด้วย 12 เต้นท์ที่ยกพื้นขึ้น ภายในตกแต่งอย่างดูดี และมีวิวสวยที่เห็นได้จากทุกเต้นท์ พร้อมห้องอาบน้ำที่แสนจะคลาสสิค ห้องอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสมบูรณ์ สามารถนั่งดูสัตว์ป่าเพลินได้ และสัตว์แม่ลูกอ่อนที่กำลังย้ายถื่นในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ



อันดับ 4 Savute Elephant Camp สาธารณรัฐบอตสวานา : 4,020 เหรียญต่อคืน
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางของป่าเจริญรุ่งเรืองของทวีปแอฟริกา มีเต็นท์ผ้าใบส่วนตัวเหมาะสำหรับการนั่งดูฝูงสัตว์ที่มาดื่มน้ำจากช่อง Savute และมีชื่อเสียงมากในการเฝ้าดูฝูงช้าง บรรยากาศของที่นี่เป็นแบบดั้งเดิมทำให้สามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ และแลกเปลี่ยนการผจญภัยแบบซาฟารีภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่แอฟริกา



อันดับ 3 Khwai River Lodge สาธารณรัฐบอตสวานา : 4,060 เหรียญต่อคืน
Khwai River Lodge เป็นที่พักสุดหรูที่ออกแบบอย่างดีเพื่อผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบมีเสน่ห์ตามธรรมชาติ ดาดฟ้าส่วนตัวกว้างมีเปลเก้าอี้ง่ายเหมาะสำหรับการเห็นสัตว์ป่า และยังสำหรับการเพลิดเพลินกับงานเลี้ยงส่วนตัว การตกแต่งภายในที่หรูหรามีห้องน้ำ, มินิบาร์, เตียงกับตาข่ายกันยุงและเครื่องปรับอากาศ



อันดับ 2 Laucala Resort สาธารณรัฐฟิจิ : 5,040 เหรียญต่อคืน
Laucala ในฟิจิเป็นสุดยอดในการพักผ่อนส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ของรีสอร์ทแสนจะเฟอร์เฟคในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ที่มีทะเลสาบสีเขียวขุ่น, วิวต้นปาล์มแบบพานอรามา และชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ ทั่ว 3,200 เอเคอร์ซึ่งประกอบด้วย 25 วิลล่าที่ไม่ซ้ำกันทั้งเหนือน้ำ บนชายหาด หรือยอดเขา มีห้องอาบน้ำกลางแจ้ง พลาสมาทีวี สระว่ายน้ำส่วนตัว ในแต่ละวิลล่ามีบริกรส่วนตัวได้รับมอบหมายให้แขกแต่ละคน แถมยังมีสนามกอล์ฟถึง 18 หลุม, อาหารอร่อยบนเรือประมงส่วนตัว และสปา



อันดับ 1 North Island Lodge สาธารณรัฐเซเชลส์ : 5,843 เหรียญต่อ 2 คน ต่อคืน
North Island Lodge เป็นรีสอร์ทบนเกาะที่เป็นทั้งเป็นโครงการอนุรักษ์ขนาดใหญ่ ซึ่งโรงแรมมีเพียง 11 วิลล่ากับบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม และความงามตามธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะรู้สึกเป็นส่วนตัวมาก เพราะโรงแรมหรูแห่งนี้อยู่ในจุดที่ห่างไกลซึ่งอาจเป็นเหตุผลของการที่ราคาสูง ผู้เข้าพักต้องใช้เวลา 15 นาทีในการนั่งเฮลิคอปเตอร์ของโรงแรมที่จะไปถึงเกาะ




