ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับ โรงแรมที่แพงที่สุดในโลก
แชร์ 
คัดลอกลิงก์
7 สิงหาคม 2557 (16:44) โพสท์โดย I sea u
อันดับ 10 Queen Charlotte Lodge ประเทศแคนาดา : 2,800 เหรียญต่อคืน
Queen Charlotte Lodge เป็นโรงแรมหรูหรา แต่ให้ความรู้สึกสบายๆ เหมือนอยู่บ้าน และคนที่ชอบการตกปลาจะต้องไม่พลาดที่จะมาพักผ่อนที่นี่พร้อมกิจกรรมตกปลาใกล้ Naden Harbour หรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์การตกปลากัน ที่นี่เป็นที่พักผ่อนที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัว หรือปาร์ตี้ริมหาดแบบส่วนตัวกับบรรดาคนสนิท



อันดับ 9 Hotel Cala di Volpe ประเทศอิตาลี : 2,939 เหรียญต่อคืน
Hotel Cala di Volpe ถูกออกแบบ และวางดีไซน์ในคอนเซ็ปต์และบรรยากาศของหมู่บ้านชาวประมงแบบดั้งเดิม ห้องพักส่วนใหญ่หันหน้าไปทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเพื่อให้ระลึกถึงเสน่ห์อันลึกลับของท้องทะเลแห่งนี้ รวมถึงการตกแต่งภายในที่เป็นเฉดสีแบบพาสเทล และมีส่วนเค้าส่วนโค้งในเกือบทุกแห่งในโรงแรม นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร คลับ บาร์ระดับโลกให้ได้ดินเนอร์ใต้แสงเทียนอย่างโรแมนติกกับอาหารทะเลสดใหม่ หรือถ้าใครมองหาที่จัดงานกาล่าร์ดินเนอร์อยู่ ที่นี่ล่ะเหมาะเหม็ง !
อันดับที่ 8 Mnemba Island Lodge สาธารณรัฐแทนซาเนีย : 3,100 เหรียญต่อคืน
Mnemba Island Lodge เป็นรีสอร์ทส่วนตัวโดยเฉพาะ ตั้งอยู่บนเกาะเพียงแห่งเดียวในน่านน้ำสีฟ้าของมหาสมุทรอินเดีย และล้อมรอบด้วยแนวปะการังสวยงาม เป็นอีกหนึ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับการดำน้ำในทวีปแอฟริกา Mnemba ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในโลกที่นำเสนอเอกลักษณ์ที่เรียบง่าย และความเป็นส่วนตัวบนชายฝั่งทะเล นอกจากนี้ยังมีโซนอนุรักษ์เต่ายักษ์ ปลาเขตร้อนและปูที่พบในแนวปะการัง และท้องทะเลอีกด้วย
อันดับ 7 King Pacific Lodge ประเทศแคนาดา
King Pacific Lodge สร้างขึ้นบนเกาะ Princess Royal Island ในป่า The Great Bear Rain forest ประเทศแคนาดา ที่นี่มีอากาศเย็นสบายๆ แบบป่าดิบชื้นไม่ได้หนาวเย็นจัด ผู้เข้าพักสามารถเดินทางมาที่นี่โดยเครื่องบินเช่าเหมาลำ หรือเครื่องบินทะเลจากเมืองแวนคูเวอร์ได้ การมาเข้าพักที่นี่นอกจากความหรูหราครบถ้วนแล้วยังให้รสชาติของการผจญภัย เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ล้อมรอบด้วยพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าที่ยอดเยี่ยม ทั้งวาฬ, วาฬเพชรฆาต, นกอินทรีหัวล้าน และให้บรรยากาศของน่านน้ำแปซิฟิกอย่างชัดเจน รวมถึงการเดินป่า ตกปลา พักผ่อน และเรือคายัค หรือนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปยังเทือกเขาร็อกกีเพื่อสำรวจหุบเขา
อันดับ 6 Singita Grumeti Reserves สาธารณรัฐแทนซาเนีย : 3,570 เหรียญต่อคืน
Singita Grumeti เป็นรีสอร์ทที่ดี และน่าตื่นเต้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะได้มาพบกับสัตว์ป่าพร้อมความส่วนตัว บ้านแต่ละหลังหรูหรา และตั้งอยู่บนเส้นทางการอพยพย้ายถิ่นของสัตว์ป่านับล้าน หรือใครจะอยากนอนเต้นท์ให้ได้บรรยากาศ แต่หรูหราด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกก็สามารถ
อันดับ 5 Eagle Island Camp & Spa สาธารณรัฐบอตสวานา : 3,970 เหรียญต่อคืน
Eagle Island Camp & Spa ตั้งอยู่บนเกาะ Xaxaba Island ตรงข้ามกับทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยต้นปาล์มที่มีน้ำใสๆ ประกอบด้วย 12 เต้นท์ที่ยกพื้นขึ้น ภายในตกแต่งอย่างดูดี และมีวิวสวยที่เห็นได้จากทุกเต้นท์ พร้อมห้องอาบน้ำที่แสนจะคลาสสิค ห้องอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างสมบูรณ์ สามารถนั่งดูสัตว์ป่าเพลินได้ และสัตว์แม่ลูกอ่อนที่กำลังย้ายถื่นในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ
อันดับ 4 Savute Elephant Camp สาธารณรัฐบอตสวานา : 4,020 เหรียญต่อคืน
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางของป่าเจริญรุ่งเรืองของทวีปแอฟริกา มีเต็นท์ผ้าใบส่วนตัวเหมาะสำหรับการนั่งดูฝูงสัตว์ที่มาดื่มน้ำจากช่อง Savute และมีชื่อเสียงมากในการเฝ้าดูฝูงช้าง บรรยากาศของที่นี่เป็นแบบดั้งเดิมทำให้สามารถผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ และแลกเปลี่ยนการผจญภัยแบบซาฟารีภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่แอฟริกา
อันดับ 3 Khwai River Lodge สาธารณรัฐบอตสวานา : 4,060 เหรียญต่อคืน
Khwai River Lodge เป็นที่พักสุดหรูที่ออกแบบอย่างดีเพื่อผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบมีเสน่ห์ตามธรรมชาติ ดาดฟ้าส่วนตัวกว้างมีเปลเก้าอี้ง่ายเหมาะสำหรับการเห็นสัตว์ป่า และยังสำหรับการเพลิดเพลินกับงานเลี้ยงส่วนตัว การตกแต่งภายในที่หรูหรามีห้องน้ำ, มินิบาร์, เตียงกับตาข่ายกันยุงและเครื่องปรับอากาศ
อันดับ 2 Laucala Resort สาธารณรัฐฟิจิ : 5,040 เหรียญต่อคืน
Laucala ในฟิจิเป็นสุดยอดในการพักผ่อนส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ของรีสอร์ทแสนจะเฟอร์เฟคในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ที่มีทะเลสาบสีเขียวขุ่น, วิวต้นปาล์มแบบพานอรามา และชายหาดสีขาวบริสุทธิ์ ทั่ว 3,200 เอเคอร์ซึ่งประกอบด้วย 25 วิลล่าที่ไม่ซ้ำกันทั้งเหนือน้ำ บนชายหาด หรือยอดเขา มีห้องอาบน้ำกลางแจ้ง พลาสมาทีวี สระว่ายน้ำส่วนตัว ในแต่ละวิลล่ามีบริกรส่วนตัวได้รับมอบหมายให้แขกแต่ละคน แถมยังมีสนามกอล์ฟถึง 18 หลุม, อาหารอร่อยบนเรือประมงส่วนตัว และสปา
อันดับ 1 North Island Lodge สาธารณรัฐเซเชลส์ : 5,843 เหรียญต่อ 2 คน ต่อคืน
North Island Lodge เป็นรีสอร์ทบนเกาะที่เป็นทั้งเป็นโครงการอนุรักษ์ขนาดใหญ่ ซึ่งโรงแรมมีเพียง 11 วิลล่ากับบรรยากาศที่ยอดเยี่ยม และความงามตามธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะรู้สึกเป็นส่วนตัวมาก เพราะโรงแรมหรูแห่งนี้อยู่ในจุดที่ห่างไกลซึ่งอาจเป็นเหตุผลของการที่ราคาสูง ผู้เข้าพักต้องใช้เวลา 15 นาทีในการนั่งเฮลิคอปเตอร์ของโรงแรมที่จะไปถึงเกาะ
อ่านต่อได้ที่ https://board.postjung.com/795274
10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับต่างชาตินอกสหรัฐ “ฮ่องกง” คืออันดับ 1
ฐานเศรษฐกิจ
13 ส.ค. 2566 | 14:20 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ส.ค. 2566 | 14:23 น.
เปิด 10 เมืองที่ค่าครองชีพแพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาตินอกสหรัฐอเมริกา “ฮ่องกง” คืออันดับ 1 ทำไมถึงเป็นเเบบนั้น
ผู้ที่ต้องการเดินทางออกจากสหรัฐอเมริกา การแสวงหาชีวิตในฐานะชาวต่างชาติมักเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองที่มีราคาแพง เช่น นิวยอร์กซิตี้หรือซานฟรานซิสโก ซึ่งค่าครองชีพยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง นิวยอร์กยังคงเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในอเมริกาเหนือ โดยอยู่ในอันดับที่ 6 ของโลก
แต่การย้ายถิ่นฐานไปทำงานในต่างประเทศก็อาจมาพร้อมกับราคาที่สูงเช่นกัน ตามการจัดอันดับ ค่าครองชีพประจำปี 2023 ของ Mercer ซึ่งจัดอันดับ 227 เมืองใน 5 ทวีป โดยเปรียบเทียบต้นทุนสินค้าและบริการในแต่ละสถานที่
เมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุดในโลกสำหรับชาวต่างชาติ “ฮ่องกง” ซึ่งติดอันดับเป็นปีที่สองติดต่อกัน
นี่คือ 10 เมืองที่แพงที่สุดสำหรับชาวต่างชาตินอกสหรัฐอเมริกา
- ฮ่องกง
- สิงคโปร์
- ซูริก สวิตเซอร์แลนด์
- เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
- บาเซิล สวิตเซอร์แลนด์
- เบิร์น สวิตเซอร์แลนด์
- เทลอาวีฟ อิสราเอล
- โคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
- แนสซอ บาฮามาส
- เซี่ยงไฮ้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“นิวยอร์ก” แซง “ฮ่องกง” ขึ้นแท่นเมืองค่าครองชีพแพงที่สุดในโลก
เงินเฟ้อชะลอ “คนไทย” ยังคงจ่ายเงินไปกับอะไรมากที่สุดในแต่ละเดือน
เจตนารมณ์ของจีนต่อความมั่นคงในเอเชีย-แปซิฟิก
“สรรเพชญ บุญญามณี” ถกกงสุลใหญ่อินโดนีเซีย หวัง กระตุ้นเศรษฐกิจสงขลา
เศรษฐกิจไทยครึ่งหลังยังเสี่ยง กดสินเชื่อแบงก์โต 3%
ในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลพบว่าค่าครองชีพเพิ่มขึ้นในทุกเมืองของอเมริกาที่วิเคราะห์ ในการจัดอันดับโลก นิวยอร์กอยู่ในอันดับที่ 6 ตามมาด้วยลอสแองเจลิส อันดับที่ 11 ซานฟรานซิสโก อันดับที่ 14 และโฮโนลูลู อันดับที่ 15
นอกจากนี้ ดีทรอยต์ ฮูสตัน และคลีฟแลนด์มีค่าครองชีพเพิ่มขึ้นมากที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ของสหรัฐฯ ในปีนี้
สำนักข่าว CNBC รายงานว่า ค่าครองชีพเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อต้องการย้ายไปต่างประเทศ แม้ว่า “ฮ่องกง” จะเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพแพงที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเสมอไป ในความเป็นจริงอยู่ในอันดับที่ 78 ในหมวดหมู่นั้น
ในทางกลับกัน เมืองทั่วโลกบางแห่งอาจให้ค่าครองชีพที่ต่ำกว่าแก่ชาวต่างชาติและอาจมีคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น บาร์เซโลนา ประเทศสเปน อยู่ในอันดับที่ 75 สำหรับค่าครองชีพสูงสุด แต่อันดับที่ 47 สำหรับคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด
Lee Quane ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียของ ECA International เคยกล่าวว่า ค่าที่พักที่สูงเป็นพิเศษทำให้ฮ่องกงขึ้นสู่อันดับหนึ่งเมืองที่แพงที่สุดแห่งปี เพราะฮ่องกงเป็นเมืองขนาดเล็ก แต่ด้วยความเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงิน จึงดึงดูดคนมาทำงานเป็นจำนวนมาก

