ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
4 โรงแรมไทย ที่ติดอันดับอยู่ในลิสต์รางวัล World’s 50 Best Hotels 2023
Published: Oct 05, 2023 02:30 PM ICT, 2 min read
ในการประกาศรางวัล World’s 50 Best Hotels 2023 มี 4 โรงแรมสุดหรูระดับไฮเอนด์ จากประเทศไทยติดลิสต์ 50 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลก เป็นที่น่ายินดีกับคนโรงแรมและที่พักทุกแห่งที่ติดอันดับ
ครั้งแรกของเวทีประกาศรางวัล 50 Best ที่เพิ่มหมวดหมู่ใหม่จากร้านอาหารและบาร์ มาเป็นการจัดลำดับโรงแรมและรีสอร์ตที่ดีที่สุดในโลก กับ The World’s 50 Best Hotels 2023 ที่เพิ่งประกาศผลไปเมื่อคืนวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลอนดอน ซึ่งผลปรากฏว่า ‘Passalacqua’ ที่พักหรูจากเมืองมอลทราซิโอ ประเทศอิตาลี คว้าอันดับ 1 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2023 ไปครอง ส่วนอันดับอื่น ได้แก่
อันดับ 2 Rosewood Hong Kong, ฮ่องกง
อันดับ 3 Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River, กรุงเทพมหานคร
อันดับ 4 The Upper House, ฮ่องกง
อันดับ 5 Aman Tokyo, โตเกียว
สำหรับประเทศไทยมีติดลิสต์ทั้งหมด 4 อันดับ จะมีที่ไหนบ้างตาม Lifestyle Asia ไปดูกันได้เลย
https://youtube.com/watch?v=rIolvEtLgZM%3Ffeature%3Doembed%26enablejsapi%3D1%26origin%3Dhttps%253A%252F%252Fwww.lifestyleasia.com
1 /4
Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River (อันดับ 3)
@Credit Image: @Credit Image: https://www.theworlds50best.com/
รีสอร์ทริมแม่น้ำในเมืองใจกลางกรุงเทพฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยามหานทีแห่งชีวิต ค้นพบสถานที่สุดอัศจรรย์ในย่านสร้างสรรค์ของเมืองกรุง รายล้อมไปด้วยแกลเลอรี ร้านบูติก ร้านอาหาร และคาเฟ่ เป็นศูนย์กลางของความมีชีวิตชีวา Energyและสไตล์ ชมวิวแม่น้ำอันกว้างไกลจากสระกลางแจ้งและสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ ลิ้มรสอาหารสร้างสรรค์ในร้านอาหารมากมาย พักผ่อนในลานสีเขียวอันเขียวขจี หรือเพียงผ่อนคลายหนึ่งในห้องพักทั้ง 299 ห้อง ที่ดีไซน์มาเพื่อความลงตัวระหว่าง สังคมเมือง การพักผ่อน สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติเพื่อความยั้งยืนอย่างแท้จริง
Additional Information
Address:
300/1 ถ. เจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 google map
Website:
Phone:
020320888
2 /4
Mandarin Oriental, Bangkok (อันดับ 10)
@Credit Image: https://www.theworlds50best.com/
โรงแรมที่สร้างในปี 2419 ยุคอาณานิคมนับว่าเก่าแก่ที่สุดในไทย ผ่านการรับรองแขกระดับ Super VIP กิตติมศักดิ์ คนดังและราชวงศ์หลายประเทศ อาทิ เจ้าชายนิโคลัส มงกุฎราชกุมารแห่งรัสเซีย, สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2, จอร์จ ดับเบิลยู. บุช แห่งสหรัฐอเมริกา, ไมเคิล แจ็กสัน, เดวิด บราวน์, ทอม ครูซ, เอลตัน จอห์น เป็นต้น ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานจึงยากเกินกว่าจะประเมินมูลค่าของที่แห่งนี้ได้
ด้วยตัวอาคารแบบดั้งเดิมที่ได้รับการอนุรักษ์อย่างดี ให้กลิ่นอายของสยามในอดีต ที่สวยงามจนน่าทึ่ง ตกแต่งด้วยพัดลมเพดาน ระเบียงที่แกะสลักอย่างปราณีตเป็นลวดลายดอกมะลิเลื้อย หน้าต่างบานเกล็ดแบบเก่า เตียงสี่เสาที่ตกแต่งอย่างละเอียด ผนัง พื้น ทุกที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้เมืองร้อน พร้อมบริการบัตเลอร์ส่วนตัวตลอดเวลา
Additional Information
Address:
48 ซอย โอเรียนเต็ล อเวนิว แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500 google map
Website:
Phone:
026599000
3 /4
Capella Bangkok (อันดับ 11 นอกจากนี้ยังได้รางวัล Best New Hotel Award)
@Credit Image: https://www.theworlds50best.com/
เป็นโรงแรมในเมืองที่ไม่ธรรมดา อยู่ในพื้นที่และเป็นเจ้าของเดียวกันกับโรงแรม Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River ด้วยที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาจึงให้ความรู้สึกที่เงียบสงบจากความวุ่นวายของเมือง เพื่อให้บรรยากาศรีสอร์ทอย่างแท้จริง ห้องพัก ห้องสวีท และวิลล่าทั้ง 101 ห้อง มีสไตล์เทียบเท่ากับโรงแรมหรูในเมือง และสะดวกสบายพอๆ กับรีสอร์ต โดยมีหลายห้องที่เห็นทิวทัศน์มุมกว้างของแม่น้ำเจ้าพระยา สปา Auriga ของโรงแรมได้นำวัฒนธรรมประเพณีการดูแลสุขภาพแบบไทยไปสู่การพักผ่อนเหนือระดับ รวมถึงร้านอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นอย่าง พระนคร และแนวคิดที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก French Riviera โดยเชฟ Mauro Colagreco ระดับสามดาวมิชลิน
Additional Information
Address:
300, 2 ถ. เจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 google map
Website:
Phone:
020983888
4 /4
The Siam Hotel Bangkok (อันดับ 42)
@Credit Image: https://www.theworlds50best.com/
โรงแรมหรูสไตล์บูติกระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบโดยครอบครัว Bill Bensley ประกอบไปด้วยห้องสวีทและวิลล่า 38 ห้อง ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คือการย้อนกลับไปสู่ยุคอาร์ตเดโคของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นการบูรณาการที่มีรายละเอียดมากมาย เต็มไปด้วยเฟอร์นิเจอร์วินเทจและของโบราณ อ้างอิงถึงยุคอาณานิคมมากมาย
ห้องสวีทขนาดเริ่มต้นมีพื้นที่ประมาณ 80 ตารางเมตร ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบครันและห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมบริการผู้ช่วยส่วนตัว ด้วยทำเลที่ตั้งก็ทำให้ที่นี้เป็นสิ่งที่แตกต่างจากที่อื่น สถานที่ริมแม่น้ำแห่งนี้เงียบสงบและปลีกวิเวก พบกับบาร์และร้านอาหารชั้นนำ อาหารไทยรสเลิศในบ้านไม้สักอายุนับร้อยปีที่ The Chon Restaurant หรือรับประทานผักสดที่ร้าน Story House ที่เพิ่งเปิดใหม่ โรงแรมยังมีร้านขนมหวานขึ้นชื่อและคลาสเรียนทำอาหารอีกด้วย
ไฮไลท์อยู่ที่สระว่ายน้ำอินฟินิตี้กลางแจ้งพร้อมทิวทัศน์แม่น้ำ และ Bathers’ Bar ที่อยู่ติดกัน ประสบการณ์อื่นๆ ได้แก่ Opium Spa โยคะ การทำสมาธิ และมวยไทยทุกวันในห้องออกกำลังกายที่เคยเป็นพราะราชวังในอดีต
Additional Information
Address:
The Siam 3, 2 ถนนขาว Vachirapayabal, เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300 google map
Website:
Phone:
022066999
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับ ไลฟ์สไตล์คนเมือง ร้านอาหารเด็ดดัง แฟชั่นล่าสุด สุขภาพ และความงาม พร้อมกับ เรื่องราวทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้ที่ Lifestyle Asia
10 โรงแรมหรูที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากที่สุดในโลก
นิตยสารฟอร์บส์ เผยรายชื่อ 10 โรงแรมหรูที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นมากที่สุดในโลก (The Worlds Most Unique Luxury Hotels) โดยคัดเลือกจากโรงแรมที่หรูหรา ราคาแพง ทำเลโดดเด่น ตกแต่งอย่างปราณีตสวยงาม และมีจุดเด่นที่น่าประทับใจ ซึ่งในจำนวนนี้มีโรงแรมในประเทศไทยรวมอยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม อาจมีบางโรงแรมที่ไม่หรูหราหรือราคาแพงมากนักเมื่อเทียบกับโรงแรมส่วนใหญ่ที่อยู่ในลิสต์ แต่ก็มีความโดดเด่นเรื่องความคิดสร้างสรรค์และไม่ธรรมดา ซึ่งนิตยสารฟอร์บส์ระบุว่า สิ่งเหล่านี้ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ควรไปดูให้เห็นกับตา หรือถ้ามีโอกาส (และมีสตางค์) ก็น่าจะลองเข้าพักอย่างน้อยสักครั้งในชีวิต
**
โพไซดอน อันเดอร์ซี รีสอร์ท (Poseidon Undersea Resort)
ประเทศฟิจิ
โพไซดอน อันเดอร์ซี รีสอร์ท เป็นรีสอร์ท 5 ดาวที่ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัวในประเทศฟิจิ และมีที่พักสุดหรูพร้อมบริการระดับเวิลด์คลาสให้เลือกใช้บริการใน 3 รูปแบบ คือ บ้านพักสุดหรูริมชายหาด, บ้านพักบนผิวน้ำ และรีสอร์ทใต้น้ำ เดิมทีมีกำหนดเปิดให้บริการปลายปี ค.ศ. 2008 จากนั้นก็เลื่อนกำหนดเปิดเป็นต้นปี ค.ศ. 2010 ที่ผ่านมา (เท่าที่ผู้เขียนตรวจสอบ พบว่าล่าสุดโรงแรมดังกล่าวยังไม่พร้อมเปิดให้บริการ และยังไม่เปิดให้จองห้องพัก)
ทันทีที่รีสอร์ทแห่งนี้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ก็จะได้ชื่อว่าเป็น รีสอร์ทใต้ทะเลแห่งแรกของโลก (ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างถาวร) โดยที่พักสุดหรูที่อยู่ใต้ทะเลนั้น ประกอบด้วย ห้องสวีท 24 ห้อง และอพาร์ทเมนท์หรือห้องพักขนาดใหญ่สุดอีก 1 ห้อง ห้องพักทั้งหมดอยู่ลึกลงไปในทะเลมากถึง 40 ฟุต (12 ม.) สามารถเข้าถึงได้ทางลิฟท์แก้ว ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนโรงแรมหรู 5 ดาวทั่วไป ผนังห้องราว 70% ทำจากอะครีลิคใสหนา 4 นิ้ว จึงให้มุมมองที่สวยงามของโลกใต้น้ำมากถึง 270 องศา ทั้งยังสามารถให้อาหารปลาด้วยการกดปุ่มอีกด้วย
นอกจากห้องพักแล้ว ภายในรีสอร์ทใต้ทะเลยังประกอบด้วย ภัตตาคารและเลาน์จใต้น้ำที่หรูและใหญ่ที่สุดในโลก, ห้องสมุด, ห้องชมภาพยนตร์, ห้องประชุม และห้องสำหรับจัดพิธีแต่งงาน ส่วนอัตราค่าเข้าพักแน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา เพราะอยู่ที่ $30,000 (กว่า 9 แสนบาท) ต่อ 2 คน (สำหรับการเข้าพัก 7 วัน) อัตราดังกล่าวรวม ค่าเครื่องบินส่วนตัวจากสนามบินฟิจิมายังรีสอร์ท, ค่าห้องสวีทใต้ทะเล 2 คืน, ค่าที่พักริมชายหาดหรือในทะเล (บนผิวน้ำ) 4 คืน, ค่านำเที่ยวใต้ทะเลลึกด้วยเรือดำน้ำ, ค่าดำน้ำและอุปกรณ์, ค่าบริการถ่ายรูปที่ระลึก, ค่าอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนค่าใช้บริการด้านกีฬา เช่น ใช้อุปกรณ์ในห้องออกกำลังกาย, ตีกอล์ฟ (สนาม 9 หลุม), เล่นเทนนิส และกีฬาทางน้ำ เป็นต้น
**
โรงแรม ดิ โอเบอรอย วันยาวิลาส (The Oberoi Vanyavilas)
เมืองรันธัมบอร์ รัฐราชาสถาน ประเทศอินเดีย
โอเบอรอย วันยาวิลาส เป็นรีสอร์ทกลางป่าระดับไฮเอนด์ของประเทศอินเดีย ที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ ว่าเป็น โรงแรมดีที่สุดในโลก ประจำปี 2010
เนื่องจากโรงแรมแห่งนี้อยู่ติดกับเขตอนุรักษ์พันธุ์เสือรันธัมบอร์ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบซาฟารี และต้องการใช้ชีวิตกลางป่าอย่างหรูหราภายในเต็นท์ขนาดใหญ่ ซึ่งแต่ละหลังจะมีสวนส่วนตััวพร้อมรั้วรอบขอบชิด และยังมีบัทเลอร์เซอร์วิส (ผู้ช่วยส่วนตัว) คอยอำนวยความสะดวกตลอดการเข้าพักอีกด้วย
* เอื้อเฟื้อภาพโดย: ดิ โอเบอรอย วันยาวิลาส
**
โรงแรมเพนนินซูลา ฮ่องกง (The Peninsula Hotel)
ฮ่องกง
โรงแรมสุดหรู 5 ดาวแห่งนี้ ติดอันดับ 4 ซิตี้โฮเต็ล ดีที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2010 ถึงแม้จะได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรงแรม (อินเตอร์ฯ) เก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง (เปิดบริการมานาน 82 ปี) แต่ภายในโรงแรมก็ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหรา และให้บริการระดับไฮเอนด์ เช่น ห้องน้ำปูด้วยหินอ่อน, ติดตั้งจอพลาสม่าทุกห้อง และมีบริการสปาภายในห้องพัก เป็นต้น
นอกจากความหรูแล้ว โรงแรมเพนนินซูลา ฮ่องกง ยังมีชื่อเสียงโดดเด่นเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เพราะให้มุมมองของอ่าววิคตอเรีย และตึกระฟ้าบนเกาะฮ่องกงแบบเต็มๆ ไม่ว่าจะอยู่ใน ห้องนอน, ห้องน้ำ, สปา, ล็อบบี้, ภัตตาคาร ฯลฯ ก็ตาม (ภัตตาคาร ฟีลิกซ์ ภายในโรงแรมแห่งนี้ติด 1 ใน 11 ภัตตาคารที่มี วิวดี ที่สุดในโลก )
* เอื้อเฟื้อภาพโดย: เพนนินซูลา ฮ่องกง (ภาพลิขสิทธิ์ ได้รับอนุญาตให้นำมาใช้ประกอบบทความเกี่ยวกับโรงแรม เพนนินซูลา ฮ่องกง เท่านั้น ห้ามดัดแปลง, ทำซ้ำเพื่อการอื่น หรือใส่ข้อความทับรูปภาพ )
**
โรงแรม เล ซิเรนูเซ่ (Le Sirenuse)
เมืองโพสิตาโน ประเทศอิตาลี
โรงแรมหรูแห่งนี้ก่อตั้งโดยนายมาร์เกซี่ เซอร์ซาเล่ ซึ่งดัดแปลงบ้านพักตากอากาศส่วนตัวในเมืองโพสิตาโน ประเทศอิตาลี ให้เป็นโรงแรมหรูเปี่ยมเสน่ห์ โดยเปิดให้บริการเมื่อปี ค.ศ. 1951 (พ.ศ. 2494) บริหารงานและให้บริการโดยพี่น้อง ตลอดจนสมาชิกในครอบครัว เซอร์ซาเล่
ปัจจุบัน โรงแรมหรูสไตล์มัวริช บาร็อคแห่งนี้ยังคงเป็นธุรกิจครอบครัว (บริหารงานโดยทายาทรุ่นที่ 2) ภายในมีทั้งหมด 63 ห้อง ทุกห้องได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราแต่ก็มีกลิ่นอายของความเป็นบ้านส่วนตัว อีกทั้งยังเต็มไปด้วยผลงานศิลปะ เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งโบราณล้ำค่า ซึ่งล้วนเป็นสมบัติและของสะสมของครอบครัว เซอร์ซาเล่ ทั้งสิ้น ที่สำคัญสมาชิกในครอบครัว เซอร์ซาเล่ ก็อาศัยอยู่ในโรงแรมแห่งนี้ด้วยเช่นกัน แขกผู้มาเยือนจึงได้รับการต้อนรับและดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดเสมือนเป็นแขกคนสำคัญ แถมยังได้ชมวิวอันสวยตะลึงของท้องทะเล ชายหาด ท่าเรือ และอาคารต่างๆ ที่ตั้งลดหลั่นอยู่บนเชิงเขาตามแนวชายฝั่งอามัลฟี่อีกด้วย
* เอื้อเฟื้อภาพโดย: เล ซิเรนูเซ่ (ภาพลิขสิทธิ์ ได้รับอนุญาตให้นำมาใช้เพื่อประกอบบทความเกี่ยวกับโรงแรม เล ซิเรนูเซ่ เท่านั้น ห้ามดัดแปลง, ทำซ้ำเพื่อการอื่น หรือใส่ข้อความทับรูปภาพ )
**
โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ จอร์จ ที่ 5 (Four Seasons George V)
กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
โรงแรมสุดหรูแห่งนี้ตั้งอยู่บนถนนจอร์จที่ 5 ในกรุงปารีส ห่างจากถนน ชองป์ส เซลิเซ่ส์ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น ถนนสวยที่สุดในโลก เพียงไม่กี่ก้าว ตัวอาคารสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1928 (พ.ศ. 2471) ภายในได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราและวิจิตรบรรจง โดยมีห้องพักทั้งหมด 244 ห้อง (เกือบ 1 ใน 4 ของห้องพักทั้งหมดเป็นห้องสวีทและให้มุมมองของหอไอเฟล) พร้อมสปาระดับเวิลด์คลาส และภัตตาคารระดับ 2 ดาวมิชลิน
นับตั้งแต่เจ้าชายซาอุฯ อัล-วาลีด บิน ทาลาล เจ้าของฉายา วอร์เรน บัฟเฟตต์ แห่งโลกอาหรับ เข้าซื้อโรงแรมแห่งนี้ (ในนาม คิงดอม โฮลดิ้ง คอมพะนี) เมื่อ 3 ปีก่อน โรงแรมดังกล่าว (บริหารงานโดย กลุ่มโรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์) ก็ได้รับการปรับปรุงและตกแต่งใหม่เป็นระยะๆ ส่งผลให้มีความหรูหราตระการตามากยิ่งขึ้น
* เอื้อเฟื้อภาพโดย: โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์
**
เดอะ พอยท์ รีสอร์ท (The Point Resort)
รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 75 เอเคอร์ (190 ไร่) ในป่าลึกบริเวณปลายสุดของแหลมที่ยื่นออกไปใน อัปเปอร์ ซาราแนค เลค ในอดีตที่นี่เคยเป็นสถานที่พักแรมสุดหรูของคนในตระกูลร็อกกี้เฟลเลอร์ ปัจจุบัน อาคารดั้งเดิมที่สร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1933 (พ.ศ. 2476) ทั้ง 4 หลัง (รวมบ้านลอยน้ำหรือโบ๊ทเฮ้าส์) ถูกดัดแปลงให้เป็นสถานที่ปลีกวิเวกสไตล์เรียบหรู โดยมีห้องพักทั้งสิ้น 11 ห้อง ทุกห้องไม่มีทีวี อินเตอร์เน็ต และโทรศัพท์สายนอก แถมสถานที่ตั้งของรีสอร์ทกลางป่าแห่งนี้ยังถือเป็นความลับและไม่มีป้ายบอกทาง แขกผู้มาเยือนจะทราบพิกัดหรือรายละเอียดการเดินทาง ต่อเมื่อชำระเงินค่าเข้าพักเรียบร้อยแล้วเท่านั้น
ที่สำคัญ ผู้เข้าพักจะต้องกระเป๋าหนักเพราะอัตราค่าห้องพักเริ่มต้นที่ $1,350 (กว่า 4 หมื่นบาท) ต่อคืนต่อห้อง (สำหรับ 2 คน) อัตราดังกล่าวรวมค่า อาหาร (ระดับเวิลด์คลาส) , เครื่องดื่ม (ทั้งที่มีและไม่มีแอลกอฮอลล์), กีฬาทางน้ำ, ภาษี และเซอร์วิสชาร์จ แต่ผู้เข้าพักจะต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป เพื่อให้แขกผู้มาเยือนทุกท่านได้พักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบอย่างแท้จริง (แต่ถ้าเหมาหมดทั้ง 11 ห้อง ก็สามารถนำเด็กๆ มาเข้าพักได้)
**
เอมิเรตส์ พาเลซ โฮเต็ล (Emirates Palace Hotel)
อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
โรงแรมเอมิเรตส์ พาเลซ มีมูลค่าก่อสร้างสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก (กว่า 9 หมื่นล้านบาท) รองจากโรงแรมมารีนา เบย์ แซนด์ ที่ประเทศสิงคโปร์ และยังเป็นที่ตั้งของตู้จำหน่ายทองคำอัตโนมัติลเครื่องแรกของโลกอีกด้วย
ภายในโรงแรมดังกล่าวมีห้องพักมาตรฐาน 302 ห้อง และห้องสวีทสุดหรูอีก 92 ห้อง หลายห้องตกแต่งด้วยทองคำและหินอ่อนล้ำค่าราคาแพง (นำเข้าจาก 13 ประเทศทั่วโลก) ความหรูหราอลังการภายในโรงแรมแห่งนี้ต้องบอกว่า เกินบรรยาย เพราะหันไปไหนก็เจอแต่ความวิจิตรตระการตา และที่น่ายินดีก็คือโรงแรมแห่งนี้ได้นำพรมแฮนด์เมดขนาดใหญ่ 2 ผืน (น้ำหนักผืนละ 1 ตัน) จากประเทศไทยไปประดับบริเวณผนังด้วย
* ชมภาพความหรูหราอลังการเพิ่มเติมได้ ที่นี่
**
เวอร์ติคัล ฮอไรซันส์ ทรีเฮ้าส์ พาราไดส์ (Vertical Horizons Treehouse Paradise) เคฟจังชั่น รัฐโอเรกอน สหรัฐอเมริกา
ถึงแม้ว่าโลกนี้จะมีโรงแรมสไตล์บ้านต้นไม้หลายแห่ง แต่ไม่มีที่ไหนมอบความสะดวกสบายและวิวที่สวยงามได้มากเท่ากับโรงแรมแห่งนี้ ถึงแม้จะตั้งอยู่กลางป่าทางตอนใต้ของรัฐโอเรกอน (ใกล้ป่าสงวนแห่งชาติเรดวู้ด) แต่ที่นี่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ว่าจะเป็น ทีวี คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต แฟกซ์ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องซักผ้า ฯลฯ แถมยังมีเชฟคอยปรุงอาหารเช้ารสเลิศ (พร้อมผัก/ผลไม้ปลอดสาร) เสิร์ฟให้ถึงห้อง
โรงแรมแบบเบดแอนด์เบรคฟาสต์แห่งนี้ มีบ้านต้นไม้ไว้คอยบริการลูกค้าจำนวน 3 หลัง แต่ละหลังตกแต่งในธีมที่แตกต่างกัน ทุกหลังมีห้องน้ำในตัว พร้อมตู้เย็น ทั้งยังให้มุมมองที่สวยงามของป่าอันเชียวชอุ่ม และถ้าโชคดีก็จะได้เห็นสัตว์ป่าประเภทกวางออกมาเดินเพ่นพ่านให้ชมกัน นอกจากที่พักสไตล์บ้านต้นไม้แล้ว ที่นี่ยังมีบ้านพักบนพื้นดินและบ้านลอยน้ำ (โบ๊ทเฮ้าส์) ไว้คอยบริการในราคาไม่แพงเกินเอื้อมอีกด้วย
**
โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ เชียงใหม่ (Four Seasons Chiang Mai)
อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่
เมื่อปีที่แล้ว นิตยสารทราเวล แอนด์ ลีเชอร์ ประกาศผลสำรวจความเห็นผู้อ่านทั่วโลก โดยระบุว่า โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ เชียงใหม่ ติดอันดับ 27 โรงแรมดีที่สุดในโลก และอันดับที่ 5 รีสอร์ทดีที่สุดในเอเชีย
ที่โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ เชียงใหม่ แขกผู้มาเยือนจะได้เข้าพักท่ามกลางบรรยากาศที่หรูหราสไตล์ไทยล้านนา พลางชื่นชมทัศนีภาพที่สวยงามแปลกตาของทุ่งนาและภูเขา ทั้งยังได้เห็นและเรียนรู้วิถีการดำเนินชีวิตแบบไทยๆ เช่น การทำนา และเลี้ยงควาย เป็นต้น นอกจากทุ่งนาอันเขียวชอุ่มแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติส่วนใหญ่รู้สึกประทับใจมากเป็นพิเศษก็คือ การได้เรียนทำอาหารไทย และใช้บริการสปาของโรงแรม ซึ่งได้ชื่อว่าดีเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย
* เอื้อเฟื้อภาพโดย: โรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ เชียงใหม่
**
โรงแรม ลาเดรา (Ladera)
ประเทศเซนต์ ลูเชีย
โรงแรมลาเดรา ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าฝนบนเนินเขาเหนือทะเลแคริบเบียน 1,000 ฟุต (304 เมตร) จึงให้มุมมองที่สวยงามของท้องทะเล (โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาพระอาทิตย์ตกดิน) และภูเขาไฟพิตอน ซึ่งเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์อันโดดเด่นของประเทศเซนต์ ลูเชีย
โรงแรมดังกล่าวมีบ้านพัก 9 หลัง และห้องสวีทอีก 23 ห้อง ซึ่งตกแต่งแบบไม่ซ้ำกัน แต่สิ่งที่บ้านทุกหลังและห้องสวีททุกห้องมีเหมือนกันก็คือ สระว่ายน้ำส่วนตัว และผนังห้องที่มีเพียง 3 ด้าน โดยด้านตะวันตกที่หันออกทะเลจะเปิดโล่งเพื่อให้ผู้เข้าพักเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่ว่าจะอยู่บริเวณใดก็ตาม ส่วนในเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวนั้นต้องบอกว่าหายห่วง เพราะโรงแรมแห่งนี้ได้รับการออกแบบเลย์เอาท์หรือวางผังมาเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เตรียมไว้ให้ในห้องพักอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น มินิบาร์, เครื่องชงชา/กาแฟ, เครื่องใช้จำเป็น, กล้องส่องทางไกล, เตารีด, ตู้เซฟ, อินเตอร์เน็ต (มีทุกห้อง) หรือแม้กระทั่งผังดวงดาว เพื่อให้ผู้เข้าพักได้เพลิดเพลินกับการดูดาวยามค่ำคืน เป็นต้น
