ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
สรุปรางวัล The World’s 50 Best Hotels 2024 โรงแรมดีที่สุดในโลกอยู่ที่ ‘กรุงเทพฯ’
โดย พลอยจันทร์ สุขคง
18.09.2024
- 1.5k
ขอแสดงความยินดีแก่คนโรงแรมทุกท่านและที่พักทุกแห่งที่ติดอันดับ ปีนี้กรุงเทพฯ เรามาแรง!
เป็นปีที่ 2 แล้วของเวทีประกาศรางวัล 50 Best เพิ่มหมวดหมู่การจัดลำดับโรงแรมและรีสอร์ตที่ดีที่สุดในโลกเข้ามาอยู่ในซีรีส์ด้วย กับ The World’s 50 Best Hotels 2024 ที่เพิ่งประกาศผลไปสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงลอนดอน ซึ่งผลปรากฏว่า Capella Bangkok โรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาจากกรุงเทพฯ คว้าอันดับ 1 โรงแรมที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2024 ไปครอง ส่วนอันดับอื่น ได้แก่
อันดับ 2 Passalacqua อิตาลี
อันดับ 3 Rosewood Hong Kong ฮ่องกง
อันดับ 4 Cheval Blanc ฝรั่งเศส
อันดับ 5 The Upper House ฮ่องกง
สำหรับประเทศไทยมีติดลิสต์ทั้งหมด 4 อันดับ ได้แก่
- Capella Bangkok (อันดับ 1)
- Mandarin Oriental, Bangkok (อันดับ 12)
- Four Seasons Hotel Bangkok at Chao Phraya River (อันดับ 14)
- The Siam Hotel Bangkok (อันดับ 26)
ส่วนรางวัลพิเศษ 6 รางวัล และลิสต์ทั้งหมดของ The World’s 50 Best Hotels 2024 จะมีที่ใดบ้างนั้น ตามไปดูได้ที่: www.theworlds50best.com/stories/News/the-worlds-50-best-hotels-2024-list.html
10 อันดับ การออกแบบอาคารที่สวยที่สุดในโลก
Posted on by Assada
28
Jan
อาคารที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามในระดับโลกย่อมเป็นการผสานระหว่างดีไซน์ที่โดดเด่นร่วมกับแนวคิดด้านพลังงานที่ล้ำหน้า เช่น การใช้พลังงานสะอาดเพื่อการสร้างแสงสว่างภายในอาคาร รวมถึงการบริหารจัดการลานจอดรถและงานจราจรโดยรอบ และนี่คือ 10 อาคารสวยที่สุดในโลก ซึ่งร้านไทยจราจรได้รวบรวมมาฝากกัน
1. ตึกมหานคร ซึ่งจัดอันดับเป็นตึกที่สูงสุดในไทย เปิดตัวเมื่อ 29 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา มีความสูงมากกว่าเจ้าของสถิติเดิมอย่างตึกใบหยก2 10 เมตร คือ สูงถึง 314 เมตร (77 ชั้น) มีจุดชมวิวแบบ rooftop ให้ได้เห็นทิวทัศน์กรุงเทพสวยงามทั้งกลางวันและกลางคืนแบบรอบตัว 360 องศา นอกจากความอลังการและความสมบูรณ์แบบของห้องพักของโรงแรมระดับไฮเอนด์ในตึก จำนวน 159 ห้อง คอนโดมิเนียมระดับพรีเมี่ยม ตร.ม.ละ สามแสนห้าหมื่นบาท ในชั้น 23-73 และร้านอาหารหรือเลาจน์แบรนด์ดังระดับมิชลินสตาร์อีก 7 ชั้นแล้ว ยังมีบริเวณลานสาธารณะอีกราว 1,000 ตารางเมตรที่ถูกออกแบบมาเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้า (ช่องนนทรี) โดยไร้กังวลเรื่องที่จอดรถเพราะใช้ระบบออโต้ทั้งส่วนจอดรถยนต์และรถจักรยาน มีเสาแบ่งเลนรถจักรยาน และที่จอดรถจักรยาน ที่ช่วยจัดระเบียบ สอดคล้องกับนโยบายสนับสนุนให้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะและการออกกำลังกาย โดยรองรับการจอดรถได้มากเกือบ 500 คัน
2. ตึกแฝดสูงที่สุดในโลก หรือ ทวินทาวเวอร์แห่งมาเลเซีย ตระหง่านกลางเมืองกัวลาลัมเปอร์ ด้วยความสูง 451.9 เมตร (สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก) และมี sky bridge เชื่อมต่อสองตึกเข้าด้วยกัน ทำให้เป็นจุดชมวิวิวจากความสูงระดับตึก 88 ชั้นที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม แน่นอนว่าตึกระดับพรีเมี่ยมต้องคู่กับระบบจัดการด้านความปลอดภัยที่เป็นเลิศ ทั้งป้ายทางออกฉุกเฉินหรือบันไดหนีไฟ และมีการใช้ไฟกระพริบโซล่าเซลล์เพื่อช่วยการประหยัดไฟในอาคารหลายจุด
3. ตึกวันเซ็นทรัลพาร์ค ที่ซิดนีย์ เป็นอาคารหน้าตาสวยเก๋ในออสเตรเลียที่มี 2 อาคารอยู่คู่กันบนฐานรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมู ที่ได้รับความชื่นชมในไอเดียที่ต้องการให้คนที่พักอาศัยอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมคือต้นไม้ธรรมชาติ ได้ทั้งแนวราบและแนวตั้ง ดังที่ปรากฏเป็นสีสันแห่งไม้ดอกไม้ใบในโซนต่าง ๆ การงานสร้างสรรค์ทางภูมิสถาปัตย์ที่สอดคล้องกับนวัตกรรมสมัยใหม่อย่างแท้จริง และที่ขาดไม่ได้คือการใช้แหล่งพลังงานธรรมชาติอย่างแสงอาทิตย์กับอุปกรณ์หลายชนิดในอาคาร เช่น โคมไฟถนนโซล่าเซลล์ ไฟกระพริบโซล่าเซลล์ เป็นต้น
4.เปโตรนาส ทาวน์เวอร์ (Petronas Towers) เป็นตึกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของชาวมาเลเซียด้วย โดยเฉพาะในส่วนของสะพานลอยฟ้าที่เชื่อมตึกแฝดสูง 452 เมตรเข้าด้วยกัน บนชั้นที่ 41 กับ 42 จากจำนวนชั้นทั้งหมด 88 ชั้น และชั้นใต้ดินอีก 5 ชั้น โดยในอดีตตึกเปนโตรนาสก็เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกระหว่างปี ค.ศ. 1996-2003 มาแล้ว
5. ตึกสไลด์โพโรซิตี้บล็อก แห่งเมืองเฉิงตู เป็นอาคารชุด 5 ตึกเรียงตัวกันหันหน้าหาจุดศูนย์กลางเดียว ออกแบบโดยดีไซเนอร์จากนิวยอร์ก ที่สร้างความโดดเด่นด้วยการใช้พลังงานจากธรรมชาติ ทั้งลมและแสงแดดอย่างเต็มศักยภาพที่สุด
6. ตึกบอสโค แห่งอิตาลี เป็นอีกตึกที่มี concept การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในธีมของป่าในเมือง โดยมีการนำต้นไม้กว่า 1400 ชนิดมาปลูกทั่วทั้งบริเวณตามสวนระเบียงของผู้พักอาศัยแต่ละห้อง ซึ่งเพิ่มความส่องสว่างอย่างเป็นธรรมชาติด้วยการติดกระจกใส และใช้หลอดไฟ LED ทำไฟกระพริบและโคมไฟถนนโซล่าเซลล์
7. มาริน่าเบย์แห่งสิงคโปร์ มีลักษณะโดดเด่นที่ตึก 3 หลังก่อสร้างเรียงกันเทินเรือยอร์ชลำใหญ่ไว้ด้านเหนือสุด เปรียบดั่งแลนมาร์คสำคัญของท่าเรือแห่งนี้ โดยมีพื้นที่กว้าง 16 เฮกเตอร์ สำหรับเป็นที่ท่องเที่ยว ห้องพักสระว่ายน้ำ บาร์ รวมถึงใช้แสดงนิทรรศการต่าง ๆ ซึ่งเนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีพื้นที่ไม่กว้างและมีประชาชนที่หลากหลายสัญชาติ จึงขึ้นขึ้นว่าเป็นประเทศที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยและการบริหารงานจราจรชั้นยอดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งยังมีแนวคิดทันสมัยในการใช้พลังงานจากธรรมชาติ เช่น แสงโซล่าเซลล์ในการให้พลังงานแก่หลอดไฟ ทั้งหมุดจราจร โคมไฟถนน รวมถึงการใช้ทางม้าลายอัจฉริยะที่ช่วยอำนวยความสะดวกและลดอุบัติภัยได้อย่างมาก
8. ตึกแคปปิตอลทาวเวอร์ เป็นตึกที่สูงเป็นอันดับ 4 ของสิงคโปร์ เรียกว่าเป็นอาคารสุดอัจฉริยะที่ขึ้นชื่อด้านการบริหารจัดการลานจอดรถ คือใช้ระบบเซ็นเซอร์แบบเรียลไทม์ ควบคู่กับการเสริมระบบความปลอดภัยในการจอดรถอย่างยางกันรถลื่น ยางกันชนขอบเสา ยางกั้นล้อรถ ยางป้องกันสายเคเบิ้ล ยางปีนฟุตบาท รวมถึงป้ายจราจร สำหรับกำหนดเส้นทางเดินรถทั้งภายในอาคารและบนถนนทางหลวงโดยรอบด้วย
9. The Interlace เดอะอินเทอร์เลซ เป็นอีกอาคารเพื่อการอยู่อาศัยที่มีชื่อเสียงของสิงคโปร์ มีความกว้างใหญ่ของพื้นที่กว่า 8 เฮกเตอร์ โดยมีไอเดียปลูกสร้างที่เน้นการเป็นมิตรระหว่างคนกับสิ่งแวดล้อม จึงมีการจัดสรรพื้นที่สีเขียว ปลูกต้นไม้ตามระเบียงและตามพื้นดินแนวราบ แยกเป็นประเภทสวนต่าง ๆ เช่น สวนไผ่ สระบัว น้ำตก สวนน้ำ สวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่เน้นพืชในเขตร้อน เพื่อการประหยัดพลังงานในการดูแลและเป็นแลนมาร์คที่สำคัญแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือน
10. ตึก Beach Road Complex เป็นอีกอาคารสวยที่อยู่ในสิงคโปร์ เน้นการใช้พลังสุริยะในการสร้างความสว่างภายในอาคาร โดยไม่ทิ้งความล้ำในดีไซน์ของตึกระฟ้าริมหาดตอนใต้ของเมือง
ร้านไทยจราจรเชื่อมั่นว่า 10 อาคารสวยที่สุดในโลกที่กล่าวมา จะเป็นแรงบันดาลใจดี ๆ แก่ผู้ประกอบการหรือแม้แต่บุคคลทั่วไปในการดีไซน์หรือประยุกต์สิ่งต่าง ๆ รอบตัว เช่น การใช้โคมไฟส่องสว่าง การปรับปรุงลานจอดรถ เพื่อเน้นการประหยัดพลังงาน สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมที่เป็นอยู่ และมีความคุ้มค่าในการลงทุน เชิญชมสินค้าในร้านของเราได้ที่ www.trafficthai.com
