ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
Mercedes Benz ยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำของโลก
Mercedes Benz เป็นยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะรถยนต์ระดับพรีเมียมของเบนซ์ที่เป็นที่นิยมในวงการรถยนต์สูงสุด รถเบนซ์มีความหรูหราและสปอร์ตพร้อมกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้เป็นสัญลักษณ์ของความหรูหราและความเป็นเลิศในวงการรถยนต์ Mercedes Benz ยังมีรุ่นรถยนต์หลากหลายให้เลือกตามความต้องการของลูกค้า ตั้งแต่รถยนต์เล็กขนาด Compact ไปจนถึงรถยนต์ขนาดใหญ่ระดับพรีเมียม เช่น C-Class, E-Class, และ S-Class ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในไทย
นอกจากนี้ รถเบนซ์ยังมีรถตู้ที่มีคุณภาพและเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น Vito และ Sprinter ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในธุรกิจและการเดินทางท่องเที่ยว ด้วยปัจจัยเหล่านี้ Mercedes Benz จึงกลายเป็นยี่ห้อรถยนต์ที่เป็นที่นิยมในวงการรถยนต์ทั่วโลก และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีคุณภาพและสมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน
Mercedes Benz มีกี่รุ่น
Mercedes Benz มีรุ่นย่อยหลากหลายสำหรับผู้บริโภคให้เลือกซื้อตามความต้องการของแต่ละคน ตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็กจนถึงรถยนต์ขนาดใหญ่และหรูหรา
สำหรับ Mercedes Benz จะประกอบไปด้วย 4 รุ่น หรือ 4 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน คือ
Mercedes Benz Saloon
- C-Class Saloon
- E-Class Saloon
- S-Class Saloon
- EQS Saloon
- Mercedes-MaybachS-Class
Mercedes Benz SUV
- GLA SUV
- EQB SUV
- GLC SUV
- GLC Coupé SUV
- GLE SUV
- GLS SUV
- Mercedes-AMG G 63
- Mercedes-Maybach GLS
Mercedes Benz Coupé
- C-Class Coupé
- CLS Coupé
- E-Class Coupé
- Mercedes-AMG CLA Coupé
Mercedes Benz Roadster
- Mercedes-AMG SL Roadster
โดยทุกรุ่นย่อยนั้นจะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้ใช้งาน รวมถึงราคาที่แตกต่างกันไปตามรุ่นย่อยนั้น ๆ
Mercedes Benz มีกี่สี
Mercedes Benz เป็นรถยนต์ที่มีความหลากหลายในการเลือกสี โดยมีสีให้เลือกมากมายตั้งแต่สีพื้น ๆ จนถึงสีพิเศษที่สร้างจากการผสมผสานของสีต่าง ๆ เมื่อมองดูในเชิงสีของรถเบนซ์ จะพบว่ามีสีหลากหลายให้เลือกซื้อตามความต้องการ โดยสีหลักของรถเบนซ์ประกอบด้วยสีเงิน ดำ และขาว แต่ยังมีสีอื่นๆ ที่สามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการของลูกค้าด้วย
นอกจากนี้รถเบนซ์ยังมีสีพิเศษอื่น ๆ ที่สร้างจากการผสมผสานของสีพื้น ๆ อีกมากมาย เช่น สีแดงเข้มที่มีเอฟเฟกต์สุดหรูด้วยการเพิ่มเงา หรือสีเงินที่มีการเพิ่มเติมลายเส้นให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น โดยสีของรถเบนซ์จะมีความทนทานต่อการเกิดรอยขีดข่วนและฝุ่นละออง ในการเลือกสีของรถเบนซ์ ก็สามารถเลือกสีที่ตรงกับบุคลิกภาพและความชอบของผู้ขับขี่ โดยสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายรถเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับสีและรุ่นรถยนต์ที่เหมาะสมกับผู้ขับขี่ได้เลย โดยผู้ขับขี่สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสีของรถเบนซ์ และตารางสีของแต่ละรุ่นได้ที่เว็บไซต์ของผู้ผลิต หรือเว็บไซต์ของตัวแทนจำหน่าย Mercedes Benz ในประเทศไทย
Mercedes Benz ราคา
| รุ่นรถ | ราคา |
|---|---|
| Mercedes Benz Saloon | ราคาเริ่มต้นที่ 2,730,000 บาท |
| Mercedes Benz SUV | ราคาเริ่มต้นที่ 2,330,000 บาท |
| Mercedes Benz Coupé | ราคาเริ่มต้นที่ 3,560,000 บาท |
| Mercedes Benz Roadster | ราคาเริ่มต้นที่ 11,700,000 บาท |
เปรียบเทียบ Mercedes Benz แต่ละรุ่น
รถเบนซ์เป็นยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำที่มีความหลากหลายของรุ่นให้เลือกใช้งาน โดยแต่ละรุ่นจะมีความแตกต่างกันอย่างมากมายทั้งในด้านการออกแบบภายนอก รูปลักษณ์ภายใน และเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตรถ ดังนั้น แรบบิท แคร์จึงจะมาอธิบายความแตกต่างของรถเบนซ์แต่ละรุ่นให้เข้าใจง่าย ๆ ดังนี้
- รุ่น A-Class รถเบนซ์รุ่น A-Class เป็นรถเบนซ์รุ่นเล็กที่มีขนาดเล็กพอที่จะใช้ในการเดินทางในเมืองได้สะดวก โดยมีการออกแบบที่สวยงามและมีความทันสมัย รุ่นนี้มีเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็ก แต่ก็มีกำลังขับเท่ากับรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่า
- รุ่น C-Class รถเบนซ์รุ่น C-Class เป็นรถเบนซ์รุ่นกลางที่มีขนาดเพียงพอที่จะเหมาะสมกับการใช้งานในทุกสถานการณ์ รุ่นนี้มีการออกแบบที่สวยงามและมีความทันสมัย โดยมีเครื่องยนต์ที่มีกำลังขับที่เพียงพอในการใช้งานทั่วไป
- รุ่น E-Class รถเบนซ์รุ่น E-Class เป็นรถยนต์ขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีความหรูหราและความทันสมัย รุ่นนี้มีความสะดวกสบายและมีการออกแบบภายในที่สวยงาม รถยนต์รุ่นนี้มีราคาที่สูงกว่ารุ่น C-Class แต่ยังคงเป็นรถยนต์ที่คุ้มค่าและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์หรูหราขนาดกลางถึงใหญ่
- รุ่น S-Class รถเบนซ์รุ่น S-Class เป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ที่มีความหรูหราและความทันสมัยมากที่สุดของยี่ห้อนี้ รุ่นนี้มีการออกแบบภายในที่สวยงามและมีความสะดวกสบายที่สุด รถยนต์รุ่นนี้มีราคาที่สูงกว่ารุ่น E-Class และ C-Class
Mercedes Benz รีวิว
Mercedes Benz กับดีไซน์ภายนอก
Mercedes Benz เป็นยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำของโลกที่มีดีไซน์ที่เหนือชั้น โดยมีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นสัญลักษณ์ของความหรูหรา ด้วยการออกแบบที่ลงตัวและทันสมัย ทำให้ Mercedes Benz เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเยาวชน
ดีไซน์ภายนอกของ Mercedes Benz มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างชัดเจน โดยมีการออกแบบที่สวยงามและมีความสมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะที่ส่วนหน้าของรถที่มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ Mercedes Benz เป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมอย่างมากในทุกวงการ
Mercedes Benz ยังมีการออกแบบที่เน้นความสะดวกสบายและความปลอดภัยของผู้ขับขี่อย่างมาก โดยมีการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้ Mercedes Benz มีความทนทานและน้ำหนักเบา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถเบนซ์ได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ
ดีไซน์ภายนอกของ Mercedes Benz ยังมีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบไฟ LED ที่ใช้ในหลายส่วนของรถ เพื่อให้มีความสว่างและสวยงาม รวมถึงระบบเสียงที่มีคุณภาพเยี่ยม ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ร Mercedes Benz ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
Mercedes Benz กับดีไซน์ภายใน
Mercedes Benz ยังเป็นรถยนต์ที่มีดีไซน์ภายในที่สวยงามและทันสมัย โดยมีการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้ผู้โดยสารรู้สึกสบายตัวและมีความสะดวกสบายในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีการออกแบบระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ
ภายในของ Mercedes Benz มีการออกแบบให้มีความสะอาดและเรียบง่าย โดยมีการใช้วัสดุเนื้อเรียบที่มีคุณภาพสูงเช่น หนังแท้ ไม้แท้ และโลหะเงินสี ทำให้ Mercedes Benz มีความหรูหราและทันสมัย
ระบบเทคโนโลยีภายในของ Mercedes Benz ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้งานจอภาพสัมผัสขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีระบบเสียงและเครื่องปรับอากาศที่มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง
เมื่อพูดถึงดีไซน์ภายในของ Mercedes Benz จะไม่กล่าวถึงการออกแบบที่มีความสวยงามและทันสมัย โดยมีการใช้สีเทาเข้มที่เป็นเอกลักษณ์ของรถเบนซ์ และมีการใช้แสง LED ที่เป็นไฟหน้าสว่างและสวยงามเลยไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Mercedes Benz มีความหรูหราและน่าใช้งานอย่างมาก
Mercedes Benz และเทคโนโลยีความปลอดภัย
Mercedes Benz เป็นรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัยและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ผู้ขับขี่มีความมั่นใจในการขับขี่และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยประกอบไปด้วยเทคโนโลยี ดังนี้
- ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Mercedes Benz มาพร้อมกับระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ทันสมัย เช่น ระบบเตือนการชนกัน ระบบเตือนการออกนอกช่องจอด ระบบเตือนการเปลี่ยนช่องทางของรถยนต์อื่น ๆ รวมถึงระบบช่วยเบรกอัจฉริยะ ซึ่งช่วยให้รถยนต์หยุดได้เร็วขึ้นและป้องกันการชนกัน
- ระบบควบคุมการเข้าโค้ง Mercedes Benz ยังมีระบบควบคุมการเข้าโค้งที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าโค้งได้อย่างปลอดภัย ระบบนี้ช่วยให้รถยนต์เลี้ยวได้อย่างที่ต้องการและไม่เกินความเร็วที่กำหนด
- ระบบควบคุมการเร่ง Mercedes Benz ได้ใส่ระบบควบคุมการเร่งที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเร่งความเร็วได้อย่างปลอดภัย ระบบนี้ช่วยให้รถยนต์เร่งความเร็วได้อย่างสม่ำเสมอและไม่เกินความเร็วที่กำหนด
- ระบบควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยนต์ Mercedes Benz ยังพัฒนาระบบควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยนต์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของรถยนต์ได้อย่างปลอดภัย ระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเลี้ยวได้อย่างสม่ำเสมอและไม่เกินความเร็วที่กำหนด เป็นต้น
รวมข้อดี-ข้อเสีย ของ Mercedes Benz
| ข้อดีของ Mercedes Benz | ข้อเสียของ Mercedes Benz |
|---|---|
| ความหรูหราและความสมบูรณ์แบบ: รถเบนซ์มีดีไซน์ที่สวยงามและมีความหรูหรามากกว่ารถยนต์อื่น ๆ ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่ดูดีและมีคุณภาพสูง | ราคาที่สูง: รถเบนซ์มีราคาที่สูงกว่ารถยนต์อื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้ไม่เหมาะสมกับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด |
| ความปลอดภัย: รถเบนซ์มีระบบการเตือนภัยและระบบควบคุมการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง | ค่าบำรุงรักษารถยนต์ที่สูง: รถเบนซ์มีค่าบำรุงรักษารถยนต์ที่สูงกว่ารถยนต์อื่น ๆ ในกลุ่มเดียวกัน ทำให้ไม่เหมาะสมกับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์ที่ต่ำ |
| ความสะดวกสบาย: รถเบนซ์มีระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีความสะดวกสบาย เช่น ระบบเครื่องเสียงที่ดีและระบบการเชื่อมต่อโทรศัพท์ที่สะดวกสบาย | การแก้ไขปัญหาที่ยาก: รถเบนซ์มีระบบเทคโนโลยีที่ซับซ้อน ทำให้การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบนรถยนต์เบนซ์มีความยากลำบากมากกว่ารถยนต์อื่น ๆ |
สรุป Mercedes Benz เหมาะกับใคร
Mercedes Benz เป็นยี่ห้อรถยนต์ที่มีชื่อเสียงและความเป็นเอกลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความหรูหราและดูดี โดยเฉพาะในส่วนของดีไซน์ภายนอกที่มีความเป็นเอกลักษณ์และทันสมัย
Mercedes Benz ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความปลอดภัย ความสะดวกสบายในการขับขี่ และความหรูหราในด้านดีไซน์ นอกจากนี้ Mercedes Benz ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบเตือนภัย ระบบเสียงรอบทิศทาง ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และอื่น ๆ อีกด้วย
BMW มองกลยุทธ์ One Price ของ Mercedes-Benz ไม่กระทบยอดขาย หวังปี 2024 ครองเบอร์ 1 รถหรูเช่นเดิม
By
–
28/02/2024

BMW ประเทศไทย ชี้กลยุทธ์ One Price ของ Mercedes-Benz ไม่กระทบยอดขายในปี 2024 พร้อมเผยแผนธุรกิจปี 2024 ด้วยการเน้นทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าครอบคลุมทุกกลุ่ม วางราคาจำหน่ายคุ้มค่า ขยายเครือข่ายในจังหวัดที่ยังเข้าไม่ถึง เสริมแกร่งเป้าหมายครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์หรูในไทย 5 ปีซ้อน

BMW มองกลยุทธ์ One Price ไม่กระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงต้นเดือน ก.พ. 2024 Mercedes-Benz ประเทศไทย ได้ประกาศกลยุทธ์ Retail of the Future (RotF) ที่ให้ดีลเลอร์รถยนต์ในเครือจำหน่ายรถยนต์รุ่นต่าง ๆ ในราคาเดียวกัน รวมถึงใช้แคมเปญการตลาดเดียวกัน โดยดีลเลอร์ดึงรถยนต์ในคลังของ Mercedes-Benz ประเทศไทย เพื่อขาย และไม่ต้องสต็อกสินค้า
แหล่งข่าวผู้บริหารระดับสูงในอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย แจ้งว่า การจำหน่ายราคาเดียวกันของ Mercedes-Benz อาจทำไม่ได้จริง เพราะสุดท้ายดีลเลอร์อาจมีการทำโปรโมชันที่ไม่เปิดเผยเป็นการทั่วไปกับลูกค้า นอกจากนี้ในมุมดีลเลอร์ต่างจังหวัด ลูกค้าในจังหวัดดังกล่าวมักจะเข้ามาซื้อในกรุงเทพเป็นหลัก เพราะมองเรื่องงานบริการที่อาจจะดีกว่า จึงไม่ได้ลดความเสียเปรียบระหว่างดีลเลอร์แต่อย่างใด
อเล็กซานเดอร์ บารากา ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BMW Group ประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันกลยุทธ์ดังกล่าวยังไม่สร้างผลกระทบทางธุรกิจ โดยการเดินหน้าธุรกิจหลังจากนี้จะเน้นทำตลาดรถยนต์หรูที่ครอบคลุมทุกรูปแบบ และมีระบบส่งกำลังที่หลากหลาย หรือตั้งแต่เครื่องยนต์สันดาปภายใน, ไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าล้วน
“ปี 2023 เราทำผลงานได้ค่อนข้างดี แม้จะมีการแข่งขันที่สูงในกลุ่มรถยนต์หรูจนต้องทำแคมเปญต่าง ๆ ออกมาสู้ ซึ่งในปี 2024 BMW Group ประเทศไทย ยังเดินหน้าธุรกิจเต็มรูปแบบเช่นเดิม เพื่อทำให้ตลาดรถยนต์หรูเติบโตในฐานะผู้นำของตลาดนี้”


หวังครองผู้นำตลาดรถยนต์หรู 5 ปีซ้อน
สำหรับปี 2023 BMW Group ประเทศไทย มียอดจดทะเบียนรวม 15,477 คัน เพิ่มขึ้น 3% (แบ่งเป็น BMW 14,128 คัน และ MINI 1,349 คัน) ซึ่งตัวเลขดังกล่าวทำให้ BMW Group ประเทศไทย เป็นเบอร์ 1 ของตลาดรถยนต์หรูหากนับตามยอดจดทะเบียนเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
และจากกลยุทธ์ธุรกิจข้างต้น BMW Group ประเทศไทย หวังเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์หรูเช่นเดิม แต่ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขยอดจดทะเบียนที่ชัดเจนได้ ซึ่งการตั้งเป้าดังกล่าว BMW Group ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถยนต์ และจักรยานยนต์กว่า 10 รุ่น รวมถึงมีแคมเปญราคาพิเศษ เช่น 2 Series ที่มาในราคา 1.99 ล้านบาท เป็นต้น
หากเจาะไปที่กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในปี 2023 BMW Group ประเทศไทย มียอดจดทะเบียนรวมทั้งหมด 1,604 คัน เติบโต 200% ส่วนกลุ่มรถยนต์ระดับ Luxury Class หรือรถยนต์รุ่นสูงสุดของแบรนด์ เช่น 7 Series, i7, 8 Series และ XM มียอดจดทะเบียนทั้งหมด 668 คัน เพิ่มขึ้น 46% แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในตลาดนี้

กลยุทธ์ทางการเงินช่วยขับเคลื่อนยอดขาย
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย หน่วยธุรกิจด้านบริการทางการเงินของ BMW Group ประเทศไทย ยังเป็นอีกส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนยอดขายของบริษัท ผ่านบริการ และทางเลือกสินเชื่อที่ตอบโจทย์ลูกค้า จนปัจจุบัน 50% ของการซื้อรถยนต์ใหม่ของแบรนด์จะทำผ่านหน่วยธุรกิจดังกล่าว
บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย ยังเดินหน้าบริการเกี่ยวกับประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อสร้างโอกาสทางรายได้เพิ่ม ผ่านความเชี่ยวชาญ และการใช้ฐานข้อมูลการขับขี่รถยนต์ในเครือเพื่อยกระดับแผนประกันให้ตอบโจทย์กับลูกค้าเช่นกัน
ทั้งนี้ BMW Group ประเทศไทย เตรียมขยายเครือข่ายไปในจังหวัดต่าง ๆ ที่ยังเข้าไม่ถึง เช่น การจับมือกับ บริษัท มิลเลนเนียม ออโต้ กรุ๊ป จำกัด ขยายเครือข่ายในภาคใต้ และ เนลสัน ออโต้เฮ้าส์ ที่เตรียมลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเปิดโชว์รูมที่จังหวัดระยอง เป็นต้น โดยโชว์รูมต่าง ๆ ของ BMW Group ประเทศไทย
รถยนต์ไฟฟ้าล้วนแข่งดุ มีแบรนด์จีนเป็นผู้นำ
อเล็กซานเดอร์ บารากา เสริมว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว เช่น ปี 2022 มียอดจดทะเบียนที่ 9,000 คัน แต่ปี 2023 เพิ่มขึ้นเป็น 75,000 คัน เนื่องจากมีผู้เล่นจากจีนเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ผู้เล่นเหล่านั้นยังอยู่ในตลาด Non-Premium ที่ไม่ตรงกับรถยนต์ของ BMW Group
ในทางกลับกัน ฝั่ง Premium หรือรถยนต์หรู BMW Group ยังเป็นทางเลือกสำคัญของลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าล้วนเช่นเดิม และจะเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาดนี้ให้มากขึ้น ไล่ตั้งแต่การตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์พลังงานสะอาดด้วยรถยนต์ไฮบริดที่มีให้เลือกหลายรุ่น จนถึงรถยนต์ไฟฟ้าล้วนที่ครอบคลุมทั้ง Sedan และ SUV
ปัจจุบัน BMW Group ประเทศไทย ทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าล้วน 7 รุ่น ประกอบด้วย MINI Cooper SE, BMW i4, i5, i7, iX2, iX3 และ iX โดยฝั่งแบรนด์ BMW จะมีราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท ถือว่ามากที่สุดในกลุ่มรถยนต์หรูในประเทศไทย

