• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0810878 แม าพ การ part 2

admin79 by admin79
October 8, 2025
in Uncategorized
0
N0810878 แม าพ การ part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

บีวายดีเร่งขยายตลาดโลก丨10 ประเทศปลายทางหลักของการส่งมอบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของบีวายดีในครึ่งแรกปี 2025

  • ส.ค. 11, 2025, at 9:46 am
  • gasgoo

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 บริษัท บีวายดี (BYD) ได้จัดประชุมสื่อสารกับนักลงทุนที่ฮ่องกง โดยประกาศเป้าหมายการขายรถยนต์ในปี 2568 จำนวน 5.5 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงรถยนต์จากตลาดต่างประเทศมากกว่า 800,000 คัน

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 บริษัท BYD ได้จัดประชุมสื่อสารกับนักลงทุนที่ฮ่องกง โดยประกาศเป้าหมายยอดขายรถยนต์ในปี 2568 ที่ 5.5 ล้านคัน ซึ่งรวมถึงยอดขายจากตลาดต่างประเทศกว่า 800,000 คัน ประธานบริษัท วังชวนฟู่ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะนำโซลูชันอัจฉริยะไปใช้อย่างเต็มรูปแบบในระดับโลกระหว่างปี 2569 และ 2570 โดยเน้นย้ำถึงความปลอดภัยเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันที่สำคัญควบคู่ไปกับกลยุทธ์การใช้ไฟฟ้า

ในครึ่งแรกของปี 2568 ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในต่างประเทศของ BYD ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีรอยเท้าการส่งออกที่หลากหลายมากขึ้น หลายประเทศบรรลุปริมาณการขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่อิสราเอลได้เข้ามาอยู่ในอันดับ 10 ประเทศแรกเป็นครั้งแรก ซึ่งเน้นย้ำถึงการขยายตัวในระดับโลกของบริษัทที่เร่งขึ้น ผ่านแผนงานเทคโนโลยีที่ประสานงานกัน นโยบายที่สอดคล้องกันอย่างรวดเร็ว และการดำเนินการผลิตภัณฑ์ที่ตรงเป้าหมาย BYD กำลังสร้างการมีอยู่ในตลาดโลกที่มีความยืดหยุ่นและแข่งขันได้มากขึ้น

นี่คือ 10 ประเทศปลายทางหลักสำหรับการส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของ BYD ในครึ่งแรกของปี 2568 พร้อมกับข้อมูลรายละเอียดดังนี้

บราซิล: 28,013 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 49,891 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 77,904 คัน

เบลเยียม: 38,809 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 28,918 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 67,727 คัน

เม็กซิโก: 27,915 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 39,038 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 66,953 คัน

สหราชอาณาจักร: 20,271 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 13,677 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 33,948 คัน

ตุรกี: 10,695 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 15,948 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 26,643 คัน

อินโดนีเซีย: 20,379 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่

ออสเตรเลีย: 13,997 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 6,208 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 20,205 คัน

สเปน: 10,477 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 7,753 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 18,230 คัน

ฟิลิปปินส์: 3,554 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 9,599 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 13,153 คัน

อิสราเอล: 4,500 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และ 6,097 คัน รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอิน รวมเป็น 10,597 คัน

ในครึ่งแรกของปี 2568 BYD ได้ส่งออกรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฮบริดปลั๊กอินไปยังบราซิลจำนวน 49,891 คัน ซึ่งมากกว่าจำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ (BEVs) จำนวน 28,013 คัน รวมเป็น 77,904 คัน ทำให้บราซิลกลายเป็นตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ซึ่งผสมผสานการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ากับการเติมเชื้อเพลิงที่ยืดหยุ่นได้ ได้พิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมด้านพลังงานของบราซิล ซึ่งแก๊สโซฮอล์ผสมเอทานอลยังคงมีอยู่ทั่วไป PHEV ยังช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น การเดินทางระยะไกลและโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จไฟที่จำกัด

หลังจากที่บราซิลกลับมาเรียกเก็บภาษีนำเข้าสำหรับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) อีกครั้งในปี 2024 ซึ่งกำหนดให้เพิ่มขึ้นทุกปีในเดือนกรกฎาคม BYD ได้เร่งการส่งมอบเพื่อให้มั่นใจว่าการส่งมอบส่วนใหญ่จะมาถึงก่อนที่อัตราภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้ ในเม็กซิโก BYD ได้ส่งออกรถยนต์จำนวน 66,953 คัน โดย PHEV คิดเป็นส่วนใหญ่ที่ 39,038 คัน โดยรวมแล้ว PHEV ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางกว่า BEV ในตลาดลาตินอเมริกา

เบลเยียมจัดอันดับที่สองด้วยการส่งออกจำนวน 67,727 คัน ในฐานะศูนย์กลางการจัดจำหน่ายยานยนต์ที่สำคัญในยุโรป เบลเยียมมีการดำเนินงานท่าเรือที่มีประสิทธิภาพและเครือข่ายโลจิสติกส์ที่พัฒนาดี ซึ่งทำหน้าที่เป็นประตูทางยุทธศาสตร์สำหรับแบรนด์จีนอย่าง BYD ในการขยายการมีอยู่ทั่วทวีป ในทางตรงกันข้าม สหราชอาณาจักรมีการส่งออกที่สมดุลมากขึ้น โดยมีการส่งออก PHEV จำนวน 13,677 คัน และ BEV จำนวน 20,271 คัน รวมเป็น 33,948 คัน

อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์จัดอันดับที่หกและเก้าตามลำดับ ด้วยการส่งออกจำนวน 20,379 และ 13,153 คัน การส่งออกทั้งหมดไปยังอินโดนีเซียเป็น BEV ซึ่งขับเคลื่อนโดยการผลักดันอย่างแข็งขันของรัฐบาลสำหรับการขนส่งสาธารณะและรถแท็กซี่ที่ใช้ไฟฟ้า รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อ BEV การครองตลาดการเดินทางระยะสั้นก็ส่งผลต่อความต้องการในท้องถิ่นด้วยเช่นกัน

ในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียได้แนะนำมาตรการสนับสนุนที่เสนอสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับผู้ผลิตรถยนต์จีนอย่าง BYD เพื่อมุ่งหวังที่จะดึงดูดให้พวกเขาผลิตในท้องถิ่นและเร่งการเติบโตของกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศ BYD ได้ขยายการมีอยู่ในตลาดตลาดเกิดใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็วโดยอาศัยช่องทางนโยบายนี้และสายผลิตภัณฑ์ที่มีตำแหน่งที่ดี ในวันที่ 26 กรกฎาคม BYD ได้เปิดตัว ATTO 1 (รุ่นต่างประเทศของ Seagull) ในอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่คาดว่าจะช่วยเพิ่มการมีอยู่ในตลาดได้มากขึ้น

ทั้งในอิสราเอลและสเปน BYD ได้ส่งออกมากกว่า 10,000 คัน โดยมีการผสมผสานระหว่าง BEV และ PHEV ที่ค่อนข้างสมดุล อิสราเอลเข้าสู่ 10 อันดับแรกเป็นครั้งแรกในปี 2025 ด้วยการส่งออกจำนวน 10,597 คันประเทศนี้ได้ค่อยๆปรับปรุงระบบภาษีคาร์บอนและภาษีสีเขียวของตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยนำระบบภาษีซื้อที่สูงขึ้นและ “ค่าปรับสีเขียว” สำหรับรถยนต์ที่มีการปล่อยมลพิษสูงมาใช้ เพื่อขับเคลื่อนความต้องการรถยนต์พลังงานต่ำคาร์บอนและพลังงานสะอาด ผลงานนี้ได้เน้นย้ำถึงการยอมรับรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ที่เพิ่มขึ้นของอิสราเอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์จากแบรนด์จีน

โดยรวมแล้ว ความสำเร็จของ BYD ในตลาดต่างประเทศมาจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับส่วนผสมของพลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ด้วยการใช้กลยุทธ์สองทางของรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับการเจาะตลาดโลก

10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก

10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก

10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก มีออกทุกปีแน่นอน รถยนต์หรูหราราคาแพงสามารถแสดงถึงไลฟ์สไตล์ที่บ้าระห่ำได้ ดังนั้น ไม่เพียงแต่เป็นรถยนต์ที่แพงที่สุดในโลกจากแบรนด์รถยนต์ชั้นนำต่างๆ เท่านั้น แต่ยังส่งเสริมภาพลักษณ์ของเจ้าของรถและยังเป็นหน้าตาของสังคมอีกด้วย สัมผัส ค้นพบ และปลดล็อกสิ่งใหม่ๆ ประสบการณ์ รถรุ่นไหนจะเป็นรถที่แพงที่สุดในโลก เร็วแค่ไหน และพิเศษแค่ไหน? รถราคาแพงก็เหมือนการใส่ชุดดีไซเนอร์ชื่อดังหรือถือกระเป๋าดีไซเนอร์

รถยนต์ราคาแพงมักจะมีการออกแบบที่ดึงดูดใจกว่ารถยนต์ทั่วไป ด้วยกำลังเครื่องยนต์และสมรรถนะที่เหลือเชื่อและกลุ่มรถใหม่ที่ราคาโหดที่สุด คำว่ารวย ยังประเมินค่าต่ำไปเพราะรถบางรุ่นเป็นรถที่สั่งทำพิเศษตามความต้องการของเจ้าของรถ มีความเป็นไปได้ที่บางรุ่นจะผลิตเฉพาะใน โลก. หรืออาจจะถูกกว่านิดหน่อยและผลิตจำนวนจำกัด และแม้ว่าจะมีการเปิดตัวหลายรุ่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงอยู่ในช่วงของมัน ยี่ห้ออะไร รถไฟฟ้าที่แรงที่สุด

10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก ที่น่าสนใจ

Pagani Huayra Roadster BC

10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก ค่ายรถยนต์ Pagani ผู้เชี่ยวชาญด้านดีไซน์รถงานคาร์บอนไฟเบอร์ได้เปิดตัว Hypercar Pagani Huayra Roadster BC ด้วยเป้าหมายต้องการสร้างรถยนต์ที่มีน้ำหนักเบามากที่สุด แต่ก็ยังคงความแข็งแกร่งภายในอย่างครบถ้วน Pagani จึงได้เปลี่ยนวัสดุจากคาร์บอนไฟเบอร์มาเป็น Cabotanium (คาร์บอน+ไทเทเนียม) ที่มีความแข็งแรงแต่มีน้ำหนักเพียง 1,250 กิโลกรัมเท่านั้น

ดังนั้นการเปลี่ยนมาใช้วัสดุราคาแพงจึงทำให้ค่าตัวของ Pagani Huayra Roadster พุ่งสูงขึ้นถึง 123,945,500 บาท กลายเป็น รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 10 โดยผลิตขึ้นเพียง 40 คัน มาพร้อมเครื่องยนต์ AMG V12 ขนาด 6 ลิตร 800 แรงม้าเกียร์ Xtrac 7 ระดับ เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 370 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Lamborghini Sian

สุดยอดรถยนต์ไฮบริดดีไซน์ล้ำยุค Lamborghini Sian เปิดตัวในวันที่ 3 กันยายน 2019 โดยงานออกแบบเน้นหลัก Aerodynamic และมีไฟหน้ารูปตัว Y ที่มีต้นแบบมาจากรถยนต์รุ่น Terzo Millennio รวมถึงมีระบบ Cooling System แบบอัตโนมัติที่คอยตรวจสอบอุณหภูมิเครื่องไม่ให้สูงเกินไป ไฟท้ายใช้ระบบไฟ LED ปลายท่อไอเสียออกแบบเป็นรูป 6 เหลี่ยมแสดงความพรีเมี่ยมหาที่เปรียบได้ยาก

รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 9 Lamborghini Sian มีราคาอยู่ที่ 127,587,600 บาท ราคาเทียบเท่ากับรถ เอสยูวี Bentley Bentayga V8 ถึง 6 คัน (คันละ 21.5 ล้านบาท) ผลิตขึ้นเพียง 19 คัน ตัวเครื่องใช้เครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 819 แรงม้า เกียร์ออโต้ 7 ระดับ เบรกคาร์บอนเซรามิค 6 สูบ เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 10 อันดับรถ suv ประหยัดน้ํามัน

Bugatti Chiron Super Sport 300+

Bugatti Chiron Super Sport 300+ เป็นไฮเปอร์คาร์ที่ Bugatti ได้จับมือร่วมกับ Centodieci เพื่อนำเครื่องยนต์รุ่นใหม่เข้ามาใช้เพื่อสร้าง Bugatti Chiron รุ่นที่ Ultimate ที่สุดที่สามารถสร้างสถิติโลกได้ ดังนั้นภายในจึงมีการปรับปรุงใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเกียร์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพ, ตัวถังที่มี Aerodynamic 100% ที่ทำให้ลดแรงต้านอากาศเพิ่มสมรรถนะความเร็วแรงได้มากกว่าเดิม

จากภายในที่เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดทำให้ Bugatti Chiron Super Sport 300+ เป็น รถแพงที่สุดในโลกอันดับ 8 โดยมีราคาอยู่ที่ 138,219,900 บาท เทียบเท่ากับ Bitcoin 183 เหรียญ (เหรียญละ 754,500 บาท) โดยผลิตขึ้นเพียง 30 คัน ตัวเครื่องใช้เครื่องยนต์ QuadTurbo W16 8 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 1,600 แรงม้า เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 483 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก

Lamborghini Veneno

Veneno Roadster พัฒนาขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบ 50 ปีของ Lamborghini โดยเป็นรุ่นที่มีคำนิยามว่าเป็น “Supercar เปิดประทุนสายพันธ์นักแข่ง” โดยชื่อรุ่นมาจากชื่อของวัวกระทิงที่มีความดุร้ายแข็งแกร่งที่สื่อให้เห็นถึงความเร็วแรงของรถยนต์รุ่นนี้ การออกแบบใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ และช่องดักลมที่ออกแบบใช้หลัก Aerodynamic และเบาะรถภายในใช้วัสดุพิเศษ Carbonskin สุดพรีเมี่ยม

รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 7 Lamborghini Veneno มีค่าตัวอยู่ที่ 159,412,500 บาท ผลิตขึ้นเพียง 14 คัน ตัวเครื่องใช้เครื่องยนต์ V12 6.5 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 750 แรงม้า เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 335 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถที่เร็วที่สุดในโลก

Koenigsegg CCXR Trevita

Koenigsegg CCXR Trevita ไฮเปอร์คาร์สัญชาติสวีเดนที่มีความพิเศษของตัวถังที่เคลือบด้วย ‘เพชร’ ทำให้ CCXR Trevita เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นที่ดาราผู้มีชื่อเสียงต่างต้องการจับจองเป็นเจ้าของ โดยหนึ่งในนั้นก็คือ Floyd Mayweather Jr นักมวยมหาเศรษฐีเจ้าของสถิติไร้พ่าย 50 ไฟท์นั่นเอง

ด้วยตัวถังที่เคลือบด้วยเพชรทำให้ Koenigsegg CCXR Trevita เป็น รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 6 มีราคาอยู่ที่ 170,037,600 บาท เทียบได้กับบ้านเดี่ยว 2 ชั้นใจกลางกรุงเทพฯ ถึง 4 หลัง (หลังละ 42 ล้าน) โดยผลิตขึ้นเพียง 49 คัน ตัวเครื่องใช้เครื่องยนต์ V8 4.8 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 1,004 แรงม้า เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 410 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถ 7ที่นั่ง

Bugatti Divo

Bugatti Divo Hypercar รุ่น Limited Edition เปิดให้จับจองเฉพาะลูกค้าที่เป็นเจ้าของ Bugatti Chiron เท่านั้น ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่หายากและติดอันดับรถแพงที่สุดในโลก โดย Bugatti Divo ใช้เวลาผลิตนานถึง 3 ปีเพราะแต่ละคันนั้นจะถูกสั่งตกแต่งแตกต่างกันทั้งหมด (จากผู้ที่ได้สิทธิ์ซื้อรุ่นนี้) ดังนั้นจึงทำให้ Bugatti Divo แต่ละคันเป็นรุ่น One of a Kind ที่ไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอน

ด้วยการที่ต้องใช้เวลาผลิตขึ้นอย่างพิถีพิถัน ทำให้ Bugatti Divo เป็น รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 5 ค่าตัวอยู่ที่ 205,392,500 บาท ผลิตขึ้นเพียง 40 คันในโลก ตัวเครื่องใช้เครื่องยนต์ W16 8.0 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 1,500 แรงม้า เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถไฟฟ้าถูกที่สุด

Mercedes Maybach Exelero

รถแบรนด์หรูจากเยอรมนี Mercedes Maybach Exelero เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2004 ในรูปแบบ One-Off หรือ ‘มีเพียงคันเดียวในโลก’ เพราะรถยนต์รุ่นนี้เป็นรถรุ่นต้นแบบที่ทาง Maybach และ Fulda ร่วมพัฒนาเพื่อโชว์ศักยภาพเทคโนโลยียางรถยนต์ ผลออกมาก็คือยางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนั้น

ด้วยการที่ Mercedes Maybach Exelero มีเพียงคันเดียว ทำให้เป็นรถแพงที่สุดในโลก อันดับ 4 ด้วยค่าตัวที่ 283,300,000 บาท ที่เทียบราคานี้คุณสามารถซื้อรถซีดานไฟฟ้า Tesla Model 3 ได้ถึง 66 คัน (คันละ 4.3 ล้านบาท) ขณะนี้ผู้ที่เป็นเจ้าของคือ Mechatronik บริษัทสะสมรถเก่าจากประเทศเยอรมัน ตัวเครื่องใช้เครื่องยนต์ V12 5.9 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 690 แรงม้า เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 4.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 351.45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Bugatti Centodieci

Bugatti Centodieci รุ่น Limited Edition พัฒนาขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 110 ปีของ Buggatti ที่ชื่อมาจากภาษาอิตาลีแปลได้ว่า Hundred Ten (110) ได้แรงบันดาลใจจากรถยนต์รุ่น EB110 ที่ปรับปรุงภายในให้เบาลงกว่าเดิม 20 กิโลกรัม ปรับวัสดุตัวถังเป็นคาร์บอนไฟเบอร์ ด้านหน้ารถลาดต่ำตามหลัก Aerodynamic และข้างตัวรถมีช่องวงกลม 5 รูที่คอยดูดอากาศช่วยลดอุณหภูมิเครื่องยนต์ที่เป็นจุดเด่นหลักของรุ่นนี้

รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 3 Bugatti Centodieci มีราคาอยู่ที่ 318,496,500 บาท (เทียบได้กับไอโฟน 13 Pro Max 6,790 เครื่อง) โดยผลิตขึ้นเพียง 10 คัน ใช้เครื่องยนต์ W16 8 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 1,600 แรงม้า เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถมอไซค์ไฟฟ้า

Bugatti La Voiture Noire

Bugatti La Voiture Noire เป็นรถยนต์แบบ One-Off (มีเพียงคันเดียวในโลก) ใช้เวลาผลิต 2 ปีเต็ม งานออกได้รับแรงบันดาลใจจากรถรุ่นคลาสสิค Bugatti Type 57 จึงมีสันสีเงินคาดกลางตัวรถเพื่อแสดงความเคารพอย่างน่าหลงใหล และตัวรถผลิตด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ทั้งหมด

Bugatti La Voiture Noire เป็นอีกหนึ่งรถยนต์ One-Off ทำให้เป็นหนึ่งรุ่นหายากที่สุด และเป็น รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 2 ด้วยราคา 661,447,050 บาท แพงกว่าคอนโดหรูที่แพงที่สุดในประเทศไทย (650 ล้านบาท) โดยเจ้าของปัจจุบันคือ Cristiano Ronaldo กองหน้าของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ใช้เครื่องยนต์ W16 8 ลิตร สมรรถนะสูงสุด 1,500 แรงม้า เร่งความเร็ว 1-100 กิโลเมตรได้ภายใน 2.4 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ 260 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก

Rolls-Royce Boat Tail

รถแพงที่สุดในโลก อันดับ 1 ของปี 2022 ได้แก่ Rolls-Royce Boat Tail ที่รวมสุดยอดการออกแบบหรูหราพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือยอร์ช J Class โดยภายนอกมีการตกแต่งแบบทูโทนตัดกันอย่างลงตัว ส่วนท้ายมีตู้แช่แชมเปญ ร่มกันแดด โต๊ะไม้ Caleidolegno และเก้าอี้บาร์เส้นใยไฟเบอร์พร้อมสังสรรค์ได้แบบไม่มีรถรุ่นไหนทำได้มาก่อน

ด้วยฟีเจอร์สุดยอดการสังสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร ประกอบกับดีไซน์หรูหราจากเรือยอร์ชระดับโลก Rolls-Royce Boat Tail จึงกลายเป็นรถแพงที่สุดในโลก อันดับ 1 อย่างไม่ต้องสงสัยด้วยค่าตัว 989,674,000 บาท เป็นราคาที่คุณสามารถซื้อเครื่องบินเจ็ทเทอร์โบส่วนตัว 9 ที่นั่งได้ 4 ลำ (Beechcraft King Air 260 คันละ 245 ล้านบาท) โดยผลิตขึ้นเพียง 3 คันในโลก ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า 1000W สมรรถนะ ทำความเร็วสูงสุดได้ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก

Previous Post

N0810883 ความร กท เท าเท ยมของครอบคร part 2

Next Post

N0810884 ปล อยให นมานะอย างแม part 2

Next Post
N0810884 ปล อยให นมานะอย างแม part 2

N0810884 ปล อยให นมานะอย างแม part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.