ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

รถ 2024

รถ 2024 หากติดตามข่าวสารรถยนต์คงไม่อยากพลาดรถใหม่คันนี้ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน หรือยุโรป แต่ละแบรนด์ต่างมุ่งเน้นที่การแสดงศักยภาพที่เหนือกว่า รวมถึงนวัตกรรมเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ ที่มีการอัพเดทอย่างต่อเนื่องทุกปีเพื่อให้ทันกับโลกปัจจุบัน และแน่นอนว่าในบ้านเรา ประเทศไทย มีรถใหม่หลายประเภทให้คนไทยจองทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เบนซิน วันนี้ผมจะนำเสนอสิ่งที่น่าดูและไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน คุณสามารถเรียกมันว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยสั้นๆ ใครที่สนใจรถยนต์ใหม่รายการใดในรายการนี้ควรเตรียมประหยัดเงินไว้ รุ่นไหนอยู่ในงบประมาณของคุณ? รถคันแรกแบบไหนดีสำหรับคนเพิ่งเริ่มต้น? หรือใครที่ต้องการรถที่ดูแลรักษาง่าย ไม่ซับซ้อน และเพียงพอต่อการเดินทางในแต่ละวัน รถยนต์เหล่านี้เป็นเจ้าของได้ง่ายมาก หากคุณกำลังมองหาซื้อรถใหม่และกำลังสงสัยว่าจะซื้อรถยี่ห้อไหน ลองใช้สิ่งนี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อรถของคุณได้ง่ายขึ้น ยี่ห้อไหนน่าสนใจ? แล้วรถยนต์แบบไหนที่คุณควรซื้อเพื่อให้คุ้มค่าเงินที่สุดและตรงตามความต้องการของคุณ บทความนี้มีคำตอบทั้งหมด รถ 2023

• Honda e:NS1
  อีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตามองในปีนี้ Honda เปิดตัวรถใหม่ 2023 มาพร้อมกับรถใหม่ ที่เตรียมนำเข้ามาในประเทศไทยแล้ว กับ Honda e:NS1 หรือ Honda HR-V EV รถยนต์ไฟฟ้า 100% ตัวถังมาในรูปแบบรถเอสยูวีขนาดกลาง ซึ่ง Honda e:NP1 / e:NS1 เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีพื้นฐานมาจากรถร่วมค่ายอย่าง HR-V โดยเทียบขนาดแล้วก็ถือว่าใกล้เคียงกันมาก ดีไซน์แตกต่างเพียงกันชนหน้าและหลัง ถ้าอ้างอิงจากราคาจำหน่ายที่ประเทศจีน คาดการณ์ราคาขายในไทยน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1,200,000-1,300,000 บาท หลังหักส่วนลดแล้ว สำหรับ Honda e:NS1 มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ Standard Range แบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion ขนาด 53.6 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 420 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน CLTC) ความเร็วสูงสุด Top Speed 150 km/h และอีกรุ่น คือ Long Range มากับแบตเตอรี่ Ternary Lithium-ion ขนาด 68.8 kWh วิ่งได้ระยะทางสูงสุด 510 km. ต่อการชาร์จ (มาตรฐาน CLTC) ความเร็วสูงสุด Top Speed 150 km/h รถใหม่2023

• Ford Ranger PLATINUM
  ก้าวไปอีกหนึ่งขั้นกับรถกระบะสัญชาติอเมริกันขวัญใจคนไทย Ford Ranger ครั้งนี้ Ford ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวรถใหม่อีกหนึ่งรุ่น กับ Ford Ranger PLATINUM โดยจะเป็นรุ่นที่เพิ่มความพรีเมียม หรูหรามากขึ้นกว่ารุ่น WILDTRAK ที่ขายไปก่อนหน้านี้ สำหรับความหรูหราที่เพิ่มขึ้นมาของฟอร์ด เรนเจอร์ แพลทินัม คันนี้ ตัวอย่างเช่น ระบบเสียงจากแบรนด์ Bang & Olufsen พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง และ เบาะนั่งพร้อมระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat เป็นต้น โดยคาดการณ์ราคาขายในไทยน่าจะไม่ต่ำกว่า 1,300,000 บาทFord Ranger PLATINUM มาพร้อม 2.0 Bi-Turbo DIESEL เครื่องยนต์ดีเซล EcoBlue 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบคู่ (ทำงานร่วมกันระหว่าง High-Pressure (HP Turbo) เทอร์โบแรงดันสูง และ Low-Pressure (LP Turbo) เทอร์โบแรงดันต่ำ ควบคุมด้วยวาล์ว Bypass) กำลังสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมระบบ Terrain Management
• Honda City Minorchange
  Honda City รุ่นปรับโฉม Minorchange ได้ถูกนำมาวิ่งทดสอบบนถนนแล้วทั้งในประเทศไทยและประเทศอินเดีย โดยคาดการณ์ว่า honda city 2023 เปิดตัว ในปี 2023 นี้ ช่วงกลางเดือนกรกฏาคม และจากรูปที่หลุดออกมาพบว่าเป็น Honda City รุ่น Sedan หรือรุ่น 4 ประตู โดยมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์กระจังหน้าและหลัง ดีไซน์ล้ออัลลอยก็แตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย แต่สิ่งที่น่าจะเหมือนเดิมคือเครื่องยนต์ที่เหมือนกับรุ่นปัจจุบัน นั่นคือ เครื่องยนต์เบนซิน Turbo 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร ระบบแปรผันวาล์ว ทั้งแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วงเทอร์โบ กำลังสูง 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 173 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า และอีกรุ่นหนึ่ง คือเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 4 สูบ 16 วาล์ว 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 127 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร ผสานกับเกียร์อัตโนมัติ e-CVT
• All-New Honda Accord
  Honda Accord เจเนอเรชันที่ 11 เปิดตัวแล้วในประเทศสหรัฐอเมริกา สำหรับรถใหม่อย่าง Honda Accord 2023 ได้มีการปรับดีไซน์ใหม่ให้ดูล้ำสมัยมากยิ่งขึ้น ในขณะที่จะมีเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือกด้วยกัน ได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 Turbo กำลังสูงสุด 192 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 207 แรงม้า ด้านข้างตัวรถจนถึงตอนหลังมีการปรับเปลี่ยนให้ลาดลงแบบสไตล์รถยนต์ฟาสต์แบ็ก ดูเท่มากยิ่งขึ้น และมิติตัวถังมีขนาดรถที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย ส่วนดีไซน์ภายในห้องโดยสารก็เรียกว่ายกห้องโดยสารของ Honda Civic FE โฉมล่าสุดมาเกือบทั้งหมดเลยทีเดียว ในการเปิดตัวครั้งแรกที่สหรัฐอเมริกา Honda Accord 2023 นี้ วางจำหน่ายด้วยกัน 6 รุ่นย่อย ได้แก่ LX, EX, Sport, EX-L, Sport-L และ Touring ล่าสุดนั้นยังไม่มีการเปิดเผยราคาวางจำหน่าย 10อันดับ รถ 2024
• Toyota Hilux REVO BEV
  รถกระบะไฟฟ้า 100% คันนี้ ได้โชว์ตัวแล้วครั้งแรกที่ประเทศไทย ณ งานฉลอง 60 ปี โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยที่ผ่านมาเมื่อไม่นานมานี้ สำหรับรถใหม่ Toyota Hilux REVO BEV มีพื้นฐานมาจากรถกระบะยอดนิยมอย่าง Hilux REVO Standard Cab มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อย โดยใช้กระจังหน้าแบบปิดทึบ ส่วนแบตเตอรี่นั้นจะติดตั้งอยู่ใต้ท้องรถ ข้อมูลรายละเอียดย่อยอย่างความจุแบตเตอรี่, เครื่องยนต์, ระบบเบรก รวมถึงราคาวางขาย ล่าสุดยังไม่มีการเปิดเผยออกมา คาดว่าน่าจะวางจำหน่ายภายในปี 2023 นี้แน่นอน
• Honda WR-V
  แบรนด์ยอดนิยมคนไทย Honda เปิดตัวรถใหม่ 2023 ด้วยการวางจำหน่าย Honda WR-V รถยนต์เอสยูวีน้องเล็กสุดในแบรนด์ขนาด 5 ที่นั่ง โดย Honda WR-V รุ่นนี้นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย เน้นดีไซน์ภายนอกที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ขับง่าย มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว 1.5 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิกส์ PGM-FI พร้อมระบบแปรผันวาล์ว i-VTEC พละกำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 145 นิวตันเมตร ที่ 4,300 รอบ/นาที ทำงานจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าสำหรับ Honda WR-V วางขายในประเทศไทยสองรุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่ 1.5 SV CVT ราคา 799,000 บาท และ 1.5 RS CVT ราคา 869,000 บาท อุปกรณ์พื้นฐานในรุ่นเริ่มต้น อาทิ ไฟหน้า LED, ไฟ Daytime Running Light LED, ไฟท้าย LED, ไฟเลี้ยวด้านหน้า LED Sequential, ระบบปัดน้ำฝนด้านหน้าแบบหน่วงเวลา, หน้าจอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว เป็นต้น รถ 2024

บทความที่เกี่ยวข้อง

• 10อันดับรถยุโรป
• 10อันดับ รถไฟฟ้า

Ford Ranger Raptor ใหม่ ออฟโรดที่ไม่ธรรมดา

S Sippi Vig ม.ค. 17, 2024 For ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์

 รูปภาพ รีวิวจากผู้ใช้

Contents

• KEY TAKEAWAYS
• ระบบการจัดการภูมิประเทศขั้นสูง
• แชสซีและระบบกันสะเทือนเสริมความแข็งแกร่ง
• แผ่นกันกระแทกเหล็กความแข็งแรงสูงและการป้องกันใต้ท้องรถ
• ระบบควบคุมเส้นทาง
• ระบบไอเสียวาล์วแอคทีฟ

ในตลาดไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็วสำหรับรถกระบะออฟโรดที่สมบุกสมบัน Ford Ranger Raptor รุ่นปี 2024 กลายเป็นขุมพลังที่เหนือกว่า โดยนำเสนอการผสมผสานระหว่างพละกำลัง สมรรถนะ และเทคโนโลยีแก่ผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยและผู้แสวงหาการผจญภัย

KEY TAKEAWAYS

Ford Ranger Raptor ที่มีจำหน่ายในไทยมีกี่รุ่น?

Ford Ranger Raptor มีให้เลือก 2 รุ่นในไทย ได้แก่ ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost V6 เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร ราคาอยู่ที่ 1,799,000 บาท และ 1,949,000 บาท ตามลำดับ

ฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดของ Ford Ranger Raptor ใหม่ มีอะไรบ้าง?

Ford Ranger Raptor รุ่นปี 2024 มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆ เช่น โช้คอัพภายใน FOX ขนาด 2.5 นิ้ว ระบบกันสะเทือนขั้นสูง และระบบการจัดการภูมิประเทศพร้อมโหมดขับเคลื่อนเจ็ดโหมด ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการปรับแต่งเพื่อยกระดับความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด

Ford Ranger Raptor ปี 2024 ได้รับตำแหน่งแชมป์ออฟโรดสมรรถนะสูง ตอบสนองผู้ขับขี่ที่แสวงหาทั้งพละกำลังและการประหยัดน้ำมันเพื่อการเดินทางออฟโรดความเร็วสูง ผู้หลงใหลในการขับขี่และนักผจญภัยสามารถเพลิดเพลินไปกับคุณสมบัติขั้นสูงของรถกระบะและเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ก้าวไปอีกขั้นซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรด

เรามาดูรายละเอียดรถ Ford Ranger Raptor ที่มีขายในโชว์รูม Ford ในไทยกัน

	Ranger Double Cab Raptor 3.0L	Ranger Double Cab Raptor 2.0L
เครื่องยนต์	เบนซิน 3.0 ลิตร V6 EcoBoost เทอร์โบคู่รองรับการใช้น้ำมันเชื้อพลิง E20กำลังสูงสุด 397 PS (292 กิโลวัตต์) / 5,650 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 583 นิวตัน-เมตร / 3,500 รอบต่อนาที	ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่รองรับการใช้น้ำมันเชื้อพลิง B20กำลังสูงสุด 210 PS (155) กิโลวัตต์ / 3,750 รอบต่อนาทีแรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร / 1,750-2,000 รอบต่อนาที
ระบบขับเคลื่อนและระบบส่งกำลัง	4WDเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter	4WDเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter

โดยทั้งสองรุ่นมีเทคโนโลยีช่วยการขับขี่ขั้นสูงที่เหมือนกันได้แก่

• ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัจฉริยะ
• กล้องมองรอบคัน 360 องศา
• ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ พร้อมระบบ Stop&Go และระบบควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง
• ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน
• ระบบเตือนการชนด้านหน้า
• ระบบช่วยควบคุมรถหลังจากชน
• ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง
• ระบบตรวจจับรถในจุดบอด และระบบตรวจจับขณะออกจากช่องจอด
• ระบบป้องกันการชนเมื่อถอยหลัง
• ระบบช่วยการหักพวงมาลัยเพื่อเลี่ยงการปะทะ
• ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
• ระบบตรวจเช็กลมยาง

เช่นเดียวกับระบบความปลอดภัย

• ถุงลมนิรภัย 7 จุด คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านถุงลมนิรภัย / และถุงลมบริเวณหัวเข่า
• ระบบช่วยโทรฉุกเฉิน
• เบรกมือไฟฟ้า
• ระบบป้องกันล้อล็อก ABS และระบบกระจายแรงเบรก EBD
• ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP และ ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี พร้อม Electric Brake Booster
• ระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA และระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ ROM
• ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา HDC
• สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้าและหลัง
• สัญญาณกันขโมย
• ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

ระบบการจัดการภูมิประเทศขั้นสูง

Ford Ranger Raptor มีระบบการจัดการภูมิประเทศที่ได้รับการปรับปรุง พร้อมโหมดการขับขี่ที่เลือกได้เจ็ดโหมด ได้แก่ Normal, Sport, Slippery, Rock Crawl, Sand, Mud/Ruts และ Baja โหมดเหล่านี้จะปรับระบบต่างๆ ของยานพาหนะ เช่น การตอบสนองของเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ความไวของ ABS และอื่นๆ เพื่อให้เหมาะกับภูมิประเทศและสภาพการขับขี่ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าคุณจะขับรถไปเจอหิน เนินทราย หรือโคลน ระบบขั้นสูงของ Ranger Raptor จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานรถของคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสนุกกับการผจญภัยทุกครั้ง

แชสซีและระบบกันสะเทือนเสริมความแข็งแกร่ง

Ranger Raptor ปี 2024 มีแชสซีส์เสริมความแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงเสา C, กล่องโหลด, โครงยางอะไหล่, โครงกันชนแบบ Jounce, โช้คอัพ และฐานรองรับโช้คหลัง ระบบกันสะเทือนที่ออกแบบใหม่ประกอบด้วยโช้คอัพภายใน FOX ขนาด 2.5 นิ้วที่ด้านหน้า ให้การควบคุมการหน่วงที่แม่นยำและความสะดวกสบายในการขับขี่ที่ดีขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อวัตต์ที่ได้รับการปรับปรุงที่ด้านหลังและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวรขั้นสูง เรนเจอร์ แร็พเตอร์ มอบการควบคุมและเสถียรภาพที่โดดเด่นบนภูมิประเทศที่หลากหลาย

แผ่นกันกระแทกเหล็กความแข็งแรงสูงและการป้องกันใต้ท้องรถ

เรนเจอร์ แร็พเตอร์มาพร้อมกับแผ่นกันกระแทกเหล็กความแข็งแรงสูงหนา 2.3 มม. ที่แข็งแรง ซึ่งช่วยปกป้องช่วงล่างของรถจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อต้องรับมือกับพื้นผิวที่ไม่เรียบหรือเป็นหิน นอกจากนี้ ยังมีแผ่นบังใต้รถและแผ่นป้องกันกล่องเกียร์ ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานแบบออฟโรดอีกด้วย ไม่ว่าจะเดินทางข้ามเส้นทางที่เป็นหินหรือข้ามสิ่งกีดขวาง แผ่นกันกระแทกช่วยให้มั่นใจว่ารถยังคงมีความยืดหยุ่นและพร้อมสำหรับการเดินทาง

ระบบควบคุมเส้นทาง

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ Ranger Raptor คือระบบควบคุมเส้นทางที่ออกแบบมาเพื่อให้การขี่ออฟโรดที่ความเร็วต่ำทำได้ง่ายขึ้น ระบบนี้ทำหน้าที่เหมือนกับระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติสำหรับสภาพแวดล้อมแบบออฟโรด ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถตั้งค่าความเร็วที่ต้องการได้ในขณะที่รถจะดูแลเรื่องการเร่งความเร็วและการเบรก มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการขึ้นหรือลงเนินสูงชันและการนำทางในภูมิประเทศออฟโรดที่ท้าทาย ด้วยเทคโนโลยีนี้ การพิชิตภูมิประเทศที่ขรุขระกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าท้าทาย

ระบบไอเสียวาล์วแอคทีฟ

สำหรับผู้ชื่นชอบเสียงคำรามของเครื่องยนต์ V6 ระบบไอเสียแบบวาล์วแบบแอคทีฟของ Ranger Raptor มอบประสบการณ์ที่เร้าใจ ระบบนี้ให้คุณเลือกโหมดท่อไอเสียต่างๆ ได้ เช่น เงียบ, ปกติ, สปอร์ต และ Baja ในโหมด Baja ท่อไอเสียจะให้เสียงที่หนักแน่นและน่าหลงใหล คล้ายกับรถสปอร์ตสมรรถนะสูง คุณสมบัตินี้ไม่เพียงเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการขับขี่แบบออฟโรดเท่านั้น แต่ยังทำให้ Ranger Raptor แตกต่างจากรถออฟโรดที่มีเอกลักษณ์และน่าตื่นเต้นอีกด้วย

ราคา

ราคาเริ่มต้นที่ 1,799,000 บาท สำหรับรุ่นพื้นฐาน 2.0L สำหรับรุ่นท็อปสุด 3.0L V6 Twin-Turbo Ecoboost มีราคาเริ่มต้น 1,949,000 บาท มีสีให้เลือกหลายสี เช่น Code Orange, Absolute Black, Arctic White, Conquer Grey และ Blue Lightning