ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

รถที่แพงที่สุดในโลก 2023 แพงแค่ไหน ยี่ห้อใดครองแชมป์

40,879อ่าน

8

10 อันดับ รถที่แพงที่สุดในโลก 2023 มีรุ่นไหน ยี่ห้อไหนบ้าง และราคาเท่าไหร่ รวมถึงรถยนต์เหล่านี้มีความพิเศษอย่างไรทำไมถึงแพง

รวม 10 อันดับ รถที่แพงที่สุดในโลก 2023 ซึ่งรถยนต์เหล่านี้ล้วนมีค่าตัวสุดโหดเกินกว่ารถยนต์ทั่วไป และบางครั้งต่อให้เอาเงินไปกองก็อาจไม่สามารถเป็นเจ้าของรถบางรุ่นได้เลยหากไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่ในรายชื่อระดับ A ลิสต์ของแบรนด์นั้น ๆ เช่นเดียวกับรถทั้ง 10 รุ่นที่กล่าวมา ซึ่งไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ในฐานรถใหม่อีกต่อไป เพราะทุกคันมีเจ้าของแล้วไม่ว่าจะมีราคาแพงดุเดือดแค่ไหนก็ตาม ส่วนจะมีรุ่นไหน ยี่ห้ออะไร ทำไมแพง ไปชมกัน  

อันดับ 10 777 Hypercar ราคา 7.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 264 ล้านบาท)

ภาพจาก : 777hypercar.com

777 Hypercar (777 ไฮเปอร์คาร์) ไฮเปอร์คาร์ที่ผลิตขึ้นมาเพียง 7 คัน ด้วยเทคโนโลยีรถแข่ง โดยอาศัยความร่วมมือกับผู้ผลิตรถแข่งสัญชาติอิตาเลียนที่โด่งดังอย่าง Dallara เพื่อสร้างรถสปอร์ตสมรรถนะสูงจัด 1 ที่นั่ง ที่เหมือนรถแข่งเลอมังส์ ชั้นไฮเปอร์คาร์ แต่ไม่ได้ถูกออกแบบให้เอาไปแข่ง แค่สำหรับลูกค้าที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่บนสนาม น้ำหนักเพียง 900 กิโลกรัม และสร้างแรงกดตัวถังได้ 2,100 กิโลกรัม ที่ความเร็ว 370 กิโลเมตร/ชั่วโมง ปัจจุบันถูกจองหมดแล้ว พร้อมเริ่มส่งมอบในปี 2025 

ส่วนเครื่องยนต์ของ 777 Hypercar เป็นแบบ วี 8 สูบ ขนาด 4.5 ลิตร กำลังสูงสุด 730 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 370 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อันดับ 9 Pagani Huayra Codalunga ราคา 7.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 264 ล้านดอลลาร์)

ภาพจาก : pagani.com

Pagani Huayra Codalunga (ปากานี ไวร่า โคดาลังกา) ไฮเปอร์คาร์โปรเจกพิเศษแบรนด์อิตาเลียนที่ผลิตเพียง 5 คัน พัฒนาร่วมกันระหว่างนักออกแบบและลูกค้า บนพื้นฐานของ Pagani Huayra ดีไซน์ย้อนยุคแบบรถแข่งยุค 60 และมีตัวถัง Longtail หรือหางยาว ซึ่งในภาษาอิตาเลียน คือ Codalunga (ยาวกว่ารุ่นปกติ 360 มม.) เพื่อลดแรงฉุดท้ายรถ ทำความเร็วได้สูงมากขึ้น เปลือกตัวถังหลักเป็นอะลูมิเนียม น้ำหนักตัวรถ 1,280 กิโลกรัม ซึ่งขายหมดตั้งแต่แรกแล้วเช่นกัน

ส่วนเครื่องยนต์ของ Pagani Hyuara Codalunga ใช้ของ AMG เป็นแบบ วี 12 สูบ ขนาด 6.0 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 840 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 370 กิโลเมตร/ชั่วโมง เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 2.8 วินาที

อันดับ 8 Maybach Exelero ราคา 8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 286 ล้านบาท)

ภาพจาก : maybach.com

Maybach Exelero (มายบัค เอ็กซ์เซเลโร) เป็นรถต้นแบบที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2005 และยังติดอันดับมาจนถึงปี 2023 มีคันเดียวในโลก ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อใช้ทดสอบยางสมรรถนะสูงอย่าง Fluda ของเยอรมนี ที่อยู่ในเครือ Goodyear บนลานเกลือ Nardo ประเทศอิตาลี พัฒนาบนพื้นฐานของ Mercedes-Maybach เจเนอเรชั่นแรก ภายหลังมีข่าวลือว่าได้ถูกประกาศขายไปในราคาประมาณ 8 ล้านดอลลาร์

Maybach Exelero ใช้เครื่องยนต์ วี 12 สูบ 5.9 ลิตร เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 700 แรงม้า และแรงบิดประมาณ 1,000 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อันดับ 7 Bugatti Centodieci ราคา 9 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 321 ล้านล้านบาท)

ภาพจาก : Bugatti

Bugatti Centodieci (บูกัตติ เชนโตดิอาชิ) ไฮเปอร์คาร์คอลเล็กชั่นพิเศษฉลองครบรอบ 110 ปี ของ Bugatti และเพื่อแสดงความเคารพต่อไฮเปอร์คาร์ยุคแรก ๆ ของโลกอย่าง Bugatti EB110 โดยนำเอา Bugatti Chiron มาพัฒนาต่อยอดและวางจำหน่ายแค่ 10 คัน สำหรับลูกค้าที่ Bugatti พิจารณาแล้วว่าเหมาะสมก่อนการโชว์ตัว

สำหรับทางด้านเครื่องยนต์ของ Bugatti Centodieci เป็นแบบ ดับบลิว 16 สูบ (คล้ายกับเครื่องยนต์ วี 8 สูบ วางซ้อนกันเป็นตัว W) ขนาด 8 ลิตร เทอร์โบ 4 ตัว กำลังสูงสุด 1,600 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายในเวลา 2.4 วินาที

อันดับ 6 Rolls-Royce Sweptail ราคา 12.8 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 457 ล้านบาท)

ภาพจาก : BMW Group

Rolls-Royce Sweptail (โรลส์-รอยซ์ สเวปเทล) รถบิ๊กคูเป้แพงที่สุดในโลก โดยแผนก Bespoke ของ Rolls-Royce ที่ผลิตขึ้นมาเพียงคันเดียว พร้อมเอกลักษณ์ท้ายรวบรวมถึงการตกแต่งแบบเรือยอชต์ ด้วยลายไม้หายาก โลหะ และหนังชั้นดีที่สุด เรียกว่าเป็นความฟุ่มเฟือยทุกตารางนิ้ว

ขณะที่เครื่องยนต์ Rolls-Royce Sweptail เป็นแบบ วี 12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร ของ Phantom กำลังสูงสุด 453 แรงม้า และแรงบิด 531 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุดล็อกไว้ที่ 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

อันดับ 5 SP Chaos Zero Gravity ราคา 14 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 500 ล้านบาท)

ภาพจาก : automotive.spyrospanopoulos.com

SP Chaos Zero Gravity (เอสพี เคออส ซีโร่ กราวิตี้) โดย SP นั้นย่อมาจาก Spyros Panopoulos อัลตราคาร์จากประเทศกรีซ ที่มีพละกำลังราว 3,000 แรงม้า รีดออกมาจากเครื่องยนต์ วี 10 สูบ ขนาด 4.0 ลิตร ช่วยอัดอากาศด้วยเทอร์โบ สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 1.9 วินาที และถึง 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลาแค่ 7.9 วินาที ด้วยงานวิศวกรรมชั้นสูงเพื่อรีดสมรรถนะ ทำให้รถยนต์แบรนด์ใหม่ไร้ตำนานนี้มีราคาสูงลิบลิ่วโดยไม่ต้องอาศัยแต้มบุญเก่า

อันดับ 4 Pagani Zonda HP Barchetta ราคา 17.6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 629 ล้านบาท)

ภาพจาก : pagani.com

Pagani Zonda HP Barchetta (ปากานี ซอนดา เอชพี บาร์เชตตา) ไฮเปอร์คาร์โปรเจกต์พิเศษของ Pagani เพื่อทำความเร็วสูงสุดด้วยการลดน้ำหนักในทุก ๆ จุด นอกเหนือจากการใช้เครื่องยนต์กำลังสูง ที่มาของการใช้ตัวถังแบบ Barchetta ซึ่งความหมายดั้งเดิมคือรถหลังคาเปิดน้ำหนักเบา เพราะไม่มีประทุน หากมีก็เป็นเพียงผ้าคลุมกันแดด กันลม กันฝน เท่าที่จำเป็น ตัวแผงประตูชั้นเดียวไม่มีช่องเก็บกระจก ไม่เน้นเร็ว ไม่เน้นสะดวก และดิบกว่า Spyder

ทั้งนี้ Pagani Zonda HP Barchetta ยังคงใช้เครื่องยนต์ของ AMG ที่เป็นพาร์ตเนอร์ประจำ แบบ วี 12 สูบ กำลังสูงสุด 789 แรงม้า และแรงบิด 850 นิวตันเมตร เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายใน 3.1 วินาที  

อันดับ 3 Bugatti La Voiture Noire ราคา 18.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 668 ล้านบาท)

ภาพจาก : bugatti.com

Bugatti La Voiture Noire (บูกัตติ ลา วัวทูร์ นัวร์) ไฮเปอร์คาร์ที่ Bugatti ตั้งใจผลิตขึ้นมาคันเดียว เนื่องในวาระครบ 110 ปี ของ Bugatti จากตำนานรถสีดำที่หายสาบสูญ หรือ La Voiture Noire ของ Bugatti ซึ่งเป็นรถ Bugatti Type 57 SC Atlantic หมายเลขแชสซีส์ 57453 ของ Jean Bugatti ลูกชาย Ettore Bugatti ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครหาพบ และรถในชุดเดียวกันเหลือเพียงแค่ 2 คัน เท่านั้น 

Bugatti La Voiture Noire ใช้เครื่องยนต์ ดับบลิว 16 สูบ ขนาด 8 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบ 4 ตัว กำลัง 1,500 แรงม้า เหมือน Bugatti Chiron   

อันดับ 2 Rolls-Royce Boat Tail ราคา 28 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท)

ภาพจาก : rolls-roycemotorcars.com

ภาพจาก : rolls-roycemotorcars.com

Rolls-Royce Boat Tail (โรลส์-รอยซ์ โบ๊ท เทล) ซึ่ง Boat Tail เป็นรถเปิดประทุน 4 ที่นั่ง ชุดพิเศษ โดยได้แรงบันดาลใจจากเรือยอชต์ชั้น J-Class เพื่อแสดงความหรูหราและเป็นอิสระ ผลิตเพียง 3 คัน เปิดตัวไปแล้ว 2 คัน แต่ละคันจะแตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้าแต่ละราย เปรียบเสมือนสินค้าโอต์ กูร์ตู ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร ไม่เป็นงานอุตสากรรม และมีข่าวลือว่า 1 ใน 3 คันนั้น เป็นของนักร้องคู่สามี-ภรรยาคนดังอย่าง Beyonce และ Jay-Z

Rolls-Royce Boat tail ใช้เครื่องยนต์ วี 12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร กำลัง 563 แรงม้า แบบเดียวกับที่อยู่ใน Rolls-Royce รุ่นใหญ่สุดอย่าง Phantom 

อันดับ 1 Rolls-Royce Droptail ราคาคาดการณ์ 30 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,071 ล้านบาท)

ภาพจาก : rolls-roycemotorcars.com

ภาพจาก : rolls-roycemotorcars.com

Rolls-Royce Droptail (โรลส์-รอยซ์ ดรอปเทล) เป็นรถชุดพิเศษต่อจาก Boat Tail ผลิตเพียง 4 คัน ภายใต้ดีไซน์แบบ Droptail หรือท้ายลาด เป็นรถเปิดประทุน พร้อมชุดหลังคาแข็ง มี 2 ที่นั่ง โดยแต่ละคันก็จะมีความแตกต่างกันไปตามคำสั่งของลูกค้า ซึ่ง 2 คันแรกที่เปิดตัวแล้ว คือ Rolls-Royce La Rose Noire Droptail ได้แรงบันดาลใจจากกุหลาบ Black Rose และตามมาด้วย Rolls-Royce Amethyst Droptail ได้แรงบันดาลใจจากอัญมณีประจำเดือนเกิดอย่าง Amethyst

สำหรับเครื่องยนต์ของ Rolls-Royce Droptail ยังใช้แบบเดียวกับ Boat Tail คือเป็นแบบ วี 12 สูบ ขนาด 6.75 ลิตร แต่ปรับแต่งให้มีกำลังเพิ่มเป็น 601 แรงม้า เร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 5 วินาที

Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2025 พร้อมระเบิดศึกออฟโรดยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน

Bysunoke –

May 13, 2025

0

198

Share

Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน เป็นการแข่งขันรถยนต์ออฟโรดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และได้รับการยอมรับว่าเป็นรายการที่มีเสน่ห์โดดเด่น จัดต่อเนื่องมาอย่างยาวนานถึง 23 ปี นับตั้งแต่จัดขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) โดยความร่วมมือระหว่าง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และ Grand Prix Motor Park ในเครือ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีจุดประสงค์ในการรวบรวมเหล่านักแข่งออฟโรดระดับแถวหน้าของประเทศจากทั่วทุกภูมิภาค รวมถึงนักแข่งชาวต่างชาติ เพื่อเข้าร่วมประลองฝีมือในสนามเดียวกันเพื่อเฟ้นหา 10 อันดับเซียนออฟโรดของประเทศ โดยในปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12–15 มิถุนายน 2568 ณ สนาม Grand Prix Motor Park อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี

Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน เดิมใช้ชื่อว่า “10 เซียนประจัญบาน” เมื่อได้รับการสนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการจากโตโยต้า จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น “Toyota Hilux Vigo 10 เซียนประจัญบาน” ต่อมาเปลี่ยนชื่อรายการอีกครั้งเป็น “Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน” จนถึงปัจจุบัน  มีการพัฒนารูปแบบการแข่งขัน กฎ กติกา อย่างมีมาตรฐานสะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนา และยกระดับการแข่งขันมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมก้าวสู่มาตรฐานในระดับสากล ซึ่งได้รับการยอมรับในระดับอาเซียน มีนักแข่งเข้าร่วมในรายการมากกว่า 150 คน จาก 5 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย เมียนม่า กัมพูชา มาเลเซีย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว  โดยแบ่งการแข่งขันออกเป็น 4 รุ่น ได้แก่

1. Toyota Hilux Revo 10 เซียนประจัญบาน 2025
2. Super Open 10 เซียนประจัญบาน 2025
3. เที่ยวป่า Open 10 เซียนประจัญบาน 2025
4. Off Road Club Team 10 เซียนประจัญบาน 2025

สนามสุดโหด ที่วัดใจทั้งนักแข่ง รถแข่ง ทีมเซอร์วิส  บอกเลยว่าศึกนี้ไม่ได้วัดแค่พละกำลัง ความพร้อม ความอึด แต่คือบทพิสูจน์ของ “จิตวิญญาณนักแข่งออฟโรดตัวจริง” ใครจะเป็นหนึ่งในตำนาน 10 เซียนประจัญบาน 2025 ร่วมลุ้น ร่วมเชียร์ไปพร้อมกัน วันที่  12–15 มิถุนายน 2568  ณ สนาม Grand Prix Motor Park อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี  และคุณจะไม่พลาดทุกวินาทีของการแข่งขัน โดยชมการถ่ายทอดสดผ่านทางทีวีดิจิตอล และ Live Streaming กันสดๆ แบบเกาะติดขอบสนามจากกล้องหลากหลายมุมตลอดทั้ง 4 วันทาง Facebook : GRAND PRIX MOTOR PARK, Off Road Magazine รวมทั้งช่อง YouTube ของ GRAND PRIX MOTOR PARK  และสื่อพันธมิตรต่างๆ