ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 อันดับรถ Off Road รถสายลุยขายดีในไทย คู่ควรกับทุกการผจญภัยปี 2022

รวม 10 อันดับรถ Off Road สมรรถนะแกร่ง ลุยได้ทุกเส้นทางหฤโหด ลุยป่าเข้าดงได้ดังใจต้องการ พร้อมกับนวัตกรรมที่พัฒนาสำหรับปี 2022 ที่คนรักการผจญภัยและสายแคมป์ปิ้งต้องจับจอง

ในกลุ่มรถยนต์ออฟโรดนั้น อาจจะเป็นรถ ลุย ป่า หรืออาจจะเป็น รถ ออฟ โร ด 4×4 จะต้องเป็นรถที่ยกสูง บางรุ่นอาจจะขับขี่บนท้องถนนได้ปกติ แต่บางคันไม่เหมาะสำหรับขับขี่บนท้องถนนตามปกติ เนื่องจากล้ออาจจะทำให้พื้นถนนสึกเร็ว อย่างไรก็ตามรถเหล่านี้สามารถลุยได้ แม้แต่ลุยน้ำ จะต้องลุยได้ในความลึก 90 มม. บางรุ่นอาจจะลุยในสถานที่มีหลุมหินมากมาย ลุยในพื้นที่มีโคลน หากในต่างประเทศจะมีฟีเจอร์สำหรับลุยหิมะได้ในตัว รถเหล่านี้จึงเป็นที่นิยมสำหรับสายผจญภัยเยอะมาก และตีตลาดในประเทศไทยมายาวนาน

10 อันดับรถ Off Road รถสายลุยขายดีในไทย คู่ควรกับทุกการผจญภัยปี 2022

ถ้าคุณเป็นสายท่องเที่ยวที่ชอบรถ ลุย ป่า มักจะชอบใช้เวลาว่างๆ พาครอบครัวไปเที่ยว กางเต็นท์ เดินผ่า ปีนเขาแบบนี้ อาจจะต้องหารถสักคันที่เหมาะกับ Lifestyle เหมือนกับมีคันนี้ก็ไปไหนไปกัน ไปให้ถึงที่สุด พารถที่พาเราและครอบครัวไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยแน่นอน วันนี้เราจะขอนำเสนอรถที่มี Lifestyle ตรงกับคนรักการผจญภัย โดยทั่วไปรถ Off Road นั้นจะเป็นรถที่นำไปใช้เกี่ยวกับสายท่องเที่ยว เอาไปแข่งขันในรายการต่างๆ หรือเอาไปขี่บนถนนที่เต็มไปด้วย หิน ดินลูกรัง หรือสำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่เข้ายาก ที่จำเป็นต้องใช้รถที่ยกสูง และลุยได้ในความลึกของพื้นที่นั้น จะมีรุ่นรถแบบ Off Road แบบไหนบ้าง ไปดูกันเลย

• รถยนต์ Ford รุ่น Ranger Raptor X ราคา 1,729,000 บาท
• รถยนต์ Jeep รุ่น Gladiator Sport ราคา 5,290,000 บาท
• รถยนต์ Ford รุ่น Ranger Fx4 Max ราคา 1,189,000 บาท
• รถยนต์ Toyota รุ่น Hilux Revo ราคา 630,000 บาท
• รถยนต์ Jeep  รุ่น WRANGLER 4-Door Sport ราคา 5,190,000 บาท
• รถยนต์ Nissan รุ่น Navara Pro-4X ราคา 1,149,000 บาท
• รถยนต์ Mitsubishi  รุ่น Pajero Sport ราคา 1,365,000 บาท
• รถยนต์ Isuzu รุ่น V-Cross 4×4 ราคา 1,192,000 บาท
• รถยนต์ Ford รุ่น Ranger Wildtrak ราคา 1,189,000 บาท
• รถยนต์ Jeep รุ่น Renegade ราคา 3,390,000 บาท

Ford รุ่น Ranger Raptor X

รถยนต์ Ford รุ่น Ranger Raptor X 

ประเดิมคันแรกสำหรับค่ายรถสายลุยสัญชาติอเมริกันอย่าง Ford สำหรับรถรุ่น Ford รุ่น Ranger Raptor X จัดอยู่ในกลุ่มกระบะ ออฟ โร ดที่ราคาไม่แรงมากนัก เมื่อเทียบกับราคาสายลุยในกลุ่ม SUV และ PPV โดยรุ่นนี้สามารถขับขี่ได้หลายโหมดการใช้งาน เช่น  โหมดขับขี่รถแบบปกติไม่มีอะไรตามท้องถนนทั่วไป หรือ โหมด Baja ซึ่งเป็นโหมดสำหรับคนที่ขับขี่แบบ Off Road โดยเฉพาะ มีเครื่องยนต์ที่แรงได้ใจมากๆ ซึ่งมีเครื่องยนต์ดีเซล Bi-Turbo ขนาด 2.0 ลิตร โดยให้กำลังสูงสุด 213 แรงม้า ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,729,000 บาท 

อ่านเพิ่มเติม: ราคา Ford Ranger 2022: ราคาและตารางผ่อน​​ ฟอร์ด เรนเจอร์

Jeep รุ่น Gladiator Sport

รถยนต์ Jeep รุ่น Gladiator Sport 

Gladiator Sport ของ Jeep เป็นที่นิยมกันมากสำหรับคนที่ชอบรถแนว รถ ออฟ โร ด สวย ๆ ระดับตำนานสัญชาติอเมริกัน ด้วยดีไซน์ที่ดูดี หรูหราในสไตล์ Off Road เป็นรูปแบบรถกระบะ 4 ประตู เป็นทั้งรถ Off Road และรถที่ใช้แข่งขันประเภทวิบากได้เหมือนกัน จะเป็นแนวเครื่องยนต์เบนซิน 3.6 ลิตร ความแรงของรุ่นนี้จะอยู่ที่กำลังสูงสุด 285 แรงม้า ให้ความเร้าใจสำหรับคนชอบสายลุยเป็นพิเศษ ในส่วนราคาก็อยู่ที่ประมาณ 5,290,000 บาท

Ford รุ่น Ranger Fx4 Max

รถยนต์ Ford รุ่น Ranger Fx4 Max 

อีกรุ่นของ Ford Ranger รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับมือใหม่มากกว่า เนื่องจากระบบการขับขี่ค่อนข้างราบรื่น สมูทกว่ารุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน หรือคนที่เริ่มจะหัดคนรถแนววิบากหรือรถแบบ Off Road มีช่วงล่างที่แน่นแข็งแรงจึงจัดให้เป็นรถ 4×4 ที่ ดี ที่สุด  ในส่วนของเครื่องยนต์จะมีครบทั้งเบนซินและดีเซล จะอยู่ที่ความจุ 2.0 ลิตร มีกำลังสูงสุด 213 แรงม้า จึงเป็นรถที่มีรีวิวเชิงบวกสูงสุดอีกรุ่น ที่ใครๆ เป็นสายแคมป์ปิ้ง นิยมทำแบบ Outlander เยอะมาก ในราคาจะอยู่ที่ 1,189,000 บาท

Toyota รุ่น Hilux Revo

รถยนต์ Toyota รุ่น Hilux Revo 

ในกลุ่มนี้จะมีครบทั้งแบบ Smart Cab และ Double Cab โดยปรับรูปแบบขับขี่ให้เป็น 4WD ได้ง่าย สบายกระเป๋า แถมอะไหล่คุณภาพดี ถึงแม้จะขับขี่บนพื้นถนนที่ไม่เรียบมากสักเท่าไร แต่ไม่ใช่ปัญหาสำหรับโตโยต้ารุ่นนี้เลย เพราะรุ่นนี้ขึ้นชื่อในเรื่องเบาะที่นุ่มสบายมากๆ รับแรงกระแทกจากาการขับขี่ได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคนที่ต้องใช้รถสำหรับงานหนักๆ แม้แต่ผู้หญิงสามารถขับขี่ได้ กลุ่มที่ขายดีที่สุดต้องยกนิ้วให้ในกลุ่มเครื่องยนต์แบบดีเซลถึง 2.8 ลิตร มีกำลังสูงสุด 240 แรงม้า ราคามีตั้งแต่ 630,000 – 805,000 บาท 

อ่านเพิ่มเติม: ราคา Toyota Hilux Revo: ราคาและตารางผ่อน โตโยต้ารีโว่ 2565

Jeep รุ่น WRANGLER 4-Door Sport

รถยนต์ Jeep รุ่น WRANGLER 4-Door Sport 

สำหรับรถ Jeep รุ่นนี้สิ่งที่นึกขึ้นมาเป็นอย่างแรกเลยก็คือ รุ่น Wrangler ล้อต้องใหญ่ๆ หนาๆ พร้อมเป็นรถลุยป่า พ่วงด้วยแรงม้าที่มหาศาลคือ 270 แรงม้าเลยทีเดียว มีเครื่องยนต์เบนซินแบบเทอร์โบ 2.0 ลิตร อีกต่างหากมีเกียร์อัตโนมัติทั้งหมดถึง 8 จังหวะ ภายในรถมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ยิ่งเป็นรุ่นใหม่ๆ จะปรับเบาะให้นั่งสบายขึ้น แต่ลุยได้ทุกที่ทุกเวลา ในประเทศสหรัฐอเมริกาเคยมีการนำรถรุ่นนี้ขึ้นเขาและลุยหิมะมาแล้ว ในส่วนของราคาอยู่ที่ 5,190,000 บาท

Nissan รุ่น Navara Pro-4X

รถยนต์ Nissan รุ่น Navara Pro-4X

ในรถของค่ายนิสสันรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์ที่สวยงาม เร้าใจ มีความสปอร์ต แถมไฟหน้าโฉบเฉี่ยวอีกด้วย แม้ว่าจะเป็นรถยนต์ 4 ประตู แต่ก็ขับขี่วิบากได้เหมือนกัน และ Navara Pro-4X นี้ ได้มีการตกแต่งช่วงล่างให้เหมาะสมและดีที่สุดกับการขับขี่แบบ รถ off road อีกต่างหาก มีความแรงที่กระชากใจด้วยกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า เครื่องยนต์ดีเซลแบบใหม่ล่าสุดอยู่ที่ความจุ 2.3 ลิตร ราคาก็จะอยู่ที่ 1,149,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม: ราคา Nissan Navara 2022: ราคาและตารางผ่อนนิสสันนาวาร่า

Mitsubishi  รุ่น Pajero Sport

รถยนต์ Mitsubishi  รุ่น Pajero Sport

ใครว่ารถยนต์ที่ลุยป่าได้ จะต้องเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อการนี้อย่างเดียว ในรถ PPV อย่าง Mitsubishi  รุ่น Pajero Sport ก็เช่นกัน เป็นรุ่นที่เห็นกันบ่อยๆมากตามท้องถนนสมัยนี้ เพราะด้วยการออกแบบห้องโดยสารที่มีความกว้างมากจึงเป็นที่นิยมของคนทั่วไปและเป็นที่ถูกใจกันอย่างมากมาย  ด้วยความที่มีเครื่องยนต์ดีเซล  2.4  ลิตร ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติทั้งหมด มีกำลังสูงสุดจะอยู่ที่ 181 แรงม้า ในส่วนราคาจะอยู่ที่ 1,365,000 บาท

อ่านเพิ่มเติม: ราคา Mitsubishi Pajero Sport 2022: ราคาและตารางผ่อนมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต

Isuzu รุ่น V-Cross 4×4

รถยนต์ Isuzu รุ่น V-Cross 4×4

อีกรุ่นที่เป็นรถกระบะที่ดีที่สุด และเป็นกระบะ ออฟ โร ดขี่ได้สะใจ ลุยป่าลุยดงได้ จะต้องให้ Isuzu รุ่น V-Cross 4×4 เลย จุดเด่นของรุ่นนี้คือ ประหยัดน้ำมันและยังสามารถที่จะลุยน้ำได้ถึง 0.8 เมตร (ประมาณความลึก 80 มม. เลยทีเดียว) สามารถวิ่งได้ทุกถนนไม่ว่าจะเป็นสภาพแบบไหนก็ตามไว้ใจรุ่นนี้ได้เลย และที่สำคัญถูกกฎจราจรในเรื่องลักษณะรถที่ออกถนนได้อีกด้วย  มีเครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร  มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ มีกำลังสูงสุดถึง 190 แรงม้า โดยราคาอยู่ที่ 1,192,000 บาท

Ford รุ่น Ranger Wildtrak

รถยนต์ Ford รุ่น Ranger Wildtrak

มาถึงอีกรุ่นของ Ranger ที่ออกแบบได้ทรงดุดันราวกับกองโจร จะต้องมี Ford รุ่น Ranger Wildtrak แน่นอน Ford รุ่นนี้ก็สามารถเห็นได้เยอะตามท้องถนนทั่วไป เหมาะกับการไปเที่ยวป่าเขา สายเที่ยวป่า ถนนคดเคี้ยว เดินเขาส่วนใหญ่จะถูกใจกับรุ่นเป็นอย่างมาก ยกให้เป็นรถ 4×4 ที่ ดี ที่สุด มาพร้อมกับเครื่องยนต์เทอร์โบ 2.2 ลิตร มีกำลังสูงสุด 210 แรงม้า ใช้ระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ราคาอยู่ที่ประมาณราคา 1,189,000 บาท

Jeep รุ่น Renegade

รถยนต์ Jeep รุ่น Renegade 

ปิดท้ายที่เอสยูวีสายลุยอย่าง Jeep รุ่น Renegade จัดอยู่ในรถที่ไปครบทั้งออฟโรด ลุยป่า ครบทุกเส้นทางสายโหด เอาอยู่ในคันเดียว เป็นการออกแบบดีไซน์ที่สวยหรู  ทั้งความโมเดิร์นผสมกับความเป็น City ลงไป ยังเป็นรถครอบครัวสำหรับคนชอบสเปกแบบนี้ และเน้นการผจญภัยเป็นพิเศษ  สามารถชาร์ตไฟได้เหมือนกัน   รุ่นนี้ติดตั้งเครื่องยนต์แบบเบนซิน 1.5 ลิตร มีกำลังสูงสุดถึง 132 แรงม้า ระบบเกียร์เป็นแบบเกียร์อัตโนมัติแบบ 7 สปีด ในส่วนราคาอยู่ที่ 3,390,000 บาท

เป็นยังไงบ้างสำหรับ 10 อันดับรถ off roadรถสายลุยขายดีในไทย ด้วยการออกแบบที่มีความดุดัน น่าเกรงขามเป็นหลัก ทำให้สร้างความนิยมได้ไม่ยากเลย การขับขี่บางจุดแทบจะไม่มีความแตกต่างระหว่างขับขี่บนถนนและทางวิบาก อีกทั้งบางรุ่นก็เป็น SUV และ PPV ในรุ่นนั้นๆ ช่วยเพิ่มความต้องการ ที่สามารถในการขับขี่แบบออฟโรดเพื่อเดินทางผ่านพื้นที่ป่าและไม่ได้ปูด้วยถนนลาดยางทั่วๆ ไปได้ บางคนชอบทิวทัศน์ธรรมชาติ ในขณะที่บางคนชอบความท้าทายทางเทคนิคที่ขับบนพื้นดินที่ไม่ปูลาดยางเลย ไม่ว่าคุณจะชอบการขับรถวิบากประเภทใด ก็สามารถเป็นงานอดิเรกที่ยอดเยี่ยมได้ เพียงแต่ต้องมีความรอบคอบในการขับขี่อยู่เสมอ หากใครสนใจสามารถดูราคาในบทความได้ทันที https://rakarodthai.com/

15 อันดับยานพาหนะในทะเลทรายตลอดกาล

15 อันดับพาหนะในทะเลทรายตลอดกาล

เผยแพร่เมื่อNovember 7, 2023

แนวทางการเขียนบทความคัดลอกลิงก์

ฉันแน่ใจว่าคุณคงเคยได้ยินมาแล้วว่าการขับยานพาหนะบนเนินทรายใน ดูไบ หรือสถานที่อื่นๆ ทั่วโลกเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเพียงใด อย่างไรก็ตาม เฉพาะรถออฟโรดเท่านั้นที่เป็นรถที่มีแรงม้าที่เหมาะสมที่สามารถให้คุณได้สิ่งนั้น

แต่ก่อนอื่นแรงม้าคืออะไร? สำหรับผู้สนใจรักรถยนต์ คำว่า “แรงม้า” หมายถึงปริมาณกำลังที่เครื่องยนต์ผลิตได้ ยิ่งแรงม้าแข็งแกร่ง ความเร็วสูงสุด (mph) ก็จะยิ่งสูงขึ้น

ยานพาหนะที่มีพละกำลังที่แข็งแกร่งกว่าเป็นสิ่งจำเป็นในทะเลทรายเนื่องจากลักษณะที่ท้าทาย นี่คือรถออฟโรดอันดับต้นๆ ที่คุณควรซื้อหรือใช้งาน!

ตรวจสอบตอนนี้ว่าคุณต้องใช้ IDP หรือไม่

ใบขับขี่ของคุณออกที่ไหน?

จุดหมายปลายทาง

ตรวจสอบตอนนี้ว่าคุณต้องใช้ IDP หรือไม่

กระบวนการสมัครที่รวดเร็ว

การยอมรับทั่วโลก

การรับประกันคืนเงิน

1. โตโยต้า แลนด์ ครุยเซอร์

Toyota Land Cruiser ขึ้นชื่อในด้านสมรรถนะทางออฟโรดที่น่าประทับใจและความทนทานระดับตำนาน โตโยต้าคันนี้น่าพิจารณาหากคุณกำลังมองหารถกระบะที่ทำได้ทุกอย่าง

ด้วยกำลัง 381 แรงม้า และแรงบิด 401 ปอนด์-ฟุต แลนด์ครุยเซอร์คันนี้เสริมด้วยเครื่องยนต์ v8 ขนาด 5.7 ลิตร และเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แลนด์ครุยเซอร์ให้การขับขี่ที่ราบรื่นและสะดวกสบาย

2. เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีคลาส

G-class ควรเป็นส่วนหนึ่งของตัวเลือกของคุณ หากคุณกำลังมองหาระบบขับเคลื่อนสี่ล้อผ่านทะเลทรายที่รับประกันประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับการขี่แบบออฟโรดและการลากจูง SUV อันเป็นเอกลักษณ์คันนี้ผลิตขึ้นในออสเตรียด้วยเหล็กและอะลูมิเนียมที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ

3. รถจี๊ป แรงเลอร์ รูบิคอน

Rubicon เป็นรถจี๊ปที่พร้อมลุยทางวิบากและในทะเลทราย มันเป็นรุ่นที่แตกต่างของ Jeep Wrangler แต่เป็นรุ่นที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างสูงพร้อมความสามารถแบบออฟโรดแบบฮาร์ดคอร์ Rubicon มีขอบล้อ แผ่นเพชร และยางที่โดดเด่นและหนักกว่า ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากรถคันนี้มีล้อที่ใหญ่กว่าพร้อมกับเพลา Dana 44 ที่ด้านหน้าของอัตราทดเกียร์ ความสูงในการขับขี่ของ Rubicon จึงมีความสามารถในทะเลทรายมากกว่า Wrangler โดยเฉพาะในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ

4. เชฟโรเลต โคโลราโด ZR2

ด้วยเครื่องยนต์ V6 และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่ดีที่สุดในทะเลทราย Chevy Colorado ZR2 เป็นรถลากจูงที่ยอดเยี่ยมและถูกสร้างขึ้นมาให้ทนทานต่อความไม่มั่นคงของการขับขี่แบบออฟโรดหรือการขับขี่ในทะเลทราย มีจำหน่ายในรูปแบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และคาดว่าจะวิ่งได้ 200,000-300,000 ไมล์ อย่างไรก็ตาม เจ้าของ ZR2 บางคนกล่าวว่ารถบรรทุกของพวกเขายังทำงานได้ดีหลังจากผ่านไป 300,000 ไมล์

5. ฟอร์ด แร็พเตอร์

รถกระบะคันนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยระบบทุกพื้นที่ผ่าน 6 โหมด: ปกติ, หญ้า/กรวด, กีฬา, โคลน/ทราย, ร็อค และ Baja ซีรีส์ Ford Raptor คือสุดยอดรถกระบะสำหรับการผจญภัยแบบออฟโรดของคุณ ไม่ว่าจะเป็น Ford Ranger Raptor หรือ Ford F-150 มันถูกสร้างขึ้นมาให้มีอายุการใช้งานประมาณ 300,000 ไมล์ มีระยะห่างจากพื้น 283 และประหยัดน้ำมัน 80 ลิตร

มีเครื่องยนต์ Bi-Turbo 2.0 ลิตร และระบบเกียร์ 10 สปีด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการขับขี่บนภูมิประเทศที่เป็นทะเลทราย

6. ดอดจ์ พาวเวอร์ วากอน

Dodge Power Wagon เป็นรถบรรทุกที่ทนทานต่อการสึกหรอ เป็นยานพาหนะที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 และถูกสร้างให้เป็นรถบรรทุกขนาดกลางขับเคลื่อนสี่ล้อ Power Wagon มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น กว้านเตือนไฟฟ้าน้ำหนัก 12,000 ปอนด์ในตัว ระบบล็อกเฟืองท้ายด้านหน้าและด้านหลังที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะตัดการเชื่อมต่อคานกันโคลงด้านหน้า

แม้จะอายุมากแล้ว Dodge Power Wagon ก็เป็นรถบรรทุกที่มีความสามารถสูงในภูมิประเทศที่ขรุขระในฟาร์ม ทราย หรือทางออฟโรด เป็นรุ่นเก่าที่ทำงานด้วยเกียร์ธรรมดา

7. ฮัมเมอร์ เฮช1

Hummer H1 เป็นโมเดลที่น่าเชื่อถือและใช้งานได้ดีที่สุดของบริษัท General Motors รถยนต์ระดับโลกคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 6.6 ลิตร ระบบระบายความร้อน-ทำความร้อน ระบบกันสะเทือน ปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง การยึดเกาะถนน และการขับขี่ที่สะดวกสบาย Hummers สามารถมีอายุการใช้งานระหว่าง 200,000 ถึง 330,000 ไมล์ อย่างไรก็ตาม เจ้าของ Hummer บางรายอ้างว่าโมเดลเหล่านี้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 30 ปี เนื่องจากโมเดลดังกล่าวไม่มีข้อบกพร่องจากการผลิต

8. ผู้พิทักษ์แลนด์โรเวอร์

Land Rover Defender เป็นรถที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่รักการเดินทางแบบออฟโรด รถคันนี้มีชื่อเสียงในด้านความสามารถในการขับขี่แบบออฟโรด มันสามารถรับมือกับทุกภูมิประเทศและมีความเร็วที่พาคุณผ่านทุกสิ่งได้เช่นกัน Defender มีการกำหนดค่าที่แตกต่างกันหลายแบบ เพื่อให้คุณสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะกับคุณได้ Land Rover Defender มาในรูปแบบที่แตกต่างกัน เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สามารถทนต่อภูมิประเทศที่ขรุขระด้วยความเร็วสูงสุด 188 กม./ชม. และอัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง 18 ถึง 22 mpg

9. นิสสัน ไททัน เอ็กซ์ดี

Nissan Titan XD มาพร้อมกับกำลัง 400 แรงม้า แรงบิด 413 ปอนด์-ฟุต และความสามารถในการลากจูงสูงสุด 11,060 ปอนด์ เมื่อเทียบกับ 2022 Titan แล้ว 2022 Titan XD มีระยะฐานล้อ 151.6 นิ้ว ทำให้มีฟังก์ชันการใช้งานสูงสำหรับรถออฟโรด สามารถทนต่อการขับขี่ผ่านสภาพแวดล้อมทุกพื้นที่

ตรวจสอบตอนนี้ว่าคุณต้องใช้ IDP หรือไม่

ใบขับขี่ของคุณออกที่ไหน?

จุดหมายปลายทาง

ตรวจสอบตอนนี้ว่าคุณต้องใช้ IDP หรือไม่

กระบวนการสมัครที่รวดเร็ว

การยอมรับทั่วโลก

การรับประกันคืนเงิน

10. ซูซูกิ ซามูไร

Suzuki Samurai เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อคันแรกที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในปี 1985 มันสามารถทนต่อสภาพภูมิประเทศที่ท้าทายที่สุดได้ โดยทำลายสถิติการขับรถ 21,084 ฟุตที่สร้างโดย Jeep Wrangler ด้วยการบำรุงรักษาที่ดี ซามูไรสามารถเดินทางได้ 200,000 ไมล์ขึ้นไป

11. โตโยต้า โฟร์รันเนอร์

เมื่อคุณเริ่มคิดถึง Toyota ที่เหมาะกับการขับขี่แบบออฟโรด คุณจะถือว่าซื้อ Hilux ทันที อย่างไรก็ตาม คุณรู้หรือไม่ว่ามีรุ่นที่มีความสามารถพอๆ กันหรือมีความสามารถสูงเหมือนกับไฮลักซ์ที่โตโยต้าผลิต?

ตัวอย่างเช่น Toyota 2022 4runner เป็นหนึ่งในยานพาหนะที่สมบูรณ์แบบที่คุณสามารถใช้ขณะขับผ่านของหวาน มีระบบควบคุมการคลานซึ่งจะปรับคันเร่งและเบรกโดยอัตโนมัติ พร้อมด้วยระบบขั้นสูงที่ช่วยให้คุณเดินทางผ่านภูมิประเทศที่ยากลำบากที่สุด นอกจากนี้ ความสามารถขั้นสูงของ TRD Sports ยังมาพร้อมระบบกันสะเทือน X-REAS และล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว และยางระดับพรีเมียมเพื่อให้เดินทางได้อย่างราบรื่นตลอดเส้นทาง รถคันนี้ติดตั้งระบบ Multi-Terrain เพื่อให้มั่นใจในการยึดเกาะถนนที่แข็งแกร่ง

12. จี๊ป กลาดิเอเตอร์

Gladiator ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 ขนาด 3.6 ลิตร ซึ่งให้กำลัง 285 แรงม้า และแรงบิด 260 ปอนด์-ฟุต และระบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรืออัตโนมัติ 8 สปีด รถบรรทุกคันนี้พร้อมอย่างแท้จริงสำหรับเส้นทางและเนินทราย ยิ่งไปกว่านั้น Jeep Gladiator ยังมีอายุการใช้งาน 200,000 ไมล์หรือ 14 ปี

13. มิตซูบิชิ มอนเตโร

SUV คันนี้รับประกันความเสถียรและความคล่องตัวในทุกภูมิประเทศด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) ขั้นสูง Montero Sport มีกันชนหน้า ด้านหลัง และด้านข้างที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ รถคันนี้ยังสะดวกสบายเนื่องจากคุณสามารถเปิดประตูท้ายโดยใช้แอป Mitsubishi Remote Control บนสมาร์ทโฟนของคุณ

14. ฮอนด้า ซีอาร์ วี

นี่คือยานพาหนะคันหนึ่งที่คุณไม่ควรประมาท Honda CR V อาจจะเล็กแต่ก็อัดแน่นไปด้วยสมรรถนะ ด้วยกำลังสูงสุด 88 กิโลวัตต์ และอัตราการประหยัดน้ำมัน 23.96 รถคันนี้สามารถพาคุณผ่านภูมิประเทศที่ยากลำบากได้ พร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว/ผู้โดยสาร Honda CR V ถูกสร้างขึ้นมาให้มีอายุการใช้งานประมาณ 250,000 ถึง 300,000 ไมล์ หากได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

15. ซูบารุ ฟอเรสเตอร์

Subaru Forester เป็นรถยนต์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น SUV ขนาดกะทัดรัดพิเศษที่ปกป้องครอบครัวหรือผู้โดยสารของคุณได้ดีขึ้น มีการตกแต่งภายในที่กว้างขวางโดยมีโมเดลหลายประเภทที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตรมาตรฐาน ซึ่งคุณไม่ต้องกังวลกับการขับขี่ผ่านภูมิประเทศที่แตกต่างกันไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นอย่างไร ด้วยความสามารถในการขับขี่ที่ยาวนานประมาณ 200,000-250,000 ไมล์ พบว่ายานพาหนะเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังคงวิ่งอยู่บนถนนเป็นเวลา 10 ปี

หากคุณกำลังวางแผนที่จะค้นหารุ่นรถที่ดีที่สุดที่จะพาคุณผ่าน ภูมิประเทศที่เป็นทรายที่ท้าทายในทะเลทราย ให้เลือกจากรุ่นที่เขียนไว้ด้านบนและเริ่มขับรถ