ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
ส่องยอดขายรถ 10 อันดับแรกประจำเดือนม.ค.-ก.ค.68 เช็กเลยยี่ห้อใดขายดีสุด
01 ก.ย. 2568 | 17:14 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2568 | 18:26 น.
เจาะยอดขายรถยนต์ 7 เดือนแรกปี 68 เช็กเลยมกราคม -กรกฎาคม 68 แบรนด์ใด ยี่ห้อไหนขายดีสุด พร้อมสำรวจทิศทางตลาดรถยนต์ไทย รุ่งหรือร่วง
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ตั้งแต่เดือนมกราคม -กรกฎาคม 2568 พบว่าตลาดรวมมียอดขายทั้งสิ้น 351,796 คัน ลดลง 0.7% โดยแบ่งออกเป็นเซกเมนต์กลุ่มรถยนต์นั่ง ที่ขายได้ 136,242 คัน เพิ่มขึ้น 0.3% ส่วนเซกเมนต์กลุ่มรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มียอดขายรวม 215,554 คัน ลดลง 1.4% ขณะที่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายรวม 109,557 คัน ลดลง 12%
สำหรับ 7 เดือนแรกของปี 2568 แบรนด์ที่ขายดีที่สุดยังคงเป็นโตโยต้า ตามมาด้วยอีซูซุ และฮอนด้า ส่วนแบรนด์จีนบีวายดี ตามมาในอันดับที่ 4 และอันดับ 5 เป็นของแบรนด์มิตซูชิบิ
ส่องยอดขายรถ 10 อันดับแรกประจำเดือนม.ค.-ก.ค.68 เช็กเลยแบรนด์ใดขายดีสุด
ทางด้านตัวเลขยอดขายเดือนกรกฎาคม 2568 ตลาดรวมทำได้ 49,102 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% โดยในเซกเมนต์กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขายรวม 18,760 คัน เพิ่มขึ้น 13.3% จากปีที่ผ่านมา ส่วนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ยอดขาย 30,342 คัน เพิ่มขึ้น 1.7% และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,842 คัน ลดลง 8% ด้านรถยนต์ HEV มียอดขาย 11,144 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 24% และมียอดขายสะสมเจ็ดเดือนแรกถึง 78,354 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 51% ของตลาด xEV ทั้งหมด
แนวโน้มตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม 68 ทรงตัว ปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์เดือนสิงหาคม มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากความกังวลจากหลายปัจจัยและผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ อาจส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ การปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงภาคเอกชนยังคงรอดูนโยบายของรัฐบาลที่บรรเทาผลกระทบจากนโยบายภาษีทรัมป์
อย่างไรก็ดียอดขายของโตโยต้า ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมายังคงครองอันดับหนึ่งตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสมเจ็ดเดือนแรก 132,049 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดที่ 37.5% นำโดย Hilux REVO 29,366 คัน และ Yaris ATIV 30,813 คัน
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โตโยต้า เลือกอินโดนีเซีย ประกอบ EV รุ่น Toyota bZ4X – ไทยนำเข้าญี่ปุ่น
โตโยต้า เปิดตัว Yaris Ativ Hybrid – Toyota bZ4X EV ทำราคาใหม่ พร้อมกัน 21 ส.ค.นี้
รถไฮบริด-อีโคคาร์ โดนขึ้นภาษีปี 2569 โตโยต้า หวั่นราคาขยับ กระทบตลาด
ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น-จีน ปรับฐานราคา เปิดตัวใหม่ลดหลักแสน
นายกฯพ้นเก้าอี้ เอกชนกังวลนโยบายสะดุด-เบิกจ่ายงบไม่ทัน กระทบศก.อ่อนแอ
ส.อ.ท.เผย EV โตสวนกระแส ICE
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนก.ค.68 ไทยสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ 3,610 คัน เพิ่มขึ้น 553.99 % ส่วนตัวเลขตั้งแต่ม.ค.-ก.ค.68 ไทยผลิตรถยนต์ไฟฟ้า จำนวน 27,408 คัน เพิ่มขึ้น 397.87% ขณะที่การขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 9,304 คัน เพิ่มขึ้น 36.12 % ส่วนการส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้า 120 คัน เพิ่มขึ้น 100 %และส่งออกรถกระบะไฟฟ้า 47 คัน เพิ่มขึ้น 100 %
“ปีนี้เป็นปีประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่ส่งออกรถยนต์นั่งไฟฟ้าและรถกระบะไฟฟ้าดังที่รัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันให้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ใช้น้ำมันและยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าที่มีนโยบายและความพร้อมของโครงสร้างแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนและการเข้มงวดในเรื่องการติดตั้งอุปกรณ์ช่วยขับเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพของรถยนต์ของประเทศคู่ค้า ทำให้การส่งออกรถยนต์เดือนนี้ลดลงในตลาดเอเชีย ออสเตรเลียและโอเชียเนีย และอเมริกาเหนือ ขณะที่เครื่องยนต์ ชิ้นส่วน และอะไหล่รถยนต์ยังคงส่งออกเพิ่มขึ้น”
ส่วนยอดขายรถยนต์ในประเทศ โดยเฉพาะรถกระบะที่ลดลง นายสุรพงษ์ กล่าวว่าปัจจัยมาจากความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถกระบะ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่ยังสูงและเศรษฐกิจในประเทศที่ยังขยายตัวในอัตราต่ำ 2.8 % ในไตรมาส 2/2568 การลงทุนของเอกชนเติบโตแค่ 4.1 %สาขาอุตสาหกรรมเติบโตแค่ 1.7 % นักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนลดลงมาก ทำให้สาขาพักแรมและอาหารเติบโตเพียง 2.1 % ก็คงต้องติดตามการลงทุนของเอกชน การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนต่อไป และคาดหวังงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตมากขึ้นจากปัจจุบัน
“ขณะเดียวกันต้องขอบคุณ กนง.ที่มีมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงช่วยให้ผู้กู้ลดภาระจ่ายดอกเบี้ยลง ทำให้ชำระคืนเงินกู้ได้มากขึ้น หนี้ครัวเรือนจะได้ลดลง และขอบคุณทีมไทยแลนด์ที่เจรจากับทีมงานประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จนได้อัตราภาษีศุลกากรนำเข้าสหรัฐอเมริกา 19% ซึ่งน่าจะดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศได้มากขึ้นเพื่อส่งออกและสร้างงานสร้างรายได้ให้คนไทยมากขึ้น หนี้ครัวเรือนจะได้ลดลงจากการชำระหนี้ ไม่ใช่ลดลงเพราะสถาบันการเงินไม่ปล่อยสินเชื่อซึ่งลดลงมาหลายไตรมาสแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ภาษีทรัมป์ของไทยที่ 19% ดูจะเสียเปรียบเวียดนามที่ 20% เมื่อเงินด่องเวียดนามอ่อนค่ามาก”
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์
ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติวินิจฉัยให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงครม.ชุดนี้ก็ต้องสิ้นสุดการทำหน้าที่และพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ นายสุรพงษ์ ให้ความเห็นว่า ในมุมของเอกชนมีความกังวลเรื่องนโยบายว่าจะสะดุดหรือต่อเนื่องหรือไม่ นโยบายต่างๆจะยังคงเดินหน้าไหม ตรงจุดนี้มีผลกับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ ที่อาจจะต้องชะลอ-ขอศึกษาเกี่ยวกับตัวนโยบายที่รัฐบาลใหม่จะประกาศออกมา
ประการต่อมาคือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะใช้เวลามากน้อยเพียงใด จะทันเบิกจ่ายงบประมาณปี 2569 ในเดือนตุลาคมหรือไม่ ตรงนี้มีผลกับภาพรวมเศรษฐกิจ เพราะหากเร่งเบิกจ่ายก็จะช่วยฟื้นเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป
“ความกังวลใจขอเอกชนน่าจะเป็นเรื่องนโยบายต่างๆจะเหมือนเดิมไหม จะขาดความต่อเนื่องหรือเปล่า ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะยิ่งกระทบกับเศรษฐกิจของเราที่มีความอ่อนแออยู่แล้ว ส่วนการฟอร์มทีมรัฐบาลหากล่าช้าก็อาจจะกระทบกับนักลงทุน กระทบความเชื่อมั่น จากที่จะลงทุนก็อาจจะชะลอ ขอศึกษาก่อน “
5 อันดับสีรถยนต์ที่ฮิตที่สุดในไทย พร้อมเหตุผลว่าทำไมจึงนิยม?
ข่าวสารรถ | 8 ม.ค. 2568

การซื้อรถยนต์ไม่ว่าจะรถใหม่หรือมือสอง เรื่องของสี สีรถยนต์ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่หลายคนให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกสีรถยนต์สวย ๆ ตามความชอบ จรดถึงเรื่องความเชื่อส่วนบุคคลความเป็นมงคล และมีหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าสีรถมีผลต่อราคาขายต่อด้วย แม้จะเป็นสีรถถูกโฉลกแต่ใช่ว่ามันจะถูกใจเจ้าของคนต่อไปเสียเมื่อไหร่ คุณว่ามั้ย? แล้วจะต้องเลือกซื้อสีไหนดีที่ส่งผลดีรอบด้าน ขายต่อได้ราคาดี ตามไปหาคำตอบกันเลยดีกว่าในบทความนี้
สนใจอ่านแค่บางเรื่อง ก็เลือกได้เลย!
- 5 สีรถยนต์ที่ฮิตมากที่สุดในไทย มีอะไรบ้าง?
- เลือกสีรถตามวันเกิดยังไง ให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด?
- สีรถ ส่งผลต่อราคาขายต่อมากน้อยแค่ไหน?
5 สีรถยนต์ที่ฮิตมากที่สุดในไทย มีอะไรบ้าง?
แอ็กซอลตา บริษัทชั้นนำระดับโลก ในธุรกิจสีเคลือบสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ได้รายงานสีรถยนต์ยอดนิยมประจำปี 2022 ครบรอบปีที่ 70 ในการสำรวจและให้ข้อมูลเชิงลึกในอุตสาหกรรมยานยนต์ ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า “โทนสีกลาง ๆ (neutral color)” ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนดังนี้
- สีขาว ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก 34% แบ่งเป็นสีขาวมุก 14% และสีขาวโซลิด 20%
- สีดำเข้มประกาย 21%
- สีเทาประกาย 19%
- สีสันอื่น ๆ เช่น สีน้ำเงิน 8%, สีแดง 5% และสีเขียว 1%
ซึ่งในปี 2024 สีรถซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดในไทย ก็ยังคงเป็นสีกลาง ๆ ตามสถิติที่รายงานในปี 2022 เช่นเดิม แต่เป็นเพราะอะไร ตามไปเจาะลึกกันเลยดีกว่า
1. รถสีขาว
รถยนต์สีขาวค่อนข้างสะดุดตาบนท้องถนนทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน ถือเป็นสีรถยนต์ที่ให้ความปลอดภัยอันดับต้น ๆ แถมยังเป็นสีที่ดูแพงและมีความคลาสสิก ทำให้หลายคนตัดสินใจซื้อมากกว่าสีอื่น ๆ
รถสีขาวใช้นาน ๆ เสี่ยงกลายเป็นสีเหลือง
รู้มั้ย? สีรถยนต์สีขาวหากดูแลไม่ดีเสี่ยงเหลือง หากไม่อยากให้สายเกินแก้ เรามีวิธีดูแลรถสีขาวมาบอกต่อ ดังนี้
- สีขาวเป็นสีของความสะอาด จึงควรล้างรถ ‘อย่างน้อย’ เดือนละ 1 ครั้ง หรือจะล้างทุกสัปดาห์ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละบุคคล หากเป็นไปได้ควรเคลือบสีด้วย เพื่อป้องกันคราบฝุ่นเกาะและคราบฝังแน่น
- ไม่ควรจอดกลางแจ้ง แสงแดดไม่เป็นมิตรกับรถสักเท่าไหร่ เพราะ “ความร้อน” มีผลให้สีรถเปลี่ยนได้ นอกจากนี้ยังไม่ควรจอดใต้ต้นไม้ เนื่องจากยางไม้ก็เป็นศัตรูตัวฉกาจ ที่ทำให้สีรถยนต์ได้รับความเสียหาย ยิ่งถ้าตกใส่รถจนเป็นคราบหนัก อาจทำให้ล้างไม่ออกได้อีกด้วย

2. รถสีดำ
อีกหนึ่งสีรถยนต์ที่ฮิตตลอดกาล มีเสน่ห์น่ามอง แถมยังเป็นสีรถที่สะท้อนถึงบุคลิกความเรียบหรู ที่สำคัญเมื่อสีรถได้รับความเสียหาย ก็สามารถซ่อมได้ง่ายกว่าสีอื่น ๆ แต่มีข้อจำกัดคือมองเห็นได้ยากในช่วงเวลากลางคืน อาจทำให้ไม่ปลอดภัยเมื่อเทียบกับรถสีขาว
3. รถสีบรอนซ์เทา
เป็นโทนสีรถยนต์ที่ดูแลรักษาง่าย เนื่องจากเป็นสีโทนกลาง เวลาเลอะคราบฝุ่นละอองเล็ก ๆ ก็ดูกลมกลืนกับสีรถ นอกจากนี้ในด้านความเชื่อ ยังมองว่ารถสีบรอนซ์เทาช่วยเสริมดวงเมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ การสนับสนุนเกื้อกูล และบริวารที่ดีอีกด้วย
4. รถสีน้ำเงิน
แม้จะฉูดฉาดกว่าทั้ง 3 สีก่อนหน้า แต่รถสีนี้ก็ยังถือเป็น “สีโทนกลาง ๆ” สามารถมองเห็นได้ดีในเวลากลางวัน แต่ก็มองเห็นได้ยากเมื่อขับรถกลางคืน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโทนสีเข้ม กลาง หรืออ่อน นอกจากนี้ยังถือเป็น “สีเสริมดวง” ด้านความสงบ ปลอดภัยจากเหตุร้าย
5. รถสีแดง
รถสีแดงนอกจากจะเป็นสีที่เป็นเอกลักษณ์ของรถ Super Car แล้ว ยังเป็น “สีเสริมดวง” ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ส่วนใหญ่มักนำมาเสริมดวงด้านความสงบ ปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงเช่นกัน

เลือกสีรถตามวันเกิดยังไง ให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด?
กรณีที่คุณเชื่อในเรื่องของการเสริมดวงด้วยสีรถถูกโฉลก เช่น รถสีขาว เหมาะกับคนเกิดวัน จันทร์ พุธ และศุกร์ โดยสีรถมงคลจะเสริมความปังให้เจ้าของวันเกิดในแต่ละด้านต่างกันออกไป ดังนั้นการดูสีรถตามวันเกิดจึงขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ อาชีพ รวมถึงเส้นทางชีวิตของผู้ที่เกิดวันนั้น ๆ ว่าต้องการเสริมดวงด้านไหน ซึ่งเราได้รวบรวมมาให้เรียบร้อยแล้ว สีรถยนต์มีสีอะไรบ้างตามไปดูกันเลย
1. คนเกิดวันอาทิตย์
- เมตตามหาเสน่ห์ : สีแดง และสีดำ
- ผู้ใหญ่เอ็นดู : สีเทาอ่อน และสีทอง
- หน้าที่การงาน : สีม่วง และสีชมพู
- โชคลาภ : สีดำ, สีน้ำเงิน และสีเทา
- สีต้องห้าม : สีเหลือง
2. คนเกิดวันจันทร์
- เมตตามหาเสน่ห์ : สีขาว, สีเหลือง และสีชมพู
- ผู้ใหญ่เอ็นดู : สีน้ำเงิน
- หน้าที่การงาน : สีส้ม และสีเขียว
- โชคลาภ : สีส้ม และสีน้ำตาล
- สีต้องห้าม : สีแดง
3. คนเกิดวันอังคาร
- เมตตามหาเสน่ห์ : สีชมพู และสีม่วง
- ผู้ใหญ่เอ็นดู : สีแดง
- หน้าที่การงาน : สีม่วง และสีเทา
- โชคลาภ : สีแดง, สีดำ และสีเทา
- สีต้องห้าม : สีครีม
4. คนเกิดวันพุธ
- เมตตามหาเสน่ห์ : สีเขียว
- ผู้ใหญ่เอ็นดู : สีขาว และสีครีม
- หน้าที่การงาน : สีน้ำตาล และสีส้ม
- โชคลาภ : สีฟ้า และสีชมพู
- สีต้องห้าม : สีดำ
5. คนเกิดวันพฤหัสบดี
- เมตตามหาเสน่ห์ : สีเหลือง และสีส้ม
- ผู้ใหญ่เอ็นดู : สีเขียว
- หน้าที่การงาน : สีฟ้า และสีเขียว
- โชคลาภ : สีครีม สีเหลือง และสีส้ม
- สีต้องห้าม : สีน้ำตาล

6. คนเกิดวันศุกร์
- เมตตามหาเสน่ห์ : สีชมพู สีฟ้า และสีน้ำเงิน
- ผู้ใหญ่เอ็นดู : สีส้ม และสีน้ำตาล
- หน้าที่การงาน : สีเหลือง, สีขาว และสีน้ำเงิน
- โชคลาภ : สีเขียว และสีเทา
- สีต้องห้าม : สีแดง
7. คนเกิดวันเสาร์
- เมตตามหาเสน่ห์ : สีชมพู, สีม่วง และสีดำ
- ผู้ใหญ่เอ็นดู : สีชมพู
- หน้าที่การงาน : สีน้ำตาล, สีส้ม และสีม่วง
- โชคลาภ : สีแดง และสีน้ำเงิน
- สีต้องห้าม : สีเทาอ่อน
แม้ว่าจะเลือกใช้รถตามสีรถมงคล แค่ขึ้นชื่อว่า “อุบัติเหตุ” ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งประมาท ดังนั้นนอกจากจะเลือกสีรถถูกโฉลกแล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับประกันภัยรถยนต์ด้วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้คุณได้ดีมาก ๆ ในวันที่เกิดเหตุไม่คาดฝัน ที่รู้ใจมีประกันรถที่คุณปรับแต่งแผนได้ตามใจ อู่และศูนย์ซ่อมทั่วไทยกว่า 1,600+ แห่ง
สีรถ ส่งผลต่อราคาขายต่อมากน้อยแค่ไหน?
สำหรับสีรถที่ได้รับความนิยมในเมืองไทย แถมยังง่ายต่อการซื้อขาย จริง ๆ แล้วมีอยู่ทั้งหมด 3 สี คือ สีขาว สีดำ และสีบรอนซ์เงิน พบเห็นง่าย แถมยังหาซื้อได้ทุกแบรนด์ ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า “สีรถ” ส่งผลต่อราคาขายมากน้อยแค่ไหน ทำไมใคร ๆ ถึงเลือกสีโทนกลาง ๆ ก่อนเป็นอันดับแรก
ตอบตรงนี้เลยว่านอกจากสีรถยนต์ส่งผลต่อราคาขายแล้ว ยังส่งผลต่อ ‘ระยะเวลาขาย’ ด้วยเช่นกัน เพราะรถยนต์ที่มีสีสันฉูดฉาด ที่ออกมาเพื่อสร้างภาพจำหรือเพื่อตะโกนให้รู้กันไปเลยว่ารถสีนี้คือสีใหม่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสีที่เคยโดดเด่นกลับดูเชย คนส่วนใหญ่มองว่าแปลก เมื่อขายต่อก็ทำให้ราคาไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เนื่องจากถูกกดราคานั่นเอง
ขอย้ำก่อนว่าการเลือกสีรถยนต์ ไม่ว่าจะเลือกตามความชอบ หรือเลือกสีรถตามวันเกิดเพื่อความเป็นสิริมงคล ไม่ว่าจะสีฉูดฉาดหรือแปลกตามากแค่ไหน ไม่ใช่เรื่องผิด เว้นแต่ว่าคุณจะทำการเปลี่ยนสีรถในภายหลัง จำเป็นจะต้องแจ้งเปลี่ยนสีรถให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันโทษปรับที่อาจตามมา และอย่าลืมแจ้งบริษัทประกัน เพื่อจะได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่อง ไร้กังวล

