• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0310372 ไม ยอมให ใครหน าไหนมาร งแก part 2

admin79 by admin79
October 6, 2025
in Uncategorized
0
N0310372 ไม ยอมให ใครหน าไหนมาร งแก part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 อันดับรถ SUV ประหยัดน้ำมันที่น่าซื้อในปี 2025

หากคุณกำลังมองหารถ SUV คันใหม่ที่ทั้งตอบโจทย์การใช้งานและช่วยประหยัดน้ำมันในระยะยาว คุณมาถูกที่แล้ว! ปี 2025 มาพร้อมกับตัวเลือกหลากหลายที่เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งในเมืองและต่างจังหวัด บทความนี้ เงินให้ใจได้คัดสรร 10 อันดับรถ suv ประหยัดน้ำมันที่โดดเด่นทั้งในด้านสมรรถนะ ความคุ้มค่า และดีไซน์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันได้อย่างลงตัว

1. Toyota Yaris Cross Hybrid

รถประหยัดน้ำมัน

Toyota Yaris Cross Hybrid เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการ SUV ขนาดเล็กที่สามารถใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัว มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริดที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง 26.3 กม./ลิตร ซึ่งนับว่าเป็น รถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในกลุ่มนี้ อีกทั้งยังมีดีไซน์ทันสมัยและฟังก์ชันครบครัน เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติและระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง

– ราคา : เริ่มต้น 789,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : ประหยัดน้ำมันมาก เหมาะกับการใช้งานในเมือง

2. Honda HR-V e:HEV

Honda HR-V e:HEV เป็นรถ SUV ขนาดกลางที่เน้นความประหยัดและความสปอร์ต มาพร้อมเทคโนโลยีไฮบริด e:HEV ที่ผสานระหว่างเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ช่วยให้ได้อัตราประหยัดน้ำมันสูงถึง 25.6 กม./ลิตร พร้อมฟีเจอร์ล้ำสมัยอย่างหน้าจอสัมผัส 8 นิ้วที่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย และการออกแบบภายในที่กว้างขวาง

– ราคา : เริ่มต้น 1,149,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : มีเทคโนโลยีไฮบริดที่ตอบโจทย์การเดินทางในเมืองและต่างจังหวัด

3. Mitsubishi Pajero Sport Diesel

สำหรับคนที่มองหา SUV ขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ทั้งครอบครัวและการเดินทางไกล Mitsubishi Pajero Sport มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.4 ลิตร VG-Turbo ที่ให้กำลังแรงแต่ยังคงประหยัดน้ำมันได้ดี โดยมีอัตราการใช้น้ำมันเฉลี่ยประมาณ 13-15 กม./ลิตร จุดเด่นคือความแข็งแกร่งในการขับขี่และพื้นที่ภายในที่กว้างขวาง

– ราคา : เริ่มต้น 1,389,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกลและครอบครัวใหญ่

4. Mazda CX-5

Mazda CX-5 ใช้ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง ระบบ GVC Plus หนึ่งในเทคโนโลยีภายใต้ Skyactiv-Vehicle Dynamics เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตรมีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 17.5 กม./ลิตร พร้อมด้วยการออกแบบที่หรูหราและระบบขับขี่ G-Vectoring Control Plus ที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงในทุกการขับขี่

– ราคา : เริ่มต้น 1,530,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : สมรรถนะยอดเยี่ยมและประหยัดน้ำมัน

5. Nissan Kicks e-POWER

Nissan Kicks e-POWER เป็น SUV ไฮบริดที่ไม่ใช้เครื่องยนต์โดยตรงในการขับเคลื่อน แต่มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวทำงานหลัก ทำให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม 23.4 กม./ลิตร พร้อมดีไซน์ทันสมัยและฟีเจอร์ล้ำยุค เช่น ระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ

– ราคา : เริ่มต้น 889,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าพร้อมเทคโนโลยี e-POWER

6. Hyundai Tucson Hybrid

Hyundai Tucson Hybrid รถประหยัดน้ำมันมาพร้อมเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้พละกำลังรวมกว่า 230 แรงม้า และอัตราประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 22 กม./ลิตร รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการออกแบบภายนอกที่ทันสมัยและฟังก์ชันช่วยจอดอัตโนมัติ

– ราคา : เริ่มต้น 1,890,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและเทคโนโลยีครบครัน

7. Kia Sportage Hybrid

Kia Sportage Hybrid เป็น SUV อีกหนึ่งรุ่นที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างลงตัว ด้วยอัตราประหยัดน้ำมันเฉลี่ย 20.4 กม./ลิตร พร้อมห้องโดยสารที่เงียบและพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่

– ราคา : เริ่มต้น 1,750,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : ห้องโดยสารกว้างและการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม

8. Mercedes-Benz GLA 200

Mercedes-Benz GLA 200 รถประหยัดน้ำมันด้วยดีไซน์สปอร์ตหรูหรา พร้อมกระจังหน้า Diamond Grille และไฟท้าย LED ที่สะท้อนความเป็นเอกลักษณ์ ภายในกว้างขวางและทันสมัย พร้อมซันรูฟพาโนรามิค เครื่องยนต์เบนซิน 1,332 ซีซี เทอร์โบ กำลัง 163 แรงม้า ขับขี่ประหยัดพลังงาน รองรับน้ำมัน E85

– ราคา : เริ่มต้น 2,750,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : ขับขี่ประหยัดพลังงาน รองรับน้ำมัน E85 และภายในกว้างขวางพร้อมฟีเจอร์ทันสมัย

9. Subaru Forester e-Boxer

Subaru Forester e-Boxer รถประหยัดน้ำมันใช้เทคโนโลยีไฮบริดที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ Boxer และมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้ได้อัตราการประหยัดน้ำมันประมาณ 18 กม./ลิตร พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ Symmetrical AWD ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน

– ราคา : เริ่มต้น 1,450,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะและความมั่นคง

10. BMW X5 Plug-in Hybrid

BMW X5 Plug-in Hybrid มาพร้อมเครื่องยนต์ปลั๊กอินไฮบริดขนาด 3.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 313 แรงม้า พร้อมการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมด้วยระบบปลั๊กอินไฮบริดที่สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ถึง 113 กม./การชาร์จหนึ่งครั้ง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการ SUV หรูหราและเทคโนโลยีล้ำยุค

– ราคา : เริ่มต้น 5,099,000 บาท

– ข้อดีน่าซื้อ : ความหรูหราและระยะขับขี่ที่ยอดเยี่ยม

สรุป

การเลือก รถ SUV ประหยัดน้ำมัน ไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การพิจารณาเลือกจากรุ่นที่เหมาะสมกับการใช้งานและงบประมาณของคุณคือกุญแจสำคัญ หากคุณกำลังมองหารถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันที่สุด ลองพิจารณารุ่นที่เราแนะนำ และเปรียบเทียบจุดเด่นของแต่ละรุ่นเพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์มากที่สุด

สำหรับใครที่ต้องการเงินด่วน สินเชื่อรถแลกเงินเป็นหนึ่งในคำตอบและวิธีการที่ดีที่สุดของคุณ กับเงินให้ใจที่มีความน่าเชื่อถือจากบริษัท เงินให้ใจ จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งปัจจุบันลูกค้าสามารถขอใช้บริการได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย ทุกสาขา และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คำนวณวงเงินสินเชื่อและสมัครสินเชื่อได้ทันทีที่ https://www.ngernhaijai.com/

“กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงต่อปี สินเชื่อจำนำเล่มทะเบียนรถ 12.82% – 24.00% สินเชื่อโอนเล่มทะเบียนรถ แบ่งเป็นกรณีบุคคลธรรมดามีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการส่วนตัว 6.08% – 15.00% และกรณีบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ 6.08% – 26.62%”

เปิด! 10 รถไฟฟ้า SUV น่าใช้ ปี 2025 มีรุ่นไหนบ้าง

Last updated: 28 มี.ค. 2568  |  23313 จำนวนผู้เข้าชม  | 

   


รถ SUV ถือเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในหลากหลายความต้องการ ทั้งการเดินทางแบบครอบครัว และการเดินทางไปยังพื้นที่ที่ต้องการความสมบุกสมบัน โดยเฉพาะในปัจจุบันที่รถยนต์ไฟฟ้ามีความต้องการใช้งานที่แพร่หลายมากขึ้น รถไฟฟ้า SUV จึงเป็นที่ต้องการในท้องตลาดสำหรับผู้ที่มองหารถยนต์ที่มอบทั้งความสะดวกสบายและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ในบทความนี้ APRTECH จะมาแนะนำ 10 รถไฟฟ้า SUV รุ่นยอดนิยมในปี 2025 ที่โดดเด่นทั้งดีไซน์ ฟังก์ชันการใช้งาน รวมถึงจุดเด่นของรถแต่ละรุ่นเพื่อช่วยให้ผู้ที่กำลังมองหารถ EV SUV ได้เปรียบเทียบก่อนการตัดสินใจซื้อ

รถไฟฟ้า SUV หรือ รถ SUV ไฟฟ้า คืออะไร?

รถ SUV ไฟฟ้า คือรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อน เพราะโดยทั่วไปแล้วรถ SUV ค่อนข้างใช้น้ำมันเยอะ เนื่องจากตัวรถมีพื้นที่ในห้องโดยสารกว้างขวาง ทำให้หากบรรทุกสัมภาระมาก น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ต้องใช้น้ำมันในการขับเคลื่อนมากขึ้นตามไปด้วย รถยนต์ไฟฟ้า SUV จึงมีข้อดีในเรื่องการลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน เนื่องจากไม่ต้องใช้น้ำมัน รวมถึงยังสามารถทำอัตราเร่งได้ดีกว่า และไม่มีเสียงรบกวนขณะขับขี่

10 รถไฟฟ้า SUV รุ่นไหนดีที่เหมาะกับคุณ 2025

1. Porsche Macan


Porsche Macan
 รถไฟฟ้า SUV ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ของ Porsche ผสานกับความเป็นรถสปอร์ตได้อย่างลงตัว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระสูงสุด 540 ลิตร ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อควบคุมด้วย Porsche Traction Management (ePTM) มอบสมรรถนะการขับขี่ที่รวดเร็วและนุ่มนวล นอกจากนี้ ยังมาพร้อมเทคโนโลยี AR Head-Up Display แสดงผลข้อมูลบนกระจกหน้ารถ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่

2. BYD Atto 3

BYD Atto 3 รถยนต์ไฟฟ้า SUV 5 ที่นั่งจากแบรนด์ชั้นนำของจีน โดดเด่นด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ขับเคลื่อนด้วยระบบ Blade Battery เอกสิทธิ์เฉพาะของ BYD และควบคุมด้วยแพลตฟอร์ม e-Platform 3.0 เพิ่มความปลอดภัยและมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล ควบคุมได้ง่าย

3. NETA X

NETA X รถ SUV ไฟฟ้า 100% ที่ออกแบบเน้นความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการใช้งาน ด้วยโครงสร้างตัวถังเหล็กกล้าแรงดึงสูงถึง 75% และเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ADAS Level 2 ที่ครอบคลุมกว่า 11 ระบบ เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบช่วยจอดและออกตัวบนทางลาดชัน เป็นต้น รวมถึงระบบสั่งการด้วยเสียงอัจฉริยะ รองรับภาษาไทย

4. NETA X

BMW iX คือรถ EV SUV เต็มรูปแบบรุ่นแรกที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าโดยเฉพาะ ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและทรงพลัง ผสานกับเทคโนโลยี BMW eDrive และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า ทำให้ iX มีสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น ภายในห้องโดยสารมาพร้อมกับระบบ BMW iDrive ที่เป็นผู้ช่วยดิจิทัลอัจฉริยะ มอบความสะดวกสบายในการใช้งาน

5. Tesla Model Y


Tesla Model Y รถ SUV ไฟฟ้าจากแบรนด์รถยนต์ EV ชั้นนำของโลก โดยรุ่นล่าสุดใช้เทคโนโลยีการหล่อตัวถังขนาดใหญ่ เพื่อลดรอยต่อ เพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ และมีการปรับปรุงดีไซน์ไฟท้าย ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์ยิ่งขึ้น ภายในมีพื้นที่เก็บสัมภาระกว้างขวาง โดยเมื่อพับเบาะหลังทั้งหมด จะมีความจุสูงสุดถึง 2,130 ลิตร และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยกระโปรงหลังเปิดเองอัตโนมัติ ที่ทำให้การบรรทุกสัมภาระสะดวกสบายยิ่งขึ้น

6. Kia EV6

KIA EV6 มาพร้อมดีไซน์สุดโดดเด่น ด้วยกระจังหน้าแบบ Tiger Nose ที่เป็นเอกลักษณ์ของ KIA ให้รูปลักษณ์ที่ดูยาวเรียว โฉบเฉี่ยวในสไตล์ Crossover การันตีด้วยรางวัล European Car of The Year ในปี 2022 ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง อีกทั้งยังใช้วัสดุรีไซเคิลในการผลิตคอนโซลรถ เพื่อสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด จึงเป็นอีกหนึ่งรถ EV SUV ที่น่าจับตามอง

7. Hyundai Ioniq 5


Hyundai IONIQ 5 เป็นรถ SUV ไฟฟ้าที่มีเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบ Parametric Pixels Design ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรถรุ่นคลาสสิกอย่าง Hyundai Pony เน้นเส้นสายที่เฉียบคม ทันสมัย ภายในห้องโดยสารออกแบบให้มีความโปร่ง โล่งสบาย และติดตั้งระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Hyundai Smartsense เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัย

8. XPENG G6

XPENG G6 เป็นรถไฟฟ้า SUV ทรงสปอร์ต มาพร้อมการออกแบบในคอนเซปต์ Circle of Life ที่ให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย โดดเด่นด้วยเบาะที่ปรับระดับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบระบายความร้อน รองรับทุกสรีระของผู้โดยสารและผู้ขับขี่ อีกทั้งยังมีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานต่ำ และแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยให้มั่นใจทุกการเดินทาง

9. AVATR 11

AVATR 11 รถ SUV ไฟฟ้าที่ออกแบบภายในให้มีบรรยากาศสุดหรูหราด้วย Ambient Lighting หลังคาพาโนรามาขนาดใหญ่พิเศษเพื่อทัศนียภาพในการมองเห็นที่ชัดเจน และเบาะหนังระดับพรีเมียมปรับได้ 14 ทิศทางพร้อมฟังก์ชันนวดและระบบระบายอากาศ ด้านความปลอดภัยในการขับขี่ มั่นใจได้ด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่ขั้นสูง L2+ (ADAS) และมีโหมดการขับขี่ให้เลือกหลากหลาย (Eco, Comfort, Sport, Customize)

10. Deepal S07

Deepal S07 รถอัจฉริยะที่อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ภายใต้แพลตฟอร์ม EPA1 ที่ถูกออกแบบเพื่อรองรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ทำให้ควบคุมได้อย่างแม่นยำและมั่นคง ดีไซน์ภายนอกมีความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย โดดเด่นด้วยไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Full-LED และประตูไร้ขอบ อีกทั้งยังมีราคาที่คุ้มค่าและน่าสนใจเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้า SUV ในระดับเดียวกัน

ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อรถไฟฟ้า SUV

  • ระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จ

เพราะในปัจจุบันสถานีให้บริการ EV Charger ในบางพื้นที่อาจยังมีจำกัด หากรถยนต์ไฟฟ้ามีความจุแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดปัญหาระหว่างการเดินทางได้ ดังนั้น จึงควรเช็กระยะทางที่วิ่งได้ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งว่าสามารถไปได้ไกลแค่ไหน ซึ่งระยะทางที่วิ่งได้ อาจไม่เป็นไปตามตัวเลขที่รถคำนวณ เพราะเมื่อขับด้วยความเร็วสูง มอเตอร์ไฟฟ้าจะใช้ไฟมากกว่าเดิมมาก เช่น หากรถคำนวณว่าวิ่งได้ 480 กม. แต่เมื่อขับด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ระยะที่วิ่งได้จริงอาจเหลือเพียง 240 กม. และในความเป็นจริงเมื่อแบตเตอรี่เหลือ 30% ก็ต้องเริ่มหาที่ชาร์จแล้ว และการชาร์จเร็วระหว่างทางจะได้ถึงประมาณ 80% หลังจากนั้นการชาร์จจะช้าลง เพราะฉะนั้น ระยะทางในการชาร์จแต่ละครั้งก็จะเหลือ 50% เท่านั้น สรุปคือรถที่ระบุว่าวิ่งได้ 480 กม. ต้องชาร์จทุก 240 กม. เมื่อวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชม. หากขับที่ความเร็ว 120 กม./ชม. ก็อาจต้องแวะชาร์จทุก 120 กม. หากวิ่งจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ระยะทางประมาณ 700 กม. ก็จะต้องชาร์จ 700/120 = 6 ครั้ง หากแต่ละครั้งใช้เวลาชาร์จ 30-45 นาที ก็จะต้องเผื่อเวลาชาร์จไปอีก 3-4.5 ชม. ในการเดินทางจาก กทม.ไปเชียงใหม่

  • ระบบชาร์จและระยะเวลาในการชาร์จ

ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหลักๆ มี 2 แบบ ได้แก่ ระบบชาร์จกระแสสลับ (AC) ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จนานกว่า และระบบชาร์จกระแสตรง (DC) หรือ DC Fast Charging ซึ่งมีความเร็วในการชาร์จสูงมาก สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ในเวลาอันรวดเร็ว

ระบบชาร์จที่บ้านส่วนใหญ่จะใช้แบบ AC เพราะราคาประหยัดและชาร์จข้ามคืนก็เต็ม ไม่ต้องรีบชาร์จ ส่วนระหว่างการเดินทางไกล นิยมหาที่ชาร์จระบบ DC เพราะต้องการการชาร์จที่เร็ว ไม่เสียเวลาเดินทาง

นอกจากนี้ รถแต่ละรุ่นยังรองรับประเภทหัวชาร์จที่แตกต่างกัน เช่น Type 1, Type 2, CCS, CHAdeMO และ GB/T จึงควรตรวจสอบทั้งประเภทการชาร์จ (AC/DC) และประเภทหัวชาร์จที่รถแต่ละคันรองรับ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถชาร์จ ณ สถานีให้บริการได้

  • งบประมาณและค่าใช้จ่ายระยะยาว

แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้า SUV บางรุ่นจะมีราคาที่จับต้องได้ แต่อาจใช้ชิ้นส่วนหรือระบบเฉพาะ ซึ่งหากต้องซ่อมแซม อาจมีราคาสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้า SUV รุ่นที่ราคาสูงกว่า นอกจากนี้ ยังต้องประเมินถึงเรื่องค่าใช้จ่ายระยะยาว เช่น ค่าบำรุงรักษา ค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อหมดอายุการใช้งาน ค่าติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน ค่าไฟฟ้าเป็นต้น


เมื่อเลือกรถ SUV ไฟฟ้า ให้เหมาะกับงบประมาณและค่าใช้จ่ายในระยะยาวแล้ว รถน้ำมันที่บ้านของคุณอาจจอดยาวไปเลย ต้องดูแลแบตเตอรี่ ป้องกันแบตฯเสื่อมด้วย CTEK เครื่องชาร์จแบตเตอรี่อัจฉริยะจากสวีเดน

Previous Post

N0310371 ไม ยอมให ใครหน าไหนมาร งแก part 2

Next Post

N0310374 โดนไล ออกจากงาน แต ปาฏ หารย ไม คาดค part 2

Next Post
N0310374 โดนไล ออกจากงาน แต ปาฏ หารย ไม คาดค part 2

N0310374 โดนไล ออกจากงาน แต ปาฏ หารย ไม คาดค part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0411563 หลอยผ วมาต วอ าย EP1 part 2
  • N0411126 จะได ณค าและความลำบากในการใช เง part 2
  • N0411120 การด แลต วเองหล งคลอด part 2
  • N0411125 องการคนร กเม อตอนท กคนไม องการ part 2
  • N0411124 ความค ดครอบคร วผ วเต าล านป part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • November 2025
  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.