ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
รวมรถเปิดตัวในงาน Motor Show 2025 (พร้อมราคา)
Kumpolpat Banlungrattana | 27 March 2568 10:48\

ปี 2025 วงการรถยนต์ยังคงคึกคักกันต่อเนื่องแบบไม่มีแผ่ว! บอกเลยว่าหลายค่ายเตรียมเปิดตัวรถรุ่นใหม่กันแบบจัดเต็ม เพื่อเอาใจสายขับทั้งหลาย ไม่ว่าคุณจะชอบรถยนต์สันดาปแบบดั้งเดิมที่ยังครองใจใครหลายคน รถยนต์ไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้า หรือจะเป็นรถปลั๊กอินไฮบริดที่ให้คุณเสียบปลั๊กชาร์จแบตแล้วขับด้วยไฟฟ้าได้ไกลกว่าเดิม ในปีนี้งาน BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2025 จะเปิดตัวรถคันไหนบ้าง ไปดูกันเลย
รถที่เปิดตัวในงาน BANGKOK INTERNATIONAL MOTOR SHOW 2025
- GWM Tank 300 Diesel
- GWM H6
- Nissan Serena e-POWER
- AION UT
- JAECOO 7 SHS PHEV
- FORD EVEREST SPORT
- DEEPAL S05
- ROLLS ROYCE GHOST SERIES II
GWM Tank 300 Diesel
TANK 300 DIESEL มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2.4T เจเนอเรชันใหม่ ให้พละกำลังสูงสุด 181 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด พร้อมอัตราประหยัดน้ำมันที่ดีถึง 14 กม./ลิตร
รุ่นและราคา
TANK 300 DIESEL มีให้เลือก 3 รุ่น ดังนี้
- TANK 300 DIESEL 2.4T PRO – 999,000 บาท
- TANK 300 DIESEL 2.4T PRO 2WD – 1,149,000 บาท
- TANK 300 DIESEL 2.4T PRO 4WD – 1,249,000 บาท
การรับประกัน
- รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 150,000 กม.
- รับประกันเครื่องยนต์ 8 ปี หรือ 1,000,000 กม.
มิติตัวถัง
- ความยาว: 4,760 มม.
- ความกว้าง: 1,930 มม.
- ความสูง: 1,903 มม.
- น้ำหนัก: 2,155 – 2,280 กก.
- ฐานล้อ: 2,750 มม.
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น: 224 มม.
- ความจุถังน้ำมัน: 78 ลิตร
ข้อมูลเครื่องยนต์
- เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 2.0 ลิตร
- ระบบฉีดจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection
- ระบบอัดอากาศ Turbocharged แบบแปรผัน (VG Turbo)
- กำลังสูงสุด: 181 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที
- แรงบิดสูงสุด: 480 นิวตันเมตร ที่ 1,500 – 2,500 รอบ/นาที
- รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด Diesel B7
- ระบบส่งกำลัง: เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด
GWM HAVAL H6
ALL NEW GWM HAVAL H6 มี 3 รุ่นย่อย
- Hybrid PRO – 929,000 บาท
- Plug-in Hybrid PRO – 1,049,000 บาท
- Plug-in Hybrid ULTRA – 1,149,000 บาท
ขนาดตัวรถ
- ยาว 4,703 มม. | กว้าง 1,886 มม. | สูง 1,730 มม.
- ฐานล้อ 2,738 มม. | ความสูงใต้ท้องรถ 170 มม.
- ความจุถังน้ำมัน 61 ลิตร (Hybrid) | 55 ลิตร (Plug-in Hybrid)
สมรรถนะ
- Hybrid: เครื่องยนต์ 1.5L เทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า 243 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร
- Plug-in Hybrid: เครื่องยนต์ 1.5L เทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า 326 แรงม้า แรงบิด 530 นิวตันเมตร
- แบตเตอรี่ 27.54 kWh วิ่งไฟฟ้าล้วนได้ 150 กม.
โหมดการขับขี่
- ปกติ | สปอร์ต | ประหยัด | พื้นหิมะ
- รุ่น Plug-in Hybrid เพิ่มโหมด Hybrid และ EV
ระบบเกียร์ DHT ช่วยให้สลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
Nissan Serena e-POWER
Nissan Serena e-POWER เป็นรถยนต์ MPV ที่เปิดตัวแล้วที่งาน Bangkok International Motor Show 2025
ราคาอย่างเป็นทางการ (นำเข้า CBU ญี่ปุ่น)
- SERENA e-POWER C28 Highway Star ราคา 1,690,000 บาท
มาพร้อมการรับประกันคุณภาพ
- รับประกันคุณภาพตัวรถ Warranty นาน 3 ปี หรือ 100,000 km.
- รับประกันระบบไฟฟ้า e-POWER นาน 5 ปี
- รับประกันแบตเตอรี่ นาน 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
มิติตัวถัง
- ความยาว: 4,690 มม.
- ความกว้าง: 1,715 มม.
- ความสูง: 1,895 มม.
- ฐานล้อ: 2,870 มม.
- ระยะต่ำสุดถึงพื้น: 135 มม.
- รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด: 5.7 เมตร
ขุมพลังและระบบขับเคลื่อน
Nissan Serena e-POWER ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า EM57 AC3 Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (PS) และแรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร
ระบบมอเตอร์ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ติดตั้งใต้เบาะคู่หน้า และเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR14DDe ขนาด 1.4 ลิตร (1,443 ซีซี) แบบ Direct Injection DOHC 16 วาล์ว โดยมีขนาดกระบอกสูบ x ระยะช่วงชักที่ 78.0 x 100.0 มม. (เพิ่มความจุจากเครื่องยนต์ HR12DE รุ่นเดิม) อัตราส่วนกำลังอัดอยู่ที่ 13.0:1
เครื่องยนต์ผลิตกำลังสูงสุด 98 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 123 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที พร้อมถังน้ำมันขนาด 52 ลิตร
Nissan Serena e-POWER ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ Standard Mode, ECO Mode และ Sport Mode รุ่นนี้ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถ MPV ที่ขับขี่นุ่มนวล ประหยัดพลังงาน และมีความสะดวกสบายสำหรับครอบครัว
AION UT
ราคาเปิดตัว
- AION UT – 49x,xxx บาท
AION UT เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแฮทช์แบ็กขนาดเล็กที่มาพร้อมดีไซน์โค้งมนสะดุดตา ตัวรถมีความยาว 4,270 มม. กว้าง 1,850 มม. สูง 1,575 มม. และมีระยะฐานล้อ 2,750 มม. น้ำหนักตัวรถอยู่ระหว่าง 1,510-1,540 กก.
ดีไซน์ด้านหน้ามาในสไตล์รถ EV ด้วยกระจังหน้าแบบปิดทึบ ตรงกลางประดับด้วยโลโก้ AION เพิ่มความโดดเด่นด้วยช่องรับอากาศลายซี่แนวทะแยง ไฟหน้า LED ออกแบบให้ดูคล้ายดวงตา เสริมด้วยไฟตัดหมอก LED ขนาดเล็ก 4 ดวงในกรอบสีดำ ให้ภาพรวมของตัวรถดูน่ารักและทันสมัย
ในด้านสมรรถนะ AION UT ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้พละกำลังสูงสุด 100 kW (134 แรงม้า) ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 150 กม./ชม.
ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ LFP (Lithium Iron Phosphate) ขนาด 44 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 420 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รองรับการชาร์จเร็วแบบ DC ที่สามารถชาร์จจาก 30-80% ได้ภายใน 24 นาที
JAECOO 7 SHS
JAECOO 7 SHS (Super Hybrid System) มี 2 รุ่นย่อยได้แก่
- JAECOO 7 SHS Dynamic – ราคาคาดการณ์ 899,000
- JAECOO 7 SHS Max – ราคาคาดการณ์ 999,000 บาท
หากคุณกำลังมองหารถปลั๊กอินไฮบริดที่ตอบโจทย์ทั้งสมรรถนะ ความประหยัด และความปลอดภัย JAECOO 7 SHS คือคำตอบที่ไม่ควรมองข้าม รถรุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก Chery Automobile ที่พัฒนาด้วยเครื่องยนต์ 1.5TDGI เจเนอเรชั่นที่ 5 พร้อมระบบ Super Electric Hybrid DHT ที่ทำให้การทำงานระหว่าง EV และ HEV เป็นไปอย่างราบรื่น
สมรรถนะเหนือชั้น
JAECOO 7 SHS มอบพละกำลังสูงสุดถึง 347 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 525 นิวตัน-เมตร ช่วยให้การขับขี่ทรงพลังในทุกสภาพถนน นอกจากนี้ ยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมกว่า 21.28 กิโลเมตร/ลิตร ทำให้คุณเดินทางได้ไกลโดยไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อย
ด้วยการออกแบบให้วิ่งได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนถึง 106 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน NEDC) และสามารถขับขี่รวมได้ไกลสูงสุดถึง 1,300 กิโลเมตร JAECOO 7 SHS จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการเดินทางไกลอย่างแท้จริง
ความปลอดภัยระดับสูง
JAECOO 7 SHS มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีความปลอดภัยสูง ด้วยระบบป้องกันรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการทนทานต่อความร้อน แรงกระแทก และกันน้ำ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ป้องกันอัจฉริยะที่สามารถปิดเครื่องได้ภายใน 0.002 วินาที หลังเกิดการชน ช่วยตัดแหล่งจ่ายไฟได้ทันที เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
นอกจากนี้ JAECOO 7 SHS ยังสามารถใช้เป็นแหล่งพลังงานเคลื่อนที่ในกรณีฉุกเฉิน ด้วยการจ่ายไฟฟ้าภายนอกได้สูงสุด 3.3 กิโลวัตต์ รองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
โปรโมชั่นพิเศษในงาน Motor Show 2025
เตรียมพบกับ JAECOO 7 SHS ได้ที่บูธหมายเลข A23 ภายในงาน Bangkok International Motor Show 2025 ระหว่างวันที่ 24 มีนาคม – 6 เมษายน 2568 พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับผู้ที่จองในงานเท่านั้น
- ฟรีค่าบำรุงรักษา 2 ปี
- รับเงินสนับสนุน 10,000 บาท ผ่านแคมเปญ “Eco Bonus” เมื่อแสดงเล่มจดทะเบียนรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปหรือ HEV
- ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
- รับประกันรถนานสูงสุด 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร ครอบคลุมทั้งตัวรถ ระบบมอเตอร์ขับเคลื่อน และแบตเตอรี่แรงดันสูง
FORD Everest Sport Special Edition 2025
ราคาเปิดตัว
- FORD Everest Sport Special Edition 2025 วางจำหน่ายในราคา 1,619,000 บาท
ดีไซน์สุดสปอร์ต โดดเด่นทุกมิติ
FORD Everest Sport Special Edition 2025 มาพร้อมกับรายละเอียดการออกแบบที่เน้นความหรูหราและสปอร์ตอย่างลงตัว
- หลังคาสีดำ เพิ่มความดุดันและแตกต่าง
- ล้ออัลลอยสีทูโทน ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีแดง-ดำ เพิ่มความเท่แบบมีสไตล์
- สปอยเลอร์หลังสีดำ เสริมความโฉบเฉี่ยวสะกดทุกสายตา
- ตัวอักษร “Everest” สีดำเงา บนฝากระโปรงหน้า เติมความหรูหราและพรีเมี่ยม
- จอ Multi-Touch ขนาด 12 นิ้ว รองรับฟังก์ชันความบันเทิงและควบคุมการใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย
- ภายในสไตล์ Sport ห้องโดยสารโทนสีดำสุดหรู พร้อมเบาะหนังและหนังสังเคราะห์ เพิ่มความสบายในทุกการเดินทาง
ขุมพลังทรงพลัง ขับสนุกทุกเส้นทาง
FORD Everest Sport Special Edition 2025 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ขับขี่นุ่มนวลแต่ทรงพลัง พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้การเดินทางปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
สีตัวถังที่มีให้เลือก
สำหรับ FORD Everest Sport Special Edition 2025 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่
- สีขาว Snowflake White Pearl
- สีเงิน Aluminium Metallic
DEEPAL S05
\
ราคาจำหน่าย DEEPAL S05
DEEPAL S05 REEV
- DEEPAL S05 REEV MAX ราคาคาดการณ์ 999,000 บาท
- DEEPAL S05 REEV PLUS ราคาคาดการณ์ 949,000 บาท
DEEPAL S05 BEV
- DEEPAL S05 MAX ราคาจำหน่าย 899,000 บาท
- DEEPAL S05 PLUS ราคาจำหน่าย 849,000 บาท
- DEEPAL S05 LITE ราคาจำหน่าย 799,000 บาท
สีภายนอกมีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเงิน สีน้ำเงิน สีขาว สีดำ และสีเทา
DEEPAL S05 รถสปอร์ตสุดล้ำ ขับสนุกพร้อมเทคโนโลยีจัดเต็ม
DEEPAL S05 มีให้เลือกทั้งรุ่น EV และ REEV (Range-Extended Electric Vehicle)
- รุ่น EV วิ่งได้ไกล 470 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC)
- รุ่น REEV วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นหลักและใช้เครื่องยนต์เสริมเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด วิ่งได้สูงสุด 170 กม. ด้วยไฟฟ้าล้วน และเมื่อเติมน้ำมันเต็มถัง 44.9 ลิตรจะมีระยะทางรวมกว่า 1,000 กม.
สมรรถนะการขับขี่
- ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) พร้อมช่วงล่างมัลติลิงค์
- การกระจายน้ำหนัก 50:50 ให้การควบคุมที่แม่นยำ เข้าโค้งเฉียบคม
- อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. รุ่น EV ทำได้ใน 7.3 วินาที และรุ่น REEV ใน 7.9 วินาที
- ดีไซน์และจุดเด่น
- ดีไซน์สไตล์ Interstellar Wing Design ล้ำสมัยและปราดเปรียว
- ประตูไร้กรอบเพิ่มความหรูหรา
- ล้ออัลลอยทูโทน 18 นิ้ว (อัปเกรดเป็น 20 นิ้วได้)
- หลังคากระจกพาโนรามา 1.9 ตร.ม. เพิ่มความโปร่งโล่ง
- ห้องโดยสารเก็บเสียงเยี่ยม ควบคุมเสียงรบกวนไว้ที่ 62 เดซิเบล ขณะขับขี่ที่ความเร็ว 100 กม./ชม.
- เทคโนโลยีและอินเตอร์เทนเมนต์
- หน้าจอ AR-HUD แสดงข้อมูลบนกระจกหน้า
- หน้าจอ Sunflower Screen ขนาด 15.4 นิ้ว ความละเอียด 2.5K
- ระบบเสียง 14 ตัว พร้อมบริการสตรีมออนไลน์และมินิเกม
- ฟังก์ชัน V2L (จ่ายไฟภายนอกรถ) กำลังสูงสุด 6 กิโลวัตต์
- ระบบ DEEPAL OS 3.0 ควบคุมง่ายผ่านเสียงสั่งการ
ข้อเสนอพิเศษ
DEEPAL S05 มาพร้อมกับสิทธิพิเศษเยอะมาก
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 และ พ.ร.บ. 1 ปี
- ฟรี โฮมชาร์จเจอร์พร้อมติดตั้ง
- ฟรี สายชาร์จเคลื่อนที่และสายต่อพ่วง V2L
- รับประกันตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กม.
- รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง นาน 8 ปี
- ฟรี การบำรุงรักษาปีที่ 1 จำนวน 1 ครั้ง
แคมเปญพิเศษ “BUY DEEPAL GET DEEPAL”
ลูกค้าที่จอง DEEPAL S05 และรับรถภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2568 มีสิทธิ์ลุ้นรับ
- รถยนต์ DEEPAL S07 มูลค่า 1,399,000 บาท (1 รางวัล)
- รถยนต์ DEEPAL L07 S มูลค่า 1,239,000 บาท (1 รางวัล)
- รถยนต์ LUMIN L มูลค่า 479,000 บาท (1 รางวัล)
รวมมูลค่ารางวัลทั้งหมดกว่า 3,117,000 บาท
Rolls Royce Ghost Series II
Rolls-Royce Ghost Series II
ราคาเปิดตัว
- Rolls-Royce Ghost Series II EWB-EXTENED WHEEL BASE – 38,000,000 บาท
ดีไซน์ภายนอกหรูหรายิ่งขึ้น
การปรับโฉมครั้งนี้มุ่งเน้นที่ความโดดเด่นของดีไซน์ภายนอก โดยเฉพาะไฟหน้าและกันชนหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟท้ายที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่น Spectre ซึ่งเปลี่ยนไปใช้ไฟ LED แบบเส้นแนวตั้ง เพิ่มความทันสมัยให้ตัวรถยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 22 นิ้วลายใหม่แบบ 9 ก้าน เสริมความโดดเด่นให้ตัวรถ ขณะที่ตัวเลือกสีภายนอกมีมากกว่า 44,000 สี รวมถึงสีใหม่อย่าง Mustique Blue ที่เพิ่มความพิเศษให้รุ่นนี้โดยเฉพาะ
ภายในห้องโดยสารสุดหรู
ภายในห้องโดยสารยังคงเน้นความหรูหราเป็นหลัก โดยแผงคอนโซลหน้าได้รับการออกแบบให้สามารถปรับแสดงข้อมูลต่างๆ ได้ตามต้องการ สีตกแต่งภายในสามารถเลือกได้อย่างอิสระ รวมถึงการปรับเฉดสีหน้าจอ Full Digital ให้เข้ากับวัสดุตกแต่งได้อย่างลงตัว
ผู้โดยสารด้านหลังยังสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงผ่านจอแสดงผลแยกอิสระ 2 ชุด โดยมีเครื่องเสียงระดับพรีเมียมที่มาพร้อมลำโพง 16 ตำแหน่ง และกำลังขับสูงสุด 1,400 วัตต์ มอบประสบการณ์การฟังที่ทรงพลังและคมชัด
เทคโนโลยีไม่เหมือนใคร
Ghost Series II ยังมาพร้อมซอฟต์แวร์อัปเกรดใหม่ที่ช่วยให้เจ้าของรถควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน นอกจากการสั่งล็อกและปลดล็อกประตูแล้ว ยังสามารถตรวจสอบตำแหน่งจอดรถได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
วัสดุตกแต่งระดับพรีเมียม
Rolls-Royce ใส่ใจทุกรายละเอียดด้วยการใช้ไม้เกรดพรีเมียม รวมถึงวัสดุเส้นใยไม้ไผ่ที่ใช้เวลาพัฒนานานกว่า 1 ปี โดยประกอบด้วยเส้นใยยาวถึง 11 ไมล์ (ประมาณ 17 กิโลเมตร) ซึ่งถักทอเป็นลวดลายประณีตได้มากกว่า 2.2 ล้านจุด
ขุมพลัง V12
Rolls-Royce Ghost Series II ยังคงใช้เครื่องยนต์เบนซิน V12 ความจุ 6.75 ลิตร พร้อมเทอร์โบชาร์จเจอร์คู่ ให้พละกำลังสูงสุด 563 แรงม้า ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหลัง มอบสมรรถนะทรงพลังและนุ่มนวลทุกการขับขี่
รุ่นพิเศษ Black Badge Ghost Series II
สำหรับผู้ที่ต้องการความเร้าใจยิ่งขึ้น รุ่น Black Badge Ghost Series II ได้รับการอัปเกรดพละกำลังให้เพิ่มขึ้นเป็น 591 แรงม้า พร้อมการปรับการตอบสนองของเกียร์อัตโนมัติให้ฉับไวขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมการตกแต่งภายนอกสไตล์ Black Badge ที่โดดเด่นด้วยโครเมี่ยมรมดำและคาร์บอนไฟเบอร์ เพิ่มความดุดันและหรูหราในสไตล์ Rolls-Royce อย่างแท้จริง

