ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
10 อันดับรถ 5 ประตู ยี่ห้อ ไหน ดี ถึกทนทาน พร้อมจุสัมภาระได้ไม่อั้นในคันเดียว
รวม 10 อันดับรถ 5 ประตู ยี่ห้อ ไหน ดี ทั้งในกลุ่มรถตู้ และรถ 5 ประตูแต่ละแบบที่ไม่ใช่แค่สายประหยัด ยังมีสายลุย สายครอบครัว และสายท่องเที่ยวในคันเดียวง่ายๆ รับปี 2022
หากรถยนต์แบบ 5 ประตู หลายคนจะมองที่รถยนต์แบบ Hatchback เป็นหลัก เนื่องจากเปิดแบบ 5 ประตูตามแชสซีที่ออกแบบแตกต่างกันไปแต่ละรุ่น แต่รถ 5 ประตูก็ยังอยู่ในกลุ่มรถยนต์แบบ SUV, MPV, PPV ด้วยเหมือนกัน จึงกลายเป็นรถยนต์ที่เพิ่มเนื้อที่ใช้สอย ตอบโจทย์ความต้องการในเนื้อที่อเนกประสงค์ที่แตกต่างกันไป หากใครอยากได้พื้นที่ความจุเยอะๆ ไม่สนว่าจะใช้รถยนต์แบบไหน ขอจุคน จุสัมภาระเยอะๆ ไว้ก่อน จะใช้ MPV หากอยากได้แบบสปอร์ต ทรงดุ เร้าใจ แถมทรงพลังด้วยสมรรถนะ จะเลือกแบบ SUV และ PPV จะดีกว่า
10 อันดับรถ 5 ประตูยี่ห้อไหนดี เอาใจสายถึก จุของเต็มที่
ลักษณะของรถยนต์ในกลุ่มรถยนต์ 5 ประตูที่นิยมใช้นั้น จะต้องปรับเบาะได้ เก็บสัมภาระได้ตามที่ต้องการ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียสมดุล หากกำลังมองหารถคันใหม่ที่จะพาเด็กๆ ไปเที่ยว บางทีรถใหม่จะเรียกว่ารถห้าประตู ซึ่งต่างจากสี่ประตูที่จะเข้าและออก ประตูที่ห้าคือประตูท้ายรถ อย่างไรก็ตามเราไม่ได้แค่ต้องการแค่นี้อย่างเดียว เราอยากได้ความทรงพลังสำหรับการขับขี่เข้ามาด้วย ซึ่งในบทความนี้จะมาแนะนำว่ามีรถ 5 ประตูแบบไหนบ้าง เอาใจสายถึก กับจุใจสารพัดทั้งผู้โดยสารและสัมภาระ โดยจะขอแนะนำได้ดังนี้
• รถยนต์ Toyota Innova Crysta รุ่น 2.0 E MT ราคา 1,199,000 บาท
• รถยนต์ Suzuki Ertiga รุ่น GL ราคา 679,000 บาท
• รถยนต์ Honda BR-V รุ่น E AT ราคา 915,000 บาท
• รถยนต์ Toyota Corolla Cross รุ่น 1.8 Sport ราคา 989,000 บาท
• รถยนต์ DFSK Glory รุ่น i-Auto ราคา 899,000 บาท
• รถยนต์ Haval Jolion รุ่น Tech ราคา 879,000 บาท
• รถยนต์ MG VS HEV รุ่น D ราคา 859,000 บาท
• รถยนต์ Nissan Kicks รุ่น E ราคา 759,000 บาท
• รถยนต์ Peugeot 2008 ราคา 1,249,000 บาท
• รถยนต์ Subaru XV รุ่น 2.0i ราคา 1,159,000 บาท

Toyota Innova Crysta รุ่น 2.0 E MT
รถยนต์ Toyota Innova Crysta รุ่น 2.0 E MT
เปิดตัวแรกสำหรับ รถ แวน 5 ประตูอย่าง รถยนต์ Toyota Innova Crysta โดยเป็นรถแบบมินิแวน 7 ที่นั่งที่เป็นรถครอบครัวแบบ 5 ประตูที่ออกแบบทันสมัย มีความคุ้มค่าคุ้มราคากับที่จ่ายมากที่สุด Toyota Innova Crysta มีเครื่องยนต์เบนซิน 2694 cc. สามารถใช้ได้กับเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด การขับขี่ของ Innova Crysta ค่อนข้างนุ่มนวล แต่ปรับโหมดสปอร์ตได้ โดยมีระยะทาง 8.0 kmpl ขึ้นอยู่กับตัวแปรและประเภทเชื้อเพลิง Innova Crysta เป็นรถยนต์ 7 ที่นั่ง 4 สูบและมีความยาว 4735 มม. ความกว้าง 1830 มม. และระยะฐานล้อ 2750 มม. มีกำลังสูงสุด 172 แรงม้า ในรุ่น 2.0 E MT เป็นรุ่นเริ่มต้นที่ราคา 1,199,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม: ราคา Toyota Innova: ราคาและตารางผ่อน โตโยต้าอินโนวา 2565

Suzuki Ertiga รุ่น GL AT
รถยนต์ Suzuki Ertiga รุ่น GL AT
มาถึงรถครอบครัวของรถ ห้า ประตูบ้างสำหรับ Suzuki Ertiga โดยมีกำลังสูงสุด 105 แรงม้า มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1462 cc. ในขณะที่เครื่องยนต์ CNG ใช้รูปแบบความจุ 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ สามารถใช้ได้กับเกียร์ธรรมดาและอัตโนมัติ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรุ่นและประเภทเชื้อเพลิง Ertiga มีระยะทาง 20.3 กม./ลิตร ถึง 26.11 กม./กก. ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีงามมาก และตอบโจทย์ครอบครัว มาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยความปลอดภัย โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 679,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม: ราคา Suzuki Ertiga 2022: ราคาและตารางผ่อนซูซูกิ เออติก้า

Honda BR-V รุ่น E AT
รถยนต์ Honda BR-V รุ่น E AT
หากใครอยากได้ SUV ไม่ถึงล้านอย่าง Honda BR-V ซึ่งทำแบบ All New ที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง แต่คงความประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม กับระบบขับขี่แบบขับเคลื่อนสองล้อ มีความยาวตัวคันรถประมาณ 4,453-4,456 มม. มีความกว้าง 1,735 มม. และมีความสูง 1,666 มม. ทำให้สามารถขับขี่ไปได้ในที่ไกลๆ ได้ เครื่องยนต์เป็นเบนซิน 1.5 ลิตร แบบ 4 สูบ มีที่นั่ง 7 ที่นั่ง ให้ความรู้สึกหรูหราแต่ไม่ถึงล้าน ในส่วนรุ่น E AT เป็นรุ่นขายดีโดยตกอยู่ที่ราคา 915,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม: ราคา Honda BR-V 2022: ราคาและตารางผ่อน ฮอนด้า บีอาร์วี

Toyota Corolla Cross รุ่น 1.8 Sport
รถยนต์ Toyota Corolla Cross รุ่น 1.8 Sport
Toyota Corolla Cross เป็นอีกรุ่นสำหรับ toyota 5 ประตู ที่ตีตลาดในประเทศไทยพร้อมกับนวัตกรรมระบบไฮบริด Corolla Cross จะมาพร้อมกับเครื่องยนต์สี่สูบ 2.0 ลิตร 169 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติแบบแปรผันอย่างต่อเนื่อง ระบบขับเคลื่อนล้อหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน แต่ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อมีให้เลือกใช้ Toyota Corolla Cross มีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) และขับเคลื่อนสี่ล้อ (AWD) รุ่น 1.8 Sport ขายดีที่สุดโดยอยู่ที่ราคา 989,000 บาท

DFSK Glory i-Auto
รถยนต์ DFSK Glory i-Auto
DFSK Glory i-Auto ที่มีในประเทศไทย เป็นกลุ่ม 580 Pro ซึ่งให้เทคโนโลยีและลูกเล่นที่คุ้มค่าแก่การซื้อ มีเกียร์อัตโนมัติใช้ในเครื่องยนต์ขนาด 1498 cc. เบาะนั่งจำนวน 7 ที่นั่งที่สามารถปรับแบบยืดหยุ่นได้ 12 แบบสำหรับทั้งคนและสินค้า เบาะหนัง กล้องมองหลังพร้อมจอ 8 นิ้ว หลังคาซันรูฟ ถุงลม SR และประตูแบบไร้กุญแจที่ล้ำสมัย การกำหนดค่าอัตโนมัติ มีกำลังสูงสุด 150 แรงม้า ตามด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตรแบบ 4 สูบ ในประเทศไทยขายในราคา 899,000 บาท

Haval Jolion รุ่น Tech
รถยนต์ Haval Jolion รุ่น Tech
อีกค่ายที่เป็นรถจีนแต่ใช้รูปแบบไฮบริดอย่าง รถยนต์ Haval Jolion รุ่น Tech โดยเป็นรุ่นที่ตีตลาดในประเทศไทยต่อเนื่องนับตั้งแต่ตั้งโชว์รูมในประเทศไทยไม่กี่ปี Jolion ทุกรุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ที่พัฒนาแรงบิด 210 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอที่จะขับเคลื่อนการขับขี่ที่ชาญฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจับคู่กับกล่องคลัตช์คู่เจ็ดสปีด อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงนั้นมากกว่าที่ใช้ประมาณ 7.5 ลิตร/100 กม. มีกำลังสูงสุด 156 แรงม้า ราคา 879,000 บาท

MG VS HEV รุ่น D
รถยนต์ MG VS HEV รุ่น D
เป็นยนตรกรรมระดับไฮบริดที่แรงจริง ไม่หลอกดาว โดยใช้ความเร็วที่ต่ำกว่า 9 วินาที ซึ่งมีการทดสอบจริง ในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย NEW MG VS HEV ได้ยกระดับความสามารถในการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน VTi-TECH 4 สูบ สัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นด้วยกำลังสูงสุด 177 แรงม้า เพิ่มลูกเล่นมากมายให้ดึงดูดมากมาย และนำระบบไฟฟ้ามาใช้ในรุ่น HEV มากกว่าไฮบริดปกติ ในรุ่น D เป็นรุ่นขายดีที่สุดโดยอยู่ที่ราคา 859,000 บาท

Nissan Kicks รุ่น E
รถยนต์ Nissan Kicks รุ่น E
Nissan Kicks Turbo เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ทรงพลังที่สุดในบรรดารถเอสยูวี D-segment ในตลาดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เช่น Hyundai Creta และ Kia Seltos เทคโนโลยีการเคลือบกระบอกสูบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Nissan ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเจอร์ 1.3 ลิตรใหม่ของ Kicks Turbo ให้เป็นรถ SUV คันนี้พร้อมเสมอที่จะรับมือกับทุกภูมิประเทศและพร้อมเสมอที่จะตอบสนองความต้องการผจญภัย มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ มีกำลังสูงสุด 122 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแบบต่อเนื่อง (CVT) และระบบขับเคลื่อนล้อหน้าหรือสองล้อ เริ่มต้นที่ราคา 759,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม: ราคา Nissan Kicks 2022: ราคาและตารางผ่อน นิสสัน คิกส์

Peugeot 2008
รถยนต์ Peugeot 2008
อีกรุ่นในฐานะรถยุโรป แต่คุ้นเคยดีในชื่อ Peugeot 2008 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่ตีตลาดแบบ 5 ประตูได้ง่าย ความทรงพลัง ความพรีเมียมที่ครบครัน มีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบแถว 1.6 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า และแรงบิด 243 นิวตันเมตร ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ของ Peugeot 2008 จะส่งกำลังของเครื่องยนต์ไปยังล้อหน้า มีให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด หรือแบบธรรมดา 6 สปีด ตามขนาดเครื่องยนต์ แต่ Peugeot 2008 กลุ่มเกียร์อัตโนมัติจะขายดีกว่า โดยราคาเริ่มต้นที่ 1,249,000 บาท

Subaru XV รุ่น 2.0i
รถยนต์ Subaru XV รุ่น 2.0i
ปิดท้ายที่รถแบบ 5 ประตูเอาใจสายบู๊อย่าง Subaru XV ในประเทศไทยมีให้เลือก 3 รุ่นย่อย มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตรแบบ 4 สูบ ขนาด 1995 ซีซี ให้ขุมพลังเหมือน XV GT Edition และให้กำลัง 154 แรงม้า และแรงบิด 196 นิวตันเมตร เป็นรุ่น 5 ที่นั่งของ Subaru XV มาพร้อมกับ CVT เพิ่มความปลอดภัยโดยการให้เซ็นทรัลล็อคและล็อคประตูไฟฟ้า และเป็นรถ5ประตูนวัตกรรมที่น่าสนใจ ในรุ่น 2.0i เป็นรุ่นขายดีมาก โดยราคาเริ่มต้นที่ 1,159,000 บาท
เป็นยังไงบ้างสำหรับ 10 อันดับรถ 5 ประตู ยี่ห้อ ไหน ดีที่บรรดาคนอยากได้รถสักคันในชีวิตอาจจะเลือกเป็นความชอบ หรือเลือกเป็นวัตถุประสงค์ในการเลือกใช้เข้ามา ในประเทศไทยปฏิเสธได้จริงๆ ว่ารถยนต์กลุ่มรถ ห้า ประตูทั้งแบบรถยนต์ 5 ประตูปกติ และรถ แวน 5 ประตูเป็นรถที่ตีตลาดในประเทศไทยสูงที่สุดเป็นอันดับต้นๆ โดยมีสัดส่วนของยอดขายที่มากขึ้นถึง 65% จากผู้ซื้อทั้งหมด ในโชว์รูมจึงมุ่งเน้นตีตลาดในรถยนต์กลุ่มนี้ค่อนข้างมาก หากใครสนใจสามารถดูราคาเพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่บทความนี้อย่างเป็นทางการ https://rakarodthai.com/
10 อันดับ รถกระบะ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 รวมรุ่นฮิต 4 ประตู 2 ประตู
รถกระบะได้รับความนิยมโดยเฉพาะผู้ที่ต้องขนของหรือสัมภาระเป็นจำนวนมาก ทั้งเพื่อใช้ส่วนตัวและธุรกิจ เพราะมีพื้นที่ในการบรรจุสิ่งของกว้างขวาง อีกทั้งยังมีเครื่องยนต์ที่แรง ช่วยให้เดินทางไปตามที่ต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ในปัจจุบันรถกระบะมีการพัฒนามากขึ้น โดยพัฒนาให้มีความสะดวกสบายคล้ายกับรถเก๋ง รวมไปถึงห้องโดยสารที่กว้างขวางพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานในเมืองหรือไลฟ์สไตล์สมัยใหม่
ในบทความนี้ เราจะมารู้จักวิธีการเลือกรถกระบะให้มากยิ่งขึ้น โดยแบ่งตามระยะทางรวมไปถึงพื้นที่ในการใช้งานแบบคร่าว ๆ ทั้งระยะสั้นอย่างในเมืองที่ถนนมีความราบเรียบ และระยะไกลที่ต้องสมบุกสมบันอีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่มีอุปสรรคมากกว่า โดยมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์โดยเฉพาะ พร้อมกับ 10 รถกระบะที่น่าสนใจและเหมาะกับการใช้งานในแต่ละประเภทที่ได้นำเสนอไปเพื่อให้ตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
อัปเดตล่าสุดเมื่อ 29/09/2023รีวิวและการจัดลำดับสินค้าของเราเป็นไปอย่างอิสระ โดยไม่ได้รับอิทธิพลจากการสนับสนุนของแบรนด์หรือการจ่ายเงินเพื่อโปรโมตสินค้าแต่อย่างใด แต่หากคุณเลือกซื้อสินค้าผ่านลิงก์ของเรา ทางเว็บไซต์อาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อดังกล่าว นโยบายกองบรรณาธิการ
Top 5 รถกระบะ ยอดนิยม
1
ISUZU
รถกระบะ D-MAX Spark 1.9 Ddi B

กระบะกว้างขึ้น ออกตัวได้แรง แซงได้เร็ว มาพร้อมเบรก ABS
2
TOYOTA
รถกระบะ Hilux Revo Double Cab Z-Edition 2.4 MID AT

โครงรถแข็งแรง บรรทุกของได้มาก ภายในมีเครื่องเล่นระบบบลูทูธ
3
Ford
รถกระบะ Ranger StandardCab 2.2L XL 4X4 6MT

กระจกมองหลังแบบลดแสงสะท้อน ขับขี่ปลอดภัยในยามค่ำคืน
4
Nissan
รถกระบะ Nissan Navara DC CALIBRE E 7AT

ระบบเกียร์ออโต้ 7 จังหวะ เพิ่มเติมฝาท้ายกระบะแบบผ่อนแรง
5
Mitsubishi
รถกระบะ Mitsubishi Triton Single Cab

ขับได้อย่างนุ่มนวล มาพร้อมระบบกันสะเทือนและโช้คอัพขนาดใหญ่

Cars Specialist
คุณจุ๊บเป็นกองบรรณาธิการของเว็บไซต์ Autoworld Thailand แหล่งรวมข่าวสารและรีวิวรถยนต์ในประเทศไทย มีประสบการณ์ในวงการยานยนต์มายาวนานกว่า 10 ปี ทั้งการเขียนบทความทดสอบขับขี่จริง และรายงานข่าวอัปเดตเทรนด์ยานยนต์ นอกจากบทบาทในการสร้างสรรค์เนื้อหา ดูแลคุณภาพบทความ และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์แล้ว คุณจุ๊บยังเป็นผู้ดำเนินรายการในช่อง YouTube ของ Autoworld Thailand นำเสนอการรีวิวรถยนต์แต่ละรุ่นจากประสบการณ์ตรง โดยทดลองขับขี่จริงทั้งในเมืองและต่างจังหวัด เพื่อให้ข้อมูลที่แม่นยำและเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค ด้วยความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมยานยนต์ คุณจุ๊บจึงมีโอกาสร่วมงานทดสอบรถยนต์ใหม่ เปิดตัวรถยนต์รุ่นล่าสุด และเข้าร่วมอีเวนต์สำคัญของแบรนด์ชั้นนำ พร้อมอัปเดตความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยียานยนต์ ระบบความปลอดภัย และแนวโน้มตลาดอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้คุณจุ๊บมีข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาเรื่องรถยนต์ตั้งแต่การเลือกซื้อ ไปจนถึงประสบการณ์การใช้งานจริง รวมถึงการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของรถยนต์แต่ละรุ่น ช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์ได้อย่างมั่นใจประวัติของ ณัฐเทพ เผ่าจินดา (จุ๊บ)
…อ่านต่อ

มายเบสท์ เว็บไซต์แนะนำสินค้าที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 4 ล้านคนต่อเดือน หัวใจของภารกิจของเราคือ ความมุ่งมั่นที่จะให้คำแนะนำที่น่าเชื่อถือได้ เราได้รับการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญในหมวดหมู่สินค้าที่หลากหลาย การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ที่เรียบง่าย เพื่อสร้างแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาคำแนะนำผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือได้ และใช้งานได้จริง เราเข้าใจดีว่า การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคมีความต้องการที่แตกต่างกัน นั่นเป็นเหตุผลที่เราทุ่มเทในการนำเสนอคำแนะนำที่ชัดเจน กระชับ มีการวิจัยมาเป็นอย่างดี และตรวจสอบความถูกต้องโดยผู้เชี่ยวชาญ ทีมงานของเราประกอบด้วยบรรณาธิการและผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่ต่าง ๆ เจาะลึกลงไปในผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท นำเสนอข้อมูลเชิงลึก เราเชื่อในพลังของวิธีการเลือกสินค้าที่มีข้อมูลครบถ้วน เราเป็นมากกว่าเว็บไซต์ เราเป็นชุมชนของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นซึ่งให้ความสำคัญกับคุณภาพในการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ซึ่งจะช่วยทำให้โลกของการช้อปปิ้งออนไลน์เป็นประสบการณ์ที่ง่ายและสนุกสนานยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนประวัติของ กองบรรณาธิการ mybest
…อ่านต่อ
ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเฉพาะ "วิธีการเลือก" เท่านั้น สินค้าและบริการที่ปรากฏอยู่ในบทความไม่ได้ถูกเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญ
สารบัญ
- Why You Can Trust Us
- วิธีการเลือกรถกระบะ1เลือกรถกระบะตอนครึ่ง ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์ออโต้ หรือรถกระบะไฟฟ้า 4 ล้อ สำหรับการเดินทางในเมืองหรือระยะสั้น2เลือกรถกระบะตอนเดียว ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา และมี Eco Sticker สำหรับการเดินทางระยะไกลหรือพื้นที่มีอุปสรรคเยอะ3เลือกรถกระบะที่มีแรงม้า 150 ขึ้นไปที่มีความเร็ว 160 – 200 กม. / ชม.4เลือกรถกระบะที่มีแรงบิด 400 นิวตันเมตรขึ้นไป ตามน้ำหนักสัมภาระที่บรรทุก5เลือกรถกระบะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ปริมาณกระบอกสูบ 2,500 cc ขึ้นไป6เลือกรถกระบะที่มีเทคโนโลยีและความปลอดภัยตามการใช้งาน7ตรวจสอบช่วงล่างของรถกระบะ หากต้องการอัปเกรดเพิ่มเติม8ตรวจสอบภาษีตามประเภทของรถกระบะที่ใช้
- 10 อันดับ รถกระบะ ยี่ห้อไหนดี รวมรุ่นฮิต 4 ประตู 2 ประตูNo. 1ISUZU | รถกระบะ D-MAX Spark 1.9 Ddi BNo. 2TOYOTA | รถกระบะ Hilux Revo Double Cab Z-Edition 2.4 MID ATNo. 3Ford | รถกระบะ Ranger StandardCab 2.2L XL 4X4 6MTNo. 4Nissan | รถกระบะ Nissan Navara DC CALIBRE E 7ATNo. 5Mitsubishi | รถกระบะ Mitsubishi Triton Single Cabอื่น ๆ จำนวน 5 รายการ
- บทส่งท้าย
Why You Can Trust Us
มายเบสท์เป็นเว็บไซต์ที่มีการจัดทำฐานข้อมูลสินค้าที่มีการเพิ่มข้อมูลสินค้าเข้าไปมากกว่า 2,000 รายการในแต่ละเดือน ซึ่งในแต่ละบทความเราได้ใช้เวลาในการจัดทำเนื้อหาและทำการค้นคว้าข้อมูลมาอย่างละเอียด รวมทั้งสัมภาษณ์และตรวจสอบข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน เพื่อนำความรู้และข้อมูลเชิงลึกทั้งหมดนี้มาส่งมอบเป็นบทความที่ผู้อ่านสามารถเชื่อถือได้
วิธีการเลือกรถกระบะ
เราควรเลือกรถกระบะให้เหมาะกับการใช้งานเป็นหลัก โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การเดินทางในเมืองหรือระยะสั้นและการเดินทางระยะไกลหรือพื้นที่มีอุปสรรคเยอะ
1
เลือกรถกระบะตอนครึ่ง ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์ออโต้ หรือรถกระบะไฟฟ้า 4 ล้อ สำหรับการเดินทางในเมืองหรือระยะสั้น
สำหรับการเดินทางในเมืองหรือระยะสั้น ควรเลือกรถกระบะตอนครึ่ง ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์ออโต้หรือเลือกรถกระบะไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และคุณสมบัติเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า
เลือกรถกระบะตอนครึ่ง ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์ออโต้
หากเป็นการเดินทางในเมืองหรือระยะสั้นที่ใช้เวลาในการเดินทางไม่นานนัก เราควรเลือกรถกระบะตอนครึ่งซึ่งตัวถังจะมี 2 ประตูและมีพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างมากขึ้น ส่วนพื้นที่เก็บของท้ายรถถึงแม้จะลดลงแต่ยังสามารถบรรจุได้ในระดับที่เหมาะกับการเดินทางระยะสั้น นอกจากนี้แล้ว ข้อดีอีกอย่างหนึ่งของกระบะตอนครึ่งคือจ่ายภาษีที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับรถกระบะ 4 ประตู ส่วนระบบขับเคลื่อนควรเป็น 2 ล้อเพราะประหยัดน้ำมันมากกว่าและมีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาที่ถูกกว่า 4 ล้อมากถึง 10 – 20% ส่วนเกียร์ควรเป็นแบบออโต้ 5 – 10 จังหวะ เพราะแทบไม่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากนัก ทำให้เหนื่อยล้าจากการเดินทางน้อยกว่า และเหมาะกับผู้ที่ไม่มีสัมภาระหรือสัมภาระน้อย
เลือกรถกระบะไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และคุณสมบัติเหมือนรถยนต์ไฟฟ้า
นอกจากการเลือกรถกระบะตอนครึ่งที่ใช้เชื้อเพลิงน้ำมันแล้ว เรายังสามารถใช้รถกระบะไฟฟ้าได้เช่นกันหากเป็นการเดินทางในเมืองหรือระยะสั้น เพราะใช้เวลาชาร์จไม่นานแต่วิ่งได้ไกล ในปัจจุบันก็มีสถานีชาร์จให้ใช้มากขึ้น โดยเราควรเลือกรถกระบะไฟฟ้าที่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเพราะจะช่วยควบคุมการลื่นไถลได้ดีกว่า นอกจากนี้แล้ว เราควรตรวจสอบคุณสมบัติของรถกระบะไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยควรใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าทั่วไปที่มีกล้องมองภาพรอบคันและเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนทุกระบบได้ง่าย เป็นต้น
2
เลือกรถกระบะตอนเดียว ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา และมี Eco Sticker สำหรับการเดินทางระยะไกลหรือพื้นที่มีอุปสรรคเยอะ
สำหรับการเดินทางระยะไกลหรือพื้นที่มีอุปสรรคเยอะ ควรเลือกรถกระบะตอนเดียว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา และเลือกรถกระบะที่มี Eco Sticker หรืออัตราสิ้นเปลืองต่ำ
เลือกรถกระบะตอนเดียว ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์ธรรมดา
หากเป็นการเดินทางระยะไกลหรือใช้งานในพื้นที่ที่มีอุปสรรคเยอะ ไม่ว่าจะเป็นถนนลูกรัง ถนนที่เป็นหลุมบ่อ หรือมีโคลน พื้นที่ในการเดินทางไม่ราบลื่นมากนัก เราควรเลือกรถกระบะตอนเดียวที่ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะช่วยให้ความคล่องตัวในการขับขี่มากกว่า และเป็นระบบขับเคลื่อนที่ออกแบบมาเพื่อการเดินทางในพื้นที่ทุรกันดารที่ต้องใช้แรงหรือระบบของรถยนต์ในการเคลื่อนที่มากขึ้น อาจเป็น 5 – 6 จังหวะ ขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีหรือผู้ผลิตแต่ละเจ้า เพราะจะช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายกว่าเกียร์ออโต้และเหมาะกับรถกระบะที่ขนสัมภาระจำนวนมาก
เลือกรถกระบะที่มี Eco Sticker หรืออัตราสิ้นเปลืองต่ำ
แน่นอนว่าเมื่อเราใช้รถกระบะสำหรับการเดินทางไกลจะทำให้ต้องใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น ส่งผลให้เรามีค่าน้ำมันที่สูงขึ้น อีกทั้งประสิทธิภาพและระบบขับเคลื่อนของรถกระบะสำหรับเดินทางไกลมักสูงกว่ารถกระบะที่เหมาะกับการเดินทางระยะสั้น ทั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อหรือเกียร์ธรรมดาที่ต้องใช้ชิ้นส่วนหรือการเคลื่อนไหวที่มากกว่า เราจึงควรเลือกรถกระบะที่มี Eco Sticker หรือแผ่นป้ายที่บอกว่ารถคันนี้มีสมรรถนะอะไร มีส่วนประกอบอะไรบ้าง และมีราคาเท่าไหร่ เพื่อให้เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายรวมไปถึงพลังงานกับรุ่นอื่น ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งเราควรเลือกรถกระบะที่มีอัตราสิ้นเปลืองต่ำเพราะจะช่วยให้ประหยัดได้มากกว่า แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการขับขี่และการใช้งานของเราเป็นหลักด้วย
3
เลือกรถกระบะที่มีแรงม้า 150 ขึ้นไปที่มีความเร็ว 160 – 200 กม. / ชม.
ในเมืองไทยกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 150 แรงม้า ซึ่งสามารถทำความเร็วสูงสุดประมาณ 160 – 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง หากเราต้องการรถกระบะที่ไม่เน้นความเร็วหรือแรงมากนักอาจเลือกแรงม้าในระดับดังกล่าว แต่หากต้องการความแรงเป็นพิเศษหรือชื่นชอบการขับขี่รถกระบะเร็ว ควรเลือกรถกระบะที่มีแรงม้าสูงขึ้นอย่าง 180 – 200 แรงม้า หรือเลือกรถกระบะที่ทำความเร็วสูงสุดได้ 160 – 200 กิโลเมตร/ชั่วโมงเมื่อเดินทางระยะไกล เพราะมีการตอบสนองต่ออัตราเร่งที่รวดเร็วมากกว่า แต่ยิ่งมีแรงม้าสูงมากขึ้นเท่าไหร่ อัตราการสิ้นเปลืองพลังงานของรถกระบะนั้นก็สูงมากขึ้น ทำให้มีค่าใช้จ่ายน้ำมันเพิ่มมากขึ้น
4
เลือกรถกระบะที่มีแรงบิด 400 นิวตันเมตรขึ้นไป ตามน้ำหนักสัมภาระที่บรรทุก
เราควรเลือกรถกระบะที่มีแรงบิด 400 นิวตันเมตรขึ้นไป ซึ่งเป็นแรงบิดของรถกระบะส่วนใหญ่ที่ขายในตลาดประเทศไทย หรืออาจเลือกแบบ 500 นิวตันเมตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งรถกระบะที่มีการขนสัมภาระเป็นจำนวนมากและใช้เดินทางระยะไกล เพราะเมื่อรถกระบะมีแรงบิดสูงจะช่วยลดภาระของเครื่องยนต์ในการเคลื่อนน้ำหนักของทั้งตัวรถและน้ำหนักบรรทุกได้มากขึ้น ทำให้ลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มมากขึ้น
5
เลือกรถกระบะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ปริมาณกระบอกสูบ 2,500 cc ขึ้นไป
เราควรเลือกรถกระบะที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลเพราะโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีอายุการใช้งานที่ทนทานและยาวนานมากกว่าเครื่องยนต์เบนซิน หากเป็นการใช้บรรทุกสัมภาระจำนวนมากก็จะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้มากกว่าเพราะช่วยลดแรงเฉื่อยจากการบรรทุกได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในเมืองไทยอาจมีรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินและอาจโมดิฟายด์ให้มีแรงม้าและแรงบิดที่สูงกว่าและแน่นอนว่าทำให้มีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า หากไม่ได้ใช้งานหนักก็สามารถเลือกเครื่องยนต์ดีเซลปกติตามที่แนะนำไปข้างต้น นอกจากนี้ เราควรเลือกรถกระบะที่มีปริมาตรกระบอกสูบ 2,400 cc ขึ้นซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการใช้งานรถกระบะและเหมาะกับการใช้งานเดินทางระยะไกลด้วย
6
เลือกรถกระบะที่มีเทคโนโลยีและความปลอดภัยตามการใช้งาน
รถกระบะในปัจจุบันมีเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยให้ใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภายในห้องโดยสารที่รองรับการชาร์จ ปรับที่นั่งแบบไฟฟ้า รวมไปถึงระบบการขับขี่ทั้งโหมดการขับ ระบบเบรกมือ ชุดมาตรวัด กุญแจ Smart Keyless การสตาร์ทเครื่องยนต์โดยการกดปุ่ม ระบบเบรกป้องกันล็อกล้อ แรงกระจายเบรก การป้องกันล้อหมุนฟรี การออกตัว การควบคุมความเร็ว การเบรกอัตโนมัติ รวมไปถึงเซนเซอร์ต่าง ๆ โดยเราควรเลือกรถกระบะที่มีเทคโนโลยีและความปลอดภัยดังกล่าวจากการใช้งานของเราเป็นหลักหรือในส่วนที่ไม่ถนัดเป็นหลัก เช่น กล้องมองภาพรอบคันและระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติสำหรับผู้ที่ใช้งานขับขี่ในเมืองหรือพื้นที่แคบบ่อย ๆ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เราควรให้ความสำคัญกับระบบความปลอดภัยเป็นหลักเพื่อให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและลดอุบัติเหตุได้มากขึ้น
7
ตรวจสอบช่วงล่างของรถกระบะ หากต้องการอัปเกรดเพิ่มเติม
ระบบช่วงล่างของรถกระบะมีเพียงแบบเดียว คือ ด้านหน้าที่เป็นแบบอิสระและด้านหลังเป็นคานแข็งพร้อมแหนบ ส่วนโช้คอัพและสปริงของรถกระบะจะเหมือนกับรถยนต์ทั่วไปที่ช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังรองรับได้นุ่มและหนีบขึ้น ผู้ใช้บางรายอาจต้องการอัปเกรดช่วงล่างของรถกระบะเพื่อให้มีประสิทธิภาพและสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามการอัปเกรดเหล่านี้อาจทำให้หลุดเงื่อนไขการรับประกันจากบริษัทผู้ผลิต ดังนั้น เราควรตรวจสอบเงื่อนไขและการรับประกันให้ดีก่อนตัดสินใจอัปเกรดเพิ่มเติม
8
ตรวจสอบภาษีตามประเภทของรถกระบะที่ใช้
เมื่อเราซื้อรถยนต์แล้วสิ่งที่ตามมาคือภาษีที่แตกต่างกันออกไป โดยรถกระบะแบ่งอัตราการเสียภาษีจากป้ายทะเบียน ขนาดของตัวถัง และจำนวนที่นั่งผู้โดยสาร ซึ่งรถกระบะตอนเดียวมีอัตราการเสียภาษีที่ต่ำสุด ในขณะที่รถกระบะ 4 ประตูเสียอัตราภาษีแพงกว่าประมาณ 20 – 30% ยกตัวอย่าง รถกระบะ 4 ประตูจดทะเบียนและคิดภาษีประจำปีแบบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีดำ ซึ่งจะคิดเป็นช่วงอัตราก้าวหน้าแบบขั้นบันได ดังนี้
- 600 cc แรก คิดอัตรา 0.50 บาท/cc
- 600 – 1,800 cc คิดอัตรา 1.50 บาท/cc
- 1,800 cc ขึ้นไป คิดอัตรา 4 บาท/cc
ส่วนรถกระบะ 2 ประตูที่จดทะเบียนเป็นรถบรรทุกส่วนบุคคล หรือป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีเขียว จะคิดภาษีประจำปีตามน้ำหนักรถ ดังต่อไปนี้
- น้ำหนัก 0-500 กิโลกรัม ภาษี 300 บาท
- น้ำหนัก 501-750 กิโลกรัม ภาษี 450 บาท
- น้ำหนัก 751-1,000 กิโลกรัม ภาษี 600 บาท
- น้ำหนัก 1,001-1,250 กิโลกรัม ภาษี 750 บาท
- น้ำหนัก 1,251-1,500 กิโลกรัม ภาษี 900 บาท
- น้ำหนัก 1,501-1,750 กิโลกรัม ภาษี 1,050 บาท
- น้ำหนัก 1,751-2,000 กิโลกรัม ภาษี 1,350 บาท
- น้ำหนัก 2,001-2,500 กิโลกรัม ภาษี 1,650 บาท
- น้ำหนัก 2,501-3,000 กิโลกรัม ภาษี 1,950 บาท
- น้ำหนัก 3,001-3,500 กิโลกรัม ภาษี 2,250 บาท
- น้ำหนัก 3,501-4,000 กิโลกรัม ภาษี 2,550 บาท
- น้ำหนัก 4,001-4,500 กิโลกรัม ภาษี 2,850 บาท
- น้ำหนัก 4,501-5,000 กิโลกรัม ภาษี 3,150 บาท
- น้ำหนัก 5,001-6,000 กิโลกรัม ภาษี 3,450 บาท
- น้ำหนัก 6,001-7,000 กิโลกรัม ภาษี 3,750 บาท
อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียภาษีอาจเปลี่ยนแปลงจากระยะเวลาการใช้งานด้วย ดังนั้น นอกจากคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลักแล้ว อาจต้องคำนึงถึงภาษีที่เราต้องจ่ายในแต่ละปีด้วยเพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด
วิธีการเลือกใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?ใช้ได้ใช้ไม่ได้
10 อันดับ รถกระบะ ยี่ห้อไหนดี รวมรุ่นฮิต 4 ประตู 2 ประตู
รถกระบะรุ่นไหนที่น่าสนใจ ทั้งยังเหมาะกับการเดินทางหรือการใช้งานของเรา 10 อันดับ รถกระบะ ตามรายการด้านล่างนี้จะช่วยให้เราเลือกได้ง่ายมากขึ้น
เรียงจากความนิยม
| สินค้า | รูปภาพ | ราคาต่ำสุด | จุดเด่น | |
|---|---|---|---|---|
| 1 | ISUZUรถกระบะ D-MAX Spark 1.9 Ddi B | ![]() | ISUZUISUZU AUTO CENTER | กระบะกว้างขึ้น ออกตัวได้แรง แซงได้เร็ว มาพร้อมเบรก ABS |
| 2 | TOYOTAรถกระบะ Hilux Revo Double Cab Z-Edition 2.4 MID AT | ![]() | TOYOTA | โครงรถแข็งแรง บรรทุกของได้มาก ภายในมีเครื่องเล่นระบบบลูทูธ |
| 3 | Fordรถกระบะ Ranger StandardCab 2.2L XL 4X4 6MT | ![]() | FORD | กระจกมองหลังแบบลดแสงสะท้อน ขับขี่ปลอดภัยในยามค่ำคืน |
| 4 | Nissanรถกระบะ Nissan Navara DC CALIBRE E 7AT | ![]() | NISSAN | ระบบเกียร์ออโต้ 7 จังหวะ เพิ่มเติมฝาท้ายกระบะแบบผ่อนแรง |
| 5 | Mitsubishiรถกระบะ Mitsubishi Triton Single Cab | ![]() | MITSUBISHI | ขับได้อย่างนุ่มนวล มาพร้อมระบบกันสะเทือนและโช้คอัพขนาดใหญ่ |
| 6 | Mazdaรถกระบะ Mazda BT-50 Double Cab | ![]() | MAZDA | ขับขี่ได้ทุกสภาพผิว บรรทุกของได้จุใจ มาพร้อมระบบความปลอดภัย |
| 7 | MGรถกระบะ NEW MG EXTENDER GIANT CAB 2.0 GRAND D 6MT | ![]() | MG | กระจังหน้า 8 เหลี่ยม มาพร้อมการติดตั้งระบบต่าง ๆ ที่ทันสมัย |
| 8 | Fotonรถกระบะ Foton Tunland | ![]() | FOTON | ประหยัดน้ำมัน มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตอบโจทย์ความคุ้มค่า |
| 9 | TATAรถกระบะ TATA Xenon | ![]() | TATA | โครงรถแข็งแรง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยึดเกาะถนนได้ดี ลุยได้ในทุกพื้นที่ |
| 10 | Chevroletรถกระบะ Chevrolet Colorado ZR2 3.6L V6 Engine | ![]() | CHEVROLET | ดีไซน์ดุดัน มีชุดกันกระแทกรอบรถ เหมาะสำหรับวิ่งระยะทางไกล |
หากไม่พบผลิตภัณฑ์ที่กำลังมองหา สามารถส่งคำร้องขอเพิ่มในรายการได้
No.1
ISUZUรถกระบะ D-MAX Spark 1.9 Ddi B

อ้างอิง:isuzu-tis.com
ราคาอ้างอิง
554,000 บาท
ราคาต่ำ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ISUZU
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ISUZU AUTO CENTER
กระบะกว้างขึ้น ออกตัวได้แรง แซงได้เร็ว มาพร้อมเบรก ABS
รถกระบะรุ่นยอดนิยมของเกษตรกรและพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลาย มีการออกแบบขนาดของท้ายกระบะให้มีขนาดใหญ่ขึ้นบรรทุกของได้ปริมาณที่เยอะขึ้น อีกทั้งยังใช้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงไร้ปัญหาการหน่วงขณะออกตัว รวมถึงสามารถแซงได้เร็วยิ่งขึ้น ภายในรถกว้างขวางสามารถปรับเบาะได้เพื่อลดความเมื่อยล้าขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยด้วยระบบป้องกันล้อล็อก ระบบกระจายแรงเบรก และระบบเสริมแรงเบรกมาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้าช่วยลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้
การจัดอันดับสินค้าใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้หรือไม่ ?ใช้ได้ใช้ไม่ได้
No.2
TOYOTAรถกระบะ Hilux Revo Double Cab Z-Edition 2.4 MID AT

อ้างอิง:toyota.co.th
ราคาอ้างอิง
803,000 บาท
ราคาปานกลาง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ TOYOTA
โครงรถแข็งแรง บรรทุกของได้มาก ภายในมีเครื่องเล่นระบบบลูทูธ
สำหรับแบรนด์ Toyota เป็นบริษัทรถญี่ปุ่นที่มีการผลิตรถออกมาหลากหลายประเภทและเป็นที่นิยมอย่างมาก ด้วยความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดี จึงทำให้รถกระบะก็มียอดขายที่สูงมากเช่นเดียวกัน สำหรับรุ่น Hilux Revo ภายนอกออกแบบให้มีลักษณะที่แข็งแรง คงทนและทรงพลังด้วยกระจังหน้าสีดำ และภายในประกอบไปด้วย จอภาพทัชกรีนขนาด 8 นิ้ว เครื่องเล่นที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบบลูทูธได้พร้อมปลั๊กไฟ 12 โวลต์ 2 ตำแหน่ง เป็นต้น
No.3
Fordรถกระบะ Ranger StandardCab 2.2L XL 4X4 6MT

อ้างอิง:ford.co.th
ราคาอ้างอิง
652,000 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ
กระจกมองหลังแบบลดแสงสะท้อน ขับขี่ปลอดภัยในยามค่ำคืน
รถกระบะตอนเดียวที่ออกแบบกระจังหน้าให้มีสีดำ มาพร้อมกับไฟหน้าแบบมัลติรีเฟลกเตอร์ ภายในมีกระจกมองหลังแบบลดแสงสะท้อน ช่วยให้ขับรถในช่วงกลางคืนได้ดียิ่งขึ้น ส่วนระบบการขับเคลื่อนเป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อและระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องบรรทุกของที่มีน้ำหนักมาก ๆ เช่น ผลผลิตทางการเกษตร อุปกรณ์เครื่องจักร เป็นต้น อีกทั้งระบบการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อยังช่วยให้ควบคุมทิศทางและเกาะพื้นผิวถนนได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย
No.4
Nissanรถกระบะ Nissan Navara DC CALIBRE E 7AT

อ้างอิง:nissan.co.th
ราคาอ้างอิง
899,000 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ NISSAN
ระบบเกียร์ออโต้ 7 จังหวะ เพิ่มเติมฝาท้ายกระบะแบบผ่อนแรง
รถกระบะเกียร์ออโต้ 7 จังหวะมีการออกแบบภายนอกให้ประกอบไปด้วย กล้องด้านหลัง กล้องมองรอบคัน ฝาท้ายกระบะแบบผ่อนแรงที่ช่วยให้ผู้หญิงสามารถเปิดได้สะดวกไม่ต้องออกแรงในการยกมากนัก ส่วนกระจกมองข้างเป็นแบบตัดแสงอัตโนมัติในเวลากลางคืน จึงมองได้สบายตายิ่งขึ้นเมื่อขับรถในตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งมาให้อย่างจุใจเช่น ระบบช่วยในการขับบนทางลาดชัน ป้องกันล้อหมุนฟรีขณะออกตัว ระบบเบรก ABS เป็นต้น
No.5
Mitsubishiรถกระบะ Mitsubishi Triton Single Cab

อ้างอิง:mitsubishi-motors.co.th
ราคาอ้างอิง
659,000 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ MITSUBISHI
ขับได้อย่างนุ่มนวล มาพร้อมระบบกันสะเทือนและโช้คอัพขนาดใหญ่
รุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยมของรถกระบะ Mitsubishi ที่มียอดขายสูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานแบบลุยได้ทุกสภาพเส้นทาง เนื่องจากมีระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแบบปีกนก 2 ชั้นและระบบกันสะเทือนหลังพร้อมโช้คอัพไขว้ขนาดใหญ่ ทำให้การขับขี่มีความนุ่มนวลและยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี นอกจากระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันแล้ว ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยเชิงแก้ไขอีกด้วย โดยใช้คานเหล็กกันกระแทกบริเวณด้านข้างประตูทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงและลดแรงกระแทกมาสู่ห้องโดยสารกรณีที่เกิดการชนจากด้านข้าง
No.6
Mazdaรถกระบะ Mazda BT-50 Double Cab

อ้างอิง:mazda.co.th
ราคาอ้างอิง
936,000 บาท
ราคาค่อนข้างสูง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ MAZDA
ขับขี่ได้ทุกสภาพผิว บรรทุกของได้จุใจ มาพร้อมระบบความปลอดภัย
สำหรับ Mazda BT-50 มีความคล้ายคลึงกับรถกระบะ Isuzu D-Max แต่มีสิ่งที่แตกต่างกันนั่นก็คือ แผงหน้าปัดภายในรถ รูปทรงของชุดไฟหน้าและชุดไฟท้ายที่ดูดีสวยงาม พร้อมระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา อีกทั้งยังมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA และระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS นอกจากนี้การออกแบบช่วงล่างยังทำมาได้ดีทำให้การขับขี่บนพื้นผิวขรุขระให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลกว่ารถกระบะทั่ว ๆ ไป
No.7
MGรถกระบะ NEW MG EXTENDER GIANT CAB 2.0 GRAND D 6MT

อ้างอิง:mgcars.com
ราคาอ้างอิง
669,000 บาท
ราคาค่อนข้างต่ำ
กระจังหน้า 8 เหลี่ยม มาพร้อมการติดตั้งระบบต่าง ๆ ที่ทันสมัย
NEW MG EXTENDER ได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าตาภายนอกของรถกระบะ แต่ภายในยังคงเป็นระบบเดิมอยู่ โดยการออกแบบกระจังหน้าขนาดใหญ่รูปร่าง 8 เหลี่ยมและติดชุดตกแต่งท้ายกระบะ อีกทั้งยังมีระบบแจ้งเตือนลมยางอัตโนมัติ ระบบกันสั่นสะเทือน พร้อมติดตั้งระบบความปลอดภัยในการขับขี่ด้วยระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ EBA นอกจากนี้ยังมีกล้องมองหลังช่วยส่งเสียงเตือนระยะถอยหลังทำให้การจอดรถเป็นเรื่องง่ายดายอีกด้วย
No.8
Fotonรถกระบะ Foton Tunland

อ้างอิง:fotonmotor.co.th
ราคาอ้างอิง
826,200 บาท
ราคาปานกลาง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ FOTON
ประหยัดน้ำมัน มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ตอบโจทย์ความคุ้มค่า
รถโฟตอน แบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนมีการออกแบบรถให้มีหน้าตาที่ทันสมัยไม่แพ้แบรนด์รถชั้นนำอื่น ๆ เครื่องยนต์สมรรถนะสูง อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมันอีกด้วย มาพร้อมระบบความปลอดภัยระบบเบรกและถุงลมนิรภัย ระบบเกียร์ยังคงเป็นระบบเกียร์แบบธรรมดา 5 จังหวะ จุดเด่นของรุ่นนี้คือสามารถขับเคลื่อน 4 ล้อได้ ในราคาที่ถูกกว่ายี่ห้ออื่น แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องการออกแบบตำแหน่งของคลัตช์ที่อยู่ในตำแหน่งค่อนข้างสูง ส่งผลให้ผู้ขับขี่รู้สึกเมื่อยขาและยังติดเรื่องความแข็งของการเข้าเกียร์ที่ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก
No.9
TATAรถกระบะ TATA Xenon

อ้างอิง:tatamotors.co.th
ราคาอ้างอิง
734,900 บาท
ราคาปานกลาง
โครงรถแข็งแรง ขับเคลื่อน 4 ล้อ ยึดเกาะถนนได้ดี ลุยได้ในทุกพื้นที่
รถกระบะสัญชาติอินเดียที่ขึ้นชื่อเรื่องความอึดทนทาน เป็นการขับเคลื่อน 4 ล้อจึงช่วยให้ยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมระบบความปลอดภัยด้วยระบบเบรก ABS และ EBD เหมาะกับการขับขี่ในทุก ๆ สภาพพื้นผิวของถนน อีกทั้งภายในยังมีการติดตั้งระบบนำทางอัจฉริยะเพื่อช่วยในการนำทางให้ผู้ขับขี่เดินทางได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับบรรทุกของหนักได้อย่างเต็มที่ แต่ยังมีข้อจำกัดเรื่องของเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในรถรุ่นนี้ ยังพบเจอได้น้อยเมื่อเทียบกับกระบะยี่ห้ออื่นในราคาที่ใกล้เคียงกัน
No.10
Chevroletรถกระบะ Chevrolet Colorado ZR2 3.6L V6 Engine

อ้างอิง:chevrolet.com
ราคาอ้างอิง
1,361,696 บาท
ราคาสูง
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ CHEVROLET
ดีไซน์ดุดัน มีชุดกันกระแทกรอบรถ เหมาะสำหรับวิ่งระยะทางไกล
Chevrolet Colorado ได้ออกมาจำหน่ายหลายรุ่นและเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก จึงมีการผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับรุ่นนี้มีการพัฒนาด้านการออกแบบให้มีความดุดันและโดนเด่นมากกว่ารุ่นอื่น ๆ และมีชุดกันกระแทกด้านข้างพร้อมแผ่นกันกระแทกตามจุดต่าง ๆ รอบรถ อีกทั้งยังใช้เครื่องยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสามารถวิ่งในระยะทางไกลได้ พร้อมลุยไปได้ทุกพื้นที่แม้ว่าจะเป็นทางขรุขระหรือลาดชันและมีพื้นที่กระบะกว้างขวางที่ใช้บรรทุกของหนักได้อย่างจุใจอีกด้วย
บทส่งท้าย
แม้ว่าเราจะเลือกรถกระบะที่เหมาะกับการใช้งานได้แล้ว เราควรหมั่นดูแลรักษารถกระบะอยู่เสมอโดยการปฏิบัติตาขั้นตอนหรือคู่มือ รวมไปถึงการเช็กสภาพรถยนต์เป็นประจำ นอกจากนี้ เราควรขับขี่และปฏิบัติตามกฎจราจร ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่และการบรรทุกสิ่งของสัมภาระ เพราะนอกจากจะช่วยให้ความปลอดภัยได้มากกว่าแล้ว ยังช่วยรักษาสภาพของรถยนต์และเครื่องยนต์ได้มากกว่า
TOP 5 รถกระบะ แนะนำ
อันดับที่ 1: ISUZU|รถกระบะ D-MAX Spark 1.9 Ddi B
อันดับที่ 2: TOYOTA| รถกระบะ Hilux Revo Double Cab Z-Edition 2.4 MID AT
อันดับที่ 3: Ford |รถกระบะ Ranger StandardCab 2.2L XL 4X4 6MT
อันดับที่ 4: Nissan|รถกระบะ Nissan Navara DC CALIBRE E 7AT
อันดับที่ 5: Mitsubishi|รถกระบะ Mitsubishi Triton Single Cab






