ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
อัปเดตรถยนต์เปิดตัวใหม่ ปี 2025
![]()
โดย Sunuttinee Phumbanyen
โพสต์เมื่อ 23 January 2568
เช็คลิสต์ รถเปิดตัวใหม่ ปี 2025 โดยเลดี้ของแยกระหว่าง รถยนต์สันดาป ไฮบริด และก็ปลั๊กอินไฮบริด กันก่อน จะมีรถจากค่ายไหน รุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง… ไปติดตามกันค๊าา
อัปเดตรถยนต์เปิดตัวใหม่ ปี 2025
อุตสาหกรรมยานยนต์ในบ้านเรายังคงคึกคักอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา สำหรับในปี 2025 นี้ เรามาต่อกันเลยตั้งแต่ต้นปีว่าจะมีรถยนต์แบรนด์ไหน รุ่นไหน ที่กำลังเปิดตัวใหม่บ้าง เดี๋ยววันนี้เลดี้จะพาชมรายละเอียดคร่าวๆ โดยขอเริ่มจาก รถยนต์สันดาป ไฮบริด และก็ปลั๊กอินไฮบริด กันก่อน ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า 100% เดี๋ยวเราไปต่อกันอีกพาร์ทนึง ถ้าพร้อมแล้ว… เริ่มได้!!
Toyota Yaris Ativ HEV

ปฏิเสธไม่ได้ว่า Toyota ยังคงครองตลาด ซื้อ-ขาย รถยนต์ในบ้านเราอยู่ สังเกตจากยอดขายในงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา ต่อเนื่องด้วยข่าวที่แว่วๆ มาว่าพี่โตของเรามีแผนที่จะเปิดตัวรถใหม่ ซึ่งก็คือ Toyota Yaris Ativ HEV ตามนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Toyota Multi – Pathway โดยที่มีโครงสร้างการพัฒนารหัส D54B ซึ่งจะใช้ขุมพลังเบนซิน 1.5 ลิตร แบบดียวกับที่ติดตั้งใน Toyota Yaris Cross สเปคคร่าวๆ ที่คาดการณ์ สามารถผลิตพละกำลังจากเครื่องยนต์ 89 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,000 – 4,8000 รอบต่อนาที พละกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 79 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี Lithium-ion ระบบขับเคลื่อน 2WD และมีโหมดการขับขี่ให้เลือก 3 โหมด ได้แก่ ECO / Normal / Sport
มองภาพโดยรวมแล้วถือว่า Toyota Yaris Ativ HEV ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการความประหยัดน้ำมัน ความคล่องแคล่ว และมาพร้อมฟีเจอร์ฟังก์ชันที่ครบครันในราคาจับต้องได้ ที่สำคัญการบริการหลังการขายรวมถึงอะไหล่ต่างๆ ก็หาง่ายราคาไม่แรง
ราคาจำหน่าย Toyota Yaris Ativ HEV ที่คาดการณ์ : –
MG HS / PHEV

เป็นรถยนต์ที่ขายดีอีกหนึ่งรุ่นสำหรับ MG HS และเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มียอดขายแข็งแกร่งที่สุดในปี 2566 ที่ผ่านมา แน่นอนว่าขายดีแบบนี้ โมเดลใหม่ต้องมีออกมาอย่างต่อเนื่องตามคาด ซึ่ง MG HS เจเนอเรชันใหม่ ปี 2025 มีการปรับโฉมใหม่ที่ดูสวยและพรีเมียมขึ้นเยอะเลยค่ะ มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 2 แบบ ได้แก่ เบนซิน และปลั๊กอินไฮบริด นอกจากนี้ยังมอบคุณสมบัติใหม่ๆ มากมาย มีพื้นที่ห้องโดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิม อีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานอุปกรณ์และฟังก์ชันต่างๆ จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นเยอะเลย
มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบปลั๊กอินไฮบริด ทำงานร่วมกันกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร 105 กิโลวัตต์ (142 แรงม้า) และมอเตอร์ไฟฟ้า 154 กิโลวัตต์ ใช้พลังงานงานแบตเตอรี่ขนาด 24.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงขนาด 67 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถขับขี่ด้วยโหมดไฟฟ้าได้ระยะทาง 120 กิโลเมตร และสามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ด้วยเวลา 6.8 วินาที นั่นหมายความว่า MG HS เจเนอเรชันใหม่นี้เพิ่มความน่าประทับใจมากกว่าบรรดาคู่แข่ง ทั้งในเรื่องของอัตราเร่ง รวมถึงการเดินทางระยะที่ไกลขึ้นโดยปราศจากการปล่อยไอเสียจากท่อไอเสีย
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ที่ให้กำลัง 125 กิโลวัตต์ (169 แรงม้า) แรงบิด 275 นิวตันเมตร ทำงานควบคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ DCT 7 สปีด สามารถทำความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ด้วยเวลา 9.4 วินาที
ราคาจำหน่าย MG HS / PHEV ที่คาดการณ์ : 1,170,515 – 1,591,985 บาท
Mazda CX-50 Hybrid

Mazda CX-50 Hybrid 2025 เป็นการอัพเกรดโครงสร้างมาจาก CX-50 รุ่นพื้นฐาน โดยได้มีการปรับเปลี่ยนหน้าจอแสดงผลอินโฟเทนเมนต์จากเดิมขนาด 8.8 นิ้ว เพิ่มเป็น 10.3 นิ้ว ติดตั้งระบบสั่งการด้วยเสียง Alexa ของ Amazon เป็นระบบมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย นอกจากนี้ยังได้อัพเกรดเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่อีกหลายอย่าง อาทิ ระบบแจ้งเตือนเบาะหลังใหม่ ระบบตรวจจับคนเดินถนนที่ทำงานในเวลากลางคืนได้ดีขึ้น และแท่นชาร์จสมาร์ทโฟนไร้สายเป็นระบบมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย
Mazda CX-50 Hybrid 2025 ทุกรุ่น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 4 สูบ ระบบขับเคลื่อนแบบไดนามิกผสานกับประสิทธิภาพไฮบริด ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าและชุดแบตเตอรี่ ระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันอิเล็กทรอนิกส์ (e-CVT) และระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ e-AWD ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถมอบประสิทธิภาพการขับขี่ที่สนุกตามแบบฉบับของ Mazda แต่ยังคงให้ความสะดวกสบายในทุกๆ การขับขี่
ราคาจำหน่าย Mazda CX-50 Hybrid ที่คาดการณ์ : เริ่มต้น 1,185,553 บาท
JAECOO 7 PHEV

JAECOO 7 PHEV เป็นรถยนต์ไฮบริดขนาดกลาง พิกัด B-SUV มาในรูปแบบตัวถังของรถที่สามารถออกไปลุยในเส้นทางใหม่ๆ โดยมีโจทย์ในการสร้างขึ้นมาว่าจะต้องลุยไปได้ไกลมากกว่า JAECOO 6 รถยนต์ไฟฟ้าทรงกล่องสายลุยที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่งในประเทศไทย สามารถเดินทางไปได้ไกลกว่าด้วยขุมพลังจากระบบไฟฟ้า และระบบไฮบริด ถึง 1,200 กิโลเมตร เมื่อพลังงานจากทั้งน้ำมันและไฟฟ้าเต็มระบบ การออกแบบของ JAECOO 7 PHEV มีขนาดตัวรถใหญ่กว่า JAECOO 6 EV เล็กน้อย แต่รูปทรงของตัวรถจะออกแบบมาลู่ลมมากกว่า
JAECOO 7 PHEV มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ ติดตั้งมอเตอร์หนึ่งตัว ให้พละกำลังสูงสุด 346 แรงม้า มีแรงบิด 525 นิวตันเมตร ระบบขบเคลื่อ 2WD สามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำงานควบคู่กับแบตเตอรี LFP ขนาด 18.3 kWh. ใช้เทคโนโลยีแรงดันไฟฟ้า 400V ขับขี่ในโหมดไฟฟ้าล้วนได้ 88 กิโลเมตร/การชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP มีระบบความปลอดภัยและสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน อาทิ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ระดับ L 2.5, Adaptive Cruise Control, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบเตือนการชนด้านหลัง, กล้องรอบคัน และเซ็นเซอร์เตือนการชนรอบคัน
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันจากนักทดสอบ 7 ประเทศ เฉลี่ยได้ที่ 20.4 กม./ลิตร และสามารถขับได้ไกลมากกว่า 1,300 กิโลเมตร
ราคาจำหน่าย JAECOO 7 PHEV ที่คาดการณ์ : –
GWM POER Sahar HEV

รถกระบะพลังงานไฮบริดคันแรกในประเทศไทย เน้นความสะดวกสบาย ระยะฐานล้อที่ยาวที่สุดในเซกเมนต์ ความล้ำสมัยของเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นในทุกสภาพถนน มีมิติตัวถังยาว 5,445 มิลลิเมตร กว้าง 1,991 มิลลิเมตร สูง 1,924 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,350 มิลลิเมตร และมีระยะความสูงใต้ท้องรถ 224 มิลลิเมตร
GWM POER SAHAR HEV มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร เครื่องยนต์เบนซินพร้อมระบบเทอร์โบแปรผันที่มอบพละกำลังสูงสุด 180 กิโลวัตต์ หรือ 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร ผสานขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่มอบพละกำลังสูงสุด 78 กิโลวัตต์ หรือ 106 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 268 นิวตันเมตร นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ Direct Injection และปริมาตรกระบอกสูบที่ให้ความจุมาถึง 1,998 ซีซี มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่
- รุ่น 2.0T HEV PRO DOUBLE CAB AUTO มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต และโหมดประหยัด
- รุ่น 2.0T HEV ULTRA DOUBLE CAB AUTO 4WD ที่มาพร้อมกับโหมดการขับขี่ที่มีให้เลือกถึง 5 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดประหยัด โหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วต่ำ (4L) และโหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดความเร็วสูง (4H)
ราคาจำหน่าย GWM POER SAHAR HEV อย่างเป็นทางการ : 1,189,000 – 1,389,000 บาท
อัปเดตข่าวรถยนต์ ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ไปกับ Autospinn.com
ซื้อขายรถมือสอง ทุกรุ่น ทุกแบบ ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน ดูรายละเอียด และราคารถมือสองได้ที่ ตลาดรถ One2car
10 รถยนต์ทนทานแห่งปี 2019 ที่ใช้แล้วพังยากสุด รถญี่ปุ่นชนะขาดลอย จัดอันดับจากอเมริกา
ตลาดรถยนต์ต่างประเทศ | 15 มิ.ย 2562
แชร์ 22
10 รถยนต์ทนทานแห่งปี 2019 มีความน่าไว้ใจได้ ที่คนซื้อมาใช้แล้วพังยาก จัดอันดับโดย Consumer Reports จากอเมริกา ผลปรากฎว่ารถญี่ปุ่นติดอันดับเยอะตามความคาดหมาย และมีรุ่นเซอร์ไพรซ์มาติดอันดับกับเขาด้วย จะมีอะไรบ้างไปดูกัน

10 รถยนต์ทนทานแห่งปี 2019 ที่ใช้แล้วพังยากสุด รถญี่ปุ่นชนะขาดลอย จัดอันดับจากอเมริกา
Consumer Reports เป็นหน่วยงานอิสระในอเมริกา ที่สำรวจความพึงพอใจต่อผลิตภัณฑ์หลายชนิด หนึ่งในนั้นคือ รถยนต์ ซึ่งทีมงานเขาไปสำรวจจากผู้ใช้จริง มีข้อมูลจากรถกว่า 500,000 คัน โดยเก็บตัวอย่างรุ่นละ 200-300 คัน ค้นหาถึงปัญหาที่แต่ละคนเจอในรถใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วง 1 ปีแรก (ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่รถใหม่ไม่ควรมีปัญหาเลย) โดยพบว่าแม้ลูกค้าส่วนใหญ่จะต้องการรถที่มีเทคโนโลยีเยอะแยะ แต่เรื่องความทนทานก็ยังเป็นปัจจัยหลัก ที่ทุกคนให้ความสำคัญมาก ดังนั้นหน่วยงานนี้จึงมุ่งเจาะจงสำรวจว่า เจ้าของรถแต่ละรุ่น มีความพึงพอใจต่อความทนทานในรถตัวเองแค่ไหน จึงจัดอันดับออกมาได้ 10 รุ่นเด่นๆ ที่ไม่ได้เรียงตามคะแนนมากน้อยแต่อย่างใด โดยรายชื่อรถที่ทนทาน ไว้ใจได้ ประจำปี 2019 มีดังนี้

รถยนต์ Mazda CX-5 ในอเมริกาใช้เครื่องเบนซิน 2.5 ลิตร
รถยนต์ Mazda CX-5
รถเอสยูวีขนาดกลางคันนี้ ได้รับความไว้วางใจด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Skyactive-G 2.5 ลิตร 187 แรงม้า กับรุ่นท็อปติดเทอร์โบเข้าไปได้กำลัง 250 แรงม้า มีทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้แทบไม่มีปัญหาชิ้นส่วนเสียหาย หรือข้อบกพร่องจากการออกแบบผิดพลาด หากมีก็พบน้อยมาก จนลูกค้าที่ใช้ไปแล้วเกิดติดใจไม่น้อย

รถยนต์ Lexus UX ครอสโอเวอร์รุ่นเล็ก
รถยนต์ Lexus NX
รถสปอร์ตครอสโอเวอร์รุ่นเล็กสุดของค่ายเลกซัสนี้ ได้จัดวัสดุการประกอบดี พร้อมใส่เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทำกำลังได้ 169 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า วางตัวทำตลาดร่วมกับรถหรูอย่าง Benz GLA และ BMW X1 โดยลูกค้าเลกซัสรุ่นนี้ชื่นชอบในความทนทาน ใช้งานง่าย ไว้ใจเทคโนโลยีญี่ปุ่นที่ไม่ซับซ้อน

รถยนต์ Honda Fit หรือ Jazz ในบ้านเรา เป็นอีกรุ่นที่ทนทาน ไม่พังง่าย
สนใจซื้อหรือเช็คราคารถ Mazda CX-5 มือสองได้ที่นี่
รถยนต์ Honda Fit
รถคอมแพ็ค MPV ยอดนิยมทั่วโลก รวมถึงไทยที่มีขายในชื่อว่า Honda Jazz ด้วยความที่มีภายในกว้างขวาง ออพชั่นทันสมัยครบถ้วน สะดวกสบายด้วยเบาะพับได้หลายแบบ และเครื่องยนต์แรงดีกับเบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร มีกำลัง 128 แรงม้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ที่ไม่มีปัญหาเครื่องยนต์จุกจิกกวนใจ แถมลูกค้าพอใจในด้านการบริการหลังการขาย ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่รถใหม่ควรจะมีทุกยี่ห้อ

รถยนต์ Kia Sedona ขายในไทยใช้ชื่อว่า Kia Carnival
รถยนต์ Kia Sedona
รถค่ายเกาหลีก็ติดอันดับกับเขาด้วย โดยเป็นรถ MPV ขนาดใหญ่ สไตล์หรูหรา ใช้วัสดุคุณภาพดี ในราคาจับต้องได้ ทำให้ได้รับความนิยมไม่แพ้ในไทยที่ขายในชื่อ Kia Carnival โดยจุดเด่นอยู่ที่เครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 3.3 ลิตร กับหัวฉีดตรง ทำกำลังได้ 276 แรงม้า ที่ไม่มีปัญหาเสียหนักๆให้ปวดหัว เจ้าของรถเลยพร้อมใจกันเลือกรุ่นนี้จนติดอันดับ
ดูเพิ่มเติม
>>ฟอร์ดเตรียมปิดโรงงานในเวลส์ กระทบคนงาน 1,700 คน
>>Honda N-WGN 2020 รถกล่องที่น่ารักเตรียมลุยตลาดรถ “ญี่ปุ่น”

รถยนต์ Mazda 6 รถขนาดใหญ่กึ่งหรู เสียดายที่ไม่ขายในไทย
รถยนต์ Mazda6
รถซีดานหรูขนาดใหญ่ ไซส์เดียวกับ Accord และ Camry รุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ CX-5 มีทั้งเบนซิน 2.5 ลิตร และ 2.5 ลิตรติดเทอร์โบ ให้กำลัง 187 และ 250 แรงม้า พร้อมเพิ่มความหรูด้วยระบบเครื่องเสียงชั้นดีจาก Bose พร้อมเซนเซอร์ตรวจจับรถรอบคัน แม้จะไฮเทคมากมาย แต่ไม่มีปัญหาจุกจิกในปีแรกนี้ เสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีขายในไทย

Toyota Prius เจนเนอร์เรชั่นที่ 4 ก็ยังมีความทนทานอยู่
รถยนต์ Toyota Prius
รถไฮบริดขนาดคอมแพ็ค รุ่นใหม่เป็นเจนเนอร์เรชั่นที่ 4 แล้ว กับรถขุมพลังไฮบริดที่มีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทำกำลังออกมาได้ 121 แรงม้า ด้วยการใช้พื้นฐานแบบ TNGA ที่เรียบง่ายแต่ได้ผลการขับขี่ที่ดี และมีค่าซ่อมบำรุงต่ำตามสไตล์ค่ายสามห่วง เจ้าของรถจึงติดใจ และไม่มีบ่นถึงปัญหาสักคำ

รถยนต์ Subaru Crosstrek เป็นรุ่นเดียวกับ Subaru XV ในไทย
รถยนต์ Subaru Crosstrek
รถครอสโอเวอร์ขนาดกลาง ที่ขายในบ้านด้วยชื่อ Subaru XV มีความโดดเด่นด้วยเครื่องเบนซิน 4 สูบนอน 2.0 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ซึ่งมีความทนทานเพราะเป็นบล็อคที่พัฒนามาใหม่หมดจรด ลบปัญหากวนใจจากรุ่นเดิมออกไปแล้ว ถือว่างานนี้ซูบารุทำการบ้านมาดีมาก จนลูกค้ารถรุ่นนี้ติดใจกันเป็นแถวๆ แถมยังไว้วางใจรุ่นอื่นๆในค่ายเดียวกันนี้อีกด้วย

Prius Prime เหมือนพริอุสพื้นฐานทุกอย่าง แค่เพิ่มระบบปลั๊กอิน-ไฮบริดเข้ามา
รถยนต์ Toyota Prius Prime
รถขุมพลังไฮบริดแบบเดียวกับพริอุสปกติ ใช้ขุมพลังเดียวกันนั่นคือเครื่องยนต์เบนซิน 1.8 ลิตร พ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ทำกำลังออกมาได้ 121 แรงม้า บนพื้นฐานแบบ TNGA เหมือนกัน เพิ่มเติมคือมีระบบเสียบปลั๊กไฟ 220v เพื่อชาร์จเข้ารถได้โดยตรง แม้ว่าจะมีระบบไฟฟ้าเพิ่มเข้ามา ก็ไม่ทำให้เป็นปัญหาใดๆ จนได้รับคะแนนความไว้ใจมาติดอันดับด้วย

รถยนต์ Lincoln Continental รถอเมริกันรุ่นหรูสุดขีด ได้รับความไว้ใจด้วย
รถยนต์ Lincoln Continental
ลินคอล์นเป็นรถหรูระดับใหญ่สุดของค่ายนี้ นับเป็นเซอร์ไพรซ์ที่รถอเมริกันหนึ่งเดียวได้มาติดอันดับจากการสำรวจในประเทศบ้านเกิดตัวเอง อีกทั้งยี่ห้อนี้อยู่ในเครือเดียวกับฟอร์ด ซึ่งเป็นสำนักที่ไม่ได้มีชื่อเรื่องความทนทานสักเท่าไหร่ แต่รถหรูรุ่นนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ถ้ารถอเมริกันตั้งใจทำแล้วล่ะก็ ก็ไม่แพ้ค่ายญี่ปุ่นหรอก แต่ยอดขายก็ทำได้ไม่ดีนัก เพราะราคาแพงนั่นเอง

รถยนต์ Toyota Prius C รถขนาดเล็กขุมพลังไฮบริดแบบเดียวกับเพื่อนร่วมรุ่น
รถยนต์ Toyota Prius C
อีกหนึ่งรถในตระกูลพริอุส ที่อยู่ในสไตล์ตัวถังแบบแฮตช์แบ็ค 5 ประตูขนาดกะทัดรัดกว่าเพื่อนร่วมรุ่น โดยได้รับการไมเนอร์เชนจ์หน้าตาให้ดูบึกบึนเหมือนรถพร้อมลุย ภายในยังใช้ระบบไฮบริดที่ไว้ใจได้เช่นเดียวกัน ทำให้ถูกใจคนที่ชอบรถทนทาน ไม่ต้องซ่อมบ่อย ในปีแรกนี่มีค่าใช้จ่ายต่ำมาก ทำให้ติดอันดับได้ไม่ยากเลย
ทั้งหมดนี้คือรถยนต์ที่น่าเชื่อถือ ที่คนอเมริกันซื้อมาใช้แล้วสะท้อนผลลัพธ์ผ่านแบบสำรวจจริง ซึ่งก็น่าเชื่อถือพอสมควรเลย โดยหลายรุ่นก็มีขายในประเทศไทยด้วย เช่น Subaru XV หรือ Honda Jazz ก็ลองนำไปพิจารณาดูกันนะครับ แล้วพบกับสาระความรู้ ที่จะช่วยคุณมีรถดีๆ อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจซื้อรถใดๆ หากยังไม่ได้อ่านบทความจากตลาดรถยนต์ออนไลน์ Chobrod นี้ แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไป สวัสดีครับ

