• Sample Page
Film
No Result
View All Result
No Result
View All Result
Film
No Result
View All Result

N0610300 อย าไปเอาเปร ยบ คนท เขาหาเช าก นค part 2

admin79 by admin79
October 6, 2025
in Uncategorized
0
N0610300 อย าไปเอาเปร ยบ คนท เขาหาเช าก นค part 2

ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

รวม 10 รุ่นของ BMW ที่ดีที่สุดตลอดกาล

ประสบการณ์ใช้รถ | 18 ก.ย 2561

แชร์ 5

BMW ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและเป็นอันดับหนึ่งของโลกที่ประสบความสำเร็จที่สุด เวลาเปลี่ยนรสนิยมของคนเราก็เปลี่ยนเช่นกันเพราะฉะนั้นทางค่ายจึงพยายามสร้างทางเลือกใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องขึ้นมา แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่ารถยนต์รุ่นไหนของ BMW ที่ได้ถูกยกย่องว่าเป็นรุ่นที่ดีที่สุดกันบ้าง ไปชมค่ะ

รวม 10 รุ่นของ BMW ที่ดีที่สุดตลอดกาล

รวม 10 รุ่นของ BMW ที่ดีที่สุดตลอดกาล

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Chobrod วันนี้เดี๊ยนก็นำรถยนต์ 10 อันดับที่ดีที่สุดของค่ายรถยนต์แบรนด์ดังอย่าง BMW มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน เพราะว่าปีหลังๆ เขาก็ได้มีการปรับและพัฒนารถยนต์ให้เข้ากับรสนิยมของคนในยุคสมัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านนวัตกรรมเอย เทคโนโลยีเอย แต่รุ่นที่เขาออกมาก็ปังทุกรุ่นจริงๆ  เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ ว่ารุ่นไหนบ้างที่เป็นรุ่นที่ดีที่สุดของค่าย BMW ตั้งแต่ช่วงเวลาในปี 1916 หรือเมื่อ 100 กว่าปีที่ผ่านมา ไปดูกันซิว่ามีรุ่นไหนถูกใจเพื่อนๆ ชาว Chobrod กันบ้าง

BMW M1 (E26)

BMW M1 (E26)

1. BMW M1 (E26)

รุนนี้เป็นรุ่นที่ BMW และ Lamborgini ได้ตกลงร่วมใจสร้างซุปเปอร์คาร์ออกสู่ตลาดเพื่อให้สอดคล้องกับกฎของ Homologationในมอเตอร์สปอร์ต แต่ฝ่าย Lamborghini ดันไม่ทิ้งกันกลางคันซะอย่างงั้นทำให้ BMW ต้องเดินหน้าต่ออยู่ฝ่ายเดียว และก็ได้สร้างรถสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางที่เป็นตำนานขึ้นมา ในระหว่างปี 1978 – 1981 นั้นมียอดขายจำนวน 453 คันด้วยกัน รถรุ่นนี้ถูกออกแบบโดย Giorgetto Giugiro และเป็นรถที่ถูกนำไปแข่งในรายการ M1 Procar Championship ส่วนเครื่องยนต์เป็นบล็อก 6 สูบเรียง 3,500 ซีซี

ดูเพิ่มเติม
รถ BMW ราคา
​BMW เผย Feature ใหม่กับผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะในรถของคุณ

BMW 507

BMW 507

2. BMW 507

รถสปอร์ตเปิดประทุนในแบบ Roadster สุดคลาสสิคที่ผลิตขึ้นในระหว่างปี 1956 – 1959 และเป็นรุ่นที่ถูกใช้เปิดตลาดอเมริกันอีกด้วย โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบสปอร์ตไสตล์นี้ แต่ด้วยความที่ราคามันค่อนข้างสูงเกินไปจึงทำให้รุ่นนี้มียอดจำหน่ายเพียง 252 คันเท่านั้น หลังจากนั้นในเวลาต่อมารถยนต์รุ่นนี้คือรถยนต์สุดคลาสสิคที่เป็น Rare Item ของบุคคลที่ชอบรถอีกหนึ่งรุ่นเลยล่ะ

BMW X5 (E53)

BMW X5 (E53)

3. BMW X5 (E53)

ปี 1999 – 2006 เป็นช่วงที่ตลาด SUV กำลังเบ่งบานในตลาดสหรัฐอเมริกา ทางค่าย BMW ก็ต้องปรับเปลี่ยนรถยนต์ให้เข้ากับความต้องการของตลาดมากขึ้น และนี่ก็เป็นที่มาของ X5 ซึ่งเป็นรุ่น SUV รุ่นแรกในประวัติศาสตร์ของ BMW เลยก็ว่าได้ค่ะ ทั้งนี้ยังพัฒนาให้ตอบโจทย์กับความต้องการของคนในสหรัฐอเมริกามากขึ้นอีกด้วย

BMW i8

BMW i8

4. BMW i8

ทางค่าย BMW เริ่มที่จะเจาะตลาดสู่รถยนต์พลังงานทางเลือกด้วยการเปิดตัวซับแบรนด์ขึ้นมาได้แก่ I และ I8 ถือว่าเป็น 1 ใน 2 รถยนต์ที่เปิดตัวภายในแบรนด์ BMW คันต้นแบบก็เผยโฉมเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งรุ่นนี้ออกแบบโดย Richard Kim ส่วนคันจริงที่ออกขายนั้นเปิดตัวในปี 2014 และออกแบบโดย Benoit Jacob ทั้งนี้ยังใช้ขุมพลังไฮบริดในการขับเคลื่อนอีกด้วย

BMW Isetta

BMW Isetta

5. BMW Isetta

เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่ถูกผลิตขายและออกจำหน่ายทั่วโลกภายใต้แบรนด์ของ BMW ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับตลาดที่รับไปทำอีกด้วย แต่ในประเทศเยอรมนีและอังกฤษนั้น จะเป็นชื่อที่คนทั่วโลกคุ้นเคยที่สุด โดย BMW Isetta นั้นวางเครื่องยนต์แบบสูบเดียวถูกขายขึ้นในระหว่างปี 1955-1962 และมียอดขายสูงสุดถึง161,728 คันเลยทีเดียว

BMW Z8 Roadster

BMW Z8 Roadster

6. BMW Z8 Roadster

ยุคทศวรรษที่ 1990 เป็นยุคที่ตลาดรถสปอร์ตเปิดประทุนนั้นเบ่งบานสุดๆ นอกจาก Z3 แล้วยังมี Z8 ที่สำหรับทำตลาดรุ่นใหญ่อีกด้วย โดยสปอร์ตรุ่นนี้ออกแบบโดย Henrik Fisker นักออกแบบฝีมือดีที่สุด ในปัจจุบันเขาก็ได้สร้างแบรนด์เป็นของตัวเองเรียบร้อยและเป็นการสานต่อตำนานของ 507 Roadster ไว้อีกด้วย โดยมีผลผลิตรวมทั้งสิ้น 5,703 คันในช่วงระหว่างปี 1999-2003 อีกด้วย

BMW M3 (E30)

BMW M3 (E30)

7. BMW M3 (E30)

M Power กับรถยนต์ในซีรียส์หลักของ BMW นั้นมาจากการพัฒนาต่อยอดเป็นตัวแข่งรายการทัวริงคาร์ทั่วโลกโดยเฉพาะใน DTM ซึ่งในปัจจุบันนี้ M3 ก็ยังเป็นที่อ้างอิงพื้นฐานของตัวถังคูเป้ของ Series 3 รุ่นที่ 2 ในรหัส E30 และยังเป็นที่นิยมของนักสะสมอีกด้วย โดยช่วงที่ผลิตออกมานั้นจะมีเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,30 ซีซ๊ เป็นอย่างแรกก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น 2,500 ซีซี นอกจากนี้ยังมีรุ่นเปิดประทุนตามออกมาอีกด้วย

BMW 2002 Turbo

BMW 2002 Turbo

8. BMW 2002 Turbo

รุ่นนี้เป็นรถยนต์คลาสสิคอีกรุ่นสำหรับ 2002 เลยก็ว่าได้ เพราว่าเด็ดสุดในรุ่น!! สำหรับสปอร์ตคูเป้ไซต์เล็กรุ่นนี้คือ 2002 Turbo ที่มีความเร้าใจและความสวยสปอร์ตเพิ่มขึ้นมาจากรุ่นธรรมดา พร้อมกับเครื่องยนต์ที่สามารถรีดกำลังออกมาได้ถึง 170 แรงม้าเลยทีเดียว

BMW M5 (E39)

BMW M5 (E39)

9. BMW M5 (E39)

รุ่นเจเนอเรชั่นที่ 4 อย่าง E39 ก็ว่าโหดแล้ว แต่มันจะเมพขิงขนาดไหนเมื่อได้รับการโมดิฟายให้เป็นตัว M5 รุ่นนี้ ซึ่งรุ่นนี้ถือว่าเป็น M5 รุ่นแรกที่เปลี่ยนผ่านจากเครื่องยนต์ 6 สูบมาเป็น วี8 4,900 ซีซี ที่มีกำลังถึง 400 แรงม้า แน่นอนว่าในปัจจุบันรุ่นนี้อาจจะดูเบๆ ไม่ได้หวือหวาอะไรมากนัก แต่ลองย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วดูสิหืมม…. มันจะเร้าใจขนาดไหนกันเชียว!

BMW 8 Series (E31)

BMW 8 Series (E31)

10. BMW 8 Series (E31)

เป็นซีรีย์ที่แฟนๆ นั้นร่ำร้องถามหากันมากที่สุด โดย BMW ได้เปิดตัวเป็นรถสปอร์ตขนาดใหญ่เมื่อปี 1989 และทำตลาดร่วม 10 ปี กับความเร้าใจของเครื่องยนต์ในแบบ วี8 และวี 12 นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องยนต์สุดไฮเทคกับการใช้ระบบ Can Bus เพื่อใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆ ภายในตัวรถและระบบลิ้นปีกผีเสื้อกแบบ Drive-by-Wire อีกด้วย อีกทั้งระบบนี้ก็เพิ่งจะเป็นมาตรฐานในรถยนต์ทั่วไปอีกด้วยจ้า

เป็นอย่างไรกันบ้างกับรถยนต์แต่ละรุ่นที่ดีที่สุดของ BMW และเป็นตำนานที่ใครหลายๆ คนนั้นติดตราตรึงใจ จารึกไว้จนถึงปัจจุบันนี้ กว่าจะมาเป็นแบรนด์นั้นมันก็ไม่ง่ายแต่ที่อยากกว่าคือทำอย่างไรให้ติดตลาด เพราะฉะนั้นใครที่ชื่นชอบรถยนต์ BMW ก็ลองมาอ่านบทความนี้กันดูนะจ๊ะ เผื่อว่าอยากจะได้รถยนต์ไปสะสมเล่นไว้สักคันสองคัน อิอิ สำหรับวันนี้เดี๊ยนขอลาไปก่อนพบเจอกันใหม่คอนเทนต์หน้านะจ๊ะ สวัสดีจ้า

รวม 10 รถไฟฟ้าราคาถูกสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทในไทย มีรุ่นไหนบ้าง?

14 ธ.ค. 66 (11:14 น.) พิมพ์

รวม 10 รถไฟฟ้าราคาถูกสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทในไทย มีรุ่นไหนบ้าง?

แชร์เรื่องนี้

คัดลอกลิงก์กดฟัง–กก+

ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสรถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังมาแรงเหลือเกิน จะเห็นได้จากยอดจองในงาน Thailand International Motor Expo 2023 ที่ผ่านมา พบว่าค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุด 10 อันดับแรก เป็นแบรนด์รถยนต์สัญชาติจีนที่มี EV วางจำหน่ายติดเข้ามาถึง 5 อันดับ และเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยอยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะหันไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าดีหรือไม่

Sanook Auto จึงได้รวบรวม 10 รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ถึงล้านบาททุกรุ่นที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีรุ่นไหนบ้างไปดูกัน

VOLT CITY EV

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น FOR-TWO ราคา 365,000 บาท
  • รุ่น FOR-FOUR ราคา 425,000 บาท

VOLT FOR-TWO ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 40 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนฟอสเฟต ความจุ 11.8 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 165 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (หรือ 115 กิโลเมตรเมื่อใช้โหมด Sport)

VOLT FOR-FOUR เพิ่มพละกำลังสูงสุดขึ้นเป็น 46 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 102 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออนฟอสเฟตเช่นเดียวกัน แต่เพิ่มขนาดความจุขึ้นเป็น 16.5 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (หรือ 135 กิโลเมตรเมื่อใช้โหมด Sport)

>> VOLT City EV FOR-TWO และ FOR-FOUR ประกาศปรับราคาขึ้นรุ่นละ 10,000 บาท

WULING AIR EV

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น Standard Range ราคา 405,000 บาท
  • รุ่น Long Range ราคา 475,000 บาท

Wuling Air EV ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 30 kW (40 PS) ขับเคลื่อนล้อหลัง รุ่น Standard Range ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Lithium Ferro-Phosphate ความจุ 17.3 kWh ให้ระยะทางขับขี่ 200 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง ใช้เวลาชาร์จ 8.5 ชั่วโมง ด้วยกำลังไฟ AC 2.0 kW และรุ่น Long Range เพิ่มขนาดแบตเตอรี่เป็น 26.7 kWh ขับขี่ได้เป็นระยะทาง 300 กม. ใช้เวลาชาร์จ 4 ชั่วโมง ด้วยกำลังไฟ AC 6.6 kW

>> ราคาทางการ Wuling Air EV เปิดรับจองแล้วในไทย มี 2 รุ่นย่อย

FOMM ONE

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น 2 ที่นั่ง ราคา 481,500 บาท
  • รุ่น 4 ที่นั่ง ราคา 499,900 บาท

FOMM ONE ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า In-wheel ติดตั้งที่ล้อคู่หน้า ให้กำลังสูงสุดอยู่ที่ 5 กิโลวัตต์ (ต่อข้าง) แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ที่ให้ระยะทางขับขี่ประมาณ 160 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง สามารถชาร์จไฟจาก 0-100% ได้ในเวลาราว 6 ชั่วโมง

NETA V

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น V ราคา 549,000 บาท

NETA V ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ (95 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-50 กม./ชม. ในเวลาต่ำกว่า 3.9 วินาที พร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium-ion ความจุ 38.5 kWh ให้ระยะทางขับขี่ราว 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (มาตรฐานการทดสอบ NEDC)

NETA V รองรับการชาร์จไฟ AC แบบ Type 2 และ DC (ชาร์จด่วน) แบบ CCS สามารถชาร์จผ่าน NETA Wall Box จาก 0-100% ได้ในเวลาราว 8 ชั่วโมง และชาร์จด่วนผ่านตู้ชาร์จสาธารณะจาก 30-80% ในเวลาราว 30 นาที

>> เจาะสเปก NETA V รถไฟฟ้า 100% ราคาเพียง 549,000 บาท

BYD Dolphin

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น Standard Range ราคา 699,999 บาท
  • รุ่น Extended Range ราคา 859,999 บาท

รุ่น Standard Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 70 kW (95 PS) แรงบิดสูงสุด 180 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 44.9 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 410 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 60 kW ทำความเร็วสูงสุดได้ 150 กม./ชม.

รุ่น Extended Range ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า 150 kW (204 PS) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 60.148 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 490 กม. (ตามมาตรฐาน NEDC) รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC ด้วยกำลังไฟสูงสุด 80 kW ทำความเร็วสูงสุดได้ 160 กม./ชม.

>> รีวิว BYD Dolphin อีวีราคาสบายกระเป๋า ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง

ORA Good Cat

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น 400 PRO ราคา 828,500 บาท
  • รุ่น 500 ULTRA ราคา 959,000 บาท
  • รุ่น GT ราคา 1,286,000 บาท

ORA Good Cat รุ่น 400 PRO และ 500 ULTRA ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 143 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0-50 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.8 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 152 กม./ชม.

รุ่น 400 PRO ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 47.788 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 กม. รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 0-80% ในเวลา 45 นาที หรือ 30-80% ในเวลา 32 นาที และสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC จาก 0-100% ในเวลา 8 ชั่วโมง

รุ่น 500 ULTRA ติดตั้งแบตเตอรี่แบบลิเธียม Ternary (NMC) ความจุ 63.139 kWh ให้ระยะทางวิ่งสูงสุด 500 กม. รองรับการชาร์จด่วนแบบ DC จาก 0-80% ในเวลา 60 นาที หรือ 30-80% ในเวลา 40 นาที และสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านแบบ AC จาก 0-100% ในเวลา 10 ชั่วโมง

รุ่น GT ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 171 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร (รุ่น 500 ULTRA มีกำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร) สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 8.5 วินาที (รุ่น 500 ULTRA ใช้เวลา 9.2 วินาที) พร้อมแบตเตอรี่ขนาด 63.319 kW สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 500 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง

>> ORA Good Cat เปิดรับจองรอบใหม่ มี 2 รุ่นย่อย ราคา 828,500 – 959,000 บาท

AION ES

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น Private ราคา 850,000 บาท
  • รุ่น Taxi ราคา 929,900 บาท

AION ES ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 225 นิวตัน-เมตร สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กม./ชม. แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางสูงสุด 442 กิโลเมตร รองรับการชาร์จกระแสสลับ (AC) กำลังสูงสุด 6.6 kW ใช้ระยะเวลาชาร์จจาก 0-100% ราว 6 ชั่วโมง และรองรับการชาร์จกระแสตรง (DC) กำลังสูงสุด 75 kW ใช้ระยะเวลาชาร์จจาก 0-80% ในเวลา 40 นาที

>> ราคาทางการ AION ES ใหม่ เน้นเจาะกลุ่มแท็กซี่ไฟฟ้า 100% เริ่มต้น 850,000 บาท

MG4 Electric

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น D ราคา 869,000 บาท
  • รุ่น X ราคา 969,000 บาท

MG4 Electric ทั้ง 2 รุ่นย่อยถูกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร พร้อมแบตเตอรี่แบบ Lithium Iron Phosphate ความจุ 51 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 425 กิโลเมตรต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC) รองรับการชาร์จด่วนจาก 10 – 80% ในเวลาราว 35 นาที

>> รีวิว “MG4 Electric” รถแฮทช์แบ็กไฟฟ้าสีสันสดใสต้อนรับวาเลนไทน์

MG ZS EV

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย:

  • รุ่น D ราคา 949,000 บาท
  • รุ่น X ราคา 1,023,000 บาท

MG ZS EV ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.6 วินาที แบตเตอรี่แบบ Lithium-ion มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 50.3 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 403 กิโลเมตร (ตามมาตรฐานการทดสอบ NEDC) รองรับการชาร์จด่วนจาก 30-80% ในเวลาประมาณ 30 นาที และชาร์จแบบปกติผ่าน MG Home Charger จาก 0-100% ในเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที

>> เปิดสเปก MG ZS EV รถไฟฟ้า 100% มีเงินไม่ถึงล้านก็ซื้อได้

MG ES

17+ดูภาพทั้งหมด

ราคาจำหน่าย

  • รุ่น ES ราคา 959,000 บาท

MG ES ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 177 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 280 นิวตัน-เมตร และแบตเตอรี่ลิเธียมไอรอนฟอสเฟต (LFP) ความจุ 51 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 412 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มแต่ละครั้ง (ตามมาตรฐาน NEDC) 

Previous Post

N0610299 วหน าแบบน ไม ควรได บการให อภ part 2

Next Post

N0610301 เราย งเป นเพ อนร เหม อนเด มนะ part 2

Next Post
N0610301 เราย งเป นเพ อนร เหม อนเด มนะ part 2

N0610301 เราย งเป นเพ อนร เหม อนเด มนะ part 2

Leave a Reply Cancel reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts

  • N0111331 เวลาของเราไม เท าก part 2
  • N0111323 วยต วเOงในมหาล part 2
  • N0111327 แฟนหน าตาแบบน เป นค ณจะอายไหม part 2
  • N0111328 แกล งขอทาน #สน กด part 2
  • N0111325 แอบก uสาม เพ oนว าซ าน part 2

Recent Comments

  1. A WordPress Commenter on Hello world!

Archives

  • October 2025
  • September 2025
  • July 2025
  • June 2025

Categories

  • Uncategorized

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.

No Result
View All Result

© 2025 JNews - Premium WordPress news & magazine theme by Jegtheme.