ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เปิดโผ 25 อันดับรถยนต์ขายดีที่สุดในโลกปี 2566 “Tesla” เบอร์ 1 แซง “Toyota”
06 ก.ค. 67 (10:11 น.) พิมพ์

แชร์เรื่องนี้
บริษัทวิจัยข้อมูลยานยนต์ JATO Dynamics เผยรายชื่อ 25 อันดับรถยนต์ขายดีที่สุดในโลกปี 2566 ที่ผ่านมา โดยพบว่า “Tesla Model Y” มียอดจำหน่ายสูงสุดทั่วโลกเป็นอันดับที่ 1 แซงหน้าแชมป์เก่าอย่าง “Toyota RAV4″ ขาดลอย
TOYOTA RAV4
JATO Dynamics ได้รวบรวมข้อมูลยอดจำหน่ายรถยนต์กว่า 151 ประเทศทั่วโลก พบว่ามียอดจำหน่ายรถยนต์นั่งและรถกระบะรวมกันตลอดทั้งปี 2566 มากถึง 78.32 ล้านคัน เพิ่มขึ้นประมาณ 10% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สะท้อนถึงการเติบโตของเศรษฐกิจในระดับโลก สวนทางกับยอดจำหน่ายรถยนต์ในไทยระหว่างเดือนมกราคม – พฤษภาคม 2567 ที่หดตัวลงมากถึง 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนหน้า
จากสถิติยอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกปี 2566 พบว่า รถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด 3 อันดับแรก ล้วนแต่เป็นรถยนต์อเนกประสงค์แบบ SUV นำโดย Tesla Model Y เป็นอันดับ 1 ด้วยยอดจำหน่ายทั่วโลก 1,223,000 คัน ตามด้วย Toyota RAV4 จำนวน 1,075,000 คัน และ Honda CR-V จำนวน 846,000 คัน
FORD F-150
ขณะที่ยอดขายกลุ่มรถกระบะพบว่า Ford F-150 ยังคงนำเป็นอันดับที่ 1 ด้วยยอดจำหน่ายทั้งสิ้น 623,000 คัน ตามด้วย Toyota Hilux จำนวน 605,000 คัน ทิ้งห่างอันดับที่ 3 อย่าง Chevrolet Silverado 1500 ที่มียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 412,000 คัน อย่างไรก็ดี Toyota Hilux ถือเป็นรถกระบะขนาดกลาง (Mid-size) เพียงรุ่นเดียวที่ติด 25 อันดับยอดขายสูงสุดในปี 2566 ที่ผ่านมา
เป็นที่น่าสนใจว่ารถยนต์ไฟฟ้ายังคงได้รับการตอบรับที่ดีทั่วโลก โดยแชมป์อันดับ 1 อย่าง Tesla Model Y มียอดจำหน่ายในปี 2566 เพิ่มขึ้นมากถึง 64% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ BYD ATTO 3 หรือ Yuan Plus มียอดจำหน่ายทั่วโลกในปีที่ผ่านมาถึง 355,000 คัน เติบโตมากถึง 119% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อยู่ในอันดับที่ 23 ของการจัดอันดับดังกล่าว
25 อันดับรถยนต์และรถกระบะที่มียอดขายสูงสุดปี 2566
- Tesla Model Y – 1,223,000 คัน
- Toyota RAV4 / Wildlander – 1,075,000 คัน
- Honda CR-V / Breeze – 846,000 คัน
- Toyota Corolla / Levin sedan – 803,000 คัน
- Toyota Corolla Cross – 715,000 คัน
- Toyota Camry – 650,000 คัน
- Ford F-150 – 623,000 คัน
- Toyota Hilux – 605,000 คัน
- Nissan Sentra / Sylphy – 534,000 คัน
- Tesla Model 3 – 508,000 คัน
- Honda Civic / Integra sedan – 478,000 คัน
- BYD Qin – 473,000 คัน
- Nissan X-Trail / Rogue – 461,000 คัน
- Honda Accord / Inspire – 451,000 คัน
- Hyundai Tucson EWB – 423,000 คัน
- Chevrolet Silverado 1500 – 412,000 คัน
- Hyundai Elantra / Avante – 399,000 คัน
- Ram 1500 – 374,000 คัน
- BYD Song Plus – 369,000 คัน
- Volkswagen Polo HB – 364,000 คัน
- Volkswagen Jetta / Sagitar – 361,000 คัน
- Mazda CX-5 – 356,000 คัน
- BYD Yuan Plus / Atto 3 – 355,000 คัน
- Suzuki Swift – 354,000 คัน
- Honda HR-V / XR-V / Vezel – 336,000 คัน
ทั้งนี้ JATO Dynamics ระบุเพิ่มเติมว่ายอดจำหน่ายส่วนใหญ่ที่ติดอันดับดังกล่าวเป็นผลมาจากความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นในอเมริกาเหนือ, จีน, ตะวันออกกลาง, ยุโรป, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และหลายประเทศในอเมริกาใต้, แอฟริกา และเอเชียกลาง
จัดอันดับ 10 รถยนต์ยอดนิยมที่คนจอง จากโครงการรถคันแรก มากที่สุด
เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้าย แล้วสำหรับนโยบายรถคันแรกที่หลายคนต่างอยากที่จะเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นใหม่ หลังรัฐบาลช่วยเหลือในการให้เงินสนับสนุนคืนเงินภาษี โดยล่าสุด หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ได้รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ 10 รถยนต์ยอดนิยมที่คนจอง จากโครงการรถคันแรก มากที่สุดมาให้ได้ดูกัน
อันดับ 1 ยังคงอยู่ในใจคนไทยกับรถยนต์ Toyota Vios ที่สามารถครองยอดขายเอาไปได้ด้วย จำนวนที่สูงเกือบเป็น 2 เท่าของรถคันแรกที่เข้ามาในอันดับที่ 2 ด้วยยอดขาย 80,410 คัน ตอกย้ำความเป็นที่สุดของรถยนต์นั่งในตลาดรถยนต์ชั้นนำของในประเทศไทย
อันดับที่ 2 ยกให้ ฮอนด้า ซิตี้ Honda City คันนี้ยังดูดีและเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆคน ด้วย ยอดขายกว่า 44,079 คัน ถือว่ามากพอสมควร สำหรับรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ตอบสนองได้ลงตัวทั้งสมรรถนะและการออกแบบ
อันดับที่ 3 ของรถคันแรกยอดฮิต และในอันดับนี้ รถยนต์ Nissan Almera รั้ง เข้ามาเป็นคันแรก ด้วยยอดถึง 35,279 คัน ในโครงการนี้ ถือว่ามากพอสมควร สำหรับรถยนต์ที่เปิดตัวได้เพียง 1 ปีเท่านั้น
อันดับที่ 4 ยกให้ Mazda 2 กับทรวดทรงที่โดนใจ พร้อมข้อเสนอที่โดนใจลูกค้า และออพชั่นที่คุ้มค่าเลยทำให้ Mazda 2 เข้ามาอยู่ในตำแหน่งนี้อย่างไม่ยาก แถมการรับประกันคืนเงินจากโครงการรถคันแรสูงสุด 1 แสนบาท ก็ทำให้ เจ้ารถคันนี้มียอดเข้ามาในโครงการถึง 28,474 คัน
อันดับที่ 5 นิสสัน มาร์ช อีโคคาร์รุ่นแรกยังขายดี ด้วยยอดขายถึง 23,218 คัน ที่เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ซึ่งถือว่ายังรักษาสภาพได้ดี แม้จะมาก่อนเพื่อนก็ตาม ซึ่งในอีกไม่นานนี้น่าจะมาปรับในเรื่องของออพชั่นออกมาอีกในช่วงปีหน้า ก็คงต้องจับตากันให้ดี
อันดับที่ 6 เบียดแซงคนอื่น มากับการทุ่มทุนสร้างของค่ายรถยนต์ Ford ที่มองถึงความต้องการรถยนต์จากลูกค้า จนปรับรุ่น 1.5 ออกมาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และเพียงแค่นี้มันก็เข้าที่อันนดับที่ 6 กับยอดเข้าโครงการถึง 19,762 คันไปแล้ว

อันดับที่ 7 รถยนต์แฮทช์แบ็ค จากฮอนด้ารุ่นที่ 2 กลับเข้ามาอีกครั้งในอันดับที่ 7 แม้จะไม่ได้รับความนิยมนักในโครงการรถคันแรก จากยอดที่เข้าร่วมเพียง 19,499 คัน แต่รถยนต์รุ่นนี้ก็ได้รับความนิยมพอตัว แม้จะผ่านการเปลี่ยนโฉม และในอนาคตน่าจะมีความเคลื่อนไหว ในการเปลี่ยนรุ่นในอีกไม่ช้านี้
อันดับที่ 8 มิตซู มิราจ อาจจะเห็นกันมากบนถนน แต่ไม่น่าเป็นรถที่ได้รับความนิยมในโครงการรถคันรกนัก อาจจะด้วยธรรมชาติของค่ายนี้ แต่มิราจ ก็ยังโดนใจด้วยยอดจำนวนรถ 18,698 คัน ที่เข้าตามโครงการรถคันแรก
อันดับที่ 9 โตโยต้า ยาริส อีกแฮทช์แบ็คที่เริ่มอ่อนแรงแต่ก็ยังขายได้พอควร กับรถรุ่นนี้ แม้จะไม่มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ แต่มีกระแสว่ารถอีโค่คาร์จากค่ายโตโยต้า จะเข้ามาเสียบแทนรถรุ่นนี้ ส่วนราคา ตอนนี้มันก็เข้าโครงการรถคันแรกไปถึง 13,084 คัน
อันดับที่ 10 ฮอนด้า บริโอ้ อีโคคาร์ที่มาพร้อมเรือนร่างเล็ก ในขณะที่ตอนก่อนเปิดตัวได้รับความสนใจมาก แต่เมื่อเปิดตัวออกมา กลับไม่เป็นที่นิยมอย่างที่คิด แต่ก็มียอดขายล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม โดยมียอดรถ 11,959 คัน ในโครงการรถคันแรก

