ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

Home / บทความ / รวม 10 รถรุ่นใหม่จากทุกค่ายที่ห้ามพลาดในปี 2025

รวม 10 รถรุ่นใหม่จากทุกค่ายที่ห้ามพลาดในปี 2025

บทความ

ปี 2025 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการยานยนต์ไทย เมื่อหลายค่ายรถชั้นนำพร้อมใจกันเปิดตัวรถรุ่นใหม่มากมาย ทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไฮบริด และเครื่องยนต์สันดาป ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์โฉบเฉี่ยว เดี๋ยววันนี้ พิเรลลี่ จะมาแนะนำ 10 รถรุ่นใหม่น่าจับจองรับปี 2025 นี้กัน

10 รถรุ่นใหม่ที่พร้อมได้ขับจริงในปี 2025

ท่ามกลางกระแสรถยนต์พลังงานทางเลือกที่กำลังมาแรง ปี 2025 จึงเป็นปีที่น่าจับตามองเป็นพิเศษ เพราะมีทั้งรถรุ่นใหม่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% และรถไฮบริดรุ่นใหม่ที่พร้อมตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกไลฟ์สไตล์ มาดูกันว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง

1. Suzuki e VITARA

ในปี 2025 ทาง Suzuki เตรียมที่จะสร้างความตื่นเต้นให้วงการด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่าง e VITARA รถ SUV ไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก VITARA เจนเนอเรชันปัจจุบัน มาพร้อมการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย ที่เน้นความเรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพสูง นับเป็นก้าวสำคัญของ Suzuki ในการก้าวสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว

• ขุมพลัง : มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 189 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ 49 kWh (Standard Range) / มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 173 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 189 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ 61 kWh (Long Range)
• ราคาคาดการณ์ : 1.2-1.4 ล้านบาท

2. Honda HR-V e:HEV 2025

Honda ยกระดับ HR-V ด้วยการปรับโฉมใหม่ทั้งภายนอกและภายใน พร้อมติดตั้งระบบไฮบริด e:HEV เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุด ที่ให้ทั้งสมรรถนะและความประหยัดน้ำมันในระดับที่น่าทึ่ง รถรุ่นนี้ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่พัฒนาให้ฉลาดขึ้น และห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายกว่าเดิม

• ขุมพลัง : ระบบไฮบริด เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร + มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวม 131 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตันเมตร
• ราคา : 8,990,000 – 1,179,000 บาท 

3. Toyota Hilux BEV

Toyota สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการรถกระบะด้วย Hilux BEV รถกระบะไฟฟ้ารุ่นแรกของค่าย ที่พัฒนาบนแพลตฟอร์ม eTNGA ใหม่ล่าสุด ตัวรถได้รับการออกแบบให้ดูทันสมัยแต่ยังคงความแกร่งแบบ Hilux ไว้อย่างครบถ้วน พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้าที่ทรงพลัง ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานเชิงพาณิชย์ และไลฟ์สไตล์สมัยใหม่

• ขุมพลัง : – ยังไม่เปิดเผย
• ราคาคาดการณ์ : – ยังไม่เปิดเผย

4. Deepal E07

Deepal E07 เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าจากแบรนด์น้องใหม่ที่มาพร้อมความทันสมัยในทุกมิติ ทั้งดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว ห้องโดยสารที่หรูหราด้วยวัสดุคุณภาพสูง และระบบขับขี่อัจฉริยะที่ทันสมัย รถรุ่นนี้โดดเด่นด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวันได้อย่างลงตัว

• ขุมพลัง : มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 343 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 365 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ 89.98 kWh (RWD) / มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 598 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 645 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ 89.98 kWh (AWD)
• ราคา : 1,599,000 – 1,999,000 บาท 

5. Hyundai Palisade

Hyundai ยกระดับตลาดเอสยูวีหรูด้วย Palisade โฉมใหม่ ที่มาพร้อมดีไซน์สง่างาม ทรงพลัง และห้องโดยสารที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ภายในกว้างขวางรองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีอัจฉริยะล่าสุดจาก Hyundai

• ขุมพลัง : เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร กำลัง 197 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร
• ราคา : 2,299,000 – 2,499,000 บาท

 6. Mazda BT-50 2025

BT-50 รถรุ่นใหม่ที่ปรับโฉมจาก Mazda มาพร้อมการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจทั้งภายนอก และภายใน โดดเด่นด้วยกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ภายในห้องโดยสารได้รับการยกระดับด้วยวัสดุคุณภาพดี และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย พร้อมระบบความปลอดภัยครบครัน

• ขุมพลัง : เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 / 3.0 ลิตร กำลัง 163/190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400/450 นิวตันเมตร
• ราคา : 762,000 – 1,352,000 บาท

7. GMW POER Sahar HEV

GMW สร้างความแปลกใหม่ให้วงการรถกระบะด้วย POER Sahar HEV รถกระบะไฮบริดที่ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับความแกร่งได้อย่างลงตัว ดีไซน์ภายนอกเน้นความดุดันสไตล์รถออฟโรด พร้อมห้องโดยสารที่หรูหราและทันสมัย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่แรงได้ดั่งใจ 

• ขุมพลัง : ระบบไฮบริด เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรเทอร์โบ + มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังรวม 350 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 616 นิวตันเมตร
• ราคาคาดการณ์: 1,189,000-1,389,000 บาท

8. RIDDARA RD6

RIDDARA RD6 นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในตลาดรถกระบะไทย ด้วยการเป็นกระบะไฟฟ้า 100% ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัย และสมรรถนะระดับพรีเมียม ตัวรถได้รับการออกแบบให้มีเอกลักษณ์โดดเด่น ผสานความสปอร์ตเข้ากับความเป็นรถกระบะได้อย่างลงตัว พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะที่ตอบโจทย์การใช้งานยุคใหม่

• ขุมพลัง : มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 272/428 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385/595 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ 63/73/86 kWh
• ราคา : 899,000 – 1,299,000 บาท

9. BMW X3 2025

BMW X3 โฉมใหม่ล่าสุดยกระดับความหรูหรา และสมรรถนะให้น่าทึ่งยิ่งขึ้น ด้วยการผสานเทคโนโลยีไมลด์ไฮบริด 48V เข้ากับเครื่องยนต์ดีเซลประสิทธิภาพสูง พร้อมปรับปรุงดีไซน์ใหม่ทั้งภายนอก และภายในให้หรูหราทันสมัยยิ่งขึ้น มาพร้อมระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมครบครัน

• ขุมพลัง : เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร + ไมลด์ไฮบริด 48V กำลังรวม 197 แรงม้า
• ราคาคาดการณ์ : 3.5 – 3.9 ล้านบาท

10. AION V

AION V เป็นรถเอสยูวีไฟฟ้าจากจีนที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย และดีไซน์โฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยระยะวิ่งที่ไกลที่สุดในกลุ่ม และเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ทันสมัย ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยวัสดุคุณภาพสูง และมาพร้อมระบบอำนวยความสะดวกแบบจัดเต็ม

• ขุมพลัง : มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 204 แรงม้า พร้อมแบตเตอรี่ 75.3 kWh
• ราคา : 999,900 บาท

สรุปบทความ

ต้องบอกว่าปี 2025 นี้ จะเป็นปีที่เราได้เห็นรถรุ่นใหม่ ๆ วิ่งกันเต็มถนนอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นขุมพลังไฮบริด ไฟฟ้าล้วน หรือแม้เครื่องยนต์เทอร์โบ ซึ่งแน่นอนว่าการเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดี ก็เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้ เพราะรถสมรรถนะสูงเหล่านี้ มีแรงบิดได้การออกตัวมหาศาล ซึ่งยางรถยนต์ PIRELLI อย่างรุ่น PIRELLI P ZERO ก็เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่ตอบโจทย์ และมีให้เลือกตั้งแต่ยางขอบ 18 ไปจนถึงขอบ 22 อย่างครบครัน อีกทั้งยังเป็นยาง OEM ติดรถจากโรงงานให้แบรนด์ชั้นนำมากมาย จึงมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพได้อย่างสบายใจ

PIRELLI ยางรถยนต์คุณภาพมาตรฐานระดับโลกที่อยู่คู่ท้องถนนมานานกว่า 152 ปี มาพร้อมกับการรับประกัน บาด บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี หรือ 25,000 กม. (เมื่อซื้อยางครบ 4 เส้น ทุกรุ่น ทุกขนาด และลงทะเบียนภายใน 14 วัน) 

10 อันดับ รถ EV ที่ขายดีที่สุดในปี 2022 เผยรถสัญชาติจีนมียอดจำหน่ายระดับท็อปถึง 7 รุ่น

พฤษภาคม 17, 2023

หลังจากที่เก็บข้อมูลกันมานานหลายเดือน ในที่สุดก็มีการเผยสถิติของยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถ EV ในปีที่ผ่านมาอย่างละเอียด ซึ่งจากผลที่ออกมา ในหลายๆ รุ่น ถือว่าเป็นไปตามคาด แต่สำหรับบางรุ่นที่เป็นม้ามืด ด้วยกระแสความนิยมที่ออกมา ทำให้เราสามารถคาดหมายได้ถึงอนาคตและทิศทางการพัฒนาในวงการรถ EV ได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งอาจส่งผลให้การแข่งขันในระดับโลก เป็นไปอย่างเข้มข้นมากขึ้นในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า

Tesla ยังคงครองเจ้าตลาด

จากสถิติ…ชี้ให้เห็นว่า Tesla ยังคงเป็นแบรนด์รถ EV ที่ได้รับความนิยมเป็นลำดับต้นๆ แม้ว่าหลายๆ โมเดล จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวมานานพอสมควร และในบางรุ่น เช่น Tesla Model 3 มีแพลนที่จะเปิดตัวรุ่น Minorchange ในอนาคตอันใกล้ โดย Tesla Model Y เป็นรถ EV ที่ขายดีที่สุดในโลกในปีที่ผ่านมา โดยทำยอดขายทั่วโลกได้ถึง 747,500 คัน โดยตัวเลขดังกล่าว ถือว่ามีการเติบโตถึง 91% เมื่อเทียบกับยอดขายในปี 2021 โดย 44% ของยอดขายทั้งหมด เป็นรถที่ขายได้ในจีน, ฮ่องกง และใต้หวัน ขณะที่ยอดขายในฝั่งอเมริกาเหนือ คิดเป็น 34% ตามมาด้วย 19% ในยุโรป (เติบโต 416% เมื่อเทียบกับปีก่อน) ส่วนยอดขายในเอเซียแปซิฟิก อยู่ที่ 13,400 คัน และอัตราส่วนรวมทั้งในเกาหลี – ญี่ปุ่น จะอยู่ที่ 9,600 คัน

แบรนด์จีน…ตีตื้นในระดับ Top ได้อย่างน่าสนใจ 

ส่วนอันดับที่ 2 เป็นคู่แฝดต่างสไตล์อย่าง Tesla Model 3 ที่่ขายได้ 482,200 คัน (ลดลง -3% โดยอัตราส่วนการขายในอเมริกาเหนืออยู่ที่ 47%, ในจีน ฮ่องกง และใต้หวัน 28% และในยุโรป 19%) ซึ่งเฉือนอันดับที่ 3 อย่าง Wuling Hongguang Mini EV ไปเพียง 38,800 คัน เท่านั้น ส่วนรถ EV ที่มียอดขายเติบโตมากที่สุดในปีที่ผ่านมา คือ BYD Dolphin ซึ่งหากเทียบกับในปี 2021 แล้ว สามารถทำยอดขายเพิ่มได้ถึง 916% ในจำนวนรวม 205,200 คัน และปิดท้ายใน Top 5 ด้วย BYD Atto 3 ที่ขายได้ทั้งสิ้น 180,600 คัน (แค่ในประเทศไทย…ก็กว่า 10,000 คัน แล้ว)

Wuling Hongguang Mini EV ตัวแทนหมู่บ้านฝั่งจีน ที่เน้นทำตลาดในค่าตัวที่เข้าถึงได้ง่าย

7 จาก 10 รุ่น ในลิสต์…ล้วนเป็นรถจากจีน ที่ทำราคาได้ดี และมีความพร้อมในการส่งมอบมากกว่า

หากมองใน 10 อันดับแรก ของรถ EV ที่มียอดขายสูงที่สุดในปี 2022 จะพบว่า มีรถสัญชาติจีนถึง 7 รุ่น ที่ติดอันดับใน Top 10 ชี้ให้เห็นว่า ประเทศจีนนั้น ถือเป็นตลาดรถ EV ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยระดับความนิยมที่มากขึ้น จากการแข่งขันในเรื่องเทคโนโลยี รวมถึงการวางราคาในระดับที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย จนมีการคาดหมายกันว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีน จะถูกส่งไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ด้วยการแข่งขันในด้านราคา รวมถึงความพร้อมในการส่งมอบที่ทำได้เหนือกว่าทางฝั่งยุโรป

EV ฝั่งยุโรป ติดโผเพียงรุ่นเดียวใน Top 10

Volkswagen ID.4 เป็นเพียงรุ่นเดียวจากแบรนด์ยุโรปที่ติดอยู่ในโผ Top 10 ของปี 2022 โดยมียอดขายอยู่ที่ 175,600 คัน (+53% โดย 47% ของจำนวนทั้งหมด เป็นรถที่จำหน่ายใน จีน ฮ่องกง และใต้หวัน, 39% ขายได้ในยุโรป และ 13% ในอเมริกาเหนือ) ตามมาห่างๆ ด้วยเพื่อนร่วมค่ายอย่าง Volkswagen ID.3 ซึ่งทำยอดขายได้เพียง 77,900 คัน (เพิ่มขึ้นเพียง 4%) โดยรถ EV ฝั่งยุโรป ที่มี % การเติบโตมากที่สุดในปีที่ผ่านมาก็คือ Volvo XC40 ที่ขายได้มากขึ้นจากปีก่อนถึง 80% ในจำนวน 43,300 คัน

Hyundai Ioniq 5 เป็นรถ EV จากเกาหลี ที่ขายดีที่สุดในปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราส่วนการเติบโตถึง 121%