ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
เผย 10 อันดับรถหรูในไทย ปี 2024 คันไหนที่คุณชอบที่สุด

รวบรวม 10 อันดับ รถที่แพงที่สุดในไทย ปี 2024 ซึ่งมีวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยและไม่ใช่รุ่นพิเศษประเภทจำกัดจำนวนหรือผลิตน้อยมีไม่กี่คันในโลก แม้รถหรูบางรุ่นจะถูกจองไปหมดแล้ว หรือบางรุ่นต่อให้ถือเงินสดเดินเข้าไปซื้อในโชว์รูมก็ยังไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ถ้าไม่ได้รับอนุญาตให้ซื้อ เพราะถูกสงวนสิทธิ์ไว้สำหรับลูกค้าระดับ A ลิสต์ ดังนั้น หากพบเห็นรถยนต์แบรนด์เหล่านี้ หรือแม้กระทั่งมีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกันวิ่งบนถนน ให้อยู่ห่าง ๆ ไว้ก่อนจะดีกว่า เพราะดูจากราคาไม่ธรรมดาแน่นอน ส่วนจะแพงระดับไหนไปชมกันเลย
10 อันดับรถหรูในไทย ปี 2024
1.Ferrari Thailand

Ferrari มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี โดยบริษัท Ferrari S.p.A. ถูกก่อตั้งโดย Enzo Ferrari ในปี 1947 มีชื่อเสียงจากวงการรถแข่ง ก่อนจะพัฒนามาสู่วงการยานยนต์ที่เห็นขับขี่ตามท้องถนนในปัจจุบัน แต่ถึงกระนั้นสำหรับในประเทศไทยยังหาดูได้ยาก เนื่องจากราคาค่าตัวจะค่อนข้างสูง รวมถึงภาษีนำเข้าที่สูงด้วย จึงทำให้มีการนำเข้ามาขายเพียงไม่กี่คัน เป็นลักษณะ Import by Order ก็คือหากมีการสั่งซื้อจึงทำการนำเข้าเท่านั้น สำหรับ Ferrari รุ่นล่าสุดได้แก่ SF90 XX มีราคาเริ่มต้นที่ 30,500,000 บาท สำหรับรุ่น Stradale coupe และ 34,000,000 บาท สำหรับรุ่น Spider
2.Lamborghini Thailand

ต้องบอกว่าอิตาลี เป็นหนึ่งในศูนย์กลางรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพสูงแห่งหนึ่งของโลก เพราะมีรถยนต์หลากหลายแบรนด์ดังที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี แม้แต่ Lamborghini ที่ได้รับฉายา ‘กระทิงดุ’ ก็มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลีด้วยเช่นกัน … Lamborghini ถูกก่อตั้งในปี 1963 ส่วนที่มาของการเกิดรถลัมโบกินี่นี้มาจากเจ้าของรถที่ครอบครองเฟอร์รารี่อยู่รู้สึกว่าไม่พอใจเกี่ยวกับความสะดวกสบายในการใช้งานรถจึงตัดสินใจที่จะสร้างซุปเปอร์คาร์ที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ เลยเป็นจุดกำเนิดรถซุปเปอร์คาร์ที่มีนามว่า Lamborghini โดยรุ่นที่ผลิตขึ้นมาเป็นรุ่นแรก คือ Lamborghini 350 GT ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 1964 สำหรับ Lamborghini รุ่นล่าสุดที่มีการเปิดตัวในปลายปี 2023 ได้แก่ Lamboghini Urus Performante ซึ่งมีค่าตัวอยู่ที่ 25,490,000 บาท
3.McLaren Thailand

ข้ามไปดูแบรนด์รถหรูจากเกาะอังกฤษดูบ้างกับแบรนด์ McLaren หนึ่งเดียวที่เป็นซุปเปอร์คาร์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งเดิมที McLaren เองก็เหมือนกับเฟอรร์รารี่ที่ผลิตรถยนต์มาเพื่อการแข่งขัน และได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ภายหลังจากการเสียชีวิตของ บรูซ แม็คลาเรน ในปี 1970 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยนักธุรกิจชาวอังกฤษได้เข้ามาเทคโอเวอร์บริษัท พร้อมกับมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ไปใช้ปอร์เช่และฮอนด้า
ทั้งยังได้นักแข่งอย่าง ไอร์ตัน เซนน่า มาร่วมทีม McLaren ประกาศศักดาด้วยการคว้าแชมป์จำนวนมาก พอมาถึงช่วงก่อนกลางปี 1990 ทีมเริ่มประสบปัญหา ผนวกกับฮอนด้าขอถอนตัว ทำให้ McLaren ค่อนๆ เลือนตัวหายไปจากวงการแข่งรถ จนกระทั่งปี 2009 ได้มีการนำ McLaren กลับมาปัดฝุ่นใหม่ภายใต้รหัส MP4-12C ที่พลิกวงการรถแข่งด้วยการใช้วัสดุคาร์บอนเป็นตัวถัง ก่อนที่จะนำมาพัฒนาให้สามารถเป็นรถที่ใช้วิ่งบนท้องถนนแบบปกติ ซึ่งรถ McLaren รุ่นใหม่ล่าสุดคือรุ่น McLaren GTS ปี 2024 ซึ่งคาดว่าจะมีราคาประมาณ 15,500,000 บาท สหรัฐ
4.Aston Martin Thailand

แอสตันมาร์ติน อีกหนึ่งแบรนด์รถหรูจากประเทศอังกฤษ ก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ.1913 โดยนักธุรกิจนามว่า ลีโอเนล มาร์ติน และโรเบิร์ต แบมฟอร์ด แบรนด์ของแอสตันมาร์ตินโด่งดังและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง นั่นก็เพราะรถยนต์แบรนด์นี้เป็นหนึ่งในยานพาหนะของพระเอกยอดนักสืบ เจมส์ บอนด์ 007 ที่มักปรากฎโฉมให้เห็นในหลาย ๆ ตอน โดยรถมาพร้อมกับอาวุธและเทคโนโลยีที่ทันสมัย หลังจากเปิดตัวรถได้ไม่นาน
บริษัทต้องผจญกับปัญหาสงครามโลกครั้งที่ 1 จากนั้นไม่นาน โรเบิร์ต แบมฟอร์ดหนึ่งในผู้ก่อตั้งได้ทำการถอนตัวและมีนายทุนใหม่เข้ามาสนับสนุนจนสามารถเดินสายการผลิตรถต่อได้และสร้างสถิติมากมาย จนกระทั่งบริษัทเกิดล้มละลายและมีทุนใหม่เข้ามาซื้อกิจการพร้อมกับการถอนตัวของ ลีโอเนล มาร์ติน ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนมือผู้บริหารสลับไปมาจนกระทั่งผู้บริหารโปรไดรฟ์ เดวิด ริชาร์ดส์ ได้เข้าซื้อกิจการในปี ค.ศ.2007 พร้อมกับพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน โดยรถ Aston Martin ตัวล่าสุดเป็นรุ่น Aston Martin DB12 Volante ที่มีการเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2024 ในราคา 24.9 ล้านบาท
5.Mercedes-Benz Thailand

Mercedes-Benz ชื่อนี้หลายคนคงคุ้นเคยและรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นรถหรูในราคาย่อมเยาแบรนด์ดังจากเยอรมนี สามารถพบเห็นได้ง่ายเพราะมีหลายรุ่นที่ราคาจับต้องได้ Mercedes-Benz ก่อตั้งโดย Karl Benz และ Gottlieb Daimler ในปี 1883 โดยเริ่มต้นด้วยการผลิตรถยนต์แบบมอเตอร์ไซค์และรถม้าที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน Mercedes-Benz เริ่มเป็นที่รู้จักและมีการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์อย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เพิ่มเข้าไปเป็นออฟชันที่ดูล้ำกว่าแบรนด์รถอื่น ๆ เสมอ จึงทำให้ Mercedes-Benz มียอดขายเพิ่มมากขึ้นในทุกประเทศทั่วโลก Mercedes-Benz ยังมีจำแนกแยกเป็นรุ่นย่อย ๆ แยกออกเป็น Class เช่น Class A, C, E, S ในรถรุ่นซีดาน และยังมีในส่วนของรถ SUV อีกหลายรุ่นไม่ว่าจะเป็น EQB, EQE, GLA, GLCและ GLE สำหรับ Mercedes-Benz รุ่นที่หรูและมีราคาแพงที่สุดคือรุ่น Mercedes-Maybach GLS มีราคาเริ่มต้น 18.98 ล้านบาท
6.BMW Thailand

BMW หรือ Bayerische Motoren Werke เป็นบริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1916 โดย Karl Rapp และ Gustav Otto ในเมืองมิวนิก รัฐบาวาเรีย บริษัท BMW ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน รถยนต์ BMW เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีความโดดเด่นเรื่องสมรรถนะ เทคโนโลยี และการออกแบบที่มีอัตลักษณ์ BMW เป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีรุ่นรถแบ่งออกเป็น 3 เซกเม้นท์หลัก ๆ ได้แก่ Series 3 , 5 และ 7 แต่ละเซกเม้นท์ก็จะมีรุ่นย่อยที่แบ่งออกไปอีก โดยในซีรี่ย์ 3 จะเป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กสุด ในขณะที่ซีรี่ย์ 7 เป็นรุ่นที่ใหญ่ที่สุด นอกจากนี้ยังมีในส่วนของซีรี่ย์ I ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ โดยรถ BMW ที่มีเปิดตัวล่าสุด คือ รุ่น BMW XM Label Red ราคา 17,499,000 บาท
7.Audi Thailand

Audi เป็นผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติเยอรมันซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมืองอิงโกลสตัดท์ รัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี Audi เป็นสมาชิกของกลุ่ม Volkswagen ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในโลก บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1909 โดย August Horch ในชื่อ Audi Automobilwerke GmbH โดยในปี 1932 Audi ได้รวมกิจการกับ DKW, Horch และ Wanderer เพื่อก่อตั้ง Auto Union AG ก่อนที่ในปี 1965 Volkswagen ได้เข้าซื้อกิจการ Auto Union
ซึ่งโลโก้ปัจจุบันของ Audi เป็นสัญลักษณ์สี่วงแหวน แสดงถึงบริษัทดั้งเดิม 4 แห่ง ที่ควบรวมกิจการเป็น Auto Union Audi ขึ้นชื่อในเรื่องรถยนต์หรูหรา รถยนต์ของ Audi มักเกี่ยวข้องกับสมรรถนะและเทคโนโลยีระดับสูง ทั้งยังเป็นทีมมอเตอร์สปอร์ตรายใหญ่ที่สามารถคว้าแชมป์หลายรายการใน Formula One, World Rally Championship และ 24 Hours of Le Mans โดยค่าตัวเริ่มต้นของรถ Audi TT RS Coupe Quattro เริ่มต้นที่ 5.299 ล้านบาท
8.Porsche Thailand

Porsche เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1931 โดย Ferdinand Porsche อดีตวิศวกรที่เคยร่วมงานกับ Mercedes-Benz เดิมทีเป็นบริษัทผลิตรถยนต์สปอร์ตและรถแข่ง ปัจจุบันได้ผลิตรถยนต์นั่งและรถอเนกประสงค์ด้วย สำหรับรถยนต์ที่สร้างชื่อเสียงให้กับ Porsche ได้แก่ รถรุ่น 911 ซึ่งเผยโฉมครั้งแรกในปี 1963 พร้อมกับพัฒนาจนมาถึงในรุ่นปัจจุบัน จนกลายเป็นหนึ่งในรถสปอร์ตที่หลายคนใฝ่ฝันได้ครอบครอง Porsche รุ่นใหม่ที่มีจำหน่ายล่าสุดในปี 2024 คือ Cayenne S ซึ่งเป็นรถ SUV ที่มีความสวยงามและสมรรถนะดีเยี่ยม ราคาเริ่มต้น 10,800,000 บาท
9.Lexus

Lexus เป็นยี่ห้อรถยนต์หรูสัญชาติญี่ปุ่น ผลิตโดยบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1989 ถือว่าเป็นรถยนต์จากค่ายญี่ปุ่นเพียงค่ายเดียวที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นรถหรูราคาแพงที่ใครก็ต่างหมายปอง โตโยต้ามีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนารถยนต์นั่งให้มีความหรูหรา สวยงาม เทียบเท่ากับรถยนต์สัญชาติยุโรปและอเมริกัน หากไม่นับในส่วนของรถสปอร์ตอื่น ๆ ภายใต้รหัส Lexus LS 400 ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นแรกของบริษัท Lexus ได้ถูกจำหน่ายมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก
โดยตลาดหลักที่สำคัญของ Lexus จะเป็นตลาดรถอเมริกา ทาง Lexus มีการผลิตรถยนต์หลากหลายประเภท ทั้งรถยนต์นั่ง รถเอสยูวี และรถสปอร์ต Lexus เป็นที่รู้จักด้วยความโดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การออกแบบที่หรูหราและคุณภาพที่ยอดเยี่ยม โดยรถยนต์ Lexus รุ่นใหม่ล่าสุดที่มีจำหน่ายในปี 2024 คือ LM 500h Executive 4-Seater รูปทรงเหมือน Alphard แต่มีเพียง 4 ที่นั่ง ภายในตกแต่งหรูหราด้วยคอนเซปต์ Luxury สนนราคาเริ่มต้น 8,290,000 บาท
10.Rolls-Royce

Rolls-Royce Motor Cars Limited เป็นรถที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งสถาปัตยกรรมของความหรูหราและยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบ Rolls-Royce เป็นผู้ผลิตรถยนต์หรูสัญชาติอังกฤษ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1906 โดย Charles Rolls และ Henry Royce เดิมทีบริษัทผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบินและเรือ ต่อมาได้หันมาผลิตรถยนต์หรู ในปี ค.ศ. 1998 บริษัทได้ถูกซื้อโดย BMW AG และผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ Rolls-Royce และ Bentley Rolls-Royce ออกวางจำหน่ายมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
นอกจากรถยนต์ที่มีความหรูหราแล้ว สัญลักษณ์ของ Rolls-Royce ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะนอกจากอัตลักษณ์ด้านรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครแล้ว ยังทรงคุณค่าและความสวยงาม ทำให้รถดูหรูหราขึ้นไปอีกระดับกับ Spirit of Ecstasy หรือ เทพีนำโชค ที่เป็นสัญลักษณ์ยืนประดับอยู่บนหน้ากระโปรงของรถทุกคัน สำหรับ Rolls-Royce รุ่นใหม่ล่าสุดที่คาดว่าจะมีจำหน่ายในปี ค.ศ.2024 นี้ คือ Rolls-Royce SPECTRE ยนตรกรรมระดับ Ultra-luxury ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% โดยมีราคาเริ่มต้น 31,800,000 บาท

10 อันดับรถหรู ที่แพงที่สุด ในปี 2024
เปิดบทความแรกสำหรับปี 2024 ปีใหม่ที่ทุกคนลอยคอ รอคอย สำหรับการสำรวจรถรุ่นล่าสุด รถหรูหราที่สุดจากผู้ผลิตรถยนต์หรูหราที่มีชื่อเสียง จัดแสดงเทคโนโลยีล้ำสมัย สมรรถนะ และการตกแต่งภายในที่หรูหรา ที่มีราคาแพงสูงลิบ ที่น้อยคนนักที่จะมีในครอบครองกัน ด้วยราคาสุดโหด มีแต่บรรดาสุลต่านเท่านั้นที่มีกำลังซื้อ
ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า ปี 2024 นี้มีรถอะไรน่าลองขับมาเช่าดูบ้าง ไม่มีปัญญาซื้อแต่ได้เช่ามาลองขับดูสักวันก็ยังดี
Bugatti La Voiture Noire: สุดยอดแห่งความหรูหรา

Bugatti La Voiture Noire เป็นผลงานชิ้นเอกของวิศวกรรมยานยนต์และความหรูหรา La Voiture Noire ซึ่งโดดเด่นด้วยรูปทรงเพรียวบางและแอโรไดนามิก รถคันนี้โดดเด่นด้วยสุนทรียภาพของบูกัตติที่มีเอกลักษณ์และไม่ผิดเพี้ยน ผสมผสานความทันสมัยเข้ากับมรดกอันยาวนานของแบรนด์
และด้วยเครื่องยนต์ Quad-turbo W16 ที่ให้กำลังม้าได้อย่างน่าประหลาดใจ ไฮเปอร์คาร์คันนี้มีความเร็วที่สูงมาก ทำให้จัดว่าเป็นรถสปอร์ตหรู ที่มีความเร็วสูง และมีความหรูหรา
Bugatti ผลิต La Voiture Noire เพียงคันเดียว การผลิตจำนวนจำกัดช่วยเพิ่มความพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่มีใครเทียบได้ ทำให้เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เป็นที่ต้องการและน่าสะสมมากที่สุดในโลกคันนึง
La Voiture Noire ใช้วัสดุที่ดีที่สุดและงานฝีมือที่พิถีพิถันมาบรรจบกันเพื่อสร้างพื้นที่ที่หรูหราและสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร การออกแบบภายในสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศของ Bugatti
Bugatii La Voiture Noire ราคา เท่าไหร่?
โดยรถ Bugatii La Voiture Noire นั้นแน่นอนว่าต้องแพงมากอยู่แล้ว เพราะ Bugatii ผลิตในจำนวนจำกัดและมีเพียงไม่กี่คันในโลก โดยราคาอยู่ที่ราวๆ 11ล้านยูโร หรือ “414ล้านบาท” แค่เห็นราคาก็อึ้งแล้ว
Rolls-Royce Sweptail: ผลงานชิ้นเอกที่สั่งทำเป็นพิเศษ

Rolls-Royce Sweptail คือการสร้างสรรค์ศิลปะยานยนต์ที่มีความพิเศษ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงจุดสุดยอดของความหรูหราและงานฝีมือที่สั่งทำพิเศษ ด้วยคุณค่าของงานฝีมือชิ้นนี้ จึงมีราคาที่สูงมาก น้อยคนนักที่จะมีรถคันนี้มาครอบครอง เพราะรถคันนี้เป็นรถสั่งทำแบบพิเศษ ออกแบบเฉพาะลูกค้าเท่านั้น
Sweptail โดยเน้นการปรับแต่งสำหรับลูกค้าเฉพาะราย ทุกแง่มุมของรถ ตั้งแต่การออกแบบภายนอกไปจนถึงรายละเอียดภายใน ได้รับการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันเพื่อตอบสนองความต้องการและความต้องการของเจ้าของรถ
Sweptail นำเสนอการผสมผสานระหว่างความสง่างามเหนือกาลเวลาและสุนทรียศาสตร์สมัยใหม่ ภายนอกของรถเป็นผลงานศิลปะ โดยมีหลังคาที่กว้างไกล ตัวถังอะลูมิเนียมที่ทำด้วยมือ และส่วนท้ายที่โดดเด่นชวนให้นึกถึงรุ่นโรลส์-รอยซ์สุดคลาสสิกและหรูหรา
ถ้าพูดถึงการออกแบบ ก็น่าจะมาจากรุ่นคลาสสิกของRolls-Royce ที่มีอิทธิพลต่อการสร้างสรรค์ผลงานของ Sweptail การผสมผสานระหว่างองค์ประกอบการออกแบบเหนือกาลเวลาเข้ากับสไตล์ร่วมสมัยทำให้เกิดรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น
ระดับของงานฝีมือและศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการสร้าง Sweptail ตั้งแต่เบาะหนังเย็บด้วยมือไปจนถึงการตกแต่งรายละเอียดด้วยแผ่นไม้อัดไม้อย่างประณีต ทุกองค์ประกอบถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงทักษะและความทุ่มเทของช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ของ Rolls-Royce
Rolls-Royce Sweptail ราคา เท่าไหร่?
แน่นอนว่ารถที่เป็นงานฝีมือ สั่งผลิตและออกแบบเฉพาะลูกค้านั้นจะต้องมีราคาที่สูง และมีแค่ไม่กี่คันในโลกเท่านั้น Sweptail มีคุณค่าทางด้านศิลปะและตำนานของ Rolls-Royce ราคาจะอยู่ที่ 13ล้านดอลล่า หรือเงินไทยบาทก็คือ “444ล้านบาท”
Lamborghini Sian FKP 37: Marvel Hybrid ราคาสุดโหด

Lamborghini Sian FKP 37 เป็นไฮเปอร์คาร์ไฮบริดที่ก้าวล้ำ ไม่เพียงแต่ก้าวข้ามขีดจำกัดของความเร็วเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกถึงการเข้าสู่ยุคไฮบริดของ Lamborghini อีกด้วย
ในฐานะไฮเปอร์คาร์ไฮบริดปฏิวัติวงการรถหรู มันมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Lamborghini และบทบาทของมันในฐานะรถยนต์โปรดักชั่นไฮบริดคันแรกของแบรนด์
ระบบส่งกำลังไฮบริดที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sian FKP 37 ซึ่งรวมเครื่องยนต์ V12 เข้ากับระบบไฮบริดอ่อนที่ใช้ซุปเปอร์คาปาซิเตอร์ เน้นย้ำหน่วยวัดสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ Sian FKP 37 ซึ่งแสดงให้เห็นแรงม้า ความเร่ง และความเร็วสูงสุดที่สุดยอด
การออกแบบของตัวรถ และการดีไซน์ความสวยงามของ Sian FKP 37 โดยเน้นสไตล์ดุดัน ล้ำสมัยอันเป็นเอกลักษณ์ของ Lamborghini
รถคันนี้ผลิตโดยเฉพาะจึงมีเพียงแค่ไม่กี่คันในโลกและผลิตจำนวนที่จำกัด มันจัดเป็นรถที่น่าสะสมมากกว่า
Lamborghini Sian FKP 37 ราคา เท่าไหร่?
Lamborghini Sian FKP 37 เป็นรถไฮเปอร์คาร์ไฮบริดที่สวยงามและทรงพลัง และมีการผลิตที่จำกัดเฉพาะกลุ่มลูกค้า จึงทำให้มีราคาที่สูงมาก จำหน่ายอยู่ที่ราวๆ 3ล้านปอนด์ หรือเงินไทยบาทราวๆที่ “130ล้านบาท”
Aston Martin Valhalla: ซุปเปอร์คาร์แห่งอนาคต

เวลาผ่านไปประมาณสามปีครึ่งนับตั้งแต่ Aston Martin ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษเผยโฉมรถต้นแบบ AM-RB 003 ในงาน Geneva Motor Show 2019 ฤดูร้อนที่แล้ว รายละเอียดเบื้องต้นของเวอร์ชันการผลิตที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งต่อมาได้รับการขนานนามว่า “Valhalla”
Valhalla เป็นซุปเปอร์คาร์ที่แหวกแนวซึ่งแสดงถึงจุดสุดยอดของวิศวกรรมและการออกแบบยานยนต์ ซึ่งเป็นซุปเปอร์คาร์ล้ำสมัยที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดมาตรฐานใหม่ของสมรรถนะ เทคโนโลยี และการออกแบบในอุตสาหกรรมยานยนต์
เจาะลึกระบบส่งกำลังเครื่องยนต์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของ Valhalla ซึ่งโดยทั่วไปจะมีระบบไฮบริดที่ผสมผสานเครื่องยนต์สันดาปภายใน (เครื่องยนต์ที่มีการระเบิดหรือเผาไหม้ส่วนผสมของเชื้อเพลิง) ประสิทธิภาพสูงเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า
การออกแบบ Valhalla โดยเน้นล้ำอนาคตที่เพิ่มแรงกดสูงสุดและลดการลากให้เหลือน้อยที่สุด โดยเน้นเทคโนโลยีขั้นสูงที่รวมอยู่ใน Valhalla เช่น ระบบสาระบันเทิงที่ล้ำสมัย คุณสมบัติช่วยเหลือผู้ขับขี่ เป็นต้น
Aston Martin Valhalla ราคา เท่าไหร่?
สิ่งหนึ่งที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำหรับ Aston Martin Valhalla ปี 2024 คือราคาเริ่มต้นที่ “ไม่ต่ำกว่า 800,000 ดอลลาร์” ลูกค้าจะเริ่มสั่งซื้อรถตั้งแต่ปี 2566 ก่อนส่งมอบในปี 2567 โดยมียอดการผลิตอยู่ที่ 999 คันในโลกเท่านั้น ซึ่งตีเป็นเงินไทยอยู่ที่ราวๆ “27ล้านบาท”
Ferrari Pininfarina Battista: ปฏิวัติรถไฟฟ้า

Ferrari Pininfarina Battista คือไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่ก้าวล้ำซึ่งแสดงถึงการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในแง่ของสมรรถนะ การออกแบบ และความยั่งยืน
ต้นกำเนิด Pininfarina บริษัทออกแบบรถชั้นนำจากอิตาลีได้นำเสนอรถ Hypercar EV ระดับสุดยอดของพวกเขาในชื่อว่า “Pininfarina Battista” โดยชื่อนี้ตั้งให้เพื่อเป็นเกียรติแก่นักออกแบบ Battista Farina หรือผู้ก่อตั้งบริษัท Pininfarina S.p.A นั่นเอง
ในฐานะไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่บุกเบิก โดยเน้นประวัติศาสตร์ความเป็นมาของ Ferrari ในฐานะรถยนต์ที่ผลิตด้วยไฟฟ้าคันแรกของแบรนด์ Ferrari
ความร่วมมือระหว่าง Ferrari และ Pininfarina ในการออกแบบ Battista โดยเน้นการผสมผสานระหว่างความเป็นเลิศด้านแอโรไดนามิก สุนทรียภาพแห่งอนาคต และองค์ประกอบการออกแบบคลาสสิกของ Ferrari
ระบบส่งกำลังไฟฟ้าของ Battista ด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ล้ำสมัยและมอเตอร์ไฟฟ้า เน้นตัวชี้วัดประสิทธิภาพที่น่าทึ่งของ Battista รวมถึงแรงม้า เวลาเร่งความเร็ว และความเร็วสูงสุด
Pininfarina Battista นั้นขุมพลังเป็นแบบ EV ไฟฟ้า 100% ปล่อยค่ามลพิษเป็นศูนย์ สามารถวิ่งระยะทางสูงสุด 450 กิโลเมตร พละกำลังสูงสุดได้ 1,900 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 2,300 นิวตันเมตร ให้มาตั้งแต่เริ่มเหยียบคันเร่ง อัตราเร่ง 0-100 ต่ำกว่า 2.0 วินาที 0-300 ต่ำกว่า 12.0 วินาที และความเร็วสูงสุดทะลุ 350 กิโลเมตร/ ชั่วโมง ด้วยสมรรถนะระดับนี้ถือว่าก้าวข้ามรถแข่ง F1 ได้อย่างสบาย
รถไฟฟ้า Battista ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียวและเทคโนโลยีการชาร์จขั้นสูงที่รวมอยู่ในไฮเปอร์คาร์ Ferrari จัดการกับข้อกังวลทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ไฟฟ้า เช่น ระยะทางสูงสุดในการขับขี่
ความพิเศษของ Battista โดยเน้นย้ำถึงจำนวนการผลิตที่จำกัดเพียง 150 คันเท่านั้นโดยเน้นที่กลุ่มที่ชื่นชอบการสะสมรถหรู จึงทำให้มีราคาที่สูง Battista ผสมผสานความหรูหราและประสิทธิภาพขั้นสูงเข้ากับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
Ferrari Pininfarina Battista ราคา เท่าไหร่?
ไฮเปอร์คาร์อย่าง Pininfarina Battista รุ่นนี้จะพร้อมส่งให้กับลูกค้าที่จับจองไว้ในปี 2020 มาในจำนวนจำกัดเพียง 150 คันเท่านั้น ทุกคันจะผลิตด้วยมือที่โรงงาน Turin ประเทศอิตาลี ราคาราวๆ 2.2 ล้านดอลล่า ตีเป็นเงินไทยราวๆ “75ล้านบาท”
Pagani Huayra Tricolore: รถหรูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ค้นพบ Pagani Huayra Tricolore รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความพิเศษเฉพาะตัวและวิศวกรรมที่แม่นยำ โดดเด่นด้วยองค์ประกอบการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงความเคารพต่อทีมนักผาดโผนชาวอิตาลี
Pagani Huayra Tricolore เป็นไฮเปอร์คาร์รุ่นลิมิเต็ดที่สะท้อนถึงความพิเศษเฉพาะตัว งานฝีมือ และจิตวิญญาณแห่งการบิน ปิดตัว Pagani Huayra Tricolore เพื่อเป็นเกียรติแก่วันครบรอบ 60 ปีของทีมผาดโผนกองทัพอากาศอิตาลี Frecce Tricolori
ตอกย้ำความพิเศษของ Huayra Tricolore เน้นจำนวนการผลิตที่จำกัดอย่างยิ่ง ที่ผลิตเพียงแค่ 3 คันในโลกเท่านั้น โดยทั้งสามคันนี้จะมีรายละเอียดแตกต่างกันตามลูกค้าของแต่ละคน
คุณสมบัติแอโรไดนามิกของ Huayra Tricolore ซึ่งจัดแสดงแอโรไดนามิกขั้นสูงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีการบิน การออกแบบภายนอกของ Huayra Tricolore โดยเน้นองค์ประกอบที่สั่งทำพิเศษและรายละเอียดงานฝีมือที่ทำให้แตกต่าง การตกแต่งภายในของ Huayra Tricolore โดยเน้นการออกแบบ วัสดุ และการตกแต่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการบิน
วิศวกรรมประสิทธิภาพสูงที่เป็นจุดเด่นของ Huayra Tricolore ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลัง ความเร็ว และความสามารถในการควบคุม การใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในการสร้าง Huayra Tricolore ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Pagani ในการสร้างวัสดุน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงสูง
ด้านขุมพลังใช้เครื่องยนต์ แบบเทอร์โบคู่ V12 ทำมุม 60 องศา 36 วาล์ว ขนาดความจุ 5,980 ซีซี จากทาง Mercedes-AMG มีการปรับจูนที่ถือว่าแรงสุดในบรรดา Huayra ทุกรุ่น ด้วยกำลังระดับ 840 แรงม้า ที่ 5,900 รอบ/นาที แรงบิดมหาศาล 1,100 นิวตัน-เมตร มาตั้งแต่ 2,000-5,600 รอบ/นาที เชื่อมด้วยระบบเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 7 สปีด จากทาง Xtrac และใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง โดยยังไม่มีการเปิดเผยประสิทธิภาพอัตราเร่ง และความเร็วสูงสุดออกมา
Pagani Huayra Tricolore ราคา เท่าไหร่
Huayra Tricolore ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 3 คันเท่านั้น และขายหมดเกลี้ยงไปเรียบร้อย โดยทั้ง 3 คันจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันไปตามลูกค้าแต่ละคน ขายไปด้วยราคาตั้งไว้ที่ 5.5ล้านยูโร หรือตีเป็นเงินไทยราวๆ “206 ล้านบาท” กว่าๆ
Koenigsegg Jesko Absolut: จรวดทางเรียบ ทะลุกำแพงความเร็ว

Koenigsegg Jesko Absolut ไฮเปอร์คาร์ที่ออกแบบมาเพื่อความเร็วและสมรรถนะอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างสถิติความเร็วใหม่และมอบประสบการณ์การขับขี่ที่หรูหราไร้ที่ติ
Koenigsegg Jesko Absolut คือไฮเปอร์คาร์สุดพิเศษที่ยกระดับการแสวงหาความเร็วสูงสุดไปสู่อีกระดับหนึ่ง ขอแนะนำ Jesko Absolut ซึ่งเป็นไฮเปอร์คาร์ที่ออกแบบมาอย่างชัดเจนเพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดที่น่าทึ่ง โดยคาดการณ์ว่ามันสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 500+ กิโลเมตร/ชั่วโมง ซึ่งเหนือกว่า Chiron Super Sport ที่ทำได้ 490.48 กิโลเมตร/ชั่วโมง นั่นอาจทำให้ Jesko Absolut ขึ้นแท่นรถยนต์คันแรกในประวัติศาสตร์ ที่ทำความเร็วทะลุ 500 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ด้วยคุณสมบัติแอโรไดนามิกของ Jesko Absolut โดยเน้นย้ำว่า Koenigsegg จัดลำดับความสำคัญของการออกแบบที่คล่องตัวเพื่อลดการลากและเพิ่มเสถียรภาพสูงสุด ด้วยเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่และแรงม้าอันน่าทึ่ง โครงสร้างออกแบบมาให้น้ำหนักเบา ที่มีส่วนช่วยให้มีอัตราเร่งสูงสุด การใช้คาร์บอนไฟเบอร์และวัสดุขั้นสูงอื่นๆ เพื่อให้รถมีความคล่องตัวอีกด้วย
การออกแบบภายในของ Jesko Absolut เน้นความสมดุลระหว่างสมรรถนะและความสะดวกสบาย
Koenigsegg Jesko Absolut ราคาเท่าไหร่
โดย Koenigsgg Jesko Absolut จำหน่ายที่อยู่ 3 ล้านดอลล่าห์ หรือตีเป็นเงินไทยราวๆ “102ล้านบาท” ไม่รวมภาษี
อย่างไรก็ตาม Jesko Absolut มีลูกค้าจากทั่วโลกจองหมดแล้วตั้งแต่ก่อนการเปิดตัวในประเทศไทยทำให้ตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทยไม่ได้รับโควต้าในการจำหน่ายซึ่งหากจะจำหน่ายคาดว่าจะมีราคารวมภาษีอย่างถูกต้องแล้วที่ระดับ 350 ล้านบาทเลยทีเดียว ภาษีแพงกว่าตัวรถ 3 เท่า
McLaren Speedtail: สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์

ค้นพบ McLaren Speedtail ซึ่งเป็น Hyper-GT ที่ผสมผสานความสะดวกสบายที่หรูหราเข้ากับความเร็วที่น่าอัศจรรย์ เผยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการก้าวข้ามขีดจำกัดของประสิทธิภาพและการออกแบบ
การผสมผสานอันบริสุทธิ์ของวิทยาศาสตร์และศิลปะในรูปแบบยานยนต์ Speedtail คือ Hyper-GT คันแรกของ McLaren ไฮเปอร์คาร์ที่มีประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์มากที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา และ McLaren ที่เร็วที่สุดจนถึงปัจจุบัน ด้วยระบบส่งกำลังไฮบริด 1070PS ที่เป็นแกนหลัก McLaren Speedtail รวบรวมนวัตกรรมและความสง่างามในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ในการออกแบบยานยนต์ และมอบโอกาสพิเศษแก่เจ้าของในการปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะบุคคล
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 4.0 ลิตร พ่วงระบบอัดอากาศ Twin-Turbocharged ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า MAT & Hewland e-Axle Permanent Motor พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium ion ความจุ 1.647 kWh กำลังสูงสุดรวม 1,070 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 1,150 นิวตันเมตร ที่ 5,500 – 6,500 รอบ/นาที เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ Graziano Dual Clutch
ด้วยน้ำหนักตัวเพียง 1,597 กิโลกรัม McLaren Speedtail จึงทำอัตราเร่ง 0 – 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ภายในเวลา 12.8 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 403 กิโลเมตร/ชั่วโมง และทำได้เมื่อใช้ระบบ Velocity Mode ที่สั่งลดความสูงของรถยนต์ลงอีก 35 มิลลิเมตร ส่งผลให้ความสูงลดลงเหลือ 1,120 มิลลิเมตร
McLaren Speedtail ราคาเท่าไหร่

โดยปัจจุบันตัวรถมีราคาที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ช่วงเปิดตัวจะอยู่ที่ราวๆ 3.3ล้านดอลล่า และปี 2024 จะอยู่ที่ราว 2.3ล้านดอลล่า หรือตีเป็นเงินไทยราวๆ “78ล้านบาท”
McLaren Bangkok ได้จัดแสดงโชว์รถระดับ Hyper car อย่าง McLaren Speedtail ที่มีผลิตเพียงแค่ 106 คันในโลกและมีเพียง 1 คันในประเทศไทยเท่านั้น มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ณ โชว์รูม McLaren Bangkok รวมภาษีแล้ว
Bentley Mulliner Bacalar: เปิดตัวความเป็นเลิศที่สั่งทำพิเศษ

งานฝีมือที่ออกแบบตามความต้องการของ Bentley Mulliner Bacalar ซึ่งเป็นแกรนด์ทัวเรอร์รุ่นลิมิเต็ดที่เป็นตัวอย่างของการทุ่มเทเพื่อความหรูหราและความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Bentley
Bentley Mulliner Baclar ตัวนี้จัดว่าเป็นรถเปิดประทุนที่เร็วที่สุดของค่าย Bentley เปิดตัว Bentley Mulliner Bacalar ในฐานะแกรนด์ทัวเรอร์รุ่น Limited Edition โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นของBentley ในการผลิตรถงานฝีมือที่สั่งทำพิเศษและความหรูหราของตัวรถ
Mulliner Bacalar มีพื้นฐานจาก Continental GTC และมันเป็นรถที่มีขนาดใหญ่มาก ดีไซน์ลดความ gentleman ลงมานิดหน่อยและเพิ่มความเป็น supercar-y ขึ้น อารมณ์ของภาพลักษณ์ของรถจะไม่ดุดัน เป็นอารมณ์นิ่ง สุขุมไม่ฉูดฉาด
ความพิเศษเฉพาะของ Bacalar เป็นรถที่ผลิตจำกัดเพียง 12 คันเท่านั้น ซึ่งแต่ละคันปรับแต่งตามเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลูกค้า
ด้านขุมกำลัง เครื่องยนต์ของ Bentley Mulliner Baclar คันนี้เป็นเครื่องยนต์ขนาด 6.0 ลิตร ทวินเทอร์โบ W12 พละกำลัง 659 แรงม้า ระบบฮีตเตอร์ยังมีไว้สำหรับโชว์เท่านั้น มาตรวัดดิจิตอลบ่งบอกว่าสามารถทำความเร็วได้มากกว่า 300 กิโลเมตร/ชั่วโมง
Bentley Mulliner Bacalar ราคาเท่าไหร่
เป็นที่น่าสงสัยว่าจะใกล้กับราคาสุดท้ายหรือไม่ ด้วยตัวเลือกการปรับแต่งมากมายที่มีให้เลือก และลูกค้าผู้โชคดีทั้ง 12 รายที่ต้องการสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่มีทางรู้ราคาที่แท้จริงของ Bacalar แต่ละตัวได้ แต่ Bentley Bacalar มีราคาพื้นฐานอยู่ที่ 1.9 ล้านดอลล่า หรือตีเป็นเงินไทยราวๆ “65ล้านบาท”
Porsche 918 Spyder: ความเชี่ยวชาญของซูเปอร์คาร์ไฮบริด

สะท้อนถึงความน่าดึงดูดใจที่ยั่งยืนของ Porsche 918 Spyder ซึ่งเป็นซุปเปอร์คาร์ไฮบริดที่ยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในบรรดารถยนต์หรูหราที่มีราคาแพงที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Porsche ในด้านประสิทธิภาพและความหรูหรา
Porsche ได้เปิดตัว ปอร์เช่ 918 สไปเดอร์ (Porsche 918 Spyder) ซูเปอร์คาร์เปิดประทุน 2 ที่นั่นพกพาดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ อาศัยแรงบันดาลใจจากรถสปอร์ตยอดนิยมของโลกอย่าง Porsche 911 ซึ่งรถคันนี้ก็เกิดขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 50 ปีของรุ่นดังกล่าวด้วย สะดุดตาด้วยไฟหน้าขนาดใหญ่ เส้นโค้งรอบคันที่สวยงามลงตัว และเครื่องยนต์วางตรงกลางของรถ เพิ่มสมรรถนะความเป็นซูเปอร์คาร์อย่างเต็มตัว
Porsche 918 Spyder เป็นซุปเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริดที่ผสมผสานเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ากับวิศวกรรมประสิทธิภาพสูง ซึ่งเป็นซุปเปอร์คาร์ปลั๊กอินไฮบริด โดยเน้นความสำคัญในสตอรี่ความเป็นมาของปอร์เช่ และบทบาทของปอร์เช่ในฐานะรถต้นแบบทางเทคโนโลยีของแบรนด์ Porsche
ระบบขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,600 CC ให้กำลัง 608 แรงม้า ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 3 ตัวที่ให้กำลังรวมกัน 286 แรงม้า เมื่อทำงานร่วมกันจะได้กำลัง 887 แรงม้า ซึ่งถึงแม้ว่าตัวเลขจะน้อยกว่าคู่แข่งตัวฉกาจทั้งสองอย่าง LaFerrari และ McLaren P1 แต่ก็มีสมรรถนะที่ไม่น้อยหน้าไปกว่ากัน โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที ทำความเร็วจาก 0-200 กม./ชม. ใน 7.7 วินาที และไปได้ถึง 300 กม./ชม. ใน 22 วินาที
Porsche 918 Spyder ราคาเท่าไหร่?
Porsche 918 Spyder ซุปเปอร์คาร์ไฮบริจคันนี้ ราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจเพียง 845,000 ดอลล่า หรือตีเป็นเงินไทยราวๆ “29 ล้านบาท” ซึ่งถูกกว่า LaFerrari และ McLaren P1 เป็นแสนดอลเลยทีเดียว
สรุปเนื้อหา
สรุปเนื้อหา 10 อันดับรถหรูที่แพงที่สุดในปีล่าสุด 2024 นี้แต่ละคันราคาแพงหูฉี่กันเลยทีเดียว คนธรรมดาๆอย่างเราคงไม่มีวันได้จับต้องรถพวกนี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าหากคนธรรมดาพอมีฐานะบ้างก็อาจจะมีหนทางอยู่บ้างในการได้ขับรถซุปเปอร์คาร์สุดหรูพวกนี้ได้ นั้นก็คือ “เช่ารถหรู” ที่ราคาเริ่มต้นเพียงแค่หลักหมื่นเพียงเท่านั้น ก็สามารถนำรถหรูมาขับโลดแล่น ให้ได้สัมผัสความหรูหราและความเท่สักครั้งในชีวิต

