ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

20 รถยนต์ไฟฟ้าน่าซื้อในปี 2024 สำหรับคนอยากเข้าวงการ EV

โดย วริทธิ์ ลิ้มเจริญ

04.01.2024

• 65.7k

มาดูกันว่าปี 2024 มีรถยนต์ไฟฟ้าคันไหนที่เราสามารถเป็นเจ้าของได้แล้วบ้าง

ดูเหมือนว่าปีนี้ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าน่าจะแข่งขันกันดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ ดูได้จากช่วงปลายปีที่แล้ว ค่ายรถยนต์หลากหลายสัญชาติเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาด ฟังก์ชันการใช้งาน ที่แตกต่างกันออกไปตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมากว่าเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันดูเป็นเรื่องที่จับต้องได้ง่ายมากขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน หากคุณอยากจะเป็นเจ้าของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่รักโลกแบบนี้ คุณอาจจะต้องเสียเงินถึงหลักล้านบาท แต่ในปัจจุบันเรามีรถยนต์ไฟฟ้าคันเล็กเหมาะกับวิ่งในเมืองที่ราคาเริ่มต้นประมาณ 7 แสนบาท แถมวิ่งได้ไกลขึ้นอีกด้วย 

สำหรับใครที่ตั้งเป้าว่าปีนี้อยากจะรักโลกด้วยการก้าวสู่วงการ EV แล้วกำลังหารถยนต์ไฟฟ้าคันแรก วันนี้เราจะมาชี้เป้าว่าปีนี้มีคันไหนบ้างที่น่าสนใจ และคันไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณ

ในลิสต์นี้เราขอแบ่งรถยนต์ทั้งหมดออกเป็น 3 หมวดหมู่ตามการใช้งาน เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกรถตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน

City Car

สำหรับใครที่กำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าไว้ใช้ในเมือง วิ่งระยะทางต่อวันไม่ได้ไกลมาก เน้นความคล่องตัวในการขับขี่ คันไม่ต้องใหญ่ หาที่จอดสะดวก ซึ่งรถในกลุ่มนี้ถือว่าเป็นการเริ่มต้นรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ดี ราคาจับต้องได้ 

Hyundai IONIQ 5

เราขอนิยามว่ารถคันนี้คือ Concept Car ที่ขับได้จริง ด้วยดีไซน์สุดล้ำที่ทาง Hyundai เลือกใช้ Pixel เป็นองค์ประกอบหลักในงานดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน ทำให้หลายคนเฝ้ารอว่าเมื่อไรรถคนนี้จะเข้ามาขายในไทย จนตอนนี้รถคันนี้เข้ามาขายจริงแล้ว โดยจะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Premium ราคา 1,699,000 บาท (วิ่งได้ 384 กิโลเมตร), Exclusive ราคา 1,899,000 บาท (วิ่งได้ 481 กิโลเมตร) และ First Edition ราคา 2,399,000 บาท (วิ่งได้ 451 กิโลเมตร) จุดเด่นของรุ่นนี้อีกหนึ่งอย่างคือ สามารถรองรับ Ultra Fast Charging (DC) 350kW ใช้เวลาชาร์จประมาณ 18 นาทีเท่านั้น

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.hyundai.com/th/th/find-a-car/ioniq5/highlights#none

BYD Dolphin

อีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังขายดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยความคุ้มค่าที่รุ่นเริ่มต้นราคาไม่ถึง 7 แสนบาท และรูปทรงที่ไม่ใหญ่เกินไป มีความคล่องตัวเหมาะกับขับขี่ในเมือง ทำให้รถคันนี้ยังคงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับชาวเมืองที่อยากเริ่มใช้รถยนต์ EV คันแรก โดยจะมีอยู่ 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Standard Range ราคา 699,999 บาท และ Extended Range ราคา 859,999 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.reverautomotive.com/model/dolphin/overview

MINI Cooper 2024 

อีกหนึ่งรุ่นที่รอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ นั่นคือ MINI Cooper 2024 ภายนอกรถคันนี้ยังคงเอกลักษณ์ของรถ Hatchback 3 ประตู ไฟหน้าทรงกลม ที่เป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์ไว้อย่างครบถ้วน แต่ได้มีการปรับปรุงทรงกระจังหน้าให้เป็นทรง 8 เหลี่ยม แตกต่างจากเดิมเล็กน้อย ข่าวดีคือแบตเตอรี่ของรุ่นนี้วิ่งได้ถึง 305 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง น่าติดตามต่อไปว่าถ้าเปิดตัวแล้วค่าตัวเขาจะอยู่ที่เท่าไร และจะมีรายละเอียดอะไรน่าสนใจมากขึ้นอีกหรือไม่

SUV 

ในยุคนี้กระแสรถทรง SUV ก็ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน ด้วยความที่ทรงของรถมีความสูง สามารถไปได้ทุกสภาพถนน สามารถขนของได้เยอะ แถมในยุคนี้รถ SUV ยังมีขนาดที่เล็กลงอีกด้วย ทำให้สามารถวิ่งในเมืองได้อย่างคล่องตัว

Honda e:N1

คันนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะนี่คือรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เตรียมจะเข้ามาขายในไทยในปีหน้า เจ้า Honda e:N1 คือการนำ Honda HR-V มาเปลี่ยนเป็นเวอร์ชันไฟฟ้า ภายในห้องโดยสารจะมีความกว้างพอๆ กับ Honda HR-V เลย แต่อาจจะมีการปรับปรุงบริเวณคอนโซลหน้ารถเล็กน้อย

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.honda.co.th/news/HondaeN1_Line-off

Volvo EX30

ถ้าใครอยากได้รถที่หน้าตาดูเรียบง่ายแต่ล้ำยุค คันนี้เป็นอีกหนึ่งคันที่ตอบโจทย์ นี่คือรถ SUV คันเล็กที่สุดของแบรนด์ Volvo แบตเตอรี่สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุด 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รุ่นกลางและรุ่นท็อปจะได้ระบบกล้องมองรอบคันแถมมาให้ด้วย เจ้า EX30 จะมีให้เลือก 3 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Core Single Motor Extended Range RWD ราคา 1,590,000 บาท, Ultra Single Motor Extended Range RWD ราคา 1,790,000 บาท และ Ultra Twin Motor Performance AWD ราคา 1,890,000 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.volvocars.com/th-th/cars/ex30-electric/

BYD Atto 3 

ต้องยอมรับว่าในกลุ่มรถ SUV ไฟฟ้าที่ยังคงขายดีอย่างต่อเนื่องคงหนีไม่พ้น BYD Atto 3 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์ที่เข้ามาขายในไทย ด้วยรูปทรงที่ขนาดกำลังพอดี ไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้ผู้คนเลือกจะซื้อรถคันนี้มาใช้ในชีวิตประจำวัน จริงๆ ขับในเมืองก็ได้ หรือวันหยุดจะออกต่างจังหวัดคันนี้ก็ยังได้ Atto 3 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Standard Range ราคา 1,099,900 บาท และรุ่น Extended Range ราคา 1,199,900 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.reverautomotive.com/model/atto3/overview

CHANGAN Deepal S07 

นี่คือ SUV ขนาดกลางจากแบรนด์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในไทยอย่าง CHANGAN ภายนอกรถคันนี้เน้นเส้นสายที่เหลี่ยมๆ ดูสปอร์ต เก็บของได้เยอะ ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสไตล์รถ SUV แบตเตอรี่คันนี้วิ่งได้ราวๆ 485 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) รถคันนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์เราเพื่อเปิดเพลงจากลำโพงนอกรถ เหมาะมากๆ เลยเวลาที่เราไปแคมปิ้ง หรือไปปาร์ตี้

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.changan.co.th/th/deepal/s07-th/

AVATR 11

AVATR คือแบรนด์รถหรูในเครือของ CHANGAN รถคันนี้คือ AVATR 11 เป็นรถ SUV สุดหรูที่แพลตฟอร์มของตัวรถถูกพัฒนาโดย Huawei และ CATL ถึงจะเป็นรถคันใหญ่ยกสูง แต่รถคันนี้ก็ได้กลิ่นอายของความสปอร์ตส่งมาที่รูปทรงหลังคาแบบคูเป้ แบตเตอรี่ของตัวรถถือว่าน่าสนใจมากๆ เพราะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 555-730 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน CLTC ของจีน) ถ้าข่าวลือเป็นจริงเราอาจจะได้เห็นแบรนด์ AVATR เข้ามาในไทยภายในปีนี้เลย

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.avatr.com/en/11

Lexus RZ 450e

แต่ถ้าใครที่อยากได้รถ SUV หน้าตาโดดเด่น ไปจอดที่ไหนไม่ซ้ำกันแน่นอน ต้องลองมาดูรุ่นนี้เลย ภายนอกตัวรถมีขนาดค่อนข้างใหญ่เลย ดีไซน์โฉบเฉี่ยวให้ลุคที่ดูสปอร์ต ส่วนภายในคันนี้ก็ถือว่ากว้างขวางใช้ได้ และจุดเด่นของ Lexus ทุกรุ่นคือภายในที่ดีไซน์มาอย่างละเอียด งานประกอบที่เนี้ยบสไตล์ญี่ปุ่น แบตเตอรี่คันนี้วิ่งได้ราวๆ 470 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) RZ 450e จะมีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Luxury ราคา 3,870,000 บาท และ Premium ราคา 4,190,000 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.lexus.co.th/th

BMW iX 

ถ้าถามว่าตอนนี้รถ BMW คันไหนหน้าตาล้ำยุคที่สุด หลายคนน่าจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า iX เพราะรถคันนี้ฉีกกฎหน้าตาของ BMW แบบเดิมๆ ออกไปด้วยกระจังหน้า Kidney Grilles ขนาดใหญ่กว่ารุ่นปกติ ส่วนภายในคันนี้จะมีส่วนผสมของหนังที่ผ่านการฟอกแบบออร์แกนิก ไม่ใช้สารเคมี ทำให้ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม BMW คันนี้มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ iX xDrive40 Sport ราคา 5,149,000 บาท วิ่งได้ประมาณ 425 กิโลเมตร และ iX xDrove 50 Sport ราคา 6,149,000 บาท วิ่งได้ประมาณ 630 กิโลเมตร

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.bmw.co.th/th/all-models/bmw-i/bmw-ix/2021/bmw-ix.html

Mercedes-Benz EQE SUV

Mercedes-Benz เป็นอีกหนึ่งค่ายรถที่หันมาจริงจังกับการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า โดยสิ้นปีที่ผ่านมาแบรนด์ได้มีการส่ง EQE SUV ออกมาสู่ตลาด นี่คือ SUV ที่มีความหรูหราในสไตล์ Mercedes-Benz ความพิเศษคือระบบความปลอดภัยคันนี้มีเทียบเท่ากับรุ่นพี่อย่าง EQS เลย แต่มาในราคาที่ถูกกว่า โดยค่าตัวของเจ้า Mercedes-Benz EQE SUV จะอยู่ที่ 5,650,000 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.mercedes-benz.co.th/th/passengercars/models/suv/eqe/overview.html

Audi Q8 e-tron

นี่คือตัวเลือกของคนที่อยากได้ SUV ขนาดใหญ่ ที่แรง ดูสปอร์ต แต่ก็สามารถไปได้ทั้งครอบครัว รถคันนี้มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ โดยจะสามารถวิ่งได้ราวๆ 638 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC) สำหรับรถคันนี้เขามีให้เลือก 2 รูปทรงคือ Q8 e-tron รูปทรง SUV ปกติ และ Q8 Sportback e-tron เป็นรูปทรงที่ท้ายรถจะลาดกว่าปกติ ราคารุ่นนี้จะเริ่มต้นที่ 4,699,000 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.audi.co.th/sea/web/th/models/q8-e-tron.html

Maserati Grecale Folgore 

อีกหนึ่ง SUV ที่น่าจับตามอง นั่นคือ Maserati Grecale Folgore นี่ถือเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่หันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า หลังจากที่ซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีผ่านการแข่ง Formula E มาระยะหนึ่ง รถคันนี้คือการนำรุ่น Grecale มาเปลี่ยนเป็นเวอร์ชันไฟฟ้า 100% ความพิเศษของเวอร์ชันไฟฟ้าคือภายในที่ใช้วัสดุรีไซเคิล โดยแบรนด์ได้นำตาข่ายจับปลามาเปลี่ยนเป็นเส้นใยชนิดพิเศษเพื่อทอเป็นวัสดุหุ้มภายในรถ ส่วนเรื่องราคาต้องรอติดตามกันอีกทีว่าถ้าเข้ามาขายในไทยแล้วจะคันละกี่บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.maserati.com/th/en/shopping-tools/cp/grecale-folgore

Sedan 

ช่วงปีที่ผ่านมา หลายค่ายเริ่มปล่อยรถทรงซีดานในรูปแบบไฟฟ้าออกมาให้คนได้เป็นตัวเลือกกันมากขึ้น หลายเจ้าเน้นเรื่องความสปอร์ต หลายเจ้าเน้นเรื่องความหรูหรา แต่เชื่อว่าปีหน้าเราจะมีตัวเลือกในการใช้งานรถซีดานมากขึ้นแน่นอน

BYD Seal 

รถคันนี้ไม่คาดคิดว่าจะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ตั้งแต่เปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมา Seal เป็นรถยนต์ไฟฟ้าทรงสปอร์ตซีดานรุ่นล่าสุดที่เข้ามาเปิดตัวในไทย จุดเด่นอยู่ที่ความแรงของตัวรถ และความคุ้มค่าที่ให้มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น โดยจะแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยคือ Dynamic (ราคา 1,325,000 บาท) 201 แรงม้า, Premium (ราคา 1,449,000 บาท) 308 แรงม้า และ AWD Performance (ราคา 1,599,000 บาท) 523 แรงม้า ใครอยากได้รถที่แรงเร้าใจในราคาที่จับต้องได้ต้องคันนี้เลย

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.reverautomotive.com/model/seal/overview

CHANGAN Deepal L07

รถซีดานรูปทรงดูสปอร์ตอีกหนึ่งคันจากค่าย CHANGAN เจ้า L07 สามารถเก็บสัมภาระได้เยอะทั้งหน้าและหลังรถเลย ภายในตัวนี้จะดูสปอร์ตมากกว่า Deepal S07 แถมยังให้ลำโพงของ Sony มาอีกด้วย รถคันนี้สามารถวิ่งได้ 540 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (NEDC)

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.changan.co.th/th/deepal/l07-th/

ORA 07 

รถยนต์ไฟฟ้าพี่ใหญ่จากค่าย ORA ที่มีจุดเด่นด้านความหรูหรา รูปทรงที่น่ารักแต่สปอร์ต การขับขี่เหมาะกับการใช้งานในเมือง จุดเด่นอยู่ที่ภายในกว้างขวางนั่งสบาย ถึงแม้หลังคาจะมีรูปทรงลาดก็ตาม โดยรถคันนี้มี 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Long Range ราคา 1,299,000 บาท ระยะการวิ่งทำได้สูงสุด 640 กิโลเมตร (NEDC) และรุ่น Performance ราคา 1,499,000 บาท ระยะการวิ่งทำได้สูงสุด 550 กิโลเมตร (NEDC) 

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.gwm.co.th/ORA_07.html

Tesla Model 3 Highland

ถ้าพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า คงจะไม่มี Tesla ไม่ได้ ด้วยการที่ตัวเลือกรถซีดานไฟฟ้ามีมากขึ้น Tesla จึงได้ปล่อยตัว Tesla Model 3 Highland ให้เราได้เลือกใช้กัน รุ่นนี้หน้าตาดูเพรียวขึ้นมากกว่ารุ่นก่อน ความพิเศษของพื้นที่ห้องโดยสารด้านหลังคือมีจอสำหรับคนที่นั่งข้างหลังด้วย Tesla Model 3 Highland มีราคาเริ่มต้นที่ 1,599,000 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.tesla.com/th_th/model3/design

Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+

รถยนต์ไฟฟ้าอีกหนึ่งคันจากค่าย Mercedes-Benz ที่มีขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป จุดเด่นอยู่ที่การขับขี่ที่แรง สนุก ไม่ต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปจาก AMG เลย ระบบความปลอดภัยรอบคันของรถคันนี้มาเต็มรูปแบบ ถึงแม้รถจะค่อนข้างเตี้ย แต่ห้องโดยสารไม่ได้อึดอัดเลย อีกหนึ่งความพิเศษคือ ด้วยความที่รถคันนี้อยู่ในรหัส AMG ทำให้ภายในห้องโดยสารจะได้กลิ่นจากน้ำหอม AMG แค่หลับตาแล้วนั่งในรถก็รู้แล้วว่าคันนี้คือ AMG ค่าตัวของรถคันนี้อยู่ที่ 5,950,000 บาท

ดูรายละเอียดรถเพิ่มเติมได้ที่: www.mercedes-benz.co.th/th/passengercars/models/saloon/eqe/amg.html

Xiaomi SU7

จากผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน ตอนนี้ Xiaomi สร้างรถยนต์ไฟฟ้าคันแรกแล้ว SU7 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 4 ประตูที่ Xiaomi ได้ทดลองผลิตแล้ว โดยล็อตแรกจะผลิตขึ้น 300 คัน และทดลองวิ่งเฉพาะในจีนก่อน โดยจะมีให้เลือกอยู่ 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ มอเตอร์เดี่ยว และมอเตอร์คู่ และการที่ Xiaomi เป็นผู้ผลิตรถคันนี้ขึ้นมา รถคันนี้จึงจะสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งคน รถ และบ้าน เรามาลุ้นกันว่ารถคันนี้จะเข้ามาในไทยเมื่อไร

รถคันแรก 10 รุ่นน่าใช้ ซื้อรถยนต์คันแรก รุ่นไหนดี

รถคันแรก ควรเลือกรถรุ่นไหนดี? นี่อาจเป็นคำถามคาใจสำหรับคนที่กำลังคิดจะ ซื้อรถยนต์คันแรก เป็นของตัวเองในช่วงนี้ ด้วยปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันซึ่งพุ่งสูงขึ้นทุกวัน จึงไม่แปลกใจว่าทำไมช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา รถอีโค่คาร์ (ECO Car) หรือ B-Segment มียอดขายแซงหน้ารถยนต์กลุ่มอื่น ๆ เพราะทั้งประหยัดน้ำมัน ขับขี่คล่องตัว และค่าบำรุงรักษาไม่แพง เหมาะกับคนที่กำลัง จะซื้อรถคันแรก ไปใช้กันแบบยาวๆ 

วันนี้ CARSOME จึงมี รถคันแรกน่าซื้อ มาฝากกันแบบจุใจถึง 10 รุ่น ที่สำคัญ ไม่ต้องกลัวว่า ออกรถคันแรก เป็นรถยนต์มือสองแล้วจะวุ่นวายยุ่งยาก เพราะรถยนต์ทุกคันที่นี่ได้รับการรับประกันคุณภาพจาก CARSOME โดยผ่านการตรวจสภาพ 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน ที่สำคัญ CARSOME ยังมอบการรับประกันนานสูงสุดถึง 2 ปีเต็ม ในราคาโปร่งใส คุ้มค่า ถ้าซื้อไปแล้วไม่พอใจยังสามารถคืนเงินได้ภายใน 30 วันอีกด้วย แต่จะมีคันไหนน่าสนใจสำหรับคนที่ อยากซื้อรถคันแรก และ การออกรถคันแรก กับ CARSOME จะดีต่อใจขนาดไหน ไปดูกันเลย

ซื้อรถมือสอง กับ CARSOME การันตีคุณภาพรถยนต์ ผ่านการตรวจเช็กอย่างละเอียดถึง 175 จุดพร้อมปรับสภาพให้ได้มาตรฐาน รับประกันสูงสุด 2 ปีเต็ม ราคาโปร่งใส คุ้มค่า ซื้อไปแล้วไม่พอใจ การันตีคืนเงินภายใน 30 วัน

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

รถคันแรก น่าซื้อ ซื้อรถยนต์คันแรก ทำอย่างไร
ซื้อรถยนต์คันแรก ต้องเตรียมตัวเรื่องอะไร10 รถคันแรก ยี่ห้อไหนดีToyota YARIS ATIV 1.2Mazda 2 1.3Honda CITY 1.0 TurboToyota VIOS 1.5Honda JAZZ 1.5Nissan ALMERA 1.0Suzuki SWIFT 1.2Mitsubishi ATTRAGE 1.2Suzuki CIAZ 1.2MG MG3 1.5

การออกรถคันแรก ต้องเตรียมตัวเรื่องอะไรบ้าง

การซื้อรถคันแรก จะไม่ทำให้หัวใจไม่แตกสบายถ้าเตรียมตัว เตรียมข้อมูลและงบประมาณมาอย่างเรียบร้อย นอกจากนั้น รถยนต์แต่ละรุ่นก็มีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน ผู้ที่ อยากมีรถคันแรก ก็อาจจะต้องหาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อน เลือกซื้อรถคันแรก เพื่อให้การ ออกรถคันแรก คุ้มค่าที่สุด ดังนี้

· งบประมาณสำหรับ ออกรถคันแรก

ปัจจุบัน มือใหม่ที่ อยากมีรถคันแรก จำนวนมากกว่า 40% ไม่สามารถผ่อนสินเชื่อรถยนต์ของตัวเองได้จนหมด ทำให้ต้องขายรถมือสองต่อหรือไม่ก็ถูกบริษัทสินเชื่อยึดรถ ดังนั้น งบประมาณการซื้อรถที่ต้องนำมาคำนวณจึงไม่ใช่แค่ยอดดาวน์ก่อนแรกหรืองบประมาณผ่อนต่อเดือน แต่ยังรวมถึงระยะเวลาการผ่อนรถที่จะกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายที่ผูกพันตัวอย่างน้อย 3-5 ปี 

· ค่าใช้จ่ายแฝงเมื่อ ซื้อรถยนต์คันแรก

การออกรถคันแรก ไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายเฉพาะค่าตัวรถในฝันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าบำรุงรักษา, ภาษีรถยนต์, ค่าประกันรถยนต์ ฯลฯ ที่มากับตัวรถ นอกจากนั้น รถแต่ละชนิดก็มีค่าใช้จ่ายแฝงที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นอัตราภาษีรถยนต์ที่แตกต่างตามประเภทตัวถังและขนาดเครื่องยนต์หรือจะเป็นค่าประกันรถยนต์ที่มีอัตราเบี้ยประกันแตกต่างกันตามราคาอะไหล่และการบำรุงรักษา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เหมือนกันคือ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็เป็นภาระผูกพันผู้ที่ จะซื้อรถคันแรก ในทุกๆ ปีไม่ต่างจากงวดผ่อนรถ จึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนวณร่วมด้วยนั่นเอง

· เลือกซื้อรถคันแรก ที่ตอบโจทย์จริง

หลายคนที่ อยากมีรถคันแรก ย่อมมีรถในฝันอยู่ในใจ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไลฟ์สไตล์และการใช้งานเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการ เลือกซื้อรถคันแรก เพราะถ้าหากไลฟ์สไตล์ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางในเมืองใหญ่เพียงลำพัง มีพื้นที่จอดรถจำกัด การ เลือกรถคันแรก เป็นรถ ECO Car คันเล็กจึงอาจจะช่วยตอบโจทย์การใช้งานมากกว่ารถ SUV คันใหญ่ เพราะมีขนาดเล็กขับขี่, หาที่จอดได้ง่าย, ออฟชั่นพอประมาณทำให้ดูแลได้ง่าย รวมทั้งช่วยประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

· ส่วนลดรถคันแรก และโปรโมชั่นต่างๆ

แบรนด์รถใหม่แต่ละแบรนด์จะมาพร้อมกับ ส่วนลดรถคันแรก พร้อมโปรโมชั่นและสิทธิ์พิเศษต่างๆ เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1, ฟรีค่าแรงตรวสภาพประจำปี และของแถมต่างๆ นอกจากนั้น รถยนต์บางประเภทก็มีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ เช่น การ ซื้อรถไฟฟ้าคันแรก ในตอนนี้ก็จะมีส่วนลดที่ได้คันละ 150,000 บาทต่อคัน หรือก่อนหน้านี้ที่เคยมี สิทธิ์รถคันแรก เพื่อแก่วิกฤติเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ เป็นต้น ดังนั้น โปรรถคันแรก และ ส่วนลดรถคันแรก จากแต่ละบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายรวมถึงนโยบายจากภาครัฐฯ ในขณะนั้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาด้วย

10 รถคันแรก ซื้อรถยนต์คันแรก ยี่ห้อไหนดี

ได้ข้อมูลสำหรับเตรียมตัวกับ การซื้อรถคันแรก กันไปแล้ว ทีนี้มาดูกันสิว่า ถ้าอยาก ซื้อรถยนต์คันแรก ให้คุ้มค่า น่าประทับใจที่สุด จะมีรถยนต์ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนน่าสนใจ น่าซื้อใช้บ้าง ไปดูกันเลย

1.รถคันแรก Toyota YARIS ATIV 1.2

หนึ่งในตัว เลือกซื้อรถคันแรก สำหรับคนที่มองหาซีดาน 4 ประตูสุดประหยัด ซึ่งถ้าพูดถึง Toyota Yaris ATIV (โตโยต้า ยาริส เอทีฟ) คงหนีไม่พ้นเรื่องของความทนทานของเครื่องยนต์ ดูแลง่าย ไม่จุกจิกตามสไตล์รถ Toyota (โตโยต้า) ซึ่ง Yaris ATIV (ยาริส เอทีฟ) มีระบบช่วงล่างกับพวงมาลัยที่เซ็ตมาอย่างลงตัว แม้จะไม่ได้ให้ฟีลซิ่งแบบ JAZZ แต่ก็มีสมรรถนะที่เพียงพอต่อการใช้งานประจำวัน

Yaris ATIV ตัวล่าสุดใช้เครื่องยนต์เบนซิน Dual VVT-iE ขนาด 1.2 ลิตร 4 สูบเหมาะสำหรับคนที่ อยากซื้อรถคันแรก เครื่องแรงๆ เพราะมีกำลังสูงสุดถึง 94 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 110 นิวตันเมตร ประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ ลิตร อีกทั้งยังมีระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i 7 สปีด พร้อม Shift lock ที่ช่วยปรับจูนเกียร์ให้ตอบสนองต่อการขับขี่ดีมากขึ้น

ตัวเลือกรถคันแรก Toyota YARIS ATIV จาก CARSOME

• Toyota YARIS ATIV 2018 รุ่น E 1.2 ราคา 359,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Toyota YARIS ATIV 2019 รุ่น J 1.2 ราคา 349,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Toyota YARIS ATIV 2020 รุ่น ENTRY 1.2 ราคา 406,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Toyota Yaris มือสอง หรือ Toyota มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

2. รถคันแรก Mazda 2 1.3

Mazda 2 (มาสด้า 2) เป็นอีกหนึ่งขวัญใจคนที่ ซื้อรถยนต์คันแรก โดยเฉพาะเครื่องยนต์ 1.3 ที่เป็นตัวเริ่มต้นจาก Mazda (มาสด้า) ที่ครองใจวัยรุ่นและคนที่ชื่นชอบการขับรถมาหลายปี โดยที่ผ่าน Mazda 2 (มาสด้า 2) คันนี้ก็ยังคงจุดเด่นของค่าย Mazda เอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ตามสโลแกน Feel The Drive เน้นขับสนุก ช่วงล่างแน่น เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ พวงมาลัยแม่นยำมากที่สุดในรถกลุ่มเดียวกัน แถมยังมีตัวถังให้เลือกถึง 2 แบบทั้งซีดาน 4 ประตูและแฮชท์แบ็ค 5 ประตูอีกด้วย

เครื่องยนต์ Skyactiv ของ Mazda 2 ยังมีให้เลือกถึง 2 แบบในทุกรุ่นที่เปิดตัวได้แก่ เครื่องยนต์เบนซิน Skyactiv-G และเครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D แต่รุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่ ซื้อรถยนต์คันแรก จะเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 1.3 ลิตร 4 สูบที่จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ รองรับน้ำมันสูงสุด E20 พร้อมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ยอดเยี่ยมทั้งในเรื่องสมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันดีเยี่ยมด้วยฟังก์ชั่น Skyactiv Technology เทคโนโลยีเฉพาะของ Mazda นั่นเอง

ตัวเลือกรถคันแรก Mazda 2 1.3 จาก CARSOME

• Mazda 2 2017 รุ่น SPORTS HIGH 1.3 ราคา 345,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Mazda 2 2019 รุ่น SPORTS HIGH PLUS 1.3 ราคา 409,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Mazda 2 2020 รุ่น E 1.3 ราคา 398,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Mazda 2 มือสอง หรือ Mazda มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

3. รถคันแรก Honda CITY 1.0 Turbo

สำหรับคนที่มีงบ ซื้อรถยนต์คันแรก สูงขึ้นสักหน่อย ขอแนะนำ Honda CITY (ฮอนด้า ซิตี้) จากค่าย Honda (ฮอนด้า) คู่แข่งสายตรงของ Yaris (ยาริส) และ Yaris ATIV (ยาริส เอทีฟ) ที่มาพร้อมการออกแบบภายนอกคงความสุขุมแบบผู้ใหญ่ ปนความสปอร์ตและหรูหราทำให้ถูกใจวัยรุ่นและวัยทำงาน นอกจากนั้น ยังเพิ่งเพิ่มตัวเลือกดีไซน์ตัวถังแบบ 5 ประตู (Hatchback) ซึ่งเป็นตัวเลือกที่ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์มากยิ่งขึ้น 

จุดเด่นอีกอย่างของ CITY (ซิตี้) ยังอยู่ที่ห้องโดยสารขนาดใหญ่ นั่งสบายทั้งคนขับและผู้โดยสาร อีกทั้งยังเอาใจคนที่อยาก ซื้อรถไฟฟ้าคันแรก ด้วยรุ่นฟูลไฮบริด e:HEV ที่มีให้เลือกแบบฉ่ำๆ ถึง 2 รุ่นจาก NEW Honda CITY 2023 (ฮอนด้า ซิตี้ 2023) แต่สำหรับ การซื้อรถคันแรก รุ่น 1.0 Turbo ก็นับว่าเพียงพอต่อการใช้งานเพราะมาพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบแบบ VTEC และ Dual VTC พ่วงเทอร์โบจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมัน E20

ตัวเลือกรถคันแรก Honda CITY 1.0 Turbo จาก CARSOME

• Honda CITY 2019 รุ่น RS 1.0 ราคา 554,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Honda CITY 2020 รุ่น V 1.0 ราคา 498,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Honda CITY 2020 รุ่น RS 1.0 ราคา 557,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Honda City มือสอง หรือ Honda มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

นึกถึง รถมือสอง ต้อง CARSOME

4. รถคันแรก Toyota VIOS 1.5

ถึงจะถูกประกาศยุติการผลิตไปแล้วเพื่อดันยาริส เอทีฟอย่างเต็มที่ แต่ Toyota VIOS (โตโยต้า วีออส) ก็ยังเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีสำหรับคนกำลัง จะซื้อรถคันแรก มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ด้วยคุณสมบัติเรื่องความทนไม้ทนมือ ไม่มีปัญหาซ่อมจุกจิกให้กวนใจ โดย VIOS (วีออส) รุ่นสุดท้ายที่วางจำหน่ายในบ้านเราจะเป็นเจเนอเรชั่น 3 ที่มีจุดเด่นเรื่องเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC Dual VVT-i ขนาด 1.5 ลิตรอันเป็นขุมพลังคลาสสิคที่ทำตลาดมายาวนาน พร้อมจับคู่เกียร์อัตโนมัติ CVT 7 สปีดผสานกับช่วงล่างที่ลงตัว ทำให้ไม่รู้สึกโคลงเคลงเวลาทำความเร็ว VIOS จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นรถที่ขึ้นชื่อเรื่อง “ขับสนุก” นั่นเอง

นอกจากนั้น Toyota VIOS ยังเน้นดีไซน์ที่ถูกใจผู้บริโภคในวงกว้าง เป็นตัว เลือกรถคันแรก ที่เหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย เพราะรูปลักษณ์โดยรวมของ Vios ไม่หวือหวาจนเกินไป แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Toyota ขณะที่ ห้องโดยสารก็กว้างขวาง การเก็บเสียงอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับรถในกลุ่มเดียวกัน ตอบโจทย์ได้อย่างดีทั้งการขับในเมืองและนอกเมือง เลยกลายเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ฮอตสุดๆ ในตลาดรถมือสองไปเลย

ตัวเลือกรถคันแรก Toyota VIOS 1.5 จาก CARSOME

• Toyota VIOS 2017 รุ่น E 1.5 ราคา 354,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Toyota VIOS 2018 รุ่น S 1.5 ราคา 418,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Toyota VIOS 2019 รุ่น MID 1.5 ราคา 398,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Toyota VIOS มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

5. รถคันแรก Honda JAZZ 1.5

รถคันแรกขวัญใจผู้หญิง อีกหนึ่งคันอย่าง Honda JAZZ (ฮอนด้า แจ๊ส) รถเล็ก 5 ประตู (Hatchback) ตัวฮิตตลอดกาลจาก Honda (ฮอนด้า) ที่แม้ว่าโมเดลนี้จะเลิกจำหน่ายมือหนึ่งในไทยไปแล้ว แต่มือสองก็ยังคงแรงดีไม่มีตกทั้ง เพราะดีไซน์ทันสมัยเหมาะกับคนรุ่นใหม่และคนในเมือง ภายนอกดูกระทัดรัด แต่การออกแบบพื้นที่ภายในทำให้ห้องโดยสารดูไม่คับแคบ อีกทั้งยังอเนกประสงค์ สามารถพับและปรับเปลี่ยนเบาะเพื่อเพิ่มพื้นที่ได้ถึง 4 โหมดการใช้งาน

ใครที่ จะซื้อรถคันแรก บอกเลยคันนี้เล็กพริกขี้หนู เพราะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า อัตราการประหยัดน้ำมัน 16 กิโลเมตร/ลิตร เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Shifting Control of Cornering Gravity & G Design Shift เพิ่มความสนุกด้วย Sport Paddle Shift หรือระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย อีกทั้งยังเหมาะกับสายแต่งรถเพราะเป็นรถ Global Model หาอะไหล่แต่งรถง่าย สามารถสั่งจากต่างประเทศมาได้ด้วย

ตัวเลือกรถคันแรก Honda JAZZ 1.5 จาก CARSOME

• Honda JAZZ 2017 รุ่น RS+ 1.5 ราคา 514,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Honda JAZZ 2018 รุ่น V+ 1.5 ราคา 487,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Honda JAZZ 2019 รุ่น S 1.5 ราคา 463,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Honda JAZZ มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

6. รถคันแรก Nissan ALMERA 1.0

คนที่ อยากมีรถคันแรก หลายคนคงกำเงินรอกันมานานกับรุ่นปรับโฉม New Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า ใหม่) ใหม่ที่ตอบโจทย์คนที่ อยากซื้อรถคันแรก ในงบอีโคคาร์แต่หน้าตาหรูหราราวกับรถยุโรปสุดๆ เพราะทุกรุ่นที่ผ่านมา ALMERA (อัลเมร่า) มาพร้อมวัสดุการตกแต่งภายในที่ดูน่าใช้ แถมยังโดดเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน ช่วงล่างแน่น ขับขึ้นเขาก็ยังไหว และออฟชั่นที่ทางนิสสันให้มาแบบไม่มีกั๊ก แถมยังได้เครื่องยนต์เทอร์โบมาช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ 

Nissan Almera รุ่นล่าสุดมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.0 ลิตรพ่วงเทอร์โบ จับคู่เกียร์ XTronicCVT ช่วยให้เวลาเปลี่ยนเกียร์ไม่รู้สึกติดขัด นุ่มนวล ได้ทั้งความแรงและความประหยัด พร้อมเทคโนโลยี D-Step Logic ขับเคลื่อนล้อหน้าเสริมระบบตัดการทำงานของเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง (Idling Stop) ช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ครบเครื่องสำหรับ การซื้อรถคันแรก ของชาวออฟฟิศคนเมืองเลยทีเดียว

ตัวเลือกรถคันแรก Nissan ALMERA 1.0 จาก CARSOME

• Nissan ALMERA 2020 รุ่น VL 1.0 ราคา 449,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Nissan ALMERA 2020 รุ่น V TURBO 1.0 ราคา 473,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Nissan ALMERA 2021 รุ่น V TURBO 1.0 ราคา 458,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Nissan ALMERA มือสอง หรือ Nissan มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

7. รถคันแรก Suzuki SWIFT 1.2

ใครที่อยาก ซื้อรถยนต์คันแรก ที่มีดีไซน์ภายนอกเป็นเอกลักษณ์ แถมยังขับง่าย เหมาะกับมือใหม่ Suzuki SWIFT (ซูซูกิ สวิฟต์) ถือว่าเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่น่าสนใจ ด้วยดีไซน์น่ารักไม่เหมือนใคร เหมาะกับหนุ่มสาวยุคนี้ นับว่าทาง Suzuki (ซูซูกิ) ออกแบบรถรุ่นนี้มาได้อย่างลงตัว ทั้งความสวยงามและสมรรถนะการขับขี่ที่เพียงพอต่อการใช้งาน พร้อมจุดเด่นตรงฐานล้อที่กว้างกว่าห้องโดยสาร ส่งผลให้ประสิทธิภาพเกาะถนนดีขึ้น และหากใครที่เน้นขับในเมือง อยากซื้อรถคันแรก ที่หาที่จอดง่าย คันนี้ก็ตอบโจทย์ เพราะวงเลี้ยวแคบเพียง 4.8 เมตรเท่านั้น

SWIFT (สวิฟต์) ใช้เครื่องยนต์ Dual Jet ขนาด 1.2 ลิตร พละกำลัง 83 แรงม้า อัตราประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตร/ลิตร พร้อม IDLING STOP ระบบช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง แม้แรงม้าจะน้อยแต่การใช้เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิอย่าง HEARTECH เข้ามาทำให้โครงรถมีน้ำหนักเบา แต่ยังคงความแข็งแรงทนทานเอาไว้ จึงเป็นรถที่คล่องตัวและทรงตัวได้ดี

ตัวเลือกรถคันแรก Suzuki SWIFT 1.2 จาก CARSOME

• Suzuki SWIFT 2013 รุ่น GL 1.2 ราคา 212,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Suzuki SWIFT 2017 รุ่น RX II 1.2 ราคา 366,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Suzuki SWIFT 2018 รุ่น GLX NAVI 1.2 ราคา 372,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Suzuki SWIFT มือสอง หรือ Suzuki มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

8. รถคันแรก Mitsubishi ATTRAGE 1.2

Mitsubishi ATTRAGE (มิตซูบิชิ แอททราจ) รถทรงซีดานที่จะช่วยให้ การซื้อรถคันแรก เป็นเรื่องง่าย เพราะถึงจะเป็นตัวเริ่มต้นสำหรับตัวถัง 4 ประตูจากทาง Mitsubishi (มิตซูบิชิ) แต่ออพชั่นที่ได้ก็เพียงพอต่อการใช้งาน โดยมิตซูบิชิทำการยกโครงรถเดิมของมิราจมาทำการปรับแต่งและเพิ่มเส้นสายความสปอร์ตทั้งภายนอกและภายใน เช่น กระโปรงหน้ารถดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าตกแต่งด้วยเส้นสีแดง เป็นต้น

ด้านสมรรถนะเน้นประหยัดน้ำมัน คันนี้นับว่า ตอบโจทย์คนที่ อยากซื้อรถคันแรก ที่ต้องการรถใช้งานทั่วไปและงบไม่สูงนักมากๆ เพราะมาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 78 แรงม้า น้ำมันได้ถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตรแถมมีหลายรุ่นให้เลือกในราคาเริ่มต้นเพียง 494,000 บาท ขณะที่ รุ่นท็อปก็ยังเป็น รถราคาไม่ถึง 6 แสนบาท แต่ได้ฟังก์ชันที่น่าสนใจทั้งหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว, ระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI และกล้องมองหลังเลยทีเดียว

ตัวเลือกรถคันแรก Mitsubishi ATTRAGE 1.2 จาก CARSOME

• Mitsubishi ATTRAGE 2015 รุ่น GLX 1.2 ราคา 233,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Mitsubishi ATTRAGE 2017 รุ่น GLX 1.2 ราคา 255,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Mitsubishi ATTRAGE 2018 รุ่น GLX 1.2 ราคา 266,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Mitsubishi ATTRAGE มือสอง หรือ Mitsubishi มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

9. รถคันแรก Suzuki CIAZ 1.2

สำหรับใครที่ จะซื้อรถคันแรก ที่ตอบโจทย์เรื่องความจุทั้งคนทั้งของ ขอแนะนำ Suzuki CIAZ (ซูซูกิ ซีแอสซ์) รถอีโคคาร์ 4 ประตูที่มีจุดเด่นเรื่องห้องโดยสารที่กว้างขวางเป็นอันดับต้นๆ แถมยังมีพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายรถเยอะกว่ารถคันอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน นอกจากนั้น ออพชั่นที่ได้ก็คุ้มค่า เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในราคาที่ไม่แรงนัก นอกจากนั้น อะไหล่ก็ราคาไม่สูงทำให้ดูแลรักษาง่าย เหมาะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของคนที่ อยากมีรถคันแรก

ถึงจะไม่ได้ออกรุ่นใหม่มานาน แต่ Suzuki CIAZ (ซูซูกิ ซีแอสซ์) ตัวล่าสุดก็เป็นรุ่นปรับโฉมที่มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยขึ้น ด้วยการดีไซน์ภายนอกแบบใหม่หมดจด เปลี่ยนมาใช้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ เลนส์ แบบแอลอีดี พร้อมปรับกระจังหน้า กันชนหน้า-หลังใหม่ นอกจากนั้นยังปรับเพิ่้มอุปกรณ์โดยไม่เพิ่มราคาจำหน่าย แถมยังมีจุดเด่นเรื่องความเป็นรถอีโคคาร์ที่นุ่มนวลที่สุด เหมาะสำหรับคนที่ ออกรถคันแรก เพื่อรับส่งพ่อแม่หรือผู้สูงอายุในบ้านสุดๆ

ตัวเลือกรถคันแรก Suzuki CIAZ 1.2 จาก CARSOME

• Suzuki CIAZ 2017 รุ่น GL 1.2 ราคา 282,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Suzuki CIAZ 2018 รุ่น GL 1.2 ราคา 298,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• Suzuki CIAZ 2016 รุ่น GL 1.2 ราคา 242,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)

สนใจ Suzuki CIAZ มือสอง สภาพใหม่ คุณภาพดี ดูได้ที่ CARSOME

10. รถคันแรก MG MG3 1.5

อีกหนึ่งรุ่นรถที่ตอบโจทย์คนที่ อยากซื้อรถคันแรก ที่มีสีสันสวยสะดุดตา กับ MG MG3 (เอ็มจี เอ็มจี 3) ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดและตัวถังที่ค่อนข้างใหญ่ใกล้เคียงรถ B-Segment ในราคาสุดเร้าใจเพราะเริ่มต้นเพียง 519,000 บาทในรุ่น C พร้อมด้วยจุดเด่นตัวเลือกสีตัวถังที่หลากหลายรวมทั้งแบบ Two-Tone เอาใจคนชอบแตกต่าง และออพชั่นที่ให้มาอย่างคุ้มค่าเกินราคาโดยเฉพาะออพชั่นในฝันของคนที่อยาก ซื้อรถยนต์คันแรก หลายๆ คนอย่างหลังคา SUNROOF แบบปรับไฟฟ้าที่มีให้ตั้งแต่รุ่น รถราคาไม่เกิน 6 แสนบาท

MG MG3 (เอ็มจี เอ็มจี 3) ยังมาพร้อมห้องโดยสารดีไซน์พรีเมียมสปอร์ต ที่เน้นการออกแบบให้กว้างนั่งสบายทั้งหน้าหลัง ที่นั่งแถวหลังสามารถพับเพื่อเก็บสัมภาระได้แบบ 60:40 ตามมาตรฐานของรถตัวถัง Hatchback พร้อมจอ TOUCHSCREEN ขนาด 8 นิ้วเชื่อมต่อระบบ ENTERTAINMENT สำหรับดูหนังฟังเพลง พร้อมกล้องมองหลังและระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยด้วย

ตัวเลือกรถคันแรก MG MG3 1.5 จาก CARSOME

• MG MG3 2017 รุ่น X 1.5 ราคา 258,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• MG MG3 2017 รุ่น XROSS X 1.5 ราคา 257,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)
• MG MG3 2018 รุ่น V SUNROOF 1.5 ราคา 258,900 บาท (ไม่รวมภาษี 7% และค่าธรรมเนียม)