ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

[ 10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า Top Speed ]

• Home
• »
• พลังงาน
• »
• [ 10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า Top Speed ]

ค้นหาค้นหา

Recent Posts

• [ สาเหตุว่าทำไมจอดพักรถ ไม่ควรเปิดฝากระโปรงหน้าเด็ดขาด ]
• [ เช็กให้ชัวร์เงื่อนไขลดหย่อนภาษี-เงินอุดหนุนรถ EV ปี 2568 มีอะไรบ้าง? ]
• [ เส้นแบ่งเลน “สีขาว” และ “สีเหลือง” แตกต่างกันอย่างไร? ]
• [ ขับรถเกียร์ธรรมดา ห้ามทำ 5 พฤติกรรมเหล่านี้โดยเด็ดขาด ]
• [ ระบบเบรก ABS / EBD / BA คืออะไร ช่วยในการขับขี่อย่างไร? ]

Categories

• Uncategorized
• กฏหมาย
• ข่าว
• ความปลอดภัย
• ความรู้
• ความรู้หน้าฝน
• บทความ
• ประกัน
• พลังงาน
• ยาง
• รถใหม่
• รถไฟฟ้า
• สัญญา
• อะไหล่รถ
• เทคโนโลยี
• เรื่องรถ
• แกะกล่องHOWMUCH?
• แกะกล่องสาระ

สืบเนื่องจากคอนเทนต์ที่แล้ว ได้จัดอันดับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอัตราเร่งเร็วที่สุดไปแล้ว คราวนี้มาพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้าสามารถทำระยะทางต่อชั่วโมงได้มากที่สุด คือที่เราเรียกกันว่า Top Speed มาดูกันว่ามีรุ่นไหนกันบ้าง 1 ไมล์ = 1.61 กม.

10 อันดับ รถยนต์ไฟฟ้า Top Speed เร็วที่สุด

1. Rimac Nevera – 258 ไมล์ต่อชั่วโมง (415 กม./ชม.)

รถไฮเปอร์คาร์ Rimac จากประเทศโครเอเชีย Rimac Nevera ถูกจัดให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุด จากมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว ทำให้มีกำลังมากถึง 1,914 แรงม้า ความเร็ว 0 – 60 ไมล์ใช้เวลาเพียง 1.85 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุด 258 ไมล์ต่อชั่วโมง สำหรับราคาไม่ใช้ย่อยเหมือนกัน 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 77 ล้านบาท

2. Tesla Model S Plaid – 200+ ไมล์ต่อชั่วโมง (มากกว่า 322 กม./ชม.)

Tesla Model S Plaid จัดเป็นรถยนต์ประเภท Luxury Sedan ที่มีกำลังมากถึง 1,000 แรงม้า และคาดว่าจะเป็นรถคันแรกในตลาด EV ที่มี Top Speed ถึง 200 ไมล์ต่อชั่วโมง จากรายงานของเทสล่าสามารถทำเวลาจาก 0 – 60 ไมล์ ได้ที่ 1.99 วินาที

3. Lucid Air Dream Edition – 168 ไมล์ต่อชั่วโมง (270 กม./ชม.)

Lucid Air ซึ่งเริ่มมีกำหนดวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2021 ถูกเลื่อนออกไปจนถึงครึ่งหลังของปี 2021 Dream Edition เป็นรุ่นแรกของ Air ที่จะเปิดตัว และจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วย ด้วยระบบส่งกำลัง 1,080 แรงม้า สามารถทำเวลาได้ตั้งแต่ 0 ถึง 60 ไมล์ ในเวลาเพียง 2.5 วินาที

4. Tesla Model X Plaid – 163 ไมล์ต่อชั่วโมง 262

จากการที่วันส่งมอบ Model X มีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง แต่คาดว่า Model X X Plaid ใหม่ จะคุ้มค่ากับการรอคอยอย่างแน่นอน ด้วยแรงม้า 1,020 แรงม้าและความเร็วสูงสุด 163 ไมล์ต่อชั่วโมง สุดท้าย Model X จะทำลายสถิติก่อนหน้านี้ในฐานะ SUV ไฟฟ้าที่เร็วที่สุด

5. Tesla Model 3 Performance – 162 ไมล์ต่อชั่วโมง 260

ใกล้เข้าสู่ปีที่ 3 ในการผลิตแล้ว Model 3 Performance เป็นหนึ่งในยานพาหนะที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดและในระดับราคาที่น้อยกว่า 60,000 เหรียญ สามารถทำเวลา 0 – 60 ไมล์ต่อชั่วโมง ใช้เวลาเพียง 3.1 วินาที และสามารถทำความเร็วสูงสุดที่ 162 ไมล์ต่อชั่วโมง สามารถเดินทางได้ไกลถึง 315 ไมล์

6. Porsche Taycan Turbo S – 161 ไมล์ต่อชั่วโมง 259

จากอัตราเร่งของ Porsche Taycan Turbo S 0 – 60 ไมล์ ทำเวลาเพียง 2.6 วินาทีในโหมด Overboost ด้วยกำลังสูงสุด 750 แรงม้า และสามารถวิ่งได้ 161 ไมล์ต่อชั่วโมง

7. Porsche Taycan Turbo – 161 ไมล์ต่อชั่วโมง (259 กม./ชม.)

Taycan Turbo เป็นรถไฟฟ้าที่เร็วที่สุดเป็นอันดับ 2 ในตระกูลของ Taycan กำลัง 616 แรงม้า แต่สามารถเพิ่มเป็น 670 ในโหมด Overboost 0 – 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใช้เวลาเพียง 3.0 วินาที ทำความเร็วได้สูงสุด 259 กม./ชม.

8. Porsche Taycan Cross Turbo S – 155 ไมล์ต่อชั่วโมง (249 กม./ชม.)

รุ่นสุดท้ายของ Taycan Cross Turismo ก็คือ Turbo S กำลังขับอยู่ที่ 616 ม้าในการใช้งานปกติ อย่างไรก็ตาม ในโหมด Overboost สามารถปลดล็อกได้สูงสุด 750 แรงม้า ทำให้สามารถวิ่งจาก 0 – 60 ได้ภายในเวลา 2.7 วินาที

9. Audi e-tron GT RS – 155 ไมล์ต่อชั่วโมง (249 กม./ชม.)

Audi e-tron GT RS ถูกจำกัดกำลังเพียง 590 แรงม้าในการใช้งานปกติ แต่ใน Boose Mode มีกำลังถึง 637 แรงม้าสามารถเร่งความเร็วได้ถึงหกสิบในเวลาเพียง 3.1 วินาที และในที่สุดก็ถึงความเร็วสูงสุดที่ 155 ไมล์ต่อชั่วโมง

10. Porsche Taycan Cross Turbo – 155 ไมล์ต่อชั่วโมง (249 กม./ชม.)

5 รุ่น รถยนต์ไฟฟ้า รีวิวดีแถมราคาโดน 2022-2023

ข่าวสารรถ | 9 ม.ค. 2566

รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV นวัตกรรมทางยานยนต์รุ่นใหม่ที่ได้รับการจับตามองและมีความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก ความใส่ใจในพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีการขับขี่ที่ประหยัดพลังงานทำให้ทุกคนที่สนใจต้องการซื้อรถในช่วงเวลานี้ ต่างหันมาสนใจ รถ EV กันเพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบันมีค่ายออกแบบรถเป็นจำนวนมากส่งรถไฟฟ้ารุ่นใหม่เข้าสู่ท้องตลาดให้ผู้รักรถได้เลือกซื้อหาและยังคงมีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ รู้ใจเลยอยากชวนทุกท่านไปรู้จักกับรถไฟฟ้าที่น่าสนใจในช่วงเวลาปี 2022-2023 จะมีรุ่นไหนบ้าง ไปดูกันเลย

รถยนต์ไฟฟ้า จากจีน “รุกหนัก” ตลาดรถไฟฟ้าเมืองไทย

เรื่องราวของ รถยนต์ไฟฟ้า ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณากันอย่างยาวนานมากกว่า 10 ปี โดยต้นกำเนิดจริง ๆ มาจากการที่พลังงานน้ำมันมีราคาที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้ภาคการผลิตรถยนต์ใช้น้ำมันต้องเสียเปรียบกับการที่ไม่อาจกำหนดราคาได้ด้วยตนเอง แต่ละค่ายรถได้เริ่มพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกในรูปแบบต่าง ๆ และท้ายที่สุด… มาลงเอยกับพลังงานไฟฟ้า โดยผู้นำยนตรกรรมด้านการใช้พลังงานไฟฟ้ามาขับเคลื่อนได้แก่ประเทศจีน แต่ในช่วงแรกยังไม่ได้รับความนิยมมากนักและยังคงใช้งานกันอย่างจำกัดเฉพาะในพื้นที่ประเทศจีนเท่านั้น

แต่เมื่อความต้องการรถยนต์ที่ไม่จำเป็นต้องง้อน้ำมันเพิ่มขึ้น ทำให้รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และแน่นอน ค่ายรถจากจีนเข้ามาตีตลาดอย่างหนักในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาจนทำให้ค่ายรถยนต์หลัก ๆ ต่างต้องปรับกลยุทธ์โดยมุ่งเน้นไปยังการพัฒนารถไฟฟ้าอย่างจริงจัง ถึงกระนั้น รถไฟฟ้าจากจีนถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ เพราะราคาไม่แพง ประหยัดน้ำมัน มีความคล่องตัวสูง แต่สำหรับผู้ขับขี่ชาวไทยยังคงความคลางแคลงใจในกับคุณภาพและประสิทธิภาพของรถจากจีนอยู่ คงต้องอาศัยเวลาเพื่อพิสูจน์คุณภาพว่ารถไฟฟ้าจากจีนนี้จะเข้าถึงใจคนไทยได้มากแค่ไหน

5 รุ่น รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม ประจำปี 2022-2023

แม้ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้ายังคงอยู่ในช่วงการเริ่มต้นของการเดินทางในการพัฒนาเพื่อให้ใช้งานจริงอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ถึงกระนั้นการต้อนรับรถไฟฟ้าสำหรับการใช้งานจริงมีแนวโน้มสูงเพิ่มขึ้นจึงเป็นที่มาของการค้นหา 5 รถไฟฟ้ายอดนิยม ในช่วงปีนี้ว่ามีรุ่นใดกันบ้าง รู้ใจจะพาเดินงาน Motor Show ออนไลน์เพื่อทำความรู้จักรถ EV น่าสนใจเหล่านี้ จุดเด่น ข้อด้อย ของแต่ละรุ่นจะเป็นอย่างไร ไปดูกัน

1.ORA GOOD Cat

ด้วยรูปทรงที่ดูน่ารัก และขนาดที่เล็กกะทัดรัด ทำให้เจ้าแมวเหมียว ORA GOOD Cat จาก GWM ยักษ์ใหญ่ของวงการผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีน ได้เข้ามาตีตลาดรถไฟฟ้าในประเทศไทยก่อนใครเพื่อน โดยก่อนหน้านั้นเน้นไปยังรถสายพันธุ์แกร่งแนว SUV Haval H6 แต่มาตอนนี้เล่นจับตลาดของรถซิตี้คาร์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานในเมือง ORA GOOD Cat จึงได้กระแสตอบรับจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก

ความโดดเด่นของเจ้าแมวเหมียวตัวน้อย ORA GOOD Cat คันนี้คือ เป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันแม้แต่น้อย มีขนาดที่เหมาะสมต่อการขับขี่ในเมืองใหญ่ สำหรับการออกแบบตัวถึงรถแม้จะเน้นสไตล์ย้อนยุคแต่ยังคงความทันสมัยเอาไว้ทุกกระเบียดนิ้ว ด้วยสีสันสุดน่ารัก ถูกใจคนชอบรถมินิมอล และที่ประทับใจใครเพื่อนมากที่สุดคือการทำระยะทางของรถรุ่นนี้สามารถวิ่งได้ไกลถึง 400 กิโลเมตรต่อการชาร์ตแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียว แต่ถึงกระนั้น จุดอ่อนที่สำคัญของ ORA GOOD Cat คือ ขนาดห้องโดยสารที่เล็กเกินไป ทำให้ไม่เหมาะกับผู้ขับขี่รูปร่างสูงใหญ่ และไม่มีพื้นที่เก็บของมากนัก ที่สำคัญยังมีเสียงมอเตอร์ไฟฟ้าสำหรับการขับเคลื่อนที่ดังมาก และราคาที่ยังถือว่าสูงมากในเวลานี้

ORA GOOD Cat ราคาเริ่มต้นที่ 770,000 บาท

2.MG ZS EV

ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่เชื้อสายจีนแต่มีสัญชาติเป็นอังกฤษ ดังนั้น การให้ความสนใจตลาดรถไฟฟ้าจึงเป็นหัวข้อหลักของบริษัท โดยในปี 2022 นั้น MG ได้ส่ง MG ZS รถยนต์พลังงานไฟฟ้าสาย SUV เข้าสู่ท้องตลาดและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะรถ SUV ที่ใช้พลังงานน้ำมันขึ้นชื่อเรื่องความสิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก แต่กับ MG ZS ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งระบบ

ความโดดเด่นที่ทำให้คนรักรถต้องหันมามอง MG ZS นั่นคือ ราคาของ MG ZS มีราคาถูกมากเมื่อเทียบกับรถซิตี้คาร์ไฟฟ้าของค่ายอื่น ๆ ด้วยราคาประมาณ 7 แสนปลาย ๆ เท่านั้น ส่วนการออกแบบตัวถังและภายในห้องโดยสารถือว่าล้ำสมัยมาก แต่ถึงกระนั้น หากมองในบางมุมของห้องโดยสารยังดูไม่สะดุดตามากนัก และ MG ZS มาพร้อมกับระบบช่วงล่างแนว SUV ของแท้อีกด้วย แต่จุดอ่อนสำคัญของ MG ZS คือเรื่องการเก็บเสียง เพราะเสียงดังมากรบกวนเข้าไปถึงห้องโดยสาร รวมถึงการให้บริการหลังการขายที่หาอู่ซ่อมค่อนข้างยากอยู่

MG ZS ราคาเริ่มต้นที่ 780,000 บาท

3.MG EP

เป็นหนึ่งรถสุดหรูจากทาง MG อีกหนึ่งคันที่เข้ามาจับใจผู้ใช้รถยนต์ในตลาดประเทศไทย MG EP เข้ามาในช่วงเวลาที่กระแสรถไฟฟ้าเพิ่งเริ่มต้น จึงมีคำถามและถูกจับตามองอย่างมากแต่ก็สามารถผ่านบทพิสูจน์เพื่อครองใจผู้ขับขี่ยุคใหม่ได้แล้ว ความโดดเด่นคือรูปแบบการดีไซน์ที่สวยและลงตัว ภายในห้องโดยสารยังทำออกมาได้ดีกว่ารถรุ่นหลังอย่าง MG ZS อีกทั้งยังมีระบบการชาร์จไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีการเก็บประจุไฟฟ้าจากการเหยียบเบรกเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

ส่วนข้อด้อยสำคัญสำหรับรถยนต์รุ่น MG EP นี้ คือการใช้งานภายในห้องโดยสารที่ยังล้าสมัย นั่นคือ ไม่มีระบบการควบคุมด้วยไฟฟ้าในการปรับเบาะและการเปิดประตูด้านหลัง และปัญหาสำคัญของ MG EP คือระบบช่วงล่างที่ไม่ค่อยช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดีเท่าไหร่ อีกทั้งการชาร์จแบตเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทางที่น้อยกว่ารถรุ่นอื่น MG EP สามารถวิ่งได้เพียงแค่ 350 กิโลเมตรเท่านั้น

MG EP ราคาเริ่มต้นที่ 771,000 บาท

4.Nissan LEAF

นับเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการเปิดตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ Nissan LEAF ถือเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบแรกสุดที่มีการเปิดตัวและจัดจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2020 มาแล้ว แต่ทางค่ายรถนิสสันกลับทำ Nissan LEAF ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งในเรื่องของการชาร์ตพลังงานที่ใช้งบประมาณที่น้อยมาก แถมยังมีรูปลักษณ์ที่ดูดีกว่ารถของทางค่ายจีน และที่สำคัญกำลังเครื่องยนต์ที่แรงมากประหนึ่งรถพลังงานน้ำมัน สามารถใช้ Nissan LEAF ในการขับทางไกลได้สบายและมีระบบช่วงล่างเพื่อช่วยในการยึดเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม

จุดด้อยของ Nissan LEAF คือราคาที่แพงกว่าใครในราคาเกือบ 2 ล้านบาท กับแนวรถที่เพิ่งออกมาใหม่อย่างรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ใครหลายคนไม่กล้าลองกับความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นมาได้ และที่สำคัญ ในส่วนของห้องคนขับนั้น Nissan LEAF ไม่สามารถปรับระดับของพวงมาลัยให้เข้ากับสรีระของผู้ขับขี่ได้

Nissan LEAF ราคาเริ่มต้นที่ 1,990,000 บาท

5.NETA V

ค่ายรถน้องใหม่ที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จักกับแบรนด์ NETA ที่ได้ส่ง NETA V แบบ Compact Crossover เข้าสู่ท้องตลาดโดยเป็นรถที่เน้นการใช้งานในเมืองเป็นหลัก โดยมีไอเดียหลักคล้ายคลึงกับรถในรุ่น Honda Jazz, Honda City Hatchback, Toyota Yaris และ Mazda 2 Hatchback จึงเรียกได้ว่า NETA V เข้ามาแย่งสัดส่วนของตลาดไปได้อย่างน่าสนใจ

จุดเด่นสุดของรถยนต์ NETA V จากค่ายจีนรุ่นนี้คือราคาที่ถูกกว่าใคร สำหรับรถรุ่นมาตรฐานมีราคาเทียบเท่ากับรถบิ๊กไบค์หนึ่งคัน นั่นเองจึงทำให้ใครที่กำลังตัดสินใจมองหารถไฟฟ้ามาใช้งานไม่ต้องใช้เวลาตัดสินใจนานมากนัก นอกจากนั้น NETA V ยังมีหน้าจอนำทางแบบดิจิทัลอีกด้วย แต่ข้อด้อยสำคัญของ NETA V คือ ดีไซน์ที่ล้าสมัยทั้งภายนอกและภายใน ยิ่งในส่วนห้องโดยสารที่ออกแบบมาได้เรียบมาก ไม่มีอะไรที่สะดุดตา ทำให้ดูเป็นรถที่น่าเบื่อไม่น้อย และที่สำคัญ NETA นี่คือค่ายรถน้องใหม่ที่เข้ามาในประเทศไทย เรื่องของการให้บริการหลังการขายจึงเป็นคำถามสำคัญยิ่ง

NETA V ราคาเริ่มต้นที่ 549,000 บาท

ทั้งหมดนี้คือ 5 รถยนต์ไฟฟ้ายอดนิยม สำหรับนักขับชาวไทยในเวลานี้ มีรถรุ่นไหนที่โดนใจบ้างไหม เมื่อคุณมองหารถไฟฟ้าที่ใช่และตัดสินใจเลือกซื้อแล้ว อย่าลืมมองหาประกันรถยนต์ที่คุ้มครองได้ครบถ้วนให้คุณด้วย เช่นที่รู้ใจ เรามีระบบคำนวณเบี้ยและการทำประกันสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้ทุกคนได้รับราคาเบี้ยประกันที่เป็นธรรมและยุติธรรม จึงเป็นที่มาของเบี้ยประกันภัยที่ราคาดีกว่าใคร

การมีประกันรถยนต์ที่ดี จะช่วยให้คุณมีช่วงเวลาแห่งการขับขี่ที่ปลอดภัยพร้อมด้วยราคาสบายกระเป๋า แวะมาปรึกษาเราได้ทุกเวลา รู้ใจพร้อมให้บริการประกันรถยนต์ในรูปแบบของการบริการที่ดีที่สุดและราคาที่ประหยัดที่สุดในท้องตลาดตอนนี้