ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 รถ EV (รถยนต์ไฟฟ้า) ยี่ห้อไหนดี 2025 ทรงสวย คุ้มค่าต่อการลงทุน!
อยากซื้อรถ EV ต้องเช็กให้ดีก่อนการลงทุน ใครกำลังมองหารถ ev สามารถแวะมาดูข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับรถ พร้อมดูว่ามีรุ่นไหนที่ควรค่าแก่การลงทุนซื้อไปใช้บ้างกัน!

26 ก.ย. 2025 · โดย หน้ากากแก้ว
ในยุคที่รถ EV แทบจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในการซื้อรถมาใช้ทำให้เราคิดว่าหากต้องการลงทุนกับรถสักคันก็ควรมองให้ครบทุกมิติ ถึงแม้ว่ารถ EV จะน่าสนใจแต่ว่าราคาไม่เบาเหมือนกันนะคะ ฉะนั้นเราต้องดูข้อมูลให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ วันนี้ Wongnai Beauty เลยอยากเอาข้อมูลรถ ev ที่น่าสนใจมาบอกต่อ รวมถึงเอารถ ev ที่น่าใช้มาแนะนำ ใครที่อยากได้รถ ev จะได้วางแผนได้อย่างชัดเจนว่าควรลงทุนกับแบรนด์ไหนดี!

รถ EV คืออะไร?
รถ EV มีชื่อเต็มว่า Electric Vehicle สามารถแปลได้อย่างตรงตัวว่า รถไฟฟ้า แน่นอนว่าในปัจจุบันไม่ว่าจะแบรนด์รถยนต์ค่ายเล็กหรือว่าค่ายใหญ่ต่างก็เริ่มหันมาพัฒนาเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมาขึ้น ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันยังคงมีการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลกับเบนซิน ทั้งนี้ทั้งนั้นรถ EV ก็เป็นอีกแนวทางที่ยังคงเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ จากปีก่อน ๆ เช่นกันค่ะ

อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/highlight-products/ev-car?ref=ct

รถ EV มีด้วยกัน 3 ประเภท
รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV) 
เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานแบบผสมผสานระหว่างเชื้อเพลิงทั่วไป และพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ซึ่งรถยนต์ประเภทนี้จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่าใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว เมื่อมีการเหยียบเบรกรถพลังงานบางส่วยจะถูกจัดเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และพลังงานที่ถูกเก็บไว้สามารถใช้ได้ในภายหลังเพื่อขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้ากับการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้

รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV)
รถประเภทนี้เขามีระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบไฟฟ้าแบบเดียวกับรถยนต์ไฮบริด แต่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้จากภายนอก หรือ Plug-in ทำให้เมื่อเสียบชาร์จแล้วรถจะสามารถวิ่งไปได้ในระยะทางที่มากกว่าระบบไฮบริดแบบดิม และแบตเตอรี่ที่ใช้ยังสามารถชาร์จไฟเพิ่มเพื่อกักเก็บประจุได้ตามที่ต้องการ และหากแบตเตอรี่หมดรถจะมีการทำงานที่คล้ายกับระบบไฮบริด (HEV) นั่นเองค่ะ

รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวในการขับเคลื่อน (Plug-in Electric Vehicles : PEVs) 
ประเภทสุดท้ายจะเป็นรถยนต์ที่คล้ายคลึงกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด แค่เข้าจะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่เป็นแหล่งพลังงานเดียวเมื่อแบตเตอรี่หมดลงจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อทำการชาร์จประจุใหม่อีกครั้งจึงจะกลับมาใช้ต่อได้

เรื่องที่ควรเช็กตัวเองก่อนทำการตัดสินใจซื้อรถ EV 
เช็กความจุของแบตเตอรี่กับระยะทางที่สามารถวิ่งได้ไกลที่สุด
ตรวจระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ว่าใช้เวลาเท่าไร และได้กี่เปอร์เซ็น
ดูความพร้อมว่าที่บ้านมีพื้นที่สำหรับชาร์จรถไฟฟ้าบ้านเพียงพอ
เตรียมตัวเช็กค่าเชื้องเพลิงที่ต้องจ่ายระหว่างเดือน
ดูเรื่องค่าซ่อมบำรุงของรถเพื่อเตรียมความพร้อมสำรองจ่ายเอาไว้
หาข้อมูลที่น่าเชื่อถือและบริการหลังการขายให้พร้อม
10 รถ EV (รถยนต์ไฟฟ้า) ยี่ห้อไหนดี 2025 ทรงสวย คุ้มค่าต่อการลงทุน!
MG ES

ใน MG ES เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบแวกอนขนาดคอมแพกต์ 5 ที่นั่งซึ่งเขามีรุ่นย่อยแค่รุ่นเดียวค่ะ มากับกำลัง 177 แรงม้า แรงบิดอยู่ที่ 280 นิวตันเมตร ในระยะทางวิ่ง 412 กิโลเมตร ตรงเบาะคนขับปรับไฟฟ้า และระบบช่วยขับขี่ ADAS รวมถึงเขามีระบบ  i-SMART ถ้าใครคิดว่าสนใจรุ่นนี้ก็สามารถดูรายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมได้เลยย

ราคารถ EV :

รุ่น ES ราคา 959,000 บาท
Source : 1

BYD M6

ถ้าใครกำลังมองหารถ EV ที่มีจำนวนที่นั่งเยอะ ๆ ต้อง BYD M6 เลยค่ะ แบ่วเป็น 2 รุ่น อย่าง Dynamic มาด้วยกำลัง 163 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร และระยะทางวิ่ง 420 กิโลเมตร กับรุ่น Extended มาในกำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร ซึ่งระยะทางวิ่ง 530 กิโลเมตร อีกทั้งเขายังมีเบาะ 3 แถว 6 กับ 7 ที่นั่ง มีให้เลือกแค่รุ่นนี้เท่านั้น ส่วนต่างอื่น ๆ เพิ่มเติมจะเป็นฟีเจอร์ระบบช่วยขับขี่ที่น้อยกว่าชอบฟังก์ชันแบบไหนเลือกได้เลยค่ะ

ราคารถ EV :

รุ่น Dynamic ราคา 829,900 บาท
รุ่น Extended ราคา 929,900 บาท (ทั้งรุ่น 6 และ 7 ที่นั่ง)
Source : 1

Aion Y Plus

Aion Y Plus เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ต้องบอกว่าเขาคือ MVP เลยค่ะ ถึงจะมีขนาดเล็กแต่ก็มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกัน เป็น 410 Premium กับ 490 Premium ความค่างของเขาคือระยะวิ่งตามชื่อรุ่น ซึ่งมีกำลังเท่ากันที่ 204 แรงม้า แรงบิด 225 มาพร้อมกับเบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝาท้ายไฟฟ้า มีหลังคากระจก อีกทั้งยังเป็นระบบช่วยขับขี่ ADAS 

ราคารถ EV :

รุ่น 410 Premium ราคา 769,900 บาท
รุ่น 490 Premium ราคา 829,900 บาท
Source : 1

Neta X

ถ้าอยากได้รถ SUV ที่ขนาดค่อยข้างใหญ่เก็บ Neta X ไปเป็นตัวเลือกได้เลยค่ะ แบรนด์นี้เขามาพร้อม 2 รุ่นย่อย คือ 410 Comfort และ 480 Smart ในทั้งรุ่นมีกำลัง 163 แรงม้า กับ แรงบิด 210 นิวตันเมตร อีกทั้งระยะทางวิ่ง 410 – 480 กิโลเมตร ทั้งนี้เขามีส่วนต่างกันเล็กน้อยอย่างพวกฝาท้ายไฟฟ้า ที่ชาร์จไร้สาย ซึ่งไม่มีในรุ่น 410 Comfort และระบบช่วยขับขี่ ADAS จะมีแค่ในรุ่น 480 Smart

ราคารถ EV :

รุ่น Comfort ราคา 739,000 บาท
รุ่น Smart ราคา 799,000 บาท
Source : 1

Geely EX5

อยากได้รถ ev ที่เท่ขึ้นอีกหน่อยแนะนำ Geely EX5 เลยค่ะ เขาเป็นรถไฟฟ้าที่มาแบบ SUV ที่มาใน 2 รุ่นย่อยอย่างรุ่น Pro ที่มีระยะทางวิ่ง 495 กิโลเมตร กับ Max ระยะทางวิ่ง 4900 กิโลเมตร ซึ่งมีกำลัง 218 แรงม้า กับแรงบิด 320 นิวตันเมตร นอกจากนี้ในรุ่น Max ยังมีหลังคากระจก ฝาท้ายไฟฟ้า แถมด้วยเบาะนวดคู่หน้า ลำโพงรอบทิศทาง 16 ตัว ปิดท้ายด้วยระบบช่วยขับขี่อย่าง ADAS พูดได้เลยว่าน่าสนใจมาก

ราคารถ EV :

รุ่น Pro ราคา 899,000 บาท
รุ่น Max ราคา 989,000 บาท
Source : 1

BYD Atto 3

BYD Atto 3 เป็นรถ ev ที่มาในทรง SUV ขนาด 5 ที่นั่ง ซึ่งรุ่นย่อยสูงสุด Extended Range มาในราคาที่ต่ำกว่าหลักล้าน ซึ่งมีกำลัง 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร มีระยะทางวิ่ง 480 กิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีหลังคากระจก พร้อมกับฝาท้ายไฟฟ้า เบาะคู่ปรับไฟฟ้า ไปจนถึงเขามีระบบช่วยขับขี่อย่าง ADAS แค่นี้ก็เห็นถึงความคุ้มค่าแล้วใช่ไหมล่าา น้องจึ้งมาก

ราคารถ EV :

รุ่น Extended Range ราคา 899,900 บาท
Source : 1

Neta V-II

ถ้าอยากได้รถที่ราคาไม่ถึง 6 แสนต้อง Neta V-II เลยค่ะ ถึงเขาจะเป็นรถยนต์ที่มาในขนาดเล็กแต่เขาเป็น SUV 5 ที่นั่งในราคาประหยัดใช้ได้เลยค่ะ ด้วยรุ่น Lite กับ Smart ที่มาพร้อมกำลัง 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร ระยะทางวิ่ง 382 กิโลเมตร เหมือนกันในทั้งสองรุ่น ทั้งนี้มีอุปกรณ์ที่สามารถอำนวจความสะดวกได้เหมือนกัน ยกเว้นระบบช่วยขับขี่ ADAS ที่มีมาเฉพาะรุ่น Smart

ราคารถ EV :

รุ่น Lite ราคา 549,000 บาท
รุ่น Smart ราคา 569,000 บาท
Source : 1

ORA Good Cat

ไปต่อกับ ORA Good Cat เขาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าน่ารักที่มากับ 5 ประตูเหมือนกันค่ะ เขาแบ่งรุ่นรถออกมาเป็น Pro กับ Ultra ด้วยกำลัง 143 แรงม้า ระยะทางในการวิ่งอยู่ที่ 480 กิโลเมตร มาพร้อมกับหลังคากระจก และมีระบบช่วยขับขี่ ADAS และในรุ่น Ultra จะมีความพิเศษเพิ่มเป็นเบาะนวดในฝั่งคนขับเพิ่มมาให้ พูดได้เลยว่าน้องไม่น่ารักเปล่าแต่มีฟังกัชันที่น่าสนใจมาก ๆ เหมือนกันใช่ไหมล่ะคะ

ราคารถ EV :

รุ่น Pro ราคา 799,000 บาท
รุ่น Ultra ราคา 899,000 บาท
Source : 1

MG4 Electric

สำหรับรถ ev จาก MG4 Electric เขาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดซับคอมแพกต์เหมือนกัน ถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู และ 5 ที่นั่ง เราสามารถได้รถรุ่นเหล่านี้ในราคาไม่เกินหลักล้านค่ะ ในรุ่น Standard Range D เขามีระยะทางวิ่ง 423 กิโลเมตร และรุ่น Long Range D กับ Long Range V มีระยะวิ่ง 540 กิโลเมตร กับ 170 กำลังแรงม้า เท่ากับในทั้ง 3 รุ่น มีความต่างแค่อุปกรณ์ระบบความปลอดภัยในบางรายการเท่านั่นค่ะ

ราคารถ EV :

รุ่น Standard Range D ราคา 709,900 บาท
รุ่น Long Range D ราคา 769,900 บาท
รุ่น Long Range V ราคา 889,900 บาท
Source : 1

BYD Dolphin

BYD Dolphin เป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดซับคอมแพกต์ ซึ่งตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู 5 ที่นั่ง มี 2 รุ่น คือ Standard Range กับ Extended Range ทั้งสองรุ่นมีความต่างกันที่กำลังม้า รุ่น Standard Range กำลัง 95 แรงม้า ระยะทางในการวิ่ง 435 กิโลเมตร และ รุ่น Extended Range กำลัง 204 แรงม้า ระยะทางวิ่ง 435 กิโลเมตร มีส่วนของอุปกรณ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย อย่างเรื่องของหลังคากระจก เบาะคู่หน้า หัวชาร์จ DC 80 กิโลวัตต์ สุดท้ายส่วนระบบช่วยขับขี่ ADAS ถุงลมนิรภัย 6 จุด มีให้สำหรับทั้ง 2 รุ่น

ราคารถ EV :

รุ่น Standard Range ราคา 569,900 บาท
รุ่น Extended Range ราคา 709,900 บาท
Source : 1

เห็นไหมคะ ว่ารถ ev มีแต่รุ่นที่น่าสนใจทั้งนั้นเลย ราคาก็จะแตกต่างกันออกไปทุกคนสามารถดูได้ว่าเราใช้ชีวิตแบบไหน ต้องการขับรถยังไงบ้างตรงนี้สำคัญเพราะถ้าสมมติว่าเราไม่คิดเรื่องพวกนี้เอาไว้ตอนซื้อมาใช้งานอาจจะไม่คุ้มได้ค่ะ ใดใดคือไม่ว่าจะเลือกซื้อรถคันก็อย่าลืมเรื่องของความคุ้มค่าเพราะรถแต่ละคันราคาไม่ถูกเลยค่ะ สาว!

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

10 กล้องติดรถยนต์ ยี่ห้อไหนดี 2025 เก็บภาพชัด ควรมีไว้ใช้งาน! 
10 ลู่วิ่งไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี 2025 ราคาจับต้องได้ มีฟังก์ชันปรับความชัน
10 แก้วเยติ รุ่นไหนดี? ใช้ได้ทั้งวันช่วยเก็บความเย็น หยิบจับถนัดมือ 
10 พัดลมไอเย็น ยี่ห้อไหนดี ช่วยคลายร้อนให้เย็นฉ่ำ ราคาเอื้อมถึง! 
อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/highlight-products/ev-car?ref=ct

ออกรถไฟฟ้า BYD ในปี 2025 เลือกตัวไหนดี

ตลาดรถไฟฟ้า BYD ในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยไลน์อัพรถที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ ตั้งแต่รถเมืองขนาดกะทัดรัดไปจนถึง SUV และ MPV หรูระดับพรีเมียม แต่ละรุ่นมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและระยะทางวิ่งที่ไกล ทำให้หลายคนสนใจเป็นเจ้าของ และหากคุณก็เป็นอีกหนึ่งคนที่สนใจรถจากแบรนด์ BYD อยู่ ในบทความนี้ Bondonpiya เราจะพาคุณมาดูกันว่าในปี 2025 มีรุ่นไหนที่น่าสนใจบ้าง

รถไฟฟ้า BYD มีรุ่นไหนเปิดตัวบ้าง

ปัจจุบันรถไฟฟ้า BYD มีให้เลือกหลากหลายรุ่น ได้แก่ BYD Dolphin รถเมืองราคาประหยัด, BYD Atto 3 รถ SUV ขนาดกะทัดรัด, BYD Seal ซีดานสปอร์ตหรู, BYD M6 MPV สำหรับครอบครัว และรุ่นล่าสุดที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ BYD Sealion 7 SUV สไตล์คูเป้ ดีไซน์พรีเมียม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

5 รุ่นรถไฟฟ้า BYD ที่น่าซื้อในปี 2025

อยากเปลี่ยนมาใช้รถไฟฟ้า BYD แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหน เราจะพาคุณมาดู 5 รุ่นที่น่าสนใจ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในไทยและต่างประเทศ จะมีรุ่นไหนบ้าง มาดูกัน

1. BYD Sealion 7

BYD Sealion 7 คือ SUV ไฟฟ้าคูเป้รุ่นใหม่ล่าสุด โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตหรู มาพร้อมสมรรถนะสูงสุดถึง 530 แรงม้า เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสปอร์ตแต่ต้องการพื้นที่ใช้สอยของ SUV

ราคาและสเปคของ BYD Sealion 7

• ราคาเริ่มต้น 1,149,900 บาท
• มอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว 230 กิโลวัตต์ พละกำลังสูงสุด 313 แรงม้า
• วิ่งระยะทางสูงสุด 567 km. (มาตรฐาน NEDC)
• อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 6.7 วินาที
• แบตเตอรี่ Blade Battery ขนาด 82.5 kWh
• ขับเคลื่อนล้อหลัง Rear-Wheel Drive

2. BYD Seal

BYD Seal ซีดานสปอร์ตที่มาพร้อมสมรรถนะระดับพรีเมียม ดีไซน์โฉบเฉี่ยว ภายในหรูหรา เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเร็วและความหรูหรา

ราคาและสเปคของ BYD Seal

• ราคาเริ่มต้น 999,900 บาท
• มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 201 แรงม้า
• แบตเตอรี่ Blade battery ขนาด 61.44 kWh 
• 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที
• ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 
• วิ่งได้ 510 กม./ชาร์จ NEDC
• เวลาชาร์จเร็ว DC 110kW 30%-80% ภายใน 30 นาที
• รองรับชาร์จ AC 7kW

3. BYD Atto 3

BYD Atto 3 เป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัดที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยการออกแบบที่โดดเด่น ห้องโดยสารกว้างขวาง และราคาที่เข้าถึงได้ เหมาะสำหรับครอบครัวยุคใหม่ที่ต้องการรถอเนกประสงค์ประหยัดพลังงาน

ราคาและสเปคของ BYD Atto 3

• ราคาเริ่มต้น 759,900 บาท
• มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor
• แบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 50.25-60.48 kWh
• ระยะทางวิ่งสูงสุด 410-480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ
• รองรับหัวชาร์จแบบ Type 2 (CCS Combo)
• มีแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย, ช่องจ่ายไฟ 12V

4. BYD M6

BYD M6 คือ MPV ไฟฟ้า 6 ที่นั่งที่ตอบโจทย์ครอบครัวยุคใหม่ มาพร้อมห้องโดยสารกว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และระยะทางวิ่งที่ไกล เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่

ราคาและสเปคของ BYD M6

• ราคาเริ่มต้น 799,900 บาท 
• วิ่งได้ไกลสูงสุด 420-490 กิโลเมตร/ชาร์จ 1 ครั้ง
• กำลังสูงสุด 204 แรงม้า
• แบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 55.4-60.48 kWh
• รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ด้วยกำลังไฟสูงสุดถึง 85 kW
• สามารถขยายพื้นที่เก็บสัมภาระได้ถึง 580 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวหลังลง

5. BYD Dolphin

BYD Dolphin เป็นแฮตช์แบ็กไฟฟ้าราคาประหยัดที่สุดในไลน์อัพ มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย ขนาดกะทัดรัดเหมาะกับการใช้งานในเมือง และประหยัดพลังงาน เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่และผู้ที่ต้องการรถคันแรก

ราคาและสเปคของ BYD Dolphin

• ราคาเริ่มต้น 569,900 บาท
• มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 70 กิโลวัตต์ (95 แรงม้า)
• แรงบิดสูงสุด 180 นิวตันเมตร
• แบตเตอรี่ Blade Battery ขนาด 44.9 kWh
• ระยะทางวิ่งไกลสุด 410 กิโลเมตร (NEDC)
• อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.0 วินาที

สิ่งที่ควรรู้ก่อนออกรถใหม่

ก่อนตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้า ควรพิจารณาปัจจัยสำคัญหลายอย่าง เช่น รูปแบบการใช้งาน ระยะทางที่ต้องขับในแต่ละวัน จำนวนผู้โดยสาร และงบประมาณ นอกจากนี้ควรศึกษาเรื่องสถานีชาร์จในเส้นทางที่ใช้งานประจำ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการรับประกัน

สรุป

ไม่ว่าคุณจะมองหารถไฟฟ้าแบบไหน รถไฟฟ้า BYD ก็มีรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ ตั้งแต่รถสำหรับขับในเมืองราคาประหยัดไปจนถึงรถหรูสมรรถนะสูง หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการทดลองขับ BYD สุราษฎร์ธานี พร้อมให้คำปรึกษาและบริการที่ครบวงจร เพื่อให้คุณได้รถที่ใช่และคุ้มค่าที่สุด

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

• โทร: 077-289-555 สาขาบางกุ้ง
• โทร: 077-289-556 สาขาบางใหญ่
• Facebook: BYD B Infinite Surat Thani 
• Facebook: BYD B Infinite Surat Thani Bang Yai
• Tiktok: bydsuratthani