ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
8 อันดับ รถยนต์ยอดฮิตถูกและดี งบน้อยก็เข้าถึงได้ ปี 2023
ข่าวสารรถ | 12 มิ.ย. 2566

ในปี 2023 อัตราการซื้อรถใหม่ยังคงเพิ่มสูงมาก และที่สำคัญรถเก๋งแนว City Car ราคาประหยัดยังคงเป็นตัวเลือกในลำดับต้น ๆ สำหรับการซื้อขายเพราะเป็นรถยนต์ราคาดี ที่สามารถจับต้องได้ จึงเป็นที่มาของการจัดอันดับ 8 สุดยอดยี่ห้อรถยนต์สำหรับชีวิตคนเมืองที่เน้นความหรูหรา ประโยชน์ใช้สอย อีกทั้งยังมีราคาประหยัดอีกด้วย รู้ใจชวนคุณออกตามหารถยนต์คันแรกหรือรถใหม่ของคุณในปี 2023 จะมีรุ่นไหนที่ถูกใจคุณบ้าง มาทำความรู้จักไปด้วยกัน
ตลอดปี 2022 จนก้าวล่วงมาสู่กลางปี 2023 ได้มีการจัดเก็บข้อมูลในเรื่องของการออกรถใหม่จากหลายแห่งและข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกสรุปออกมาเป็นแนวโน้มของรถที่ได้รับความนิยมในปี 2023 อยากจะซื้อรถคันแรก ซื้อรถใหม่ จะมีรถรุ่นไหนบ้าง รับรองว่าแต่ละรุ่นจะทำให้คุณต้องปวดหัวกับการเปรียบเทียบรถ เพราะแต่ละแบบนั้นทั้งประหยัด ทั้งคุ้มค่า จนไม่รู้ว่าจะเลือกรุ่นไหนดี ซึ่งรู้ใจคัดสรรมาให้ทั้งหมด 8 รุ่นดังต่อไปนี้

1. Nissan Almera
อีกหนึ่งรถเก๋งขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการใช้งานในเมืองใหญ่กับความแข็งแกร่งใช้งานง่ายของนิสสัน อัลเมร่า ที่ทุกคนต่างให้การยอมรับ ทำให้รถรุ่นนี้ติดทำเนียบรถเด่นประจำปี 2023 ยอดการจองและการจำหน่ายของรถรุ่นนี้ไม่มีสะดุดเลย ด้วยความน่ารักและทันสมัยที่มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยด้านการขับขี่อย่างเต็มขั้น ทำให้อัลเมร่าคือตัวเลือกที่หลายคนชื่นชอบกับการใช้งานเมืองใหญ่โดยเฉพาะ
- สนนราคา Nissan Almera เริ่มต้นที่ 515,000 บาท – 655,000 บาท

2. Honda City
อีกหนึ่งขวัญใจสำหรับผู้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่กับฮอนด้า ซิตี้ ที่ยังคงยืนหยัดมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่เผยโฉมมาในปี 2539 ยังคงรักษาความนิยมเอาไว้ไม่เสื่อมคลาย อีกทั้งยังมีการพัฒนารูปแบบดีไซน์ให้มีความโฉบเฉี่ยวเหมาะกับหนุ่มสาวทันสมัย
จากหลายปัจจัยจึงทำให้ซิตี้ยังคงเป็นยี่ห้อรถเก๋งเบอร์หนึ่งในใจของใครหลายคนกับการเลือกรถสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ที่มีอุปกรณ์และการจัดการทุกอย่างให้มาอย่างครบครันโดยไม่ต้องมองหาอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว ยิ่งในรุ่นใหม่ในปี 2022 เพิ่มส่วนของดีไซน์ที่งดงามดูปราดเปรียว โฉบเฉี่ยวสะดุดตามากขึ้น นับเป็นรถชั้นดีราคาเบา ๆ ที่คุณไม่ควรพลาดอย่างแท้จริง
- สนนราคา Honda City เริ่มต้นที่ 579,000 บาท – 739,000บาท

3. Mitsubishi Mirage
อีกหนึ่งตัวเลือกรถเก๋งที่น่าจับตามองสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ กับความสดใสที่ผสมผสานความกะทัดรัดของ Mitsubishi Mirage ยี่ห้อรถที่โดนแย่งตลาดไปนาน ตอนนี้กลับมาทวงความยิ่งใหญ่จนสามารถขึ้นชาร์ต 1 ใน 8 รถยอดนิยมราคาประหยัดสำหรับคนต้องการจ่ายแบบเบา ๆ แต่ยังคงความพร้อมรอบด้านแบบครบครันให้ทุกการขับขี่ปลอดภัยในทุกเวลา ความน่าสนใจของมิราจคือขนาดที่พอเหมาะ ควบคุมทิศทางได้ง่าย จึงทำให้รถรุ่นนี้เป็นหนึ่งในรถ City car ครองใจวัยรุ่นหนุ่มสาวยุคใหม่ได้อย่างรวดเร็ว
- สนนราคา Mitsubishi Mirage เริ่มต้นที่ 474,000 บาท – 579,000 บาท

4. Mazda2
ข้ามข้อจำกัดในเรื่องของขนาดกะทัดรัดมาสู่ความโฉบเฉี่ยวที่ดูทันสมัย ทำให้ Mazda2 คือหนึ่งในรถที่สามารถเข้าไปครองใจของผู้รักรถและมองหารถที่มีดีไซน์โฉบเฉี่ยว ทันสมัยมากที่สุดกับรถซิตี้คาร์แนวสปอร์ตที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานและการดีไซน์ได้อย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองและเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจต่อการใช้งานในเมืองใหญ่ได้เป็นอย่างดี
- สนนราคา Mazda2 เริ่มต้นที่ 602,000 บาท – 690,000 บาท

5. Suzuki Celerio
รถเก๋งดีไซน์กะทัดรัด พร้อมเทคโนโลยีการประหยัดน้ำมันที่คุ้มค่า แม้ว่าซูซูกิจะเงียบหายไปจากวงการอยู่บ้าง แต่ Celerio นับเป็นตัวเลือกที่น่ารักและดูเก๋ไก๋ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับหนุ่มสาวทันสมัยกับรถขนาด 1.0 ลิตร กินน้ำมันน้อยกว่ารถบิ๊กไบค์ นับเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า คุ้มราคาต่อการจัดหาเป็นรถคันแรกเพื่อเป็นของรางวัลสำหรับความทุ่มเทของตนเอง
- สนนราคา Suzuki Celerio เริ่มต้นที่ 338,000 บาท – 442,000 บาท

6. Nissan Kicks
รถเก๋งขนาดเล็กขนาดกะทัดรัดกับการขับเคลื่อนรถด้วยพลังงานไฟฟ้า จึงทำให้ Nissan Kicks กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแห่งอนาคตที่เน้นการใช้งานในเมืองใหญ่ที่ทันสมัย ทั้งในเรื่องของการออกแบบ และการใช้เชื้อเพลิงไฟฟ้า เพิ่มเติมความคุ้มค่าและความประหยัดในทุกจังหวะการใช้งาน ทำให้ Kicks เป็นตัวเลือกที่โดดเด่นสำหรับคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมที่ไม่ควรพลาดที่จะเลือกหามาใช้งาน
- สนนราคา Nissan Kicks เริ่มต้นที่ 759,000 บาท – 899,000 บาท

7. MG4 EV
รถยุโรปในแบบฉบับบริษัทจากจีน ที่ยังคงรักษาคุณภาพของความเป็น MG เอาไว้อย่างครบถ้วน สำหรับรถของคนในเมืองอย่าง MG4 EV รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอีกคันกับดีไซน์แบบแฮชท์แบ็ค เน้นความโฉบเฉี่ยว ทันสมัย สำหรับการขับเคลื่อนไปในทุกตรอกซอกซอย นับเป็นรถรุ่นใหม่ที่น่าจับตาอีกหนึ่งรุ่นที่หลายคนเลือกให้เป็นรถคันแรกสำหรับตัวเอง
- สนนราคา MG4 EV เริ่มต้นที่ 869,000 บาท – 969,000 บาท

8. MG EP EV
รุ่นสุดท้ายของการจัดอันดับ 8 รถราคาประหยัดยอดฮิต รุ่นนี้ได้เปรียบในเรื่องของความใหญ่โต โอ่อ่า หรูหรา และมาพร้อมกับเครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ประหยัดน้ำมันอย่างยิ่ง เหมาะสำหรับการเป็นรถแห่งความสำเร็จในฐานะของนักบริหารหรือรถครอบครัวคันใหญ่ที่ครอบคลุมทุกประโยชน์ใช้สอยได้อย่างลงตัว
- สนนราคา MG EP เริ่มต้น 761,000 บาท
และนี่คือ 8 อันดับรถยอดนิยมราคาประหยัดที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย ๆ รู้ใจเชื่อว่าจะต้องมีสักรุ่นที่อยู่ในใจคุณอย่างแน่นอน และเมื่อคุณตัดสินใจได้แล้ว อย่าลืมเปรียบเทียบประกันรถยนต์ที่พร้อมดูแลรถคันเก่งของคุณ รู้ใจ ประกันออนไลน์ รู้ใจกว่า ประหยัดกว่า ผ่อนได้นานถึง 10 งวด ทั้งบัตรเดบิตและบัตรเครดิต เคลมได้ผ่านแอป สะดวก ซื้อง่ายใน 5 นาที เช็คราคาออนไลน์ด้วยตัวเองได้เลย
ส่องยอดขายรถ 5 เดือนแรกปี 67 เช็คเลยยี่ห้อไหนขายดีสุด 10 อันดับแรก
ฐานเศรษฐกิจ
28 มิ.ย. 2567 | 02:12 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มิ.ย. 2567 | 18:54 น.
เปิดยอดขายรถยนต์ 5 เดือนแรกปี 2567 เช็คเลยแบรนด์ไหนยี่ห้อใดขายดีสุด 10 อันดับแรก พร้อมเจาะลึกอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยครึ่งปีหลัง แนวโน้มจะไปในทิศทางใด
ภาพรวมตลาดรถยนต์ในไทยยังคงร่วง ดังจะเห็นจากยอดขายตั้งแต่มกราคม -พฤษภาคม 2567 ที่ทำได้ 260,365 คัน ลดลง 23.8% โดยในเซกเมนต์ที่ตัวเลขการขายหดตัวลงอย่างรุนแรงคือ รถเพื่อการพาณิชย์ อย่าง พวกรถปิกอัพ พีพีวี ที่มียอดขาย 5 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 91,765 คัน ลดลง 41% อย่างไรก็ตามในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า xEV ยังคงมีอัตราการขายที่เติบโต
เปิด 10 ยี่ห้อรถยนต์ที่ขายดีสุด 5 เดือนแรก(ม.ค.-พ.ค.)ปี 67
ยอดขายรถยนต์ตั้งแต่เดือน มกราคม – พฤษภาคม 2567 แบ่งออกเป็นเซกเมนต์ต่างๆ
ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 260,365 คัน ลดลง 23.8%
- อันดับ1 โตโยต้า 97,736 คัน ลดลง 15.7% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
- อันดับ 2 อีซูซุ 39,183 คัน ลดลง 46.9% ส่วนแบ่งตลาด 15%
- อันดับ 3 ฮอนด้า 37,374 คัน ลดลง 4.3% ส่วนแบ่งตลาด 14.4%
ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 101,589 คัน ลดลง 17.9%
- อันดับ 1 โตโยต้า 27,892 คัน ลดลง 36.1% ส่วนแบ่งตลาด 27.5%
- อันดับ 2 ฮอนด้า 21,250 คัน ลดลง 18.2% ส่วนแบ่งตลาด 20.9%
- อันดับ 3 มิตซูบิชิ 8,191 คัน ลดลง 0.4% ส่วนแบ่งตลาด 8.1%
ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย158,776 คัน ลดลง 27.1%
- อันดับ 1 โตโยต้า 69,844 คัน ลดลง 3.5% ส่วนแบ่งตลาด 44%
- อันดับ 2 อีซูซุ 39,183 คัน ลดลง 46.9% ส่วนแบ่งตลาด 24.7%
- อันดับ 3 ฮอนด้า 16,124 คัน เพิ่มขึ้น 23.2% ส่วนแบ่งตลาด 10.2%
ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และ รถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 91,765 คัน ลดลง 41%
- อันดับ 1 โตโยต้า 41,750 คัน ลดลง 30.1% ส่วนแบ่งตลาด 45.5%
- อันดับ 2 อีซูซุ 34,445 คัน ลดลง 49% ส่วนแบ่งตลาด 37.5%
- อันดับ 3 ฟอร์ด 9,645 คัน ลดลง 42.9% ส่วนแบ่งตลาด 10.5%
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 16,255 คัน
โตโยต้า 5,999 คัน ,อีซูซุ 5,110 คัน ,ฟอร์ด3,694 คัน ,มิตซูบิชิ 1,255 คัน , นิสสัน 197 คัน
ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 75,510 คัน ลดลง 40.8%
- อันดับ 1 โตโยต้า 35,751 คัน ลดลง 27.8% ส่วนแบ่งตลาด 47.3%
- อันดับ 2 อีซูซุ 29,335 คัน ลดลง 49.1% ส่วนแบ่งตลาด 38.8%
- อันดับ 3 ฟอร์ด 5,951 คัน ลดลง49.6% ส่วนแบ่งตลาด 7.9%
ยานยนต์ไฟฟ้ายังคงมียอดขายเติบโต สวนทางตลาดรถยนต์รวมที่หดตัวลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Wuling Binguo EV จีน ผลิตอินโด ขายไทย คาดราคากว่า 5 แสนบาท
เจาะลึกอุตฯยานยนต์ไทย 5 เดือนแรก ผลิต-จำหน่าย-ส่งออกรุ่งหรือร่วง
“ภาษีนำเข้า”อาวุธสำคัญในสมรภูมิรบรถยนต์ไฟฟ้า
EV จีนรุ่นเล็กประกอบไทย ลากยาวสงครามราคา
Bangkok Auto Salon 2024 เริ่ม 26-30 มิ.ย. เช็คกิจกรรม-ไฮไลต์รถแต่งในงานที่นี่
โตโยต้า คาดตลาดรถมิ.ย.67 ยังคงชะลอตัว
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของตลาดรถยนต์ในเดือนมิถุนายน 2567 คาดว่าจะดีขึ้นจากเดือนพฤษภาคม อย่างไรก็ตามมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลดลง เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังคงฟื้นตัวช้าและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังคงตัวในระดับสูง
โตโยต้า คาดตลาดรถมิ.ย.67 ยังคงชะลอตัว
ส.อ.ท.เผยแบงก์คุมเข้มสินเชื่อ กระทบการขายรถใหม่
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศหดตัวลงนั้น เป็นเพราะสถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อ เนื่องจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง รวมทั้งเศรษฐกิจในประเทศขยายตัวในอัตราต่ำจากการล่าช้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567
จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้การลงทุนของภาครัฐลดลง โดยดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงติดต่อกันมากกว่าสิบเดือน โรงงานหลายแห่งลดเวลาทำงานลงและมีการเลิกจ้างพนักงานหลายหมื่นคน ทำให้ขาดรายได้ ประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่ายเพราะความไม่แน่นอนในเรื่องรายได้รวมทั้งค่าอาหาร ค่าเดินทางและพลังงานมีราคาสูงขึ้น
“สถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างมาก เพราะกังวลเรื่องหนี้ครัวเรือน อย่างไรก็ตามหากในช่วงครึ่งปีหลังรัฐฯมีการอนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายต่างๆออกมา รวมไปถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ก็คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยก็น่าจะดีขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คาดหวังว่าต้นทุนราคาสินค้าต่างๆจะไม่ขึ้นตามไปด้วย ส่วนเศรษฐกิจจะขยายตัวถึง 3 % หรือไม่ ยังน่ากังวลถ้ายอดผลิตรถยนต์และขายรถยนต์ และขายอสังหาริมทรัพย์ยังติดลบ เพราะทั้งสองอุตสาหกรรมมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องและแรงงานมากซึ่งจะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศมาก”
ส.อ.ท.เผยแบงก์คุมเข้มสินเชื่อ กระทบการขายรถใหม่

