ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

10 รถยนต์ไฟฟ้า ยี่ห้อไหนดี มาแรงที่สุดในตอนนี้

เรื่องเด่น

Suttinun Poomkung  |  14 September 2566 10:18

10 รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่มาแรงที่สุดในปี 2023

1. BYD ATTO 3

BYD ATTO 3 คือรถยนต์ไฟฟ้า BYD รุ่นแรกที่ได้เข้ามาลองทำตลาดในประเทศไทย มีความตั้งใจจะเจาะกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวเล็กที่ต้องการรถยนต์ Crossover SUV มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยด้วยกัน แต่ได้เปิดตัวด้วยรุ่น Extended Range ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน 1 ตัว ขนาด 150 kW ขับเคลื่อนที่ล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร

ทำงานคู่กับระบบเกียร์ 1 สปีด ทำระยะทางขับขี่ได้สูงสุด 480 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC ทำความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 7.3 วินาที นอกจากนี้ยังมีหน้าจอที่ใหญ่และปรับหมุนได้ เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ทำให้รถรุ่นนี้ขายดีกว่ารถสัญชาติญี่ปุ่นในราคาที่ใกล้เคียงกัน

ราคาจำหน่ายของ BYD ATTO 3 2023 ในประเทศไทย

• ATTO 3 Standard Range ราคา 1,099,900 บาท
• ATTO 3 Extended Range ราคา 1,199,900 บาท

2. BYD Dolphin

BYD Dolphin เป็นรถยนต์ขนาดกลาง เปิดตัวมาด้วยราคาเริ่มต้น 699,999 บาท เป็นราคาที่อยู่ระหว่างอีโคาร์และรถครอสโอเวอร์ของค่ายญี่ปุ่น เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันที่สูงขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ทำตลาดแตกและขายดีไม่ต่างกับรุ่นพี่อย่าง BYD ATTO 3

BYD Dolphin มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Standard Range และ Extended Range โดยรุ่น Extended Range ให้แบตเตอรี่ขนาด 60.48 kWh และมอเตอร์ไฟฟ้า 150 kW พละกำลังสูงสุด 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นขนาดเดียวกันกับ BYD ATTO 3

Extended Range จึงมีความคุ้มค่าที่มากกว่า แต่รุ่น Standard Range กลับได้รับคำชมถึงการขับขี่ที่ดีกว่า และฟังก์ชันการใช้งานที่เพียงพอ ทำให้ตัดสินใจเลือกได้ไม่ยาก

• BYD Dolphin Extended Range ราคา 859,999 บาท
• BYD Dolphin Standard Range ราคา 699,999 บาท

3. Porsche Taycan

Porsche Taycan เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 2023 ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมดจด จนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง มีเสียงสังเคราะห์ให้เราได้อารมณ์ของรถยนต์สันดาปอยู่ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่รู้สึกผิดแปลกกับการขับรถ EV จนเกินไป 

ไทคานได้ติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Performance Battery มีขนาด 79.2 kWh ขณะที่ Performance Battery Plus มีขนาด 93.4 kWh สามารถชาร์จเร็วสำหรับการขับขี่ราว 100 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 5 นาที วิ่งได้ระยะทางราว 408 – 484 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 5.4 วินาที

ราคาจำหน่ายของ Porsche Taycan ในไทย 

• Taycan ราคาเริ่มต้น 6,190,000 บาท 
• Taycan 4S ราคาเริ่มต้น 7,100,000 บาท
• Taycan Turbo ราคาเริ่มต้น 9,900,000 บาท
• Taycan Turbo S ราคาเริ่มต้น 11,700,000 บาท

4. MG4

MG4 ELECTRIC เป็นรถยนต์ไฟฟ้าระบบขับหลังที่ออกแบบบนแพลตฟอร์มใหม่  ให้พละกำลังสูงสุดที่ 170 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ตัวเลขเคลมจากโรงงาน สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 7.5 วินาที

ทำความเร็วสูงสุด 161 กม./ชม. วิ่งระยะไกลสุด 425 km. มาตรฐาน NEDC มีโหมกการขับขี่ถึง 5 รูปแบบ ได้แก่ ECO, NORMAL, SPORT, CUSTOM, SNOW รองรับการชาร์จแบบกระแสสลับ AC รองรับสูงสุด 6.6 kW ใช้เวลา 8 ชั่วโมง 30 นาท และ กระแสตรง DC รองรับสูงสุด 88 kW ใช้เวลา 35 นาที

ราคาจำหน่ายของ MG4 ELECTRIC 2023 ในประเทศไทย

• รุ่น D  ราคา 869,000 บาท
• รุ่น X ราคา 969,000 บาท

5. Neta V

NETA V เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก เพราะสมรรถนะของเขาผิดกับหน้าตาน่ารักและสีพาสเทลเป็นอย่างมาก มีฟังก์ชันการที่เพียงพอต่อการใช้งาน รูปลักษณ์ภายในสวยงาม เก็บงานเนี้ยบมาก 

ผ่อนเริ่มต้น 5,xxx บาท ด้วยมอเตอร์ขนาด 95 แรงม้า แรงบิด 150 นิวตันเมตร ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งไกลสูงสุด 384 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC พื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลัง มีความจุทั้งหมด 500 ลิตร

• ราคาจำหน่ายของ NETA V 2023 ในประเทศไทย ราคา 549,000 บาท

6. TESLA Model 3

Tesla Model 3 คือรถยนต์ EV สัญชาติอเมริกาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มาทั้งหมด 3 รุ่นย่อยด้วยกัน โดยรุ่นเริ่มต้น Rear-wheel Drive ให้กำลังสูงสุด 347 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ion Phosphate ความจุ 57.5 kW

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.1 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 225 กม./ชม. ระยะวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จ อยู่ที่ 559 กม. ตามมาตรฐาน NEDC เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังมีคนต้องการอยู่เรื่อยๆ แม้ล็อตแรกจะขายหมดแล้วก็ตาม

ราคาจำหน่ายของ Tesla Model 3 2023 ในประเทศไทย

• Tesla Model 3 Rear-Wheel Drive 2023 ราคาเริ่มต้น 1,759,000 บาท
• Tesla Model 3 Long Range 2023 ราคาเริ่มต้น 1,990,000 บาท
• Tesla Model 3 Performance 2023 ราคาเริ่มต้น 2,309,000 บาท

7. TESLA Model Y

เปิดตัว Tesla Model Y รถยนต์ไฟฟ้าที่มีขายในไทย พร้อมกับ Tesla Model 3 โดยราคาเริ่มต้นของ Model Y สูงกว่าเล็กน้อย ประกอบด้วย 3 รุ่น รุ่นเริ่มต้น Rear-Wheel Drive จะได้ล้อ Gemini Wheels ขนาด 19 นิ้ว รัดยางไซส์ 255/45 R19 283

พละกำลังสูงสุดแรงม้า 283 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 420 นิวตันเมตร ระยะทางขับขี่สูงสุด510 กิโลเมตร / 1 การชาร์จ มาตรฐาน NEDC

ราคาจำหน่ายของ Tesla Model Y 2023 ในประเทศไทย

• รุ่น Rear-Wheel Drive 1,959,000 บาท
• รุ่น Long Range AWD  2,259,000 บาท
• รุ่น Performance 2,509,000 บาท

8. Toyota bZ4X

Toyota bZ4X เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเรือธงรุ่นแรกของ Toyota มาพร้อมกับหน้าตาที่ล้ำหน้าสุดๆ เรื่องการขับขี่ได้รับการยอมรับจากสื่อหลายสำนัก ส่วนรุ่นใหม่ๆ ยังคงทยอยออกมาเรื่อยๆ ถึงแม้ขยับตัวเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าช้ากว่าแบรนด์อื่น แต่ละรุ่นที่ออกมาถือว่าทำได้ดีพอสมควร

โดยรุ่น bz4X ใช้มอเตอร์คู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุด 218 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 337 นิวตันเมตร ทำ 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.9 วินาทีเท่านั้น รูปลักษณ์ภายในใหม่ล้ำสมัยสู้คู่แข่งได้สบายๆ 

• ราคาจำหน่ายของ Toyota bZ4X ในประเทศไทย ราคา 1,836,000 บาท

9. BMW iX3 M Sport

ถ้าจะมอบรางวัลรถยนต์ไฟฟ้า SUV ที่ครบเครื่องที่สุดในปี 2023 คงหนีไม่พ้นตัวแทนค่าย BMW อย่าง iX3 M Sport เพราะมีขนาดตัวถังที่กำลังดี ภายในกว้างขวาง สามารถโดยสารได้ 5 คนแบบสบายๆ คนนั่งตรงกลางไม่มีบ่น

ติดตั้งมาพร้อมกับ BMW eDrive 1 ให้พละกำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ระยะทางขับขี่สูงสุด 460 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP

• ราคาจำหน่ายของ BMW iX3 M Sport ในประเทศไทย ราคา 3,399,000 บาท

10. EQS 500 4MATIC

Mercedes-Benz EQS 500 4MATIC เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ประกอบในประเทศไทยไทย ถึงแม้ว่าราคาจะแรงอยู่แต่ฟังก์ชันการใช้งาน ถือว่าสู้กับรถระดับเดียวกันอย่าง Porsche Taycan ได้แบบสบายๆ EQS 500 ขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว

พละกำลังสูงสุด 449 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 828 นิวตันเมตร ขับเคลื่อน 4 ล้อ 4MATIC แบตเตอรี่ความจุ 108.4 kWh วิ่งได้ไกลสุด 702 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP ทำอัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. ภายใน 4.8 วินาที Top Speed ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม.

• ราคาจำหน่ายของ EQS 500 4MATIC ในประเทศไทย ราคา 7,900,000 บาท

รถยนต์ขายดีที่สุดในโลก 10 รุ่น ประจำปี 2022

March 13, 2023

 Post Views: 8,561

ไม่นานมานี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้รายงานอันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกมา 10 อันดับนะครับ โดยได้รายงานออกมาเป็นรายรุ่นราย Model กันเลยทีเดียว วันนี้ Daddy Gadget จะพาไปดู 10 อันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในโลกกันครับ

ข้อมูลทั้งหมดนั้นรวบรวมมาจาก ข้อมูลยอดขายรถจาก 162 ประเทศทั่วโลก ที่ได้มารวบรวมกันมาให้ท่านผู้ชม ผู้อ่านได้อ่านกันครับ

ตารางอันดับรถยนต์ขายดีที่สุดในปี 2022

อันดับ	Model	ยอดขายปี 2022
1	Toyota Corolla	1.12 ล้านคัน
2	Toyota RAV4	868,398 คัน
3	Ford F-Series	786,337 คัน
4	Tesla Model Y	759,579 คัน
5	Toyota Camry	667,968 คัน
6	Chevrolet Silverado	591,594 คัน
7	Honda CR-V	591,293 คัน
8	Toyota Hilux	566,838 คัน
9	Huydai Tuscon	549,918 คัน
10	Ram pick-up	545,420 คัน

1. Toyota Corolla

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ Toyota Corolla เป็นรถที่ขายดีที่สุดในโลกเมื่อปีที่แล้วครับ อย่างที่รู้ ๆ กันว่า Series นี้มีหน้าตาหลัก ๆ อยู่สองแบบ คือแบบที่ขายในเมืองไทยเรา กับแบบในรูป และตัวเครื่องยนต์เองก็มีให้เลือกทั้ง เบนซินธรรมดา Hybrid Vehicle และเครื่องยนต์เทอร์โบ ด้วยจุดเด่นที่เป็นรถขับง่าย ราคาคุ้มค่า ฟีเจอร์มีครบ และตลาดที่กว้าง ก็ไม่แปลกใจทำไมถึงขายดีที่สุดในโลกครับ

2. TOYOTA RAV 4

รถเป็น SUV ที่ดีและน่าสนใจมาก แต่เสียดายที่ RAV4 ไม่เคยเข้าไทย และไม่น่าจะได้ขายในไทยด้วยครับ สำหรับตลาดโลก RAV4 นั้นขายดีเอามาก ๆ และกวาดยอดขายไปกว่า 860,000 คัน เข้าป้ายมาเป็นที่ 2

3. Ford F-Series 

ก็เป็นกระบะพันธ์หล่อ ที่ไม่ได้เข้าไทยเหมือนกันครับ สำหรับเมืองไทยเราจะมีแค่ Ford Ranger เท่านั้น เจ้า F-Series นี่จะเป็นกระบะที่ใหญ่กว่า ได้รับความนิยมอย่างมากในทวีปอเมริกา

4. Telsa Model Y

หลังจากที่ตัวเอง Elon Musk รู้ยอดขาย Model Y ในปีที่ผ่านมา ก็กล้าประกาศกล้าว่า ในปี 2023 เจ้า Model Y จะกลายเป็นรถที่ขายได้มากที่สุดในโลก เดี๋ยวสิ้นปีนี้เรามาดูกันครับ ว่าจะเป็นไปตาม Elon คาดไหม

5. TOYOTA Camry

ก็ยังขายได้ติดอันดับโลกอย่างต่อเนื่องครับ สำหรับ TOYOTA CAMRY ในเมืองไทยเราจะมีรุ่นเครื่อง 2.5 ลิตร เบนซินธรรมดา และ 2.5 ลิตร Hybrid ในเลือก ส่วนต่างประเทศจะมียันเครื่อง V6 ที่ส่วนใหญ่จะขายในฝั่งอเมริกาให้เลือกครับ เรียกได้ว่า ครองใจคนส่วนใหญ่ในโลกได้อยู่

6. Chevrolet Silverado

อีกหนึ่งกระบะหล่อจากค่ายรถอเมริกา ถึงแม้ว่า Chevrolet จะปิดไลน์การผลิตและยกเลิกการทำกิจการในไทยไปเรียบร้อยก็ตาม แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นครับ เพราะตลาดใหญ่ยังอยู่ในฝั่งอเมริกา และก็ยังทำได้ดีไม่เปลี่ยนแปลง

7. HONDA CR-V

เป็นอีก Model หนึ่งที่มีขายในไทยครับ สำหรับ Honda ปีที่ผ่านมา เค้าได้ทำรถในเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบมากขึ้น ก็แน่นอนว่าส่งผลให้ประสิทธิภาพและความแรงมันมีมากขึ้น ขับสนุกขึ้น และ CR-V ก็ยังอยู่ในใจคนส่วนใหญ่ของโลกเช่นเคยครับ

8. TOYOTA HILUX

คุ้นเคยกันดีครับ กับ TOYOTA Hilux หรือในไทยกับชื่อว่า Hilux Revo ด้วยหน้าตาอันดุดัน ฟีเจอร์ครบ เป็นแบรนด์ใหญ่ รถทน เข้าถึงง่าย ก็ทำให้ Toyota Hilux นั้นติดป้ายรถที่ขายดีที่สุดในโลก 10 อันดับแรกเหมือนกันครับ

นอกจากที่จะได้รับความนิยมใยไทยอย่างล้นหลามแล้ว รู้หรือไม่ว่า TOYOTA Hilux เป็นรถที่ขายดีที่สุดในออสเตเลียมาอย่างยาวนานมาก ๆ เฉพาะปีที่แล้วในออสเตเลียขายไปทั้งสิ้นกว่า 70,000 คันกันเลยทีเดียวครับ ในขณะที่ RAV4 ขายได้ราว ๆ 30,000 คัน และ Corolla ขายได้ราว ๆ 25,000 คันเท่านั้นเองครับ

9 & 10. Hyundai Tucson & Ram pick-up

ก็เป็นอีกสอง Model ที่เราไม่ค่อยจะคุ้นกันเท่าไหร่ครับ แต่ก็เป็นรถที่ได้รับความนิยมเยอะมาก Hyundai ขายในยุโรปได้ดี กับราคาและรูปร่างที่โดนเด่น ฟีเจอร์มาเต็ม ส่วน RAM pickup เอง ก็มีฐานแฟนคลับที่แน่นหนาในอเมริกาเหนืออยู่แล้ว ก็ไม่แปลกที่ทั้งสองรุ่นจะตบเท้าเข้ามาอยู่ใน Top 10 ได้ครับ

บทสรุปรถยนต์ขายดีที่สุดในโลก 10 รุ่น ประจำปี 2022

โดยรวมแล้ว TOYOTA Group ยังเป็นแบรนด์ที่ขายรถได้ดีที่สุดในโลก โดยปี 2022 ที่ผ่านมาขายรถไปได้เกินกว่า 10.2 ล้านคันทั่วโลก ตามมาด้วย Volkswagen Group ถึงแม้ว่าจะไม่มีรุ่นใดเป็นรุ่นโดดเด่น แต่ก็ขายได้รวม ๆ กันถึง 8.3 ล้านคัน ส่วนที่ตามมาคือ Hyundai Group กับยอดขายกว่า 6.84 ล้านคัน ก็ถือว่าเป็นปีที่ refresh จาก COVID หลาย ๆ อย่างดีขึ้นทั่วโลกครับ