ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
แนะนำรถยนต์ไฟฟ้า 10 อันดับที่น่าสนใจในปี 2025

เวลาโพสต์:
เวลาอัปเดตล่าสุด:2025-09-24
เพิ่มบทความลงในรายการโปรด
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน และช่วยลดมลพิษจากการใช้น้ำมัน ในบทความนี้ เราได้รวบรวม 10 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจในปี 2025 โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพ ราคา และความเหมาะสมกับการใช้งาน พร้อมกับการตอบคำถามยอดฮิต “รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อไหนดี?” และข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่น รถไฟฟ้า BYD, รถไฟฟ้า NETA, และ ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าในไทย
อันดับที่ 1: Tesla Model 3

ราคา: ประมาณ 1,600,000 บาท (ร
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 491 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม
- การเร่งความเร็ว: 0-100 กม./ชม. ใน 3.1 วินาที
- ระบบ Autopilot ช่วยขับขี่
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่ทันสมัย เน้นสมรรถนะสูง และมีชื่อเสียงระดับโลก
จุดเด่น: เทคโนโลยีขั้นสูงและดีไซน์ที่ล้ำสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง
อันดับที่ 2: BYD Dolphin

ราคา: ประมาณ 799,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 410 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม
- แบตเตอรี่ LFP คุณภาพสูง ปลอดภัยและทนทาน
- ฟังก์ชันอัจฉริยะ เช่น ระบบช่วยจอด
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถไฟฟ้าราคาไม่สูงเกินไป แต่มีประสิทธิภาพครบครัน
จุดเด่น: รถไฟฟ้า BYD โดดเด่นในด้านความคุ้มค่าและเทคโนโลยีใหม่ ๆ
อันดับที่ 3: MG ZS EV

ราคา: ประมาณ 1,189,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 403 กิโลเมตร
- ห้องโดยสารกว้างขวาง พร้อมระบบความปลอดภัย i-SMART
- รองรับการชาร์จเร็ว (DC) ภายใน 45 นาที
เหมาะสำหรับ: ครอบครัวขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ต้องการรถไฟฟ้า SUV
จุดเด่น: ดีไซน์ทันสมัย พร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่สะดวก
อันดับที่ 4: NETA V

ราคา: ประมาณ 549,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 384 กิโลเมตร
- ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว
- จอแสดงผลกลางขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มองหารถไฟฟ้าราคาประหยัด ที่ยังคงประสิทธิภาพ
จุดเด่น: รถไฟฟ้า NETA โดดเด่นในด้านความคุ้มค่ากับราคา
อันดับที่ 5: Hyundai Ioniq 5

ราคา: ประมาณ 2,390,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 481 กิโลเมตร
- รองรับการชาร์จเร็ว (Ultra-fast Charging) ในเวลาเพียง 18 นาที
- ดีไซน์ล้ำยุค สไตล์รถยนต์แห่งอนาคต
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มองหารถไฟฟ้าสมรรถนะสูงและดีไซน์แตกต่างจากทั่วไป
จุดเด่น: เทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วที่สุดในตลาด
อันดับที่ 6: Nissan Leaf
ราคา: ประมาณ 1,499,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 311 กิโลเมตร
- ระบบ e-Pedal ช่วยให้การขับขี่ง่ายขึ้น
- มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถไฟฟ้าสำหรับการใช้งานในเมือง
จุดเด่น: รถไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมทั่วโลกด้วยประสิทธิภาพและความคุ้มค่า
อันดับที่ 7: Ora Good Cat

ราคา: ประมาณ 828,500 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 500 กิโลเมตร
- ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น ระบบเลี่ยงการชน
- การออกแบบที่เน้นความน่ารักและทันสมัย
เหมาะสำหรับ: คนรุ่นใหม่ที่มองหารถยนต์ไฟฟ้าดีไซน์สะดุดตา
จุดเด่น: ราคาคุ้มค่า พร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน
อันดับที่ 8: Volvo XC40 Recharge

ราคา: ประมาณ 2,790,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 418 กิโลเมตร
- ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD)
- การออกแบบที่หรูหราและทันสมัย
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มองหารถไฟฟ้าระดับพรีเมียม
จุดเด่น: มาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก พร้อมการออกแบบที่โดดเด่น
อันดับที่ 9: BMW iX3

ราคา: ประมาณ 3,999,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 460 กิโลเมตร
- ระบบ BMW Operating System 7
- ห้องโดยสารหรูหราและกว้างขวาง
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการรถไฟฟ้าระดับลักชัวรี
จุดเด่น: สมรรถนะสูงและดีไซน์พรีเมียมที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่
อันดับที่ 10: Honda e

ราคา: ประมาณ 2,490,000 บาท
คุณสมบัติเด่น:
- ระยะทางขับขี่สูงสุด: 220 กิโลเมตร
- ระบบขับขี่อัจฉริยะ เช่น Honda Parking Pilot
- ดีไซน์ Retro ล้ำสมัย
เหมาะสำหรับ: คนเมืองที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้าสไตล์มินิมอล
จุดเด่น: การออกแบบที่ไม่เหมือนใครและฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานในเมือง
สรุป
รถยนต์ไฟฟ้ากำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีการขับขี่ทั่วโลก จากบทความนี้ คุณจะเห็นว่ามีตัวเลือกหลากหลาย ทั้งในด้านราคา สมรรถนะ และการออกแบบ ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้า BYD สำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่า หรือ Tesla Model 3 ที่เน้นเทคโนโลยีและสมรรถนะสูง การเลือกซื้อควรพิจารณาจากการใช้งานและงบประมาณของคุณเพื่อให้ได้รถที่ตอบโจทย์ที่สุด
10 อันดับ รถยนต์น่าซื้อ รถยนต์ขายดี ประจำปี 2025
Share :

หากคุณมีแผนที่จะออกรถในปีนี้ แต่ยังไม่รู้ว่าจะซื้อรถยนต์รุ่นไหนดี? SILKSPAN ได้รวม 10 อันดับ รถยนต์น่าซื้อ รถยนต์ขายดี ประจำปี 2025 งบไม่เกิน 800,000 บาท มาให้แล้ว สามารถเปรียบเทียบราคาเริ่มต้น และจุดเด่นของรถยอดนิยมแต่ละรุ่นได้เลย
1. Toyota Yaris ATIV ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท
Toyota Yaris ATIV รถยนต์ซีดานที่ภายนอกออกแบบสไตล์ Fastback โดยหลังคาด้านท้ายจะลาดเอน ทำให้มีความรู้สึกโฉบเฉี่ยว ส่วนด้านในจะเป็นเบาะหนังสังเคราะห์สีแดงทรงสปอร์ต ส่วนคอนโซลหน้าจะหุ้มหนังสังเคราะห์สีแดงแบบ Premium Soft Touch ตกแต่งด้วยแถบสีเงินเมทัลลิก ตอบโจทย์คนที่กำลังมองหารถยนต์ที่มีความพรีเมียมในราคาไม่เกิน 600,000 บาท
ในด้านฟังก์ชันการใช้งานก็ครบครันไม่แพ้ใคร เพราะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ Dual VVT-iE ที่มีกำลังสูงสุด 94 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 110 นิวตันต่อเมตร สามารถปรับโหมดการขับขี่บนพวงมาลัยได้ 3 แบบ ได้แก่ ECO, Normol และ Sport จึงทำให้ขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ ที่สำคัญยังประหยัดน้ำมันได้สูงสุด 23.3 กิโลเมตรต่อลิตรด้วย
2. Toyota Yaris Hatchback ราคาเริ่มต้น 559,000 บาท
Toyota Yaris Hatchback เป็นรถยนต์ 5 ประตู ที่รวมจุดแข็งต่างๆ ของรถแฮทช์แบ็คขนาดคอมแพ็คไว้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ความประหยัดน้ำมัน ความนุ่มนวลในการขับขี่ ความคล่องแคล่วในการขับขี่ (รถยนต์มีขนาดเล็กกว่า Toyota Yaris ATIV) ห้องโดยสารที่นั่งสบาย และสามารถเก็บของได้เยอะ จึงเป็นรถยนต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุก ๆ คน ทั้งพนักงานประจำ นักศึกษา และครอบครัวขนาดเล็ก

3. Honda City Sedan ราคาเริ่มต้น 629,000 บาท
Honda City Sedan เป็นรถยนต์ซีดานขนาดเล็กที่ได้รับความนิยมอย่างมากในไทย เพราะมีดีไซน์ที่ทันสมัย ภายในกว้างขวาง และเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังที่ดีเยี่ยม มาพร้อมกับระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เหมาะกับการเป็นรถครอบครัวขนาดเล็ก หรือรถยนต์สำหรับคนทำงานที่ต้องการรถยนต์ที่ดูดีและใช้งานได้สะดวก
4. Honda City Hatchback ราคาเริ่มต้น 599,000 บาท
Honda City Hatchback จะคล้ายกับ Toyota Yaris Hatchback ตรงที่รวมทุกเทคโนโลยีที่ Honda City Sedan มี แต่มาในรูปแบบดีไซน์สปอร์ตทันสมัย มีเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังที่ดีเยี่ยม และขนาดตัวรถที่กะทัดรัด ช่วยให้คุณขับรถในเมืองได้อย่างสนุกและคล่องตัว
5. Nissan Almera ราคาเริ่มต้น 549,000 บาท
Nissan Almera เป็นรถยนต์อีโคคาร์ (Eco Car) ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีดีไซน์โมเดิร์น มีสีให้เลือกเยอะ และสามารถปรับแต่งได้ถึง 3 รูปแบบ ได้แก่ Lusso สำหรับคนที่ชอบความพรีเมียม, Chiaro สำหรับคนที่ชอบความเรียบหรู และ Presto สำหรับคนที่ชอบรถสปอร์ต
นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นด้านการประหยัดน้ำมัน เพราะใช้เครื่องยนต์ Nissan almera HRA0 1.0 ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ช่วยลดการใช้พลังงานในการขับเคลื่อนลง ผสานกับเทคโนโลยีช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันต่างๆ มากมาย เช่น
- ระบบส่งกำลัง Xtronic CVT ที่ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวล
- ระบบ Idle Stop ที่ช่วยดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อรถหยุดนิ่ง และสตาร์ทเครื่องยนต์ใหม่ได้รวดเร็ว
- ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องปรับอากาศที่ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นเร็วขึ้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงาน
- การออกแบบชิ้นส่วนต่างๆ ภายในเครื่องยนต์ให้มีแรงเสียดทานน้อยที่สุด
จากปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้ Nissan Almera มีสมรรถนะในการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ทำให้คุณสามารถขับขี่ได้อย่างมั่นใจและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

6. Mazda 2 ราคาเริ่มต้น 599,000 บาท
Mazda 2 เป็นรถยนต์ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงามตามสไตล์ KODO Design พร้อมทั้งภายในที่หรูหรา เครื่องยนต์ที่ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE ที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้น หากคุณกำลังมองหารถยนต์ขนาดเล็กที่มีความพรีเมียมและให้ความรู้สึกการขับขี่ที่สนุกสนาน Mazda 2 ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุด!
7. Mitsubishi Attrage ราคาเริ่มต้น 529,000 บาท
Mitsubishi Attrage เป็นหนึ่งในรถเก๋งทรงสปอร์ตที่มีราคาเริ่มต้นไม่แพง กระจังหน้าตกแต่งแบบ Advanced Dynamic Shield Design สีดำเด่นชัด ตอกย้ำความเป็นแอททราจสุดๆ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ เบนซิน DOHC MIVEC 1.2 ลิตร ที่สามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร มีช่องเก็บของด้านหลังกว้างขวาง
ที่สำคัญยังให้ระบบความปลอดภัยต่างๆ ครบครัน เช่น ระบบเตือนการชน, ระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรคแบบอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) ที่ทำให้การเบรกลดระยะสั้นลง, ระบบตรวจจับความเร็วด้วยคลื่น Ultrasonic และแอร์แบค ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับคนรักรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็น สายใช้งานทั่วไป หรือสายสปอร์ต
8. Suzuki Ciaz ราคาเริ่มต้น 378,000 บาท
Suzuki Ciaz เป็นรถยนต์ขนาดเล็กที่โดดเด่นด้วยราคาที่ประหยัด มีดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่ทันสมัย ภายในกว้างขวางกว่ารถยนต์ในคลาสเดียวกัน ช่วยให้ผู้โดยสารทุกคนนั่งสบายแม้จะเดินทางไกล ที่สำคัญยังประหยัดน้ำมันมาก เพราะมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กและเทคโนโลยีที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันครบครัน
9. Suzuki SWIFT ราคาเริ่มต้น 567,000 บาท
Suzuki SWIFT เป็นรถยนต์ Hatchback 3 ประตูที่มีข้อดีตรงที่ขนาดเล็ก แต่ใช้เครื่องยนต์ K12M ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีหัวฉีดคู่ DUALJET Injection System ที่ทำให้ละอองน้ำมันมีความละเอียดมากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้และการทำงานของเครื่องยนต์ และใช้เทคโนโลยีโครงสร้างแพลตฟอร์ม HEARTECT ที่เพิ่มความแข็งแกร่งทนทานและทรงตัวให้กับรถยนต์ จึงทำให้ Suzuki SWIFT เป็นรถที่ขับขี่ง่าย เกาะถนน เร่งแซง และเข้าโค้งได้ดี เหมาะทั้งกับมือใหม่และมือเก๋า
10. Suzuki XL7 ราคาเริ่มต้น 799,000 บาท
ปิดท้ายการแนะนำรถขายดี 2024 ด้วย Suzuki XL7 รถยนต์ SUV ขนาดเล็ก 7 ที่นั่ง ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์แข็งแรงทนทาน ภายในรถกว้างขวาง มีพื้นที่เก็บสัมภาระที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ พร้อมเครื่องยนต์ที่ให้พละกำลังที่ดีเยี่ยม และช่วงล่างที่ถูกปรับตั้งให้มีความนุ่มนวล ทำให้สามารถใช้เดินทางไกลได้อย่างสะดวกสบาย ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ใส่มาให้ครบครัน ทั้งจอสัมผัส ระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน และระบบความปลอดภัย จึงเหมาะสำหรับเป็นรถยนต์ครอบครัวมากที่สุด
จะเห็นได้ว่า รถยนต์แต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อรถยนต์สักคันจึงควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบคอบ ไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ ความต้องการในการใช้งาน และเทคโนโลยีที่ต้องการ หากไม่มั่นใจว่าควรซื้อรถยนต์น่าซื้อ รถยนต์ยอดนิยมรุ่นไหนดี แนะนำปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด เพื่อให้ได้รถยนต์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป
สำหรับใครที่ซื้อรถยนต์คันใหม่แล้วยังไม่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ให้ SILKSPAN เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เรามีบริการผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน เบี้ยเริ่มต้นที่ 750 บาทต่อเดือนเท่านั้น! สามารถเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองที่ตนเองสนใจได้เลย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!


