ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇
7 รถยนต์ไฟฟ้า 2024 เปิดตัวใหม่ มาแรง ราคาสุดว้าว ส่องสเปกเลยก่อนซื้อ!
02 October 2025
ในบรรดา รถยนต์ไฟฟ้า 2024 ในไทย ที่เปิดจำหน่ายและทำการตลาดปีนี้ ต้องยอมรับเลยว่ามีหลายรุ่นที่มาแรงและน่าสนใจมาก ๆ เพราะหลายรุ่นก็ถือว่าน่าใช้ มีราคาที่จับต้องได้ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก อย่างกลุ่ม Neta V ที่ถูกใจคนยุคใหม่ หรือแม้แต่แบรนด์ดังอย่าง Tesla, GWM หรือแม้แต่ BYD ที่ก็ได้รับความนิยมในเมืองไทยไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้น เราจะมารีวิวให้ดูกัน รถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่มีจำหน่ายในปี 2024 นี้ มีรุ่นไหนบ้างที่น่าใช้ พร้อมอัปเดตสเปกรถ EV และราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ!
รีวิว 7 รถยนต์ไฟฟ้า 2024 ในไทย พร้อมราคาจำหน่าย
สำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า 2024 ที่จำหน่ายในเมืองไทยในตอนนี้ ก็มีหลากหลายรุ่นที่น่าสนใจ ซึ่งในบางรุ่นก็เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายมาหมาด ๆ เพราะฉะนั้น ทาง PlugHaus Thailand จะพาคุณมาอัปเดตกัน ว่าแต่ละแบรนด์มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ มีราคาเท่าไหร่บ้าง บอกเลยว่าแต่ละรุ่นนั้นจัดเต็มทั้งออปชั่น สเปก และราคาจำหน่ายจากโปรโมชั่นล่าสุดที่ถูกใจคอรถ EV แน่นอน

1. MINI Cooper SE 2024
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัวมาหมาด ๆ ในตลาดรถ EV ของเมืองไทย ก็ต้องยกให้กับ MINI Cooper SE 2024 เจเนอเรชันที่ 5 ซึ่งเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จากค่ายมินิ ที่มาพร้อมกับการตกแต่งภายในใหม่ มีระบบเชื่อมต่อดิจิตอล พร้อมกับการควบคุมการใช้งานที่ครบครัน ภายใต้การออกแบบที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็น MINI เช่นเดิม แต่ที่โดดเด่นกว่าคือ สมรรถนะการขับขี่แบบ Electrified Go-Kart ที่เป็นนิยามใหม่ของรถยนต์ไฟฟ้าขนาดกะทัดรัด ที่ถูกยกระดับให้มีอัตลักษณ์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น
จุดเด่น
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 3,858 x 1,756 x 1,460 มม.
- ออกแบบสัญลักษณ์ไฟหน้า LED แบบใหม่ ที่แตกต่างกันถึง 3 แบบ
- ไฟท้าย Union Jack หลอด LED เมื่อสัมผัสได้ถึงกุญแจรถ
- เดินเข้าใกล้รถจะทำการปลดล็อกรถให้ทันที พร้อมไฟต้อนรับเจ้าของรถ
- ไฟหน้าทรงกลมและไฟท้าย ที่มีลูกเล่นปรับได้ถึง 3 โหมด คือ Classic, Favoured และ JCW
- ออกแบบจอกลางใหม่ OLED ความละเอียดสูงทรงกลม พร้อมเป็นศูนย์กลางระบบ Infotainment
- แผงควบคุมดีไซน์ Toggle Bar ที่รวมทุกฟังก์ชันเอาไว้จุดเดียว
- ชุดแต่ง Favoured Trim พร้อมเบาะนั่งแบบสปอร์ต Vascin สี Nightshade Blue
- มีโหมดการใช้งาน MINI Experience ถึง 7 รูปแบบ
แบตเตอรี่
- มอเตอร์พลังงานไฟฟ้า 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า
- แบตเตอรี่ความจุ 54.2 kWh
- ชาร์จ DC ได้สูงสุด 95 kW และ AC สูงสุด 11 kW
- ขับขี่ได้สูงสุด 402 กม. (มาตรฐาน WLTP)
ราคาจำหน่าย
- MINI Cooper SE 2024 ราคา 1,699,000 บาท

2. NETA X 2024
สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามาแรงปี 2024 ที่เพิ่งเปิดตัวและวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเมืองไทยไปหมาด ๆ ก็คือ Neta X ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า C-SUV ที่คุ้มค่ามาก ๆ มีขนาดเล็กกว่า Honda CR-V แต่ใหญ่กว่า BYD Atto 3 หรือ Aion Y Plus ซึ่งตัวรถจะโดดเด่นในเรื่องของระบบความปลอดภัย ที่มีกล้องรอบคัน พร้อมกับเซนเซอร์เตือนการชนแบบรอบคันเช่นกัน และที่ขาดไม่ได้คือ การเปลี่ยนคันเกียร์มาใช้คันเกียร์คอเหมือนกับ Neta V และ Neta S
จุดเด่น
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 4,619 x 1,860 x 1,628 มม.
- ระบบขับเคลื่อน FWD ขับเคลื่อนล้อหน้า
- มี 2 รุ่นย่อยให้เลือก คือ Comfort และ Smart
- ภายในห้องโดยสารมีหน้าจอกลางขนาดใหญ่ 15.6 นิ้ว ควบคุมการทำงานของตัวรถ
- หน้าขอเรือนไมล์มีขนาด 8.9 นิ้ว
- ใช้หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU พร้อมชิพ Qualcomm Snapdragon 8155
แบตเตอรี่
- 1 มอเตอร์ 120 kW พละกำลังสูงสุด 161 แรงม้า
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 62 kWh
- แรงดันไฟฟ้า 400 V ชาร์จ AC Type 2 6.6 kW
- รองรับการชาร์จ DC CCS 2 รุ่น Comfort 65 kW และรุ่น Smart 100 kW
- รุ่น Comfort ขับขี่ได้สูงสุด 401 กม. และรุ่น Smart 480 กม. (มาตรฐาน NEDC)
ราคาจำหน่าย
- NETA X รุ่น Comfort ราคา 739,000 บาท
- NETA X รุ่น Smart ราคา 799,000 บาท

3. BYD Dolphin 2024
ถ้าหากกล่าวถึงรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ติดอันดับมาแรง และมีการปรับราคาจนทำให้หลาย ๆ คนฮือฮากัน ก็ต้องยกให้กับ BYD Dolphin 2024 ที่นอกจากจะมีดีไซน์ที่ทันสมัย เหมาะสมกับการใช้งานในเมืองแล้ว เรื่องแบตเตอรี่และระยะทางในการใช้งานก็ถือว่าครอบคลุม โดยเฉพาะสวิตช์หน้าจอแบบ Muti-function บนพวงมาลัย นอกจากนี้ ยังมีระบบ Auto Brake Hold ที่ช่วยให้การขับขี่ง่ายยิ่งขึ้น ส่วนระบบความปลอดภัยก็มีครบ เช่น ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่อัจฉริยะ (ADAS), ระบบควบคุมเสถียรภาพของตัวรถ (ESC) หรือแม้แต่ระบบการเตือนวัตถุผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
แบตเตอรี่
รุ่น Standard Range
- มอเตอร์แม่เล็กถาวร 1 ตัว กำลัง 70 kW
- กำลังสูงสุด 95 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน Blade Battery LFP
- ความจุพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 44.9 kWh แรงดัน 400 V
- ชาร์จ AC 7 kW และ DC 60 kW
- วิ่งได้สูงสุด 410 กม. (มาตรฐาน NEDC)
รุ่น Extended Range
- มอเตอร์แม่เล็กถาวร 1 ตัว กำลัง 150 kW
- กำลังสูงสุด 201 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน Blade Battery LFP
- ความจุพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด 60.48 kWh แรงดัน 400V
- ชาร์จ AC 7 kW และชาร์จ DC 80 kW
- วิ่งได้สูงสุด 490 กม. (มาตรฐาน NEDC)
ราคาจำหน่าย
- BYD Dolphin รุ่น Standard Range ลดราคา 559,900 บาท (จาก 699,999 บาท)
- BYD Dolphin รุ่น Extended Range ลดราคา 699,900 บาท (จาก 859,999 บาท)

4. ORA Good Cat 2024
สำหรับเจ้าเหมียวที่แสนดีอย่าง ORA Good Cat ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าปี 2024 ที่มาแรงและน่าใช้งานมาก ๆ ในไทยอยู่เช่นเดิม ซึ่งในปีนี้ทาง GWM ก็ได้เดินสายการผลิต New GWM ORA Good Cat แบรนด์แรกในไทยตามนโยบาย ZEV 3.0 ของรัฐ พร้อมราคาเริ่มต้นที่น่าสนใจ เพียงแค่ 799,000 บาท เท่านั้น โดยจุดเด่นของรุ่นนี้นอกจากจะมี 3 รุ่นย่อยให้เลือกแล้ว สีภายนอกก็มีให้เลือกหลายเฉด พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ที่จัดเต็ม เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลายสไตล์
จุดเด่น
- มี 3 รุ่นย่อย คือ Pro, Ultra และ GT
- รุ่น Pro และ Ultra มีสีภายนอกให้เลือก 5 เฉดสี ส่วนสีภายในมีให้เลือก 4 สี
- รุ่น GT มีสีภายนอกให้เลือก 2 เฉดสี ส่วนสีภายในมีแค่ 1 สี
- รุ่น Pro และ Ultra มีระบบการขับขี่ 5 แบบ คือ ปกติ, สปอร์ต, ประหยัด, ECO+ และ ออโต้
- รุ่น GT มีให้เลือก 6 โหมด โดยเพิ่มโหมดการขับขี่ส่วนบุคคลเข้ามา (ปรับตามแบตที่คงเหลือ)
- มีเทคโนโลยีการขับขี่และการอำนวยความสะดวกมากกว่า 31 รายการ
- นำฟังก์ชัน V2L หรือระบบการจ่ายไฟจากตัวรถไปยังอุปกรณ์H3: แบตเตอรี่ ไฟฟ้าเข้ามาในรุ่น Ultra และ GT
- ใช้มอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor
- รุ่น Pro และ Ultra มีพละกำลังสูงสุดที่ 143 แรงม้า วิ่งได้สูงสุด 480 กม. (มาตรฐาน NEDC)
- รุ่น GT มีพละกำลังสูงสุดที่ 171 แรงม้า วิ่งได้สูงสุด 460 กม. (มาตรฐาน NEDC)
- ชาร์จ AC 9 ชั่วโมง ส่วน DC 0% – 80% ภายใน 54 นาที และ 30% – 80% ภายใน 38 นาที
ราคาจำหน่าย
- New ORA Good Cat 2024 รุ่น Pro ราคา 799,000 บาท
- New ORA Good Cat 2024 รุ่น Ultra ราคา 899,000 บาท
- New ORA Good Cat 2024 รุ่น Pro ราคา 1.099,000 บาท

BYD ATTO 3 2024
โดยเจ้า BYD ATTO 3 ก็นับว่าเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 5 ที่นั่ง ที่ยังคงอยู่ในกระแสอย่างต่อเนื่องในแวดวงของคนใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% โดยเป็นรถที่นำเข้าทั้งคันจากประเทศจีน ความโดดเด่นคือ ในปี 2024 นี้ มีการจัดโปรโมชั่นเมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมแพ็กเกจ Rever Care เอาใจคนใช้รถ เช่น รับ Smart Home Charger ยี่ห้อ AUTEL พร้อมบริการติดตั้ง หรือการบำรุงรักษา ค่าแรง และค่าอะไหล่สูงสุด 8 ปี หรือที่ 160,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ ยังมีการออกแบบใหม่ ๆ ที่ช่วยทำให้ตัวรถโดดเด่นมากขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือ Logo ด้านหลังเปลี่ยนจาก Build Your Dreams ให้กลายเป็น BYD
จุดเด่น
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 4,455 x 1,875 x 1,615 มม.
- มี 3 รุ่นย่อย คือ Dynamic, Premium และ Extended
- เปลี่ยนวัสดุตกแต่งหลังคา D-Pillar เป็นสีดำ
- ทุกรุ่นมีหลังคากระจกพาโนรามิก เลื่อนเปิด – ปิด ด้วยไฟฟ้า
- ตกแต่ง 2 คู่สี คือ น้ำเงิน – ดำ และน้ำเงิน – เทา
- มีไฟ Ambient Light สำหรับสร้างบรรยากาศภายใน
- หน้าจอการแสดงผลคนขับมีขนาด 5 นิ้ว
- หน้าจอมัลติฟังก์ชันกลาง มีขนาด 15.6 นิ้ว (เพิ่มขึ้น)
- เพิ่มแอปพลิเคชันคาราโอเกะ สามารถซื้อไมโครโฟนเพิ่มได้
แบตเตอรี่
- รุ่น Dynamic และ Premium แบตเตอรี่ความจุ 50.2 kWh พละกำลัง 204 แรงม้า วิ่งได้สูงสุด 410 กม. (มาตรฐาน NEDC)
- รุ่น Extended แบตเตอรี่ความจุ 60.4 kWh พละกำลัง 204 แรงม้า วิ่งได้สูงสุด 480 กม. (มาตรฐาน NEDC)
- ทั้ง 3 รุ่น สามารถรองรับการชาร์จ AC ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ สูงสุด 7 kW
- รุ่น Dynamic และ Premium ชาร์จ DC 70 kW ส่วนรุ่น Extended ชาร์จ DC สูงสุด 88 kW
ราคาจำหน่าย
- BYD ATTO 3 รุ่น Dynamic ราคาใหม่ 799,900 บาท
- BYD ATTO 3 รุ่น Premium ราคาใหม่ 859,900 บาท
- BYD ATTO 3 รุ่น Extended MY24 ราคาใหม่ 959,000 บาท
- BYD ATTO 3 รุ่น Standard MY23 ราคาใหม่ 799,900 บาท
- BYD ATTO 3 รุ่น Extended MY23 ราคาใหม่ 859,900 บาท

6. Aion Y Plus 490 Elite – Premium 2024
รถยนต์ไฟฟ้าสำหรับสายครอบครัวอีกหนึ่งคันก็ต้องยกให้กับ Aion Y Plus 490 Elite – Premium ที่มาพร้อมกับการใช้สอยภายในรถที่ครอบคลุมมาก ๆ โดย Aion คือแบรนด์ในเครือ GAC ยักษ์ใหญ่จากแดนมังกร ที่เข้ามาทำตลาดในเมืองไทยกันได้ไม่นาน แต่ก็สร้างความฮืออาได้ดี มีฟังก์ชันใหม่ ๆ ในรุ่น Premium ที่ถูกเพิ่มมาจากรุ่น 490 Elite ถึง 24 รายการ หนึ่งในนั้นคือระบบ Welcome Seat ปรับระดับอัตโนมัติเมื่อเปิดประตู รวมถึงระบบการขับขี่ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้มากขึ้น
จุดเด่น
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 4,535 x 1,870 x 1,650 มม.
- ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 7 เฉดสี ส่วนสีภายในมีให้เลือก 5 เฉด
- มี 2 รุ่น คือ Elite และ Premium
- เบาะแถว 2 กว้าง เหยียดขาได้เต็มที่ เหมาะกับรถครอบครัว
- เบาะหน้าสามารถถอดพนักพิงแล้วปรับพับให้เชื่อมกับเบาะหลังได้ (ได้ที่นอนขนาด 1.8 เมตร)
- ระบบกล้องมองรอบคัน 540 องศา
- มีระบบกรอง PM 2.5
- ฝาครอบแบตเป็นเหล็ก แข็งแรง ทนทาน หมดปัญหาเรื่องหนูแทะแบตได้ดี
แบตเตอรี่
- ใช้แบต Magazine Battery ที่มีความปลอดภัยสูง ขนาด 63.2 kWh
- ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า ความเร็วสูงสุดคือ 250 km/h
- ระยะวิ่งได้ไกลสูงสุดคือ 490 กม. (มาตรฐาน NEDC)
ราคาจำหน่าย
- Aion Y Plus 490 Elite 2024 ราคา 899,900 บาท
- Aion Y Plus 490 Premium 2024 ราคา 995,900 บาท

Toyota bZ4X
ปิดท้ายกันด้วยรถยนต์ไฟฟ้าจากพี่ใหญ่ในตลาดรถเมืองไทยอย่าง Toyota bZ4X ที่น่าจับตามองมาก ๆ ในตอนนี้ โดยเฉพาะการอัปเกรดให้ตอบโจทย์การใช้งานมากขึ้น ใช้พลังงานไฟฟ้าในตระกูล bZ (Beyond Zero) โดดเด่นทั้งการออกแบบภายนอกและภายใน และที่น่าสนใจมากกว่าคือ ในรุ่นนี้เป็นการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า 100% ร่วมกันกับทาง Subaru ซึ่งเป็นตัวเต็งด้านการออกแบบรถอเนกประสงค์ ทำให้ตัว Toyota bZ4X มีขนาดที่เทียบเท่ากับรถ C-SUV แต่ห้องโดยสารได้พื้นที่เทียบเท่ากับ D-Segment เช่น Tesla Model Y รวมถึง Haval H6
จุดเด่น
- มิติตัวรถ (ยาว x กว้าง x สูง) 4,690 x 1,860 x 1,650 มม.
- สีตัวถังมีให้เลือก 6 สี และภายในอีก 2 สี
- ใช้ตัวถังหรือแพลตฟอร์ม e-TNGA ที่พัฒนามาเพื่อรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
- ติดตั้งแบตไว้ใต้ท้องรถ ออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้าง
- ใช้ระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เวอร์ชั่น 3.0
- ระบบเปิด – ปิด ฝาท้าย โดยไม่ต้องใช้มือ Kicks Sensor
- ระบบบันทึกความจำ Memory Seat
- ระบบบันทึกกระจกมองข้าง Memory Mirror
- มีระบบ Auto Brake Hold พร้อมโหมดการขับขี่ X – Mode
แบตเตอรี่
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 71.4 kWh แรงดัน 355 V
- รองรับการชาร์จ AC ที่ 6.6 kW และ DC 150 kW
- ใช้ช่องชาร์จ CCS Type 2
- วิ่งได้ไกลสูงสุด 411 กม. (มาตรฐาน WLTP)
ราคาจำหน่าย
- Toyota bZ4X ราคา 1,836,000 บาท (รวมส่วนลดจากภาครัฐ)
สำหรับ 7 รถยนต์ไฟฟ้า 2024 ที่วางจำหน่ายและทำการตลาดในเมืองไทยนั้น แต่ละรุ่นก็ถือว่าน่าสนใจไม่แพ้กัน ทั้งรุ่นที่เปิดตัวมาใหม่ และรุ่นที่ลดราคากันอย่างดุเดือด ซึ่งก็เป็นผลมาจากการแข่งขันในตลาดที่สูง บวกกับการเตรียมตัวเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของทางแบรนด์ และไม่ว่าคุณจะใช้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนก็ตาม ก็สามารถเลือกติดตั้ง “เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า” กับทาง PlugHaus Thailand ได้เลย การันตีความคุ้มค่า พร้อมมาตรฐานการติดตั้งจาก PEA และ MEA
13 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก
Posted on by carbeliever69

13 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก เร็วแรงระดับน้องเครื่องบิน ยี่ห้อไหนอยู่หัวตารางไปดูกันเลย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและความแรง ต้องไม่พลาดข้อมูลของรถยนต์ไฟฟ้าที่มีความแรงระดับท็อปของจักรวาลยานยนต์ EV สำหรับ 13 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็น ซูเปอร์คาร์พลังงานไฟฟ้า จากหลายรุ่นหลากยี่ห้อที่ถือว่าเป็นมือโปรของการออกแบบรถยนต์เอ็กโซติกคาร์ ที่ไม่ธรรมดา รวมทั้งคา่ยรถยนต์ไฟฟ้าหลักที่ออกแบบรถมอเตอร์ขับเคลื่อนที่ทรงพลัง เพื่อพิสูจน์ความล้ำหน้าของเทคโนโลยี สร้างอิมเมจให้แบรนด์ หรือเพื่ออวดสถิติความเร็วของรถยนต์ EV ก็ตาม
มีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ กระโดดเข้ามาท้าชิงสถิติความเร็วของรถยนต์ EV อาจหวังปูทางในการผลิตเพื่อจำหน่าย แต่ในตรงกันข้ามก็มีบริษัทผู้ผลิตหลายราคาที่หายหน้าไปจากชาร์จระดับหัวแถว ไม่แน่อาจกำลังซุ่มเกทับแชมป์ความเร็วรถ EV ในปัจจุบันอยู่ก็ได้
และนี่คือ 13 อันดับรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก จากหัวตารางจนถึงท้ายตารางไปดูกันว่ารถยนต์ EV รุ่นไหน ยี่ห้อไหนติดโผกันบ้าง
| อันดับที่ | ยี่ห้อ-รุ่น | อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | ความเร็วสูงสุด ไมล์/ชม.(กม./ชม.) |
| 1 | Rimac Nevera | 1.85 วินาที | 285 (459) |
| 2 | New Tesla Roadster | 1.9 วินาที | 250+ (402.5+) |
| 3 | Aspark Owl | 1.69 วินาที | 249 (401) |
| 4 | Deus Vayanne | 1.99 วินาที | 248 (399) |
| 5 | Pininfarina Battista | 1.79 วินาที | 222 (357) |
| 6 | Lucid Air Sapphire | 3.87 วินาที | 205 (330) |
| 7 | Lotus Evija | 3.0 วินาที | 200+ (322+) |
| 8 | Tesla Model S Plaid | 1.9 วินาที | 200 (322) |
| 9 | Nio EP9 | 2.0 วินาที | 196 (315.5) |
| 10 | Lucid Air Dream Edition Performance | 2.5 วินาที | 168 (270.5) |
| 11 | Tesla Model X Plaid | 2.5 วินาที | 163 (262.5) |
| 12 | Tesla Model 3 Performance | 3.1 วินาที | 162 (261) |
| 13 | Porsche Taycan Turbo S | 2.6 วินาที | 161 (259) |
Porsche Taycan Turbo S 259 กม./ชม.
Posche Taycan Turbo S เป็นรุ่นเรือธงของ Taycan ถึงแม้ว่าตัวเลขของอัตราเร่ง จาก 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมง ค่อนข้างโดดเด่น แต่ความเร็วปลายก็ยังเป็นรอง Tesla Model S Plaid และ Lucid Air
รถสปอร์ตไฟฟ้าคันนี้ผลิตม้าได้มากถึง 616 ตัวจากการติดตั้งมอเตอร์คู่ แต่ด้วย Overboost Power และ Launch Control ทำให้เรียกม้าออกมาใช้งานได้ถึง 750 ตัว พร้อมกับแรงบิดสูงสุด 1,053 นิวตัน-เมตร ซึ่งแตกต่างจากรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ Porsche Taycan Turbo S มาพร้อมกับระบบเกียร์สองสปีดที่ติดตั้งอยู่ที่เพลาหลัง Porsche Taycan Turbo S เคยครองตำแหน่งรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกด้วย และมีชื่อเป็นประวัติการณ์ว่าเป็นรถ EV ที่เร็วที่สุดในสนาม Nürburgring ในประเทศเยอรมันเป็นเวลากว่าสองปี จนกระทั่งถูก Tesla Model S Plaid ทำลายสถิติอย่างราบคาบ
| การขับเคลื่อน | Dual-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 750 horses (Overboost Power) |
| แรงบิด | 774 pound-feet (1,053 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 93.4 kWh (Performance Battery Plus) |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 201 miles (324 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 2.6 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 161 mph |
| ราคาจำหน่าย | $185,000 |
Tesla Model 3 Performance 261 กม./ชม.

ด้วยราคาเริ่มต้นที่ต่ำกว่า 60,000 ดอลลาร์ Tesla Model 3 Performance จึงเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ถูกที่สุดในชาร์จ โดยระบบขับเคลื่อนมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว ติดตั้งแยกอยู่ที่เพลาหน้า และหลังอย่างละตัว ประสิทธิภาพของ Tesla Model 3 มีความเร็วสูงสุด 162 ไมล์ต่อชั่วโมง เร็วกว่ารุ่นเรือธงของ Taycan ที่มีราคาสูงกว่ารุ่น Tesla เฉียดสามเท่า แถมมีระยะทางที่วิ่งได้ไกลถึง 315 ไมล์ หรือราว 507 กม.โดยประมาณของ EPA ซึ่งค่อนข้างน่าประทับใจไม่น้อย
| การขับเคลื่อน | Dual-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 450 horses |
| แรงบิด | 471 pound-feet (641 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 82 kW้h (Performance Battery Plus) |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 315 miles (507 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 3.1 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 162 mph |
| ราคาจำหน่าย | $58,990 |
Tesla Model X Plaid 262.5 กม./ชม.

ในขณะที่ Tesla Model S Plaid ได้รับความสนใจอย่างมาก แต่หลายคนอาจลืมไปว่า Model X ก็นำเสนอด้วยการรักษา Plaid Tesla ตั้งข้อสังเกตว่า SUV ไฟฟ้าคันนี้สามารถวิ่งระยะควอเตอร์ไมล์ภายในเวลาไม่ถึง 10 วินาที มีมอเตอร์สามตัวที่ขับเคลื่อนล้อทั้งสี่ รวมกันแล้วได้ม้า 1,020 ตัว แถมยังมีอัตราเร่งจากจุดหยุดนิ่งถึงความเร็วที่ 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 2.5 วินาที เท่านั้น มีความเร็วสูงสุด 163 ไมล์ต่อชั่วโมง ทำให้ติดอันดับหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในตลาดปัจจุบัน
| การขับเคลื่อน | Tri-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1020 horses |
| แรงบิด | N/A |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 120 kWh (est.) |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 313 miles (504 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 2.5 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 163 mph (262.5 กม/ชม.) |
| ราคาจำหน่าย | $119,990 |
Lucid Air Dream Edition Performance 270.5 กม./ชม.

Lucid ออกมาพร้อมกับ Air ในปี 2020 ออกแบบโดย Peter Rawlinson คนเดียวกับที่เอยู่เบื้องหลัง Tesla Model S Air หลายเดือนหลังจากเปิดตัว Dream Edition รุ่นท็อปสเป็คถูกแบ่งออกเป็นสองรุ่น เพื่อให้ลูกค้าเลือกสิ่งที่ต้องการมากที่สุด Lucid Air Dream Edition สร้างม้ารวมกันถึง 1,111 ตัว และแรงบิดประมาณ 737 ปอนด์ฟุตจากการติดตั้งมอเตอร์คู่ แต่ความแรงอาจเป็นเหตุผลรอง สำหรับผู้ที่เลือกมาใช้งานกับไปมองเรื่องของระยะทางที่ EV คันเก่งนี้ทำได้มากกว่า โดย มันสามารถไปไกลได้ถึง 471ไมล์ หรือราว 758 กม. ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งทีเดียว
| การขับเคลื่อน | Dual-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,111 horses |
| แรงบิด | 737 pound-feet (1,023 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 113 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 471 miles (758 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 2.5 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 168 mph |
| ราคาจำหน่าย | $169,000 |
Nio EP9 315.5 กม./ชม.

Nio EP9 (Electric Performance 9) รถยนต์สัญชาติจีน เผยโฉมครั้งแรกในปี 2559 แต่แม้จะมีแผนเริ่มต้นออกมาให้เห็นแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นรถต้นแบบ ที่มีการผลิตออกมาไม่มากนัก มีการทดสอบวิ่งเฉพาะในสนามแข่ง ซึ่ง Nio EP9 ถือเป็นรถซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าที่ทำลายสถิติ โดยสามารถขับรอบ North Loop ของ Nurburgring ในเวลาเพียง 6 นาที 45 วินาที กลายเป็น EV ที่เร็วที่สุดในรอบ Nurburgring ในขณะนั้น EP9 ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัวที่เรียกว่า MGU ซึ่งให้กำลังรวม 1,341 แรงม้าและแรงบิด 1,091 ปอนด์-ฟุต มีระยะทาง 265 ไมล์และสามารถวิ่งจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 2.6 วินาทีและความเร็วสูงสุด 196 ไมล์ต่อชั่วโมง
| การขับเคลื่อน | Four-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,341 horses |
| แรงบิด | 1,090 pound-feet (1,482 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 90 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 256 miles (412 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 2.6 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 196 mph |
| ราคาจำหน่าย | $3,500,000 |
Tesla Model S Plaid 322 กม./ชม.

Tesla Model S Plaid ซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าในรูปแบบของตัวซีดาน 4 ประตู เจ้าของตัวเลขวิ่งระยะทาง 1/4 ไมล์หรือควอเตอร์ไมล์ ในรูปแบบของสต็อกคาร์ ภายในเวลาไม่ถึง 9 วินาที ซึ่งเทสลาสร้างมอเตอร์อีกตัวไปเสริมแรงให้กับมอเตอร์คู่ของ Model S โดยมอเตอร์ทั้งสามตัวสร้างม้ารวมกันได้ 1,020 ตัว รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานจากชุดแบตเตอรี่ขนาด 99 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งใช้งานได้นาน 348 ไมล์ ในรูปแบบของการขับแบบอีโค่ บริษัทผู้ผลิตกล่าวว่ามันสามารถทำอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 1.99 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 200 ไมล์ต่อชั่วโมง
| การขับเคลื่อน | Tri-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,020 horses |
| แรงบิด | N/A |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 99 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 348 miles (560 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 1.99 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 200 mph |
| ราคาจำหน่าย | $129,900 |
Lotus Evija 322+ กม./ชม.

Lotus Evija ผลิตออกมาในจำนวนจำกัด เป็นหนึ่งในรถที่เร็วที่สุดบนถนนตามกฎหมาย ตัวถังประกอบด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ และถูกออกแบบมาเน้นในเรื่องของอากาศพลศาสตร์มากที่สุดในโลกคันหนึ่ง Evija มีการติดตั้งมอเตอร์ทั้งสี่ล้อ แยกอิสระจากกัน แต่วัดกำลังรวมทั้งหมดแล้วสูงถึง 1,973 แรงม้า และแรงบิดก็ไม่ธรรมดามากถึง 1,254 ปอนด์ฟุต แน่นอนว่าค่าตัวก็ไม่ธรรมดาตามไปด้วย ถ้าอยากเป็นเจ้าของต้องจ่ายมากกว่า 3 ล้านเหรียญสหรัฐ Lotus อ้างว่าซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าคันนี้สามารถวิ่งได้เกิน 200 ไมล์ต่อชั่วโมงหากมีทางเพียงพอให้กดคันเร่ง แต่สิ่งที่ไม่ถูกใจขาซิ่งที่หลงไหลความแรงมากนักก็คือตัวเลขของอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงใช้เวลาไปมากถึง 3 วินาที
| การขับเคลื่อน | Quad-motor setup, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,973 horses |
| แรงบิด | 1,254 pound-feet (1,705 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 80 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 250 miles (402.5 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 3.0 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 200+ mph |
| ราคาจำหน่าย | $3.1 million (ประมาณการ) |
Lucid Air Sapphire 330 กม./ชม.

สองปีหลังจากการประกาศใช้ Standard Air Sapphire ก็ได้มีการพัฒนาระบบขับเคลื่อน และมอเตอร์ไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยรุ่นล่าสุดถือว่ามีระบบส่งกำลังสามมอเตอร์ที่ทันสมัยที่สุดของ Lucid ในขณะนี้ และให้กำลังรวม 1,200 แรงม้า มากกว่ารุ่น Air Dream Edition Performance เกือบ 100 แรงม้า (1,111 แรงม้า) และมากกว่ารุ่นพื้นฐาน 480 แรงม้าของ Air อย่างเห็นได้ชัด มีระยะทาง 200 ไมล์ สามารถวิ่งจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 3.87 วินาทีซึ่งถือว่าช้าไปหน่อยเมื่อเทียบกับรถระดับเดียวกัน แต่สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 205 ไมล์ต่อชั่วโมง Lucid Air Sapphire จะผลิตในจำนวนจำกัดและจะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 250,000 ดอลลาร์
| การขับเคลื่อน | Tri-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,200 horses |
| แรงบิด | N/A |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 118 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 200 miles (322 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 3.87 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 205 mph |
| ราคาจำหน่าย | $250,000 |
Pininfarina Battista 357 กม./ชม.

Battista เพิ่งกลายเป็นรถโปรดักชั่นในระยะควอเตอร์ไมล์ที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยเวลาควอเตอร์ไมล์ที่ทำลายสถิติเพียง 8.55 วินาที นี่เป็นการพิสูจน์อีกครั้งว่า Pininfarina Battista นั้นเร็วแค่ไหน ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวรสี่ตัวที่ให้กำลังรวม 1,900 แรงม้าและแรงบิด 1,741 ปอนด์ฟุต สามารถวิ่งจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 1.79 วินาที และจาก 0 ถึง 186 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 10.5 วินาที ในการเปิดตัว Pininfarina ได้ประกาศความเร็วสูงสุดโดยประมาณที่ 217 ไมล์ต่อชั่วโมง สร้างออกมาจำกัดเพียง 150 คันเท่านั้น โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
| การขับเคลื่อน | Four-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,900horses |
| แรงบิด | 1,741 pound-feet (2,368 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 120W้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 310 miles (507 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 1.79 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 222 mph |
| ราคาจำหน่าย | $2,200,000 |
Deus Vayanne 399 กม./ชม.

Deus Automobiles ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2020 และในเวลาเพียง 2 ปี ก็สามารถออกรถ EV ที่น่าประทับใจและแรงที่สุดรุ่นหนึ่งในโลกได้ Deus Vayanne เปิดตัวที่งาน New York Auto Show ปี 2022 และจะวางจำหน่ายในปี 2025
Vayanne เป็นการผสมผสานองค์ประกอบการออกแบบจากรถยนต์หลายรุ่น รวมถึง Koenigsegg Agera, Lotus Evija, Pagani Huayra อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกกล่าวหาว่าลอกเลียนแบบ แต่ Vayanne ก็แสดงให้เห็นว่ามันคือหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วและทรงพลังที่สุดในโลก บริษัทกล่าวว่าจะมีกำลังมากกว่า 2,200 แรงม้า เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 1.99 วินาที และจะทำความเร็วสูงสุดที่ 248 ไมล์ต่อชั่วโมง จะถูกจำกัดเพียง 99 ยูนิตเท่านั้น และราคาจะประกาศเมื่อใกล้เปิดตัวในตลาด
| การขับเคลื่อน | N/A |
| กำลัง (แรงม้า) | 2,200 horses |
| แรงบิด | N/A |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | N/A |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | N/A |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 1.99 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 248 mph |
| ราคาจำหน่าย | N/A |
Aspark Owl 401 กม./ชม.

Aspark Owl เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในตลาด EV และสร้างความประทับใจนับตั้งแต่เปิดตัว The Owl เป็นไฮเปอร์คาร์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของญี่ปุ่นที่เคยมีมา ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร 4 ตัวที่ให้กำลังรวม 1,984 แรงม้าและแรงบิด 1,475 ปอนด์ฟุต Aspark อ้างว่า Owl สามารถวิ่งจาก 0 ถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 1.69 วินาทีและความเร็วสูงสุด 249 ไมล์ต่อชั่วโมง ซูเปอร์คาร์คันนี้สร้างขึ้นจากแชสซีส์คาร์บอนไฟเบอร์ที่มีน้ำหนักเพียง 264.5 ปอนด์
ไม่เพียงเร็วเหลือเชื่อเท่านั้น แต่ยังเบาเหลือเชื่อและทนทานจนน่าตกใจอีกด้วย มีระยะทาง 280 ไมล์ Aspark Owl ผลิตมาเพียง 50 คันในโลกเท่านั้น โดยราคาประมาณ 2.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
| การขับเคลื่อน | Four-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,984 horses |
| แรงบิด | 1,475 pound-feet (2,006 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 69 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 280 miles (451 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 1.69 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 249 mph |
| ราคาจำหน่าย | $2,800,000 |
New Tesla Roadster 402.5+ กม./ชม.

New Tesla Roadster เป็นรถในโมเดลปี 2023 ที่ยังไม่ได้เปิดเผยโฉมออกมา แต่ว่ามีการเปิดเผยเสป็คบางส่วนออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคร่าวๆ จะมีมอเตอร์สองตัวที่เพลาหลังและอีกตัวที่เพลาด้านหน้า ทว่าแรงม้าจะมากขนาดไหนยังคงไม่ถูกเปิดเผย แต่รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้สามารถทำแรงบิดลงล้อทั้งหมดได้ถึง 7,376 ปอนด์ฟุต สิ่งนี้จะช่วยให้ EV วิ่งไปถึง 60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลาเพียง 1.9 วินาที
แต่เขาบอกว่าถ้ายังสะใจไม่พอ ตัว Roadster จะได้รับการเสนอแพ็คเกจเสริมความแรง SpaceX ซึ่งจะช่วยให้จะช่วยให้มันแตะ 60 ไมล์ต่อชั่วโมงจในเวลาเพียง 1.1 วินาทีเท่านั้น Tesla ได้เปิดเผยว่า Roadster ใหม่จะมีความเร็วสูงสุดสูงกว่า 250 ไมล์ต่อชั่วโมง ข้อมูลจำเพาะประสิทธิภาพอื่นๆ ได้แก่ 0 ถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมงใน 4.2 วินาที และเวลาหนึ่งในสี่ไมล์ 8.9 วินาที Model S Plaid สามารถทำลายสถิติ 9 วินาทีได้ ดังนั้นเราคาดว่า Roadster จะเร็วกว่ามาก แต่สิ่งที่เด็ดกว่านั้นก็คือระยะทางที่วิ้่งได้สูงถึง 620 ไมล์ด้วยชุดแบตเตอรี่ขนาด 200 กิโลวัตต์ชั่วโมง
| การขับเคลื่อน | Tri-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | N/A |
| แรงบิด | 7,376 pound-feet (10,031 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 200 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 620 miles (998 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 1.9 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 250+ mph |
| ราคาจำหน่าย | $200,000+ |
Rimac Nevera 459 กม./ชม.

นี่คือรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลก Rimac Nevera Rimac ซึ่งก่อนหน้านี้เผยโฉมมาเป็นรถต้นแบบชื่อ C_Two ในงานเจนีวามอเตอร์โชว์ปี 2018 และเปิดตัวรุ่นโปรดักชั่นในอีกสามปีต่อมาและตั้งชื่อว่า Nevera Nevera ติดอันดับรถยนต์ไฟฟ้าที่เร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็วสูงสุด 258 ไมล์ต่อชั่วโมง Nevera มีอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงในเวลา 1.5 วินาที ไปที่ 180 ไมล์ต่อชั่วโมงจากหยุดนิ่งใน 9.3 วินาที และวิ่งระยะทางควอเตอร์ไมล์ใน 8.6 วินาที
Nevera มีการติดตั้งมอเตอร์สี่ล้อที่ทำให้เป็นรถขับเคลื่อนสี่ล้อ กำลังขับทั้งหมดอยู่ที่ 1,914 ม้า และแรงบิด 1,741 ปอนด์-ฟุต มีชุดแบตเตอรี่ขนาด 120 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ช่วยให้ใช้งานได้ 342 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งตามการจัดอันดับ WLTP ซูเปอร์คาร์ไฟฟ้าคันนี้มีประสิทธิภาพทางอากาศพลศาสตร์ที่สูงและยังมาพร้อมกับโหมด ‘High Downforce’ ที่เพิ่มแรงกดลงถึง 326 เปอร์เซ็นต์ Nevera ถูกผลิตมาเพียงแค่ 150 คัน และจะมีราคาอยู่ที่ 2 ล้านยูโร
| การขับเคลื่อน | Tri-motor, all-wheel-drive |
| กำลัง (แรงม้า) | 1,914 horses |
| แรงบิด | 1,741 pound-feet (2,368 N-m) |
| ขนาดแบตเตอรี่ EV | 120 kW้h |
| ระยะทางที่วิ่งได้ | 342 miles (507 กม.) |
| อัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. | 301 seconds |
| ความเร็มสูงสุด | 551 mph |
| ราคาจำหน่าย | 2,000,000 UR |

