ดูเวอร์ชั่นเต็มได้ที่กลางเว็บไซต์👇

รถยนต์ไฟฟ้าหรูหรา 10 อันดับแรก – สุดยอดคู่มือ

เวลา: 16 พฤศจิกายน 2023

Share

TwitterFacebookLinkedInChia sẻ

เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นกระแสหลัก แบรนด์ยานยนต์ระดับโลกจึงเปิดตัวรถยนต์พลังงานใหม่ การแข่งขันในตลาดรถยนต์พลังงานใหม่นั้นรุนแรง และแต่ละแบรนด์ก็มีนวัตกรรมทั้งในด้านสมรรถนะ ระยะทาง การตกแต่งภายใน ระบบช่วยเหลือในการขับขี่และระบบความปลอดภัย และความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูจากแบรนด์ระดับไฮเอนด์ยังคงเป็นผู้นำในด้านต่างๆ ในการจัดอันดับรถยนต์ไฟฟ้าแบบครอบคลุม นี่คือคอลเลกชั่นรถยนต์ไฟฟ้าสุดหรู 10 อันดับแรกของเราทั่วโลก พร้อมด้วยระยะทางที่เหนือกว่า การตกแต่งภายในที่สะดวกสบาย และการควบคุมที่ยอดเยี่ยม

10.Deepal SL03

ในฐานะรถยนต์พลังงานใหม่ของจีน Deepal SL03 ยังมีคุณลักษณะของรถยนต์หรูหราในแง่ของรูปลักษณ์อีกด้วย แนวคิดการออกแบบสไตล์มินิมอลดูล้ำสมัย พร้อมด้วยเส้นสายที่เฉียบคมบนตัวกล้อง ประตูไร้กรอบและประตูท้ายแบบยกกลับช่วยเพิ่มความล้ำหน้าและความเป็นเอกลักษณ์ของรถ Deepal SL03. ในแง่ของการกำหนดค่า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าและระบบแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการเร่งความเร็วและระยะที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการสตาร์ทหรือการขับขี่ด้วยความเร็วสูงก็ตาม Deepal SL03 ให้กำลังขับที่แข็งแกร่งแก่ไดรเวอร์

9.เด็ก ES8

ES8 คือรถ SUV รุ่นเรือธงของ Nio และเมื่อดูภายในรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ก็ยืนยันถึงความตั้งใจที่จะสร้างความหรูหราได้ นิโอะ ภายในใช้สไตล์มินิมอล แต่ต่างจากสไตล์มินิมอลของ Tesla ตรงที่ภายในของ Nio ดูหรูหราและมีราคาแพงมาก รถยนต์คันนี้ติดตั้งระบบปรับอากาศแบบควบคุมอุณหภูมิ 8 โซนเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย เบาะนั่งแถวที่ XNUMX ดูไม่แปลกตาแม้แต่บนเครื่องบินส่วนตัว จุดเด่นคือหน้าจอแสดงผลที่จัดไว้ให้คนขับ Nio อาจไม่ใช่ผู้ผลิตรถยนต์หรูที่เติบโตเต็มที่เหมือน Mercedes-Benz แต่หาก ESXNUMX เป็นตัวบ่งบอก แบรนด์นี้มีแผนทะเยอทะยานและอนาคตที่สดใสในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหรูอย่างชัดเจน

8.เทสลา โมเดล เอ็กซ์

Model X สามารถรองรับได้ 7 ที่นั่ง และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นรุ่น Tesla ที่ใหญ่ที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน มันอาจจะหนักถึง 2.5 ตัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ช้าลงเพราะมีกำลัง 1,020 แรงม้า ทำให้สามารถเร่งความเร็ว 0-60 ไมล์ต่อชั่วโมงได้ในเวลา 2.5 วินาที Model X มีระยะทาง 333 ไมล์และมีศูนย์สาระบันเทิงครบวงจร เป็นรถยนต์ไฟฟ้าครอบครัวขนาดใหญ่ แกร่ง และทรงพลัง หรูหรา การออกแบบประตูปีกนกเหยี่ยวช่วยเพิ่มความหรูหราให้กับ Model X ทำให้เป็นรถยนต์เรือธงของแบรนด์ Tesla

7.Zeekr 001

Zeekr 001 โดดเด่นในหมู่รถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูเนื่องจากมีกลุ่มผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ตกแต่งภายนอก รุ่น FR ประสิทธิภาพสูงของ Zeekr 001 ตอกย้ำความเป็นรถสปอร์ตด้วยชุดแต่งสไตล์รถแข่ง และคุณสมบัติพิเศษในการวิ่งระยะไกลสุดขีดซึ่งหาได้ยากในรถยนต์ไฟฟ้าระดับเดียวกัน ทำให้เป็นรถหรูที่ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้

6.สุวิมลแอร์

Lucid Air คือรถยนต์ซีดานไฟฟ้าขั้นสูงที่สร้างนิยามใหม่ให้กับความเข้าใจของเราในเรื่องความหรูหรา รูปลักษณ์ภายนอกดูเรียบง่าย แต่เห็นได้ชัดว่าการออกแบบนี้เป็นผลมาจากฟังก์ชันการใช้งานและประสิทธิภาพตามหลักอากาศพลศาสตร์ แต่ภายนอกก็ดูสวยงามและหรูหรามาก ความหรูหรามีหลายรูปแบบ และ Lucid มอบการรับประกันด้วยความอเนกประสงค์ที่น่าทึ่งให้กับคุณ สามารถวิ่งได้ไกลถึง 800 กิโลเมตร และยังสามารถเลือกรุ่น Air Sapphire ซึ่งจะเป็นรถโปรดักชั่นที่เร็วที่สุดในโลก ด้วยกำลังที่น่าทึ่ง 1,234 แรงม้า และอัตราเร่งจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ที่รายงานว่าต่ำที่สุด เท่ากับ 1.89 วินาที

5.ออดี้ อี-ทรอน จีที

e-tron GT เป็นหนึ่งในรถซีดานที่สวยที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยที่ทีมออกแบบของ Audi ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมมาหลายปี รายละเอียดภายนอกทุกชิ้นดูมีระดับและล้ำหน้าทางเทคโนโลยี Porsche Taycan (ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันหลายประการกับ e-tron GT) มีลักษณะคล้ายกับดีไซน์คลาสสิกของ Porsche ในขณะที่ e-tron GT ดูเหมือนรถที่เห็นในภาพยนตร์เรื่อง “Tron: Legacy” ล้อสุดเท่ช่วยเสริมรูปลักษณ์ล้ำยุค ส่วนด้านหลังมีท่วงท่าที่กว้างและดุดัน รูปลักษณ์โดยรวมดูหรูหราและนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย

4.บีวายดี หยางหวาง ยูเอ8

YangWang U8 ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับแบรนด์ยานยนต์จีนในกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าระดับหรู เมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์รถยนต์หรูที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับทั่วโลก YangWang U8 นั้นไม่ได้สูงนัก แต่มีเทคโนโลยีหลักที่ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก เช่น ระบบควบคุมตัวถังไฮดรอลิกอัจฉริยะ “Easy Square” และ “Yunxian-P” ” ระบบไฟฟ้าสามตัวของ U8 ยังโดดเด่นด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าสี่ตัวและพารามิเตอร์กำลังที่น่าสะพรึงกลัว กำลังสูงสุดของระบบสูงถึง 880 กิโลวัตต์ และแรงบิดสูงถึง 1280 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 3.6-0 กม./ชม. ใน 100 วินาทีนั้นยอดเยี่ยมสำหรับรถออฟโรดที่มีน้ำหนัก 3.5 ตัน นอกจากนี้ YangWang U8 ยังใช้การออกแบบกันน้ำแบบคู่ โดยมีส่วนประกอบหลักทั้งหมดตรงตามข้อกำหนดกันน้ำ IP68 ทำให้รถคันใหม่สามารถลอยอยู่ในน้ำได้ สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าออฟโรดที่หรูหรามูลค่าล้านดอลลาร์ YangWang U8 เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน

3.เมอร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวเอส

Mercedes-Benz EQS เป็นรถยนต์หรูหราที่โดดเด่นตามที่คาดหวังจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ผู้ผลิตชาวเยอรมันรายนี้มีชื่อเสียงในด้านการผลิตราชาแห่งรถซีดานระดับผู้บริหาร (S-Class) และเห็นได้ชัดว่ามีการใช้หลักการเดียวกันนี้ในการออกแบบ EQS
แบรนด์หรูของเมอร์เซเดส-เบนซ์ไม่ฉูดฉาด และ EQS มีการออกแบบภายนอกที่หรูหราและเรียบง่าย อย่างไรก็ตาม การตกแต่งภายในเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ด้วยระดับความหรูหรา ความใส่ใจในรายละเอียด และพื้นที่ที่ปรับแต่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ

2.บีเอ็มดับเบิลยู ไอ7

BMW i7 มีการออกแบบภายนอกที่โฉบเฉี่ยวและเรียบง่าย พร้อมด้วยด้านหน้าสไตล์ครอบครัวและเส้นสายที่เรียบหรู โปรไฟล์ด้านข้างมีรูปทรงคล้ายรถคูเป้ ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ภาพแบบไดนามิก ในแง่ของการตกแต่งภายใน BMW i7 มีอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด รวมถึงแผงหน้าปัดดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาด 14.9 นิ้ว ที่รองรับโหมดโต้ตอบต่างๆ เช่น การควบคุมด้วยเสียงและการจดจำท่าทาง เบาะนั่งทำจากวัสดุคุณภาพสูงให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย

1.ปอร์เช่ ไทคานน์

เมื่อพูดถึง Porsche Taycan ความหรูหราอาจไม่ใช่ความประทับใจแรกที่นึกถึง แต่ภายในของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงคันนี้มีความหรูหราพอๆ กัน และสามารถปรับแต่งได้หลากหลายรูปแบบจากโรงงาน คุณสามารถปรับแต่งการตกแต่งภายในของ Porsche Taycan ให้เข้ากับสีตัวถัง เลือกสีที่โดดเด่นสำหรับชิ้นส่วนโลหะ เลือกหนังในเฉดสีต่างๆ หรือแม้แต่เลือกใช้สีทูโทนผสมกัน และยังเลือกตัวเลือกภายในที่ไม่ใช่หนังได้อีกด้วย
จากรูปลักษณ์ภายนอก Taycan แสดงออกถึงความสง่างามและความหรูหรา ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บ้านบนสนามแข่งหรือบริการจอดรถในโรงแรมระดับไฮเอนด์ แม้ว่าการออกแบบจะดูเรียบง่าย แต่สไตล์ของปอร์เช่ก็ปฏิเสธไม่ได้

โดยสรุป รถยนต์ไฟฟ้าระดับหรูกำลังแพร่หลายมากขึ้นในตลาด โดยมีแบรนด์ต่างๆ มากมายที่นำเสนอสมรรถนะ ระยะการใช้งาน และฟีเจอร์ที่น่าประทับใจ รถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู 10 อันดับแรกที่ระบุไว้ข้างต้นแสดงถึงความหรูหรา สมรรถนะ และเทคโนโลยีที่ดีที่สุด ตั้งแต่รถซีดานเก๋ๆ ไปจนถึงรถ SUV ที่ทรงพลัง ยานพาหนะเหล่านี้นำเสนอภาพอนาคตของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า

7 รถยนต์ไฟฟ้า 2025 มาใหม่ พร้อมราคาจำหน่ายในไทยปีนี้

02 October 2025

ในบรรดารถยนต์ EV ที่กำลังทำตลาดในเมืองไทยนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีหลายรุ่นมาก ๆ ที่น่าสนใจ ทั้งราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงสเปกที่หลากหลายตอบโจทย์การใช้งาน ซึ่งในบรรดา รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่เปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยนั้น ก็มีทั้งการเปิดตัวในปลายปีหรือในงาน Motor Expo 2024 รวมถึงการเปิดตัวในต้นปี 2025 ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น เราจะพาคุณมาเจาะสเปกรถยนต์ไฟฟ้ากัน ว่าในปีนี้มีรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ สรุปข้อมูลฉบับรวบรัด พร้อมราคาจำหน่ายในตอนนี้

1. BYD Sealion 7

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มาแรงและได้รับความนิยมมาก ๆ ในปี 2025 นี้ ก็คือ BYD Sealion 7 จากค่าย BYD ซึ่งเป็นรถในกลุ่ม C-SUV ทรง Fastback ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 8 in 1 โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความพลิ้วไหวของสายน้ำ มาพร้อมกับสเปกที่น่าสนใจพร้อมกับฟังก์ชันที่โดดเด่น โดยเฉพาะระบบมัลติมีเดียภายใน และหลังคา Panoramic Glass Roof ที่ลดความร้อนได้พร้อมทั้งการกรองแสง UV ภายในตัว สำหรับแบตเตอรี่มีความจุ 82.5 kWh ขับขี่ได้สูงสุด 567 กม. (มาตรฐาน NEDC)

ราคาจำหน่าย BYD Sealion 7

• BYD Sealion 7 รุ่น Premium ราคา 1,249,900 บาท
• BYD Sealion 7 รุ่น AWD Performance ราคา 1,399,900 บาท

หมายเหตุ : มีการปรับราคาขึ้นหลังช่วงโปรโมชั่น Early Bird จากงาน Motor Expo 2024 ที่ผ่านมา

2. Geely EX5

สำหรับ Geely EX5 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่เปิดตัวมาแล้วได้รับกระแสที่ดีไม่แพ้กับรุ่นดังอย่าง BYD ATTO 3 และ NETA X โดยตัวรถใช้โมเดลสถาปัตยกรรม Geely Electric (GEA) โดยมีจุดเด่นคือ เทคโนโลยี Short Blade Battery ติดตั้งแบบ CTB Cell – to – Body ผลิตโดย SVOLT พร้อมระบบขับเคลื่อนแบบ 11 in 1 ทำงานร่วมกับมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง โดยตัวรถถูกออกแบบให้มีความอเนกประสงค์ ด้วยการเพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสารมาให้กว้างมากขึ้น

เรียกได้ว่า Geely EX5 เป็นรถอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการรถยนต์ไฟฟ้า EV สำหรับการใช้งานในครอบครัว นอกจากนี้ ตัวรถยังรองรับการสั่งงานด้วยเสียง Hello Geely และที่ขาดไม่ได้คือ มีหลังคากระจก Panoramic Roof ส่วนแบตเตอรี่เองก็ถือว่ามีประสิทธิภาพที่ดี เพราะใช้แบตเตอรี่ LFP แบบ Aegis short blade 60.22 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 495 กม. (มาตรฐาน CLTC) สำหรับรุ่น Pro

ราคาจำหน่าย Geely EX5

• Geely EX5 Pro ราคา 899,000 บาท
• Geely EX5 Max ราคา 989,000 บาท

3. Aion V

สำหรับ Aion V ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่มาแรงของปี 2025 นี้ เพราะเป็นรถ SUV 5 ที่นั่ง ที่ออกแบบให้มีความสมบุกสมบันมากขึ้น พร้อมลุยได้มากกว่า Aion Y Plus โดยโหมดการขับขี่มี 4 รูปแบบ คือ Comfort, Sport, Eco และ Max Eco ส่วนระบบ Regenerative Braking ก็ปรับได้ถึง 3 ระดับเช่นกัน

และในด้านของแบตเตอรี่ ใช้ Magazine Battery Lithium-ion (LFP) ความจุ 75.3 kWh ขับเคลื่อนล้อหน้า Front – Wheel Drive ให้กำลังสูงสุด 224 แรงม้า วิ่งได้ไกลสูงสุด 602 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC) และที่ขาดไม่ได้คือ ภายในรถมีหลังคากระจก Panoramic Roof แบบ Fixed และตู้เย็นคอนโซลกลางที่ทำความเย็น – ร้อน ได้ตั้งแต่ -15 ไปจนถึง 50 องศา

ราคาจำหน่าย Aion V

• Aion V ราคา 1,029,900 บาท

4. Tesla Model Y 2025

ถ้าหากให้นึกถึงรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ยังคงเป็นกระแสและได้รับความนิยมในไทย ก็คือ Tesla Model Y 2025 หรือ New Model Y Juniper ที่ต่อยอดมาจากโมเดล Y ที่ประสบความสำเร็จด้วยยอดขายอันดับ 1 ของโลก โดยในรุ่นปี 2025 นี้ มีการอัปเกรดความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น อาทิ ระยะทางในการขับขี่ หรือแม้แต่ห้องโดยสารที่เงียบยิ่งกว่าเดิม โดยที่ยังคงความเรียบหรูตามสไตล์เทสล่าเช่นเดิม

แต่ที่โดดเด่นคือ ไฟหน้าส่องสว่างตอนกลางวันที่ไร้รอยต่อ พร้อมกับไฟท้ายแบบ Halo Tailight ที่ผลิตโดยการแพร่กระจายของแสงทางอ้อม ทอดเป็นแนวยาวตลอดทั้งชิ้นเป็นรุ่นแรกของโลก ส่วนการขับขี่มีการปรับปรุงช่วงล่างใหม่ทั้งหมด ทำให้มีความนุ่มนวลในการขับขี่มากขึ้น เก็บเสียงได้ดีกว่าเดิม รวมถึงการใช้พวงมาลัยใหม่ที่ตัดก้านคันเกียร์ออกจากรุ่นเดิม ส่วนแบตเตอรี่ใช้ลิเธียมไอออน LEP 62.5 kWh วิ่งได้ไกล 466 กม. และ NMC 78.4 kWh วิ่งได้ไกล 551 กม. (มาตรฐาน WLTP)

ราคาจำหน่าย Tesla Model Y 2025

• Tesla Model Y 2025 รุ่นขับเคลื่อนล้อหลัง ราคาเริ่มต้น 1,769,000 บาท
• Tesla Model Y 2025 รุ่น Long Range ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาเริ่มต้น 2,069,000 บาท

5. Leapmotor C10

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า Leapmotor C10 2025 ก็เป็นอีกหนึ่งรถ EV รุ่นใหม่ที่น่าจับตามองไม่แพ้กัน โดยเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน Motor Expo 2024 นำเข้า CBU จากจีน ซึ่งเป็นรถในกลุ่ม SUV 5 ที่นั่ง เน้นการใช้งานที่มีพื้นที่สัมภาระกว้างขวาง แต่ไม่กระทบกับห้องโดยสาร มีอุปกรณ์การใช้งานที่ครบครัน และที่ขาดไม่ได้คือ ระบบปฏิบัติการ LEAP OS 4.0 ที่พัฒนามาเพื่อการใช้งานรถยนต์โดยเฉพาะ ส่วนการใช้งานภายในรถก็ครบครันด้วยระบบมัลติมีเดีย อาทิ จอ Infotainment ขนาด 14.6 นิ้ว พร้อมคำสั่งเสีย OTA ส่วนระบบความปลอดภัยก็มีให้ไม่อั้น ทั้งการควบคุมความเร็ว การป้องกันรถพลิกคว่ำ และระบบปลดล็อกเมื่อมีการชน ส่วนแบตเตอรี่ใช้ Lithium – ion 69.9 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 577 กม. (มาตรฐาน NEDC)

ราคาจำหน่าย Leapmotor C10

• Leapmotor C10 ราคา 1,098,000 บาท

6. Deepal E07

รถยนต์ไฟฟ้า 100% จากค่าย ChangAn Thailand ก็ต้องยกให้กับ Deepal E07 2025 ที่มีจุดเด่นคือ ดีไซน์ทันสมัย หรูหรา และมีความอเนกประสงค์ตามสไตล์ของรถ SUV โดยตัวรถมีฟังก์ชันการใช้งานที่ช่วยเรื่องการขับขี่หลายตัว แต่ที่พิเศษมากกว่าก็คือ การออกแบบให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าลูกผสมระหว่างรถ Pickup และ SUV ส่วนภายในและภายนอกก็ยังคงสไตล์การออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “วิลล่าเคลื่อนที่” มีหลังคา Panoramic Glass Roof พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า มีโหมดการขับขี่ให้ใช้ 4 โหมด คือ ECO, Comfort, Sport และ Customize ส่วนแบตเตอรี่ใช้ Ternary Lithium (NMC) ความจุ 89.98 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 640 กม. (มาตรฐาน NEDC)

ราคาจำหน่าย Deepal E07

• Deepal E07 Plus RWD ราคา 1,699,000 บาท
• Deepal E07 Performance AWD ราคา 2,099,000 บาท

7. JAECOO 6

และอีกหนึ่งรถยนต์ไฟฟ้า 100% สัญชาติจีนที่มาแรง จากเครือ Chery ก็คือ JAECOO 6 รถ EV ตัวถัง B-SUV ที่ออกแบบในสไตล์แบบกล่อง ดูบึกบึน แข็งแรง และมีความทรงพลังในตัว โดยตัวรถถูกออกแบบมาให้มีความเป็นรถสายออฟโรด ที่อยู่ในไซซ์ใกล้เคียงกับ BYD ATTO 3, ZEEKR X และมีขนาดใหญ่กว่า OMODA C5 EV แต่ก็ยังมีไซซ์ที่เล็กกว่า NETA X เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

สำหรับตัวรถมาพร้อมกับเรดาร์สำหรับการขับเหลือระบบการขับของรถ ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน โดดเด่นด้วยหลังคา Panoramic Sunroof องศาของรถออกแบบมาให้มีความกว้าง ทำให้ขึ้น – ลง ทางลาดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีกล่องสำหรับเก็บสัมภาระด้านหลังที่รองรับน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัม ส่วนประตูท้ายเปิดออกแบบด้านข้างเหมือนประตูตู้กับข้าว ส่วนแบตเตอรี่ใช้ LFP ความจุ 65.69 kWh วิ่งได้ไกล 426 กม. ในรุ่น 2WD และแบตความจุ 69.77 kWh วิ่งได้ไกลสูงสุด 418 กม. ในรุ่น 4WD วิ่งได้ไกลสูงสุด 418 กม. (มาตรฐาน NEDC)

ราคาจำหน่าย JAECOO 6

• JAECOO 6 รุ่น Long Range 2WD ราคา 1,099,000 บาท
• JAECOO 6 รุ่น Long Range 4WD ราคา 1,249,000 บาท

มองหา Home Charger ที่มีมาตรฐาน เลือก Plughaus

สำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่ได้อ่านรีวิว รถยนต์ไฟฟ้า 2025 ที่เปิดตัวในไทย พร้อมราคาจำหน่ายกันไปแล้ว มีความสนใจเลือกซื้อรถยนต์ EV ก็สามารถไป Test Drive หรืออ่านสเปกเพิ่มเติมตามรุ่นย่อยที่ต้องการได้ที่โชว์รูมทั่วประเทศไทย และหากผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่อยากติดตั้ง Home Charger ที่มีมาตรฐาน ไว้รองรับการใช้รถยนต์ EV ในที่พักอาศัย สามารถเลือกติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านในราคาสุดพิเศษกับทาง Plughaus Thailand ได้แล้ววันนี้ การันตีการติดตั้งที่มีมาตรฐาน จากทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ